รถไฟฟ้าสายโกลาหล | เดลินิวส์ อะไรก็ตามหากมันเริ่มต้นด้วยความไม่ปกติก็เป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะยุติด้วยความปกติ เช่นเดียวกับความพยายามของบอร์ดการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยหรือรฟม.ที่จะใช้วิธีเจรจากับบริษัทเอกชนเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย แทนเปิดประมูลทั่วไป เรื่องเดิมรฟม.มีคณะกรรมการพิจารณาและมีข้อสรุปให้เปิดประมูลทั่วไป ทุกบริษัทรวมทั้งเจ้าเดิมเดินรถสายสีน้ำเงินอยู่ก็เข้าร่วมได้ซึ่งน่าจะเป็นต่อคู่แข่งเจ้าอื่น เหลือเชื่อคือหลังคสช.เข้ามาควบคุมอำนาจมาคุมบอร์ดรฟม.ก็ตั้งธงให้เจรจาอ้างเพื่อความรวดเร็วจัดหารถเดินรถ ประชาชนรอใช้บริการอยู่ สนุกอย่าบอกใคร รักษาการผู้ว่าการยืนขวางอยู่ยืนยันปฏิบัติตามมติคณะกก.ผู้พิจารณาให้ประมูลสุดท้ายก็อยู่ไม่ได้ถูกเด้งพ้นทาง แล้วยุบคณะกก.ชุดเสนอประมูลทิ้งโดยตั้งคณะกก.ชุดใหม่ขึ้นมาเปลี่ยนมติเป็นเจรจาบริษัทเอกชนเจ้าเดิม คือจะเอาให้ได้ ว่าด้วยแต่งตั้งผู้ว่าการคนใหม่ด้วยการสรรหาก็ระบุคุณสมบัติผู้สมัครต้องไม่เป็นรักษาการผู้ว่าการ ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์รฟม.ที่มีข้อห้ามแบบนี้จนเป็นเรื่องฟ้องร้องศาลปกครอง สุดท้ายก็ลุยตั้งผู้ว่าการใหม่ทั้งๆถูกตั้งคณะกก.สอบสวนและสนง.ตรวจเงินแผ่นดินก็ชี้มูลข้อหาเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อสัญญาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย สัญญาที่ 2 ช่วงสนามไชย-ท่าพระ มีผลให้รฟม.เสียหายต้องเพิ่มมูลค่างานวงเงิน 290 ล้านบาท ต้องขยายเวลาก่อสร้างให้ผู้รับเหมาอีก 90 วัน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ก่อนเริ่มสรรหาได้มีการยุบคณะกก.สอบสวนของรฟม.เพื่อเปิดทางสะดวก ณ วันนี้มีอยู่มรสุมใหญ่ 2 ลูกถล่มรฟม.รุนแรง ... ลูกแรกได้แก่การสอบสวนข้อหานี้ยังอยู่ในมือสตง.กัดไม่ปล่อย โดยพบข้อเท็จจริงขัดแย้งน่าสงสัยคือผู้บริหารรายหนึ่งแจ้งต่อคณะกก.ของสตง. การเปลี่ยนแปลงข้อสัญญาดังกล่าวฝ่ายกฎหมายของรฟม.รู้และตรวจสอบความถูกต้องแล้ว ปัญหาคือฝ่ายถูกกล่าวอ้างบอกสตง.ว่ารู้ทีหลัง ผลการสอบสวนออกมาอย่างไรจะไม่เพียงกระทบองค์กรเท่านั้น ภาพลักษณ์ครม.ผู้ประกาศซื่อสัตย์สุจริตจะตกอยู่ท่าม กลางห่าฝนคำถาม อีกลูกหนักครับ สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือสศช.มีมติเมื่อปลายเดือนสวนทางโดยยืนยันต้องเปิดประมูลทั่วไปเท่านั้น คงไม่ใช่เพราะสศช.หรือผู้ยืนข้างประมูลต้องการเตะถ่วง แต่การสร้างบรรทัดฐานความถูกต้องโปร่งใสในโครงการใหญ่ๆมูลค่าหลายหมื่นล้านจำเป็นที่สุด ตัวนายกฯที่พลอยฟ้าพลอยฝนรับข้อมูลฝ่ายเดียวเชียร์เจรจาก็มีอันเสียรังวัดไปด้วย เสียหายที่สุดคือแทนที่จะดำเนินการตามข้อเสนอคณะกก.เปิดประมูลแต่ต้นก็ฮึดฮัดจะเจรจาจนป่วนไปทั้งองค์กร บทจบหลังยื้อกันไปมาเป็นปีๆถอยกลับมาจุดเริ่มต้นที่ควรเป็นแต่แรก พยากรณ์ล่วงหน้า ถึงวันที่คสช.พ้นจากวงจรอำนาจจะมีการเช็กบิลอย่างมโหฬารในรฟม. อย่าเรียกว่าล้างบาง-ให้เรียกว่ายกเครื่อง ใครทำอะไรไว้โปรดรอรับรางวัล?. แมงเม่า http://www.dailynews.co.th/article/339173
ถ้าประมูลไปซะตั้งแต่แรก ป่านนี้ก็ได้รถไปแล้วมั้ง ไม่ต้องมาเสียเวลาปลดบอร์ด ตั้งบอร์ดใหม่ แล้วยังต้องมานั่งเจรจาอีก บางทีอยากได้เร็ว กลับช้า แล้วยังต้องเสี่ยงกับข้อครหาอีก ความจริงการจัดหารถ ถ้าลงมือกันแต่เนิ่น ๆ ตั้งแต่เริ่มสร้างราง มันก็ไม่น่าช้า ถึงเวลาระบบรางเสร็จก็เอารถมาวิ่งได้เลย เพราะมีเวลาตั้งหลายปี
...ยังไงก็ได้ แต่ไม่เอาของจีนนะ กำลังรอโมโนเรลของกทมมาผ่านหน้าบ้านอยู่ กทม.ไม่ง้อรัฐบาลคิดกู้5.7หมื่นล้านสร้างโมโนเรล รักคุณชายก็เรื่องนี้แหละ http://interestingengineering.com/monorail-the-future-of-mass-transportation/