"อยากขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยสืบหาตัวคนร้าย เพราะตั้งแต่สามีซึ่งเป็น อส.เมืองนราธิวาสถูกยิงเสียชีวิตเมื่อปี 49 ก็ยังหาคนร้ายไม่ได้เลย ล่าสุดลูกสาวก็มาถูกยิงอาการโคม่าอีก ตอนนี้ยังอยู่ในห้องอาร์ซียู" เป็นเสียงสั่นเครือจากหัวอกของ สุดาพร ตั้งใจ มารดาของ น.ส.สุธิดา ตั้งใจ นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ 2 พ.ย.57 ขณะนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของเพื่อนสาวอีกคนเพื่อเดินทางไปเข้าหอพักใน อ.เมือง "ลูกสาวบอกแม่ว่ามหาวิทยาลัยจะเปิดวันนี้ (3 ต.ค.) เขาจึงไปเก็บของจากบ้านเพื่อไปนอนที่หอ" สุดาพร บอก แทบไม่น่าเชื่อว่าจุดเกิดเหตุคนร้ายยิง น.ส.สุธิดา บนถนนบ้านโคกสุมุ-เขากง ท้องที่บ้านทำเนียบ หมู่ 6 ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส นั้น บนถนนสายเดียวกันนี้ บิดาของเธอ นายประสาน หรือ "แก้ว" ตั้งใจ ซึ่งเป็นอาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำ อ.เมืองนราธิวาส ก็เคยถูกคนร้ายลอบยิงจนเสียชีวิตมาแล้วเมื่อวันที่ 17 เม.ย.49 หลังจากสูญเสียสามี สุดาพรต้องแบกรับภาระเลี้ยงดูลูกถึง 2 คน คือ สุธิดา ซึ่งปัจจุบันศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะวิทยาการจัดการ สาขาการบัญชี มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ กับน้องชายอีกคนที่อยู่ในวัยเรียนเช่นกัน "แม่ไปทำงานที่สุราษฎร์ ไม่ได้อยู่กับน้อง (น.ส.สุธิดา) วันเกิดเหตุน้องออกจากบ้านที่โคกตีเต หมู่ 6 ต.บางปอ อ.เมืองนราธิวาส นั่งซ้อนท้ายรถเพื่อนผู้หญิงไปที่หอพักในเมือง แม้เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็โทรศัพท์คุยกันตลอด ก็พยายามเตือนแล้วว่าอย่ากลับบ้านบ่อย เพราะแม่เป็นห่วง" สุดาพร บอกว่า ครอบครัวของเธอไม่ได้ร่ำรวย สวนยางพาราก็ไม่มี ที่ผ่านมาลูกสาวอาศัยอยู่กับย่า "น้องเป็นเด็กดี ขยัน ช่วงปิดเทอมก็รับจ้างเป็นเด็กเสิร์ฟตามร้านอาหารในเมืองเพื่อส่งตัวเองเรียน วันที่เกิดเหตุเพิ่งกลับมาจากปัตตานี แล้วไปเอาของที่บ้านที่บางปอเพื่อกลับเข้าหอพักในเมือง ไม่อยากเชื่อว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น อยากขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยสืบหาตัวคนร้าย เพราะตั้งแต่สามีที่เป็น อส.ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อปี 49 จนถึงป่านนี้ก็ยังหาตัวคนร้ายไม่ได้ ล่าสุดลูกสาวก็มาโดนยิงอาการโคม่าอีก" "บอกตรงๆ ว่าทำใจไม่ได้ เพราะพ่อของน้องเสียเมื่อปี 49 ก็ยังจับคนร้ายไม่ได้ เจ้าหน้าที่ไม่รู้อยู่ตรงไหน พอเริ่มจะทำใจได้บ้าง เพราะเวลาก็ผ่านมานานแล้ว แต่ก็มาเกิดเหตุกับลูกสาวอีก ไม่รู้จะพูดอย่างไร พูดไม่ออก" สุดาพร กล่าวเสียงเครือ ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ มีเพื่อนนักศึกษาและอาจารย์ของ น.ส.สุธิดา ไม่ต่ำกว่า 50 คนไปเฝ้ารอฟังอาการ เพื่อนสาวคนหนึ่งของสุธิดาที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ เพื่อนๆ 4 คนรวมทั้งสุธิดาด้วย กำลังขี่รถจักรยานยนต์ตามกันมาบนถนนช่วงบางปอ-นราธิวาส โดยรถของเธอแล่นอยู่ด้านหลัง ระหว่างทางมีคนร้ายเป็นผู้ชาย 2 คน สวมหมวกกันน็อคทั้งคู่ ขี่รถตามมาประกบ เมื่อหันไปดูก็เห็นคนร้ายกำลังหันปากกระบอกปืนมาทางสุธิดาแล้วลั่นไก ด้วยความตกใจ รถเกือบล้ม หลังสิ้นเสียงปืนได้เร่งเครื่องรถพาเพื่อนออกจากจุดเกิดเหตุ ไปแวะที่ร้านขายของชำหน้าวัดเขากงเพื่อขอความช่วยเหลือ "ยังดีที่มีทหารนอกเครื่องแบบ ชรบ.และชาวบ้านนั่งกันอยู่ ก็เลยช่วยกันนำสุธิดาส่งโรงพยาบาล" เพื่อนที่ผ่านเหตุร้ายมาด้วยกันสดๆ ร้อนๆ บอก และว่าสุธิดาเป็นคนร่าเริง ขยันทำงาน ทำงานพาร์ทไทม์ส่งตัวเองเรียน ไม่มีศัตรูที่ไหน ขณะที่ตำรวจที่ร่วมคลี่คลายคดี เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง และน่าจะเกี่ยวกับเหตุเจ้าหน้าที่ปฏิบัติผิดพลาดที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ด้วย "ดูจากสถานการณ์แล้วโยงกันหมด ถนนสายนี้ทะลุไปออกระแงะ ยี่งอ และบาเจาะได้เหมือนกัน" ถือเป็นสถานการณ์ที่ตึงเครียดขึ้นอีกครั้งของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้! http://www.isranews.org/south-news/documentary/item/34128-mom_34128.html ................................................................................................ อ่านข่าวด้านบนแล้วรู้สึกสลดเหมือนกันนะ ครัวครัวเดียวเจอเหตุการณ์อย่างเดียวกัน เกิดกับผู้เป็นพ่อแล้วยังมาเกิดกับลูกอีก.........นี่ขนาดเป็นรัฐบาลทหาร แต่เหตุการณ์ต่างยังเกิดเกือบเเทบทุกวัน แล้วช่วงนี้กำลังเปิดเทอม เชื่อสิ!!!!!!!!!!เหตุต่างๆต้องเกิดอีกอย่างแน่นอน... ที่สงสัยคือ เมื่อไหร่ประเทศไทยจะแก้ปัญหาพวกโจรเหียกเหล่านี้ได้เสียที หรือต้องทนก้มหน้าใช้ชีวิตเสี่ยงแบบนี้กันต่อไปแบบไม่รู้จบ ....ขนาดตอนนี้ทหารดูแลเเบบใช้อำนาจเต็ม ยังเกิดเหตุแทบรายวัน ....แล้วหากเป็นรัฐบาลจากติ๊บไตยมันจะแก้ได้หรือ......สงสารพี่น้องชายแดนใต้นะครับ เกิดเรื่องทีก้อแก้ปัญหาที...เหมือนไฟไหม้ฟาง พอข่าวเริ่มจาง เรื่องการแก้ปัญหาต่างๆก้อเงียบไปด้วย...................เฮ้อออออออออออออออออ
เรื่องการเมืองเห็นนักวิชาการแต่ละฝั่งออกมาเถียงกันหน้าดำหน้าแดงจะเป็นจะตาย ต้องสูตรนั้นสูตรนี้...ส่วนเรื่องภาคใต้เงียบเหมือนใบ้แเดก เป็นสิบปีละ เหตุการณ์ต่างๆยังเกิดออกสื่อทุกวี่วัน จากโจรกะจอก ตอนนี้กลายเป็นน้องๆกลุ่มก่อการร้าย.....
ลูกสาวรับปริญญา แต่คุณพ่อไปไม่ได้ เพราะต้องเข้าเวรประจำอยู่ภาคใต้ แต่ลูกสาวก็เอาความสำเร็จมาอวดพ่อจนได้
เป็นเคราะห์กรรมของประเทศ ทางใต้มีเพื่อนคอยสุมไฟให้เท้าอุ่น ตอนบนมีฝูงควายส่งเสียงร้องขอส่วนแบ่ง ตรงกลางก็มีผีบ้าคอยสูบเงินแผ่นดิน กลางทะเลก็ยังมีฝูงแร้งจิกกินสมบัติชาติ เศร้าใจ เป็นได้แค่คนดู
เค้าว่าชาวบ้าน 3 จังหวัดชายแดนใต้ บางหมู่บ้าน หยั่งกะเสื้อแดงก็ไม่ปาน(ระดับความ.....ความงมงาย....) เพียงแต่ผู้นำเค้าตีเนียน ไม่เลวออกหน้าแบบอิเหลี่ยม แถมธุรกิจผิดกฎหมายบางอย่าง ก็กลายเป็นวิถีชีวิตของชาวบ้านแถวนั้นไปแล้วด้วย ปัญหามันหนักกว่าเสื้อแดงเยอะ เพราะพวกคลั่งศาสนาอิสลาม มันบ้าพอที่จะทำได้ทุกอย่าง ต่างกับเสื้อแดงที่ดีแต่เห่า เอาจริงก็ป๊อด เงินไม่มางานไม่เดิน ล้านนากล้าจริงที่ไหน ใครจะเอา แต่สามจังหวัดชายแดนใต้ แม้แยกแล้วตาย มันก็บ้าพอจะเอา เชื่อเหอะ ฝ่ายนั้นก็กลยุทธ์เดียวกับเสื้อแดง ดึงต่างประเทศเข้าแทรกแซง แต่กลุ่มโลกอิสลามไม่ใช่พวกที่คุยรู้เรื่องได้ง่ายๆ แนวทางของมันไม่อิงมาตราฐานตรรกะใดๆทั้งสิ้น แถมภาพลักษณ์ขี้ข้าอเมริกาก็ทำให้หลายประเทศอิสลามจองกฐินไทยไว้ล่วงหน้าหลายชาติ แม้เราจะมีความสัมพันธ์อันดีกับชาติมุสลิมหลายชาติ ก็ดูเหมือนไม่ช่วยอะไร เพราะมุสลิมกันเองก็ตีกันเองเหมือนกัน ชาตินู่นไม่ยุ่งแต่อีกพวกยุ่งแน่ๆ ยิ่งชาติที่เคยมีปัญหากับไทยอย่างซาอุ นี่จ้องกระทืบเลย แถมมีเกมใต้ดินอย่างก่อการร้ายอีก มันจึงต่างกับ อเมริกา EU ที่ต้องแอบๆ จะหาเรื่องไทยทีต้องหาข้ออ้างสวยๆ หากเราเดินกลยุทธ์ดีๆ ก็ผ่านได้ง่าย