จริงๆเรื่องนี้เห็นคนขับขี่มอเตอร์ไซต์รณรงค์กันมาพอสมควรแล้ว และวันนี้ยังมีข่าว " บิ๊กไบค์คนนี้ถึงกับคุกเข่าขอร้องตำรวจ หลังโดนจับ และนี่คือเหตุผลที่เขาทำ เพื่อชาวสองล้อทุกคน " ที่มา truelife ชาวเน็ตโพสต์ข้อความรูปภาพลงในโลกโซเชียลกรณีขับรถมอเตอร์ไซต์ขึ้นสะพานข้ามแยกแล้วถูกตำรวจจับ เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา ในโลกโซเชียลชาวเน็ตเผยภาพในเพจ ขอเถอะครับ หนุ่มไบค์เกอร์คนหนึ่งกำลังคุกเข่ายกมือวิงวอนขอร้องคุณตำรวจไม่ให้จับเขา ในกรณีที่เขาขับรถลงมาจากสะพานข้ามแยก ซึ่งกฎหมายได้ระบุเอาไว้ว่า รถมอเตอร์ห้ามขับขึ้นสะพานข้ามแยกหรือลอดอุโมงค์ข้ามแยก เนื่องจากจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ทางด้านไบค์เกอร์ไม่คิดเช่นนั้น พวกเขาเห็นว่า กฎหมายแบบนี้เป็นอะไรที่ล้าหลังไปแล้วเพราะ พ.ร.บ.ตัวนี้ใช้มายาวนานถึง 30 กว่าปีแล้ว เขาจึงคุกเข่าวิงวอน ขอให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเห็น และอยากให้เปลี่ยนแปลง รายละเอียดมีดังนี้ " ขอขอบคุณทุกกำลังใจ และขออภัยทุกความไม่เห็นด้วยครับผม " ชื่อภาพ : "ขอเถอะครับ สะพานและอุโมงค์เพื่อคนทุกล้อ" เจตนารมย์ : เพื่อสื่อสะท้อนให้เห็นว่า คนรากหญ้าหาเช้ากินค่ำอย่างผม ไม่มีสิทธิ์ที่จะต่อสู้กับผู้ถือกฏหมายได้................หากแต่ ถ้าท่านหยุดจับ และหันมาฟังความเดือดร้อนของผมบ้าง ผมว่าเราอนุโลมและรถทุกล้อ ใช้ทางร่วมกันได้อย่างไร้อุบัติเหตุแน่นอนครับผม (เหมือนที่ท่านอนุโลมให้รถยนต์ รถบรรทุก รถกระบะ รถพ่วง ในหลายๆมาตรา) เป็นการสื่อการต่อสู้กับระบบที่ไม่เป็นธรรมเชิงสัญลักษณ์ครับ ผมขอขอบคุณทุกคำแนะนำ และน้อมรับด้วยใจกับคำตำหนิ หรือ ทุกเม้นท์นะครับ แต่ผมขอนอนยันและนั่งยันครับว่า นี่คือการ แสดงออก ให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ลงมาเหลียวหางตาดูผู้ใช้ทางที่เดือดร้อนอย่างผมและเพื่อนๆบ้าง และขอให้ ใส่ใจและห่วงใยพวกเราอย่างจริงจังกันบ้าง (ย้ำว่าต้องใส่ใจอย่างจริงจังนะครับ) นี่คือผม นี่คือวิถี การแสดงออกแบบอย่างของผม ซึ่งแน่นอนครับ มันขัดใจบางท่าน ผมขอขอบคุณล่วงหน้าหากท่านจะออกไปแสดงออกในแบบฉบับ แบบตัวตนของท่าน เพื่อเราผู้ใช้ทาง และผู้ที่ถูก พรบ. ล้าหลัง กดขี่มาตลอด เกือบ 20ปี (พรบ. มีอายุ 36 ปี) ดีครับออกไปทำในวิถีของท่าน ช่วยกันคนละไม้คนละแฮนด์ ครับผม Dome Rider 17.04.15 http://hot.ohozaa.com/hot-5-15-165148 ---------------------------------------------------------------------------------------------------------- จึงอยากจะชวนเพื่อนๆแชร์มุมมองในเรื่องนี้ครับ เพราะน่าจะมีหลายๆท่านที่ทั้งขับรถยนต์และขี่มอเตอร์ไซต์ น่าจะมีมุมมองที่หลากหลายครับ ส่วนตัวผมแค่ขี่มอเตอร์ไซต์อย่างเดียว แต่หลังๆไม่ได้ขี่จริงๆจังๆมาเกือบสิบปีแล้ว แต่ก่อนที่ขี่ช่วงนั้นรถไม่ค่อยเยอะและสะพานข้ามแยกและอุโมงค์ก็ยังไม่เยอะ จึงไม่ค่อยได้ใช้งานสักเท่าไหร่ ที่จะโดนตำรวจจับส่วนใหญ่ก็ข้อหาไม่วิ่งชิดซ้าย(เหยียบเส้นเลยไปนิดเดียวก็โดนแล้ว ) หลังๆมานี้ก็จะมีประสบการณ์จากแค่การนั่งแท็กซี่ข้ามแยกหรือลอดอุโมงค์เท่านั้น จึงอาจจะได้เห็นแค่ในมุมมองของคนใช้รถยนต์เท่านั้น ขอแยกมุมมองของผมเป็น 2 ข้อนะครับ - ในส่วนของการขี่มอเตอร์ไซต์ขึ้นสะพานข้ามแยก ผมเห็นด้วยกับการข้ามสะพานที่ไม่ชันมาก เพราะผมมีความรู้สึกว่าถ้าสะพานชันมาก แล้วมอเตอร์ไซต์ขี่อยู่กลางเลนไม่ได้ชิดขอบทางมาก เมื่อรถยนต์ขึ้นสะพานตามมาด้วยความเร็วแล้ว ถ้ามีการเกี่ยวหรือชนขึ้นมา เกรงว่ามอเตอร์ไซต์จะเบียดขอบจนเสี่ยงหล่นไปข้างล่าง(มีข่าวมาพอสมควร) แต่ส่วนใหญ่ช่วงเวลาเร่งด่วน สะพานข้ามแยกพวกนี้ก็ไม่สามารถทำความเร็วได้มาก เพราะรถมีปริมาณมาก มอเตอร์ไซต์ก็น่าจะซอกแซกไปได้ แล้วถ้าเป็นเวลาตอนกลางคืนล่ะ โอกาสที่รถยนต์จะชนท้ายมอเตอร์ไซต์จะมีมากเลยล่ะ เข้าใจว่าเวลาออกกฏหมายเมื่อก่อนต้องปลอดภัยที่สุด(หรือเปล่า? ) หรือจะกำหนดช่วงเวลาที่ขึ้นได้ก็น่าจะช่วยมอเตอร์ไซต์ได้พอสมควร อีกอย่างนึงที่เป็นประเด็นคือ ถ้าตำรวจห่วงประชาชนจริงๆควรจะยืนอยู่ทางขึ้นแล้วไม่ให้รถมอเตอร์ไซต์ขึ้นสะพาน แทนที่จะมาดักจับตอนลงสะพานเพื่อเอาค่าปรับ - ส่วนเรื่องการลอดอุโมงค์นั้นก็จะคล้ายๆกับการขึ้นสะพานข้ามแยก น่าจะให้ได้บางอุโมงค์เพราะทัศนวิสัยการมองเห็นในอุโมงค์นั้น บางอุโมงค์จะเป็นทางโค้งนิดหน่อย หมายถึงถ้ารถยนต์ทำความเร็วมามากๆ แม้มอเตอร์ไซต์จะชิดซ้าย ก็อาจจะโดนชนได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นหลากหลายความคิดในโซเชี่ยลก็จะแบ่งเป็นสองฝั่ง ทั้งทางคนที่ใช้มอเตอร์ไซต์และคนที่ใช้รถยนต์ ส่วนใหญ่คนที่ใช้มอเตอร์ไซต์ก็จะเน้นว่าเสียภาษีเหมือนกันทำไมใช้ไม่ได้ ประเทศโน้นประเทศนี้ทำไมทำได้(เทียบโดยไม่ดูว่าต่างที่ต่างนิสัยในการใช้ถนน) ส่วนคนที่ใช้รถยนต์ก็จะเน้นทำนองว่าถ้ามีอุบัติเหตุพวกเค้าก็จะซวยหนักขึ้น
อุโมงค์ดินแดง กับ ท่าพระ มันจะโค้งแบบนี้จริง ๆ ถ้าให้ลงอันตราย (กับมอเตอร์ไซค์) มาก ทีนี้จะกำหนดแบบลักหลั่น บางแห่งให้วิ่ง บางแห่งไม่ให้วิ่ง ยิ่งจะทำให้สับสนและเป็นประเด็นต่อไปในอนาคตแน่ ปล. ผมเคยขับมอเตอร์ไซค์ขึ้นสะพานพระราม 8 จากบางขุนพรหมมาลงปิ่นเกล้า มารู้ภายหลังว่าขึ้นไม่ได้ แต่ตอนนั้นประมาณ 5 ทุ่ม ไม่มีตำรวจ ไม่งั้นคงโดนปรับไปแล้ว
หมวกกันน็อค ก็มีคนไทยจำนวนไม่น้อย ไม่เห็นด้วยที่จะให้บังคับใช้ แม้จะเป็นกฏหมายที่ไม่เก่ามาก... ด้วยเหตุผล นานาประการหลังการโดนจับ(แบบนานๆครั้ง)... ยิ่งหัวเมืองใหญ่ๆใน ตจว. แทบจะนับหัวได้ ว่า มีคันไหนใส่บ้าง... ผมเทียบเคียงเอาว่า...ถ้าแก้ กม.อนุญาตให้ มอ'ไซค์ ขึ้นสะพาน/ลงอุโมงค์ได้ ก็น่าจะให้ ยกเลิกการบังคับใส่หมวกกันน็อค ไปพร้อมๆกันเลย...ดีม๊ะ ?
สมัยรุ่น ผมก็เคยเป็นคนขับขี่มอเตอร์ไซด์มาเหมือนกันนะครับ ความคิดของผม ผมไม่เห็นด้วยต่อข้อเรียกร้องครับ ทุกวันนี้ ความเป้นรถมอเตอร์ไซด์ที่พบเห็นอยู่เป็นประจำบนท้องถนน คือการทำอย่างไรก็ได้ ให้การขับขี่ของตนเองมีความสะดวกสบายที่สุด การทำผิดกฏจราจรมากมายที่พบเห็น ไม่ว่าจะฝ่าไฟแดงทุกครั้งที่มีโอกาส (และแม้แต่ไม่น่าจะมีโอกาส) วิ่งทุกเลน ไม่ว่าจะเลนขวาหรือซ้าย หรือทุกค่ำที่ผมพบเจอ เมื่อต้องเลี้ยวขวาเข้าซอยบ้าน รถยนต์เลนขวาหยุดให้ แต่มอเตอร์ไซด์มักไม่อยากหยุด บ้างหักมาเลนซ้าย เพื่อพุ่งตัดหน้าผมไป เพราะคิดว่าน่าจะพ้น เหล่านี้ เมื่อทำเป็นประจำ จนเคยชิน ก็กลายเป็นการย่ามใจ มอเตอร์ไซด์แถวบ้านผม วิ่งเลนขวากันขวักไขว่ เพราะโล่ง วิ่งสบาย และปลอดภัย เนื่องจากรถยนต์ ต้องหลบมาวิ่งเลนกลางกัน ด้วยกลัวจะไปเกี่ยวชนมอเตอร์ไซด์เข้า เช่นที่ผมต้องชะลอดูเลนซ้ายก่อนที่ขับข้ามไป นั่น ทำให้มอเตอร์ไซด์ย่ามใจ นึกว่าเป็นความปลอดภัยพอรึปล่าว การทร่วมทางกับรถยนต์ขึ้นสะพานลอย เป็นเวลาที่รถยนต์ ใช้กำลังในการไต่ระดับ เวลาจวนตัว เกิดอุบัติเหตุ ทำให้เบรคยาก ไหล่ทางจะหลบหลีกของมอเตอร์ไซด์ก็ไม่มี หลายคันที่ผมเห็น แซงขวาเข้ามายังอีกเลน ซึ่งเป็นอีกฝั่งของสะพานลอย ลองนึกภาพว่า มีรถอีกฝั่งสวนมาตรงช่วงคอสะพาน และมองกันไม่เห็น (ผมเคยเจอที่สะพานข้ามแยกศีนครินทร์-อุดมสุข) หรือช่วงรถยนต์ลอดอุโมงค์ จากแดดจ้า ลงมาอุโมงค์มืดโดยรถยนต์ไม่มีไฟหน้าอัตโนมัติ มืดๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้นะครับ
กระทู้ทำนองนี้เห็นแลกเปลี่ยนเป็นประจำในเว็บพันทิป ถกกันยืดยาวววว สุดท้ายจบลงด้วยการทุ่มเถียงปัญหาชนชั้น หลังๆเลยขี้เกียจอ่าน ฮีตขึ้นมาที ล่อกันสักที แล้วก็จบโดยไม่มีใครยอมใคร
ผม 4 ล้อขออ้อนวอน... ถ้า 4 ล้อชนกับ 2 ล้อ อย่าตั้งข้อหาว่า 4 ล้อผิดก่อน... แล้ว 2 ล้อก็กรุณาอย่าขับหนีด้วยครับ
ขออ้อนวอน 2 ล้อกรุณาวิ่งบนเลน อย่าแทรก อย่าเบียด เหมือน 4 ล้อ... อย่ามาจอดออกันตรงไฟแดงสี่แยก กรุณาตามคิวด้วยครับ ขอให้ปฏิบัติเหมือนกัน
ผมอยากทราบก่อนครับ ทำไมถึงต้องห้าม และเหตุผลเมื่อครั้งที่ตรากฎหมายนั้น ยังมีความเหมาะสมกับปัจจุบันหรือไม่ครับ
กฏหมายครับ มันเป็นกฎหมาย ปฎิบัติตามกันได้ไหม จะฝ่าฝืนกันทำไม ชอบอ้างว่าจ่ายภาษี เหมือนกัน ไม่เท่าเทียม ขอถามหน่อย ฝนตก เปียกไหม แล้วรถยนต์ล่ะ เค้าเปียกไหม?
http://decha.com/main/showTopic.php?id=2224 รายงานข่าวจากศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2551 แจ้งว่าศาลได้อ่านคำพิพากษา คดีที่นายธนวัฒน์เจริญชัยสมบัติ ฟ้องกองบัญชาการตำรวจนครบาลโดยผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะเจ้าพนักงานจราจรในเขตกรุงเทพมหานครว่ากระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยห้ามรถจักรยานยนต์ขึ้นสะพานลอยข้ามทางแยกบนถนนสายต่างๆและสะพานลอยข้ามแม่น้ำรวม 27 แห่ง เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมและสร้างภาระแก่ผู้ขับขี่จักรยานยนต์เป็นพาหนะในการเดินทางฯและสะพานบางแห่งมิได้ห้ามรถจักรยานยนต์ขึ้นใช้ทางทำให้เกิดความสับสนในการปฏิบัติตามจึงขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งห้ามดังกล่าวทั่วกรุงเทพมหานคร รายงานข่าวแจ้งว่า คดีดังกล่าว ศาลมีคำพิพากษาสรุปว่า พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ให้อำนาจเจ้าพนักงานจราจร มีอำนาจออกประกาศข้อบังคับหรือระเบียบห้ามรถทุกชนิดหรือบางชนิดเดิน...หรือทำเครื่องหมายบนผิวทางหรือติดตั้งสัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายจราจร กำหนดให้ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตามรวมทั้งกำหนดโทษผู้ฝ่าฝืน ดังนั้น ผู้ใดที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม จึงเป็นความผิดทั้งนี้ ในส่วนสะพานลอยข้ามทางแยกทั้ง 27 แห่งนั้น มีลักษณะทางกายภาพร่วมกัน คือ 1. สร้างขึ้นในช่องทางเดินรถทางด้านขวามือซึ่งเป็นช่องเดินรถที่ให้ขับขี่ด้วยความเร็วสูงกว่าช่องเดินรถด้านซ้าย 2. เป็นสะพานมิได้กำหนดช่องทางเดินรถจักรยานยนต์ ไว้เป็นการเฉพาะเพียงแต่มีไหล่ทางด้านซ้ายกว้างระหว่าง 0.40-0.90 เมตร หรือบางแห่งน้อยกว่า 3. เป็นสะพานที่มีความลาดชันตั้งแต่ 2.86-3.46 องศา ดังนั้น ในขณะขับขี่ขึ้นสะพานเครื่องยนต์ของรถจึงใช้กำลังฉุดมากกว่าปกติและขณะที่ลงจากสะพานจะมีความเร็วเพิ่มขึ้นต้องใช้แรงในการหยุดรถเพิ่มขึ้นเพื่อมิให้เกิดอันตราย นอกจากนี้ ตามพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 35 วรรค 2 กำหนดให้รถจักรยานยนต์ในทางเดินรถที่แบ่งช่องเดินรถไว้ตั้งแต่ 2 ช่องขึ้นไป ต้องขี่รถในช่องด้านซ้ายสุดการขับขี่รถจักรยานยนต์ขึ้นสะพานจึงต้องเปลี่ยนช่องทางจากซ้ายสุดบริเวณทางราบขึ้นไป ช่องเดินรถซ้ายสุดของสะพานจึงเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 35 วรรค 2 ของ พ.ร.บ.จราจรทางบก 2522 และตัดกระแสการจราจรนอกจากนี้ ในขณะที่จะขึ้นสะพานต้องเร่งเครื่องใช้แรงฉุดมากกว่าปกติเห็นได้ชัดว่าย่อมเกิดอันตรายแก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เองและผู้ขับขี่อื่นๆการออกข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจร จึงเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้อีกทั้งเป็นการห้ามรถจักรยานยนต์ทั้งหมดเป็นการทั่วไปมิใช่รถจักรยานยนต์คันใดคันหนึ่งจึงไม่ใช่เป็นการเลือกปฏิบัติตามที่ผู้ฟ้องกล่าวอ้างส่วนกรณีที่อ้างว่าเป็นการสร้างภาระแก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์นั้น สะพานลอยทั้ง 27 แห่ง สร้างขึ้นเพื่อระบายการจราจรพื้นราบให้คล่องตัวขึ้นมิได้สร้างภาระเพิ่มขึ้นให้แก่ผู้ใช้รถพื้นราบอย่างใด จึงพิพากษายกฟ้อง ข้อมูลข่าวจากเว็ปไซด์ หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ
เกรงว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดบ่อยขึ้น และพลอยทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนไปด้วย "...อีกรายเมื่อเวลา 01.00 น. วันเดียวกัน ร.ต.ท.ภูมิพัฒน์ สัญญา พงส.สน.คลองตัน ไปสอบสวนอุบัติเหตุรถ จยย.ชนราวสะพานข้ามแยกคลองตันแล้วมีคนตกลงมาเสียชีวิตที่พื้นถนนใกล้แยกคลองตันมุ่งหน้าถนนพัฒนาการขาออก แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. พบศพนายอรรณพ พุฒนวล อายุ 33 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 6/19 ถนนรถไฟสาย 3 ต.ชะอวด อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพนอนหงายจม กองเลือด กะโหลกและชิ้นส่วนสมองกระจายเต็มพื้น ส่วนบนสะพานพบรถ จยย.ยามาฮ่า เอ็กซ์เจอาร์ 1,200 ซีซี สีแดงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพพังยับล้มอยู่ และที่ราวสะพานมีร่องรอยเฉี่ยวชน สอบสวนนายพัทพงษ์ ตาลโหยง อายุ 50 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ที่เห็นเหตุการณ์ให้การว่า ขณะขับรถพาผู้โดยสารไปส่งย่านพัฒนาการ พอถึงบนสะพานข้ามแยกได้ยินเสียงรถ จยย.บิ๊กไบค์ขี่มาด้วยความเร็วแล้วเสียหลักตรงทางโค้งแฉลบกระแทกราวสะพานอย่างแรงจนคนขี่กระเด็นร่วงตกไปเสียชีวิตอยู่ข้างล่าง" http://www.thairath.co.th/content/491048 นักธุรกิจหนุ่มวัย 33 ปี ควบ “ดูคาติ” เสยท้ายกระบะจอดเสียบนทางลอยฟ้าดับคาที่ http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000135178
กฎหมายเก่า ไม่ใช่กฎหมายล้าสมัยเสมอไปนะครับ ตราบใดที่เทคโนโลยีการสร้างสะพานยังทำให้มีสะพานลอยข้ามแยกแบบ 4 เลนทั้งกรุงเทพไม่ได้ ขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้นไปมันก็ยังคงอันตรายเหมือนเมื่อ 30 ปี ก่อน
จุดประสงค์จริงๆของการทำสะพานลอยข้ามทางแยกก็เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัด เพื่อรถยนตร์วิ่งได้เร็วขึ้น ถ้าจำไม่ผิดสะพานข้ามทางแยกต้นแบบคือสะพานไทย เบลเยี่ยม จากนั้น ก็ตามด้วย เพชรบุรี อโศก ด้วยเนื้อที่ที่จำกัด เลยสร้างได้แค่สองเลน
ส่วนเรื่องจะให้จักรยานยนต์ขึ้นสะพานข้ามแยกหรือลงอุโมงค์ได้หรือไม่ ผมเห็นว่าก็สมควรจะให้ครับ ข้ออ้างเรื่องว่าอันตรายนั้นฟังไม่ขึ้น เพราะรถยนต์ก็ใช่ว่าจะไม่อันตรายในตอนขึ้นสะพานหรือลงอุโมงค์ (เช่น อุโมงค์แยกเกษตรที่มีอุบัติเหตุบ่อยมาก) ตำรวจที่เป็นเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ดูแลการจราจร ควรจะต้องดำเนินการให้ผู้ใช้ทางมีความปลอดภัย มิใช่ตัดปัญหากันด้วน ๆ ด้วยเหตุผลว่าอันตรายครับ ส่วนผู้ใช้จักรยานยนต์ ไม่ว่าจะธรรมดาหรือบิ๊กไบค์ ก็ต้องเรียกร้องอย่างมีเหตุผลครับ ไม่ใช่ใช้ข้ออ้างว่ารถยนต์ยังขึ้นได้ เพราะถึงจะมีคนใช้ข้ออ้างว่าคนเท่ากัน แต่จักรยานยนต์กับรถยนต์นั้นไม่เท่ากันแน่นอนไม่ว่าจะแง่ไหนก็ตาม
อุโมงลอดสี่แยก(ยกเวันอุโมงทางตรง ไม่มีในบ้านเรา) อย่าลงเลย ส่วนมากลึกกว่า 2ม. และแคบ เกิดอะไรขึ้น เก็บลำบาก
นิสัยรักสบาย อยากเร็ว อยากสะดวก คนเหมือนกัน มาอีกแระ 5555 จะอุโมงค์ สะพานข้ามแยก ถ้าลองให้มอเตอร์ไซด์ใช้ เดี๋ยวมีเร่งแซงปาดหน้าเข้ากระทันหันแบบรถใหญ่ต้องคอยเบรกให้เหมือนถนนปรกติ ถ้าเบรกไม่ทัน ชนแรงๆมีมุดใต้ล้อตายบาดเจ็บรอเคลียร์พื้นที่รถติดตาย จำได้ว่าเคยมีมอเตอร์ไซด์ลงอุโมงค์ดินแดง ตายคาที่มั๊ง ต้องรอเคลียร์พื้นที่ รถติด ถ้าซัดบนสะพานข้ามแยกแรงๆ มอเตอร์ไซด์ล่วงลงมา หรือคนขับปลิวลงมา รถข้างล่างซวยอีก แถมชนกันทีไร รถใหญ่ผิดตลอด ทั้งๆที่บางครั้งมอเตอร์ไซด์แซงขวาเจอรถสวนมาก็ปาดเข้ามาดื้อๆ จริงๆ เรื่องแค่นี้เป็นความปลอดภัยต้องมาก่อน
ผมไม่เห็นด้วยครับ อย่าเอาตัวเองเป็นที่ตั้งหรือกลุ่มบิ๊กไบร์เป็นหลัก ผมประสบการตรงเลยรถมอเตอร์ไซร์ขึ้นสะพานเล่นวิ่งกลางสะพานด้วยความเร็ว ที่ช้าและพอบีบแตรมันเล่นแกล้งเลย ช้ากว่าเก่าอีก จะแซงขวามันก็ไม่ให้แซง ขณะลงสะพานมันยังขับช้ามากกลางสะพานเลย เลี้ยวซ้ายขวากวนเราไม่ให้แซง ผมควรทำอย่างไง
ก็ว่ากันไปนะครับ กฎหมายจราจร ข้อบัญญัติส่วนใหญ่ ไม่ได้อิงหลัก คุณธรรม หรือจริยธรรม แต่เป็นไป เพื่อความเป็นระเบียบ เรียบร้อย และที่สำคัญ เพื่อความปลอดภัย ทำผิดกฎจราจร จะตกนรกหรือก็เปล่า นอกจากจงใจ แต่ถ้าทำผิดกฎจราจร ชีวิต หรือร่างกายท่าน อาจจะไม่สถาพร อย่าลืมนะครับ โรคอุบัติเหตุ ตายเยอะกว่า โรคใหนๆ ถ้าเห็นคนพิการ เกี่ยวกับยานพาหนะ เสียใจ และเสียดาย ไปชั่วชีวิต ไม่มีวันทำใจได้หรอกครับ
ภาพกราบตำรวจนี่จัดฉากนะ ตำรวจเขาไม่ได้จับคนนี้เลย คืออยู่ๆคนขี้มอไซคันนี้ก็ไปกราบตำรวจแล้วเรียกคนไปถ่าย ส่วนสะพานและอุโมงค์ผมว่าไหล่ทางมันน้อยเกินไป หลบหลีกกันยาก http://manager.co.th/HotShare/ViewNews.aspx?NewsID=9580000045092
http://pantip.com/topic/30920114 นี่เขาจริงจังกันมากนะ ถึงกับปรระชุมกันขอไม้ต้องขับชิดซ้ายด้วย ต่ออีกนิด ผมว่าสะพานและอุโมงค์มันเป็นสองเลนขวาที่รถจะวิ่งมาเร็วเพื่อขึ้นสะพาน แต่พอรถขึ้นมาเจอมอไซทำให้รถต้องชลอ ปล ผมเคนเจอมอไซคขับขนานกันสามคัน แล้วคุยเล่นกันด้วยฮับ
เฟซบุ๊คกลุ่มที่โพสต์เรื่องอุบัติเหตุทางถนนในราชบุรี มีเรื่องแนวนี้ให้โพสต์แทบทุกวัน พร้อมภาพประกอบจากเหตุการณ์จริง รถล้มเองบ้าง ชนบ้างอะไรบ้าง มีทั้งคนเจ็บและคนตาย ขนาดหมาตายยังมีเลยครับ เฮียปอก็เก็บไปฝัง เลยไม่แปลกใจว่าทำไมบ้านเราถึงติดอันดับเรื่องอุบัติเหตุทางถนนที่มีคนตายสูงมาก
ผมลองคิดๆดูแล้ว ถ้าเป็นมอเตอร์ไซต์ที่จะใช้สะพานข้ามหรืออุโมงค์ลอดแยกเพื่อความเร็วนั้น ผมบอกเลยว่าถ้าเป็นในกรุงเทพส่วนใหญ่แล้ว มันก็กินเวลาไม่ได้มากซักเท่าไหร่หรอก เพราะถ้ามอเตอร์ไซต์ขับเลยทางขึ้นสะพานหรือทางลงอุโมงค์ไปแล้วนั้น ไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึงแยกๆนั้นแล้ว ทีนี้ก็อยู่ที่ว่าจะติดไฟแดงนานแค่ไหน(อันนี้ก็เห็นใจจริงๆครับ) ถ้าไฟแดงไม่นาน มันก็น่าจะติดไม่นานเท่าไหร่ ประเด็นในส่วนนี้ของผมก็คือเวลาแค่ไม่นานกับการเสี่ยงอุบัติเหตุที่หนักแน่ๆถ้าเกิดบนสะพานหรือในอุโมงค์ อุบัติเหตุกับรถยนต์ก็เกิดขึ้นได้อยู่แล้ว แต่นั่นมันเหล็กหุ้มเนื้อ มอเตอร์ไซต์มันเนื้อหุ้มเหล็กอ่ะครับ และถ้าปล่อยให้ขี่กันได้ตามใจ เชื่อได้เลยครับ มีเพิ่มขึ้นอีกหลายศพแน่ๆ
มีแต่กระจายยยนะ ปล่อยมากก้อต้องเก็บมาก เขาอยากให้อยู่ยาวๆๆนะ ตัวเอง??? MOTO DA STRADA Motorcycle Crashes Compilation!!!
ถ้าใช้ความเร็วเหมาะสม (รวมถึงไม่ขับช้าเกินไปด้วยนะครับ) ไม่ปาดซ้ายขวา ไม่ขับบนเส้นแบ่งเลน ก็ไม่ต้องชิดซ้ายก็ได้ครับผมเห็นด้วย ที่ตำรวจให้ชิดซ้าย เพราะว่าขี่กันแบบทุกวันนี้แหละครับ คือผมก็ไม่เข้าใจจักรยานยนต์ทำไมไม่ค่อยสนใจรถข้างหลังไม่ว่าจะจี้ติดแค่ไหนก็ตาม ขับกันเป็นกลุ่มบ้าง ขับช้าแต่ไม่ชิดให้แซงบ้าง ไอ้เรื่องชิดซ้ายเนี่ยรถช้าต้องชิดซ้ายอยู่แล้วครับตามกฎ แต่เป็นกฎที่คนขี่จักรยานยนต์ไม่ค่อยสนใจในสมัยที่ไม่บังคับชิดซ้าย ถ้าคุณเคยอยู่คันแรกแล้วมีจักรยานยนต์เต็มข้างหน้า คุณจะรู้เลยว่าถ้าขี่กันแบบไม่ชิดซ้าย มันจะกั้นหมดทุกเลนเลยครับ
เอาตามจริงในบางครั้งที่ต้องสวนทางเพราะที่กลับรถประเทศไทยมันโดนปิดหมดครับ คนขับรถเก๋งใช่ว่าจะไม่อยากสวนหรอกแต่คันใหญ่ทำไม่ได้ไง อย่างถ้าอยู่ติดถนนอย่างวิภาวดีรังสิต ไม่มี local road จะไปซอยข้าง ๆ แล้วบอกว่าต้องวิ่งไปกลับรถมาอีกสองสามกิโล เพื่อมาเข้าซอยข้างๆ ที่ห่างไป 50 เมตร เป็นผมก็เครียดนะ เอาจริง ๆ ห้ามวิ่งสวนทางก็ถูกแล้วครับ แต่ว่าคนที่บริหารทางเดินรถก็ต้องจัดการให้มีทางที่เหมาะสมสำหรับสัญจรด้วยละครับ ตัวอย่างการกลับรถครับ https://www.google.co.th/maps/dir/1...@13.8158752,100.5615874,16z/data=!4m2!4m1!3e0
ไม่อยากนึกสภาพถ้าอนุญาตให้มอเตอร์ไซค์ขึ้นสะพานลอย คงวิ่งขึ้นกันปรู๊ดปร๊าด แซงขวา แซงซ้าย แย่งกันขึ้นสะพาน
คนเล่นด้วยใจรัก จะสอบใบขับขี่ถูกตามกฏฯ ขับด้วยความระวัง รักธรรมชาติ ไม่ขับอวดคววามเร็ว รักมากกว่าแฟน เขาไม่อยากขับในเลนขวา ไม่ขับปาดแข่งไปตายหรอก?
ในกรณีแบบนี้ ถ้าเป็นผม ผมจะจอดรถแล้วเดินย้อนไปครับ ถ้าเดินไม่ไหว ผมยินดีกลับรถ คือเจอบ่อยมาก วิ่งย้อนตรงไฟแดงปากซอยที่เป็นเขตเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด เราออกปากซอยต้องระวังรถทางตรงด้านขวา พอหันมาอีกที เห้ย วิ่งย้อนมาอย่าเร็ว เดี๋ยวนี้จะออกจากซอยบ้านต้องทำหน้าเป็นพัดลม
วันนี้ กลุ่มเฟซบุ๊คที่ว่านั้นก็มี... มอเตอร์ไซค์ชนกัน เจ็บ 1 ราย, มอเตอร์ไซค์ชนกับรถเก๋ง เจ็บ 1 ราย, รถเก๋งชนกับมอเตอร์ไซค์ คนที่โพสต์รูป ก็จะเป็นแอดมินกลุ่ม, ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ แล้วก็มูลนิธิกู้ภัยครับ วันนึงมีหลายเคส
พวกบิ๊กไบค์มักคิดว่าตัวเองแน่มีฝีมืออยากบิดให้มันสุดๆเพราะงั้นถึงอยากได้ทางยาวๆไม่ต้องหยุด ส่วนรถเล็กที่แอบขึ้นสะพานนั่นนิสัยชอบฝ่าฝืนเพราะส่วนใหญ่จอดรอไฟแดงที่แยกข้างล่าง ส่วนกฎหมายนึกถึงความปลอดภัยของคนใช้ถนนเป็นหลัก คนที่ขี่มอเตอร์ไซค์แบบเคารพกฎจราจรเค้าไม่สนใจพวกที่เรียกร้องนี่หรอกเค้าดูเฉยๆกฎหมายมาแบบไหนเค้าก็ขี่ตามนั้น
คือตำรวจก็ต้องมีหน้าที่อำนวยการจราจรตามสมควรครับ ทุกวันนี้ใช้วิธีตัดปัญหาทั้งสิ้น ห้ามกลับรถห้ามเลี้ยวขวาเกินจำเป็นทั้งนั้น การอำนวยการจราจรเป็นกฎที่ตำรวจเขียนเองได้และมีอำนาจเต็มครับ คุณให้เขาไปกลับรถมา ใช้เวลา 15 นาที เท่ากับมีพาหนะอีก 1 คันที่ต้องใช้เวลาไป 15 นาที บนถนนที่ก็แทบจะไม่มีพื้นผิวจะให้ใช้อยู่แล้ว จะมีประโยชน์อะไร ใช่ครับการย้อนศรมันมักง่าย แต่ถ้ามีคนทำเยอะ ๆ ตำรวจก็ต้องพิจารณาแล้วว่าการอำนวยการจราจรของตัวเองบกพร่องหรือเปล่า จะดีกว่ามั้ยถ้าจะมีช่องทางพิเศษหรืออะไรก็ตามเพื่อให้พาหนะไปถึงจุดหมายเร็วขึ้น ซึ่งเท่ากับลดปริมาณยานพาหนะบนพื้นผิวการจราจรด้วย
เดี๋ยวจักรยานมาขอมั่ง เดี๋ยวสามล้อมาขออีก เดี๋ยวรถสิบล้อก็มาขอเอี่ยว เดี๋ยวรถสิบล้อพ่วงก็อยากมีสิทธิเท่ากันเพราะจ่ายภาษี เราจะทำไงดี เห็นควรว่าใครอยากขึ้นสะพานอยากลงอุโมงค์ก็จัดไป สะพานถล่ม อุโมงค์พัง ก็จัดไป อย่าไปจำกัดสิทธิใคร ประชาธิไตย สิทธิเสรีภาพจงเจริญ
ผมอาจไม่เข้าใจประเด็นท่านครับ แต่เมื่อกฎมาแบบนี้ ผมยินดีทำตาม หรือหาวิธีที่ทำได้โดยไม่ละเมิดกฎครับ เพราะการใช้พื้นที่สาธารณะ เราไม่สามารถรู้ถึงความจำเป็นของคนอื่นได้ ทำตามกฎดีที่สุด
ระเบียบยังไม่ยอมปฎิบัติกัน ถามง่ายๆ ทำไมมอเตอร์ไซร์ไม่ทำประกันภัยอุบัติเหตุ ชนแล้วหนีทุกราย แต่เวลามีเหตุชนกัน สิ่งแรกที่ทำคือพยายามร้องขอค่าเสียหาย บางที่หาเรื่องด่าหาเรื่อง เพื่อเรียกค่าเสียหายทั้งๆที่ตัวเองประมาท ก่อนจะเรียกร้องอะไรเหนือกฎหมาย ไปทำประกันอุบัติเหตุอย่างน้อยก็ประเภทสามให้ได้ทุกคันก่อน แล้วค่อยมาเรียกร้องเรื่องอื่น
งงครับ ผมคงตอบคำถามนี้ไม่ได้ครับ ไม่เคยมีและไม่เคยขับมอเตอร์ไซค์ครับ จักรยานนั้นพอไหว ที่ผมคุยกันนี้ผมแค่เรียกร้องว่ามอเตอร์ไซค์กรุณาอย่าขับย้อนศรครับ มันอันตรายต่อรถคันอื่นและคนเดินถนนอ่ะครับ
ประเด็นคือต้องมีการดูแลในการที่จะให้สัญจรไปมาได้สะดวกกว่านี้ครับ กฎก็คือกฎ และกฎข้อหนึ่งก็คือคำสั่งตำรวจใหญ่กว่ากฎใน พรบ. จราจร อย่างเช่นการเปิดเลนเพิ่ม ที่ตำรวจก็ทำกันทั่วไป ก็ต้องใช้อำนาจเข้ามาช่วยให้ความสะดวกครับไม่ใช่มองแต่จะบังคับใช้อย่างเดียว ไม่มีใครชอบขี่ย้อนศรหรอกครับเอาจริง ๆ น่ะ ผิดครับผมไม่ได้บอกว่าถูก แต่อีกมุมก็ต้องดูด้วยว่าเส้นทางปัจจุบันมันเหมือนทำร้ายคนที่ทำถูกต้องตามกฎจราจรหรือเปล่า
วันนี้ ออกจากออฟฟิศกลับบ้าน กลับรถแถวถนนศรีนครินทร์ไกล้ๆ แยกพัฒนาการครับ ผมต่อแถวตามคันอื่นที่กลับไปแล้ว 2 คัน กำลังหักเข้าเลนขวา มอเตอร์ไซด์คันนึงพุ่งเสียบเข้ามา ยกมือห้ามผม แล้วก็รีบพุ่งตัดหน้าไป ที่สำคัณคือ หลังทีลูกสาวตัวเล็กเกาะหลัง มีคล้ายเปลผ้ารัดตัวพ่ออยู่ ผมนึกสงสัย นี่มันเลนขวาสุด รถทุกคันจอดรอให้รถกลับแล้ว แต่ดูเหมือนคุณพ่อจะรีบไปตายโดยเอาลูกไปด้วย ผมขับตามหลังไป ตามไปดูว่าจะรีบและชิดขวาไปถึงไหน. บนถนนที่ไม่มีรถติดซักเท่าไหร่ และที่กลับรถต่อไปคือแยกอ่อนนุช ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะวิ่งกลางเลนขวาสุด สงสัยกันมั้ยครับ