รัฐบาลกับปัญหาการทุจริต

กระทู้ใน 'สภากาแฟ' โดย Ricebeanoil, 14 Jan 2016

  1. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482
    ดูแล้ว สนช. พยายามจะเพิ่มองค์กรตรวจสอบให้มากขึ้น พยายามป้องกันการทุจริตอย่างจริงจัง



    กรุงเทพฯ 13 ม.ค.-สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เตรียมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามทุจริต ซึ่งทำให้การดำเนินคดีทุจริตของคณะกรรมการ ป.ป.ท. รวดเร็วมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย



    ปัญหาทุจริตที่เกิดขึ้นในหลายภาคส่วน ซึ่งทุกฝ่าย โดยเฉพาะคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ต้องการปราบปรามให้ได้มากที่สุดนั้น ล่าสุดเลขาธิการ ป.ป.ท. ประยงค์ ปรียาจิตต์ ได้กล่าวถึงข้อเสนอแก้กฎหมายยกระดับทั้งโครงสร้างและอำนาจหน้าที่ ให้ป.ป.ท.ไปขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นหน่วยงานปราบทุจริต ซึ่งปัญหาทุจริตเกิดได้ในทุกกรม เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน โดยขณะนี้อยู่ในการพิจารณาของกฤษฎีกา ก่อนส่งเเข้าครม.กับสภานิติบัญญัติ พิจารณาต่อไป

    โดยขอให้ดูตัวอย่างจากในต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จด้านการปราบปรามทุจริต จะมีหน่วยงานรูปแบบเดียวกับ ป.ป.ท. ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี

    โดยปี 2558 ป.ป.ท. จะเร่งดำเนินการกับคดีทุจริตที่ค้างอยู่อย่างเต็มที่ ปลุกจิตสำนึกให้ทุกภาคส่วนร่วมตรวจสอบการทุจริต สำหรับการร้องเรียนจากประชาชน มีมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าประชาชนมั่นใจว่าร้องเรียนแล้วจะได้รับการแก้ไขปัญหา เพราะเชื่อว่าว่าปัญหาการทุจริตเป็นเรื่องของโอกาส ถ้าไม่มีโอกาสเปิดช่องให้ทุจริตได้ สถานการณ์จะดีขึ้น และแนวโน้มการทุจริตจะลดลง
     
    ฟักแม้ว, Anduril และ kokkai ถูกใจ
  2. กีรเต้

    กีรเต้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,917
    Location:
    เชียงใหม่
  3. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482
    ดีครับ การดำเนินคดีจะได้เร็วขึ้นอีก ของนักการเมืองมีศาลเดียวตัดสินเสร็จจบเลย
    ของเอกชนมี 2 ศาล คดีจะได้เร็วขึ้น



    รัฐสภา 14 ม.ค.-ที่ประชุม สนช. มีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลอาญาคดีป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยรัฐบาลมีนโยบายเริ่ม 1 ต.ค.นี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเรื่องสถานที่และบุคลากร

    ที่ประชุม สนช. มีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลอาญาคดีป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่าการพิจารณาคดีทุจริตที่ผ่านมามีความล่าช้า เพราะต้องรอการพิจารณาเหมือนคดีทั่้วไป โดยคุณสมบัติของพิพากษาอาจคัดเลือกจากหัวหน้าผู้พิพากษาที่มีความสันทัดในคดี และเป็นผู้พิพากษาไม่น้อยกว่า 10 ปี ซึ่งศาลดังกล่าวเป็นศาลชำนาญพิเศษในระบบ 2 ศาล การไต่สวนต่างจากคดีอาญาทั่วไป ทั้งนี้ หากผู้ถูกกล่าวหาที่อยู่ระหว่างการพิจารณาหลบหนีจะหยุดนับอายุความจนกว่าจะได้ตัวผู้ถูกกล่าวหากลับสู่การพิจารณาคดี เพื่อขจัดปัญหาเรื่องการขาดอายุความ
     
    Anduril และ kokkai ถูกใจ.
  4. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    กรธ.เพิ่มกลไกให้ 3 องค์กรอิสระร่วมตรวจสอบนโยบาย-โครงการรัฐบาล
     
    kokkai likes this.
  5. Anduril

    Anduril อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    4 Jun 2015
    คะแนนถูกใจ:
    5,268
    ปัญหาใหญ่สุดของประเทศคือการทุจริต คอร์รัปชั่น
    เรื่องนี้น่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดที่สุดแล้วครับ
     
    kokkai และ อู๋ คาลบี้ ถูกใจ.
  6. ฟักแม้ว

    ฟักแม้ว อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    29 Dec 2015
    คะแนนถูกใจ:
    3,518
    คงต้องมีความพยายามแจกถุงขนมให้มากขึ้นกว่าเดิม แต่แค่นี้นะมันเรื่องขรี้ๆสำหรับตระกูลกินที่วัด
     
  7. Mobonji

    Mobonji อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    9 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    325
    http://www.dailynews.co.th/politics/373687

    ต้องเข้มข้นกันให้สุดๆ ไปเลย ขนาดในรัฐบาลนี้มันยังกล้าขนาดนี้
    ข้าราชการนี่แหละไม่ต่างไรกะนักการเมืองเลย ชั่วพอๆ กัน
     
    ชายน้ำ และ kokkai ถูกใจ.
  8. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482
    ตั้งประธาน ป.ป.ท. เรียบร้อยแล้ว ก็รีบเดินหน้าทำงานเลยนะครับ



    รัฐสภา 21 ม.ค.-ที่ประชุม สนช. มีมติเห็นชอบให้นายกิตติ ลิ้มชัยกิจ เป็นประธานคณะกรรมการ ป.ป.ท. พร้อมกับคณะกรรมการ ป.ป.ท. อีก 4 คน หลังจากนี้จะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป

    การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. วันนี้มีวาระการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ และกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตามมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 หลังจากคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมเสร็จแล้ว ซึ่งในที่สุดที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้นายกิตติ ลิ้มชัยกิจ เป็นประธานคณะกรรมการ ป.ป.ท. ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้จะมีการนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป.-สำนักข่าวไทย
     
    kokkai likes this.
  9. ปู่ยง

    ปู่ยง อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,820
    1421.jpg
     
    AlbertEinsteins, Anduril, gaiser และอีก 1 คน ถูกใจ.
  10. สับปรับ

    สับปรับ อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    27 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    574
    รัฐต้องเปลี่ยนค่านิยมเรื่อง"ความรวย"ด้วยครับ เหมือน"คนไข้เบาหวาน"กินยาแรงก้อไม่หาย ต้องควบคุมอาหารด้วย
     
    ต้นหอม, Anduril, ปู่ยง และอีก 1 คน ถูกใจ.
  11. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    ผ่านกฎหมายใหม่ ป.ป.ท. ปลัดยธ.ชูเอาผิดฐาน"สมคบคิด"

    ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ บอกกับ NOW26 ว่า พร้อมผลักดันให้ ป.ป.ท.ซึ่งเดิมเป็นหน่วยงานน้องใหม่ที่มีผลงานดีของกระทรวง ยกระดับเป็นหน่วยงานอิสระที่เป็นกลไกสำคัญในการปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ตามกฎหมายใหม่ที่เพิ่งผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

    ปลัดกระทรวงยุติธรรม บอกว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. แม้จะเป็นน้องใหม่สำหรับกระทรวงยุติธรรมก็ตาม แต่ก็มีความสำคัญ เพราะถือเป็นเจ้าภาพในงานปราบปรามทุจริตในภาครัฐ

    สำหรับแนวคิดการยกระดับ ป.ป.ท.ไปเป็นหน่วยงานอิสระของฝ่ายบริหารนั้น กระทรวงยุติธรรมมีแนวทางให้รัฐบาลมีกลไกขึ้นมาทำงานด้านป้องกันและปราบปราม การทุจริตเคียงข้างกับองค์กรอิสระ คือ ป.ป.ช. ตั้งแต่ปี 2546 และ ป.ป.ท.ก็คือหน่วยงานนั้น แม้วันนี้ ป.ป.ท.จะมีบทบาทโดดเด่นในตัวเองแล้ว แต่กระทรวงยุติธรรมก็ต้องช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพ มีความชัดเจน และเดินหน้าการทำงานได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น

    ปลัดกระทรวงยุติธรรมคาดหวังว่า กฎหมายใหม่ที่เพิ่งผ่าน สนช. จะทำให้ขั้นตอนการทำงานด้านการตรวจสอบทุจริตภาครัฐดำเนินไปอย่างรวดเร็วยิ่ง ขึ้น และมีแนวคิดเรื่องการเอาผิดฐานสมคบคิด เนื่องจากคดีทุจริตระยะหลังมีลักษณะกระทำเป็นเครือข่าย ซึ่งสุดท้ายมักไม่สามารถเอาผิดกับผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังได้ คล้ายกับคดียาเสพติดที่ตัวการมักไม่เป็นผู้ลงมือทำเอง ทำให้หาความเชื่อมโยงในการเอาผิดได้ยาก
     
    Anduril, Alamos และ kokkai ถูกใจ
  12. kokkai

    kokkai อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    6 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,076
    ดีครับ ที่ผ่านๆมา จับได้แต่ปลาซิว-ปลาสร้อย สาวไม่ถึงตัวบงการทุกที
    อาจจะกันให้พวกปลาซิว-ปลาสร้อย เป็นพยาน เพื่อเอาผิดให้ถึงตัวบงการ
     
    Alamos likes this.
  13. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    28 มี.ค.l ข่าว 12.00 น.รัฐบาลเลือก 3 โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน มูลค่า 9 พันล้านบาท ร่วมโครงการยกระดับความโปร่งใสในการประมูล



    ข่าว 7 สี - วันนี้ ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาคดีที่อดีตคณะบดี คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล ถูกฟ้องกรณีนำทรัพย์สินทางราชการไปใช้เป็นการส่วนตัว โดยศาลเห็นว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พิพากษาจำคุก 2 ปี 6 เดือน แต่ศาลยังปราณีให้รอลงอาญาไว้

    จำเลยในคดี คือ นายแพทย์ชัยวัน เจริญโชคทวี อดีตคณะบดี คณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล ถูกฟ้องในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐ

    โดยระหว่างวันที่ 10-13 มกราคม 2554 นายแพทย์ชัยวัน ได้นำเอารถยนต์, อุปกรณ์เครื่องเสียง, โต๊ะเก้าอี้ รวมถึงบุคลากรของคณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล ไปใช้ในการจัดงานแต่งงานบุตรสาวที่บ้านพักส่วนตัว คดีดังกล่าวถูกส่งให้ ป.ป.ช. สอบสวน โดยจำเลยให้การปฏิเสธ แต่ในชั้นศาลจำเลยกลับคำให้การเป็นรับสารภาพ

    ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลย ถือว่าทุจริตในตำแหน่งหน้าที่ พิพากษาจำคุก 5 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท แต่จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท แต่เนื่องจากจำเลยเคยทำคุณประโยชน์ต่อสังคม และไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี

    คำพิพากษาของศาลในคดีนี้ ถือเป็นอุทาหรณ์เตือนข้าราชการ ที่มักจะนำทรัพย์สินของทางราชการ ไปใช้ประโยชน์ส่วนตน ซึ่งเป็นกรณีที่พบเห็นได้บ่อย ๆ แต่ผู้เกี่ยวข้องมักจะละเลยไม่กล้าตรวจสอบ เนื่องจาก ผู้ที่นำไปใช้มักจะมีตำแหน่งสูง หรือเป็นหัวหน้าหน่วยราชการ

    อุทุมพร สุขวงกฎ ทีมข่าวอาชญากรรม รายงาน

     
    Last edited: 29 Mar 2016
    kokkai และ Anduril ถูกใจ.
  14. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482
  15. เจ๋งเหม่งจ๋าย

    เจ๋งเหม่งจ๋าย สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    8 Feb 2016
    คะแนนถูกใจ:
    22
    สตง จะฟ้อง ปตท หรือครับ ตลกดีครับ ในเมื่อ ก.คลังถือหุ้นใหญ่ ปตท
    แล้วจะฟ้องเอาเงินจากก.คลัง มายัดกระทรวงคลัง :D
     
    Last edited: 31 Mar 2016
  16. JSN

    JSN อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,746
    ทำไมโง่แบบนี้ครับ คิดว่ามีแค่กระทรวงการคลังอย่างเดียวเหรอครับ ไม่โง่คิดไม่ได้นะเนี่ย
     
  17. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482






    สมาคมผู้สื่อข่าวสืบสวนนานาชาติ (ICIJ) เปิดเผยเอกสารลับ ปานามาเปเปอร์ (Panama Papers) แฉข้อมูลเชื่อมโยงนักการเมืองและผู้นำโลกกว่า 72 คน เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและเลี่ยงภาษี จำนวนนี้มีคนไทยร่วมเกี่ยวข้องด้วย

    โดยเอกสารลับทั้งหมดมีมากกว่า 11.5 ล้านฉบับ โดยเป็นของบริษัทกฎหมายในปานามา ซึ่งเนื้อหาของเอกสารแสดงให้เห็นวิธีการที่บริษัทแห่งนี้ใช้ช่วยเหลือลูกค้า เพื่อทำการฟอกเงินและซ่อนทรัพย์สินในบริษัทต่างชาติ ซึ่งมีทั้งอดีตผู้นำและ นักการเมืองของประเทศต่างๆ รวมอยู่ด้วย โดยข้อมูลที่นำมาเปิดเผยครั้งนี้สื่อยักษ์ใหญ่ในต่างประเทศอ้างว่า ได้รับมาจากพนักงานคนหนึ่งของบริษัทดังกล่าว

    ทั้งนี้นายเจอราร์ด ไรล์ ผู้อำนวยการของ ICIJ บอกว่า เอกสารที่ได้รับมามีทั้งในรูปแบบของอีเมล คลิปเสียง ไฟล์ภาพ กว่า 214,488 รายการ เกี่ยวข้องกับบุคคลและนิติบุคคล ที่มีถิ่นฐานอยู่ในประเทศและเขตปกครองมากกว่า 200 แห่ง ในจำนวนนี้มีนักการเมืองระดับสูงเกี่ยวข้อง 72 คน โดย 12 คนอยู่ในตำแหน่งผู้นำหรืออดีตผู้นำประเทศ ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวยังระบุว่า บริษัทแห่งนี้มีลูกค้าที่เป็นคนไทยด้วย 21 คน ซึ่งเชื่อมโยงกับบริษัทต่างมากกว่า 963 บริษัท แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นนักการเมืองหรือเอกชน และยังไม่เปิดให้สาธารณะเข้าค้นหาได้

    ล่าสุด พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบข้อมูลกรณีสมาคมผู้สื่อข่าวสืบสวนนานาชาติ เปิดเผยเอกสารปานามาเปเปอร์ และเชื่อมโยงกับคนไทย 21 คน ในการฟอกเงินและเลี่ยงภาษี ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ป.ป.ง. คงจะมีการตรวจสอบเรื่องนี้อยู่แล้ว โดยไม่ต้องรอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการ ซึ่งเชื่อว่า สมาคมนี้จะทยอยเปิดเผยข้อมูลออกมาเรื่อยๆ ดังนั้น หากพบว่า มีคนไทยเกี่ยวข้องและกระทำผิดจริง จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพราะรัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับการปราบปรามคอรัปชั่นเป็นวาระแห่งชาติ และเชื่อว่าหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการตรวจสอบและติดตามเรื่องนี้อย่างจริงจัง



    ที่ประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศมีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบให้ใช้ยาแรงจัดการคนทุจริตการเลือกตั้ง ทั้งคนแจก และคนรับเงิน

    สาระสำคัญของรายงานฉบับนี้ คือ ให้มีเงินรางวัลไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท สำหรับคนที่ชี้เบาะแสการซื้อสิทธิขายเสียงจนนำไปสู่การจับกุม ห้ามนักการเมืองบริจาคเงินช่วยในงานบวช งานแต่ง หรืองานศพ ในเขตเลือกตั้งของตัวเอง เพื่อป้องกันการซื้อเสียงทางอ้อม รวมถึงการเพิ่มบทลงโทษทั้งทางแพ่ง, อาญา, ทางวินัย, และทางการเมือง กับทั้งคนแจกเงินและคนรับเงิน ซึ่งสภาขับเคลื่อนฯ จะส่งรายงานนี้ให้ คสช., สภานิติบัญญัติฯ, และ กกต.ดำเนินการต่อไป

    ส่วนการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญนั้น วันนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เรียกประชุม กกต.จังหวัด ย้ำเรื่องการรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิให้มากที่สุด ต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนผู้มีสิทธิทั่วประเทศ 50 ล้านคน เหมือนที่คนเมียนมาออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา

    โดย กกต.จะเริ่มเปิดให้กลุ่มที่อยากแสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญ มาลงทะเบียนในวันที่ 22 เมษายน เพื่อเตรียมจัดดีเบตให้

    เดือนพฤษภาคม จะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนในสิทธินอกเขตจังหวัดทางอินเตอร์เน็ต และในวันที่ 3 สิงหาคม จะจัดกิจกรรมรณรงค์ Big Day ออกเสียงประชามติพร้อมกันทั้ง 77 จังหวัด ส่วนคำถามที่จะแนบไปกับการทำประชามตินั้น สภานิติบัญญัติฯ จะพิจารณาในวันพรุ่งนี้ (5 เม.ย.)

    ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยืนยันว่า ถ้าประชามติไม่ผ่าน รัฐบาล และ คสช. มีมาตรการรองรับเอาไว้อยู่แล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะมีการเลือกตั้งในปี 2560 แน่นอน
     
    Last edited: 5 Apr 2016
  18. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    4 เม.ย. | ข่าว 12.00 น. ผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง มีคำสั่งให้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทวงคืนท่อก๊าซจาก บริษัท ปตท. กลับคืนมาเป็นทรัพย์สมบัติของแผ่นดิน



    ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งฝ่ายกฎหมายยื่นฟ้องกระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลัง ต่อศาลปกครอง เอาผิดกรณี ปตท.ไม่คืนท่อก๊าซ และทรัพย์สินให้รัฐ รวมมูลค่ากว่า 68,000 ล้านบาท

    ศาสตราจารย์ศรีราชา วงศารยางกูร ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน อธิบายว่า สาเหตุที่ต้องยื่นฟ้อง เป็นเพราะกระทรวงการคลัง , กระทรวงพลังงาน , ปตท. และผู้ที่เกี่ยวข้อง รวม 11 คน ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และ มติครม. ที่กำหนดให้กระทรวงพลังงานแบ่งแยกทรัพย์สินของ ปกต.ให้เป็นของกระทรวงการคลัง แต่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบพบว่า

    มีการปกปิดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับระบบการขนส่งปิโตรเลียมทางท่อในทะเลและบนบก และยังไม่ได้แบ่งแยกให้กระทรวงการคลัง รวมมูลค่ากว่า 68,500 ล้านบาท ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีผู้บริหาร ปตท. ส่งจดหมายถึงผู้ตรวจการแผ่นดินชี้แจงว่า ได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่างแล้ว และขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินยุติการฟ้องรองครั้งนี้



    ผู้บริหาร ปตท. ยืนยัน ส่งคืนทรัพย์สินท่อส่งก๊าซธรรมชาติให้กระทรวงการคลังครบถ้วนแล้ว

    กรณีผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นฟ้องศาลปกครองกลางกรณี ปตท.ไม่คืนท่อส่งก๊าซธรรมชาติตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด เบื้องต้น ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักกฎหมาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ระบุ ยังไม่ทราบรายละเอียดของคำฟ้อง เนื่องจากยังไม่ได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องจากศาล โดยคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลว่าจะรับฟ้องหรือไม่

    และที่ผ่านมา ปตท. เคารพและปฏิบัติตามคำสั่งศาลตลอดมา ซึ่งประเด็นการยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุดเรื่องการคืนท่อส่งก๊าซฯ นี้ ได้มีการยื่นฟ้องต่อศาลฯ มาตั้งแต่ปี 2550-2555 จำนวน 4 ครั้ง โดยศาลปกครองได้มีคำสั่งยืนยันทั้ง 4 ครั้งว่า ปตท. ได้คืนและแบ่งแยกทรัพย์สินตามคำพิพากษาให้แก่กระทรวงการคลังเรียบร้อยแล้ว

    ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2558 ศาลปกครองสูงสุดได้อ่านคำสั่งยืนยันอีกครั้งว่า ปตท.ได้ส่งคืนท่อส่งก๊าซธรรมชาติให้แก่กระทรวงการคลังครบถ้วนตามคำพิพากษาแล้วตั้งแต่ปี 2551 การขอให้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้ ปตท. ส่งคืนท่อส่งก๊าซธรรมชาติทั้งหมดอีกนั้น จึงเป็นการดำเนินคดีซ้ำ ศาลไม่อาจรับฟ้องไว้พิจารณาได้อีก

    นอกจากนั้น ประเด็นที่กล่าวอ้างกันว่าคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2551 อาจจะไม่ถูกต้อง เนื่องจากไม่ได้แนบความเห็นของ สตง. เข้าไปด้วยตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2550 นั้น ศาลปกครองสูงสุดเห็นว่า การแนบความเห็นของ สตง. ดังกล่าว ไม่เกี่ยวกับการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุดแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด คำสั่งของศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2551 จึงชอบด้วยกฎหมายทุกประการ

    โดย ปตท. ขอย้ำว่า ปตท.ได้ดำเนินการส่งคืนทรัพย์สินท่อส่งก๊าซธรรมชาติให้แก่กระทรวงการคลังตามเงื่อนไขในคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดครบถ้วนตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งถึงที่สุดแล้ว



    4 เม.ย.l ข่าว 19.00 น. สภาทหารผ่านศึก ยืนยันว่า ไม่มีกำลังพลเกี่ยวข้องในการทุจริตโครงการขุดลอกคูคลองทั่วประเทศ ขณะที่ไทยพีบีเอสตรวจสอบ 17 โครงการใน จ.นครพนม พบบางโครงการผู้รับเหมาทิ้งงานโดยไม่ทราบสาเหตุ



    ต้านทุจริตตามติดกลโกง วันนี้ลงพื้นที่กับผู้ว่าสตง.ขยายผลตรวจสอบ 2 โครงการของ อบต.คลองนิยมยาตรา จังหวัดสมุทรปราการ ช่วยประหยัดเงินแผ่นดินได้เกือบ 6,500,000 บาท

    นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สะท้อนความเห็นนี้ หลังตรวจพบว่าถนนคอนกรีตเสริมเหล็กหรือถนน คสล.เส้นนี้ ระยะทาง 1,200 เมตร ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลนิยมยาตราหรือ อบต.คลองนิยมยาตรา จังหวัดสมุทรปราการ ทำสัญญาจ้างเอกชนวันที่ 17 ตุลาคม 2557 ให้ก่อสร้างค่าจ้าง 5,851,000 บาท กำหนดส่งมอบงานวันที่ 15 มกราคม 2558

    ปัจจุบัน อบต.ยังไม่ตรวจรับ และจ่ายค่าจ้าง ตามคำแนะนำของสตง. ซึ่งตรวจพบว่าถนนบางช่วงมีความหนาไม่ถึง 15 เซ็นติเมตรตามสัญญาและความชำรุดหลายจุด แต่มีการเปิดใช้งานแล้ว

    ขณะที่ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินชื่นชมนายก อบต.คลองนิยม ยาตรา ที่ยอมทำตามข้อแนะนำของ สตง.เพื่อรักษาประโยชน์ทางราชการ โดยสามารถนำผลทดสอบคุณภาพถนน เป็นหลักฐานชี้แจงกับเอกชนคูสัญญาได้

    อย่างไรก็ตาม ข้อนำแนะดังกล่าวผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ยืนยันไม่ใช่การกลั่นแกล้งเอกชน แต่หาก อบต.จ่ายค่าจ้าง งานนี้ต้องมีคนรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น

    วันพรุ่งนี้ ติดตามผู้ว่า สตง. ตรวจสอบร่วมกับคอลัมน์หมายเลข 7 อีก 1 โครงการของ อบต.คลองนิยม ยาตราช่วยประหยัดเงินแผ่นดินได้เกือบ 650,000 บาท

    แสนฤทธิ์ ชุ้นกตัญญู ถ่ายภาพ
     
    Last edited: 5 Apr 2016
  19. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    การลงพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และคอลัมน์หมายเลข 7 วันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบ 2 โครงการของ อบต.คลองนิยมยาตรา ตามที่ได้รับข้อมูลร้องเรียน เมื่อวานนี้เสนอการตรวจสอบงานก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก หรือถนน คสล. ระยะทาง 1,200 เมตร ก่อสร้างตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 ค่าจ้าง 5,851,000 บาท กำหนดส่งมอบงานวันที่ 15 มกราคม 2558 เปิดใช้งานแล้ว แต่ อบต.คลองนิยมยาตราไม่ตรวจรับ และไม่จ่ายค่าจ้าง ตามคำแนะนำของ สตง.ซึ่งตรวจพบว่า ถนนก่อสร้างไม่ได้คุณภาพตามสัญญา

    ส่วนอีก 1 โครงการของ อบต.คลองนิยมยาตรา ที่ผู้ว่าการตรวจเงินตรวจสอบ คือโครงการวางท่อระบายน้ำ คสล.ขนาด 0.40 เมตร จำนวน 334 ท่อน พร้อมบ่อพักทุกระยะ 10 เมตร รวม 34 จุด อยู่ในซอยการะเกด หมู่ 1 โดย อบต. คลองยาตรา

    ทำสัญญาจ้างเอกชนวันที่ 25 พฤศจิกายน 2557 ส่งมอบงานวันที่ 25 ธันวาคมปีเดียวกันตามกำหนด ค่าจ้าง 647,000 บาท

    การตรวจสอบโครงการนี้ สตง.พบข้อพิรุธว่า ท่อระบายน้ำที่ใช้ก่อสร้างครั้งนี้ มีขนาดเหล็กเสริมไม่ถูกต้องตามสัญญา พิจารณาจากท่อที่ปลายสุดของโครงการ เนื่องจากท่อระบายน้ำตลอดทั้งโครงการ ถูกปิดทับด้วยการก่อสร้างถนนของกรมทางหลวงชนบท

    รวมแล้ว 2 โครงการของ อบต.คลองนิยมยาตราที่ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินลงพื้นที่ขยายผลตรวจสอบ โดยมีคอลัมน์หมายเลข 7 ร่วมในปฏิบัติการครั้งนี้สามารถช่วยประหยัดเงินแผ่นดินได้ 6,498,000 บาท แสนฤทธิ์ ชุ้นกตัญญู ถ่ายภาพ คอลัมน์หมายเลข 7 สวัสดีครับ



    คอลัมน์หมายเลข 7 วันนี้ร่วมตรวจสอบกับผู้ว่า สตง.ตามที่ชาวบ้านร้องเรียน กรณีได้รับผลกระทบจากการขุดลอกร่องน้ำทางเรือเดินที่จังหวัดภูเก็ต ติดตามจากคุณสมโภชน์ โตรักษา

    นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยเรื่องนี้ ระหว่างลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อขยายผลตรวจสอบข้อร้องเรียนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ กรณีเอกชนขุดร่องน้ำทางเดินเรือ บริเวณหน้าทะเลอันอามัน ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เพื่ออำนวยความสะดวกการรับส่งนักท่องเที่ยว

    การตรวจสอบครั้งนี้ พบข้อมูลเบื้องต้นว่าเอกชนรายนี้ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า วันที่ 24 มิถุนายน 2558 ให้ใช้รถแทร็กเตอร์ขุดลอกร่องน้ำ กว้าง 30 เมตร ยาว 400 เมตร ลึก 1 เมตร ห่างจากฝั่ง 100 เมตร โดยสิ่งที่ขุดลอกได้ทั้งหมดเกือบ 50,000 ลูกบาศก์เมตร ให้ใช้เพื่อประโยชน์ทางราชการ แต่ทำไม่เสร็จตามกำหนด 6 เดือน จึงขออนุญาตขุดลอกร่องน้ำครั้งที่ 2 เพิ่มความยาวอีก 200 เมตร รวมเป็น 600 เมตร ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า วันที่ 21 มกราคม 2559 ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินงาน

    หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดภูเก็ตที่ร่วมตรวจสอบจากกรมเจ้าท่าสิ่งแวดล้อมและศูนย์ดำรงธรรม โดยเฉพาะรักษาการผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ยอมรับว่าการขุดลอกดังกล่าวทำไม่ถูกต้องตามที่ได้รับอนุญาต

    นอกจากนี้ใกล้กับจุดที่ขุดลอกพบเรือขุดทรายและรถแทร็กเตอร์ โดยเจ้าหน้าที่ สตง.ภูเก็ตยืนยันว่า มีหลักฐานการขุดลอกร่องน้ำโดยใช้เรือขุดทราย

    ข้อมูลนี้สอดคล้องกับที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ตได้รับจากชาวบ้าน

    ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ยืนยันการอนุญาตขุดลอกร่องน้ำเป็นอำนาจของกรมเจ้าท่า แต่ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และรีบแก้ไขให้ถูกต้องตามระเบียบราชการ

    วันพรุ่งนี้ติดตามว่าทรายที่ขุดลอกได้หายไปไหน และวิธีแก้ไขปัญหานี้จากผู้ว่า สตง.และกรมเจ้าท่า



    คอลัมน์หมายเลข 7 การตรวจสอบข้อร้องเรียนชาวบ้าน กรณีได้รับผลกระทบจากการขุดลอกร่องน้ำทางเรือเดินที่จังหวัดภูเก็ต วันนี้เสนอเป็นตอน

    การเปิดเผยข้อมูลนี้เกิดขึ้นหลังจาก นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตสัปดาห์ที่แล้วโดยตรวจพบข้อเท็จจริงตรงตามที่ได้รับร้องเรียนจากชาวบ้าน ว่าการขุดร่องน้ำทางเดินเรือ บริเวณหน้าทะเลอันอามัน ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เพื่ออำนวยความสะดวกการรับส่งนักท่องเที่ยว โดยกรมเจ้าท่าอนุญาตวันที่ 24 มิถุนายน 2558 ให้เอกชนรายนี้ใช้รถแทร็กเตอร์ขุดลอกร่องน้ำ กว้าง 30 เมตร ยาว 400 เมตร ลึก 1 เมตร ห่างจากฝั่ง 100 เมตร ภายใน 60 วัน แต่ทำไม่เสร็จตามกำหนด

    เอกชนจึงขออนุญาตขุดลอกร่องน้ำครั้งที่ 2 เพิ่มความยาวอีก 200 เมตร รวมเป็น 600 เมตร โดยกรมเจ้าท่าอนุญาตให้ทำได้วันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินงาน

    การตรวจสอบครั้งนี้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินยังตั้งข้อสังเกต เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ทรายที่เอกชนขุดลอกได้

    ปัญหานี้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินจะเสนอ คสช.และศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ให้สนธิกำลังลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อร่วมกันหาวิธีแก้ไขปัญหานี้

    คอลัมน์หมายเลข 7 และ สตง. จะร่วมกันตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป จนกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้อง แสนฤทธิ์ ชุ้นกตัญญู ถ่ายภาพ
     
    Last edited: 13 Apr 2016
  20. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    ข่าว 7 สี - ตำรวจเร่งติดตามจับกุมเครือข่ายของอดีตประธานบริหารสโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ ที่ร่วมกันพวกฉ้อโกงเงิน สกสค.กว่า 2500 ล้านบาท หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเพิ่มอีก 1 คน

    ความคืบหน้าคดีฉ้อโกงเงินกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคง ตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ กองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือ สกสค. กว่า 2,500 ล้านบาท หลังตำรวจจับกุมนายสิทธินันท์ หลอมทอง กรรมการบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด ได้เมื่อวานนี้ที่บ้านพักย่านบางกอกน้อย โดยพบว่าได้ร่วมกับนายสัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา หรือ"เสี่ยบิ๊ก"เจ้าของบริษัทฯและอดีตประธานบริหารสโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจฉ้อโกงเงินดังกล่าว

    วันนี้พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวนายสิทธินันท์ไปฝากขังต่อศาลอาญาในข้อหาร่วมกันปลอมตั๋วเงินและใช้ตั๋วเงินปลอม,ร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันออกเช็ค เพื่อชำระหนี้ที่ไม่มีเงินตามยอด และร่วมกันออกเช็คที่ไม่มีเงินอยู่ในบัญชี โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีที่มีความเสียหายสูง

    ส่วนการติดตามตัวผู้ร่วมขบวนการ ชุดสืบสวนระบุว่า ศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการเพิ่มอีก 1 คน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยชื่อ โดยบุคคลดังกล่าวเป็นกรรมการบริษัทฯและผู้ที่ร่วมเบิกเงินจากกองทุนฯ เบื้องต้นได้รับการประสานขอเข้ามอบตัวแล้ว แต่ยังไม่ได้นัดวันเวลา

    สำหรับคดีนี้คอลัมน์หมายเลข 7 ได้รับข้อมูลจากอดีตกรรมการ สกสค.ถึงความไม่ชอบมาพากลของการกู้ยืมเงินของบริษัทฯดังกล่าวจนนำไปสู่การตรวจสอบร่วมกับ ป.ป.ช.



    ข่าวสังคม 12 เมษายน 2559 - ผู้ว่าฯสตง.ชี้ มีนักการเมือง กทม. 2 คน และข้าราชการประจำอีก 7 คน มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฮั้วประมูลอุโมงค์ไฟ กทม.ขณะที่บริษัทที่ได้งาน เตรียมเปิดแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงหลังเทศกาลสงกรานต์ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.สรุปผลการตรวจสอบโครงการประดับตกแต่งไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว หรืออุโมงค์ไฟประดับปีใหม่ ลานคนเมือง กรุงเทพมหานคร ส่งให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ คตง. พิจารณาแล้ว เบื้องต้น สตง.พบพิรุธระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่โปร่งใส อีกทั้งงบที่เบิกจ่าย 39.5 ล้านบาท เป็นงบฉุกเฉิน นอกจากนี้ ยังพบการล็อกสเปกเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชน และอาจมีการฮั้วประมูล เพราะบริษัทที่ยื่นซองเกี่ยวข้องกัน คือมีบุคคลคนเดียวกันไปยื่นเพิ่มเติมแก้ไขคุณสมบัติ ประเภทธุรกิจของบริษัทที่จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้รับงานได้ ที่สำคัญ สตง.พบ มีผู้บริหารฝ่ายการเมือง 2 คน และข้าราชการ7 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ด้านที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.ชี้แจงกทม.ไม่ได้นิ่งนอนใจ และไม่ได้เพิกเฉย ที่ผ่านมาให้ความร่วมมือในการตรวจสอบทุกขั้นตอนแล้ว หากผลสอบออกมาเป็นเช่นใด ก็ให้ดำเนินการตามนั้น ในส่วนของผู้ว่า กทม. ถือว่าเป็นฝ่ายการเมืองไม่ได้เข้าไปล้วงลูกการจัดซื้อจัดจ้างและการประมูล ขณะที่ บริษัท คิวริโอ้ทัวร์ แอนด์ ทราเวล เตรียมชี้แจงข้อมูลหลังเทศกาลสงกรานต์นี้ ตั้งแต่การเข้าประมูลงาน ยื่นซองประกวดราคา การออกแบบไฟ และการจัดซื้อจัดจ้าง รวมถึงการจัดงานตลอด 1 เดือน ในช่วงเทศกาลปีใหม่



    ข่าว 7 สี - กทม.ยืนยันความโปร่งใสโครงการประดับตกแต่งไฟฟ้าลานคนเมืองหรืออุโมงค์ไฟ และขอให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือ สตง.พิสูจน์ความจริงอย่างยุติธรรมด้วย

    หม่อมราชวงศ์ สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ระบุว่า ที่ผ่านมาได้ให้ความร่วมมือกับสตง.ในการตรวจสอบโครงการ มาตลอด ยืนยันว่า ไม่ได้มีการทุจริตเกิดขึ้น

    ขณะที่นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าฯ กทม.ระบุว่า ได้ตรวจสอบแล้ว ทุกข้อครหา ไม่พบความผิดปกติ ทั้งเรื่องการใช้งบประมาณสูงถึง 39.5 ล้านบาทการจัดทำทีโออาร์ การเปิดประมูลทางอิเล็คทรอนิคส์ กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง การออกแบบ และเปิดไฟประดับ 33 วัน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบขั้นตอนทางราชการ

    ส่วนที่มีรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริต ตามรายงาน สตง. ที่ระบุว่ามีข้าราชการกทม.7 คน และผู้บริหารทีมการเมือง 2 คน นั้น ก็ไม่ได้หนักใจอะไร



    16 เม.ย.| ข่าว 12.00 น. นายรัฐมนตรี ยืนยันนานาประเทศยอมรับและให้กำลังใจไทยเดินหน้าปฏิรูปประเทศ เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้ง พร้อมกำชับเรื่องการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน



    หลังเทศกาลวันหยุดยาวสงกรานต์ รัฐบาลโดยนายวิษณุ เครืองาม เตรียมสรุปผลสอบข้าราชการที่สงสัยเกี่ยวข้องกับการทุจริต และถูกสั่งพักงานรวม 3 กลุ่มตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว โดยส่วนหนึ่งพบพฤติการณ์ทุจริตจริงด้วยวิธีการอันพิลึกพิลั่น
     
    Last edited: 17 Apr 2016
  21. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ รองนายก รัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย เร่งรวบรวมรายชื่อ ข้าราชการพลเรือน และข้าราชการส่วน ท้องถิ่น ที่ถูกสั่งพักงาน เพื่อตรวจสอบหลังถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริต เพื่อออก คำสั่ง ตามมาตรา 44 คืนตำแหน่ง และความเป็นธรรมให้กับผู้บริสุทธิ์ ก่อนเกษียณอายุราชการ หลังพบว่ามีหลายรายชื่อที่ตรวจสอบแล้วไม่พบการกระทำความผิดตามข้อกล่าวหา

    ส่วนการตรวจสอบปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันล่าสุด พบความผิดปกติ หน่วยราชการส่วนกลางบางแห่ง จัดซื้อสิ่งของบางประเภทเกินความต้องการจำนวนมาก ทำให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณแผ่นดินโดยไม่จำเป็น ซึ่ง รัฐมนตรีเจ้ากระทรวง ที่ถูกตรวจพบ จะแถลงชี้แจงข้อเท็จจริง และแนวทางการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยรัฐบาลมีแนวคิดที่จะนำสิ่งของที่จัดซื้อเกินความจำเป็นนั้น ไปขายทอดตลาด เพื่อนำเงิน มาคืนคลังต่อไป



    ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สั่งเร่งตรวจสอบข้อมูลหลัง คณะตรวจสอบการใช้จ่ายภาครัฐระบุมีการทุจริตจัดซื้อชุดนักเรียนเกินความจำเป็น หลังพบชุดนักเรียนค้างสต็อกกว่า 3 แสนตัว สะสมมาแล้ว 10 ปี

    นายแพทย์กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ หรือ คตร. ตรวจพบว่ากระทรวงศึกษาธิการทุจริตกรณีจัดซื้อชุดนักเรียนเกินความจำเป็น ว่า ตนไม่ทราบว่า คตร.มีข้อมูลชุดใดอยู่บ้าง แต่เบื้องต้นคงเป็นเรื่องที่องค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือ สกสค. ได้สั่งซื้อชุดนักเรียนเพื่อจำหน่ายมากเกินจำเป็น ทำให้ชุดนักเรียนเหลือเป็นจำนวนมาก ค้างสต็อกกว่า 3 แสนตัว ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา คาดว่าจะเป็นการสั่งซื้อเพื่อกินหัวคิว ซึ่งได้มอบให้นายสุเทพ ชิตยวงษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. ไปตรวจสอบข้อมูลแล้ว แต่ยังไม่ได้รายงานเข้ามา ซึ่งอาจต้องใช้เวลาสักระยะ เนื่องจากมีข้อมูลที่ต้องสืบค้น

    นายแพทย์กำจร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางกระทรวงจะแก้ปัญหาด้วยการนำชุดนักเรียนที่ค้างสต็อกไปขายในงาน “การศึกษาสร้างชาติ ตลาดคลองผดุงฯ สร้างสุข” ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด เนื่องจากเป็นแบบฟอร์มเก่า แต่ยังสามารถนำมาใส่ได้ เพื่อหารายได้กลับคืนกระทรวง ส่วนชุดนักเรียนที่จะนำมาขายในปีการศึกษา 2559 ซึ่งจะเปิดเทอมในเดือนพฤษภาคมนี้ ตนไม่แน่ใจว่ามีการสั่งซื้อชุดใหม่อีกหรือไม่ ต้องตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง



    ป.ป.ช. เร่งตรวจสอบคดีทุจริตซึ่งมีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องจนถูก มาตรา 44 สั่งพักงาน โดยยอมรับว่ามีคดีการจัดซื้อยาปราบศัตรูพืชและเครื่องเล่นเด็กที่กำลัง ดำเนินการอยู่ แต่บางคดีก็ไม่สามารถจะไปเร่งรัดเวลามากเกินไปได้เพราะเนื้อหารายละเอียด เยอะ ต้องรอบคอบ

    พลตำรวจเอกวัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบคดีทุจริตต่างๆของข้าราชการที่ถูก นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามมาตรา 44 ขึ้นบัญชีพักงานชั่วคราวว่า มอบให้เลขาธิการป.ป.ช.ไปตรวจสอบว่า มีคดีใดบ้างที่ทางศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ หรือ ศอตช. ส่งเรื่องมาให้ป.ป.ช.ดำเนินการ เท่าที่ทราบมีเรื่องการจัดซื้อยาปราบศัตรูพืช กับ การจัดซื้อเครื่องเล่นเด็กของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในราคาที่แพงเกินจริงรวมอยู่ด้วย โดยคดีเหล่านี้ป.ป.ช.เร่งรัดดำเนินการอยู่แล้ว แต่ต้องดูเนื้อหา พยานหลักฐานต่างๆ เพื่อความรอบคอบ ซึ่งต้องใช้เวลาอยู่บ้าง คงไม่สามารถเร่งรัดเกินไปได้ เพราะบางเรื่องมีรายละเอียดเป็นจำนวนมาก ต้องใช้ความรอบคอบ

    ด้านนายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึง คดีทุจริตการจัดซื้อยาปราบศัตรูพืชที่ส่งเรื่องมาให้ป.ป.ช.นั้น ทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ทยอยส่งรายชื่อจังหวัดต่างๆที่มีปัญหาเรื่องการซื้อยาปราบศัตรูพืชในราคาแพง เกินจริง มาให้ป.ป.ช.ตรวจสอบอยู่เรื่อยๆ ขณะนี้ ป.ป.ช.ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนไปแล้ว 3 จังหวัดคือ บึงกาฬ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ซึ่งมีตนเป็นประธานคณะอนุกรรมการไต่สวน ผู้เกี่ยวข้องส่วนใหญ่เป็นอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดและรองผู้ว่าราชการ จังหวัด ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการแจ้งรายชื่อคณะอนุกรรมการไต่สวนไปให้ผู้ถูกกล่าว หารับทราบ คาดว่า คงใช้เวลาไต่สวนไม่นาน เพราะป.ป.ช.ได้กำหนดเงื่อนไขการทำงานแต่ละคดีให้เสร็จภายในเวลาไม่เกิน 6 เดือน หากไม่ทันค่อยขยายเวลาเพิ่มเติมในภายหลัง



    โดย ป.ป.ช. เผยแพร่เอกสาร ที่ระบุว่า ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ นายสิริวัฒน์ พรหมบุรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ รองกรรมการผู้จัดการและกรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 รวม 2 กระทง จำคุกรวมจำคุก 4 ปี ปรับ 20,000 บาท ซึ่งโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี

    คดีนี้ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทั้งทางอาญาและทางวินัยร้ายแรงกับนายสิริวัฒน์ ว่ากระทำความผิดฐานทุจริต ในการอนุมัติเงินสินเชื่อให้โครงการที่นายสิริวัฒน์มีส่วนได้ส่วนเสีย 2 โครงการ จึงส่งอัยการสูงสุดยื่นฟ้อง จนกระทั่งศาลฏีกามีคำพิพากษาดังกล่าว

    สำหรับการดำเนินการทางวินัย ป.ป.ช. ส่งเรื่องให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ดำเนินการ ซึ่งธนาคารอาคารสงเคราะห์พิจารณาลงโทษไล่นายสิริวัฒน์ออกจากงานแล้ว
     
    Last edited: 20 Apr 2016
    Anduril likes this.
  22. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    ตรวจสอบการจัดซื้อชุดนักเรียนเกินความจำเป็น
    2016/04/20 6:50 PM

    สำนักข่าวไทย 20 เม.ย.-คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ตรวจพบองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและ บุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ จัดซื้อชุดนักเรียนเกินความจำเป็น ทำให้มีชุดค้างสตอกเป็นจำนวนมาก จนมีข้อสงสัยต่างๆ ตามมา

    สำนักข่าวไทยเป็นสื่อเดียวที่ได้สำรวจคลังสินค้าขององค์การค้า สกสค. พบเสื้อ กระโปรง และหัวเข็มขัดที่เห็น ถูกทยอยเข้ามาเก็บตั้งแต่ปี 2542 เพราะคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน สินค้าค้างสตอกเหล่านี้มาจากคำสั่งผลิต 3 ลอตใหญ่ คือ ลอตแรก รัฐบาลในขณะนั้นใช้โครงการมิยาซาวา กระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาฯ เข้าใจว่าได้งบมิยาซาวา จึงตัดชุดแจกเด็กกว่า 1 ล้านตัว ท้ายที่สุดกลับไม่ได้เงิน องค์การค้าสูญเงิน จึงแจกเสื้อให้เด็ก แต่ยังเหลือเกินครึ่ง ลอตที่ 2 หลังรีแบรนด์จากศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ มาเป็นแบรนด์เอส เปลี่ยนเนื้อผ้าให้คุณภาพดีขึ้น แต่พบว่ามีการสั่งไซซ์เสื้อซ้ำซ้อน ไม่ตรงขนาด สีของชุดลูกเสือ-เนตรนารีผิดเพี้ยน การผลิตลอตที่ 3 เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา มีการสั่งเสื้อและกางเกงมาจับคู่สินค้าที่ค้างสตอก แต่ใช้ด้วยกันไม่ได้ อีกทั้งคุณภาพต่ำกว่าที่กำหนด

    แหล่งข่าวในคลังสินค้าตั้งแต่ปี 2538 เผยกับสำนักข่าวไทยว่า เมื่อสินค้าค้างสตอก องค์การค้าเสียรายได้หลายล้านบาท จึงทำหนังสือรายงานให้ผู้รับผิดชอบทราบ แต่เรื่องเงียบ และกังวลว่าจะสาวไปไม่ถึงตัวการใหญ่ เพราะระบบสั่งซื้อเพิ่งบันทึกด้วยระบบคอมพิวเตอร์ในปี 2543 แต่เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2542 สินค้าที่ค้างสตอก ทำให้เกิดข้อกังขา การทุจริตใน สกสค. ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องในทุกขบวนการ เบื้องต้นพบการสั่งซื้อเพื่อกินหัวคิว หรือส่วนหนึ่งจากการบริหารงานที่ล้มเหลว วิเคราะห์ตลาดพลาด ส่งผลให้ขาดทุนทุกปี ล่าสุดตัวเลขสูงถึง 400 ล้านบาท

    การดำเนินการในองค์การค้า ทั้งการสั่งซื้อ ผลิต จำหน่าย ผอ.สกสค.เป็นผู้มีอำนาจเต็ม ก่อนหน้านี้ตรวจสอบพบทุจริตคดี สื่อการสอนไม่ได้คุณภาพ ที่อาจโยงกับกรณีชุดนักเรียน ซึ่งการสอบข้อเท็จจริง ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตเเห่งชาติ และคณะทำงานกระทรวงศึกษาธิการ เร่งเดินหน้าตรวจสอบ คาดเดือนนี้รู้ผล และอาจมีผู้ร่วมขบวนการนับสิบคน.-สำนักข่าวไทย

    http://www.tnamcot.com/content/450896



    หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เผยช่วง 6 เดือนยอดรายได้ทะลุ 300 ล้านบาท หลังแก้ปัญหาเงินรายได้รั่วไหลรายได้เกาะพีพีพุ่ง 300 ล้าน หลังแก้ปัญหาเงินรั่วไหล

    นายศรายุทธ ตันเถียรหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ บอกว่า ได้รายงานผลการจัดเก็บเงินรายได้อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ซึ่งมีตัวเลขสูงถึง 300 ล้านบาทเพียงแค่ 6 เดือนของปีงบประมาณ 2559 ให้แก่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชทราบแล้ว

    โครงการพีพีโมเดล ที่มีดร.ธรณ์ ธำรงค์นาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ เป็นที่ปรึกษาฯ ได้แก้ปัญหาการจัดเก็บเงินรายได้ของอุทยานฯที่อาจรั่วไหล

    โดยช่วง 6 เดือน ระหว่าง 1 ต.ค. 2558 ถึง 17 เม.ย.2559 มียอดจัดเก็บสูงสุดทำลายสถิติการเก็บเงินรายได้ในปีงบประมาณ 2558 ในช่วงเวลาเดียวกันที่เก็บได้ไม่ถึง 20 ล้านบาท

    ขณะที่ดร.ธรณ์ ได้โพสต์เฟสบุ๊คว่า "ตั้งแต่หัวหน้าพีพีเชิญให้เป็นที่ปรึกษาอุทยาน นี่คือสิ่งที่ผมตั้งใจว่าจะเป็นไปได้ใน 1 ปี ไม่น่าเชื่อว่าสำเร็จในเวลาเพียงครึ่งปีเศษ เงิน 300 ล้านบาทจะไปไหนนี่เป็นคำถามเสมอ ผมมีคำตอบจากกรมอุทยานและเคยเขียนให้อ่านแล้ว ตามแผนอธิบดีธัญญาที่จะยกระดับการบริหารจัดการอุทยานทั่วประเทศด้วยงบ 500 ล้านบาท "

    "เจ้าหน้าที่พีพีทำให้เราเห็น ด้วยเรือยางเก่าๆ เพียงหนึ่งลำ ด้วยการซุกหัวนอนในเต็นท์ติดต่อกันหลายต่อหลายเดือนเพราะบ้านพักพังหมด ด้วยการห่างลูกจากเมียฝังกายอยู่บนเกาะ ดูแลนักท่องเที่ยวและติดตามทวงคืนเงินของชาติ ตั้งแต่ตะวันขึ้นจนลับจากฟ้าลงท้องทะเล 300 ล้านด้วยวิธีการเหมือนเดิม เปลี่ยนแปลงเพียงคน" ดร.ธรณ์ ระบุ



    ที่กองบังคับการตำรวจจราจร(บก.จร.) - พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผู้บังคับการตำรวจจราจร(ผบก.จร.) ได้ลงนามคำสั่ง กองบังคับการตำรวจจราจร เรื่องให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน โดยมีรายชื่อดังนี้ 1.พ.ต.ท.พัทธนนท์ เกียรติไพบูลย์ สารวัตรงานสายตรวจ 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร , 2.ด.ต.นิธิศ ผกาแก้ว ผู้บังคับหมู่งาน สายตรวจ 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร , 3.ด.ต.สุวรรณ์ ทองชมพู ผู้บังคับหมู่งาน สายตรวจ 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร , 4.ด.ต.อภัส ขำพร้อม ผู้บังคับ สายตรวจ 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร

    ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวระบุว่า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทั้ง 4 นาย กระทำรายผิดวินัยร้ายแรง จนถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตามคำสั่ง กองบังคับการตำรวจจราจรที่ 206/2559 ลงวันที่ 18 เมษายน 2559 ในเรื่องใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ทุจริตและประพฤติมิชอบต่อหน้าที่ราชการ โดยการเบียดบังหรือเอาไป ซึ่งที่ได้จากการชำระค่าเปรียบเทียบปรับ เพื่อประโยชน์แก่ตนเอง และผู้อื่นอันเป็นความผิด ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เป็นไปตามกฎหมายกฎระเบียบทางราชการ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่บุคคลได้ กระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และกระทำการใดใด อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรง

    จึงให้พักราชการตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสั่งพักราชการ และการให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ. 2547 ข้อ 3 (1 ) และ (2) ชื่อผู้ถูกกล่าวหาจุดตั้ง คณะกรรมการสอบสวนในเรื่องที่เกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ราชการหรือเกี่ยวกับความประพฤติ พฤติการณ์อันไม่น่าไว้วางใจ หากให้คงอยู่ในหน้าที่ราชการ อาจเกิดการเสียหายแก่ราชการและอาจจะเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนพิจารณา หรือจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้น ทั้งนี้ เมื่อได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การสอบสวนพิจารณาคดี ที่เป็นเหตุให้สั่งพักราชการนั้น จะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว

    ฉะนั้น อาศัย อำนาจตามความในมาตรา 95 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติพ.ศ. 2547 ประกอบกับกฎ ก.ตร. ว่าด้วย การสั่งพักราชการ และการให้ออกจากราชการไว้ก่อน พศ.2547 ข้อ 8 จึงให้ พ.ต.ท.พัทธนนท์ เกียรติไพบูลย์ ด.ต.นิธิศ ผกาแก้ว ด.ต.สุวรรณ์ ทองชมพู และ ด.ต.อภัส ขำพร้อม ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2559 เป็นต้นไป



    ตรวจสอบการจัดซื้อชุดนักเรียน ตอน 2
    2016/04/21 7:01 PM

    สำนักข่าวไทย 21 เม.ย.-วิธีแก้ปัญหาของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อคืนรายได้ให้กับองค์การค้า คือนำชุดนักเรียนที่ค้างสตอกกว่า 5 แสนตัวออกขายในงานการศึกษาสร้างชาติ ตลาดคลองผดุงสร้างสุข ในราคาพิเศษ บางตัวจำหน่ายเพียง 30 บาทเท่านั้น ขณะที่คุณภาพอาจสวนทาง

    ภาพลังสูงกว่า 8 ชั้น บรรจุชุดนักเรียนกว่า 5 แสนตัว ที่ไม่ตรงสเปก ไร้คุณภาพ จนแจกจ่ายให้นักเรียนไม่ได้ อยู่ในโกดังแห่งนี้มายาวนาน 17 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่กระทรวงศึกษา ตรวจพบความไม่ชอบมาพากล ชุดนักเรียน 4 แสนตัวในโกดัง ถูกคัดและนำไปขายในบูธองค์การค้าของ สกสค.ที่ตลาดคลองผดุง ด้วยราคาถูกผิดปกติ เพียง 60 บาท ทั้งซื้อ 1 แถม 1 เฉลี่ยตัวละ 30 บาทเท่านั้น ผู้ปกครองที่ซื้อบอกว่า บางชิ้นยังใช้ได้ เช่น กระโปรง พอมีคุณภาพ ทรงสวย แต่เสื้อบาง เนื้อผ้าไม่ดี ซื้อไปใช้แล้วสีเพี้ยนจนต้องไปซื้อเสื้อจากร้านที่มีคุณภาพแทน

    ข้อมูลความไม่โปร่งใสที่ทีมข่าวสำนักข่าวไทยตรวจจากการลงพื้นที่โกดัง สินค้า ทำให้คณะทำงานของกระทรวงและศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตเเห่งชาติ เร่งสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นมีหลักฐานชัด รู้ผลไม่เกินพฤษภาคมแน่นอน เส้นทางการผลิตชุดนักเรียนแต่ละครั้ง เริ่มจากสำรวจไซซ์ ผลิตให้ตรงตามความต้องการ จำนวนคำนวณว่าเป็น 1 ใน 3 ของนักเรียนทั้งหมด จากนั้นฝ่ายจัดซื้อจะทำหนังสือให้ ผอ.สกสค. ซึ่งมีสิทธิ์ขาดในการเซ็นอนุมัติ ที่ผ่านมาองค์การค้าจะผลิตเอง มีส่วนน้อยที่จ้างโรงงาน จึงสามารถควบคุมการผลิตได้สูง แต่กลับพบว่าหลายครั้งคุณภาพสินค้าต่ำ

    ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง ปี 2542-2559 ตั้งแต่คุรุสภาจนเปลี่ยนมาเป็นองค์การค้า สกสค. มีผู้อำนวยการ 14 คน ถึงแม้สิทธิ์ขาดอนุมัติผลิตชุดนักเรียนอยู่ที่ ผอ.เพียงผู้เดียว น่าสงสัยว่าหากไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง สนับสนุน เรื่องคงไม่เก็บเงียบในโกดังนานถึง 17 ปี.-สำนักข่าวไทย

    http://www.tnamcot.com/content/451686



    บก.จร.ฉาวอีก เตรียมขยายผลสอบนายตำรวจเพิ่มจาก 4 นาย ที่ถูกให้ออกจากราชการ ปมทุจริตเงินค่าปรับไม่ตรงกับตัวเลขในใบเสร็จค่าเปรียบเทียบปรับ 50 เล่ม มูลค่ากว่า 2 ล้าน 5 แสนบาท

    ภายหลังเมื่อวานนี้ ผู้บังคับการตำรวจจราจร พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ เซ็นคำสั่ง 4 นายตำรวจ ออกจากราชการไว้ก่อน ประกอบยด้วย พ.ต.ท.พัทธนนท์ เกียรติไพบูลย์ สว.งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.จร. ด.ต.นิธิศ ผกาแก้ว ผบ.หมู่งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.จร. ด.ต.สุวรรณ์ ทองชมภู ผบ.หมู่งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.จร. และ ด.ต.ลภัส ขำพร้อม ผบ.หมู่งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.จร.ถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน เรื่องใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ทุจริต เงินที่ได้จากการตู้เปรียบเทียบปรับกำแพงเพชรที่ดูแลอยู่ เงินค่าปรับที่ส่งเข้า บก.จร.ไม่ตรงกับตัวเลขในใบเสร็จค่าเปรียบเทียบปรับ 50 เล่ม มูลค่ากว่า 2 ล้าน 5 แสนบาท

    ด้าน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร บอกว่า บก.จร.ได้รายงานให้ทราบว่า ผลการสืบสวนพบว่า มีข้อมูลความผิด จากนั้นตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง จนมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนรายละเอียดการทุจริตยังไม่ได้รับรายงาน

    ล่าสุดในวันนี้ มีรายงานว่า กองบังคับการตำรวจจราจรได้เตรียมสอบสวนขยายผลต่อ โดยสอบถามข้อมูลจากนายตำรวจทั้ง 4 นายและตรวจสอบจากข้อมูลส่วนของ ระบบของ ศูนย์ตรวจสอบใบสั่งและการเปรียบเทียบปรับทั้งหมดอย่างละเอียด เพื่อดูว่า มีนายตำรวจระดับใด เกี่ยวข้องอีกบ้าง

    มีข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ตรวจพบการทุจริตเรื่องค่าปรับที่ กก.3 บก.จร. (ศูนย์ข้อมูลใบสั่ง) ประจำศูนย์ตรวจสอบใบสั่งและเปรียบเทียบปรับซึ่งตั้งอยู่ที่สำนักงานขนส่งเขตพื้นที่ 1 (บางขุนเทียน) เป็นหน่วยตรวจวัดควันดำ-เสียงดัง จนมีคำสั่งให้ตำรวจจราจรที่เกี่ยวข้องออกจากราชการไปแล้ว หลังจากนั้น สตส.จึงเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดทุกหน่วยในสังกัด บก.จร. จากเดิมที่ใช้วิธีการสุ่มตรวจ จากการตรวจสอบพบว่า ที่งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.จร. หรือตู้เปรียบเทียบปรับกำแพงเพชร ยอดเงินค่าปรับไม่ตรงกับใบเสร็จรับเงิน ประกอบกับมีผู้ร้อง เรียนว่า ที่ตู้เปรียบเทียบปรับกำแพงเพชรค่อนข้างโหด เปรียบเทียบปรับผู้ที่กระทำผิดกฎจราจรในอัตราโทษสูงสุด เมื่อเปรียบเทียบกับยอดเงินค่าปรับที่นำส่ง บก.จร.ไม่ตรงกัน จึงเป็นที่มาของการ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงจนพบว่า มีมูลความจริง
     
    Last edited: 22 Apr 2016
    Anduril likes this.
  23. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    ปลดอดีตเลขาฯ กพฐ. ออกจากราชการ



    กรมการขนส่งทางบก ลงโทษโชเฟอร์แท็กซี่สนามบินดอนเมืองไม่ใช้มิเตอร์และแสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ ปรับ 2,000 บาท พร้อมพักใช้ใบอนุญาตขับรถนาน 3 เดือน เตือนหากพบความผิดซ้ำอีก พิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที ระบุ ที่ผ่านมาได้ลงโทษพักใช้ใบอนุญาตขับรถไปแล้วจำนวน 279 ราย และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถอีกจำนวน 6 ราย

    นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงกรณีมีผู้โพสคลิป เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2559 ว่าผู้ขับรถแท็กซี่คันหมายเลขทะเบียน ทษ 930 กรุงเทพมหานคร ไม่ใช้มิเตอร์ และเรียกเก็บค่าโดยสารแบบเหมาจ่ายในราคา 900 บาท โดยเป็นการเรียกใช้บริการจากสนามบินดอนเมือง ปลายทางโรงแรมโฟร์วิงส์ ถนนศรีนครินทร์ จึงเรียกตัวนายเด่นชัย เทียมทัด โชเฟอร์แท็กซี่เข้ารายงานตัวทันที เนื่องจากทำผิดกฎหมาย และแสดงพฤติกรรมไม่สุภาพต่อผู้โดยสาร โดยกรมการขนส่งทางบกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับรถทันที 3 เดือน ปรับในฐานความผิดไม่ใช้มาตรค่าโดยสารและแสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ อีก 2,000 บาท

    นอกจากนี้ ยังได้บันทึกประวัติความผิดของนายเด่นชัย ไว้ที่ศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้หากยังพบพฤติกรรมความผิดซ้ำจะพิจารณาลงโทษพักใช้เพิ่มเติม หรืออาจถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที

    โดยนายเด่นชัยยอมรับว่าทำผิดจริงและยอมรับกับสิ่งที่ได้ทำพร้อมเตือนเพื่อนร่วมอาชีพอย่าพยายามโกงค่าโดยสาร

    อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวอีกว่า กรมการขนส่งทางบกมีการตรวจสอบพฤติกรรมการให้บริการและกวดขันจับกุมรถโดยสาร ธารณะที่กระทำความผิดอย่างเข้มข้นจริงจัง และเพิ่มความเข้มข้นพิจารณาลงโทษพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตทันทีหากความผิด นั้นส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2557 – 31 มีนาคม 2559 ได้ลงโทษพักใช้ใบอนุญาตขับรถไปแล้วจำนวน 279 ราย และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถอีกจำนวน 6 ราย



    สตง.เปิดผลสอบโครงการคืนภาษีรถคันแรก พบมีการคืนภาษีมั่วถึง 1,648 ราย เร่งกรมสรรพสามิตให้หน่วยงานแต่ละพื้นที่ตรวจสอบ

    สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) รายงานผลตรวจสอบโครงการรถคันแรกของกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ตั้งแต่เริ่มโครงการปีงบประมาณ 2554-2558 วงเงินงบประมาณ 4.73 หมื่นล้านบาท พบมีผู้ขอใช้สิทธิไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) และไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กําหนด โดยการสุ่มตรวจสอบผู้ขอใช้สิทธิจากโครงการ 4,340 รายของกรมสรรพสามิต พบมีผู้ขอยื่นเอกสารหลักฐานไม่ครบ รวม 1,648 ราย คิดเป็นภาษีที่คืนไปจำนวน 122.2 ล้านบาท

    ทั้งนี้ สตง.เสนอให้กรมสรรพสามิตในทุกสาขาตรวจสอบเอกสารหลักฐานของผู้ได้สิทธิทั้งหมด หากพบเป็นการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการตามควรแก่กรณี แต่หากเป็นการกระทำผิดของผู้ขอใช้สิทธิให้เรียกเงินคืน



    สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.ได้สุ่มตรวจเอกสารหลักฐานของผู้ได้สิทธิได้คืนภาษีในโครงการ รถคันแรกพบพิรุธเพียบ ระบุหากพบเป็นการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ ให้ กรมสรรพสามิตดำเนินการตามควรแก่กรณี แต่หากเป็นการกระทำผิดของผู้ขอใช้สิทธิ ก็ขอให้เรียกเงินภาษีคืน ติดตามรายละเอียดจากรายงาน



    ป.ป.ท.ตรวจสอบโครงการอุดกลบบ่อบาดาลของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล หลังมีประชาชนร้องเรียนว่าอาจมีการทุจริตเกิดขึ้นจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบข้อพิรุธในหลายพื้นที่ ติดตามรายงานจากผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวี กมลชนก ทีฆะ

    ในยามที่ภัยแล้งส่งผลกระทบอย่างหนักหลายพื้นที่ขาดแคลนน้ำบางพื้นที่มีบ่อบาดาลแต่ไม่สามารถใช้ได้กลายเป็นที่มาข้อร้องเรียนถึงความไม่ชอบมาพากลของโครงการอุดกลบบ่อน้ำบาดาล ประชาชนในจังหวัดขอนแก่นร้องเรียน มายังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.ว่ามีการทุจริตโครงการอุดกลบบ่อน้ำบาดาลในพื้นที่โดยมีการทำเป็นขบวนการ

    ข้อมูลจาก ป.ป.ท.พบความผิดปกติหลังมีการเสนอโครงการอุดกลบบ่อน้ำบาดาล โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ปีงบประมาณ 2557 อุดกลบจำนวน 4,886 บ่อ ของสำนักงานทรัพยากรน้ำบาดาลทั้ง 12 เขตทั่วประเทศ งบประมาณกว่า 103 ล้านบาท

    บ้านหนองเรือ ต.เสือเฒ่า อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ถูกพบสภาพบ่อบาดาลยังใช้งานได้ แต่มีการเข้าอุดกลบที่ไม่เป็นไปตาม TOR เมื่อใช้เครื่องมือประเมินความต่อเนื่องของเนื้อซีเมนต์ที่ใช้อุดกลบ วัดได้13.75 เมตร จากความลึกหลุม 36 เมตร ทั้งที่ตามข้อกำหนดต้องเทซีเมนต์เต็มทั้งเส้นท่อ จากข้อมูลยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ส่อพิรุธ

    เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องมือประเมินความต่อเนื่องของเนื้อซีเมนต์ที่ใช้อุดกลบ หรือ Semic Test เพื่อยืนยันวิธีการอุดกลบเครื่องมือพบสัญญาณเปลี่ยนที่ระดับความลึก 4-7 เมตรจากความลึกหลุมอยู่ที่ 72 เมตร

    เบื้องต้นอาจมีวัสดุอื่นผสมเข้าไปในเนื้อซีเมนต์พยานยืนยันว่า มีการอุดกลบบ่อบาดาลที่ไม่เป็นไปตาม TORป.ป.ท.อยู่ระหว่างขยายผลหลายพื้นที่โดยมีการตั้งข้อสงสัยทั้งกระบวนการอุดกลบ และการคำนวนค่าใช้จ่าย ที่ใช้จริงเพียงเล็กน้อย และพบเอกสารการเบิกจ่ายที่อาจจะมีการปลอมแปลง
     
    Last edited: 30 Apr 2016
    Anduril likes this.
  24. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    เข้มโกงเลี่ยงภาษี "สรรพากร" ชี้ทุจริตภาษี 1 ล้าน เข้าข่ายฟอกเงิน



    กทม. 27 เม.ย.-สำนักข่าวไทยลงพื้นที่ต่อเนื่องเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับผู้ที่ เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตชุดนักเรียน 500,000 ตัว ที่ค้างสตอกอยู่ในคลังสินค้าขององค์การค้าสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัส ดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษานานกว่า 17 ปี ทั้งฝ่ายการขาย การผลิต และคลังสินค้า.-สำนักข่าวไทย



    กทม. 29 เม.ย.-หลังทีมข่าวสำนักข่าวไทยลงพื้นที่ติดตามปัญหาชุดนักเรียนค้างสตอกกว่า 500,000 ตัว ซึ่งได้พูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้องในส่วนงานการผลิตและการตลาด ล่าสุดออกมาระบุว่าทราบเรื่องสินค้าค้างในโกดังมาตลอด ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแต่ละไม่สมัยไม่เคยทราบ.-สำนักข่าว ไทย



    กรุงเทพฯ 2 พ.ค.-การตรวจสอบเส้นทางการเงิน เป็นกลไกสำคัญที่ทั่วโลกใช้สกัดกั้นการฟอกเงินในปัจจุบัน วันนี้ สำนักข่าวไทยเจาะห้องไอทีอัจฉริยะ ดูสมองกลของ ปปง.ที่ใช้ระบบเดียวกับธนาคารกลางนิวยอร์ก โดยข้อมูลธุรกรรมกว่า 85 ล้านธุรกรรม ถูกส่งมารวมกันที่ห้องปฏบัติการคอมพิวเตอร์แห่งนี้ ซึ่ง พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาราชการแทน เลขาธิการ ปปง. จะพาทีมข่าวสำนักข่าวไทยเข้าไปชมระบบภายในเป็นครั้งแรก ข้อมูลสำคัญเหล่านั้นรวมถึงปานามาเปเปอร์สหรือไม่ ติดตามจาก EXCLUSIVE TALK .-สำนักข่าวไทย



    พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ ป.ป.ท.รวบรวมพยานหลักฐานอย่างรอบคอบ กรณีพบพิรุธและสงสัยอาจมีการทุจริตโครงการดังกล่าว หากพบข้าราชการกระทำผิด ไม่ว่าระดับใด ให้ลงโทษอย่างเด็ดขาด เพราะ คสช. และรัฐบาลยอมไม่ได้กับการทุจริต ต้องสอบสวนไปถึงต้นตอความผิด และขยายผลไปยังหน่วยงานอื่นที่มีโครงการในลักษณะเดียวกัน เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว รวมถึงให้ข้าราชการทุจริตชดใช้ความเสียหายด้วย

    นายกรัฐมนตรียังเตือนเจ้าหน้าที่ภาครัฐทุกหน่วย ให้ตั้งใจทำหน้าที่ไม่ทุจริตคอร์รัปชัน หากพบการกระทำผิดต้องรับโทษหนัก พร้อมขอภาคธุรกิจเอกชนไม่ร่วมมือกับข้าราชการที่ทุจริต หากรู้เห็นเป็นใจถือว่าร่วมกระทำผิดเช่นกัน และหากภาคธุรกิจ หรือประชาชนพบเบาะแสการทุจริต ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อร่วมกันสร้างสังคมที่โปร่งใสและสะอาด เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ

    ด้าน พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ข้อมูลที่ ป.ป.ท.ตรวจสอบพบ เป็นข้อมูลระหว่างปี 2552-2557 ก่อนที่รัฐบาลนี้จะเข้ามาบริหารประเทศ เช่น การปลอมใบเสร็จ การเบิกเบี้ยเลี้ยงผิดปกติ วัสดุ ไม่ได้มาตรฐาน เป็นต้น
     
    Last edited: 3 May 2016
    ต้นหอม และ Anduril ถูกใจ.
  25. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    หลังมีการตรวจสอบความผิดปกติ กรณีการทุจริตโครงการอุดกลบบ่อน้ำดาล วันนี้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ลงพื้นที่ จังหวัดสมุทรสาครตรวจสอบ โดยการเจาะเก็บตัวอย่างของเนื้อซีเมนต์ในเส้นท่อ ก่อนส่งตรวจพิสูจน์เพื่อใช้เป็นหลักฐานเอาผิดผู้ทุจริต ติดตามรายงานนี้จาก คุณกมลชนก ทีฆะกุล



    เปิดแผนทุจริตบ่อบาดาลกว่า 100 ล้านบาท



    4 พ.ค.l ข่าว 19.00 กรมศุลกากรคือหน่วยงานที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริตมากที่สุด เพราะดูแลประตูเข้าออกสินค้าของประเทศ อธิบดีกรมศุลกากรได้วางมาตรการเพื่อลดปัญหาการทุจริต หากพบเจ้าหน้าที่ไปเกี่ยวข้องจะมีมาตรการลงโทษ



    โดยเอกสารของ ป.ป.ช. รายงานว่ากรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ นายสันติ โทจำปา นายก อบต.ป่าแดง อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก อนุญาตให้ นายสมศักดิ์ วิวัฒน์ธนาฒย์ หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.พิษณุโลกวิวัฒน์พัฒนา เข้าขุดและขนดินใน อบต.ป่าแดง ที่กำลังทำสนามกีฬาและแปลงสาธิตไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว และเพื่อนำไปใช้ในการก่อสร้างขยายถนนทางหลวง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายให้กับ อบต.ป่าแดง ทำให้ราชการได้รับความเสียหาย ซึ่งจากพยานหลักฐาน พบมีการขุดและขนดินบริเวณเนินดินด้านหลังสำนักงาน อบต.ปริมาณใกล้เคียงกับงานก่อสร้างขยายผิดถนนดังกล่าว โดยมีมูลค่าเกือบ 200,000 บาท และไม่มีการปรับเกรดให้เสมอกันตามบันทึกข้อตกลง อีกทั้ง อบต.ป่าแดงยังจ้างเหมารถไถเกลี่ยดินบริเวณดังกล่าวอีกกว่า 20,000 บาท และต้องใช้งบอีกกว่า 80,000 บาทในการปรับลานกีฬาต้านยาเสพติดอีกด้วย

    จึงเป็นการกระทำความผิด และทำให้ราชการได้รับความเสียหาย จึงแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาลงโทษทางวินัย และให้อัยการสูงสุดดำเนินการ ซึ่ง ป.ป.ช.ได้รับรายงานว่า อบต.ป่าแดงลงโทษไล่ ว่าที่ร้อยโทสมพงษ์ จันรุน ปลัด อบต.ป่าแดงออกจากราชการฐานผิดวินัยร้ายแรงแล้ว และอัยการได้ดำเนินการฟ้องคดีอาญาบุคคลทั้ง 3 คนมีความผิดทางอาญาในแต่ฐานความผิดต่อไป



    คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. เดินหน้าลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบบ่อน้ำบาดาลที่มีการอุดกลบในปีงบประมาณ 2557 โดยทั่วประเทศมีการอุดกลบทั้งหมด 4,886 บ่อ ใช้งบประมาณเกือบ 100 ล้านบาท จากการตรวจสอบพบพิรุธทั้งวิธีการอุดกลบที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน การปลอมใบเสร็จ และการเบิกเบี้ยเลี้ยงผิดปกติ
     
    Last edited: 9 May 2016
  26. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    กรุงเทพฯ 9 พ.ค. – สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตรวจสอบโครงการอุดกลบบ่อน้ำบาดาล ในปี 2557 ของสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล หลังมีการร้องเรียนว่า เจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกับการทุจริต ซึ่ง ป.ป.ท.ตรวจสอบหลายพื้นที่พบความผิดปกติ ทั้งการไม่ดำเนินการอุดกลบตามมาตรฐาน และการปลอมแปลงใบเสร็จที่ใช้ประกอบการเบิกจ่าย ติดตามจากรายงาน. – สำนักข่าวไทย



    คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเตรียมเสนอ ป.ป.ช.เอาผิดนายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีต รมว.คลังและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.และพวก ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ไม่ดำเนินการคืนท่อก๊าซฯ ทำให้รัฐเสียประโยชน์กว่า 3.2 หมื่นล้าน จี้รัฐบาลส่งเรื่องให้ศาลปกครองสั่งบังคับคดีภายใน 60 วัน



    คณะกรรมการธุรกรรม ปปง. มีมติให้อายัดทรัพย์ ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดคดีทุจริตบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน เป็นเงินค่างวด ที่จะถึงกำหนดชำระวันที่ 21 พ.ค. และ 21 พ.ย. มูลค่า 4,700 ล้านบาท และ 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

    โดยอ้างอิงคำพิพากษาศาลอาญาพิพากษา เมื่อวันที่17ธ.ค. 2558 ว่า อดีตอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ, อดีตนักวิชาการสิ่งแวดล้อม มีความผิดฐานทุจริตสมคบกับกิจการร่วมค้าฯเอื้อประโยชน์ พันตำรวจเอก สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาราชการแทน เลขาธิการ ปปง. บอกว่า เหตุนี้ ทำให้สัญญาโครงการคลองด่านเป็นโมฆะ รัฐสามารถระงับจ่ายเงินชดใช้ ตามคำสั่งศาลปกครองที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้





    ชลบุรี 12 พ.ค. – อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี เป็นหนึ่งพื้นที่ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พบความผิดปกติในรายงานการใช้งบอุดกลบบ่อบาดาล และอาจมีการอุดกลบบ่อบาดาลไม่ได้มาตรฐานในหลายพื้นที่ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทยว่า ล่าสุดได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงประเด็นการทุจริตการใช้งบในโครงการ นี้ ติดตามจากรายงาน. – สำนักข่าวไทย
     
    Last edited: 13 May 2016
  27. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย "เกษม นิมมลรัตน์" พร้อมให้ยึดทรัพย์สิน 186 ล้าน บาท หลังพบว่าจงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สินเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งทางการเมือง

    เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. สรรเสริญ พลเจียก บอกถึงแจงมติ หลังชี้มูลความผิด อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เกษม นิมมลรัตน์ โดยสั่งให้อายัดทรัพย์สิน จำนวน 186 ล้านบาท หลังตรวจสอบพบว่า เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายเกษม จงใจปกปิดบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ และมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ

    พร้อมให้อัยการสูงสุด ดำเนินคดีในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อให้ยึดทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะความผิดตามมาตรา 83 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ 2542



    นครศรีธรรมราช 13 พ.ค. – พบพิรุธการก่อสร้างโครงการน้ำบาดาลใน จ.นครศรีธรรมราช ผู้ตรวจการแผ่นดินเร่งประสานกรมทรัพยากรน้ำบาดาล แก้ไขปัญหาภายใน 1 เดือน หากยังไม่คืบหน้าจะส่งเรื่องถึงนายกรัฐมนตรีโดยตรง ติดตามจากรายงาน. – สำนักข่าวไทย



    ระยอง 13 พ.ค. – กรมทรัพยากรน้ำบาดาล สำรวจบ่อบาดาลที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ทั่วประเทศมีมากกว่า 40,000 บ่อ จึงดำเนินโครงการอุดกลบบ่อเหล่านี้มานานหลายปีแล้ว กระทั่งปี 2557 มีปัญหาร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้งบโครงการฯ ซึ่ง ป.ป.ท.กำลังสอบสวน นอกจากส่งผลเสียหายด้านการใช้งบของรัฐแล้ว การอุดกลบไม่ถูกต้องยังส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมระยะยาวด้วย ติดตามจากรายงาน. – สำนักข่าวไทย



    สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐสรุปข้อมูลเอาผิดข้าราชการพัวพันทุจริตขุดกลบบ่อบาดาล



    ครม.มีมติให้คลังใช้สิทธิยื่นเรื่องต่อศาลปค. พิจารณาคดีบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านใหม่

    วันนี้ (16พ.ค.59) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมได้รับทราบเรื่องที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อายัดสิทธิเรียกร้องเงินชดเชยค่าผิดสัญญาก่อสร้างโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ที่รัฐบาลยังค้างจ่ายให้กลุ่มกิจการร่วมค้า NVPSKG และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา

    ด้าน พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.มีมติไม่ให้กรมควบคุมมลพิษ เงินชดเชยค่าผิดสัญญาก่อสร้างโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ที่รัฐบาลยังค้างจ่ายรอบที่ 2 และมอบหมายให้กระทรวงการคลัง ใช้สิทธิต่อศาลปกครอง เพื่อพิจารณาคดีนี้ใหม่ และให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เป็นผู้ประสานงานในคดีนี้

    นอกจากนี้ ที่ประชุมยังรับทราบรายงานสถานการณ์สิทธิมนุ ษยชนของประเทศไทย ตามกลไก UPR รอบที่ 2 ที่นครเจนีวา แต่ยังไม่มีการพิจารณาร่างพรบ.การพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.การป้องกันและต่อต้านการซ้อมทรมาน และร่างพ.ร.บ.ป้องกันบุคคลสูญหาย

    ทั้ง นี้ รมว.ยุติธรรม กล่าวยืนยันว่า ข้อเสนอจากคณะทำงาน UPR 68 ข้อ ที่ไทยไม่รับนั้น ถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะทุกประเทศก็มีข้อปฎิบัติและกฎหมายที่แตกต่างกันออกไป
     
    Last edited: 18 May 2016
  28. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    กรรมการ ป.ป.ช. มีมติยึดทรัพย์ นายถาวร บุตรศรี นายก อบต.ทุ่งคลองจังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 3,906,000 บาท และ นายอมร อ่อนรัชชา ปลัดเทศบาลตำบลโพน 1,000,000 บาท หลังพบว่ามีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากผู้เข้าสอบบรรจุเป็นพนักงานท้องถิ่น และร่ำรวยผิดปกติ โดยให้ยึดทรัพย์ดังกล่าวที่เชื่อได้ว่าได้มาจากการกระทำความผิด ให้ตกเป็นของแผ่นดิน และให้โอนเงินดังกล่าวแก่กระทรวงการคลัง นับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา



    สตง.สั่งออ.ส.ค.เร่งชี้แจงปมสัญญาติดตั้งเครื่องบรรจุนมHigh Speed 420ล้าน ล็อคเสป็คหรือไม่ภายในสิ้นเดือนนี้



    สำนักข่าวไทย 23 พ.ค.-ความคืบหน้าของกรณีความไม่โปร่งใสหลังพบชุดนักเรียนค้างสตอกในโกดังสินค้าขององค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) วันนี้ได้ข้อมูลและหลักฐานเบื้องต้น

    ข้อกังขาที่เกิดขึ้นท่ามกลางชุดนักเรียนกว่าครึ่งล้านชิ้น เก็บสะสมในความเงียบมา 20 ปี กำลังถูกเปิดออก แต่กลับพบอุปสรรค เจ้าหน้าที่ปกปิดข้อมูล หลังแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ข้อมูลชุดแรกเพิ่งถึงมือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แต่กลับเป็นมูลความจริงที่ไม่เจาะลึก ไม่ชัด และรายงานเพียงการบริหารงานทั่วไป อาทิ บอกระเบียบการทำงานที่ถูกต้อง แต่ไม่พบช่องโหว่ใดๆ ทั้งที่มีปัญหาเกิดขึ้น ซึ่งตนมองว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้จาก 2 สาเหตุคือการบริหารที่ล้มเหลว และมีการทุจริต

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเผย รู้สึกสงสารองค์กร ที่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ไม่ให้ความร่วมมือ ไม่มีระบบการทำงานที่ดี ซึ่งระบบการสอบข้อเท็จจริงครั้งนี้ ปัญหาอยู่ที่บุคลากร สกสค.ไม่ใช่คณะกรรมการสอบ ฝากให้เจ้าหน้าที่เผยข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ไม่ต้องกังวล ตนจะให้ความเป็นธรรม โดยศุกร์นี้จะเชิญผู้อำนวยการสำนักที่เกี่ยวข้องเข้ามาพูดคุย และจะสรุปข้อมูลเพื่อเร่งหาข้อสรุปต่อไป

    สาเหตุข้อมูลล่าช้าและไม่ชัดเจน เพราะต้องอาศัยบุคลากรในการสืบหาข้อมูลเป็นหลัก ประกอบกับไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ รัฐมนตรีจึงฝากหาข้อเท็จจริงให้ครอบคลุมทุกประเด็น เช่น การทำงานของคลังสินค้า ส่วนการตลาดและการผลิตว่ามีการทำงานสอดคล้องกันหรือไม่ เพราะมีการผลิตจำนวนมาก สอบข้อมูลผู้ที่รับผิดชอบและจะดำเนินการตามกฎหมาย ด้านผู้อำนวยการองค์การค้า สกสค.กำชับทุกหน่วยงานต้องให้ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง แต่หากกระทำการที่ไม่เหมาะสม และขัดต่อการสืบข้อมูล รัฐมนตรีจะมีวิธีพิจารณาบุคคลนั้น อาทิ การย้ายตำแหน่ง เป็นต้น

    จากชุดนักเรียนค้างโกดังกว่า 5 แสนชิ้นถูกจำหน่ายออกในงานการศึกษาสร้างชาติ ทำให้ชุดเหลือค้างสตอกเพียง 440,000 ชุด สวนทางกับข้อเท็จจริงที่ถึงแม้จะผ่านระยะเวลาเกือบ 2 เดือนก็ยังไม่เห็นผลที่ชัดเจน.-สำนักข่าวไทย



    คณะกรรมการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) อยู่ระหว่างตรวจสอบโครงการการอุดกลบบ่อบาดาลทั่วประเทศ หลังพบการมีหลายจังหวัดทุจริตการอุดกลบบ่อบาดาลในหลายรูปแบบ ซึ่งนอกจากจะสูญเสียงบประมาณแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย และขณะนี้อยู่ระหว่างเรียกสอบข้อมูลหัวหน้าชุดอุดกลบทั่วประเทศ รวมถึง ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล 12 เขต พร้อมตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อขยายผลเชื่อมโยงพฤติกรรมการทุจริตแบบย้อนหลัง



    ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยังเปิดโอกาสให้บริษัทค้าเหล็กในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งพบว่าทุจริตการขอคืนเงินภาษีกว่าร้อยล้านบาทได้ชี้แจงข้อเท็จจริง
     
    Last edited: 30 May 2016
  29. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    ศอตช.และหน่วยงานรัฐอีกหลายแห่ง ได้รับเรื่องร้องเรียนตรวจสอบทุจริตโครงการติดตั้งเครื่องบรรจุนม high speed ของ อ.ส.ค. เจตนาแสวงหาผลประโยชน์จากการเช่าเครื่องจักร ผูกพัน 7 ปีวงเงิน 2,500 ล้านบาท



    ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน มั่นใจ ข้อตกลงคุณธรรม ที่เปิดให้เอกชนร่วมตรอบสอบความโปร่งใสการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐจะทำให้ต่างชาติมองไทยดีขึ้น

    ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ประมนต์ สุธีวงศ์ บอกว่า ถือเป็นเรื่องดีที่ภาครัฐได้ให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมดูแลเรื่องความโปร่งใสในการดำเนินกิจการของรัฐ โดยเฉพาะการลงทุนพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้เอกชนมีความมั่นใจและพร้อมเดินหน้าลงทุนร่วมกันไปกับรัฐบาล และที่สำคัญจะทำให้นักลงทุนต่างชาติมองไทยมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2558 - 2559 มีโครงการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่นำไปสู่ข้อตกลงคุณธรรมจำนวน 26 โครงการ จาก 24 หน่วยงาน คิดเป็นมูลค่า 55,933 ล้านบาท ขณะที่ในการสัมมนาครั้งนี้ได้มีผู้ร่วมสังเกตการณ์อยู่ในบัญชีรายชื่ออีก 100 ราย เพื่อร่วมกันมีส่วนทำให้การจัดซื้อจัดจ้างมีความโปร่งใสมากขึ้น



    วันนี้ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และกระทรวงการคลัง กำหนดจัดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง "ข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact)" เพื่อเป็นการเสริมสร้างมาตรการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่นในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ให้เกิดความโปร่งใสและตรวจสอบได้ และสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมเป็นผู้สังเกตการณ์ในการจัดซื้อจัดจ้างตั้งแต่ขั้นตอนการทำร่างทีโออาร์ ถึงขั้นตอนเปิดประมูล

    ขณะนี้ มีผู้สังเกตการณ์ในบัญชี 100 ราย และมีแผนที่จะสรรหาเพิ่มอีก 100 คน รวมทั้งกรมบัญชีกลางกำลังคัดเลือกโครงการที่จะเข้าร่วมข้อตกลงคุณธรรมในปีงบประมาณ 2560

    ทั้งนี้ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2558 - 2559 มีโครงการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่นำข้อตกลงคุณธรรมมาใช้ 26 โครงการ จาก 24 หน่วยงาน ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 55,933 ล้านบาท ในแต่ละโครงการมีรูปแบบการจัดซื้อจัดจ้างและดำเนินการที่ซับซ้อนแตกต่างกัน เช่น โครงการเปลี่ยนผ่านการส่งโทรทัศน์ระบบอนาล็อกสู่ระบบดิจิทัล ของกรมประชาสัมพันธ์ วงเงิน 1,700 ล้านบาท โครงการจัดซื้อเครื่องจักรของโรงงานยาสูบแห่งใหม่ วงเงิน 7,649 ล้านบาท

    นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้นำข้อตกลงคุณธรรมมาไว้ในร่าง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ เพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เกิดความโปร่งใส เป็นธรรมในการแข่งขัน รวมทั้งทำให้เกิดความเชื่อมั่นและส่งเสริมการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ

    นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาหนีภาษี ที่เป็นส่วนหนึ่งของการคอร์รัปชั่นที่กระทรวงการคลังจะเข้าไปแก้ปัญหา



    โครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ มักถูกจับตามองว่าจะเกิดการรั่วไหลของงบประมาณมากที่สุด ซึ่งเมื่อมีการจัดทำ "ข้อตกลงคุณธรรม" ขึ้น สามารถลดการทุจริตคอร์รัปชัน และกำลังเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ติดตามจากรายงาน

    ในสัปดาห์หน้า พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างจะเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ถือว่าเป็นจุดเริ่มที่จะทำให้การจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐจะมีความโปร่งใส และถาวรมากขึ้น เพราะทุกโครงการของรัฐที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท จะต้องมีข้อตกลงคุณธรรม เพื่อให้มีการเข้าไปตรวจสอบ และอุดช่องโหว่การรั่วไหลของเงินภาษีประชาชน

    ข้อตกลงคุณธรรม เป็นความร่วมมือ 3 ฝ่าย คือ ภาครัฐเจ้าของโครงการ เอกชนผู้ร่วมประมูลงาน และภาคประชาชน หรือผู้สังเกตการณ์ ซึ่งเมื่อมีข้อตกลงคุณธรรมเข้าร่วมแล้ว โครงการนั้นต้องเปิดเผยข้อมูลตั้งแต่ขั้นตอนการร่างเงื่อนไขการประมูล หรือ ทีโออาร์ จนถึงเสร็จสิ้นกระบวนการ โดยให้ผู้สังเกตการณ์ ซึ่งเป็นบุคคลที่ผ่านการฝึกอบรม และคัดสรรจากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันแล้ว ว่ามีความชำนาญ รู้งานจริง เข้าไปท้วงติงเสนอแนะเกี่ยวกับโครงการของรัฐโครงการนั้นๆได้ ทำให้การใช้งบทุกบาททุกสตางค์ต้องเห็นผล

    1 ปีที่ผ่านมา มีโครงการจัดซื้อจัดจ้าง 26 โครงการ จาก 24 หน่วยงาน ทั้งราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมัครใจทำข้อตกลงคุณธรรม และเห็นผลถึงประสิทธิภาพ เพราะงบแต่ละปีกว่า 500,000 ล้านบาท หากประหยัดได้ 10% ก็เท่ากับ ประหยัดลงงบประมาณได้ถึง 50,000 ล้านบาทต่อปี

    อย่าง โรงงานยาสูบ ที่ได้มีข้อตกลงคุณธรรม เข้าไปในการจัดซื้อจัดจ้างการทำโรงงานใหม่ ประหยัดงบประมาณได้ถึง 2,000 ล้านบาท หรือลดลง 30% จากงบเดิมที่กำหนด เพราะเกิดการแข่งขันประมูลงาน ราคาจึงถูกลง เป็นธรรมไม่ผูกขาดกับเอกชนรายใดรายหนึ่งจนเกินไป แต่ทำให้ผู้ที่มีความสามารถเข้าไปประมูลโครงการของรัฐได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น

    การเดินหน้าต่อต้านคอร์รัปชันอย่างเป็นรูปธรรม ถือเป็นการวางรากฐาน เพื่อให้เงินภาษีของประชาชนถูกใช้จ่ายอย่างคุ้มค่ามากที่สุด



    เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กรมศุลกากร ได้แกะรอยเส้นทางขบวนการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศเพื่อขอคืนเงินอากร 61 % ตามนโยบายสนับสนุนให้ผู้ประกอบการในไทยนำสินค้าเข้ามาผลิตแล้วส่งออกไปต่างประเทศ โดยใช้วิธีขนท่อเหล็กเกือบ 20,000 ชิ้น ออกทางด่านมุกดาหารข้ามไปฝั่งลาว แต่แทนที่จะขนสินค้าผ่านด่านศุลกากรของลาว กลับเลือกที่จะจอดพักและรอเวลาขนสินค้าชุดเดิมกลับเข้ามายังฝั่งไทย สำแดงเป็นท่อน้ำมันและเปลี่ยนชื่อบริษัท ข่าว 3 มิติได้พูดคุยประเด็นนี้กับหัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ พบว่าการกระทำลักษณะดังกล่าวมีความเชื่อมโยงเป็นขบวนการ โดยอาศัยช่องโหว่ทางกฏหมาย หากไม่ป้องปรามหรือจับกุมดำเนินคดี จะทำให้ภาครัฐเสียประโยชน์จากเงินภาษีเป็นมูลค่ามหาศาล
     
    Last edited: 14 Jun 2016
  30. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    ป.ป.ท.เปิดศูนย์ร้องเรียนการทุจริต สำหรับนักลงทุนต่างชาติ ป้องกันข้าราชการอาศัยอำนาจทำการทุจริต ซึ่งที่ผ่านมาใช้มาตรา 44 โยกย้ายผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 170 คน

    สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เปิดศูนย์รับเรื่องทุจริตสำหรับนักลงทุนต่างชาติ เพื่อดึงดูดความสนใจของนักลงทุนให้เห็นถึงความพยายามสร้างความโปร่งใสของหน่วยงานรัฐ และที่ผ่านมาอาศัย ม.44 โยกย้ายเจ้าหน้าที่รัฐ ระดับผู้บริหาร ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตออกจากตำแหน่งไปแล้วกว่า 170 คน ส่วนล็อตที่ 4 คาดว่าจะประกาศรายชื่อเร็วๆนี้ //รัฐบาลมีความพยายามเร่งแก้ไขกฎหมายให้สอดรับกับการป้องกันทุจริต เช่น การยกร่างพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง จากเดิมที่เป็นเพียงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี หากมีผลบังคับใช้จะทำให้บทลงโทษมีความชัดเจนขึ้น



    ป.ป.ท.เร่งตรวจสอบรายชื่อในบัญชีส่วย นาตารี อาบอบนวด โยงหน่วยงานใด พร้อมสอบประกอบกิจการผิดกฏหมายหรือไม่

    วันนี้ (9 มิ.ย. 59) นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีพบบัญชีส่วย นาตารี อาบอบนวด ขณะที่ชุดเฉพาะกิจกรมการปกครองเข้าจับกุมเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อระบุให้ได้ว่าชื่อย่อต่างๆเป็นใคร เกี่ยวข้องกับหน่วยงานใด และเกี่ยวข้องกับการรับส่วยจริงหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นเชื่อว่าต้นสังกัดที่ปรากฏตามข่าวอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงเช่นกันเพื่อให้เกิดความกระจ่างต่อสังคม

    เลขาธิการป.ป.ท. กล่าวต่อว่า ป.ป.ท.ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์การเข้าจับกุมครั้งนี้ โดยจะเข้าไปตรวจสอบการประกอบกิจการว่าเปิดบริการได้อย่างไร เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมสังเกตการณ์เตรียมสรุปรายงานข้อเท็จจริงทั้งหมดมายังป.ป.ท.

    ขณะที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ระบุว่า ได้สั่งการให้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลสรุปข้อเท็จจริงบัญชีรายชื่อบุคคลและหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติรับผลประโยชน์จากสถานอาบอบนวด แต่ยังไม่ได้รับรายงานเพราะการสอบสวนต้องใช้เวลาหากสรุปเร็วเกินไปอาจจะเกิดความผิดพลาดได้

    ผบ.ตร.ยังได้สั่งการไปยังทุกพื้นที่ให้เฝ้าระวังและปราบปรามสถานบริการที่ผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพราะปัญหาการค้ามนุษย์ ถือเป็นนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่ต้องเพิ่มความเข้มงวดในเรื่องของบุคคลที่ผ่านเข้าออกประเทศ แต่ก็ยอมรับว่า อาจจะมีการลักลอบนำแรงงานข้ามชาติ เข้ามาในประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติบ้าง



    “วิลาศ”อดีตส.ส.กรุงเทพฯปชป.เรียกร้องให้ผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาคถอนหุ้นจากบริษัทอีสวอเตอร์ หลังพบมีเงื่อนงำ-กฤษฎีกาตีความการถือหุ้นดังกล่าวขัดพรบ.การประปา

    วันนี้(12มิ.ย.59)นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรียกร้องให้นายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาคคนใหม่ถอนหุ้นที่ถืออยู่ร้อยละ 40 ในบริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสวอเตอร์ หลังพบมีเงื่อนงำหลายประการ และกฤษฎีกาตีความแล้วว่า การถือหุ้นดังกล่าวผิดกฎหมาย แต่ยังไม่มีการดำเนินการเอาผิด

    นายวิลาศ ยังได้นำเสนอข้อมูลที่พบการทุจริตในการประปาส่วนภูมิภาคในที่อื่นๆ อีก อาทิ การจัดประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างคลอลีนเหลวเมือต้นปีที่ผ่านมา โดยมีวิธีการประมูลไม่โปร่งใส รวมถึงค่าขนส่งคลอลีนเหลวในพื้นที่ต่างๆ มีราคาเกินจริงการวางท่อประปาที่อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ใช้งบประมาณ700กว่าล้านบาท

    ภายหลังเสร็จสิ้นการดำเนินโครงการในช่วงปีแรกพบท่อประปาแตก 132 แห่งในพื้นที่ต่างๆ ส่งผลให้การประปาส่วนภูมิภาคเสียหายกว่า 162.5 ล้านบาท แม้จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน แต่มีมติแค่ว่ากล่าวตักเตือน โดยไม่มีการดำเนินคดี หรือเรียกร้องค่าเสียหาย



    นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.กทม.และอดีตประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เรียกร้องให้นายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค ตรวจสอบความไม่โปร่งใสในการบริหารงานของการประปาส่วนภูมิภาครวม 5 เรื่อง

    อาทิ การจัดซื้อคลอรีนเหลวซึ่งมีการประกวดราคากันไปแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีผู้ยื่นซองอยู่บริษัทแต่มีบริษัทไทยอาซาฮี ทำการยื่นซองในวันที่ 25 ม.ค. โดยการประปาส่วนภูมิภาคได้ต่อรองราคา แสดงให้เห็นว่ามีความไม่ชอบมาพากลเพราะการเคาะราคากำหนดไว้วันที่ 26 ม.ค. เป็นวันที่กำหนดให้เคาะราคา ในส่วนการเสนอราคาก็มีพิรุธในเรื่องการต่อรองราคาด้วย โดยจะเป็นราคาค่าขนส่งกับค่าแก๊สบวกคลอรีนเหลว ซึ่งราคาค่าขนส่งสูงเกินความจริง เช่น บริเวณภาคตะวันออกในเขตที่ 1 ค่าขนส่งอยู่ที่ 1,260 บาทต่อท่อ ค่าแก๊ส 1,250 บาท แต่พอเมื่อรวมยอดในใบเสร็จกลับระบุว่า 2,560 บาท มีส่วนต่างเพิ่มมากอีก 50 บาท จึงขอให้ตรวจสอบว่าเหตุใดค่าขนส่งจึงแพงมากขนาดนี้

    นายวิลาศ กล่าวอีกว่า เรื่องที่สองคือการวางท่อประปาความยาว 44.5 กิโลเมตรที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีวงเงิน 715 ล้านบาท หลังจากเสร็จงานในปีแรกพบว่ามีท่อประปาแตกจำนวน 132 ครั้ง ส่งผลให้การประปาได้รับความเสียหายจากน้ำรั่วไหล คิดเป็นเม็ดเงินกว่า 162.5 ล้านบาท ซึ่งกรณีนี้มีการตั้งกรรมการตรวจสอบ แล้วซึ่งนายช่างเด็กๆ ถูกไล่ออก 2 คน แต่ผู้ใหญ่ในองค์กรมีโดนแค่กล่าวตักเตือนไม่มีการดำเนินคดี และคนที่รับผิดชอบกลับได้เลื่อนเป็นรองผู้ว่าฯ ขณะที่ปัญหาก็ไม่ได้รับการแก้ไขทั้งที่มีการนำท่อที่ไม่ได้มาตรฐานไปก่อสร้าง ซึ่งมาจนถึงปัจจุบันเกิน 2 ปีแล้ว ทำให้หมดสัญญาค้ำประกัน ซึ่งยังไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ที่เกี่ยวข้อง

    ขณะที่บริษัทที่วางท่อประปาก็ยังรับงานกับหน่วยงานนี้ต่อ และเรื่องที่สาม คือเรื่องการก่อสร้างอาคารที่การประปาภูมิภาคเขต 1 โดยมีการเซ็นสัญญาไปแล้วในวงเงินประมาณ 25 ล้านบาท ซึ่งลงนามโดยผู้อำนวยการเขต 1 ซึ่งในสัญญาระบุว่าจะต้องมีการจ่ายเงินงวดแรก 15 เปอร์เซ็นต์หลังเซ็นต์สัญญาโดยมีการนำหนังสือค้ำประกันจากบริษัทลิสซิ่ง ทั้งที่ไม่สามารถทำได้ ทำให้ต้องบอกเลิกสัญญาและนำบริษัทรายใหม่เข้ามา

    อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเรียกค่าชดเชยจากบริษัทแรก ซึ่งปัจจุบันคนที่รับผิดชอบเป็นถึงรองผู้ว่าการประปาฯแล้ว ทั้งนายวิลาศ กล่าวต่อไปว่า เรื่องที่สี่ คือการซื้อที่ดินที่จ.สุราษฎร์ธานี ในราคาสูงเกินจริง อีกทั้งยังซื้อที่ดินในแนวเวนคืนด้วย ทั้งๆที่กรมที่ดินแจ้งแล้วจึงน่าสงสัยว่าไปจัดซื้อที่ดินบริเวณดังกล่าวได้อย่างไร ทั้งอีกทั้งหลังจากซื้อแล้วก็ยังหาแหล่งน้ำดิบไปทำน้ำประปาไม่ได้ โดยที่ดังกล่าวเป็นที่ติดจำนองเมื่อจะถูกเวนคืนก็เลยไม่มีการไถ่ถอน ซึ่งการประปาส่วนภูมิภาคได้ไปซื้อที่ดินดังกล่าวซึ่งปัจจุบันทิ้งไว้เฉย ๆ ไม่มีการใช้ประโยชน์ใดๆมีแต่การก่อสร้างอาคารมาตั้งแต่ปี 53 ซึ่งถ้ามีการเวนที่ดินคืนเมื่อไหร่ ก็ต้องมาตามเรื่องนี้ต่อไป

    นายวิลาศ กล่าวต่อว่า เรื่องสุดท้ายคือ กรณีที่บริษัทอีสวอเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ดึงผลประโยชน์จากการประปาส่วนภูมิภาค ได้กำไรและแบ่งโบนัสกันมาก ขณะที่การประปาส่วนภูมิภาคอาการไม่ค่อยดี แต่เดิมการประปาซื้อน้ำดิบมาทำประปาจากกรมชลประทานเพียงคิวละ 50 สต. แต่ปัจจุบันกลับซื้อน้ำดิบจากบริษัทอีสวอเตอร์ ในราคาแพงถึงคิวละ 10.50 บาท โดยอ้างว่าบริษัทอีสวอเตอร์ลงทุนวางท่อ ดังนั้นบริษัทนี้จึงเป็นเหมือนเสือนอนกิน และยังมีการตั้งบริษัทลูกมารับงานจากการประปาด้วย โดยทางการประปาเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทนี้ 40% ที่เหลือเป็นของประชาชนทั่วไป รวมถึงนอมินีของผู้ใหญ่ในการประปา จึงขอเรียกร้องให้การประปาฯ ถอนหุ้นออกมา"ที่สำคัญคือกฤษฎีกาได้ตีความว่า การที่การประปาส่วนภูมิภาคถือหุ้นในอีสวอเตอร์เป็นการกระทำที่ขัดกับ พรบ.การประภาส่วนภูมิภาคมาตรา 5 ซึ่งตีความไว้ตั้งแต่ปี 42 แต่กลับไม่มีการถอนหุ้นออกมา

    ทำให้เกิดความเสียหายอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเรื่องที่นายเสรี ในฐานะผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค คนใหม่ที่ประกาศว่าจะเอาจริงเอาจังกับการทุจริตควรจะดำเนินการอย่างจริงจัง โดยตนจะนำเรื่องความไม่โปร่งใสที่เกิดขึ้นกับการประปาส่วนภูมิภาค รวม 5 เรื่องไปมอบให้นายเสรีเพราะแสดงเจตนาว่าจะปราบปรามการทุจริตมาตลอด จึงหวังว่าจะเร่งดำเนินการให้เกิดความโปร่งใส หากในระยะเวลา 1 เดือน ไม่มีความคืบหน้าจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการต่อไป นายวิลาศกล่าว



    กรุงเทพฯ 13 มิ.ย.-กระทรวงกลาโหม และ ป.ป.ช. ร่วมลงนามเอ็มโอยู “กลาโหมโปร่งใส ไร้คอร์รัปชั่น”

    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือ ป.ป.ช. ร่วมเป็นสักขีพยานพิธีลงนามโครงการ “กลาโหมโปร่งใส ไร้คอร์รัปชั่น” โดยมี 7 หน่วยงานเข้าร่วม ได้แก่ กรมราชองครักษ์ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงาน ป.ป.ช.เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตตามยุทธศาสตร์ชาติ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ทำให้เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งทุกภาคส่วนต้องร่วมมือเพื่อให้เกิดผลสำเร็จอย่างยั่งยืน

    พล.อ.ประวิตร ระบุกลาโหม ร่วมมือกับ ป.ป.ช.เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนต่อการใช้จ่ายงบประมาณในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่ต้องโปร่งใส ทั้งนี้ ป.ป.ช.จะช่วยชี้แจงกำลังพลทุกกองทัพ ให้เข้าใจถึงแนวทางการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ขอยืนยันว่ากระทรวงกลาโหมภายใต้รัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไม่มีปัญหาเรื่องทุจริต.-สำนักข่าวไทย
     
    Last edited: 14 Jun 2016
  31. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    ที่ประชุม สนช.วันนี้มีมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบตามที่ ครม.เสนอมา และเตรียมส่งกลับไปยัง ครม.ก่อนประกาศใช้เป็นกฎหมาย



    กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สนช.ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบแล้ว จากนี้ไปการดำเนินคดีกับผู้ทุจริตจะเป็นอย่างไร ติดตามจากรายงาน

    จากนี้ไปข้าราชการและเอกชนที่ทำความผิดและถูกดำเนินคดีในความผิดทุจริตและประพฤติมิชอบ จะพิจารณาได้เร็วขึ้น และไม่มีอายุความ เนื่องจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้ความเห็นชอบประกาศใช้พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่รัฐบาลเสนอแล้ว

    ศาลอาญาคดีทุจริตที่เชี่ยวชาญพิเศษจะแยกออกมา ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค รวม 10 แห่ง ใช้ผู้พิพากษาที่มีประสบการณ์ทำงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี หากมีเหตุจำเป็นจะกำหนดให้ศาลชั้นต้นอื่นดำเนินกระบวนพิจารณาคดีแทนก็ได้ ศาลแห่งใหม่นี้จะเน้นพิจารณาคดีเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ คดีตามกฎหมาย ป.ป.ช. กฎหมายการเสนอราคา กฎหมายฟอกเงิน คดีฟ้องร่ำรวยผิดปกติ และคดีที่ฟ้องประชาชนในความผิดเกี่ยวกับการให้สินบนเจ้าหน้าที่

    อดีตประธาน ป.ป.ช. เห็นว่า กฎหมายฉบับนี้จะช่วยให้การดำเนินคดีทุจริตที่คั่งค้างเดินหน้าได้เร็วขึ้น โดยที่ยังธำรงความยุติธรรมไว้ เพราะต้องใช้องค์คณะผู้พิพากษาที่มีประสบการณ์

    เมื่อร่างกฎหมายฉบับนี้ประกาศใช้แล้ว จะต้องออกกฎหมายวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบอีก 1 ฉบับ จึงจะสามารถพิจารณาคดีได้ คาดว่าจะทำหน้าที่ได้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสางคดีทุจริตให้รวดเร็วขึ้น. – สำนักข่าวไทย



    ข่าว 7 สี - กระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำเนินการเอาผิดย้อนหลังกราวรูดกับอดีตผู้อำนวยการองค์การค้าของสกสค.ใน 14 ปี กรณีชุดนักเรียนค้างสต๊อก

    ความคืบหน้าการสอบสวนและแก้ไขปัญหาการทุจริตในกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีอยู่ 611 เรื่อง แก้ปัญหาได้แล้ว 30 เปอร์เซ็นต์ เรื่องที่เหลืออยู่ระหว่างสอบสวน และรวบรวมหลักฐาน ส่งดำเนินคดีอาญาต่อไป

    สำหรับกรณีชุดนักเรียนองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการ และสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา หรือ สกสค. ที่ค้างสต๊อกอยู่ในโกดังคลังสินค้า กว่า 7 แสน 8 หมื่นชุด ล่าสุด ผลสอบสวนเสร็จแล้ว โดยคณะกรรมการสอบสวน มีความเห็นให้ดำเนินการทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่อดีตผู้อำนวยการ และเจ้าหน้าที่องค์การค้าของสกสค. ย้อนหลังไปถึงปี 2543 เพราะมีค่าเสียหายเกิดขึ้น ที่ไม่ยอมนำชุดนักเรียนที่ค้างอยู่ในสต็อกออกจำหน่าย

    ประเด็นทุจริตใหม่ ยังมี 2 เรื่อง ได้แก่ การมอบเข็มคุรุสภาสดุดีทองคำ ให้คณะกรรมการคุรุสภา และการปรับปรุงห้องเรียน e-classroom และ e-library วงเงิน 340 ล้านบาทของสพฐ.เบื้องต้นมี 7 โรงเรียนคืนเงินแล้ว คณะทำงานสรุปว่า ทำผิดระเบียบราชการ



    ข่าว 7 สี - ปลัดกรุงเทพมหานคร ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการปรับปรุงห้องทำงาน ผู้ว่า กทม. ที่ใช้งบประมาณสูงกว่า 16 ล้านบาท

    จากกรณีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.เข้าตรวจสอบโครงการปรับปรุงห้องทำงานผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ใช้งบประมาณสูง 16.5 ล้านบาทนั้น

    ในวันนี้ นายพีระพงษ์ สายเชื้อ ปลัดกรุงเทพมหานคร ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยเฉพาะประเด็น ผู้เซ็นต์อนุมัติทำโครงการ และการจ่ายเงินค่าดำเนินการ โดยจะตรวจสอบควบคู่กับ สตง.คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 30 วัน ซึ่งหากพบมีข้าราชการประจำดำเนินการโดยพลการ หรือกระทำผิดระเบียบ มีการทุจริตเกิดขึ้น ต้องลงโทษทางวินัยโดยไม่ละเว้นหรือช่วยเหลือใดๆ

    นอกจากนี้ยังพร้อมให้ความร่วมมือกับ สตง. อย่างเต็มที่ โดยวันพรุ่งนี้ จะจัดส่งเอกสารให้ สตง.เพิ่มเติมตามที่ร้องขอมา สำหรับระเบียบของกรุงเทพมหานคร กำหนดไว้ชัดเจนว่า การดำเนินการใดๆ ในห้อง ผู้ว่ากทม. ต้องได้รับอนุญาตจาก ผู้ว่า กทม.ก่อน ถึงแม้ในช่วงดำเนินการ ผู้ว่ากทม. จะหยุดปฎิบัติหน้าที่ก็ต้องได้รับอนุญาตเช่นกัน

    ด้านนายวสันต์ มีวงษ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่า กทม. ชี้แจงถึงการใช้งบประมาณสูงถึง 16.5 ล้านบาท ว่าเป็นการใช้ปรับปรุงห้องทำงานของผู้บริหาร กทม.ทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะห้องของผู้ว่า กทม.เท่านั้น และยังรวมถึงค่าคุรุภัณฑ์ต่างๆ ด้วย ซึ่งการดำเนินการทั้งหมด ได้เกิดขึ้นในช่วงที่ ผู้ว่ากทม. พักงาน



    ผู้บริหาร กทม. เปิดห้องทำงานโชว์ปรับปรุงหลายห้อง โดยห้องผู้ว่า กทม.ใช้งบเพียง 5.9 แสนบาท เท่านั้น และยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องข้าราชการฝ่ายประจำ

    โดยทีมข่าวช่อง 3 เข้าตรวจสอบรายละเอียดการปรับปรุงห้องทำงาน ผู้ว่า กทม. และผู้บริหาร กทม. มูลค่า 16.5 ล้านบาท ห้องแรกคือห้องอัมรินทร์ ที่ใช้รับแขก มีการทำห้องใหม่ทั้งหมด และมีทีวี 72 นิ้ว 1 เครื่อง และโต๊ะรับแขกขนาดใหญ่ และโซฟา 1 ชุด รวมถึงห้องทำงานของข้าราชการ โดยใช้งบประมาณ 2,100,000 บาทเศษ

    ขณะที่ห้องวอร์รูมที่ใช้เป็นห้องประชุม มีโต้ะประชุมขนาดใหญ่ 1 ชุด ทีวี 72 นิ้ว 1 เครื่อง และทีวี 55 นิ้ว 4 เครื่อง เชื่อมโยงกับระบบซีซีทีวี และเชื่อมไปยังห้องเลขานุการผู้ว่า กทม.และห้องครัว ที่มีตู้อุปกรณ์สำนักงาน และเชื่อมไปห้องทำงานผู้ว่า ใช้งบประมาณ 2,700,000 บาทเศษ

    ส่วนห้องทำงานผู้ว่าฯ ไม่ได้เปิดให้เข้าไปบันทึกภาพ แต่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่ามีการปรับปรุงระบบไฟ น้ำรั่วซึม ตีฝ้า และวอลเปเปอร์ใหม่ โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 590,000 บาท เท่านั้น

    โดย กทม.ยืนยัน ฝ่ายการเมืองไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการแต่อย่างใด เป็นเรื่องของฝ่ายข้าราชการประจำที่จะเข้าไปชี้แจงสาเหตุที่มีการดำเนินการก่อนทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง

    ทั้งนี้จากการตรวจสอบ สตง.ชี้ว่าโครงการนี้ มีการดำเนินการก่อนแล้วทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งถือว่าผิดระเบียบ ส่วนจะมีการทุจริตหรือไม่ ยังไม่สามารถบอกได้ต้องมีการตรวจสอบก่อน โดย สตง.เตรียมเชิญผู้ออกแบบ คณะกรรมการกำหนดราคากลาง รวมทั้งผู้รับเหมามาชี้แจง ว่ามีความเชื่อมโยงอะไรกับคนใน กทม.หรือไม่
     
    Last edited: 17 Jun 2016
  32. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    กรมควบคุมมลพิษรวบรวมหลักฐานโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านทั้งหมด เพื่อช่วย ก.คลัง และ ปปง.ระงับจ่ายค่าโง่คลองด่า

    อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.)นายวิจารย์ สิมาฉายา บอกว่า หลังจากหลังคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 พ.ค.นี้ มีมติเห็นชอบคำสั่งของคณะกรรมการธุรกรรมของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอง (ปปง.) เรื่องการอายัติทรัพย์สิน และสิทธิของกลุ่มบริษัทกิจการร่วมค้าหรือเอ็นวีพีเอสเคจี ผู้รับเหมาโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ที่จะเรียกเงินค่างวดที่ 2 และ 3 จากกรมควบคุมมลพิษที่จะต้องชำระในวันที่ 21 พ.ค.นี้ จำนวนเกือบ 5 พันล้านบาทไว้ก่อน

    โดยขณะนี้เป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลัง ดำเนินการต่อจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในส่วนของกรมควบคุมมลพิษ กำลังรวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่มีทั้งหมดตามคำร้องขอของกระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เพื่อใช้ในการดำเนินคดี

    นายวิจารย์ บอกอีกว่า ส่วนคดีต่างๆ ยังดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย โดยเฉพาะคดีในชั้นของศาลฎีกาที่อยู่ระหว่างการพิจารณายังต้องรอคำพิพากษา รวมถึงคดีค่าสินไหมทดแทน ดำเนินตามขั้นตอนและกรอบระยะเวลา ขณะที่ทางเลือกในการฟื้นฟูโครงการตลองด่านที่ถูกทิ้งร้างมานานจนเสื่อมสภาพ ทางองค์การจัดการน้ำเสียหรือ อจน.ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เข้าไปทำประชามติทางเลือกโครงการคาดว่าจะสรุปเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)เร็วๆ นี้



    การให้ หรือสินบน ถือเป็นอุปสรรคสำคัญ ต่อการสร้างความเจริญของประเทศ หลายชาติทั้งญี่ปุ่น ฮ่องกงและสิงคโปร์ ที่มีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ มีปัจจัยสำคัญมาจากการต่อต้านทุจริตคอรัปชันของทุกภาคส่วนอย่างได้ผล

    การปฎิบัติตามอนุสัญญาต่อต้านการให้สินบนของไทย ในฐานะสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและพัฒนา หรือ ไออีซีดี ที่ในกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มีการกำหนดบทลงโทษ กับผู้ให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่ไว้ในคู่มือควบคุมการให้สินบนของนิติบุคคล ให้การทำธุรกิจโปร่งใสมีมาตรฐานสากล

    ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกที่กำลังผันผวน ทำให้นักลุงทุนต่างแสวงแหล่งลงทุนที่คุ้มค่า และหากภาคธุรกิจไทยไร้สินบน จะทำไทยคือ ประเทศที่ต้องน่าลงทุนจากศักยภาพและมีความเชื่อมั่นต่อการลงทุนที่เป็นธรรม

    ทั้งนี้ดัชนีการให้สินบนของไทย แม้จะลดลง แต่การป้องกันและขจัดคอรัปชันต้องเดินหน้า ปลูกฝังค่านิยมให้ปฎิเสธการทุจริตทุกรูปแบบ ซึ่งในโรดแมปปฎฺิรูปประเทศระยะที่ 3 กำหนดให้ภาคส่วน ร่วมกันทำประเทศไทยต้องใสสะอาด ทั้งชาติร่วมต้านคอรัปชัน



    เพิ่มโทษผู้บริหารเอกชนยาแรง "สกัดจ่ายสินบน"



    ประเทศไทยใสสะอาด คนทั้งชาติร่วมกันต้านคอรัปชัน เป็นภาพลักษณ์ใหม่ของไทย ซึ่งทั้งหมดจะถูกกำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 ติดตามได้จากรายงาน คุณสุจิตรา วรุณโณ ค่ะ

    เป็นการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตระยะ 3 ที่จะเริ่มขึ้นในปี 2560-2564 ด้วยกำหนดให้ห้วง 5 ปีข้างหน้า "ประเทศให้ใสสะอาด คนทั้งชาติต้องร่วมต้านคอรัปชัน" ซึ่งเริ่มตั้งแต่ระดับบุคคล ชุมชน จนถึงระดับนโยบายของภาครัฐและเอกชน

    ยุทธศาสตร์ 6 ข้อ ทั้งการปลุกสำนึก ต่อต้าน ป้องกัน ปฎิรูปกลไกกฎหมายและยกระดับดัชนีการรับรู้การทุจริตของประชาชนให้ได้ร้อยละ 50 ถูกกำหนดให้ เป็นแนวทางที่สอดรับ กับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของรัฐบาล ซึ่งทุกหน่วยต้องนำไปสู่การปฎิบัติ โดยมีเป้าหมายสำคัญที่ภาพลักษณ์ความโปร่งใส และน่าลงทุน

    ร่างยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตระยะที่ 3 อยู่ระหว่างปรับปรุงสาระสำคัญ ก่อน ป.ป.ช.จะเสนอขอความเห็นชอบต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเดือนสิงหาคม เพื่อหวังให้ดัชนีการทุจริตของไทยดีขึ้นทุกๆ ปี...สุจิตรา วรุณโณ ทีมข่าวการเมืองรายงาน



    เบื้องต้นกลุ่มธุรกิจร่วมค้า หรือNVPSKGมีความผิดจริง โดยได้อายัดทรัพย์เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่7ก.ค.ที่ผ่านมา และมีมติให้อายัดเพิ่มอีก90ล.บ.
     
    Last edited: 9 Jul 2016
  33. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เปิดเผยผลสอบข้อร้องเรียนการเรียกรับค่าหัวคิว ในโครงการขุดลอกแหล่งน้ำ เป็นเรื่องที่เอกชนดำเนินการกันเอง ไม่พบเจ้าหน้าที่ อผศ.มีส่วนเกี่ยวข้อง

    ความคืบหน้า ในการตรวจสอบข้อร้องเรียนกรณีเรียกรับผลประโยชน์ และเก็บค่าหัวคิวในโครงการขุดลอกแหล่งน้ำขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก หรือ อผศ.

    พลเอกรณชัย มัญชุสุนทรกุล ผู้อำนวย ผอศ. ให้สัมภาษณ์ยืนยันกับวอย์ทีวีว่า ผลสอบข้อเท็จจริงโดยคณะกรรมการสอบสวนของ อผศ.ไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ของ อผศ.เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บหัวคิว แต่บริษัทเอกชนที่รับช่วงงาน อาจมีการดำเนินการหักค่าใช้จ่ายกันเอง ไม่เกี่ยวกับ อผศ. และได้ส่งเรื่องไปยังสถานีตำรวจในพื้นที่ของแต่ละโครงการ เพื่อหาตัวผู้กล่าวอ้างแล้ว เนื่องจากทำให้หน่วยงานเสียชื่อเสียง

    ด้านนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เผยว่า ขณะนี้ได้มีการลงไปตรวจสอบและติดตามโครงการในพื้นที่จังหวัดต่างๆ รวมถึงตรวจสอบกรณีที่มีการแจ้งว่าพบการหักหัวคิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

    โครงการนี้ขุดลอกแหล่งน้ำ อผศ. รับผิดชอบดำเนินการทั้งหมด 1,368 โครงการ ภายใต้งบประมาณกว่า 5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการว่าจ้างจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

    และเป็นการให้สิทธิพิเศษแก่ อผศ. ในการรับงานรวม เพื่อสร้างรายได้ในการสงเคราะห์ทหารผ่านศึก และทหารนอกประจำการ ภายใต้เงื่อนไขว่า อผศ.จะต้องเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด



    สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.เร่งตรวจสอบ กทม.เพิ่ม 2 เรื่อง ปมปรับปรุงทางจักรยานไม่คุ้มค่า 28 ล้าน และเรือดับเพลิงผิวน้ำลำละ 10 ล้าน ราคาไม่เหมาะสมการใช้งานจริง

    นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยว่าได้ทำหนังสือถึงประธานสภากรุงเทพมหานคร เพื่อขอให้ทบทวนไปแล้วทั้ง 2 เรื่อง เนื่องจากพบปัญหาหลายประการ และพบความไม่คุ้มค่าของเงินในการปรับปรุงทางจักรยาน รวมเป็นเงินกว่า 28.13 ล้านบาท เนื่องจากเส้นทางจักรยานในแต่ละถนน ส่วนใหญ่มีผู้เข้ามาปั่นจักรยานหรือมีผู้ใช้ประโยชน์น้อยมาก เพียงแค่ 5-10 รายต่อวัน นอกจากนี้พบว่า การปรับปรุงเส้นทางจักรยาน บริเวณวงเวียนใหญ่ไม่เป็นไปตามรูปแบบรายการที่กำหนด และมีข้อสังเกตการออกแบบติดตั้งลูกแก้วสะท้อนแสงบริเวณเส้นทางจักรยานรอบเกาะรัตนโกสินทร์ อาจเกินความจำเป็น ในขณะที่มีการติดตั้งหลักพลาสติกล้มลุกสะท้อนแสงอยู่ในจุดเดียวกันอยู่แล้ว

    ส่วนอีกเรื่องคือการจัดซื้อจัดจ้างเรือดับเพลิงลำละ 10 ล้านบาท ประมาณ 10 ลำ เป็นมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท ที่ตั้งข้อสังเกตว่าราคาไม่เหมาะสมกับการใช้งานจริง



    ม.44 ฟันข้าราชการเอี่ยวทุจริต นักการเมือง-ผู้บริหารสถานศึกษาหยุดปฏิบัติหน้าที่



    กรุงเทพฯ 22 ก.ค. – เรือดับเพลิง กทม.ที่มี 4 ชุด ประกอบด้วยตัวเรือและรถลากจูง มูลค่ารวมเกือบ 40 ล้านบาท วันนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการนำมาทดสอบ หลังเก็บไว้ที่สถานีดับเพลิงสามเสนนานกว่า 2 เดือน และมีการตั้งข้อสังเกตถึงสมรรถนะในการใช้งานว่าไม่เหมาะสมกับพื้นที่ กทม.หรือไม่

    เรือผิวน้ำขับเคลื่อนด้วยกำลังลม หรือ “แอร์โบ๊ท” ที่แล่นอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา ใช้ความเร็วสูงสุด 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง ถูกนำมาทดสอบเป็นครั้งแรก หลังนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตถึงสภาพตัวเรือ สมรรถนะการใช้งาน ไม่เหมาะสมกับพื้นที่ใน กทม. ที่สำคัญแพงเกินความจำเป็น ซึ่งเก็บไว้ที่สถานีดับเพลิงสามเสนนานกว่า 2 เดือน

    โครงสร้างเรือดับเพลิง ทำด้วยอะลูมิเนียมอัลลอย กว้าง 2.4 เมตร ยาว 5.5 เมตร น้ำหนักตัวเรือไม่เกิน 1,500 กิโลกรัม ใช้วิธีสูบน้ำจากคลอง สามารถดับเพลิงได้ในระยะอาคารสูง 10 ชั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านงานบรรเทาสาธารณภัย เผยเรือได้มาตรฐานตามหลักสากล เพราะอุปกรณ์ส่วนใหญ่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา เหมาะสำหรับระงับเหตุบ้านเรือนที่อาศัยอยู่ริมคลอง แต่มีข้อจำกัดที่เรือต้านคลื่นได้ไม่เกิน 1 เมตร

    เจ้าหน้าที่ดับเพลิงบางคนยอมรับว่า ความสูงของท้ายเรือเป็นอุปสรรคต่อการใช้งานที่อาจไม่สามารถผ่านสะพานข้ามคลองได้ ทีมข่าวยังสังเกตพบว่า เรือใช้กำลังแรงลมค่อนข้างสูง อาจส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนริมคลอง ด้านนักวิชาการด้านวิศวกรรม มองว่า การขับเคลื่อนด้วยแรงลมในลักษณะนี้ ควรใช้ในพื้นที่โล่ง หากนำมาใช้ในคูคลอง อาจส่งผลเสียต่อการสัญจรทางน้ำ และรบกวนประชาชนที่อาศัยริมคลอง พร้อมตั้งคำถามถึงความคุ้มค่ากับงบประมาณที่ กทม.จ่ายไป

    กทม.จัดซื้อเรือแอร์โบ๊ท พร้อมรถลากจูง จำนวน 4 ชุด มูลค่าเกือบ 40 ล้านบาท เมื่อเดือนมีนาคม 2558 โดยเตรียมส่งมอบไปยังกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สถานีดับเพลิง 3 แห่ง คือ สามเสน ดาวคะนอง และลาดกระบัง ขณะที่อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ขอเวลารวบรวมเอกสารไม่เกิน 1 เดือน เพื่อส่งเรื่องให้ สตง.ตรวจสอบการใช้งบฯ กทม.จะส่อทุจริตดังเช่นโครงการไฟประดับลานคนเมืองหรือไม่. – สำนักข่าวไทย



    ข่าว 7 สี - ทดสอบปฏิบัติการเรือดับเพลิงกำลังลม หรือ Air Boat กลางแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมส่งมอบให้สถานีดับเพลิง ไปช่วยเหลืออัคคีภัย บ้านริมคลองติดตาม

    วินาทีแรกของการสตาร์ท เครื่องยนต์ก็มีเสียงดังมาก แรงลมของเรือตีฝุ่นให้ตลบ ไปทั่วสถานีดับเพลิงสามเสน หลังจอดประจำการไว้นาน ยังไม่ได้ใช้ใช้ความพยายามอยู่นานกว่าจะลากลงน้ำได้สำเร็จ

    สาธิตเรือดับเพลิงผิวน้ำ แบบขับเคลื่อนด้วยกำลังลมหรือ แอร์โบ๊ต ลำละกว่า 10 ล้านบาท วันนี้ได้แล่นทดสอบประสิทธิภาพกลางแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วมีผู้เชี่ยวชาญ สอนการใช้งานระบบดับเพลิงในเรือ จำลองสถานการณ์จริง

    เรือ 4 ลำ ถูกวิจารณ์มากก่อนหน้านี้ ด้วยราคาจัดซื้อที่สูงลิ่วชุดละ 9,740,000 บาท พร้อมชุดติดตั้งระบบดับเพลิง และเครื่องสูบน้ำในตัว

    วันนี้ กทม.พร้อมส่งมอบ 4 ลำ ไปประจำการสถานีดับเพลิงสามเสน ดาวคะนอง และลาดกระบัง ส่วนอีก 1 ลำ จอดประจำการกองอำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.

    สมรรถนะเรือผิวน้ำ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานลมจากใบพัด ใช้งานเข้าถึงคลองย่อย น้ำตื้น วิ่งได้แม้ในน้ำท่วม ความเร็วสูงสุด 60 กิโลเมตร ต่อชั่วโมงเป็นเรือค้นหากู้ภัย ที่ใช้งานได้เอนกประสงค์ ภายในเรือ จะมีอุปกรณ์ช่วยชีวิต

    ไม่จอดแช่ทิ้งแล้ว พร้อมออกปฏิบัติการ เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ชุมชนริมแม่น้ำ ริมคลอง หรือยามเกิดภัยพิบัติน้ำท่วม แต่ข้อเสียของเรือดับเพลิง ถ้าเจอคลื่นสูงทรงตัวยาก เสี่ยงพลิกคว่ำ ส่วนเครื่องสูบน้ำที่หนักมากกว่า 100 กิโลกรัม ทำให้เคลื่อนย้ายลำบาก อีกทั้งใบพัดที่ตีลมแรง เวลาเรือแล่นไปอาจพัด พังสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงได้ ทีมข่าวสังคม รายงาน
     
    Last edited: 24 Jul 2016
  34. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    สตง.เตรียมตรวจสอบการเสียภาษีนักการเมืองผ่านกรมสรรพากร ยกเครื่องปรับการประเมินจัดเก็บภาษีใหม่ ชี้หากพบ นักการเมือง-เจ้าหน้าที่ เจตนาหลีกเลี่ยงร่วมปกปิด อาจโดนดำเนินคดีอาญา

    นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.ระบุว่า ในเบื้องต้น สตง.จะเข้าไปตรวจสอบการจัดเก็บภาษีรายได้ของกรมสรรพากร โดยดูจากหลักฐานการยื่นเสียภาษีของนักการเมือง แล้วพิจารณาว่ามีการประเมิน จัดเก็บ ครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ หากพบนักการเมืองมีเจตนาหลีกเลี่ยงอาจถูกดำเนินคดีทางอาญา รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่มีเจตนาปกปิดด้วย

    ขณะที่ ป.ป.ช.ยืนยัน ระบุการตรวจสอบภาษีย้อนหลังของนักการเมืองเป็นการทำงานคนละส่วนกับการตรวจสอบบัยชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ดังนั้นยืนยันไม่เป็นการทำงานซ้ำซ้อนหรือขัดกันแต่อย่างใด

    ทั้งนี้ ร.ศ.ยุทธพร อิสรชัย รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มองว่า การตรวจสอบการเสียภาษีนักการเมืองผ่านกรมสรรพากรเป็นเรื่องดี แต่ขอให้โปร่งใส เสมอภาค มีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย มิฉะนั้นจะกลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง



    องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เร่งเดินหน้าต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน หวังยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทยให้ดีขึ้น

    นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันประเทศไทยแถลงจุดยืนเดินหน้าต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ความโปร่งใสแม้ว่าผลสำรวจดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชันขององค์กรต่าง ๆ สะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์คอร์รัปชันของไทยดีขึ้นมากที่สุดในรอบ 6 ปี และภาพลักษณ์ความโปร่งใสของไทยในสายตานานาชาติดีที่สุดในรอบ 10 ปี ส่งผลให้ไทยถูกปรับอันดับดีขึ้น จากอันดับที่ 102 ในปี 2557 ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 76 ในปี 2558 แต่ระดับคะแนนไทยยังไม่ถึง 40 คะแนน จากเต็ม 100 คะแนน องค์กรฯ จึงต้องเดินหน้าป้องกัน ปราบปราม และปลูกฝังการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันอย่างเข้มข้นต่อไป

    สำหรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำลังจะมีการลงประชามติ นับว่าเป็นร่างรัฐธรรมนูญที่ให้ความสำคัญต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันอย่างครอบคลุม สะท้อนให้เห็นจากกฎหมายทั้งหมด 279 มาตรา มี 53 มาตรา ที่ระบุและให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ลงโทษนักการเมือง ภาคราชการ และปราบกลโกงด้วยพลังประชาชน และกลไกของรัฐ รวมทั้งให้ความสำคัญด้านคุณธรรม จริยธรรม

    ทั้งนี้ มั่นใจว่าการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันของประเทศไทยจะมีทิศทางที่ดีขึ้น หลังการจัดตั้งศาลพิพากษาคดีทุจริตคอร์รัปชัน เริ่มเปิดพิจารณาคดีในเดือนตุลาคมนี้

    ส่วนการจัดงานต่อต้านคอร์รัปชันปีนี้ ภายใต้แนวคิดกรรมสนองโกง จะจัดขึ้นในวันที่ 4 กันยายนนี้ ที่ท้องสนามหลวง



    หมายข่าวเจาะ กับ สันติสุข มะโรงศรี การทวงเงินคืนแผ่นดิน ของมหากาพย์คลองด่าน



    อัยการรับมอบอำนาจจากกระทรวงการคลัง-กรมควบคุมมลพิษ ยื่นร้องศาลปกครองกลางให้รื้อคดีค่าโง่คลองด่าน



    ก่อนหน้านี้มีการเผยแพร่คลิปภาพในสื่อสังคมออนไลน์ เป็นภาพในที่ประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ของอำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ระบุว่ามีการเรียกเก็บเงินตามโครงการรัฐบาลตามสูตรร้อยละ 8-10-15 โดยนายกรัฐมนตรี ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบ หากพบผิดต้องลงโทษสถานหนัก
     
    Last edited: 14 Aug 2016
  35. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    อธิบดีกรมการปกครองสั่งย้าย2นายอำเภอสิชล-นายอำเภอชะอวด เซ่นคลิปฉาวผญบ.ก้มกราบแฉหักหัวคิวประชารัฐ



    ข่าว 7 สี - อธิบดีกรมการปกครอง สั่งย้าย 2 นายอำเภอเข้ากรม สอบเหตุพัวพันคลิปเรียกรับเงินโครงการประชารัฐ สั่งสอบเข้มทั้งวินัยและอาญา

    โดย อธิบดีกรมการปกครอง มีคำสั่งด่วนย้าย นายวชิระ พันดุสะ นายอำเภอสิชล และนายพิทักษ์ บริพิศ นายอำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช มาช่วยราชการที่กรมการปกครอง พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ทั้งทางวินัยและอาญา หลังมีกรณีคลิปกำนันก้มกราบนายอำเภอ เพื่อขอให้เลิกเก็บค่าหัวคิวจากโครงการประชารัฐ ตามสูตร 8-10-15

    เรื่องนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นประธานมอบรางวัลกำนันผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยม ประจำปี 2559 บอกมีกรอบเวลาสอบสวน 30 วัน ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล อย่าเหมารวมว่าเป็นทุกพื้นที่

    มีรายงานว่า 2 นายอำเภอ เข้ารายงานตัวกับอธิบดีกรมการปกครอง ทำให้บรรยากาศในพื้นที่เงียบเหงา โดยมีทหารติดตามข้อมูลโครงการตำบลละ 5 ล้านบาท และโครงการประชารัฐ เพื่อตรวจสอบข้อมูลในเชิงลึกเป็นพิเศษ



    เปิดใจผู้ใหญ่บ้านก้มกราบนายอำเภอสิชล จ.นครศรีธรรมราช โดยอ้างว่าโครงการขุดลอกคลองถูกเรียกเก็บเงินสูตรลับ



    ประจักษ์ มะวงษา ในหมายข่าวล้อมกรอบ กับช่วงเปลี่ยนผ่านและเช็คบิล นักการเมืองและข้าราชการที่แสวงหาผลประโยชน์



    กระทรวงไอซีที เตรียมเสนอให้ ครม. พิจารณาแนวทางแก้ปัญหาสัญญาดาวเทียมไทยคม 3 ทางเลือก หลังศาลฎีกา พิพากษา จำคุก หมอเลี๊ยบ 1 ปี

    กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที เตรียมนำคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำดรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีทุจริตแก้สัญญาสัมปทานดาวเทียมไทยคม รายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบ หลังจากมีคำพิพากษาจำคุก นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีต รมว.ไอซีที 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา

    กรณีอนุมัติแก้ไขสัญญาสัมปทานโครงการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ (ฉบับที่ 5) เพื่อลดสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ต้องถือในบริษัท ชิน แซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) จากไม่น้อยกว่า 51%เป็นไม่น้อยกว่า 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด โดยทราบดีอยู่แล้วว่า เหตุที่บริษัทขอลดสัดส่วนการถือหุ้น เพื่อต้องการหาพันธมิตรขยายศักยภาพในการแข่งขันให้มีความเข้มแข็งและมีเงินทุนเพียงพอในการดำเนินการโครงการดาวเทียมไอพีสตาร์

    สาเหตุที่กระทรวงไอซีทีต้องเสนอเรื่องให้ ครม.พิจารณาเพราะการแก้สัญญาครั้งนั้น มีผลต่อเนื่องไปถึงดาวเทียมไทยคมที่ยิงอยู่ในอากาศ 8 ดวง มีดวงที่ 4-6 ที่ยิงขึ้นไปนั้น อยู่ในช่วงที่ยังไม่มี กสทช.มีเพียงดวงที่ 7-8 ที่ยิงขึ้นในช่วงที่มี กสทช.แล้ว

    ดังนั้นเรื่องนี้จะต้องนำเข้า ครม.เพราะเป็นเรื่องของสัมปทานที่มีปัญหา โดยกระทรวงไอซีที จะเสนอ 3 แนวทาง ให้ครม.พิจารณา คือว่าจะจัดการสัมปทานที่มีปัญหาอย่างไร โดย 3 แนวทางประกอบด้วย 1.รัฐดำเนินการเอง 2.รัฐให้เอกชนรายเดิมดำเนินการ 3.รัฐให้เอกชนรายใหม่ดำเนินการ ซึ่งในแนวทางของกระทรวงไอซีทีนั้นระบุทางออกว่าจะโยนกลับไปหาแนวทางที่ดีที่สุดในคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ หรือ พีพีพี พิจารณา เพราะจะต้องยึดตาม พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ

    ส่วนวาระอื่นๆ รองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จะเสนอ ปรับแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2559 ครั้งที่ 3 และเสนอแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2560

    ขณะที่กระทรวงพลังงาน เสนอขออนุมัติจัดตั้งบริษัทลูกของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

    และกระทรวงคมนาคม จะรายงานความคืบหน้าการพัฒนาการเชื่อมต่อระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ ระหว่างกรมทางหลวง ที่ใช้ระบบ M-Pass และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ที่ใช้ระบบ Easy Pass

    ส่วนวาระทางการเมือง รองนายกฯด้านกฎหมาย วิษณุ เครืองาม จะเสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ (ฉบับที่..) พ.ศ... ที่จะมีการยกระดับมาตรการให้ชัดเจนขึ้น หากเกิดปัญหาที่เจ้าหน้าที่ของรัฐทำผิดตามกฎหมายดังกล่าว
     
    Last edited: 15 Sep 2016
  36. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    นายกฯเป็นประธานประชุมคกก.ต่อต้านการทุจริตแห่งชาติครั้งที่4/2559ที่ทำเนียบฯ ช่วงบ่ายถกคกก.กนย.



    เมื่อวานนี้ เว็บไชต์ ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่52/2559 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 7 ทั้งนี้ในคำสั่งดังกล่าว มีรายชื่อ ข้าราชพลเรือน ข้าราชการตำรวจ ผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่น และ ข้าราชการปกครองส่วนท้องถิ่น รวม 21 ราย

    โดยกลุ่มที่ 1 ข้าราชการพลเรือนให้พักราชการในตำแหน่งเดิมเป็นการชั่วคราวระหว่างการถูกสอบ มี 13 คน เช่น นายสุชิน ธรรมพิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรสาคร นายสุริยะ โกพัฒน์ตา ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาประจวบคีรีขันธ์ นาวาอากาศตรี ชัยศิริ ขุนดำ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร

    กลุ่มที่ 2 ข้าราชการตํารวจจำนวน 6 ราย โดยให้ระงับ การปฏิบัติราชการโดยไม่ขาดจากตําแหน่งเดิมและให้ไปปฏิบัติราชการในหน่วยงานอื่นในสังกัดเดิมเป็นการชั่วคราว เช่น พล .ต.ต. กษณะ แจ่มสว่าง พล.ต.ต. นรินทร์ บุษยวิทย์

    กลุ่มที่ 3 ผู้บริหารและผู้มีตําแหน่งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1 รายคือ นายสุริยันต์ ยิ่งบุรุษ ประธานสภาเทศบาลตำบลปากนคร อ.เมือง จ. นครศรีธรรมราช ให้ระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดํารงตําแหน่งอยู่ เป็นการชั่วคราวโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน

    กลุ่มที่ 4 ข้าราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1 ราย คือ นายณบวรพจน์ (พงศกร) ธวัชชัยวิรุตษ์ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลภูน้ำหยด อ.วิเชียรบุรี จ. เพชรบูรณ์ โดยคําสั่งนี้ ไปช่วยราชการที่ศาลากลางจังหวัดที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นตั้งอยู่หรือสถานที่ราชการอื่น ในจังหวัดนั้น ๆ ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกําหนด



    เตรียมผลักดันคดีทุจริตเข้าสู่การพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ รวมถึงข้าราชการที่ถูกพักงานตามคำสั่ง คสช.



    ข่าว 7 สี - การรณรงค์ต่อต้านการคอร์รัปชันที่ผ่านมา ได้ส่งผล และเริ่มฟื้นความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ติดตามรายงานจาก คุณจุฬารัตน์ ม่วงแก้ว

    ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเดินหน้าต่อต้านการคอร์รัปชันอย่างจริงจัง จากทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน จนเริ่มสัมฤทธิ์ผล อันดับภาพลักษณ์คอร์รัปชันของไทยขยับดีขึ้น จากอันดับที่ 85 มาอยู่ที่อันดับ 76 อัตราการจ่ายเงินใต้โต๊ะให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ ลดลงจาก 35% เหลือ 15% ช่วยลดการสูญเสียเงินงบประมาณจากการโกงไปได้ปีละไม่ต่ำกว่า 150,000 ล้านบาท

    หลายคดีดังในอดีตที่คนไทยเคยเพิกเฉย ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาพิจารณาตัดสินชี้มูลความผิดหลายเรื่อง ทั้งกรณีทุจริตขายข้าวจีทูจี สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ และคดีรับจำนำข้าว ปีนี้จึงนับเป็นปีแห่ง "กรรมสนองโกง" จะเห็นว่าคนที่กระทำผิด ทุจริตต่อประเทศ หนีไม่พ้นจะต้องรับผลกรรม บทลงโทษได้สร้างบรรทัดฐานความมั่นใจให้ต่างชาติประจักษ์ว่า ไทยเอาจริงกับการกำจัดคอร์รัปชัน

    การเอาผิดกับคนโกงชาติ ไม่เพียงแค่จับคนผิดมาลงโทษเท่านั้น แต่กระบวนการยุติธรรม ยังได้ร่างยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการปราบปรามการทุจริต เล็งผลระยะยาว ที่หลังจากนี้ไป ไม่ว่าใครทุจริต กรรมหรือบทลงโทษจะเห็นผลรวดเร็วทันที เป็นบรรทัดฐานใหม่ สังคมไทยต้องไร้การโกงภายใน 5 ปี รวมทั้ง 1 ตุลาคมนี้ จะมีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่พิจารณาคดีสำหรับคนโกงโดยเฉพาะ

    ความร่วมมือจากทั้งรัฐบาล เอกชน และสังคม ที่จะทำให้สังคมไทยไม่เพิกเฉยทนทานต่อการทุจริต แม้จะช่วยให้สถานการณ์เริ่มดีขึ้น แต่การจะขจัดการคอร์รัปชันให้หมดไป และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศและสังคมไทยได้นั้น ยังต้องใช้จิตสำนึกของคนไทยทุกคน ที่ไม่รับ ไม่ทนต่อการคอร์รัปชันอีกต่อไป



    ข่าว 7 สี - ในงานเสวนาเนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชัน 2559 มีการเปิดตัวเลขการฟอกเงินจากการทุจริต 10 ปี สูงกว่า 1 ล้านล้านบาท

    เป็นข้อมูลจากวงเสวนา "กรรมโกงแบบไหนใครสนอง" ที่ผู้ทรงคุณวุฒิจาก 6 ภาคส่วน สะท้อนประเด็นเกี่ยวกับการโกง การขจัดการโกง ที่เห็นตรงกันว่า การแก้ปัญหาทุจริตต้องแสวงหาความร่วมมือในการปราบปราม และสร้างจิตสำนึกต้านโกง

    โดย ป.ป.ช. เปิดข้อมูลเส้นทางการฟอกเงิน ตั้งแต่ปี 2546-2556 มีการฟอกเงิน สร้างความเสียหายกับประเทศสูงถึง 1 ล้านล้านบาท ลดทอนศักยภาพการแข่งขันและขีดความสามารถของไทยอย่างมาก

    ป.ป.ช.ยังประกาศไต่สวนคดีที่ค้างกว่า 2,000 คดี ให้เสร็จใน 3 ปี และที่เกี่ยวกับนักการเมืองให้เสร็จใน 1 ปี โดยมีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ช่วยให้คดีทุจริตรวดเร็วยิ่งขึ้น

    โดย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน จัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน 2559 โดยวันที่ 11 กันยายนนี้ นายกรัฐมนตรีจะนำประชาชนทั้งประเทศ รวมพลังต้านโกงด้วยการ "เปิดไฟไล่โกง" เพื่อให้ประเทศสว่างไสว ไม่มีมุมมืดให้คนได้ทุจริตคดโกงบ้านเมือง

    ซึ่ง นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เชื่อว่าจะได้เตือนสติคนโกงว่ากรรมมีจริง และตามสนองในชาตินี้ ไม่รอชาติหน้า แถมถูกสังคมประณามถึงวงศ์ตระกูล พร้อมเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะได้รับการจัดอันดับเรื่องของการปราบปรามทุจริตดีขึ้น เพราะรัฐบาลและองค์กรต่างๆสนับสนุนการปราบปรามการคอร์รัปชันเต็มรูปแบบ

    ล่าสุด รัฐบาลสั่งระงับโครงการขุดบ่อบาดาลกว่า 300 โครงการทั่วประเทศ หลังพบการทุจริต โดยจะเร่งตรวจสอบ หากพบเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายทันทีโดยไม่ละเว้น
     
    Last edited: 17 Sep 2016
  37. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    ไล่ออก32นายกอบต.เอี่ยวทุจริตสอบพนักงานส่วนตำบลปี 57-ฟันอาญา-วินัย



    "ร่างกฎหมายปราบโกง 7 ชั่วโคตร" ถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งหลังเคยผลักดันและสภานิติบัญญัติแห่งชาติตีตกไปเมื่อปี 2551

    “กฎหมายปราบโกง 7 ชั่วโคตร” หรือ ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม ถูกรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นำมาปัดฝุ่นอีกครั้ง หลังจากร่างกฎหมายฉบับนี้เคยถูกผลักดันมาแล้ว หลังการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เมื่อครั้งรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ซึ่งได้เสนอเข้าสู่ที่ประ ชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน แต่ร่างกฎหมายถูกตีตกไปเมื่อปี 2551 เนื่องจาก สมาชิก สนช. ที่พิจารณากฎหมายดังกล่าวในวาระ 3 มีจำนวนไม่ครบองค์ประชุม

    สมญานาม “กฎหมาย 7 ชั่วโคตร” ได้มาจากข้อบัญญัติ ห้ามผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐ ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับวงศาคณาญาติ ครอบคลุม 7 ชั่วคน ตั้งแต่ พ่อ แม่ บุตร-ธิดา ลูกเขย ลูกสะใภ้ ปู่ย่า ตายาย ลุง ป้า น้า อา พ่อตา แม่ยาย หลาน เหลน

    แต่เนื่องจากบทลงโทษที่กำหนดเอาผิดทั้งตระกูล ซึ่งครอบคลุมถึงคู่สมรสตลอดจนเครือญาติรวมแล้วประมาณ 84 คน ที่อาจเกิดผลประโยชน์ทับซ้อนโดยไม่รู้ตัว ดูไม่เป็นธรรม และเป็นข้อบังคับที่เข้มงวด-ยุ่งยากเกินความจำเป็น จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ คณะกรรมาธิการวิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) จึงได้ปรับแก้ให้ครอบคลุมเพียง "3 ชั่วโคตร" คือ คู่สมรส พ่อ แม่ ลูก และคู่สมรสของลูกเท่านั้น โดยคู่สมรสนี้ ให้หมายรวมถึงหญิงชายที่อยู่กินกันฉันสามีภรรยา โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสด้วย

    สำหรับการกระทำที่เข้าข่ายว่าเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน อาทิ เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ รับของขวัญที่ราคาแพงกว่าที่ ป.ป.ช.กำหนด ใช้ข้อมูลภายในของรัฐโดยทุจริต ใช้เวลา ทรัพย์สิน และบริการของรัฐเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและผู้อื่น

    ทั้งนี้ กรณีที่บุคคลใดได้รับประโยชน์จากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นคู่สมรส พ่อแม่ ลูกและคู่สมรสของลูก ให้ถือว่าบุคคลนั้นมีส่วนร่วมในการกระทำผิดและรับโทษเช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่รัฐ เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่ามิได้มีส่วนรู้เห็น

    โดยมีการกำหนดโทษ เป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา และให้ถือเป็นเหตุให้ถูกถอดถอนจากตำแหน่งได้ ซึ่งกรณีที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-10 ปี ปรับตั้งแต่ 4 หมื่น-4 แสนบาท และกรณีที่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-15 ปี ปรับตั้งแต่ 8 หมื่น-6 แสนบาท

    ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม จึงถือว่าเป็นกฎหมายที่มีความเข้มข้นมากกว่ากฎหมายปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่นฉบับอื่นๆ

    โดยความคืบหน้าขณะนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับแก้เนื้อหาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งคาดว่าจะส่งร่างให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้ ก่อนส่งต่อให้ สนช. ดำเนินการในขั้นตอนต่อไป



    ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา พีระพงศ์ อดีตผู้อำนวยการขสมก. ทุจริตและเอื้อเอกชนรับค่าเช่าอู่จอดรถเมล์

    วันนี้ (20 ก.ย. 59) ที่ห้องพิจารณา 813 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา 10.50 น. ศาลอ่านคำพิพากษาคดี หมายเลขดำ อท.3/2558 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 5 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายพีระพงศ์ อิศรภักดี อดีตผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. เป็นจำเลยต่อแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ ในความผิดฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11 โดยนายพีระพงศ์ เดินทางมาศาลพร้อมฟังคำพิพากษาด้วย

    ตามฟ้องโจทก์ เมื่อวันที่ 23 ก.ค.2558 ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 4 เม.ย.2539 ขสมก.ได้ทำสัญญาเช่าอู่เพชรงาม และลานจอดรถยนต์กับ บริษัท นรินทร์ แลนด์แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด เนื้อที่ 17 ไร่ 3 งานที่ ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ กำหนดเวลา 5 ปี ช่วง 3 ปีแรก เช่าเดือนละ 1,022,400 บาท ปีที่ 4 - 5 เดือนละ 1,124,640 บาท แต่เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2545 ซึ่งเป็นวันครบสัญญา จำเลยกลับทุจริต ไม่ทำหนังสือบอกเลิกสัญญา ทำให้ ขสมก.ต้องเช่าอู่เพชรงามต่อไปโดยไม่มีกำหนดระยะเวลาเดือนละ 704,880 บาท รวม 1 ปี เป็นเงิน 8,458,560 บาท ทำให้ บริษัท นรินทร์ฯ ได้รับประโยชน์มิควรได้ โดยจำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดีมาโดยตลอด

    ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานจากการไต่สวนและสำนวนของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้วเห็นว่าจำเลยในฐานะ ผอ.ขสมก. ทราบว่า สัญญาเช่ามีข้อตกลงหากครบกำหนดการสิ้นสุดสัญญาเช่า แล้วไม่แจ้งบอกเลิกสัญญาก่อน 3 เดือน สัญญาเช่าจะต่ออัตโนมัติโดยอัตราค่าเช่าจะเป็นไปตามข้อตกลงในสัญญาเดือนสุดท้ายที่มีราคาแพง ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการ ขสมก. ที่มีจำเลยร่วมประชุมด้วย ได้พิจารณาถึงปัญหาการเช่าที่จอดรถของอู่แล้ว มีมติให้ดำเนินการต่อรองลดค่าเช่า หรือให้บอกเลิกสัญญา แต่จำเลยกลับใช้อำนาจตามอำเภอใจไม่เคารพมติที่ประชุมด้วยการแจ้งต่ออู่เพชรงามว่า จะจ่ายค่าเช่าให้เดือนละ 200,000 บาทเศษ เพื่อแสดงให้เอกชนนั้นเห็นว่าจำเลยมีอำนาจให้คุณให้โทษได้ แล้วหลังจากนั้นยังไม่ดำเนินการใดๆ

    กระทั่งก่อนจะสิ้นสุดสัญญาช่วง 3 เดือนสุดท้าย รอง ผอ.ขสมก. มีหนังสือกระตุ้นเตือนให้จำเลยพิจารณาแนวทางเพื่อดำเนินการดังกล่าว หลังจากที่ฝ่ายการเดินรถและฝ่ายกฎหมายและคณะกรรการพิจารณาสถานที่เช่าอู่ เคยมีหนังสือด่วนสุดให้จำเลยพิจารณาดำเนินการ ซึ่งคณะกรรมการเชิญตัวแทนอู่ มาพูดคุยเพื่อตกลงจะเช่าที่ตามที่ใช้จริงซึ่งเอกชนยืนยอมจะให้เช่า พื้นที่ 10,600 ตร.ม.ในเวลา 3 ปี ซึ่งจะทำให้ ขสมก. ชำระค่าเช่าได้ถูกกว่า การต่อสัญญาอัตโนมัติที่จะมีเวลานานถึง 1 ปี แต่จำเลยก็ยังไม่ตัดสินใจจนสัญญาเช่าสิ้นสุดไปแล้ว 10 วันก็ยังไม่บอกเลิกสัญญาหรือดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว ทำให้ ขสมก.ต้องสูญเสียจากการที่สัญญาเช่าต่อโดยอัตโนมัติ

    การที่จำเลยทราบปัญหาดี แต่ไม่ดำเนินการใดๆ ถือเป็นการกระทำผิดวิสัยทั่วไปของผู้บริหาร ไม่ใช่แค่ความบกพร่องทางหน้าที่ราชการ แต่เชื่อว่ามีเจตนาเอื้อประโยชน์ให้อีกฝ่าย อันเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ที่จำเลยอ้างว่า ขสมก.มีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ต่อนั้น จำเลยก็ต้องเลือกดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ใช่ปล่อยให้สัญญาเช่าต่อโดยอัตโนมัติซึ่งเป็นทางเลือกที่ทำให้ ขสมก.สูญเสียมากที่สุด

    พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมีน้ำหนักมั่นคงให้รับฟังได้ว่า จำเลยเป็นพนักงานของรัฐกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ อันเป็นความผิดตาม ม.11 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 จึงพิพากษาให้จำคุกจำเลย เป็นเวลา 3 ปี โดยไม่มีเหตุรอการลงโทษ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังทนายความได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 200,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ต่อสู้คดี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคำร้องขอศาล



    นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ระบุว่า ร่างกฎหมายที่ว่าด้วยการขัดกันของผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม ถือเป็นกฎหมายปราบโกงฉบับจริง แม้แต่การใช้ไฟหลวงชาร์จโทรศัพท์ส่วนตัวก็เข้าข่ายกระทำผิด



    กรุงเทพฯ 25 ก.ย. – กฎหมายปราบโกงที่เตรียมนำมาใช้เร็ว ๆ นี้จะเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่เฉพาะฝ่ายบริหาร แต่รวมถึงฝ่ายนิติบัญญัติและตุลาการ ส่วนประเด็นที่เรื่องการชาร์จโทรศัพท์มือถือส่วนตัวในที่ทำงานจะสามารถทำได้หรือไม่

    หนึ่งในคณะร่วมยกร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลและผลประโยชน์ส่วนรวม หรือที่เรียกกันว่ากฎหมายปราบโกง ให้ข้อมูลว่า เจตนารมณ์ของร่างกฎหมายฉบับนี้เพื่อป้องปรามการใช้อำนาจในทางมิชอบ ให้รู้ว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ ไม่ใช่เพื่อมุ่งเอาผิด และให้สอดรับกับการที่ไทยให้สัตยาบัน อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตไว้เมื่อปี 54

    การกระทำที่เข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน ที่สำคัญได้แก่ เห็นชอบกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ต่อกิจการของตนเอง คู่สมรส บุตร หรือบิดามารดาที่มีส่วนได้ส่วนเสีย อนุมัติโครงการโดยทุจริตหรือเอื้อประโยชน์ ต่อตนเองหรือบุคคลอื่น เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ รับของขวัญราคาแพงกว่าที่ ป.ป.ช.กำหนด ใช้ข้อมูลภายในของรัฐที่ยังเป็นความลับโดยทุจริต ใช้ทรัพย์สินในหน่วยงานที่ตนสังกัดเพื่อประโยชน์ของตนและผู้อื่น

    ซึ่งประเด็นการใช้ทรัพย์สินกำลังกลายเป็นข้อถกเถียงว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ อย่าง การชาร์จโทรศัพท์มือถือในที่ทำงาน ซึ่งกฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนว่าหากได้รับอนุญาตก็สามารถทำได้ ซึ่งกฎหมายยังกำหนดให้แต่ละหน่วยงานออกระเบียบให้ชัดเจน โดยเฉพาะใน 4 เรื่อง ได้แก่ การใช้ยานพาหนะ เครื่องมือสื่อสาร อาคารสถานที่ วัสดุอุปกรณ์ เครื่องใช้ในสำนักงาน

    25-9-2559 19-36-12 25-9-2559 19-36-36
    ร่างกฎหมายฉบับนี้มีโทษจำคุกสูงสุด 3-5 ปี บังคับใช้กับเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทุกระดับ รวมถึงนายกรัฐมนตรี จากเดิมที่ถือเป็นความผิดทางการเมือง โทษคือถูกถอดถอนตำแหน่งเท่านั้น แต่ภายใต้กฎหมายนี้ต้องรับโทษอาญาด้วย ครอบคลุมไปถึงคู่สมรส บุตร บิดา มารดา ไม่เว้นแม้แต่ ป.ป.ช.ที่เป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย หากทำผิดเองต้องรับโทษเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า

    ร่างกฎหมายฉบับนี้ เคยถูกผลักดันมาแล้ว หลังการรัฐประหาร 19 กันยายน 49 ในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีต ป.ป.ช. ที่เคยร่วมผลักดัน ให้ข้อมูลว่า ในขณะนั้น สำนักงาน ป.ป.ช เตรียมตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะ แต่ร่างกฎหมายถูกตีตกไปเมื่อปี 51 เนื่องจากสมาชิก สนช.ที่เข้าพิจารณาไม่ครบองค์ประชุม ทำให้ต้องหยุดชะงักไป การที่ร่างกฎหมายนี้ถูกนำมาปัดฝุ่นเดินหน้าอีกครั้งเป็นเรื่องดี ซึ่งได้ลดการลงโทษจำนวนชั้นเครือญาติที่เกี่ยวข้องลง และกำหนดรายละเอียดการทำผิดชัดเจนขึ้น ซึ่งยังคงมุ่งเน้นการทำผิดที่ก่อความเสียหายต่อรัฐ เพราะการขัดกันของผลประโยชน์ส่วนตัวกับส่วนรวมมักเป็นจุดเริ่มต้นของการทุจริต

    ล่าสุด คณะกรรมการกฤษฎีกาได้พิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้เสร็จสิ้นแล้ว และเตรียมนำเนื้อหาร่างกฎหมายเผยแพร่ในเว็บไซต์ โดยมีกำหนดส่งร่างฯ ให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีในวันที่ 26 กันยายนนี้ ก่อนนำเข้า ครม. และเสนอให้ สนช.เห็นชอบต่อไป คาดว่าจะเป็นของขวัญให้กับประชาชนได้ทันในช่วงปีใหม่นี้. – สำนักข่าวไทย
     
    Last edited: 10 ต.ค. 2016
  38. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    กทม. 26 ก.ย.-คดีโครงการรับจำนำข้าวนับเป็นคดีตัวอย่างของการคอร์รัปชั่นที่ทำให้รัฐเสียหายอย่างมหาศาล ผู้กระทำทั้งนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐกำลังทยอยกันรับโทษ นอกจากนี้ยังมีคดีคอร์รัปชั่นอื่นที่สร้างความเสียหายแก่รัฐ และการดำเนินคดียังล่าช้า ซึ่งเมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเปิดเป็นทางการ เชื่อว่าจะทำให้การพิจารณาคดีเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น.-สำนักข่าวไทย



    กทม. 29 ก.ย.-อำนาจ พวงชมภู อธิบดีผู้พิพากษาภาค 2 และว่าที่อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ศาลชำนาญพิเศษ ที่จะเปิดอย่างเป็นทางการ 1 ตุลาคมนี้ ให้สัมภาษณ์พิเศษสำนักข่าวไทย ถึงอำนาจหน้าที่ของศาลนี้ ที่รับฟ้องคดีทุจริต ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนทั่วไป เป็นครั้งแรกที่มีการกำหนดคุณสมบัติองค์คณะผู้พิพากษาเป็นผู้มีประสบการณ์สูง โดยจะพิจารณาสิ้นสุด 2 ศาล ที่ชั้นศาลอุทธรณ์ และให้อำนาจยึดทรัพย์ผู้กระทำผิดได้ .-สำนักข่าวไทย



    ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือที่เรียกว่า ศาลปราบโกง จะเริ่มดำเนินการวันนี้เป็นวันแรก โดยจะช่วยลดระยะเวลาในการพิจารณาคดีการทุจริต ที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายของภาครัฐ ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะโจทก์ หรือจำเลย



    เปิดศาลคดีทุจริต ประเดิมยื่นฟ้อง 2 คดี – ยักยอกค่าธรรมเนียมกงสุล



    ข่าว 7 สี - ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เปิดอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่มีศาลดำเนินคดีทุจริตคอร์รัปชันโดยเฉพาะ รูปแบบการดำเนินงานของศาลนี้เป็นอย่างไร ติดตามจากรายงาน

    ด้วยปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในบ้านเรามีสะสมมาอย่างยาวนาน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และประเทศชาติอย่างรุนแรง การเปิดศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง หรือที่หลายคนเรียกว่า ศาลปราบโกง จึงเป็นความหวังว่านี่จะเป็นอีกกลไกหนึ่งที่ร่วมแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันได้เป็นอย่างดี

    โดยศาลจะทำหน้าที่ฟ้องร้องดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ ที่กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือหน้าที่ยุติธรรม เช่น พนักงานสอบสวน อัยการ ผู้พิพากษา และยังรวมถึงบุคคลทั่วไปตามประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมายอื่น โดยเฉพาะ ป.ป.ช., ป.ป.ท ในความผิดฐานฟอกเงิน รับหรือให้สินบน หรือการฮั้วประมูล

    นายอำนาจ พวงชมภู อธิบดีผู้พิพากษา ภาค 2 ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่ง อธิบดีผู้พิพากษาศาลทุจริต บอกว่าการมีศาลคดีทุจริต จะทำให้การพิจารณาคดีทุจริตรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพราะมีหัวหน้าองค์คณะผู้พิพากษา ที่เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาลไม่น้อยกว่า 20 ปี และผู้พิพากษาจะต้องเคยพิจารณาคดีการทุจริตมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็นบุคคลที่มีความชำนาญการพิเศษเกี่ยวกับคดีการทุจริตทั้งสิ้น

    จนถึงขณะนี้มีคดีรอการพิจารณาเกือบ 80 คดี โดยโอนย้าย 70 คดี และยื่นฟ้องเพิ่มอีกเกือบ 10 คดี และในอนาคตจะมีคดีจงใจปกปิด หรือไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ที่โอนย้ายจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเข้ามาเพิ่มด้วย

    ศาลปราบโกงจึงเป็นอีกหนึ่งความหวังของคนไทย เป็นกลไกสำคัญในการแก้ไขและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันให้หมดไปจากสังคมไทยเสียที

    ดาวุด แดนมะตาม ถ่ายภาพ อรรถพล ภิญโญ รายงาน
     
    Last edited: 11 ต.ค. 2016
  39. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยอมรับว่าได้สั่งการให้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หามาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง เสนอแผนงาน และจัดทำโครงการ ที่สำคัญต้องแก้ไขกฎหมายบางฉบับ โดยเฉพาะบทลงโทษทั้งผู้ให้และผู้รับในการทุจริตที่ได้รับโทษเดียวกัน ทำให้ผู้ให้สินบนไม่กล้าให้ข้อมูลเพราะกลัวจะติดคุก จึงต้องเปิดช่องให้คนกล้าให้ข้อมูลมากขึ้น โดยระหว่างที่ สนช. พิจารณากฎหมาย ก็อาจนำมาตรา 44 มาบังคับใช้ก่อน ซึ่งยืนยันไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร

    พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุ มีข้าราชการของกระทรวงมหาดไทย รับค่าหัวคิว งบประมาณ ยุทธศาสตร์สร้างความปรองดองว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ไปสอบถามเจ้าตัว ซึ่งได้ข้อมูลว่า เป็นการทุจริตงบจัดซื้อของกระทรวงเกษตรเมื่อปี 2557 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมกำชับผู้ว่าราชการทุกจังหวัดให้ดำเนินการอย่างโปร่งใส เพราะจะไม่ยอมให้ใครทุจริตโดยเฉพาะงบการสร้างความปรองดอง



    นายกฯยอมรับสั่งกระทรวงการคลังแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ระบุอาจใช้อำนาจม.44มาช่วยระหว่างการดำเนินการแก้ไขกม.



    รุมค้านข้อเสนอคลัง ลดโทษคนจ่ายสินบนแลกสารภาพเอาผิด "คนรับ"

    หลายฝ่ายออกมาแสดงท่าทีคัดค้าน กรณีที่กระทรวงการคลังเตรียมเสนอให้ คสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ลดโทษให้ผู้ที่จ่ายสินบน หรือเลือกจ่ายค่าปรับแทนเพื่อแลกกับคำรับสารภาพเป็นข้อมูลเอาผิดกับผู้รับสินบน ซึ่งเป็นมาตรการที่ใช้กันในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา

    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยากให้ศึกษาข้อเสนอนี้ให้รอบคอบ เพราะมีเหตุผล 2 ทาง ทางแรกคือน่าเป็นห่วงว่าความผิดเกี่ยวกับสินบนเป็นเรื่องยากที่จะได้พยานหลักฐาน เพราะคนที่ให้สินบนก็คือผู้กระทำผิดด้วย แต่อีกทางหนึ่ง หากฝ่ายหนึ่งปราศจากความผิด จะเป็นการส่งสัญญาณที่ไม่ดี เท่ากับว่าการจ่ายสินบนไม่ใช่ความผิด

    นายอภิสิทธิ์ บอกว่า ปัญหาใหญ่ของประเทศไทยคือการบังคับใช้กฎหมาย อย่างเช่นกรณสินบนโรลส์รอยซ์ ข้อมูลส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ แต่ในประเทศไทยกลับไม่มีการรับรู้มาก่อนเลย เพราะฉะนั้นภาครัฐควรปรับปรุงด้านนี้ให้มากขึ้น โดยเฉพาะการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด

    ด้าน นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ หนึ่งในอนุกรรมาธิการศึกษาและเสนอแนะมาตรการปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ กล่าวว่า ข้อเสนอของกระทรวงการคลังเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะธรรมาภิบาลของประเทศไทยต่ำกว่าประเทศที่เจริญแล้วมาก แต่กลับจะให้ใช้มาตรการเดียวกัน จริงๆ กฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือ กฎหมาย ป.ป.ช.ก็มีมาตรการกันคนที่ถูกกล่าวหา หรือผู้ที่กระทำความผิดร่วม ไว้เป็นพยานในคดีได้อยู่แล้ว แต่ไม่เคยนำมาใช้

    ตำหนิ ป.ป.ช.ทำงานช้าสอบสินบนโรลส์รอยซ์

    ส่วนเรื่องสินบนโรลส์รอยซ์นั้น นายชาญชัย บอกว่า องค์กรตรวจสอบของไทยทำงานล่าช้ามาก จนป่านนี้ยังไม่สามารถตั้งอนุกรรมการสอบสวนได้เลย



    ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ข้องใจร่าง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฉบับใหม่ ไม่ครอบคลุมทุกหน่วยงาน โดยยกเว้นรัฐวิสาหกิจบางแห่ง การจัดซื้อของกองทัพ สถาบันอุดมศึกษา รวมทั้ง การจัดซื้อจัดจ้างที่ใช้เงินกู้


    นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.แสดงความสงสัยต่อร่างพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ฉบับใหม่ ที่ผ่านความเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.ไปแล้ว และอยู่ระหว่างรอการประกาศใช้ ซึ่งมีข้อยกเว้นไว้ในมาตรา 7 ไม่ให้นำกฎหมายฉบับนี้ไปบังคับใช้กับบางหน่วยงาน ซึ่งไม่เข้าใจว่า ผู้ที่ออกกฎหมายคิดอย่างไร เพราะการยกเว้นดังกล่าวจะทำให้เกิดความยุ่งยากขึ้นในการตรวจสอบ

    ทั้งนี้ สำหรับร่างพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฉบับใหม่ ในมาตรา 7 ระบุว่า พระราชบัญญัติฉบับนี้มิให้ใช้บังคับแก่ การจัดซื้อจัดจ้างของรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวกับการพาณิชย์โดยตรง // การจัดซื้อจัดจ้างยุทโธปกรณ์และการบริการที่เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติโดยวิธีรัฐบาลต่อรัฐบาล // การจัดซื้อจัดจ้างของสถาบันอุดมศึกษา // และการจัดซื้อจัดจ้างโดยใช้เงินกู้

    ก่อนหน้านี้ กลุ่มนักการเมือง ก็ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงร่าง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฉบับดังกล่าวเช่นกัน โดยนายกรณ์ จาติกวนิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มองว่า ทำไมถึงมีข้อยกเว้นให้รัฐวิสาหกิจ และเห็นว่า การแก้กฎหมายเป็นเพียงเรื่องทางเทคนิค ทั้งนี้ ในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยเอาผิดคนที่ทุจริตได้ เพราะประเทศไทยยังอยู่ในสังคมที่หล่อเลี้ยงด้วยระบบคอร์รัปชั่น ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งในทุกระดับ

    ด้านนายวิชา มหาคุณ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต อดีตกรรมการ ป.ป.ช.เห็นว่า การจะแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น โดยเฉพาะเรื่องสินบนได้ ต้องตัดวงจรนายหน้าออกจากระบบการจัดซื้อจัดจ้าง

    นายวิชา ยืนยันว่า กฎหมายที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีความเข้มข้น และรุนแรงพอแล้ว โดยเฉพาะกฎหมาย ป.ป.ช.ที่มีการแก้ไขครั้งที่ 3 ในปี2558 ได้เพิ่มโทษสูงสุดให้จำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต แต่มีปัญหาเรื่องการบังคับใช้ จึงทำให้การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นไม่ได้ผล.



    กรมสรรพสามิตตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง คดีสินบนบริษัทวิสกี้ต่างประเทศเมื่อ 6 ปีก่อน พร้อมเชิญชวนผู้มีข้อมูลเข้าให้เบาะแส เนื่องจากเป็นเหตุการณ์อดีตซึ่งเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่เกษียณไปแล้ว
     
    Last edited: 18 Feb 2017
  40. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    ปัญหาระบบอุปถัมภ์ในการสอบแข่งขัน หรือ นำบุคคลเข้ามาทำงานในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถือเป็นปัญหาสำคัญที่มีการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม และช่องทางต่างๆ ทำให้ คสช. และรัฐบาล ใช้มาตรา 44 เดินหน้าปฏิรูปการบริหารงานส่วนท้องถิ่น ขจัดคอร์รัปชั่น สร้างระบบคุณธรรมให้เกิดขึ้น ติดตามจากรายงาน



    นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัททีโอที เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการรับสินบนจากบริษัทเจเนอรัล เคเบิล (General Cable) ว่าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ขอขยายเวลาออกไปอีก 15 วัน เนื่องจากยังไม่ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากทางบริษัทเจเนอรัล เคเบิล และจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ

    จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีสัญญาที่บริษัททีโอทีทำกับบริษัทลูกของเจเนอรัล เคเบิล 2 บริษัท 10 สัญญา รวมมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท ใช้ระบบประมูลโครงการแบบ E-Auction ซึ่งไม่พบความผิดปกติใดๆ ในขั้นตอนการประมูล แต่จะนำเอกสารสัญญาที่ทำไว้ มาตรวจสอบอีกครั้ง ถ้าภายใน 15 วันยังไม่ได้รับข้อมูลที่ขอไว้จากหน่วยงานภายนอก ก็จะส่งข้อมูลที่มีทั้งหมดให้แก่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ถ้าพบบุคคลเกี่ยวข้องกับการรับสินบน ต้องถูกลงโทษตามระเบียบ



    ปัญหาทุจริตเกิดขึ้นในการจัดซื้อจัดจ้าง ทำให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานรัฐ เพื่อเป็นเครื่องมือที่เตรียมนำมาใช้เดินหน้าปราบโกงในโครงการต่างๆของรัฐที่ผ่านมา และในปี 2560 ถือเป็นปีที่มีจะโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้น ทำให้รัฐบาลต้องเตรียมความพร้อม และมีมาตรการดูแล



    "วิลาศ" เตรียมยื่นเรื่อง"ป.ป.ช." สอบพิรุธ"กกท." โอนงบให้กรมทางหลวงสร้างสนามกีฬา มีการกินเปอร์เซ็นต์กันหรือไม่

    วิลาศ เตรียมยื่นเรื่อง ป.ป.ช. สอบพิรุธ กกท.26 ก.พ. 60 -- นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า มีการโอนงบจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ให้กรมทางหลวง เพื่อจัดสร้างสนามกีฬา 7 แห่ง และสนามกอลฟ์ 1 แห่ง เป็นเงินรวม 1,270 ล้านบาท ถือเป็นเรื่องแปลกที่ให้กรมทางหลวงดำเนินการให้ ทั้งๆที่ไม่ใช่งานหลักของกรมทางหลวง จึงเชื่อว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องผิดปกติ เพราะที่ผ่านมามีการเบิกงบตั้งแต่เมื่อ 31 ธ.ค. 59 แต่ตอนนี้ยังไม่เสร็จซักแห่งเดียว และเป็นที่น่าสังเกตุว่า มีการมอบหมายให้ศูนย์สร้างทางที่จ.ลำปาง ไปสนามสร้างกีฬาถึง 4 ใน 7 แห่ง ซึ่งในแต่พื้นที่นั้นๆก็มีศูนย์สร้างทางอยู่แล้วกลับไม่ใช้ โดยอธิบดีกรมทางหลวงคนปัจจุบันอ้างว่า เป็นศูนย์ที่มีความพร้อมที่สุด แต่กลับพบว่า การก่อสร้างสนามกีฬาที่ จ.มหาสารคาม มีการให้สัมปทานบริษัทรับเหมารายหนึ่ง รับงานดังกล่าว จึงขอ ตั้งข้อสังเกตุว่า มีการกินเปอร์เซ็นต์กันหรือไม่ หรืออยากจะจ้างใครก็จ้าง นอกจากนี้ การสร้างสนามกอลฟ์ที่ จ.สระบุรี ก็มีความผิดปกติเกินความจำเป็น เพราะเป็นพื้นที่ป่าทึบ จะต้องมีการตัดต้นไม้ แต่จากการตรวจสอบพบว่า ยังไม่มีการขออนุญาต แต่มีการตัดไม้ออกไปแล้ว จึงสงสัยว่า ไม้ที่ตัดไปแล้วหายไปไหนคืนหลวงหรือไม่"สนามกอลฟ์จำเป็นต้องมีการดูแลเดือนละ 1.5 ล้านบาท เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ ถ้าไม่มีงบผลก็มั่นใจว่าจะกลายเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ และจากการตรวจสอบไปยังพื้นที่ พบว่า กรมทางหลวงได้งานให้ผู้รับเหมารายหนึ่ง แต่กลับนำเครื่องจักรและรถของกรมทางหลวงมาใช้งาน จึงไม่รู้ว่า มีการนำน้ำมันหลวงมาใช้หรือไม่ จึงอยากให้อธิบดีกรมทางหลวงชี้แจงให้ถูกต้อง และในวันที่ 1 มี.ค.นี้ ตนจะยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร้อง กกท. กรมทางหลวง และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพราะผมไม่เชื่อว่า จะไม่มีฝ่ายการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง อีกทั้ง ตนจะไปร้องกรมป่าไม้ด้วยว่า การตัดไม้สร้างสนามกอลฟมีการตัดไม้ต้องห้ามหรือไม่"นายวิลาศกล่าว



    กรุงเทพฯ 1 มี.ค.-มีข้อเสนอให้สามารถพิจารณาคดีนักการเมืองทุจริตลับหลังได้ และไม่นับอายุความ กรณีผู้ต้องหาหลบหนี โดยจะบัญญัติไว้ในกฎหมายลูก ว่าด้วยการพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ผ่านประชามติ

    พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีมาตั้งแต่สมัยรัฐธรรมนูญปี 2540 ผ่านมา 20 ปี มีหลายประเด็นที่ยังเป็นช่องโหว่ ที่จะต้องมีการปรับเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ โดยโจทย์ใหญ่ที่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญตั้งไว้ คือ ทำอย่างไรเพื่อให้การพิจารณาคดีเป็นไปด้วยความรวดเร็ว อำนวยความยุติธรรมได้ สามารถเอาผิดตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังได้จริง การทำงานของอัยการกับผู้ส่งฟ้องมีความเห็นสอดคล้องกัน สุดท้ายคือคนที่ทำงานด้านยุติธรรม คือ ศาลและองค์กรอิสระมีค่าตอบแทนที่สมเหตุสมผล สามารถดำรงอยู่ได้ตามค่าครองชีพที่สูงขึ้น จึงได้มีการสัมมนาระดมความเห็นจากฝ่ายต่างๆ

    ร่างที่สำนักงานศาลยุติธรรมยกร่างมานั้น สอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยเฉพาะมาตรา 33 ที่กำหนดไม่ให้นับอายุความ หากจำเลยหลบหนีในระหว่างถูกดำเนินคดีหรือระหว่างการพิจารณาคดี และให้มีบทลงโทษฐานหลบหนีคดีด้วย มาตรา 67 เปิดให้อุทธรณ์ได้ทั้งข้อกฎหมายและหลักฐานใหม่ จากเดิมที่อุทธรณ์ได้เฉพาะกรณีที่ต้องมีหลักฐานใหม่

    ทั้งนี้ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเห็นว่า ทางออกที่ทำให้คดีทุจริตทางการเมืองไม่คั่งค้าง โดยที่ยังอำนวยความยุติธรรมได้ คือ การให้สามารถพิจารณาคดีลับหลังได้ แม้จำเลยไม่มาศาลตั้งแต่นัดแรกที่มีการฟ้อง จนถึงวันตัดสิน แต่ได้มีเสียงท้วงติงว่าควรเขียนเรื่องนี้ด้วยความระมัดระวัง โดยคำนึงถึงสิทธิผู้ต้องหา เพราะการกำหนดเช่นนี้เป็นเสมือนการใช้ระบบไต่สวน เหมือนเปาบุ้นจิ้น ที่แม้ทำให้กระบวนการตัดสินเร็วขึ้นจริง แต่อาจจะพิจารณาหลักฐานได้ไม่รอบด้าน

    อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่มีเสียงขานรับบนเวทีนี้มากสุด คือ เรื่องการไม่นับอายุความของนักการเมืองที่ถูกกล่าวหาทุจริตแล้วหลบหนีคดี รวมถึงการเพิ่มข้อหากรณีที่หลบหนีไม่ไปศาลเพิ่มอีก 1 คดี เพราะเชื่อว่าจะทำให้จำเลยคิดหนักในการตัดสินใจว่าจะหนีหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอต่างๆ เหล่านี้เป็นเรื่องที่ กรธ.จะต้องนำกลับมาคิดและประมวลอีกครั้ง เพื่อให้ตอบโจทย์ที่ตั้งเอาไว้ คือ สามารถลงโทษนักการเมืองที่ทุจริตได้จริง โดยที่ยังความยุติธรรมเอาไว้ด้วย.-สำนักข่าวไทย
     
    Last edited: 4 Mar 2017
  41. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482






    กทม. 7 มี.ค. – ปัญหาการทุจริตในภาครัฐยังมีให้เห็นต่อเนื่อง ล่าสุดศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง สั่งจำคุกอดีตรองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน พร้อมพวกเป็นเวลาสูงสุด 50 ปี . – สำนักข่าวไทย
     
    Last edited: 7 Mar 2017
  42. ParaDon

    ParaDon อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    2 Aug 2015
    คะแนนถูกใจ:
    3,168
    Location:
    Thai

    10 หมดอายุความ 9 ปี ผ่านไปทำอะไรกันอยู่
    หมื่นล้านนะไม่ใช่หมื่นบาทงามหน้า ข้าราชการไทย
    ตอนนี้เพิ่งตื่นมาขยันตอนนี้ สุดท้ายก็สันหลังยาวเหมือนเดิม
     
    ชายน้ำ likes this.
  43. ParaDon

    ParaDon อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    2 Aug 2015
    คะแนนถูกใจ:
    3,168
    Location:
    Thai





    รู้ว่าผิดแต่ทำเพราะมันทำกันมานานจนไม่เกรงกลัวอะไร
    เพราะปกติก็แอบขุดดินขายกันอยู่แล้ว
    กินหมาเน่าลอยนํ้าแบบนี้ มีแทบทุกพื้นที่
    และยังมีอยู่เรื่อยๆ มันกินกันเป็นระบบแบบไม่อายฟ้าอายดิน
    วิ่งขนดินกันสนุกสนานชาวบ้านก็ทำได้แค่มองสาปแช่งแล้วก็ก่นด่า
    รับเหมาขุดแล้วแอบเอาดินไปขาย รับทีเดียว 2 เด้ง
    ส่วนมากก็เป็นหน่วยงานและข้าราชการท้องถิ่นร่วมกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่
    ทำมาหากินกันแบบเย้ยกฏหมายบ้านเมือง บ้านเมืองถึงล่มจมอยู่ทุกวันนี้

    ไม่คาดหวังว่าการปราบปรามคอรัปชั่นจะทำได้ในยุคนี้
    และคงไม่สามารถทำได้ถ้าข้าราชการยังปากว่าตาขยิบ
    บอกว่าผิดแต่ไม่ดำเนินการเอาผิดแต่อย่างใด
    ยังปล่อยให้มีการกระทำความผิดแบบซํ้าซาก
    ตลอดมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมดูแลไร้ปัญญา

    ถ้าดินที่ขุดจากโครงการไม่มีที่เก็บที่ไว้แล้วขนบรรทุกไปแจกชาวบ้าน
    หรือเอาไปถ่มไปเทซ่อมแซมถนนในพื้นที่ใกล้เคียงก็เป็นไปอย่างแต่คนพวกนี้มันไม่ทำ
    เพราะมันต้องการขายทั้งที่ก็ได้เงินได้งบจากการรับเหมาขุดลอกอยู่แล้ว
    หากจะจับกันจริงๆแค่เอาดินจากที่ขุดไปเปรียบเทียบกับดินที่เอาไปขาย
    หลักฐานคร้านจะมัดตัวแน่นหนาจนดิ้นไม่หลุด
    ถ้าเรื่องง่ายๆยังทำไม่ได้แล้วอย่าคิดไปทำเรื่องใหญ่เลย
     
    Last edited: 8 Mar 2017
    ชายน้ำ likes this.
  44. ชายน้ำ

    ชายน้ำ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    9 Feb 2015
    คะแนนถูกใจ:
    7,081
    ข้าราชการที่เตะถ่วงคดีภาษีหนึ่งหมื่นหกพันล้าน
    น่าจะจับตัวมาประหารชีวิตเป็นรายแรก
    ดูว่าข้าราชการจะเข็ดกันมั้ย
     
  45. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    จากที่คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร นัดหารือด่วนแนวทางการเรียกเก็บภาษีจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีขายหุ้นชินคอร์ปให้กับเทมาเส็ก เมื่อปี 2549 จำนวน 16,000 ล้านบาท ซึ่งจะหมดอายุความในวันที่ 31 มีนาคม นี้ ในที่ประชุมมีมติไม่ขยายเวลาการออกหมายเรียกนายทักษิณหลังเวลาล่วงเลยมา 5 ปี แต่ทางด้านสำนักงานตรวจงานแผ่นดินจะทำหนังสือให้ยืดระยะเวลาจัดเก็บภาษีหุ้นชินออกไปไม่เช่นนั้นอาจเข้าข่ายเอื้อประโยชน์ตามประมวลกฎหมายอาญา

    โดยรองปลัดกระทรวงการคลัง ประภาส คงเอียด ในฐานะประธานวินิจฉัยภาษีอากร บอกว่า กรณีการเรียกเก็บภาษีจากหุ้นชินฯ เป็นเรื่องของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ซึ่งการประเมินเสียภาษีหุ้นของนายทักษิณต้องไปดูในข้อเท็จจริงของการทำธุรกรรม แต่สุดท้ายมีข้อสรุปคือ ไม่สามารถขยายเวลาได้ เพราะตามมาตรา 19 กำหนดในเรื่องการออกหมายเรียกไว้ชัดเจนแล้ว

    แต่ทางด้าน ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส บอกว่า หากทางคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ไม่ขยายเวลาออกไป ต้องมีเหตุผลรองรับ และหากให้หมดอายุความไปอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ อาจต้องมีความผิดมาตรา 154,157 ประมวลกฎหมายอาญาเนื่องจากละเลยการปฏิบัติหน้าที่ มีโทษทั้งจำคุกสูงสุด 10 ปีและปรับ



    นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยกรณีคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร มีมติว่า กรมสรรพากรไม่สามารถขยายเวลาออกหมายเรียกเพื่อเก็บภาษีจำนวน 16,000 ล้านบาท จาก นายทักษิณ ชินวัตร กรณีการขายหุ้นชินคอร์ป เมื่อปี 2549 ได้ เพราะเกินเวลา 5 ปีตามที่กฎหมายกำหนด

    ทั้งนี้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.ได้ทำหนังสือเตือนกรมสรรพากรเป็นครั้งสุดท้ายไปแล้วเมื่อวานนี้ พร้อมระบุว่า ยังมีกฎหมายมาตรา 61 ของประมวลรัษฎากร ที่ให้อำนาจกรมสรรพากรสามารถเรียกประเมินภาษีได้ก่อนจะหมดอายุความสิ้นเดือนนี้ แต่คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร กลับพิจารณาแต่ มาตรา 19 และ มาตรา 3 อัฏฐ วรรคสอง ซึ่งกำหนดให้ขยายเวลาออกหมายเรียกได้ไม่เกิน 3 ปี และการขยายเวลาต้องเป็นประโยชน์ต่อผู้เสียภาษีเท่านั้น

    ถ้ายืนยันว่าไม่สามารถออกหมายเรียกได้ แล้ว สตง.ตรวจสอบพบว่าสามารถเรียกเก็บภาษีได้ คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร และกรมสรรพากรจะต้องรับผิดชอบ โดยอาจมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ สตง.ยังไม่ได้รับหนังสือตอบกลับจากกรมสรรพากร

    โดย นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การพิจารณาของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ถือเป็นที่สิ้นสุด และเป็นครั้งสุดท้ายที่จะพิจารณากรณีนี้ และจะเป็นแนวทางปฏิบัติในอนาคตด้วย เป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรต้องไปดำเนินการตามขั้นตอนก่อนหมดอายุความ และชี้แจงต่อ สตง.

    ขณะที่ วันนี้ กรมสรรพากรยังไม่มีการชี้แจงถึงแนวทางดำเนินการใดๆ ต่อไป ทีมข่าวพยายามโทรศัพท์สอบถามอธิบดีกรมสรรพากร แต่ไม่สามารถติดต่อได้



    รายงานพิเศษ : พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง เครื่องมือขจัด “คอรัปชั่น”



    หลังจากมีการนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นที่รัฐบาลชุดนี้ ได้กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ ผ่านนโยบาย 4 ป. หนึ่งในนั้นคือ การป้องปราม ด้วยการกำหนดกฎกติกาการทำงานให้โปรงใส่ ผ่านพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560

     
    Last edited: 10 Mar 2017
  46. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    การทุจริตจากการจัดซื้อ-จัดจ้าง เป็นปัญหาใหญ่ที่กัดกินประเทศไทยมานานหลายปีที่ยังไม่มีรัฐบาลชุดไหนแก้ไขได้ โดยผลสำรวจล่าสุดชี้ว่า ธุรกิจส่วนใหญ่ในประเทศเชื่อว่าจะยังเกิดขึ้นต่อเนื่องอีกในปีนี้

    ผลสำรวจของบริษัทพีดับเบิลยูซี คอนซัลติ้ง ประเทศไทย พบว่า การทุจริตจัดซื้อจะกลายเป็นภัยที่คุกคามธุรกิจไทยในปี 2560 โดยภาคธุรกิจกว่า 90% เชื่อปีนี้ มีโอกาสเกิดการทุจริตจัดซื้อภายในองค์กรของตัวเอง สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากคนในร่วมมือกับคู่ค้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดการฮั้วในขั้นตอนการเลือกผู้ค้า

    จากการสำรวจผู้เข้าร่วมงานสัมมนา “พีดับเบิลยูซี ฟอเรนซิคส์ ซัมมิท” กว่า 400 รายพบว่า ผู้ถูกสำรวจมากถึง 93% ระบุว่า มีโอกาสเกิดการทุจริตจัดซื้อ กับธุรกิจที่ดำเนินการในประเทศไทยในช่วงปี 2560-2561 ซึ่งการทุจริตจัดซื้อนี้ถือเป็นปัญหาและภัยร้ายแรงที่ตรวจพบมากที่สุดเป็นลำดับต้นๆ ทั้งในประเทศไทยและระดับโลก

    สอดคล้องกับผลสำรวจอาชญากรรมทางเศรษฐกิจประจำปี 2559 ของพีดับเบิลยูซี ประเทศไทย ซึ่งทำการสำรวจองค์กรและภาคธุรกิจหลายประเภท ประกอบด้วยบริษัทจดทะเบียน บริษัทเอกชน และหน่วยงานภาครัฐในประเทศพบว่า การทุจริตจัดซื้อจะเป็นปัญหาการทุจริตที่ตรวจพบมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของไทยในปีนี้ รองจากการยักยอกสินทรัพย์ และการรับสินบนและคอร์รัปชัน ในอันดับที่ 3

    รายงานของพีดับเบิลยูซีชี้ว่า ปัญหาอาชญากรรมทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่ ล้วนเกิดขึ้นจากพนักงานภายในองค์กร ซึ่งทำให้ยากต่อการตรวจสอบการทุจริต โดยผลสำรวจในปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะผู้ถูกสำรวจเกือบ 80% ยอมรับว่า การกระทำทุจริตส่วนใหญ่ล้วนเกิดจากคนใน รวมถึงปัญหาการทุจริตจัดซื้อด้วย

    สาเหตุของการทุจริตจัดซื้อที่พบส่วนใหญ่ เกิดจากการที่พนักงานสมรู้ร่วมคิดกับคู่ค้า และบ่อยครั้งก็มีการฮั้วในขั้นตอนการเลือกผู้ค้า จึงมีความจำเป็นอย่างมากที่องค์กรต่างๆ จะต้องมีการตรวจสอบวิเคราะห์คุณสมบัติพื้นฐาน ของพนักงานและคู่ค้า และควรครอบคลุมถึงความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานกับบุคคลที่สามที่เป็นผู้ค้าของบริษัทในปัจจุบัน หรือที่อยู่ระหว่างการพิจารณาให้เป็นผู้ค้าด้วย

    การทุจริตที่เกิดจากบุคคลที่สาม ซึ่งเป็นผู้ค้าและคู่ค้าทางธุรกิจของบริษัท อาจทำให้บริษัทเกิดความเสี่ยงที่จะถูกฟ้องร้อง เนื่องมาจากความเกี่ยวข้องกับคอร์รัปชัน โดยผลการศึกษาขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือโออีซีดี พบว่า 75% ของเหตุการณ์คอร์รัปชันจำนวน 427 เหตุที่เกิดขึ้นทั่วโลกตั้งแต่ปี 2542 ล้วนเกี่ยวข้องกับการชำระเงินที่ไม่เหมาะสม ผ่านตัวกลางซึ่งเป็นบุคคลที่สาม

    ในส่วนของประเทศไทย พีดับเบิลยูซีแนะว่า ทุกฝ่ายยังคงต้องร่วมมือกันในการป้องกันและปราบปรามปัญหาอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น เพราะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประเทศ หลังจากผลการจัดอันดับดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันประจำปี 2559 ขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติที่เผยแพร่เมื่อปลายเดือนมกราคมระบุว่า ไทยตกมาอยู่ที่อันดับ 101 จากทั้งหมด 176 ประเทศ ซึ่งถือเป็นลำดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 3 ปีนับจากปี 2556 ซึ่งเวลานั้นไทยอยู่ในอันดับที่ 102

    ผลสำรวจล่าสุดของพีดับเบิลยูซี รวมถึงดัชนีความโปร่งใสขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ถือเป็นการตอกย้ำวิกฤตการคอร์รัปชันในประเทศไทยที่แพร่กระจายเป็นวงกว้างและฝังรากลึกในสังคม หากทุกฝ่ายยังไม่เร่งแก้ไข ประเทศไทยก็อาจต้อง “ติดหล่มทุจริต” แบบนี้ไปอีกนานหลายปี ซึ่งถือเป็นอุปสรรคใหญ่ในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน



    จากคดีการเรียกเก็บภาษีขายหุ้นชินฯ กว่า 10,000 ล้านบาท ที่กระทรวงการคลังและกรมสรรพากรยืนยันว่า คดีจบไปแล้วตั้งแต่ปี 2554 ไม่สามารถขยายอายุความได้ ทำให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เตรียมฟ้อง ป.ป.ช.ให้เอาผิดเจ้าหน้าที่ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทำให้รัฐเสียหาย



    นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการเรียกเก็บภาษีจำนวน 16,000 ล้านบาท จาก นายทักษิณ ชินวัตร กรณีขายหุ้นชินคอร์ปเมื่อปี 2549 โดยส่วนตัวไม่ถือเป็นเรื่องกดดัน และนายกรัฐมนตรีไม่ได้กำชับประเด็นใดเป็นพิเศษ แต่ถือเป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งได้สั่งการให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างรอบคอบ และให้เสร็จก่อนที่จะหมดอายุความในวันที่ 31 มีนาคมนี้

    ถึงแม้ว่าคณะกรรมการพิจารณาภาษีอากร มีมติว่าไม่สามารถขยายเวลาออกหมายเรียกได้ เพราะเลยช่วงเวลาที่สามารถทำได้ และการขยายเวลาเรียกเก็บภาษีไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อผู้เสียภาษี แต่กรมสรรพากรยังสามารถพิจารณาวิธีการจัดเก็บภาษีด้วยแนวทางอื่น เช่น แนวทางการใช้มาตรา 61 ของประมวลรัษฎากร ตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.เสนอ หากกรมสรรพากรไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้ จะต้องมีเหตุผลชี้แจงที่เหมาะสม

    ทั้งนี้กระทรวงการคลังได้ชี้แจงต่อ สตง.ไปบ้างแล้ว โดยขณะนี้กรมสรรพากรยังไม่ได้รายงานความคืบหน้ามายังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ส่วนกรณีไม่เรียกเก็บภาษี หรือปล่อยให้หมดอายุความ ถ้าเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่ จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ซึ่งก่อนหน้านี้กรมสรรพากรในขณะนั้น ได้ดำเนินการตรวจสอบไปบ้างแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงไม่สามารถเรียกเก็บภาษีได้ จนปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาถึงขณะนี้



    ประธาน กรธ.ย้ำเพื่อให้การพิจารณาคดีในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นไปอย่างรวดเร็ว จึงจะกำหนดให้พิจารณาคดีลับหลังได้ และไม่ต้องยกเว้นการนับอายุความ ตามร่างของศาลที่เสนอมา

    นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ.ชี้แนวโน้มการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ หรือ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่า เบื้องต้นจะกำหนดให้สามารถพิจารณาคดีลับหลังได้ เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องยกเว้นการนับอายุความ ในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ไปศาลตามร่างของศาลที่เสนอมา

    นายมีชัย มองว่า วิธีการดังกล่าวไม่ถือเป็นการริดรอนสิทธิ เพราะไม่ได้ห้ามนักการเมืองมาสู้คดี ส่วนเรื่องอายุความในคดีต่างๆ ยังคงมีอายุความ 10 ปี มีเพียงกรณีเดียวที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญใหม่ คือการแปรญัตตินำเงินงบประมาณไปให้ ส.ส.ใช้โดยมิชอบ ที่กำหนดให้มีอายุความเพิ่มขึ้นจาก 10 ปี เป็น 20 ปี ทั้งนี้ เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว ก็จะใช้กับคดีที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยไม่มีผลย้อนหลัง เว้นแต่กรณีที่เป็นคุณ เช่น การให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอุทธรณ์คดีได้



    เป็นการแจ้งจากกรมสรรพากร ให้เรียกเก็บภาษี 60 นักการเมืองในรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลังไม่เสียภาษีอย่างถูกต้อง จากทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นเมื่อพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งเข้าข่ายหลีกเลี่ยงภาษี มีโทษจำคุก โดย สตง.จะแจ้งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กำชับกรมสรรพากร ต่อไป

    เรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีบอก พร้อมส่งเรื่องต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแล้ว โดยยืนยันต้องเป็นการทำหน้าที่ไม่ใช่เป็นการกลั่นแกล้งกัน

    ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี บอกว่า เท่าที่ทราบมีนักการเมืองที่เข้าข่ายเลี่ยงภาษี 20-30 คน โดยจะต้องใช้มาตรฐานและบรรทัดฐานเดียวกันกับกรณีเรียกเก็บภาษีหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด ของ นายทักษิณ ชินวัตร โดยศาลจะเป็นผู้ตัดสินว่าถูกหรือผิด

    ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่กังวลเรื่องนี้ แต่ขอให้ใช้อำนาจตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา หากมีเงินได้พึงประเมินช่วงใด ก็ต้องเสียภาษีทุกคน

    ส่วน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แสดงความแปลกใจที่ สตง.จี้กรมสรรพากรดำเนินการเรื่องนี้ ทั้งที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอยู่แล้ว และไม่พบว่าผิดปกติ
     
    Last edited: 28 Mar 2017
  47. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    ป.ป.ช.เตรียมประสานงานกับทางการสหรัฐฯเพื่อยึดทรัพย์ของอดีตผู้ว่าททท.ที่อยู่ในต่างประเทศกว่า 65 ล้านบาท กลับคืนมา

    ความคืบหน้าการติดตามยึดทรัพย์ของ นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่ถูกป.ป.ช.ตัดสินว่าร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้อำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการจ้างนักธุรกิจชาวอเมริกันจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ

    ทั้งนี้ นายนิติพันธุ์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ บอกว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้รวบรวมหลักฐานอย่างต่อเนื่องทั้งไทยและต่างประเทศ จนปรากฏตามพยานหลักฐานว่า นางจุฑามาศ มีทรัพย์สินฝากในบัญชีประเทศอังกฤษ ไอร์แลนด์ สิงคโปร์ เกาะเจอร์ซี่ และ สวิสเซอแลนด์ โดยมีบุตรสาวเป็นผู้ถือครองแทน ดังนั้น ป.ป.ช.จึงได้ประสานกับทางการสหรัฐอเมริกา อายัดทรัพย์ไว้แล้ว ตามพันธกรณีที่จะต้องคืนทรัพย์ดังกล่าวให้รัฐไทย ตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการทุจริต เนื่องจากเป็นทรัพย์สินของรัฐไทยที่เกิดจากการทุจริต

    โดยหลังจากนี้ ป.ป.ช.จะประสานไปยังอัยการสูงสุด เพื่อเรียกทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ควบคู่กับการประสานไปยังสหรัฐอเมริกาที่ดำเนินคดีกับนักธุรกิจชาวอเมริกัน ในความผิดให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐต่างประเทศ อันเป็นความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช.สหรัฐอเมริกา และคดีนี้ถือเป็นคดีแรกและคดีตัวอย่างในการดำเนินคดีทุจริตข้ามชาติ

    สำหรับการดำเนินคดีนี้มีที่มาจากกระทรวงยุติธรรม สหรัฐอเมริกา ดำเนินคดีกับ นายเจอรัลด์ กรีน และ นางแพทริเซีย กรีน 2 สามี ภรรยา ในความผิดให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐต่างประเทศ โดยจำเลยทั้ง 2 ได้รับโทษถึงที่สุดแล้ว และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯกำลังอยู่ระหว่างดำเนินคดีกับนางจุฑามาศ และดำเนินการริบทรัพย์ทางแพ่ง และอายัดเงินในบัญชีธนาคารต่างๆ มูลค่า 65 ล้านบาท โดยปัจจุบันสหรัฐฯ ได้พักคดีดังกล่าวไว้เพื่อรอผลพิจารณาคดีอาญาของศาลในประเทศไทย ที่จะอ่านคำพิพากษาวันที่ 29 มีนาคมนี้



    เป็นการชี้มูลความผิด นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ข้อหาร่ำรวยผิดปกติ จากการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ และโครงการอื่นๆ ระหว่างที่ดำรงตำแหน่ง 65 ล้านบาท

    โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. รวบรวมพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง ทั้งในและต่างประเทศ จนปรากฏหลักฐานชัดเจนว่า นางจุฑามาศมีทรัพย์สินเป็นเงินที่ฝากอยู่ในต่างประเทศ 5 แห่งคือ อังกฤษ ไอร์แลนด์ สิงคโปร์ เกาะเจอร์ซีย์ และสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีบุตรสาวเป็นผู้ถือครองแทน

    ขั้นตอนต่อไป ป.ป.ช. จะขอให้อัยการสูงสุด เพื่อขอให้ศาลยึดทรัพย์ก่อนประสาน เพื่อขอให้ประเทศต่างๆ ที่อายัดทรัพย์สินไว้ โอนทรัพย์สินดังกล่าวให้ทางการไทย ฟ้องศาลยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน ส่วนคดีเรียกรับสินบนนั้น ศาลอาญาสืบพยานเสร็จสิ้นแล้ว และนัดอ่านคำพิพากษาวันที่ 29 มีนาคมนี้

    กรณีนี้ถือเป็นคดีทุจริตระหว่างประเทศคดีแรกที่ต้องติดตามทรัพย์สิน และเป็นคดีตัวอย่างที่ ป.ป.ช. ดำเนินการลงโทษผู้กระทำผิดในลักษณะเดียวกัน



    กรุงเทพฯ 24 มี.ค.-กรณีอดีตผู้ว่าการ ททท.ถูกชี้มูลความผิดคดีรับสินบนนักธุรกิจชาวอเมริกัน เพื่อจ้างให้จัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ ล่าสุด ป.ป.ช.มีมติให้ยึดทรัพย์ 65 ล้านบาท กลับคืนประเทศ ขณะที่ในส่วนของคดีอาญา ศาลนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 29 มีนาคมนี้ ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย



    รายงานพิเศษ : ย้อนรอยคดีอดีตผู้ว่าฯททท. รับสินบนข้ามชาติ
     
    Last edited: 30 Mar 2017

Share This Page