1 มี.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์ชื่อดัง รพ.สมิติเวช และอดีตวิทยากรรายการชูรักชูรส โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว"นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล (Kampanart Tansithabudhkun, M.D.)" ถึงกรณีกลุ่มชาวบ้านในจังหวัดระนอง ออกมาร่วมตัวกันคัดค้านการปิดถนน เพื่อจัดงานตักบาตรพระสงฆ์ 1,000 รูปของวัดพระธรรมกาย เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา แต่ปรากฎว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ"Suvimol Chamnong" เข้ามาแสดงความคิดเห็นในสเตตัสดังกล่าว โดยมีการตั้งคำถามพาดพิงไปถึงพระวัดสวนโมกข์ ระบุข้อความดังนี้ "แล้วไอ้โล้นหลายตัวทีสวนโมกข์น่ะ ไม่ไปไล่บ้างรึ" ต่อมา นพ.กัมปนาท จึงโพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้งเพื่อโต้ตอบ เนื่องจากเห็นว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้มีเจตนาจะโยงประเด็นทางการเมือง เพื่อสร้างความแตกแยก และนอกจากนี้ยังได้แนะนำให้นำคำถามนี้กลับไปถามนักการเมืองรายหนึ่งซึ่งเป็นสามีของผู้โพสต์อีกด้วย และจากการเปิดเผยข้อมูลของ นพ.กัมปนาท พบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Suvimol Chamnong" คือ นางสุวิมล จำนง ภรรยาของ นายนิกร จำนง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และอดีต ส.ส.พรรคชาติไทย รวมถึงยังเป็นคนสนิทของนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา http://www.naewna.com/politic/147033
พระอินเดียส่งหนังสือ 2 ฉบับ ถึงนายกฯ-สปช. ห่วงวงการสงฆ์ไทย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 มีนาคม 2558 12:06 น. (แก้ไขล่าสุด 1 มีนาคม 2558 12:59 น.) คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น เฟซบุ๊ค สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ วัดสระเกศ ได้เผยแพร่ภาพรูปภาพ ระบุว่า เป็นหนังสือจากองค์กรพุทธศาสนา แห่งรัฐอุตรกานด์ ประเทศอินเดีย พระอินเดียแห่งรัฐอุตรกานด์ ส่งหนังสือถึง “นายกฯ - สปช.” โดยแสดงความเป็นห่วงวงการสงฆ์ไทย หลังกำลังมีกระแสจากกรณีวัดพระธรรมกาย หวั่นกระทบภาพลักษณ์พระพุทธศาสนา จนอาจบานปลายไปถึงการล่มสลาย ยกตัวอย่าง “อินเดีย - เกาหลี “เคยประสบมาแล้ว วันนี้ (1 มี.ค.) มีรายงานว่า เฟซบุ๊ก สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ วัดสระเกศ ได้เผยแพร่ภาพรูปภาพ ระบุว่า เป็นหนังสือจากองค์กรพุทธศาสนา แห่งรัฐอุตรกานด์ ประเทศอินเดีย โดยเป็นการเขียนจดหมาย ระบุว่า สองสถาบันพุทธในอินเดีย ได้ส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และ สปช. แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์พระพุทธศาสนาในเมืองไทย ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เกรงพระพุทธศาสนาหมดไปจากประเทศไทย เหมือนอินเดียเคยประสบมาแล้ว โดยยกเหตุการณ์ที่ประเทศเกาหลีเป็นตัวอย่าง โดยหนังสือมีใจความว่า เรียน ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) รัฐบาลไทย เรื่อง สถานการณ์ทางศาสนาประเทศไทยในปัจจุบัน และผลกระทบต่อพระพุทธศาสนาโลก องค์กรพุทธศาสนา แห่งรัฐอุตรกานด์ ประเทศอินเดีย ได้แสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ทางศาสนาที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ทุกวันนี้มีแต่ข่าวด้านลบเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาในสื่อของไทย ซึ่งเป็นปัญหาที่น่ากังวลอย่างยิ่ง เรายังจำได้สถานการณ์เดียวกันที่เคยเกิดขึ้นในเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผลทำให้พระพุทธศาสนาเกิดความเสียหายอย่างมาก และปัจจุบัน พุทธสาสนิกชนในเกาหลีใต้ลดน้อยลง ถึงร้อยละ 30 ทั่วโลกรับรู้ว่า พระพุทธศาสนานิกายเถรวาท ในประเทศไทย มีความเข้มแข็งมาก และผู้คนทั่วโลกกำลังเฝ้ามองประเทศไทยในการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในประเทศอื่นๆ แต่พวกเราห่วงสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในประเทศไทย พระสงฆ์และการเมืองจะต้องไม่เข้ามาเกี่ยวข้องกัน สงฆ์จะต้องปลอดจากการเมือง เราในนามของชาวพุทธ และเป็นหัวหน้าของสักยะสิงห์ ของพุทธศาสนาในอินเดีย ขอร้องให้ท่านช่วยดูแลปัญหาพระสงฆ์ที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง และจัดการเลือกตั้งสังฆราชองค์ใหม่ให้ยุติธรรม (สมเด็จพระสังฆราชแห่งประเทศไทย) ตามระดับอาวุโส หวังว่า พระพุทธ พระธรรม จะส่องแสงสว่างบนโลกใบนี้ ขอให้ประเทศไทยจงเป็นประเทศพุทธศาสนิกชนฝ่ายเถรวาทอันดับ 1 ต่อไป อีกด้าน กลุ่มที่อ้างว่า เป็น องค์กรสงฆ์รุ่นใหม่ ปกป้อง สังฆมณฑล ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง ให้ยุติการคุกคามพระพุทธศาสนาและมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 2 มีใจความว่า ตามที่ องค์กรสงฆ์รุ่นใหม่ ได้ออกแถลงการณ์ถึงคณะกรรมการปฏิรูปแนวทาง และมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา ซึ่งออกคำสั่งโดยสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ให้ยุติการข่มขู่คุกคามล่วงละเมิดต่อพระพุทธศาสนา และมหาเถรสมาคม อันอาจนำมาซึ่งความแตกแยก และไม่เป็นไปเพื่อความปรองดอง สมานฉันท์ ของชาวพุทธทั้งปวง แต่คณะกรรมการชุดดังกล่าว กลับแสดงออกซึ่งท่าทีอันเป็นปฏิปักษ์ต่อมหาเถรสมาคม อย่างชัดเจน มิได้ให้เกียรติต่อองค์กรปกครองสงฆ์สูงสุด ซึ่งเป็นที่ตั้งแห่งความสามัคคี ของสังฆมณฑล ซ้ำยังแสดงการปรามาส ข่มขู่ คุกคาม ต่างกรรมต่างวาระ แม้จะมีแถลงการณ์เตือนสติ ให้พึงสังวรณ์เยี่ยงวิญญูชน กลับประพฤติเป็นพาลชน สัญจรในโมหาคติ ลุ่มหลงมัวเมาในอำนาจ แสดงการอาฆาตมาสร้าย ทำลายศรัทธา ในพระรัตนตรัย มิได้ยำเกรงต่อพระมหาเถระในหมู่สงฆ์ ละเลยแนวทางแห่งบัณฑิตชน พึงปฏิบัติต่อพระสงฆ์ในพระศาสนา คณะกรรมการชุดดังกล่าว ได้ร่วมกันสร้างบาดแผล ร้าวลึกลงในอาณาจักร บัดนี้ กำลังก้าวล่วงเข้ามาสร้างบาดแผล และความแตกแยกร้าวลึกในศาสนจักร อันจะก่อผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อพระพุทธศาสนา เสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งรุ่นแรง ยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่มิอาจให้เกิดขึ้นได้ ดังนั้น องค์กรสงฆ์รุ่นใหม่ ทุกภาคส่วน พร้อมเคลื่อนไหว เพื่อปกป้องสังฆมณฑล คุ้มครองพระพุทธศาสนา รักษามหาเถรสมาคม คัดค้านการดำเนินการใดๆ ของคณะกรรมการปฏิรูปพระพุทธศาสนา ซึ่งมีนายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธาน มิให้ก้าวล่วงเข้ามาสร้างความร้าวฉานแก่สังฆมณทล อย่างถึงที่สุด
ถ้าใช้ตรรกะนี้ ปี 2555 ใครเป็นรัฐบาลล่ะ ประเด็นแนวนี้ไม่เกี่ยวกันว่าใครเป็นรัฐบาล แล้วยังจะมาโยง http://www.innnews.co.th/mobile/show?newscode=379993 มัสยิดเวียงป่าเป้า เชียงราย ยังไม่ได้ข้อยุติ ข่าวภูมิภาค วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2555 18:43น. มัสยิดเวียงป่าเป้า เชียงราย ยังไม่ได้ข้อยุติ ชาวบ้านดีเดย์ 24 พ.ค. ประท้วงแน่ หากยังไม่ยุติการก่อสร้าง ที่ห้องประชุมมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตพะเยา ห้องเรียนวัดพระแก้ว อ.เมือง จ.เชียงรายพระเทพรัตนามุณี เจ้าคณะภาค 6 พระเทพสิทธินายก เจ้าคณะ จ.เชียงราย นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดประชุมฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการที่ชาวมุสลิมทำการก่อสร้างมัสยิด ณ บ้านโป่งน้ำร้อน ม.6 ต.แม่เจดีย์ อ.เวียงป่าเป้า ติดถนนสายเชียงราย-เชียงใหม่ โดยมีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพุทธสมาคม จ.เชียงราย ชมรมน้อย-หนานเวียงป่าเป้า ไปร่วมหารือเพื่อหาทางออก เนื่องจากได้มีชาวบ้านจำนวนมากในพื้นที่ ออกมาต่อต้านการก่อสร้างดังกล่าว โดยชมรมน้อย-หนานเวียงป่าเป้า ยังคงแสดงท่าทีต่อต้านเช่นเดิม และแจ้งว่าจะมีการเคลื่อนไหวของชาวบ้านในการประท้วง วันที่ 24 พ.ค.นี้แน่นอน หากยังไม่ยุติการก่อสร้าง นายธานินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับในอนาคตจะมีการจัดหาคนกลางเพื่อประสานระหว่างสองฝ่าย เพื่อให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องภายนอกยุติการเคลื่อนไหว เพื่อให้เรื่องราวสงบลงก่อน จากนั้นกลุ่มที่ก่อสร้างกับชาวบ้านในพื้นที่จึงค่อยตกลงเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกันต่อไป ทั้งนี้การชุมนุมวันที่ 24 พ.ค.หากว่าอยู่ในกรอบกฎหมายก็ยอมรับได้ แต่อย่าได้ปลุกระดมผู้คนออกมาทำผิดกฎหมาย เพราะทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งตำรวจ ทหาร ฯลฯ เฝ้าจับตาอยู่
ปัญญาอ่อน ถามว่าทำถูกไหมที่ปิดถนนตักบาตร มีตำราไหนสอนว่าเป็นประเพณีหรือต้องมีวิธีทำบุญตักบาตรหมู่ เคยมีที่ไหนที่เขาปิดถนนทำบุญมั้งนอกจากวัดนี้ การทำบุญที่ทำคนอื่นเดือดร้อนได้บุญตรงไหน ไม่เกี่ยวกับการเมืองเลย โพสอะไรใช้ความคิดบ้าง
ตกลงใครดึงเรื่องพุทธศาสนาเข้าการเมืองกันนะ... ถ้าไม่มีเสื้อแดงจอมขยัน ป่านนี้ธรรมกายอาจจะอยู่สบายกว่านี้
เขาสวดมนต์ระหว่างชุมนุมทางการเมือง ไม่ใช่การเอาพุทธศาสนามาเป็นเรื่องการเมือง แกล้งขยัน? ปล. สำหรับผมพระพุทธอิสระก็ไม่ได้ประพฤติเหมาะสมกับความเป็นพระเช่นกันครับ
ในภาพเขานิมนต์พระมาใส่บาตรตอนชุมนุมปิดถนน(แต่ก็มีทางให้ผ่านได้)ตั้งนานแล้ว ไม่ใช่พระจัดทำบุญเองและประกาศปิดถนนไม่ให้รถผ่านเลย ไม่ต้องรีบด่าหรือเหน็บแหนมชาวบ้านหรอก คิดให้ดี อ่านข่าวให้ทั่วก่อนโพส ไม่งั้นจะกลายเป็นตัวเองหน้าแตกแทน
อ้าว เขาไม่ได้บิดเบือนคำสอนแบบททำมะเกย์นี่ครับ เขาอุตส่าห์บอกว่าเป็นการชุมนุมทางการเมืองและมีการสวดมนต์เรียกขวัญ ไม่ทราบว่าอ่านหนังสือไม่ออกหรือว่าจงใจบิดเบือนด้วยสันดานชั่วๆของป่าช้าครับ
เอามาเล่นนี่อ่านหรือเปล่า เรื่องพระอินเดีย จริงๆแล้วไม่มีใครดึงศาสนามาปนกันปนเมืองนอกจากควายแดงเท่านั้นที่ดึงลงมา ไปถามเหวงสิ
แสดงความขยันอีกแล้ว... เห็นๆอยู่ว่าเขาปิดถนนก่อนหน้านี้แล้วไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเอาพุทธศาสนามาเป็นประเด็นการเมือง... แล้วการทำลายพุทธศาสนาก็ไม่ใช่เรื่องการปิดถนนด้วย
"ขอให้ประเทศไทยจงเป็นประเทศพุทธศาสนิกชนฝ่ายเถรวาทอันดับ 1 ต่อไป" อันนี้ต้องส่งให้ เถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนา และมหาจุฬา ฯ ครับ เพราะ 3 องค์กรนี้ กำลังส่งเสริมพุทธศาสนิกชนออกนอกลู่นอกทางของเถรวาท โดย ส่งเสริมกิจกรรมและการสอนธรรม ของวัดธรรมกาย ที่เป็นปัญหาอยู่ขณะนี้แหละ ปัจจุบันคนไทยที่บอกว่านับถือพุทธ ก็มั่วไปนับถือ ผี สาง เทวดา เจ้าป่า เจ้าเขา กันอยู่แล้ว ยังไม่รวมพระสงฆ์ที่ทำตัวเป็นผู้วิเศษให้คนนับถือพุทธ หลงใหลได้ปลื้มอีกมากมายหลายคน สิ่งเหล่านี้มันเป็นแนวทางของเถรวาทหรือเปล่า แต่องค์กรหลักทางพุทธศาสนา นอกจากจะไม่พยายามทำให้พระ "รุ่นใหม่" (ที่ไม่รู้บวชไปทำไม) ให้เข้าใจถึงแนวทางของ เถรวาท ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกว่า นี่คือพุทธแท้ นี่คือพุทธของจริง กลับไปส่งเสริมพุทธที่ไม่ใช่เถรวาท คุณก็จะเห็น อิฐ ปูน ที่ก่อสร้างในวัดรูปแบบต่าง ๆ ตามความเชื่อของแต่ละวัด มากมายเต็มประเทศไทยโดยไม่รู้หรอกว่า แนวทางของพุทธฝ่ายเถรวาท เป็นอย่างไร เพราะฉะนั้น อย่าได้หวังเลยว่า "ขอให้ประเทศไทยจงเป็นประเทศพุทธศาสนิกชนฝ่ายเถรวาทอันดับ 1 ต่อไป"
