21 มี.ค.| ข่าว 16.00 น. ตำรวจอยู่ระหว่างรอผลตรวจเลือดจากโรงพยาบาลสมิติเวช ที่ผู้ต้องหาคดีรถเบนซ์ชนรถฟอร์ดพักรักษาตัว เพื่อนำไปตรวจสอบสารเสพติด ขณะที่พนักงานสอบสวน แจ้งข้อหานายเจนภพเพิ่มอีก 1 ข้อหา
ยิ่งอ่านยิ่งเหนื่อย คนที่ไม่เกรงกลัวกฏหมายคือคนรวยทั้งนั้นเพราะเขาเชื่อว่าเงินซื้อได้ทุกอย่าง ซึ่งคงจะจริงของเขา อังคารที่แล้วพาเมียไปดูคอนเสิร์ทเดวิด ฟอสเตอร์ที่อิมแพค เลิกสี่ทุ่มกว่า ขากลับบ้านขึ้นทางด่วนขั้นสองมุ่งหน้าบางปะอิน อยู่บนทางด่วนช่วงห้าทุ่ม คุณเอ๋ย มีแต่สารพัดรถแพงๆวิ่งแข่งพายุกันทั้งๆมีป้ายบอกให้ขับ80 ผมขับไอ้กระป๊อ(นิสสันมาร์ช)เสียวไส้กันสองคนตายาย มีช่วงหนึ่งมีบีเอ็มแซงขึ้นไปด้วยความเร็วสองร้อยน่าจะได้ แซงผมไปเหมือนรถผมจอดอยู่เฉยๆ นึกในใจว่าถ้ามันพลาดมาเสยเรา ไม่มีสิทธิ์รอดเลย บอกยายว่าหากจะใช้ทางด่วนช่วงดึกๆครั้งหน้าจะขับเจ้าSUV 8สูบหนักเกือบสองตันมาละ ลูกเศรษฐีที่ไหนขับมาเสยก็ให้มันยับไปทั้งสองคัน เราแก่แล้วไม่เป็นไร ยังไงต้องให้แน่ใจว่ามันต้องไม่รอดไปทำใครเดือดร้อนอีก
ว่าจะไล่โล๊ะ ลบ เคลียร์ไฟล์เก่าๆ ทิ้งจากเครื่อง. แว่บไปเจออันนี้เข้า... ---------------------------------------- ---------------------------------------- ผมว่ามันเข้าเค้าแฮ่ะ... "ภาพพจน์ตำหนวด"... ขอบพระคุณเรื่องจากอินเตอร์เน็ต...
อ้าว.....เพิ่งรู้เหรอครับคุณทหาร ว่าตำรวจเขามีใว้เป็นฝ่ายส่งข้อมูล ---------------------------------------------------------------------- เบื้องหลังคำสั่งคสช.ให้ทหาร 'ปราบมาเฟีย' โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์วันที่ 31 มีนาคม 2559, 03:30อ่านแล้ว 4,939 ครั้ง เบื้องหลังคำสั่งคสช.ให้ทหาร "ปราบมาเฟีย" เหตุเพราะหลายจุดพบ "ตำรวจ" เป็นผู้มีอิทธิพล ระบุข้อมูลลับจะรั่วก่อนปฏิบัติการ http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/692855
ขณะที่การเดินหน้ามาตรการปราบมาเฟียหลังมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ทหารมีอำนาจเต็มในการดำเนินการในขณะนี้ มีรายงานว่า พบข้อมูลว่ามีตำรวจบางนายเป็นผู้มีอิทธิพลเองจนทำลายหลักฐานและไหวตัวทัน มีรายงานข่าวเปิดเผยถึงเบื้องหลังการออกคำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ให้อำนาจเต็มกับเจ้าหน้าที่ทหารในการแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพลหรือมาเฟียว่า เนื่องจากการปฏิบัติการร่วมระหว่างฝ่ายทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง ที่่ผ่านมา เมื่อลงมือปฏิบัติการจริงแล้ว ฝ่ายทหารที่เป็นกำลังหลักของ คสช. พบอุปสรรคว่า หลายจุดผู้มีอิทธิพลที่แท้จริงเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ เมื่อฝ่ายปฏิบัติการ 3 ฝ่ายมีการประชุมลับเพื่อกำหนดจุดว่าจะปฏิบัติการจุดไหน เมื่อไหร่ ก็จะมีข้อมูลรั่วไปล่วงหน้า ทำให้ตำรวจบางคนในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลด้วย รู้ว่ากำลังจะถูกปฏิบัติการกวาดล้าง ก็ไหวตัวทันและไปทำลายหลักฐาน ทำให้หลายปฏิบัติการไม่สำเร็จ รายงานระบุว่า/ เพื่อให้การทำงานปราบมาเฟียบรรลุเป้าหมาย ฝ่ายทหารจึงเสนอไปยัง คสช. ให้หาทางช่วยกำจัดอุปสรรคที่มีตำรวจร่วมปฏิบัติการออกไป ไม่เช่นนั้นข้อมูลก็จะรั่วอยู่เช่นเดิม และเมื่อมีคำสั่ง คสช.ให้อำนาจทหารดำเนินการแบบนี้ เชื่อว่าอนาคตจะได้เห็นการจับกุมผู้มีอิทธิพลที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยก็เป็นได้
ผมรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ก็อยากให้พลตำรวจเงินเดือนเริ่มต้นสักสาม-สี่หมื่น ถ้าจับได้ว่าโกงก็เอาให้หนักเลย ตำแหน่งสูงสุดของตำรวจคือหัวหน้าสน. ขึ้นกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นหรือผู้ว่าฯก็แล้วแต่จะเห็นสมควร ยุบตำแหน่งตำรวจที่ไม่ได้ทำงานจราจร ไม่ได้จับผู้ร้าย และไม่ได้ทำงานบริการประชาชนออกไป งบประมาณที่ประหยัดไปได้เอามาจ่ายเป็นเงินเดือนของตำรวจที่ทำงานเกี่ยวข้องกับประชาชนจริงๆ อย่างน้อยเงินเดือนปัจจุบันคูณสองได้แน่นอน แต่ตำรวจต้องทำใจว่าตำแหน่งหรูๆอย่างผู้บังคับการ ผู้บัญชาการจะไม่มีอีกต่อไป ผมเคยรู้จักกับหัวหน้าสถานีตำรวจประจำชุมชนหนึ่งในประเทศสิงคโปร์ พออายุครบสืี่สิบห้าก็ลาออกไปเปิดร้านขายคอมพิวเตอร์ ก็ดูเขามีความสุขดี ที่เขาทำใจจากอาชีพตำรวจไปได้โดยง่ายนั้น ส่วนหนึ่งคงมาจากการไม่มีรายได้นอกระบบ เรื่องนี้คงยากในประเทศไทย