ยูเอ็นชมไทยคืบหน้าปราบค้ามนุษย์ ยูเอ็นและกลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ระบุ จำนวนผู้อพยพที่ล่องเรือเดินทางออกจากพม่าและบังกลาเทศลดลงอย่างมากในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา เพราะการปรามปรามกลุ่มลักลอบค้ามนุษย์ของไทยและบังกลาเทศ สำนักข่าวรอยเตอร์ นำเสนอรายงานเรื่องนี้โดยระบุว่า ตำรวจไทยเริ่มปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์อย่างเข้มข้นในเดือนพฤษภาคมปีก่อน หลังพบหลุมศพหมู่ 30 หลุมกลางป่าลึกใกล้ค่ายกักกันของขบวนการค้ามนุษย์ติดกับแนวชายแดนมาเลเซีย ซึ่งปฏิบัติการของตำรวจทำให้ขบวนการค้ามนุษย์ต้องทิ้งผู้อพยพกว่า 4,000 คนจากพม่าและบังกลาเทศไว้กลางทะเล ขณะที่อินโดนีเซีย มาเลเซียและไทย ต่างผลักดันเรือผู้อพยพให้พ้นจากชายฝั่ง นายคริส ลีวา จากโครงการอาระกัน ซึ่งให้ความช่วยเหลือผู้อพยพชาวโรฮิงญา เผยว่าในปีนี้จำนวนมนุษย์เรือลดลงอย่างมาก สืบเนื่องจากมาตรการจัดการกับพวกลักลอบค้ามนุษย์ในไทยและบังกลาเทศ และระหว่างเดือนกันยายนถึงธันวาคมปีที่แล้ว มีผู้อพยพล่องเรือมาจากบังกลาเทศและพม่าเพียง 1,500 คน ขณะที่ช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 ตัวเลขมนุษย์เรือสูงถึง 32,000 คน สอดคล้องกับคำพูดของวิเวียน ตัน โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ ที่ระบุว่า มีผู้อพยพขึ้นเรือในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้วลดลง เนื่องจากกลุ่มลักลอบค้ามนุษย์และผู้อพอพอาจรอดูสถานการณ์ หลังจากมีการตรวจสอบอย่างละเอียดและมีการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์อย่างหนัก เมื่อปีที่แล้ว http://www.now26.tv/view/66020
อีกหนึ่งโครงการที่ประสบความสำเร็จของลุงตู่ ยูเอ็นชมไทยคืบหน้าปราบค้ามนุษย์ ยูเอ็นชมแค่นี้ โครงการปรามปรามกลุ่มลักลอบค้ามนุษย์ประสบความสำเร็จเลยเรอะ ป๊าดๆๆ .... คิดได้เนอะ ประสบความสำเร็จ ปวดตับเลยตู
เคยไหม มีปัญญาไหมจะกล้าโต้แย้ง บรรทัดหักล้างต่อบรรทัด ดีแต่มาคอยงับ คอยจะต่อปากต่อคำเรื่องไร้สาระไปวันๆ ผมมองว่า ไม่มีราคาพอที่จะให้ผมเสียเวลาเสวนาด้วยแล้ว
เป็นอะไรครับ คำก็ราคา สองคำก็ราคา ทำไหมละครับผมพูดผิดอะไร ถามอะไรที่ไม่ควรถามหรือไง มีปัญญาไหมจะกล้าโต้แย้ง บรรทัดหักล้างต่อบรรทัด ขำ ผมเคยทำคนอื่นก็ทำแล้วเป็นไงครับ คนใจดำก็ไม่เคยเห็นฟังหรืออ่านอะไรเลย มือถือสาก ปากถือศรีจริงๆ
อย่าลืมว่าเรื่องนี้มันเป็นปัญหาคาราคาซังมาตั้งแต่อีปูยังเป็นนายกอยู่ การแก้ปัญหาของอีปูในวันนั้น ก็ส่งผลตามมาถึงลุงตู่ต้องตามมาเก็บกวาดปัญหาอีกรอบ อย่างน้อยถ้าเทียบวิธีการแก้ปัญหาแบบ head to head ระหว่าง "ลุงตู่" กับ "อีปู" แล้ว ก็ต้องบอกว่าลุงตู่แก้ปัญหาได้ดีกว่าจริงๆ ไปแก้ที่ต้นเหตุที่พม่าเลย จัดประชุมเรื่องคนอพยพทางเรือ จนประเทศพม่าต้องไปพัฒนาพื้นที่ของชาวโรฮิงญา จนพวกนี้อพยพมาลดลง แล้ว UN จึงให้คำชมมานี่ละ *************************************************************** ผลสรุป 20 ประเทศ รับ 3 มาตรการ แก้ปัญหา 'โรฮิงญา' เสาร์ 30 พฤษภาคม 2558 ผลการประชุมว่าด้วยการย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย มีมติร่วมกัน เสนอ 3 มาตรการ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาผู้อพยพชาวโรฮิงญา ประกอบด้วย 1. มาตรการเร่งด่วน จะร่วมกันค้นหาและช่วยเหลือทางมนุษยธรรมต่อผู้ที่ยังตกค้างในทะเล และร่วมกันหาแนวทางในการนำผู้อพยพขึ้นฝั่ง 2. เน้นการป้องกันการอพยพแบบไม่ปกติ การลักลอบ และการค้ามนุษย์เต็มรูปแบบ เพื่อกำจัดอาชญากรรมข้ามชาติ และ 3. แก้ปัญหาระยะยาวโดยการสร้างงาน เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ทำมาหากินในประเทศตัวเอง รวมทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ และ จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการสืบสวนพิเศษ ว่าด้วยการค้ามนุษย์ในประเทศที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เสนอให้เงินช่วยเหลือเพิ่มอีก 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 99 ล้านบาท ขณะที่ประเทศเมียนมา เห็นชอบกับผลการประชุมครั้งนี้ และยินดีให้ความร่วมมือกับต่างชาติจะเข้าร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ที่ต้นเหตุ แต่ยังไม่ได้พูดถึงการให้สัญชาติคนโรฮิงญา http://www.brighttv.co.th/th/news/ผลสรุป-20-ประเทศ-รับ-3-มาตรการ-แก้ปัญหา-โรฮิงญา **************************************************** แต่ขณะที่อีปูสั่งตั้งศูนย์พักพิง แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่ไม่แก้ต้นเหตุ เรื่องมันจึงไม่จบซักทีไงละ *************************************************************** นายกฯ ขอถก'ยูเอ็น'ก่อนผลัก'โรฮิงญา'ออกจากไทย 19 ม.ค. 2556 03:30 "ยิ่งลักษณ์" ขอถก "ยูเอ็น" ก่อนผลัก "โรฮิงญา" ออกจากไทย รับหากจะผลักดันให้ออกจากประเทศ ต้องมี ขั้นตอน และกระบวนการ รวมถึงตรวจสอบประเทศที่ 3 ที่จะให้ไปอยู่ด้วย วันที่ 19 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงการแก้ปัญหากรณี ชาวโรฮิงญาว่า เรื่องนี้เราต้องคุยกับทางองค์การสหประชาชาติด้วย ทุกอย่างต้องมีทั้งประเทศ ที่เป็นต้นสังกัด และประเทศที่สามที่จะไปอยู่ ซึ่งต้องมีกระบวนการตรวจสอบก่อน ที่ต้องให้เป็นไปตามหลักสากล และหลักมนุษยธรรม ระหว่างที่ รอต้องดำเนินการ ตามหลักมนุษยธรรมก่อน แต่อย่างไรก็ตาม เราจะพูดคุยกับสหประชาชาติ ซึ่งจะศึกษารายละเอียดก่อน ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการเสนอให้มีการตั้งศูนย์พักพิงให้กับกลุ่มชาวโรฮิงญา ในไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า เราอยากขออนุญาตว่า ให้มีการประสานงาน อย่างเป็นขั้นเป็นตอนก่อน เพราะการตั้งศูนย์พักพิงไม่ได้ตอบโจทย์ เพราะชาวโรฮิงญา มาต้องการอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย ซึ่งคงต้องดูว่า ต้นสังกัดประเทศต่างๆ ไปอะไรอย่างไร ต้องดูรายละเอียดก่อน ให้กระทรวงการต่างประเทศ พิจารณาก่อน เมื่อถามว่า นายกฯ มีแนวคิดที่จะผลักดัน ชาวโรฮิงญา กลับพม่าหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า อย่าพูดอย่างนั้น จริงๆ แล้วเราต้องดูก่อนว่า ไปที่ไหนปลอดภัยมากกว่า http://www.thairath.co.th/content/pol/321107 ***************************************************** เทียบกึ๋นการแก้ปัญหาเรื่องนี้ระหว่าง "ลุงตู่" กับ "อีปู" นี่ต่างกันราวฟ้ากับก้นเหวจริงๆ
พวกควายแดงมันบอกว่า อีปู มีมนุษยธรรมครับ นางฟ้าผู้ใจดี มีเมตตา ต่อชาวโรฮินจา ถ้ามีเมตตาให้ที่พักกับชาวโรฮินจา พื้นที่บริเวณบ้านอีปู เหลือที่เยอะเลย น่าจะให้ชาวโรฮินจาไปตั้งค่ายที่บริเวณบ้านมันนะ
อิจฉาสิครับ ก็รัฐบาลนังปูโง่มันมีแต่ผลงามหน้า เจ๊งทั้งแผ่นดิน พี่มันก็ขโมยผลงานคนอื่น นิสัยควายแดงขี้อิจฉาสิครับ
ยูเอ็นชมก็แค่รับฟังไว้ครับ หลงไหลได้ปลื้มเพลินไปเดี๋ยวฝรั่งตาน้ำข้าวก็แว้งกัดเราอีก เราไม่ควรลืมที่UNHCRให้สถานภาพผู้ลี้ภัยกับตั้ง อาชีวะ
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติออกแถลงการณ์ชื่นชมรัฐบาลไทย และที่มีคำสั่งอนุญาตให้คนต่างด้าวที่ตกเป็นเหยื่อหรือพยานในคดีค้ามนุษย์สามารถอาศัยอยู่ในไทยได้ครั้งละ 1 ปี และสามารถขออนุญาตทำงานได้ ปลัดกระทรวงมหาดไทยเปิดเผยว่า เป็นหนึ่งในนโยบายในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์และการเคารพในสิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ 29 มีนาคม มีประกาศกระทรวงมหาดไทย 2 ฉบับ โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีอาศัยอำนาจตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง อนุญาตให้คนต่างด้าว ซึ่งเป็นพยานและผู้เสียหายคดีค้ามนุษย์ ตามพระราชบัญญัติการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 ให้สามารถอยู่ในราชอาณาจักรไทยเป็นกรณีพิเศษครั้งละไม่เกิน 1 ปี หากมีความจำเป็นจะอยู่ได้ไม่ครั้งละไม่เกิน 1 ปี จนคดีสิ้นสุด โดยผู้ได้รับอนุญาตจะได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการค้ามนุษย์ส่งรายชื่อมายังกระทรวงมหาดไทยจัดทำทะเบียนประวัติ และบัตรประจำตัวสำหรับคนไม่มีสัญชาติไทยตามกฏหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฏร และระหว่างได้สิทธิอาศัยอยู่ชั่วคราว ผู้เสียหายและเหยื่อจากการค้ามนุษย์ที่เป็นชาวต่างด้าวทุกสัญชาติจะได้รับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เช่น การขออนุญาตทำงานจากกระทรวงแรงงาน การฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ ซึ่งปลัดกระทรวงมหาดไทยเปิดเผยว่า รัฐบาลมีนโยบายสำคัญเรื่องการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นภารกิจหนึ่งของกระทรวงมหาดไทย ที่เชื่อว่าจะมีส่วนช่วยในการป้องกันการค้ามนุษย์และการเคารพสิทธิมนุษยชน โดยล่าสุดสำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR ออกแถลงการณ์ชื่นชมรัฐบาลไทยที่มีประกาศเรื่องนี้ ผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย กล่าวในแถลงการณ์ชื่นชมรัฐบาลไทยและกระทรวงมหาดไทยที่มีนโยบายนี้เพราะจะส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งมีชาวต่างด้าวที่ตกเป็นเหยื่อ และพยานการค้ามนุษย์ทีจะได้รับประโยชน์ในระหว่างที่รอเดินทางกลับบ้าน และเป็นแนวทางที่ดีในการแก้ไขปัญหาระยะยาว โดยเฉพาะกลุ่มชาวโรฮิงญาที่ถูกควบคุมตัวในสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกว่า 400 คน ซึ่งปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวย้ำว่านโยบายนี้อนุญาตเฉพาะเหยื่อและพยานการค้ามนุษย์เท่านั้นยังไม่รวมถึงชาวต่างด้าวที่ถูกควบคุมตัวตามกฏหมายคนเข้าเมือง "ไทย" หวังสหรัฐฯ พิจารณาหลุด "เทียร์ 3" ไทย-เมียนมาสกัดค้ามนุษย์ ตั้งคณะทำงานร่วมภายใน มิ.ย.นี้
วันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันต่อต้านการค้ามนุษย์ ปีนี้รัฐบาลจึงร่วมกับหลายภาคส่วนจัดงานเเละมอบรางวัลให้แก่ผู้ปฏิบัติงานและสื่อมวลชนดีเด่น ด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเเละกล่าวมอบนโยบาย เน้นย้ำทุกหน่วยงานต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เป็นประธานพิธีเปิดงานวันต่อต้านการค้ามนุษย์ ประจำปี 2559 "ประชารัฐ ร่วมใจ ต้านภัยการค้ามนุษย์" นายกรัฐมนตรี บอกว่าสาเหตุของปัญหาค้ามนุษย์เกิดจากความเหลื่อมล้ำในสังคม ความยากจนทำให้หลายคนต้องหารายได้เพิ่ม จนตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ การแก้ปัญหานี้จึงจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐขอให้ปฏิบัติตามกฏหมาย ไม่เข้าไปข้องเกี่ยวหรือมีผลประโยชน์ร่วม และห้ามใช้ตำแหน่งหน้าที่ประกันตัวในคดีนี้ นอกจากนี้ยังมอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณากฏหมายค้ามนุษย์ ทั้งการเพิ่มอำนาจปกครองในการสั่งปิดพักใบอนุญาตสถานประกอบการและเพิ่มโทษให้สูงขึ้น ส่วนผู้เสียหายรัฐบาลจะให้การช่วยเหลือ โดยคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์แบบไม่เลือกปฏิบัติ นอกจากภาครัฐ ภายในงานยังมีองค์กรพัฒนาเอกชนด้านการค้ามนุษย์ ผู้หญิง เด็ก และแรงงาน มาร่วมงานมากกว่า 30 องค์กร เเละหนึ่งในเครือข่ายที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาใหม่ก็คือกลุ่มสหภาพลูกเรือประมง ไทยและข้ามชาติ หรือ TMFG เป็นตัวแทนของอดีตกลุ่มลูกเรือประมงในน่านน้ำอินโดนีเซีย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงด้วยนอกจากนั้นยังมีผู้แทนของแรงงานชาวพม่าในประเทศ ไทย คือคณะกรรมการสมานฉันท์ส่งเสริมคุ้มครองแรงงานข้ามชาติชาวพม่า หรือ SCPM และเครือข่ายระหว่างประเทศ คือ เครือข่ายความร่วมมือเพื่อความโปร่งใสในภาคการประมงและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง หรือ MAST มาร่วมลงนามด้วย ภายในงานยังมีการมอบรางวัลให้กับเจ้าหน้าที่เเละผู้ปฏิบัติงานดีเด่นจำนวน 12 รางวัล เเละมอบให้สื่อมวลชนที่มีผลงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ จำนวน 3 รางวัล เเบ่งเป็นประเภทสื่อวิทยุ 1 รางวัล ได้เเก่สื่อวิทยุองค์การเสียงสันติ เรื่อง "คุณรู้สึกอย่างไร" ส่วนประเภทสื่อโทรทัศน์ 2 รางวัล ได้แก่สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ผู้รับรางวัลคือ นายสถาพร ด่านขุนทด ผู้สื่อข่าวรายการข่าว 3 มิติ จากเรื่อง "กวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์หญิงสัญชาติลาว จ.ชุมพร" ส่วนอีกรางวัลเป็นของวอยซ์ทีวี เรื่อง "เปิดโปงขบวนการขอทานพัทยา"ซึ่งทั้ง 3 ผลงานมีความโดดเด่นด้านการนำเสนอ สร้างความตระหนักให้ประชาชนเข้าใจปัญหา บทลงโทษจากการกระทำความผิด และความพยายามของรัฐบาลในการปราบปรามการค้ามนุษย์ นายกฯยอมรับมีไอเดียใช้อำนาจพิเศษในการจัดการปัญหาค้ามนุษย์เรียกร้องต่างชาติเข้าใจลดกดดันไทยมากเกินไป วันนี้(6มิ.ย.59)พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวเปิดงาน วันต่อต้านการค้ามนุษย์ ประจำปี 2559 “ประชารัฐ ร่วมใจ ต้านภัยการค้ามนุษย์” ที่ทำเนียบรัฐบาลเช้านี้ โดยเรียกร้องให้ทูตานุทูตเข้าใจว่าปัญหาการค้ามนุษย์ไม่ได้มีแต่ประเทศไทยประเทศเดียว และการแก้ปัญหาต้องการความร่วมมือจากประเทศพัฒนาแล้วด้วยเช่นกัน รวมถึงไม่ควรกดดันประเทศไทยมากเกินไป เพราะประเทศเล็กก็มีสิทธิมีเสียงเท่าเทียมกัน พร้อมทั้งระบุว่าต้องการใช้อำนาจพิเศษในการเข้าจัดการเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และติงสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวสารประเด็นการค้ามนุษย์ไม่ควรทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีกับประเทศ ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าปัญหาการค้ามนุษย์นั้นต้องพิจารณาทั้งประเทศที่เป็นต้นทางกลางทาง และปลายทาง ต้องแก้ ปัญหาความยากจน,ความเหลื่อมล้ำ,ความไม่เป็นธรรมเพราะการมีคนจน รายได้น้อยจำนวนมาก ทำให้เกิดการไขว่คว้าแสวงหา ทำให้เกิดความต้องการที่จะเดินทางออกจากถิ่นที่อยู่ และทำให้เกิดกระบวนการค้ามนุษย์ ทุกปัญหาเกิดจากความยากจน ความยากจนเป็นปัญหาของทุกเรื่อง ขณะที่รัฐบาลไทยและอาเซียนได้สัญญากันแล้วว่าจะร่วมกันพัฒนา ในระดับไตรภาคีซึ่งประเทศพัฒนาแล้วจะช่วยพัฒนาประเทศที่กำลังพัฒนา ทั้งนี้ต้องการใช้อำนาจพิเศษเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ และมุ่งทำให้ทุกอย่างโปร่งใส และมุ่งมั่นปราบปรามผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด รวมถึงการทุ่มเทงบประมาณซึ่งที่ผ่านมาได้เพิ่มงบประมาณมากขึ้นถึงร้อยละ 69 หรือราว 2,500 ล้านบาทให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำเนียบฯ 6 มิ.ย.-นายกฯ เป็นประธานเปิดงานต่อต้านการค้ามนุษย์ ย้ำหากพบเจ้าหน้าที่รัฐคนใดมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด และจะไม่ยกเลิกการใช้มาตรา 44 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานวันต่อต้านการค้ามนุษย์ประจำปี 2559 ระบุแม้สถานการณ์การค้ามนุษย์จะดีขึ้น แต่ยังไม่พอใจ เพราะเป้าหมายสุดท้ายคือจะต้องไม่มีการค้ามนุษย์เกิดขึ้นอีกในไทย ซึ่งการแก้ปัญหานั้นต้องมีความร่วมมือจากทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะประเทศต้นทาง พร้อมย้ำว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นต้องไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง หากพบจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด พร้อมระบุว่ามีคนบางกลุ่มต้องการให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 แก้ปัญหา เพื่อหวังให้ต่างประเทศมองว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนในไทย.-สำนักข่าวไทย ข่าว 7 สี - นับตั้งแต่ปี 2557 รัฐบาลได้เร่งแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างเต็มที่ในทุกมติ ติดตามจากรายงานของ คุณวรัญญู นวกาลัญญู สหรัฐอเมริกา มองปัญหาการค้ามนุษย์ของไทยรุนแรงมากขึ้น เป็นทั้งแหล่งต้นทาง ปลายทาง และทางผ่านสำหรับการค้ามนุษย์ ทั้งผู้ชาย ผู้หญิงและเด็ก โดยเฉพาะแรงงานอพยพในไทยที่มีประมาณ 3-4 ล้านคน ที่เชื่อว่าบางส่วนถูกบังคับข่มขู่ ล่อลวงมาใช้แรงงานในธุรกิจประมง การให้บริการทางเพศ และผู้ใช้แรงงานตามบ้าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ไทย เข้ามาเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ทำให้ปราบปรามแก้ปัญหายากขึ้น ความรุนแรงของปัญหาที่เพิ่มขึ้น ทำให้เมื่อปี 2557 ไทยถูกปรับลดอันดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ มาอยู่อันดับ 3 หรือเทียร์ 3 ซึ่งบ่งชี้ว่าไทยเป็นประเทศที่ดำเนินการไม่สอดคล้องกับมาตรฐานขั้นต่ำ ตามกฏหมายด้านการค้ามนุษย์ของสหรัฐ อันดับเทียร์ 3 ที่ไทยได้รับ จำเป็นต้องเร่งแก้ไขก่อนที่ไทยจะถูกสหรัฐอเมริกาลดความช่วยเหลือด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านการค้าขายระหว่างกัน รัฐบาลจึงต้องเร่ง "ปฎิรูป" ระบบการแก้ไขปัญหาให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อพิสูจน์ให้นานาชาติรับทราบว่า ไทยไม่ได้ปล่อยปละละเลยกับปัญหาการค้ามนุษย์ โดยเริ่มจากการกำหนดนโยบาย ประกาศต่อต้านการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ โดยตั้งกลไกระดับชาติที่มีนายกรัฐมนตรี เข้ามาร่วมขับเคลื่อน แก้ไขปรับปรุงกฎหมายหลายฉบับ โดยเฉพาะพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่เข้มข้นขึ้นอย่างชัดเจนคือ เรื่องบังคับใช้กฎหมาย มีการทลายเครือข่ายผู้กระทำผิด จับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์มาลงโทษแบบไม่ละเว้น แก้ไขจัดระเบียบแรงงานในภาคประมง และขึ้นทะเบียนแรงงานเพื่อนบ้านกว่า 2,500,000 คน ให้ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านดูแลแรงงานอพยพ รวมถึงจัดทำบันทึกข้อตกฉบับประชารัฐ ร่วมกันแก้ปัญหาร่วมกับภาคเอกชน ส่วนการปกป้องแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวโรฮีนจา ได้หาทางแก้ปัญหาร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านจนได้รับคำชมจาก สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ความมุ่งมั่นแก้ปัญหาเชิงรุก ทำให้ปัญหาค้ามนุษย์ในมุมมองของรัฐบาลไทยดูดีขึ้น ดำเนินคดีจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์เพิ่มขึ้น ที่สำคัญกระบวนการฟ้องร้องรวดเร็ว ส่งผลให้ความพยายามในการคุ้มครองและป้องกันปัญหาเพิ่มขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อการพิจารณา รายงานความคืบหน้าแก้ไขปัญหาที่ไทยส่งให้สหรัฐอเมริกาไปแล้ว 2 ฉบับในรอบปีนี้ ซึ่งเดือนกันยายนนี้ น่าจะทราบชัดเจนไทยหลุดพ้นเทียร์ 3 หรือไม่ เร่งแก้ "ค้ามนุษย์" "นายกฯ" ลั่นต้องสำเร็จ 100%
มีข้อมูลที่น่าสนใจว่าสถานบริการอาบ อบ นวด ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการใหม่ โดยจัดหาหญิงข้ามชาติราคาถูก เข้ามาให้บริการนักท่องเที่ยว โดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ความคืบหน้ากรณีฝ่ายปกครองกระทรวงมหาดไทย 100 นาย เข้าตรวจสอบการดำเนินกิจการของ นาตารีเอ็นเตอร์เทนเมนท์ อาบอบนวด ถนนรัชดาภิเษก จับกุมหมอนวด 115 คน พร้อมบัญชีส่วยที่ส่งจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่รัฐฯ จำนวนหลายหน่วยงาน กระทรวงมหาดไทย ได้รับแจ้งจากองค์กรพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศด้านต่อต้านการค้ามนุษย์ NVADER แจ้งเบาะแส ศูนย์ดำรงธรรมกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ว่า สถานบริการนี้ มีการนำพาหญิงต่างด้าว อายุต่ำกว่า 18 ปี เข้ามาแอบแฝงค้าประเวณี / เข้าข่ายเป็นการค้ามนุษย์ ระหว่างการตรวจค้นยังพบบัญชีรายจ่าย หรือ ส่วยประเวณี" ที่สถานบริการ จ่ายต่อผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องจำนวนหนึ่ง มีการโอนเงินเข้าบัญชีให้กับบุคคลต่างๆ ด้วยจึงเก็บเป็นหลักฐาน สถานบริการอาบอบนวด นาตารี เป็นของเสี่ยคนดัง อักษรย่อ นาย ก. มีชื่อเล่น เสี่ย ล.เคยโด่งดังเมื่อครั้งมีข่าวปะทะกับเจ้าพ่ออ่างชื่อดัง เกี่ยวกับการขออนุญาตเปิดสถานอาบอบนวด ย่านถนนรัชดา แต่มีปัญหาอยู่ติดกับสถานศึกษา จนเกิดการตีความว่าผิด พ.ร.บ. สถานบริการหรือไม่ การเปิดค้าประเวณี จะส่งผลกระทบต่อจัดอันดับในกลุ่มเทียร์ 3 หรือประเทศที่ยังมีสถานการณ์การค้ามนุษย์ในระดับเลวร้าย เพราะสถานบริการอาบ อบ นวด ทุกแห่ง ล้วนมีการค้าประเวณีแอบแฝงด้วย รวมไปถึงสถานนวดแผนโบราณ ไม่ว่าจะเป็นย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ย่านรัชดา - ห้วยขวาง ย่านถนนประเสริฐมนูญกิจ - ประดิษฐ์มนูธรรม หรือ ถนนเกษตร - นวมินทร์ ถนนเลียบทางด่วน ย่านถนนพระราม 9 เชิงสะพานปิ่นเกล้าฯ บางยี่ขัน ย่านชานเมืองตามความเจริญเติบโตของเมืองหลวง โดยสถานที่เหล่านี้มักจะเขียนคำว่า ห้ามค้าประเวณี ซึ่งเป็นเทคนิคการเลี่ยงกฎหมายเท่านั้น ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา "นาตารี" กลายเป็นแหล่งสวรรค์ของนักท่องเที่ยว ด้วยรูปแบบจัดสาวบริการต่างด้าว จำนวนมากในราคาไม่แพงไว้บริการ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนโดยมีเจ้าน้าที่ของรับอำนวยความสะดวกให้ จนเป็นที่มาของโพยส่วย ที่กระทรวงมหาดไทยตรวจพบ รณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ผู้อำนวยการฝ่ายสืบสวนองค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ กับกรณีที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองนำกำลังบุกจับกุมค้าประเวณีที่สถานบริการ นาตารี อาบอบนวด ย่านรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและค้ามนุษย์เห็นชอบจัดตั้งศูนย์แรกรับเข้าทำงานและส่งกลับแรงงานต่าวด้าว พร้อมตั้งศูนย์ร่วมบริการช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวป้องกันแรงงานบังคับ-ค้ามนุษย์ อธิบดีกรมการจัดหางาน(กกจ.) กระทรวงแรงงาน นายอารักษ์ พรหมณี(พรม-มะ-นี) บอกว่า เมื่อเร็วๆนี้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน(กนร.)มีมติเห็นชอบให้กระทรวงแรงงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งศูนย์แรกรับเข้าทำงานและส่งกลับแรงงานต่างด้าวตามแนวชายแดนขึ้นที่จังหวัดตาก สระแก้วและหนองคาย เพื่อสร้างความเข้าใจกับนายจ้างและตัวแรงงานต่างด้าวเกี่ยวกับขั้นตอนและกฎหมายในการเข้ามาทำงานในไทยเพื่อป้องกันปัญหาแรงงานบังคับที่อาจนำไปสู่การค้ามนุษย์ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติให้ก.แรงงานจัดตั้งศูนย์ร่วมบริการช่วยเหลือแรงงานต่างด้าว เพื่อให้แรงงานต่างด้าวมีหน่วยงานรับเรื่องร้องทุกข์และให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้นจะตั้งในจังหวัดที่มีแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก คือ สมุทรสาคร ระนอง และชลบุรี กรมการจัดหางานกระทรวงแรงงานระบุว่าจำนวนแรงงานต่างด้าวที่มีใบอนุญาตสีชมพูแล้ว มีทั้งสิ้นประมาณ 1 ล้าน 8 แสนคน แบ่งเป็นแรงงานที่มีใบอนุญาตสีชมพูแล้วประมาณ 1 ล้าน 6 แสนคน ที่เหลืออีกประมาณ 2 แสนคนเป็นแรงงานต่างด้าวที่มีหนังสือเดินทางเข้าประเทศไทย แต่ยังไม่มีใบอนุญาต ล่าสุดได้ผ่อนผันให้มีขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวได้จนถึงวันที่ 29 กรกฎาคม ที่สำคัญได้อนุโลมไม่ต้องนำผลการตรวจร่างกายมาเป็นหลักฐานการขึ้นทะเบียนเหมือนก่อนหน้านี้ โดยสามารถนำใบเสร็จรับเงินที่ชำระค่าบริการในการตรวจร่างกายมาเป็นเอกสารแทนได้ เพื่อความรวดเร็วในการขึ้นทะเบียน หากแรงงานต่างด้าวรายใดฝ่าฝืนไม่มาขึ้นทะเบียนภายในเวลาที่กำหนดทางกรมการจัดหางานจะใช้บทลงโทษขั้นสูงสุดตามกฎหมายที่ให้อำนาจไว้ เช่น กรณีทำงานผิดประเภท หรือผิดนายจ้างไม่ตรงกับเอกสารที่ระบุไว้ ต้องเป็นนายจ้างคนเดิมอย่างน้อย 2 ปี กฎหมายให้ปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 100,000 บาท แต่ครั้งนี้จะลงโทษสูงสุดถึง 100,000 บาท ส่วนแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาต กฎหมายให้ปรับตั้งแต่ 2,000 บาทจนถึง 100,000 บาท ครั้งนี้ก็จะถูกปรับ 100,000 บาททันที กรณีนายจ้างที่ว่าจ้างต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตมีความผิดขั้นสูงสุดเช่นกัน ถูกปรับเป็นเงิน 100,000 บาท ตลาดคลองเตยแห่งนี้เคยเต็มไปด้วยคนไทย แต่เมื่อประเทศมีการพัฒนาไปมาก คนไทยกลับไม่ต้องการเป็นแรงงานในตลาดสดอีกต่อไป ทำให้แรงงานต่างด้าวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากสถิติแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายมีมากที่สุดคือการลักลอบเข้ามาทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต แต่หลังจากทางการจริงจังกับเรื่องนี้ทำให้มีการลักลอบเข้าประเทศน้อยลง แต่ความผิดกลับพบว่า แรงงานต่างด้าวทำงานผิดประเภท ผิดนายจ้างที่ขอจากใบอนุญาตเพิ่มมากขึ้น หรือแม้กระทั่งเสี่ยงที่จะแย่งอาชีพคนไทย ทางการเปิดโอกาสให้แรงงานต่างด้าวรายเก่า ที่มีใบอนุญาตสีชมพู และพาสปอร์ต เข้ามาขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวจนถึงวันที่ 29 ก.ค.นี้ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้แรงงานต่างด้าวทำงานได้อย่างถูกกฎหมายและยังสามารถเปลี่ยนประเภท เปลี่ยนนายจ้างได้ เพื่อการทำงานอย่างถูกกฎหมายในไทยต่อไป
สำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุรัฐบาลสหรัฐยกระดับไทยขึ้นเป็น Tier 2 Watch List พ้นจาก Tier 3 ในรายงานสถานการณ์ค้ามนุษย์ประจำปี 2559 ที่เตรียมประกาศในวันพฤหัสบดีนี้ รายงาน "เอ็กซ์คลูซีฟ" ของสำนักข่าวรอยเตอร์ส ที่อ้างการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน และเจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศที่มีสำนักงานอยู่ในกรุงเทพฯ ระบุว่า ประเทศไทยได้รับการปรับขึ้นไปอยู่บัญชีประเทศที่มีสถานการณ์การค้ามนุษย์ในกลุ่ม "เทียร์ 2 ที่ต้องจับตามอง" (Tier 2 Watch List) จากระดับที่ 3 (Tier 3) อันเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจช่วยให้ความสัมพันธ์กับไทยภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหารราบรื่นขึ้น ข่าวนี้ถูกมองว่า เป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับไทยที่หาได้ยากในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ความสัมพันธ์ของสองประเทศเย็นชาลง นับตั้งแต่ทหารยึดอำนาจโดยการรัฐประหาร เมื่อปี 2557 ที่สหรัฐฯ แถลงประณามอย่างแข็งกร้าว และยังมีขึ้นในช่วงที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กำลังหาแนวร่วมในหมู่ชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อต่อต้านจีนที่อ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนในทะเลจีนใต้ ก่อนหน้านี้ ประเทศไทยได้ทำการประท้วงไปยังสหรัฐฯว่า ควรจะได้รับการถอดออกจากระดับที่ต่ำที่สุดในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ประจำปี หรือ TIP ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ที่มีกำหนดจะเผยแพร่ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งคาดว่าจะอ้างถึงการปรับปรุงไปในทางที่ดีขึ้นของไทย ในความพยายามต่อสู้กับการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมประมงที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ การปรับระดับครั้งนี้จะทำให้ไทยขึ้นไปอยู่ในระดับ เทียร์ 2 ที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watch List) โดยขึ้นมาจากบัญชีประเทศที่มีสถานการณ์การค้ามนุษย์ในระดับที่เลวร้ายที่สุด หรือ เทียร์ 3 (Tier 3) ทั้งนี้ ประเทศไทยถูกปรับอันดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ ลดลงไปอยู่ในระดับต่ำที่สุด เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2557 หรือในเวลาไม่กี่สัปดาห์ หลังจากทหารยึดอำนาจการบริหารประเทศ สหรัฐฯ จัดระดับประเทศต่าง ๆ ตามเกณฑ์ในกฎหมายคุ้มครองเหยื่อการค้ามนุษย์ (Trafficking Victims Protection Act - TVPA) เป็น 4 ระดับ ได้แก่ ระดับที่ 1 (Tier 1) คือ ประเทศที่ดำเนินการสอดคล้องกับมาตรฐานขั้นต่ำตามกฎหมายของสหรัฐฯ ทั้งด้านการป้องกันและบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการค้ามนุษย์และการคุ้มครองเหยื่อการค้ามนุษย์ ระดับที่ 2 (Tier 2) คือ ประเทศที่ดำเนินการไม่สอดคล้องกับมาตรฐานขั้นต่ำตามกฎหมายสหรัฐฯ แต่มีความพยายามปรับปรุงแก้ไข ระดับที่ 2 ซึ่งต้องจับตามองเป็นพิเศษ (Tier 2 Watch List) คล้ายกับ Tier 2 โดยมีจำนวนเหยื่อการค้ามนุษย์เพิ่มขึ้น หรือไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ารัฐบาลเพิ่มความพยายามดำเนินการต่อต้านการค้ามนุษย์ ระดับที่ 3 (Tier 3) คือ ระดับต่ำสุด หมายถึงประเทศที่ดำเนินการไม่สอดคล้องกับมาตรฐานขั้นต่ำตามกฎหมายสหรัฐฯ และไม่มีความพยายามแก้ไข ข่าว 7 สี - เช้าวันศุกร์ตามเวลาประเทศไทย ก็จะชัดเจนว่าสหรัฐฯ ปรับอันดับค้ามนุษย์ของไทยดีขึ้นมาอยู่ที่ "เทียร์ 2" ตามกระแสข่าวที่ออกมาหรือไม่ ติดตามจาก รายงานคุณวรัญญู นวกาลัญญู รายงานคืบหน้าการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ ที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อหาการแก้ไข ป้องกัน ปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่รัฐบาลไทยทำอย่างเข้มข้นตลอด 1 ปีเต็มได้ถูกส่งไปยังกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยหวังว่า ผลงานความตั้งใจชิ้นนี้จะช่วยให้ไทยหลุดพ้น จากกลุ่มประเทศที่ยังปฎิบัติไม่ได้ตามมาตรฐานขั้นต่ำของสหรัฐฯ ในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ หรือ เทียร์ 3 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะประกาศรายงานประจำปีเรื่องสถานการณ์ค้ามนุษย์ หรือ TIP Report ประจำปี 2559 วันที่ 30 มิถุนายนซึ่งตรงกับเช้าวันศุกร์ของไทย เนื้อหาเด่นในรายงานที่ส่งถึงสหรัฐฯ มุ่งเน้นชี้ให้เห็นถึงปราบปรามคดีค้ามนุษย์ ที่เข้มข้นขึ้นมาก จับกุมผู้กระทำผิดทั้ง คดีทางเพศ บังคับใช้แรงงาน ขอทานมากถึง 317 คดี และสามารถเอาผิดจับกุมเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ได้อีก 34 ราย รวมทั้งผลักดัน พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2558 ฉบับที่ 2 ออกมาใช้ โดยกำหนดโทษสั่งปิดสถานประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ทันที ครั้งนี้ไทยต้องพยายามอย่างสุดตัวให้หลุดพ้น เทียร์ 3 ที่อยู่มา 2 ปีติดต่อกัน เพราะหากไม่ทำ อาจต้องสูญเสียความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐฯในด้านต่างๆ และอาจถูกสหรัฐฯคัดค้านไม่ให้ ไอเอ็มเอฟ. ธนาคารโลก แม้แต่กลุ่มเอ็นจีโอ.ช่วยเหลือดูแลไทย ตรงกันข้าม ถ้าไทยได้ขยับขึ้นสู่ เทียร์ 2 ได้จริงตามข่าวที่ออกมาโอกาสการค้าการลงทุน โดยเฉพาะการส่งออกอาหารทะเล อาหารแช่แข็ง อาหารแปรรูปต่าง ๆ รวมไปถึงธุรกิจเสื้อผ้า สิ่งทอ ที่ถูกมองว่าเป็นสินค้าที่ได้จากการค้ามนุษย์ จนสูญเสียมูลค่าส่งออกกว่า 200,000 ล้านบาท ต้องพลิกฟื้นดีขึ้น เมื่อส่งออกดีขึ้นเศรษฐกิจไทย จะได้กลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง เช้าวันศุกร์นี้ จึงเป็นอีกบทพิสูจน์การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ของไทยจะแข็งขันได้ใจสหรัฐฯมากแค่ไหน ทีมข่าวสังคม รายงาน วันนี้ เวลา 20.00 น. สำนักงานเพื่อการต่อสู้กับการค้ามนุษย์ของสหรัฐฯ จะเผยแพร่รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ หรือ ทิปรีพอร์ต ประจำปี 2016 ซึ่งเป็นการประเมินความพยายามของรัฐบาลต่างๆทั่วโลก ว่าจัดการปัญหาค้ามนุษย์ได้ตามมาตรฐานของสหรัฐฯ หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาไทยถูกจัดอันดับให้อยู่ขั้นต่ำสุด หรือ เทียร์ 3 แต่ในปีนี้ มีรายงานว่าไทยจะได้รับการยกระดับขึ้น 1 ขั้น เป็นเทียร์ 2 เนื่องจากมีความก้าวหน้าในการดำเนินคดี และคุ้มครองผู้เสียหาย โดยปีที่ผ่านมารัฐบาล สามารถดำเนินคดีผู้ต้องหาค้ามนุษย์ได้ 317 คดี เพิ่มขึ้น 53% จับผู้ต้องหาได้ 242 คน เพิ่มขึ้น 56% ศาลตัดสินลงโทษแล้ว 241 คน เพิ่มขึ้น 131% และมีการฟ้องอาญาเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำผิด 34 คน เพิ่มขึ้น 91% โดยเป็นผลมาจากการแก้กฎหมาย 8 ฉบับ รวมถึงการตั้งศาลแผนกคดีการค้ามนุษย์ และเพิ่มงบประมาณแก้ปัญหาจาก 1,700 ล้านบาท เป็นประมาณ 2,500 ล้านบาท ส่วนการคุ้มครองเหยื่อ สามารถช่วยเหลือเหยื่อได้ 720 คน เพิ่มขึ้น 21% รวมทั้งยังเปิดสายด่วน 1300 ที่มีล่ามภาษาต่างๆ คอยให้การแนะทำให้นำไปสู่การช่วยเหลือเหยื่อได้ถึงราว 50 คน และถ้าเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้จะส่งผลดีต่อการส่งออกของไทย โดยเฉพาะอาหารทะเลแช่แข็ง ที่มีมูลค่าส่งออกไปสหรัฐ 21,000 ล้านบาทต่อปี เนื่องจากถูกสหรัฐฯชะลอการนำเข้าสินค้า อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯเตรียมจะออกกฎหมาย IUU เพื่อตรวจสอบย้อนกลับอาหารทะเล ว่ามีการใช้แรงงานทาส หรือมีการจับปลาเกินขนาด ไร้การควบคุมหรือไม่ คาดว่าจะออกกฎหมายได้ภายในปีนี้ รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (TIP Report) 2014 – 2015 : ไทยถูกจัดอยู่ในอันดับ Tier3 (ต้องเฝ้าระวัง) 2016 : แนวโน้มขยับขึ้นเป็น Tier2 (ต้องจับตามอง) การดำเนินการของไทย แก้ไขกฎหมาย 8 ฉบับ ตั้งแผนกคดีค้ามนุษย์ในศาลยุติธรรม ดำเนินคดีค้ามนุษย์ 317 คดี (เพิ่มขึ้น 53%) จับผู้ต้องหา 242 คน (เพิ่มขึ้น 56%) ศาลตัดสินลงโทษ 241 คน (เพิ่มขึ้น 131%) ฟ้องคดีอาญา จนท.รัฐ 34 คน (เพิ่มขึ้น 91%) ช่วยเหลือเหยื่อ 720 คน (เพิ่มขึ้น 21%) ข่าว 7 สี - อีกไม่นานก็จะได้ทราบผลว่า สหรัฐฯจะปลดไทยหลุดพ้นจากเทียร์ 3 หรือไม่ และไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ไทยก็จะเดินหน้าแก้ปัญหาค้ามนุษย์อย่างเข้มงวด ต่อไป ติดตามจากคุณวรัญญู นวกาลัญญู เอกสารรายงานความคืบหน้าการแก้ปัญหาสถานการณ์การมนุษย์ของไทยกว่า 156 หน้า ถูกเรียบเรียงเป็นรูปเล่มส่งให้กับสหรัฐฯ ด้วยความหวังไทยจะได้ปลดล็อคไทยจาก เทียร์ 3 คือประเทศที่มีปัญหาการค้ามนุษย์รุนแรงและเลวร้ายที่สุด เนื้อหาการปราบปรามผู้ที่เอี่ยวเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ เป็นจุดเด่นของรายงานฉบับนี้ เพื่อตอกย้ำให้เห็นว่าไทยไม่ได้ละเลยที่จะปฎิบัติตามกฎสากลในเรื่องของการค้าการลงทุนยุคใหม่ต้องมี ศีลธรรม ไม่กดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบแรงงาน ความพยายามแก้ปัญหาที่ผ่านมา เห็นผลเชิงประจักษ์มากขึ้น จนได้รับคำชมจากนานาประเทศ แต่ "คำชม" และ "อันดับสถานการณ์การค้ามนุษย์" ที่ดีขึ้นไม่ใช่เป้าหมายหลักของรัฐบาล สิ่งที่ต้องทำจากนี้ไป คือเพิ่มมาตรฐานดูแลแรงงานไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ เข้มงวดปราบปรามขจัดปัญหาให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย ความสำเร็จในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ จำเป็นที่ภาครัฐภาคเอกชนต้องประสานการทำงาน มุ่งมั่นป้องกันและร่วมกันดูแลให้ "คนกับงาน" เดินคู่กันอย่างมีศีลธรรม มีมิตรไมตรีที่ดีต่อกัน เพื่อความยั่งยืนด้านการค้าการลงทุนของไทยและของโลก ทีมข่าวสังคม รายงาน
สหรัฐ ประกาศให้ไทยพ้นระดับเทียร์ 3 (Tier 3) ขึ้นเทียร์ 2 (Tier 2 Wtch List) ที่ต้องจับตา ในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ประจำปี 2559 ระบุแม้รัฐบาลไทยเพิ่มความพยายามปราบการค้ามนุษย์ แต่ยังไม่ได้ตามมาตรฐานขั้นต่ำสุดอย่างครบถ้วนชัด! คำแถลงเรื่องรายงานการค้ามนุษย์ประจำปี พ.ศ. 2559 การค้ามนุษย์เป็นอาชญากรรมโหดเหี้ยมที่ไร้พรมแดน โดยในแต่ละปี มีประชาชนทั้งชาย หญิงและเด็กหลายสิบล้านคนทั่วโลกตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมอันร้ายกาจนี้ คำว่า "การค้ามนุษย์" และ "การค้าทาสสมัยใหม่" ต่างหมายถึงการแสวงหาประโยชน์จากบุคคลเพื่อบังคับใช้แรงงานหรือค้าประเวณีโดยการใช้อำนาจบังคับ กลฉ้อฉลหรือการขู่เข็ญบีบบังคับ การค้ามนุษย์มีหลายรูปแบบ ได้แก่ การค้าเพื่อบังคับใช้แรงงานหรือในธุรกิจทางเพศ ซึ่งรวมถึงพันธนาการหนี้และงานรับใช้ตามบ้าน เมื่อบุคคลที่อายุต่ำกว่า 18 ปีตกอยู่ในสถานภาพที่ต้องค้าประเวณีก็ถือว่าเป็นการค้ามนุษย์เพื่อธุรกิจทางเพศ แม้จะไม่มีการบังคับ ล่อลวงหรือขู่เข็ญก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศแถลงออกรายงานการค้ามนุษย์ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2559 โดยประเทศไทยได้เลื่อนอันดับขึ้นไปอยู่ในกลุ่มที่ 2 บัญชีรายชื่อประเทศที่ต้องจับตามอง รายงานการค้ามนุษย์ประจำปี พ.ศ. 2559 ครอบคลุมความพยายามดำเนินการของรัฐบาลต่างๆ ระหว่างวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2558 ถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559 การถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มที่ 2 บัญชีรายชื่อประเทศที่ต้องจับตามองแสดงว่า รัฐบาลไทยได้ดำเนินความพยายามอย่างมีนัยสำคัญในการขจัดการค้ามนุษย์ในช่วงเวลาการทำรายงานจัดอันดับ ทว่า การดำเนินงานนั้นยังไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานขั้นต่ำสุดอย่างครบถ้วน การถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มที่ 2 บัญชีรายชื่อประเทศที่ต้องจับตามองนั้นเป็นการย้ำว่า ปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทยยังมีอยู่กว้างขวางและรัฐบาลต้องแสดงความเป็นผู้นำในการดำเนินการมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันโดยให้มีผลงานเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิผล สหรัฐฯ ขอให้ไทยดำเนินงานให้ก้าวหน้ามากขึ้นและอย่างต่อเนื่องในการต่อสู้กับการค้ามนุษย์ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายการค้ามนุษย์ของไทย รายงานฉบับนี้ได้รวมคำแนะนำต่างๆ ที่ตรงประเด็นการค้ามนุษย์ในไทยที่สหรัฐฯ เชื่อว่าจะช่วยให้รัฐบาลไทยดำเนินการได้ก้าวหน้าขึ้น เราขอให้รัฐบาลไทยดำเนินการตามคำแนะนำอย่างเต็มที่ หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ ยังคงเป็นหุ้นส่วนร่วมมือทำงานกับรัฐบาลไทยและภาคประชาสังคมในไทยในการพยายามขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ ในปี พ.ศ. 2558 รัฐบาลไทยรายงานว่าในช่วงปีที่ผ่านมา ทางการได้เพิ่มความพยายามดำเนินการสืบสวนคดีการค้ามนุษย์เพื่อธุรกิจทางเพศ และคดีที่ต้องสงสัยว่ามีการบังคับใช้แรงงาน รวมถึงได้ดำเนินคดีและพิพากษาโทษนักค้ามนุษย์หลายร้อยคน นอกจากนี้ รัฐบาลยังเริ่มสืบสวนคดีการค้าแรงงานในภาคอุตสาหกรรมการประมงหลายสิบคดี กระนั้น การค้ามนุษย์เพื่อใช้แรงงานซึ่งรวมถึงพันธนาการหนี้ยังคงเป็นปัญหาสำคัญในไทย และการบังคับใช้แรงงานอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมอาหารทะเลยังคงเป็นปัญหาอยู่ เจ้าพนักงานรัฐ นายจ้าง เจ้าของกิจการ นายหน้าและสำนักงานจัดหางานที่สมรู้ร่วมคิดค้ามนุษย์ส่วนใหญ่ยังคงดำเนินกิจการต่อโดยไม่ต้องรับโทษ รัฐบาลไทยได้เริ่มดำเนินคดีที่เกี่ยวกับผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาและบังกลาเทศที่ตกเป็นเหยื่อการกระทำทารุ ณสหรัฐฯ ขอให้ทางการไทยติดตามผลการสอบสวน การดำเนินคดีและกระบวนการศาลยุติธรรมสำหรับคดีที่อยู่ในระหว่างดำเนินการอย่างขันแข็งและอยู่ในห้วงเวลาอันเหมาะสม ซึ่งรวมถึงคดีที่เจ้าพนักงานรัฐถูกกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดค้ามนุษย์ และขอให้รัฐบาลไทยใช้คดีที่ประสบความสำเร็จในปีที่ผ่านมาเป็นรากฐานในการระบุและสอบสวนคดีใหม่ด้านการบังคับใช้แรงงาน พันธนาการหนี้และการค้ามนุษย์เพื่อธุรกิจทางเพศ ฝ่ายบังคับใช้กฎหมาย เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์และภาคประชาสังคมของไทยร่วมมือกันระบุตัวบุคคลและให้ความช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากการค้ามนุษย์ในปี พ.ศ. 2558 อย่างไรก็ดี หน่วยงานต่างๆ ทุกหน่วยจำต้องเพิ่มความพยายามร่วมมือดำเนินการที่มีประสิทธิผลมากขึ้น พร้อมร่วมมือกับภาคประชาสังคมเพื่อตรวจพบสิ่งบ่งชี้ต่างๆ ได้ดีขึ้น ว่ามีการค้ามนุษย์ ตลอดจนให้ความช่วยเหลือและสร้างเสริมความสามารถให้แก่ผู้รอดชีวิตจากการค้ามนุษย์ รายงานฉบับนี้เรียกร้องให้ไทยดำเนินการต่อไปในการปรับปรุงความคงเส้นคงวาของกระบวนการระบุตัวบุคคลผู้เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ การจัดลำดับความสำคัญของสิทธิ เสรีภาพและความปลอดภัยของเหยื่อการค้ามนุษย์ จนถึงการออกกฎระเบียบใหม่ๆ ในการให้สถานภาพทางกฎหมายและใบอนุญาตทำงานแก่เหยื่อการค้ามนุษย์ นอกจากนี้ เราขอให้รัฐบาลไทยดำเนินการตรวจสอบแนวทางปฏิบัติว่าด้วยการจัดหาแรงงานอย่างละเอียดและแข็งขัน พร้อมทั้งดำเนินการปรับปรุงแนวปฏิบัติดังกล่าวผ่านช่องทางทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการเพื่อประโยชน์ของแรงงานอพยพ ในปี พ.ศ. 2558 ประเทศไทยดำเนินมาตรการเกี่ยวกับกรณีข้าราชการสมรู้ร่วมคิดการค้ามนุษย์ ซึ่งได้แก่ การพิพากษาจำคุกข้าราชการสองคน แต่ปัญหาทุจริตและข้าราชการสมรู้ร่วมคิดยังคงเป็นอุปสรรคต่อความพยายามปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยหลายๆ คดีที่ข้าราชการถูกกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดยังคงอยู่ในระหว่างการพิจารณา มีรายงานหลายฉบับกล่าวว่า ข้าราชการบางคนได้รับผลประโยชน์จากเงินสินบนและมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการกรรโชกทรัพย์และขายผู้อพยพให้แก่นายหน้า อันเป็นการเพิ่มสภาวะอ่อนแอเปราะบางของผู้อพยพเหล่านี้ที่จะตกเป็นเหยื่อในธุรกิจทางเพศ แรงงานบังคับและพันธนาการหนี้ ประเทศไทยจัดตั้งแผนกคดีค้ามนุษย์ในศาลอาญาและสำนักงานคดีค้ามนุษย์ในสำนักงานอัยการสูงสุดซึ่งได้เริ่มดำเนินการพิจารณาคดีแล้ว สหรัฐฯ มีความยินดีและสนใจรอรับทราบผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่จัดตั้งพิเศษเหล่านี้ซึ่งหน่วยงานทั้งสองยังสรรหาทรัพยากรและความเชี่ยวชาญเพิ่มขึ้นต่อไป ในบรรดาคดีค้ามนุษย์เพื่อธุรกิจทางเพศนั้น ความพยายามในการสอบสวนคดีเด็กและการจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจเพื่อดำเนินงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดต่อเด็กและเยาวชนได้นำไปสู่การจับคุมนักค้ามนุษย์ทั้งชาวไทยและต่างชาติ สหรัฐฯ จะยังขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยดำเนินการให้ก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรมตามกรอบคำแนะนำในรายงานการค้ามนุษย์ประจำปี พ.ศ. 2559 รัฐบาลสหรัฐฯ มุ่งมั่นที่จะร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทยในการแก้ไขปัญหาสำคัญนี้ สหรัฐพอใจไทยแก้ไขค้ามนุษย์ เรียกร้องต่อเร่งแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐแถลงออกรายงาน การค้ามนุษย์ ที่กรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. โดยประเทศไทยได้เลื่อนอันดับจากกลุ่มที่ 3 ขึ้นไปอยู่ในกลุ่มที่ 2 บัญชีรายชื่อประเทศที่ต้องจับตามองรายงานการค้ามนุษย์ ประจำปี 2559 ซึ่งครอบคลุมความพยายามดำเนินการของรัฐบาลต่างๆระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2558 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2559 โดยรายงานระบุว่า รัฐบาลไทยได้ดำเนินความพยายามอย่างมีนัยสำคัญในการจัดการค้ามนุษย์ในช่วงเวลาการรายงานจัดอันดับ ทว่า การดำเนินงานนั้นยังไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานขั้นต่ำสุดอย่างครบถ้วน ในขณะเดียวกัน ระหว่างการฉลองวันชาติสหรัฐครอบรอบประกาศอิสรภาพ 240 ปีที่ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี่ เมื่อคืนที่ผ่านมา นาย กลิน ที. เดวีส์ วีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐ ประจำประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไทย แสดงความยินดีที่รัฐบาลไทยและองค์กรภาคประชาสังคในไทยร่วมกันแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ร่วมกับสหรัฐ โดยย้ำว่าเป็นปัญหาร่วมกันของหลายๆประเทศไม่ใช่เป็นปัญหาเฉพาะของประเทศใดประเทศหนึ่ง แม้แต่ในสหรัฐก็มีปัญหานี้เช่นกัน เมื่อถูกถามว่า อีกกี่ปี ประเทศไทยถึงจะได้เลื่อนขั้นขึ้นไปอยู่ในกลุ่มบัญชี 1 นาย กลิน เดวีส์ ตอบว่า ตนไม่ทราบเพราะกฎหมายค้ามนุษย์ของสหรัฐค่อนข้างซับซ้อน แต่เชื่อว่า ประเทศไทยจะแก้ไขปัญหานี้สำเร็จ จนได้เลื่อนชั้นไปอยู่ในบัญชีที่ 1 หรือ เทียร์วันแน่นอน ประเทศไทยได้เลื่อนอันดับจากอยู่ในกลุ่มบัญชี 3 ขึ้นไปกลุ่มที่ 2 บัญชีรายชื่อประเทศที่ตัองจับตามอง มันค่อนข้างซับซ้อนซึ่งผมก็ไม่รู้ว่า หมายความว่าอะไร แต่ถือว่า เป็นเรื่องที่ดี อันเป็นผลมาจากที่ประเทศไทยได้ใช้ความพยายามในการแก้ไขปัญหา เราจึงมีความภูมิใจมากที่ได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรกับไทย เราพอใจอย่างยิ่ง ที่ประเทศไทยและรัฐบาลไทย ทำงานหนักเพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญหลายเรื่องในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ทั้งรัฐบาลไทยและกลุ่มประชาสังคมต่างๆ ในไทยได้ทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด ลุยตรวจร้านคาราโอเกะป้องกันค้ามนุษย์ ขณะเดียวกันที่ปทุมธานี เวลาประมาณ 21.30 น. ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครองได้เข้าตรวจค้นร้านคาราโอเกะ 10 ร้าน ภายในชุมชนแฟลตปลาทอง ถนนรังสิต-ปทุมธานี ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี เพื่อป้องกันการค้ามนุษย์และเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าทำงาน และมั่วสุมค้าประเวณี นอกจากนี้ยังเน้นเรื่องของแรงงานต่างด้าวที่จะแอบแฝงเข้าทำงานในสถานบริการจำพวกร้านคาราโอเกะ โดยหลังจากที่ตรวจดูแล้วไม่พบการกระทำผิดแต่อย่างใดและส่วนมากพนักงานที่ให้บริการนั้นอายุเกิน 20 ปีแล้วทั้งนั้น รายงานพิเศษ : ทลายเครือข่ายค้ามนุษย์โรฮิงญา ผลงานชิ้นโบว์แดงรัฐบาลไทย
กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – หนึ่งในการแก้ปัญหาคดีค้ามนุษย์ของทางการไทยที่เห็นชัดเป็นรูปธรรม จนประเทศไทยถูกปรับอันดับจากเทียร์ 3 เป็นเทียร์ 2 เฝ้าระวัง คือ การจัดการกับขบวนการค้ามนุษย์โรฮิงญา เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมีการจับกุมดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องได้หลายคน รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง และการจัดตั้งศาลอาญาแผนกคดีค้ามนุษย์ ซึ่งมีส่วนช่วยให้การแก้ปัญหาขับเคลื่อนได้รวดเร็วขึ้น รายงานความก้าวหน้าในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ฉบับนี้ คือ เอกสารที่กระทรวงการต่างประเทศของไทย รวบรวมสาระสำคัญเน้นการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ในช่วง 1 ปีที่เกิดผลเป็นรูปธรรม เสนอให้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาพิจารณา ในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ Trafficking in Person Report (TIP Report) ก่อนที่ไทยจะได้ปรับอันดับจากเทียร์ 3 อันดับต่ำสุดของสถานการณ์การค้ามนุษย์ ขึ้นมาในระดับเทียร์ 2 Watch List ซึ่งหมายถึง กลุ่มประเทศที่พยายามแก้ปัญหา แต่ยังคงต้องเฝ้าระวัง และเมื่อเดือนสิงหาคม 2558 ยังมีการจัดตั้งศาลแผนกคดีค้ามนุษย์ในศาลอาญา โดยโอนคดีที่เกี่ยวข้องกับการแสวงหาประโยชน์จากมนุษย์ คดีค้าประเวณี บังคับใช้แรงงาน บังคับขอทาน ให้ศาลแผนกนี้มีอำนาจตัดสินโดยเฉพาะ อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ ให้ข้อมูลว่า นับจากรัฐบาลไทยกำหนดให้การแก้ปัญหาค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ เมื่อเดือนเมษายน 2558 มีการบูรณาการแก้ปัญหาชัดเจน ตัวอย่างคดีสำคัญที่ปรากฏในรายงาน คือ คดีที่ตำรวจจับกุมขบวนการค้ามนุษย์โรฮิงญาที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อต้นปีที่แล้ว ผลจากคดีนี้ ตำรวจออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการได้มากกว่า 150 คน จับกุมได้แล้ว 90 คน ในจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ 22 คน มีทั้งนักการเมืองท้องถิ่น ตำรวจ และทหารระดับสูงเกี่ยวข้อง โดยมีผู้ต้องหา 1 ราย ถูกตัดสินลงโทษจำคุกสูงถึง 22 ปี นับเป็นคดีกลุ่มค้ามนุษย์แรกๆ ที่ถูกจำคุกด้วยโทษสูง มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) ให้ข้อมูลว่า ในจำนวนผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ 242 ราย ที่ปรากฏในรายงานนั้น มีหลายคดีที่เป็นการบังคับใช้แรงงานต่างชาติทำประมงผิดกฎหมาย และบังคับใช้คนเป็นทาส การแก้ปัญหาค้ามนุษย์ในไทยยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เช่น คดีที่เข้าสู่ศาลอาญาแผนกคดีค้ามนุษย์ มีนโยบายว่า ศาลชั้นต้นต้องสืบพยานให้เสร็จสิ้นและมีคำพิพากษาภายใน 6 เดือน นับจากวันตรวจพยานหลักฐาน หรือคดีค้ามนุษย์ที่ผู้เสียหายมักเป็นคนยากจน หรือเป็นต่างชาติที่อาจต้องถูกผลักดันกลับประเทศโดยเร็ว หลายหน่วยงาน เช่น ศาล ตำรวจ อัยการ ยุติธรรม พม. แต่ละหน่วยงานจะมีศูนย์ประสานงานคดีค้ามนุษย์ ทั้งเรื่องการดำเนินคดี การคุ้มครองสิทธิ การสืบพยาน การคุ้มครองความปลอดภัยให้เหยื่อ เพราะไม่เพียงหวังให้ภาพลักษณ์ของการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ในไทยดีขึ้นในสายตาสหรัฐหรือชาวโลก แต่ขับเคลื่อนการแก้ปัญหาเพื่อความถูกต้องและมนุษยธรรม. – สำนักข่าวไทย งัด ม.44 เพิ่มความผิดค้ามนุษย์ เปิดเล่นพนัน-ร้านเหล้าโทษหนักคุก 1 ปี เมื่อวานนี้แม้จะเป็นวันอาทิตย์ แต่เว็บไซต์ราชกิจจา ก็ได้เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2 ฉบับ ฉบับแรกคือ เป็นคำสั่งที่ 46/2559 เกี่ยวกับการขยายข้อห้ามผู้ประกอบกิจการสถานบริการ หรือที่คล้ายสถานบริการเพิ่มเติม หลังจากที่พบว่าหลายแห่งปล่อยปละละเลย หรือยินยอมให้มีการเล่นพนันหรือขันต่อหรือการกระทําความผิดฐานค้ามนุษย์ในสถานบริการของตน ซึ่งกรณีเช่นนี้ได้ส่งผล กระทบถึงความปลอดภัยของเด็ก และเยาวชน รวมทั้งความสงบเรียบร้อยของประชาชน โดยเป็นการเพิ่มเติมจากประกาศก่อนหน้านี้ โดยผู้ที่ยินยอม หรือปล่อยปละละเลย ให้กระทำผิดฐานค้ามนุษย์ หรือให้เล่นพนัน // ฝ่าฝืนคำสั่งในการเปิดให้บริการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ใกล้สถานศึกษา หอพักใกล้สถาบันการศึกษา ต้องระวางโทษาจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ใช้ ม.44 เยียวยาธุรกิจบีโอไอ สั่งยืดเวลายื่นภาษี-เว้นเบี้ยปรับถึง 15 ส.ค.นี้ ขณะเดียวกันมีคำสั่งที่อาศัยตามอำนาจตามมาตรา 44 อีกเรื่องหนึ่งคือ คำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 45/2559 เรื่อง การขยายกําหนดเวลาการยื่นรายการชําระภาษีเงินได้นิติบุคคลตามประมวลรัษฎากรเพื่อความเป็นธรรมแก่นักลงทุน โดยขยายเวลาออกไปจนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2559 ซึ่งจะทำให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลไม่ต้องเสียเบี้ยปรับหรือเงินเพิ่มกรณียื่นแบบชำระภาษีไม่ถูกต้อง และขยายกำหนดเวลาการยื่นคำร้องขอคืนเบี้ยปรับหรือเงินเพิ่มออกไปภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2559 เช่นกัน กรณีที่มีการชำระเบี้ยปรับหรือเงินเพิ่มแล้ว เหตุที่ยืดและขยายเวลาเกี่ยวกับภาษี เพราะ มีกรณีข้อพิพาทการยื่นชำระภาษีนิติบุคคลที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ที่มีความเข้าใจว่าหากกิจการที่ได้รับการส่งเสริมบีโอไอเกิดการขาดทุนสุทธิไม่ต้องยื่นแบบการชำระภาษี แต่วิธีการคำนวณตามประกาศกรมสรรพากรนั้น กิจการต้องยื่นชำระภาษีทั้งที่มีผลกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิ กระทั่งมีคำพิพากษาศาลฎีกาเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2559 วินิจัยให้การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนต้องอยู่ภายใต้บังคับของประมวลรัษฎากรที่กรมสรรพากรประเมินภาษีอากรคำนวณไว้ จึงเป็นเหตุให้นิติบุคคลเหล่านี้นต้องชำระเงินเพิ่มหรือเบี้ยปรับอีกส่วน นายกฯ จึงอาศัยอำนาจ มาตรา 44 ให้ขยายเวลาการยื่นชำระภาษี และไม่ต้อเสียเบี้ยปรับหรือเงินเพิ่มดังกล่าว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุน งัด ม.44 สอบซ้ำปมค้ามนุษย์ สั่ง "ศอตช." ตั้งกรรมการสอบสวนข้าราชการ
นายกลิน ที. เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ชื่นชมไทยว่าสามารถแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ในทุกมิติได้ ความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ ล่าสุด รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ก็ออกมายืนยันว่า สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ต่างก็พอใจในแนวทางที่รัฐบาลดำเนินการ พร้อมตั้งเป้าปี 2560 จะต้องได้รับการยกระดับการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ที่ดีขึ้น ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ และคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงานว่า การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์และแรงงานผิดกฎหมาย ขณะนี้กระทรวงแรงงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมประมง กรมเจ้าท่า ตำรวจ ทหารเรือ ได้ดำเนินการอย่างจริงจัง ทำให้คณะกรรมาธิการด้านการประมงของสหภาพยุโรป ที่เดินทางมาตรวจเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคม มีความพึงพอใจในความก้าวหน้าสิ่งที่ประเทศไทยดำเนินการ ทั้งเรื่องการค้ามนุษย์ และการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ทำให้มั่นใจว่าในปี 2560 ไทยจะได้รับการประเมินการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ในทางที่ดีขึ้น คือจากประเทศที่มีปัญหาการค้ามนุษย์ หรือ Tier2 Watch list เป็นประเทศที่มีความพยายามในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ หรือ tier2 ตามปกติ เพราะที่ผ่านมาสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปได้ชื่นชมไทย ปัญหากลุ่มคนขอทานและคนเร่ร่อนที่ยังแก้ไม่สำเร็จ สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีขบวนการลักลอบขนชาวต่างชาติเข้ามาในไทยโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย เฉพาะชายแดนด้าน จ.สระแก้ว เพียงแห่งเดียวพบว่าแต่ละวันมีชาวต่างชาติลักลอบเข้าไทยนับพันคนซึ่งในจำนวนนั้นมีไม่น้อยที่ถูกนำไปเร่ร่อนขอทาน การโซนนิ่งแรงงาน นับเป็นโมเดลล่าสุดของรัฐบาลในการยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานต่างด้าว ภายใต้แนวทาง 3 มิติ ครอบคลุมทั้ง เศรษฐกิจ สุขอนามัยและความมั่นคง ซึ่งขณะนี้เริ่มคิกออฟแล้วใน 2 จังหวัด พร้อมเตรียมนำร่องดำเนินการในพื้นที่อีก 11 จังหวัด เพื่อขยายผลไปสู่การขันน็อตระบบแรงงานต่างด้าวและปลดล็อกปัญหาการค้ามนุษย์อย่างเป็นรูปธรรม ติดตามจากรายงาน
กระทรวงแรงงานเตรียมจัดโซนนิ่งแรงงานข้ามชาติ เพื่อให้สะดวกและง่ายต่อการดำเนินงานด้านสาธารณสุข ทั้งการป้องกันควบคุมโรค รวมถึงควบคุมจำนวนประชากรแรงงานข้ามชาติที่เหมาะสม ข่าว 7 สี - รายงานการค้ามนุษย์ประจำปี ที่เตรียมส่งให้สหรัฐฯเร็วๆ นี้มีมั่นใจแผนแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาส่งผลดีต่ออันดับค่ามนุษย์ของไทย ติดตามจากรายงาน ปัญหาการค้ามุนษย์ เป็นอาชญากรรมข้ามชาติที่รุนแรง และไทยตกอยู่ในข่ายมีปัญหารุนแรง โดยเฉพาะการแสวงหาผลประโยชน์จากการค้าประเวณี และบังคับใช้แรงงาน ทำให้สหรัฐฯปรับอันดับการค้ามนุษย์ของไทยปี 2557 และ 2558 ร่วงลงไปอยู่ในระดับ Tier3 หรือประเทศที่มีปัญหาเลวร้ายที่สุดถึง 2 ปีซ้อน ผลที่ตามมาคือภาพลักษณ์ประเทศแย่ลง ถูกกีดกันการค้า โดยเฉพาะธุรกิจประมง และลดการช่วยเหลือไทยลง รัฐบาลต้องประกาศแก้ปัญหาการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ ลุยปราบไล่จับขบวนการที่เกี่ยวข้อง ไม่เว้นแม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐ และออกกฎหมายใหม่ ปรับแก้กฎหมายเก่าให้เอื้อต่อการปราบปรามจับกุม พร้อมจัดระเบียบขึ้นทะเบียนแรงงานเพื่อนบ้าน จัดสวัสดิการดูแลแรงงานทุกชาติอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ความพยายามแก้ปัญหาของไทยเป็นผล ทำให้ไทยหลุดพ้นจากอันดับ Tier 3 ขึ้นมาสู่ระดับ Tier 2 watchlist คือประเทศที่มีความพยายามแก้ปัญหาแต่ยังต้องเฝ้าจับตาดูต่อไปเมื่อปี 2559 มาปีนี้ไทยพร้อมส่งรายงานคืบหน้าแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ฉบับใหม่ ซึ่งอัดแน่นไปด้วยเนื้อหาความคืบหน้า ทั้งการปราบปราม จับกุม และที่โดดเด่นคือ สามารถยึดทรัพย์ผู้กระทำผิดฐานค้ามนุษย์ได้มากขึ้นเกือบ 3 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อน ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้ออกพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ฉบับที่ 3 ออกมาเอาผิดเข้มข้นเพิ่มเติม พร้อมเพิ่มโทษ กำหนดความผิดผู้ใช้แรงงานเด็กให้หนักและรุนแรงขึ้น ไม่ว่าผลการจัดอันดับค้ามนุษย์ปีนี้จะดีขึ้นดังหวังหรือไม่ แต่สิ่งที่รัฐบาลไทยเน้นย้ำมาตลอดคือ เดินหน้าแก้ปัญหาและให้ความคุ้มครองช่วยเหลือผู้ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ต่อไปอย่างไม่เลือกปฎิบัติไม่ว่าจะชนชาติไหนก็ตาม เพื่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังคงเดินหน้าแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสร้างความเชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย หรือ ไอยูยู ผ่านการออกฎหมายป้องกัน และปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่เพิ่มโทษหนักเอาผิดกับขบวนการดังกล่าว ติดตามจากรายงาน กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของไทย ชี้แจงความคืบหน้าของรายงานสรุปผลการดำเนินงาน ที่ยื่นต่อสหรัฐฯ และองค์กรนานาชาติว่า ได้รับการตอบรับที่ดี คาดหวังเลื่อนสถานะจาก เทียร์ 2 เฝ้าระวัง เป็น เทียร์ 2 ภายในปีนี้
แรงงานต่างด้าวจาก สปป.ลาว เมียนมา และกัมพูชา มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่ผ่านมา รัฐบาลจึงพยายามทำให้แรงงานต่างด้าวทั้งหมดเป็นแรงงานที่ถูกกฎหมาย เพื่อให้กลุ่มแรงงานเหล่านี้ สามารถช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งการพิสูจน์สัญชาติแรงงาน ถือเป็นก้าวแรกของการดำเนินการทั้งหมด รายงานพิเศษ : ตรวจสอบปัญหาวิกฤตขาดแคลนแรงงานประมง เป็นประเด็นใหญ่ที่ต้องจับตาดู สำหรับการแก้ปัญหาของภาครัฐ หลังเมืองพัทยาถูกสื่อต่างประเทศตีข่าวว่าเป็นเมืองหลวงแห่งเซ็กซ์ของโลก มีการค้าประเวณีเป็นจำนวนมาก ทำให้รัฐบาลต้องรีบแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้กระทบต่อนักท่องเที่ยว และภาพลักษณ์ของประเทศ วันนี้ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ไปติดตามเรื่องนี้ว่าพัทยาเป็นเมืองหลวงแห่งเซ็กซ์จริงหรือ และวันนี้นำเสนอเป็นตอนแรก โดยไปสำรวจจุดที่พบว่ามีการค้าประเวณีมากที่สุด คือ ใต้ต้นไม้ริมหาดพัทยา ตั้งแต่พัทยาเหนือ พัทยากลาง และพัทยาใต้ แม้เจ้าหน้าที่จะออกปฏิบัติงานทุกวันเพื่อกวาดล้างไม่ให้ลักลอบค้าประเวณี แต่ภาพที่เห็นยังมีผู้หญิงแต่งกายนุ่งน้อยห่มน้อยมานั่ง และยืนตามริมหาดขายบริการจำนวนมาก บ้างก็ยืนคนเดียว บ้างก็ยืนเป็นกลุ่ม 2-3 คน คอยเรียกแขกที่เดินผ่านไปมาให้มาซื้อบริการ ซึ่งเป็นภาพที่นักท่องเที่ยวเห็นจนชินตา และกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับพัทยา ดูเหมือนกลุ่มคนเหล่านี้ไม่กลัวจะถูกจับ เพราะภาพที่เห็นนี้คือยืนขายบริการอยู่หน้า สภ.เมืองพัทยา โดยจะยืนอยู่ใต้ต้นไม้ วิธีสังเกตว่าผู้หญิงคนไหนขายบริการ ให้ดูจากการแต่งตัวและจะยืนอยู่กับที่นิ่งๆใต้ต้นไม้ สอบถามหญิงคนหนึ่ง บอกว่าช่วงหัวค่ำทุกวันมักจะพากันออกมายืนเพราะเป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวออกมาเดินเล่นตามริมหาด เมื่อถูกใจใครก็เดินไปสอบถามตกลงราคาแล้วพากันไปเปิดโรงแรม หรือพาเข้าที่พัก ส่วนราคาค่าตัวขึ้นอยู่กับการตกลงของแต่ละคน ขั้นต่ำ 500 บาท ทีมข่าวไปคุยกับหญิงขายบริการที่ สภ.เมืองพัทยา บอกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ยืนขายบริการอยู่ริมหาดพัทยา ตอนนี้มีลูก 3 คนอยู่ต่างจังหวัด ที่ตัดสินใจมาขายบริการเนื่องจากเพิ่งเลิกกับสามี และเห็นว่ารายได้ดีกว่าทำอาชีพอื่น โดยได้เงินจากการขายบริการวันละ 1,000-1,200 บาท มากกว่าค่าแรงขั้นต่ำ โดยจะรับเฉพาะชาวต่างชาติเท่านั้น เนื่องจากให้ค่าตอบแทนสูงกว่าคนไทย นอกจากนี้ ยังยอมรับว่าพัทยาเป็นเมืองที่มีการค้าประเวณีจริงแต่ไม่ใช่ทุกคน ขณะที่บรรยากาศผับ บาร์ มีผู้ขายบริการเช่นกัน โดยราคาค่าตัวมากสุดอยู่ที่ 2,000-3,000 บาท พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา กางแผนที่คุยกับผู้สื่อข่าว บอกว่าการขายบริการทางเพศของสาวประเภทสอง และ ผู้หญิง มีอยู่จริง ในวอคกิ้งสตรีทดูยาก แยกออกยากว่าใครขายบ้าง แต่ถ้าจะให้เห็นชัดๆส่วนใหญ่จะมายืนอยู่บนทางเดินเท้าริมหาดพัทยา ยืนกันประปรายตามริมหาด แต่จะเยอะสุดช่วงพัทยาใต้ ใกล้วอคกิ้งสตรีท ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าไม่มี แต่สารวัตรบอกว่ามันลดลง เพราะในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ตำรวจได้ตั้งเต็นท์นำกำลังเจ้าหน้าที่ไปประจำการ 10 นาย ตั้งแต่ 21.00-06.00 ทุกวัน พร้อมขับขี่รถจักรยานยนต์ และเดินเท้าตรวจ ถ้าเจอจะจับ-ปรับ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี ทันที ส่วนคนที่ติดต่อ รบเร้า ชักชวนนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือคนไทย จะต้องถูกทำประวัติ และถูกปรับ 1,000 บาททุกคน และเมื่อทีมข่าวเดินไปตรวจสอบริมหาดพัทยา พบว่ามีตำรวจท่องเที่ยวมาประจำการอยู่บริเวณริมหาดฝั่งตรงข้ามซอย13/1 มีชุดที่ขับขี่รถจักรยานยนต์สายตรวจ แต่ว่ายังมีสาวประเภทสอง และ ผู้หญิงที่มีพฤติกรรมชักชวนนักท่องเที่ยวต่างชาติไปค้าประเวณีอยู่ตลอดชายหาด จากการปราบปรามค้าประเวณีทำให้ลดน้อยลง และจากข่าวที่ออกมานั้น ไม่ได้ทำให้เจ้าหน้าที่หมดกำลังใจ หรือท้อแท้ แต่จะตั้งใจทำงานและปราบปรามต่อไป ส่วนวันพรุ่งนี้ พลาดไม่ได้จะเสนอเป็นตอนที่ 2 โดยทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ จะไปเกาะติด และตีแผ่ความจริงเรื่องนี้ รวมถึงเจาะลึกดูวิธีการแก้ไขปัญหาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีจุดใดบ้างที่ยังไม่ได้แก้ปัญหาจนทำให้การค้าประเวณียังมีอยู่จากอดีตถึงปัจจุบันกลายเป็นสาเหตุให้ไทยถูกตีตราว่าเป็นเมืองค้ากามระดับโลก เมื่อวานนี้ได้ตีแผ่ประเด็นพัทยาเมืองหลวงเซ็กซ์โลกจริงหรือไม่ วันนี้เสนอต่อเนื่องเป็นตอนที่ 2 ไปดูการแก้ไขของหน่วยงานต่างๆ เพื่อกู้ภาพลักษณ์เมืองพัทยาจะควบคุมอย่างไรรวมถึงส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจไทยอย่างไรโดยเฉพาะการท่องเที่ยว ขณะ ททท.ระบุเม็ดเงินที่เข้าเมืองพัทยาจำนวนมากไม่ได้มาจากค้าประเวณีอย่างเดียว วันนี้เป็นวันที่ 2 ที่ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ลงพื้นที่เมืองพัทยา ไปติดตามการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยทีมข่าวไปสอบถาม พ.ต.ต.เนติธร รัตนสุชานันท์ ว่าผู้หญิงที่ยืนขายบริการอยู่ตามชายหาดทำไมไม่จับ ได้รับคำตอบว่า เพราะผู้หญิงยังไม่มีการก่อเหตุอาชญากรรมเหมือนสาวประเภท 2 ขณะที่สาวประเภทสองคนหนึ่งบอกว่า อยากให้สังคมมองพวกเธอในแง่ดีบ้าง คนที่มาขายบริการก็ไม่ต่างจากผู้หญิงเพราะต้องการเงินไปใช้จ่าย ซื้อเสื้อผ้าสวยๆ หรือของใช้แบรนด์เนม ไม่อยากให้มองว่าสาวประเภทสองเป็นคนไม่ดี พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผู้กำกับการ สภ.เมืองพัทยา บอกว่า ข่าวที่ออกไปทำให้พัทยาได้รับผลกระทบ นักท่องเที่ยวอาจมองว่าพัทยาเป็นแหล่งค้ากามข้อเท็จจริงคนที่ขายบริการมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นไม่ใช่ทุกคนที่จะมาค้าประเวณี ขณะเดียวกันตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจก็ได้แก้ปัญหาโดยร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อควบคุมไม่ให้มีการลักลอบค้าประเวณีผิดกฎหมายโดยเฉพาะริมชายหาดพัทยาแต่กลุ่มคนเหล่านี้ทั้งผู้หญิงและสาวประเภทสองก็ยังพากันไปยืนขายบริการทุกวัน พร้อมยืนยันพัทยาไม่ใช่เมืองเซ็กซ์ระดับโลก ขณะทีมข่าวไปพูดคุยกับนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อข่าวที่เกิดขึ้น นักท่องเที่ยวบอกว่า เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องแปลกอะไร และที่อื่นก็มีแบบนี้เช่นเดียวกัน มองว่าพัทยามีที่ท่องเที่ยวให้เค้าได้มาเที่ยวมากมาย ส่วนใหญ่ชอบความเป็นธรรมชาติของที่นี่ แต่จากข่าวที่เกิดขึ้นทำให้สาวไทยที่ทำงานในพัทยาบอกว่า รู้สึกแย่ เพราะทุกอาชีพถ้าทำในจุดที่สุจริตก็เป็นอาชีพที่ไม่น่าเกลียด แต่ถ้าทำในสิ่งผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการ เรื่องการค้าบริการที่เป็นข่าวนั้น ที่จริงแล้วก็ไม่ใช่ทั้งพัทยา เป็นเพียงบางร้าน หรือบางคน เรื่องนี้จึงอยู่ที่ทัศนคติของแต่ละคน และความเชื่อที่ถูกบอกต่อกันมา ไม่ใช่จะมาโฟกัสอยู่แค่ที่พัทยา ทีมข่าวเข้าไปพูดคุยกับ คุณสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา ซึ่งดูแลพื้นที่จังหวัดชลบุรีทั้งหมด ผอ.สุลัดดาบอกว่า พัทยา ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับ 1 ของจังหวัดชลบุรี มีสินค้าทางการท่องเที่ยวเยอะมาก ตอบโจทย์กับคนทุกกลุ่ม เช่น สวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เขาชีจรรย์ สวนนงนุช ปราสาทสัจธรรม ทะเลที่สวยงาม ไม่ได้มีแค่เรื่องความบันเทิง จึงทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวมากถึง 70% คนไทย 30% นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวมากที่สุดเรียงตามลำดับ 1.จีน 2.รัสเซีย 3.เกาหลี ถามว่าจุดแข็งของพัทยา คืออะไร ผอ.สุลัดดา บอกว่า มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เกาะแก่ง หาดทราย ชายทะเล ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ใช้เวลาไม่เกิน 2ชั่วโมง นับจากสนามบิน ทำให้นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางมาที่นี่ และตอนนี้กำลังมีสินค้าทางการท่องเที่ยวอีกมากมายที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจังหวัดชลบุรี เป็นจังหวัดที่ทำรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยเป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองจาก กรุงเทพมหานคร และ ภูเก็ต เทียบสถานการณ์ท่องเที่ยวปี 2558 กับ 2559 เห็นได้ชัดเจนว่าอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยว เพิ่มขึ้นจาก 74.81% เป็น 75.15% (อัตราการเข้าพักนี้ หมายถึง ถ้าโรงแรมมี 100ห้อง จะมีนักท่องเที่ยวเข้าไปพัก 75ห้อง) จำนวนผู้เยี่ยมเยือน หรือ การพักค้างคืนของนักท่องเที่ยว ตรงนี้น่าสนใจ จากกว่า 11 ล้าน คน เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 14 ล้านคน ทั้งหมดนี้ทำรายได้ให้กับประเทศไทยไม่น้อย ที่น่าดีใจก็ตรงนี้ รายได้จากการท่องเที่ยว ปี 2558 กว่า 1.3 แสนล้านบาท ปีที่แล้วเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1.7 แสนล้านบาท แล้วก็คาดว่าปีนี้พัทยาจะนำรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าสู่ไทยเพิ่มขึ้นอีก เพราะว่าในเดือนมิถุนายนนี้ กำลังจะมีการเปิดท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา (ระยอง-พัทยา) สำหรับข่าวที่เกิดขึ้นนั้น ผอ.สุลัดดา อยากให้ทุกคนได้เดินทางมาสัมผัสกับพัทยาอีกครั้ง ขณะที่ รายงานของ The Mirror ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐของไทยถึงกับออกมาสั่งกวาดล้างธุรกิจค้าประเวณีและธุรกิจที่เกี่ยวข้องในพัทยาทันที ซึ่งอันที่จริงนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวฯ ของไทยเคยออกมาบอกก่อนหน้านี้แล้วว่าต้องการจะเปลี่ยนพัทยาให้เป็นเมืองท่องเที่ยวแห่งธรรมชาติและวัฒนธรรม อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญของไทยตระหนักดีว่าการเปลี่ยนพัทยาไม่สามารถทำได้ชั่วข้ามคืน แต่ก็เชื่อว่าจะไม่พ้นความสามารถของรัฐบาลไทย อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลไทยจะเดินหน้าเอาจริง ก็ควรต้องตระหนักถึงผลที่จะตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องรายได้ของหญิงให้บริการเหล่านี้ที่จะต้องขาดหายไป ซึ่งรัฐจำเป็นต้องหาอาชีพมารองรับ และต้องอย่าลืมว่าคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีการศึกษาน้อย การจะให้เปลี่ยนไปทำอาชีพอื่นโดยทันทีจึงไม่ใช่เรื่องง่าย รัฐบาลจะต้องมีการวางแผนระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเพิ่มเสริมเรื่องการศึกษาหรือการสร้างงานเพิ่มขึ้น สำหรับการค้าประเวณีในประเทศอื่นๆนั้น ประเทศยุโรปส่วนใหญ่ อีกทั้งออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ก็ล้วนถูกกฎหมาย ใครต้องการทำอาชีพนี้หรือเริ่มธุรกิจสถานบริการจะต้องลงทะเบียนให้เรียบร้อย เพื่อที่ผู้ประกอบอาชีพนี้จะได้รับการดูแลปกป้องและสามารถเข้าถึงระบบสาธารณสุข รวมทั้งมีสวัสดิการสังคมเหมือนกับอาชีพอื่นทั่วไป
หลังจากที่มีสื่อต่างชาติเสนอข่าวว่า เมืองพัทยาเป็นเมืองแห่งเซ็กส์ วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังกวาดล้าง สาวไทย ต่างชาติ รวมถึงสาวประเภทสอง ที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายค้าประเวณีได้เป็นจำนวนมาก ผลการกวาดล้างบริเวณถนนวอล์คกิ้งสตรีท ริมหาดพัทยา และสถานบันเทิง สามารถจับกุมหญิงสาวชาวอูกันดา หรือสาวผิวดำ ได้ถึง 40 คน และมีสาวไทยและสาวประเภทสองอีก 6 คน เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ชักชวน หรือรบเร้า บุคคลตามท้องถนนสาธารณะเพื่อการค้าประเวณี อันเป็นการเปิดเผยและน่าอับอาย เป็นที่เดือดร้อนรำคาญแก่สาธารณชน นอกจากนี้ยังมีการจับกุมคนเร่ร่อนขอทาน และเสพยาบ้าได้ อีก 9 ราย พันตำรวจเอกอภิชัย กรอบเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธรเมืองพัทยา บอกว่า ปกติจะมีการกวาดล้างจับกุมเป็นประจำอยู่แล้ว เพื่อปราบปรามปัญหาอาชญากรรมต่างๆ แต่เมื่อมีสื่อต่างชาติ นำเสนอข่าวเมืองพัทยาในทางลบ ก็มีการเพิ่มความถี่ในการปราบปรามมากขึ้น โดยเฉพาะการค้าประเวณี ซึ่งในกรณีผู้ต้องหาชาวไทย ได้ทำประวัติเปรียบเทียบปรับก่อนปล่อยตัวไป ส่วนสาวชาวอูกันดา ปรับในอัตราเดียวกัน และถ่ายสำเนาหนังสือเดินทาง พร้อมหนังสือเสนอไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี เพื่อทำประวัติ และแบล็คลิสต์ห้ามเข้าประเทศไทย เนื่องจากบุคคลเหล่านี้ ไม่ได้มาในฐานะนักท่องเที่ยว แต่มาในฐานะนักศึกษา เพื่อลักลอบค้าประเวณี ซึ่งมีส่วนสร้างความเสื่อมเสียให้กับเมืองพัทยา ศาลจังหวัดตรังพิพากษาตัดสินจำคุกนายกสมาคมประมงกันตัง จ.ตรัง พร้อมกับพวกอีก 6 คน ข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์คนละ 14 ปี
