จะว่าไปแล้ว ข้าราชการระดับต่างๆนี่มันก้อแก้ไขสันดานได้ยากเหมือนกันเน๊อะ..... ........................................................................................ http://m.dailynews.co.th/Article.do?contentId=276934 ไม่ รู้มีพวกจมูกไวบางคน ไปคาดเดาไว้ล่วงหน้าหรือเปล่าว่า “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. อาจใช้อำนาจพิเศษ ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวมาตรา 44 ผลักดัน ’พ.ร.บ.นิรโทษกรรม“ เพื่อล้างผิดให้กับทุกฝ่าย เลยทำให้ บรรดาข้าราชการบางหน่วยงาน เริ่มใส่ “เกียร์ว่าง” ให้เห็นกันแล้ว ดูง่าย ๆ อย่างกระบวนการตรวจสอบ “โครงการรับจำนำข้าว” นอกจากจะเล่นบท ’ยื้อกันไปมา“ ระหว่าง “สำนักงานอัยการสูงสุด” กับ “ป.ป.ช.” จนไม่รู้ว่า จะได้ข้อสรุปกับการสั่งฟ้อง “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ได้เมื่อไหร่ ล่าสุดยัง เกิดปรากฏการณ์แปลก ๆ กับหน่วยงาน ซึ่งเข้าไปเกี่ยวข้องกับ “โครงการฉาว” ถ้าจับจากคำให้สัมภาษณ์ “นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง” ในฐานะ ประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งเพื่อนสื่ออย่าง “นสพ.ไทยโพสต์” นำมาลงไว้เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ปลัดกระทรวงการคลังบอกไว้ว่า “องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ส่งตัวเลขข้าวสารที่เหลืออยู่ในสต๊อกได้ไม่ครบ โดยขอขยายเวลาหลายครั้งก็ยังทำไม่ได้ จากเดิมคณะอนุกรรมการจะปิดบัญชีรับจำนำข้าวตั้งแต่เดือน ก.ย. แต่ต้องขยายเวลาให้ อคส. และ อ.ต.ก.ส่งข้อมูลข้าวให้ได้ภายในวันที่ 8 ต.ค. แต่ถึงวันนี้ก็ยังทำไม่ได้ ทำให้ยังไม่สามารถปิดบัญชีเพื่อดูผลขาดทุนที่แท้จริงได้” จำได้ไหมครับ...ก่อนที่รัฐบาล “พรรคเพื่อไทย” จะล้มไป “น.ส.สุภา ปิยะจิตติ” ซึ่งเคยดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงการคลัง ปัจจุบันผู้หญิงคนนี้ทำงานในฐานะ “กรรมการ ป.ป.ช.” เคย ออกมาให้ข้อมูลในฐานะ ประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว โดยระบุว่า โครงการรับจำนำข้าวขาดทุนไปแล้ว 2.6 แสนล้านบาท และผลลัพธ์ของ การกล้าพูดความจริง ทำให้ถูกย้ายพ้นจากการทำหน้าที่ ดูแลกรมบัญชีกลาง และ สำนักบริหารหนี้สาธารณะ ต้องไปดูแลงานของ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง และ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง แถมยังถูกผู้บริหารกระทรวงการคลัง ตั้งกรรมการสอบสวน อีก เป้าหมายคือต้องการ ’ปิดปาก“ และไม่อยากให้ผู้หญิง ที่กล้าพูดกล้าตรวจสอบ ได้เข้าไปล่วงรู้ถึงรายละเอียดของโครงการรับจำนำข้าว ต้องถามว่า...ถ้าหากโครงการโปร่งใสจริง ทำไมต้องกลัวการตรวจสอบ แล้วมาถึงวันนี้...เป็นอย่างไรครับ กับหายนะที่เกิดขึ้น กับ “โครงการฉาว” ซึ่งคงต้องชื่นชมความกล้าหาญของน.ส.สุภา แม้ว่าจะไม่เคยได้รับรางวัล “โนเบิล” หรือได้รับรางวัล “ขงจื้อ” เหมือนผู้นำไทยบางคน แต่ก็ช่วยทำให้สังคมได้รับรู้ข้อมูลบางอย่าง ที่สำคัญคือ คำพูดของ “นายรังสรรค์” ช่วยชี้เป้าให้สังคมไทยเห็นว่า องค์กรไหนที่ขัดขวางกระบวนการตรวจสอบ ขัดขวางการหาข้อเท็จจริง อย่าลืมว่าตัวเลขขาดทุนจะช่วยบ่งชี้ว่า โครงการรับจำนำข้าวเกิดความเสียหายในวงเงินเท่าไหร่ ครับ...นี่ขนาด “พล.อ.ประยุทธ์” ไปพูดให้คนทั้งโลกระหว่างร่วมประชุม “อาเซม” ว่า โครงการประชานิยมของรัฐบาลในอดีต ทำให้เกิดความเสียหายประมาณ 7 แสนล้านบาท และถ้าปล่อยให้ทำต่อไป ประเทศไทยอาจถึงขั้นล้มละลาย กับคำพูดของผู้นำรัฐบาล ยังไม่ทำให้ข้าราชการบางหน่วยงาน สำนึกได้ว่าควรทำอย่างไร เพื่อทำให้ความจริงปรากฏผลออกมาโดยเร็ว อันที่จริงก่อนหน้านี้ รัฐบาลพยายามจัดแถวข้าราชการ โดยเฉพาะ “กระทรวงพาณิชย์” มีการสับเปลี่ยนโยกย้ายหลายตำแหน่ง ไล่ตั้งแต่ “ปลัดกระทรวง” ไปจนถึง “อธิบดี” ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับ การดูแลนโยบายข้าว แต่ก็ยังเกิดปัญหาขึ้นมาอีกจนได้ เลยได้แต่ภาวนาว่า หยุดพักระบอบประชาธิปไตยครั้งนี้ น่าจะช่วยทำให้บ้านเรามีอะไรดีขึ้น โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ หรือถ้าหากหัวหน้าคสช. จะช่วยคืนความสุขให้กับคนที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว ก็ช่วยป่าวประกาศให้รู้ล่วงหน้ากันไปเลย คนไทยจะได้ไม่ต้องมารอลุ้นกันว่า เรื่องนี้มีใครสมควรต้องรับผิดชอบ เพราะลองขนาดหน่วยงานรัฐอย่าง “อคส.” และ “อ.ต.ก.” ยังกล้าเล่นบทยื้อ ผมเชื่อว่าน่าจะมีใครส่ง “สัญญาณ” บางอย่างให้รู้แน่ ๆ. “เขื่อนขันธ์”
ผมรู้แต่ว่า เรื่องนี้ถ้าเป็นมวยล้มต้มคนดู ลุงตู่ผมได้ไปอยู่กับไอ้แม้วเพื่อนเลิฟแน่ ๆ ครับ ถ้ากล้าก็ลอง
อัยกิินมันทาสเหลี่ยมมานานแล้ว ส่งไปเป็นผู้บริหารบอร์ดรัฐวิสาหกิจมานาน เมื่อไหร่จะยกเลิกตำแหน่งเหล่านี้ไปซะที
ประมาณว่า กรรรรูขออยู่นิ่งๆดึงเชงไปเรื่อย เพราะหากทำลงไปกลัวว่าจะโดนต้อนเอาคืนในภายหลัง พวกนี้แหล่ะที่เหยียบเรือสองแคมอย่างแท้จริง ..... ความผิด ทำประเทศชาติเจ๊งยับ.....หากพ้นผิด ก้อได้แต่ไว้อาลัยให้แก่ประเทศไทย
เพื่อไทยอีปูโดนประชาชนออกมาไล่เพราะนิรโทษกรรม ลุงตู่คงไม่ซ้ำความโง่ของมันหรอก แต่ท่าทาง ทั้งองค์กร อตก. นั่นแหละที่มันโกง
รางวัลโนเบิล ไม่มีคนไทยเคยได้ครับ รางวัลขงจื้อ(เป็นขององค์กรเอกชนของ นักธุรกิจไม่ใช่รัฐบาล คนไทยชอบเข้าใจผิด)เท่าที่ดูคนไทยก็ไม่เคยได้เหมือนกัน(แต่ในไทยเคยมีข่าวว่าปูได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง )แต่ไม่ได้ และจะบอกว่าปัจจุบันเหมือนจะหยุดไปแล้ว เพราะปัญหาทางเทคนิค http://en.wikipedia.org/wiki/Confucius_Peace_Prize