http://news.voicetv.co.th/thailand/475710.html รอยเตอร์เผยรัฐบาลทหารไทยยกร่างกฎหมายควบคุมพุทธจักรฉบับใหม่ ให้นายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ นั่งเป็นกรรมการ เล็งประกาศใช้ก่อนเลือกตั้งครั้งหน้า สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันพุธที่ 29 มีนาคม ว่า แหล่งข่าวผู้ขอสงวนนามเปิดเผยว่า รัฐบาลทหารของไทยกำลังจัดทำกฎหมายควบคุมฝ่ายสงฆ์ ซึ่งดูจะลดทอนบทบาทของมหาเถรสมาคมอย่างมาก ร่างกฎหมายซึ่งยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณชนฉบับนี้ กำหนดให้มีคณะกรรมการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา โดยให้โควต้ามหาเถรสมาคมเลือกพระสงฆ์เข้าเป็นกรรมการได้ 3 รูปจากทั้งหมด 27 ที่นั่ง ตำแหน่งที่เหลือจะให้นายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปลัดกระทรวง และข้าราชการระดับสูงจากหน่วยงานต่างๆ รวมถึงผู้รู้ด้านการศาสนา บุคคลจากมหาวิทยาลัยสงฆ์ และผู้แทนกลุ่มพุทธศาสนิกชนที่นายกรัฐมนตรีเลือก เข้าไปนั่งเป็นกรรมการ ผศ.ดร.พระเมธาวินัยรส รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ให้ความเห็นกับรอยเตอร์ว่า กฎหมายฉบับนี้ไม่ได้ส่งเสริม แต่บังคับให้พระสงฆ์ยอมเชื่อฟัง และอยู่ใต้การปกครองของรัฐ ซึ่งไม่เหมาะสม “การแทรกแซงของรัฐเช่นนี้จะทำให้ลดทอนศาสนา” พ.ต.ท.พงษ์พร พราหมเสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่า ร่างดังกล่าวอยู่ระหว่างการศึกษาของมหาเถรสมาคม “กฎหมายฉบับนี้จะเป็นคุณแก่พระสงฆ์ และช่วยเผยแผ่ศาสนาพุทธ” ผอ.สำนักพุทธฯยังกล่าวด้วยว่า การผลักดันกฎหมายดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับกรณีปัญหาวัดพระธรรมกาย อย่างไรก็ดี รอยเตอร์ไม่สามารถติดต่อขอความเห็นจากพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ในมหาเถรสมาคมได้ นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตที่ปรึกษาของรัฐบาลคณะรัฐประหาร ผู้สนับสนุนการกำกับดูแลกิจการพุทธศาสนา บอกว่า ถ้าร่างฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ปัญหาอย่างวัดพระธรรมกายจะหมดไป “พระที่ทำผิดวินัยสงฆ์ หรือแสวงประโยชน์จะถูกปราบ” ผศ.ดร.มนตรี สิระโรจนานันท์ ผู้รู้ด้านศาสนา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า กฎหมายดังกล่าวอาจช่วยให้วงการสงฆ์แก้ปัญหาเรื้อรังต่างๆได้ แต่คณะกรรมการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปนั่งเป็นกรรมการโดยส่วนใหญ่นั้น อาจถูกใช้ประโยชน์อย่างผิดๆได้ “ดาบที่อยู่ในมือของรัฐบาลทหาร อาจถูกใช้เป็นอาวุธ” เขาให้ข้อสังเกต รายงานข่าวระบุว่า ร่างกฎหมายว่าด้วยการ 'อุปถัมภ์และคุ้มครอง' พระพุทธศาสนาฉบับนี้ ไม่ครอบคลุมเรื่องเงินบริจาคของวัด ซึ่งประมาณว่ามีมากถึงปีละกว่า 1.2 แสนล้านบาท นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลจะประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวก่อนการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในปี 2561. Source: Reuters Photo: AFP
ช่วยหาต้นฉบับให้ http://www.reuters.com/article/thailand-buddhism-int-idUSKBN1700WS By Panarat Thepgumpanat and Patpicha Tanakasempipat| BANGKOK