http://www.naewna.com/politic/140595 20 ม.ค. 58 นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการป.ป.ช. กล่าวว่า ในวันที่ 20 ม.ค. ที่ประชุมคณะทำงานร่วมระหว่างป.ป.ช. อสส. ได้ประชุมหารือเพื่อพิจารณาหาข้อไม่สมบูรณ์ในคดีอาญาจำนำข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยประชุมเป็นนัดสุดท้าย ซึ่งได้มีการนำข้อไม่สมบูรณ์ที่มีอยู่และพยานหลักฐานที่ป.ป.ช.ได้สอบเพิ่มเติมมาพิจารณาในที่ประชุม ในที่สุดคณะทำงานร่วมทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าข้อสมบูรณ์ในคดีนี้ขณะนี้ได้มีพยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว ขั้นตอนหลังจากนี้คณะทำงานร่วมฯจะส่งเรื่องไปให้อสส.พิจารณาสั่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป เท่าที่ทราบฝ่ายอสส. จะดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็วภายในไม่กี่วันนี้ ขอให้ติดตามท่าทีจากอสส.ว่าจะสั่งฟ้องคดีได้เมื่อใด
งวดนี้คงถูกรางวัลที่ 1 แน่นอน เพราะคณะทำงานร่วม เปรียบได้กะ อนุฯ กรรมการชุดใหญ่ บอก "เอกสารยังไม่สมบูรณ์" แน่นอน
ด่ากันแต่สองมาตรฐาน ศาลเอียง ไม่มีความยุติธรรม อัยการไม่แตะเลย อ๋อ................... แบบนี้นี่เอง ??
อ้าว มุกไหนกันอีกล่ะนั่น? http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000007855 21 มกราคม 2558 13:54 น. รองอัยการสูงสุดปฏิเสธเห็นชอบ ป.ป.ช.ฟ้องอาญาคดีจำนำข้าว “ยิ่งลักษณ์” รับงงเหตุไม่เคยประชุมเพื่อสรุปสำนวน หลังให้สอบพยานเพิ่ม 2 ปาก เตรียมเรียก คณะทำงานของ ออส.สอบถาม นายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ รองอัยการสูงสุด (อสส.) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานพิจารณาสำนวนคดีร่วมกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีที่ ป.ป.ช.ระบุว่าคณะทำงาน ป.ป.ช.และฝ่าย อสส.เห็นพ้องส่งดำเนินการส่งฟ้องคดีอาญา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่าตนในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฯไม่เห็นทราบเรื่องที่ ป.ป.ช.ไปออกข่าว ไปประชุมกันตอนไหนยังงงว่าทำไมไม่เชิญตน เพราะคณะทำงานฯ ยังไม่สรุปเรื่องเลย ยังอยู่ขั้นตอนรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่ไม่สมบูรณ์ สอบพยานเพิ่มเติม 2 ปากไม่ถึงไหนยังไม่รายงานเลย ตนจะเรียกคณะทำงานมาสอบถามสรุปความว่าตกลงยังไง ผู้สื่อข่าวถามว่าจะสอบถาม ป.ป.ช.หรือไม่ นายวุฒิพงศ์กล่าวว่า คงไม่สอบถาม เมื่อ ป.ป.ช.เป็นคนให้ข่าวก็ต้องรับผิดชอบเอง ยืนยันว่าการพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ในคดีนี้ต้องพิจารณาคำให้การของพยานที่สอบเพิ่มเติม และหลักฐานต่างๆ ที่ฝ่าย ป.ป.ช. ขอจากหน่วยงานราชการมาให้ครบถ้วนเสียก่อน http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=748704 21 มค. 2558 เวลา 16:38 น. เมื่อวันที่ 21 ม.ค.2558 นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีนายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ รองอัยการสูงสุดในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายอัยการ ในคณะทำงานร่วมป.ป.ช.-อัยการสูงสุด ระบุคณะทำงานร่วมฯยังไม่มีมติให้ส่งฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในโครงการรับจำนำข้าวว่า โดยนายสรรเสริญ กล่าวยืนยันว่า คณะทำงานร่วมป.ป.ช.-อัยการสูงสุด มีมติไปเรียบร้อยแล้วว่าให้ส่งฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ต่ออัยการสูงสุด โดยในการประชุมคณะทำงานร่วมฯนัดสุดท้ายเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมามีตัวแทนของป.ป.ช.และอัยการสูงสุดอยู่ในที่ประชุม 13 คน ถือว่าครบองค์ประชุม เป็นตัวแทนป.ป.ช. 10 คน และอัยการสูงสุด 3 คน โดยมีข้อตกลงในคณะทำงานก่อนหน้านี้ว่าการประชุมไม่จำเป็นต้องมีตัวแทนคณะทำงานเข้าร่วมประชุมครบทุกคน ขอให้มีครบองค์ประชุมพอ และก่อนที่จะมีการประชุมคณะทำงานในวันที่ 20 ม.ค. ฝ่ายเลขาฯของป.ป.ช.ได้ทำหนังสือแจ้งให้คณะทำงานฝ่ายอัยการสูงสุดทราบทุกคนแล้วว่าจะมีการประชุมคณะทำงานร่วมฯ แต่ถึงเวลาประชุมวันที่ 20 ม.ค.มีตัวแทนฝ่ายอัยการสูงสุดมาประชุมแค่ 3 คน ซึ่งที่ประชุมเห็นพ้องกันว่าขณะนี้ข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนคดีน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้มีการสอบพยานบุคคลและหาพยานหลักฐานต่างๆจนครบถ้วนหมดแล้ว จึงมีมติให้ส่งฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ต่ออัยการสูงสุดต่อไป ส่วนที่นายวุฒิพงศ์ ระบุว่า ยังไม่ทราบเรื่องและคณะทำงานฯยังไม่มีการสรุปเรื่องการส่งฟ้องนั้น ตนก็ไม่ทราบว่า ตัวแทนฝ่ายอัยการสูงสุดมีการไปประสานงานกันอย่างไร
อัยยะกานตัวนี้หน้าด้านยอดเยี่ยมครัช เป็นหัวหน้าคณะทำงาน แต่ดันมาบอกว่าไม่เข้าประชุม เลี้ยงไว้เปลืองข้าวสุกเจงๆ
23 ม.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษก อสส. แถลงว่า อสส.มีความเห็นให้สั่งฟ้อง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีจำนำข้าว หลังการพิจารณาพยานหลักฐานเอกสารจำนวนกว่า 10,000 หน้า ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ส่งสำนวนการไต่สวนมาให้ ซึ่งหากตัดสินมีความผิดตามกฏหมายอาญา มาตรา 157 และพระราชบัญัติ ป.ป.ช. พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 มีโทษจำคุก 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เมื่อถามว่า สามารถสั่งฟ้องได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์หรือไม่ นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ต้องรอให้ อสส.ตรวจคำฟ้องในสำนวนก่อน แล้วจะมีการตั้งคณะทำงานในชั้นศาล คาดว่าไม่เกิน 30 วัน สามารถส่งฟ้องได้ ส่วนจะมีการแนบคำคัดค้านการประกันตัวรวมถึงห้ามออกนอกประเทศหรือไม่ ก็จะมีการพิจารณาสำนวนก่อน ทั้งนี้ อสส.จะแจ้งไปยัง ป.ป.ช.ให้ทราบเรื่องดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าการแถลงวันนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการลงมติถอดถอนของ สนช. แต่อย่างใด http://www.naewna.com/politic/140971 เท่าที่รู้ มีรองอัยการบางคนหน้าแตก
http://www.naewna.com/politic/140977 ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช ได้ส่งสำนวนการไต่สวนกรณีกล่าวหานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการในโครงการรับจำนำข้าว เพื่อให้อัยการสูงสุดพิจารณาฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) มาตรา 123/1 ซึ่งต่อมาอัยการสูงสุด ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า คดีดังกล่าวที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ส่งมานั้นยังไม่สมบูรณ์พอที่จะยื่นฟ้องคดี ต่อศาลได้ อัยการสูงสุดจึงแจ้งข้อไม่สมบูรณ์ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบ และต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช.และอัยการสูงสุดได้ตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อเป็นผู้แทนไปดำเนินการพิจารณาพยานหลักฐาน ที่ไม่สมบูรณ์ และรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์ เพื่อส่งให้อัยการสูงสุดฟ้องคดีต่อไป นั้น ต่อมาเมื่อมีการตั้งคณะทำงานทั้งสองฝ่ายแล้ว คณะทำงานฝ่ายผู้แทนอัยการสูงสุด และคณะทำงานฝ่ายผู้แทนคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการนัดประชุมพิจารณาพยานหลักฐาน ที่ไม่สมบูรณ์ และไปดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์ตามข้อไม่สมบูรณ์ที่พิจารณา ตกลงกันได้ โดยได้มีการขอเอกสารหลักฐานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สอบปากคำพยานบุคคลที่จำเป็นแก่คดีเพิ่มเติมเพื่อให้สิ้นกระแสความ รวมทั้งอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์ตามอำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายต่อไป เมื่อคณะทำงานทั้งสองฝ่ายได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานตามข้อไม่สมบูรณ์ ที่ตกลงกันได้ดังกล่าวข้างต้นแล้ว ต่อมาวันที่ 20 มกราคม 2558 คณะทำงานได้นัดประชุม เพื่อพิจารณาผลการรวบรวมพยานหลักฐานร่วมกัน และมีความเห็นว่า การดำเนินการของคณะทำงานร่วม ได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานตามข้อไม่สมบูรณ์ดังที่พิจารณาตกลงกันได้เสร็จสิ้นแล้ว จึงมีมติให้ส่งพยานหลักฐานทั้งหมดเสนออัยการสูงสุดเพื่อฟ้องคดีต่อไปตามมาตรา 11 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542 อัยการสูงสุดได้พิจารณาพยานหลักฐานที่คณะทำงานส่งมาดังกล่าวข้างต้น ประกอบพยานหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมดในสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. แล้วเห็นว่า คดีมีความสมบูรณ์พอที่จะดำเนินคดีอาญาฟ้องผู้ถูกกล่าวหาต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ จึงให้ดำเนินคดีอาญาฟ้องนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตามข้อกล่าวหา จึงแถลงมาให้ทราบโดยทั่วกัน. สำนักงานอัยการสูงสุด 23 มกราคม 2558
คุ้นๆว่าเคยมีอ้างว่า ศาลต้องสืบเองใหม่หมดซิ ถ้าศาลว่าตามสำนวนปปช.แล้วจะมีศาลทำไม ไม่งั้นปปช.ก็เท่ากับเป็นศาลซะเองแล้ว ประมาณเนี้ย แต่นึกไม่ออกว่าคดีไหน