แล้วใน50ปีที่ผ่านมามันดีหรือเลวล่ะ ถ้าเลวต้องเลวต่อไป??? ดังนั้นถ้าตอนนี้มันไม่ดีก็กลับไปใช้ระบบที่มันดีก็ถูกต้องแล้ว
นุ่มทำเงินหายบนไฮเวย์ดีใจไปรับเงิน ถูกจับคาโรงพัก เหตุเพราะมีหมายจับค้ายา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000030168
องค์กรใหม่ดูแลการศึกษาตามมาตรา 44 2016/03/24 8:38 PM กรุงเทพฯ 24 มี.ค.-จากกรณีที่ คสช. ใช้อำนาจมาตรา 44 ปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของไทยเป็นแบบรวมอำนาจขึ้นต่อจังหวัดโดยตรง นักวิชาการมองว่ารูปแบบการบริหารงานแบบนี้อาจทำให้การทำงานช้าลง ความไม่เป็นธรรมในการบรรจุแต่งตั้งโยกย้ายครู และการล้างบางอำนาจ คือเหตุผลที่ คสช. ใช้มาตรา 44 ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษาไทย จากการกระจายอำนาจบริหารแบบเขตพื้นที่การศึกษา เป็นไว้ที่จังหวัดโดยตรง เดิมการโยกย้ายครู เขตพื้นที่การศึกษาต้องเห็นชอบทั้งต้นและปลายทาง และการปฏิรูปการศึกษาแบบรวมศูนย์ นอกจากจะลดความไม่เป็นธรรมในการโยกย้ายแต่งตั้งบุคลากรแล้ว ยังช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของแต่ละพื้นที่ด้วย ก่อนปี 2542 การศึกษาภูมิภาค บริหารแบบองค์รวม โดยนโยบายของกระทรวงถูกส่งผ่านไปยังศึกษาธิการจังหวัด ศึกษาธิการอำเภอ และโรงเรียน แต่เมื่อ พ.ร.บ.การศึกษาปี 2542 บังคับใช้ การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ศึกษาธิการจังหวัดและอำเภอถูกยุบ และตั้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแทน ปัจจุบันมี 225 เขต ดูแลนโยบายและบุคลากร ผ่านมา 17 ปี การบริหารที่ต่างคนต่างทำ ไม่โปร่งใสในการบรรจุและโยกย้ายครูสะสม ขณะที่ความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษามีมากขึ้น มาตรา 44 จึงยกแผงใหม่ ยุบเขตพื้นที่การศึกษาทั้งหมด พร้อมดึงอำนาจบริหารไปที่ศึกษาธิการจังหวัดแบบเดิม โดยเพิ่มศึกษาธิการภาค พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษามาดูแลด้วย นักวิชาการเชื่อว่าวิธีนี้ช่วยเกลี่ยครู ลดความเหลื่อมล้ำได้ แต่การบรรจุและโยกย้ายที่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องคงไม่หมด แนะนำควรใช้ในระยะสั้นเท่านั้น เพื่อป้องกันการแทรกแซงทางการเมือง การปฏิรูประบบบริหารการศึกษาแบบฟ้าผ่ายกชุดครั้งนี้ แม้ดูผิวเผินจะเหมือนกับการย้อนอดีต แต่ผู้คนในแวดวงการศึกษาเชื่อว่าทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมมีสิ่งดีเกิดขึ้น เสมอ.-สำนักข่าวไทย http://www.tnamcot.com/content/431827