ผมงี้กินน้ำแดงรอเลยฮะ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ “ผู้ค้าน้ำมันเถื่อน” รวมพลร้องเจ้าหน้าที่ด่านปาดังเบซาร์ ขอผ่อนปรนขนน้ำมันเข้าประเทศ ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้ค้าน้ำมันเถื่อนรายย่อยตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย อ.สะเดา จ.สงขลา รวมตัวที่หน้าด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ เรียกร้องขอผ่อนปรนนำเข้าน้ำมันเถื่อนตี 5 จนถึง 8 โมงเช้า หลังจากเจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดอย่างหนัก โอดได้รับความเดือดร้อน ทำให้ขาดรายได้มหาศาล วันนี้ (2 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. กลุ่มผู้ค้าน้ำมันเถื่อนรายย่อย หรือ “กองทัพมด” ตามแนวพรมแดนไทย-มาเลเซีย อ.สะเดา จ.สงขลา กว่า 50 คน รวมตัวชุมนุมที่บริเวณหน้าด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ อ.สะเดา เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรผ่อนปรนการนำเข้าน้ำมันเถื่อนจากประเทศ มาเลเซีย ตั้งแต่ตี 5 จนถึง 8 โมงเช้า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรพรมแดนไทย-มาเลเซีย มีมาตรการเข้มงวดในการตรวจค้น และจับกุมการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จากกรณีส่วยน้ำมันเถื่อน ทำให้กลุ่มผู้ค้าน้ำมันเถื่อนรายย่อยตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซียเดือดร้อน เนื่องจากไม่สามารถนำน้ำมันเข้ามาขายได้ แต่การรวมตัวยังเป็นไปด้วยความสงบ นายกฤษฎา ทองธรรมชาติ นายด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ เผยว่า เจ้าหน้าที่ไม่สามารถผ่อนปรน หรือทำตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ค้าน้ำมันเถื่อนได้เนื่องจากผิดกฎหมาย และเป็นนโยบายปราบปรามของรัฐบาล คสช. เนื่องจากเกี่ยวเนื่องกับปัญหาด้านความมั่นคง โดยเจ้าหน้าที่ยังคงคุมเข้มพื้นที่พรมแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อป้องกันการลักลอบขนน้ำมันเถื่อนเข้ามาไม่ว่าจะเป็นรายใหญ่ หรือรายย่อย โดยจะเฝ้าจับตา และตรวจสอบรถที่แปลงสภาพอย่างละเอียดทุกคัน อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้ตระเวนตรวจสอบพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย อ.สะเดา พบว่า ยังคงมีการนำน้ำมันเถื่อนมาวางขายอยู่ริมถนนโดยเฉพาะเส้นทางสายรอง หรือสายเลี่ยงระหว่างสะเดากับ อ.หาดใหญ่ เช่น สายควนสะตอ-สนามบิน และมีรถทุกชนิดเข้าไปเติมตามปกติ original: http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9570000138797
คนทำสิ่งที่ "กฎหมายห้าม" เรียกร้องให้ผู้บังคับกฎหมายไม่ให้บังคับใช้กฎหมาย อันนี้เหมือนวลี "ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่ทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม" เออเป็นแบบนี้นี่เอง
แถวนั้นนะ ทำกันจนไม่คิดว่าเป็นเรื่องผิดมานานแล้ว และนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ ปัญหาไฟใต้แก้ไขได้ยากเย็นแสนเข็ญ เดี๋ยวพอปราบน้ำมันเถื่อนได้ กลายเป็นชาวบ้านเดือดร้อน แมร่งก็ไปปลุกระดมให้ต่อต้านรัฐบาล แยกปาตานีกันอีก
มาอีกแล้ว... http://www.thairath.co.th/content/468153 ชาวบ้านรวมตัวปิดด่านปาดังเบซาร์ยื้อจะขอค้าน้ำมันจากมาเลย์ โดย ทีมข่าวภูมิภาค 9 ธ.ค. 2557 18:40 กลุ่มผู้ค้าน้ำมันแนวชายแดนไทย-มาเลย์ ไม่พอใจหลังเข้าเจรจากับศุลกากรปาดังเบซาร์ และ จนท.รัฐ เพื่อขออนุโลมประกอบการซื้อน้ำมันจากฝั่งมาเลเซีย แต่ไม่เป็นผล จึงกดดันปิดด่านอีกรอบ... เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 9 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีชาวบ้านกลุ่มผู้ค้าน้ำมันกว่า 200 คน นำรวมตัวกันปิดด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ โดยการนำรถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ยืนขวางประตูปิดด่านรถบรรทุกสินค้าขาออก พร้อมส่งตัวแทนเข้าเจรจากับ นายธวัธ สุขวราห์ รองนายด่านศุลกากร เพื่อขอผ่อนผันการค้าน้ำมันจากประเทศมาเลเซีย หลังจากที่โดนสั่งปิดมากว่า 10 วันแล้ว ทำให้ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากไม่มีรายได้เลี้ยงครอบครัว ทำให้รถสินค้าที่จะออกมาจากประเทศมาเลเซีย ต้องเลี่ยงเส้นทางไปออกด้านข้างแทน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นัดประชุมหลายฝ่าย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทหาร ตัวแทน อ.สะเดา พ.ต.ท.ภนภัค ภานุเดชาฤกษ์ ตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ปาดังเบซาร์ และเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร พร้อมด้วยตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการค้าน้ำมัน 6 คน เจรจราใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งนายธวัธ สุขวราห์ ได้พูดโน้มน้าวว่า สถาการณ์การค้าน้ำมันเปลี่ยนไป เนื่องจากราคามาเลย์ โดยเฉพาะดีเชลเริ่มเท่ากับราคาน้ำมันของไทย แต่ราคาน้ำมันเบนซินแตกต่างอยู่ลิตรละ 6 บาท อาจจะไม่คุ้มกับการเสี่ยงขน ให้หาอาชีพอื่นทำ เพราะด่านปาดังเบซาร์เป็นโซนเศรษฐกิจพิเศษ ไม่มีการเสียภาษีนำเข้าส่งออก ให้ช่วยกันส่งสินค้าพืชผักการเกษตรปลอดสารพิษ ซึ่งตลาดมาเลย์มีความต้องการมาก ได้ราคาดี แต่ชาวบ้านไม่สนใจ ตัวแทนกลุ่มผู้ค้าน้ำมันทุกคนมีความต้องการที่จะค้าน้ำมัน แต่ก็ไม่สามารถสรุปปัญหาได้ เนื่องจากทางกลุ่มผู้ประกอบการค้าน้ำมันรายย่อย ต้องการขนน้ำมันจากเวลา 05.00 น. ถึง 08.00 น. โดยใช้ถังดัดแปลง แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต เนื่องจากผิดกฎหมาย และตอบปัญหาสังคมไม่ได้ โดยอนุโลมให้วิ่งได้เฉพาะรถที่ติดถังเดิมเท่านั้น แต่ชาวบ้านบอกว่าไม่คุ้ม เนื่องจากรถใหญ่อย่างเช่น ปิกอัพ ได้เปรียบ แต่รถเก๋งเสียเปรียบเนื่องจากเติมได้น้อย เพียง 30-40 ลิตร วิ่งได้วันละ 2 เที่ยว กำไรเที่ยวละ 100 กว่าบาทไม่คุ้ม ตัวแทนจึงได้กลับไปเจรจากับชาวบ้านที่รอฟังคำตอบ โดยส่วนใหญ่ชาวบ้านรายเล็กรับได้ แต่กลุ่มชาวบ้านนอกพื้นที่รับไม่ได้ ในที่สุดก็มีการปิดด่านอีกเป็นครั้งที่ 2 ที่ทางเข้าออกด่านศุลกากร พร้อมกดดันเจ้าหน้าที่ จนนายด่านต้องประสานเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และกองร้อยอาสาสมัคร เข้าควบคุมสถานการณ์ ด้านนายกฤษฎา ทองธรรมชาติ นายด่านศุลกากร เปิดเผยว่า เรารับเงื่อนไขไม่ได้ การที่นำคนมาปิดด่านถือว่าทำผิดกฎหมาย อยากให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมาย เราป้องกันไม่ให้การขนน้ำมันเข้ามาในประเทศในลักษณะการค้า เราอนุโลมให้เฉพาะรถที่ติดถังเดิมเท่านั้น เแต่คนที่มาประท้วง เป็นชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำรายเล็กๆ หากว่ากลุ่มนี้นำไปดูดออกเพื่อนำไปขายให้กับรายใหญ่ในพื้นที่ มันก็มีความผิด เราก็ดำเนินการจับกุมทันที ซึ่งในแต่ละเดือน เราจับกุมได้เดือนละกว่า 1 แสนลิตร ในปี 56 ที่ผ่านมา จับกุมได้กว่า 1 ล้านลิตร ปัจจุบันกลุ่มผู้ค้าน้ำมันทางเรือขนยาก จึงหันมาขนทางบกกันมาก ซึ่งที่ด่านปาดังฯ เอง ไม่มีรายใหญ่.
Pat Hemasuk สิ่งที่น่าจะปฎิรูปอีกเรื่องคือการบังคับใช้กฎหมาย มันลักหลั่นไม่เป็นมาตราฐานทางความคิดและจริยธรรมเสียเลย ตำรวจจับคนเก็บขยะที่เอา CD เก่าทิ้งแล้วที่เก็บได้จากถังขยะมาปูผ้าขายในตลาดนัด ขายแผ่นละยี่สิบบาทซื้อก๋วยเตี๋ยวชามเดียวก็ยังไม่ได้ แล้วส่งฟ้องเป็นจำเลยฐานผิดตามพ.ร.บ.ภาพยนตร์ฯ พิพากษายืนให้ปรับ 133,400 บาท ต้องโดนกักขังที่สถานกักขังกลาง อ.ธัญบุรี ปทุมธานี แทนค่าปรับวันละสองร้อยบาท จนได้พระกรุณาจากฟ้าหญิงพระองค์ใหญ่ในนามมูลนิธิมิราเคิลอ็อฟไลฟ์จ่ายค่าปรับแทนให้เพื่อกลับไปทำงานเลี้ยงครอบครัวตามเดิม แต่คนอีกกลุ่มที่ค้าน้ำมันเถื่อนที่โดนทหารสั่งปิดช่องทางทำมาหากิน ยกพวกไปปิดด่านชายแดนปาดังเบซาร์แล้วยังไม่พอ ยังยกพวกไปปิดล้อมสถานีตำรวจภูธรปาดังเบซาร์อีกด้วย มาแบบเห็นหน้าเห็นตาครบถ่ายรูปเป็นหลักฐานได้ทุกคน แต่กลับไม่บังคับใช้กฎหมาย ทั้งที่พวกที่มาปิดด่านกับสถานีตำรวจนี้ผิดกฎหมายชัดเจนอย่างน้อยสองข้อ และกว่าครึ่งคือพวกคนที่มีบัตรประชาชนอยู่ฝั่งมาเลย์แต่ข้ามเข้ามาค้าน้ำมันเถื่อนในประเทศไทยอีกด้วย ถ้ากลับกันคนพวกนี้ไปปิดสถานีตำรวจหรือด่านฝั่งมาเลย์คงเจอเจ้าหน้าที่มาเลย์จัดหนักไปไม่น้อย และคนที่มีบัตรประชาชนทางฝั่งเมืองไทยคงไม่ได้กลับบ้านแน่ โทษอย่างต่ำก็ติดคุกสักพักกับโดนเอาหวายเฆี่ยนหลังลายแก้นิสัยเสีย ดังนั้นเราจะไม่ได้ข่าวเลยว่าพวกนี้กล้าหือกับทางฝั่งมาเลย์เลยแม้แต่น้อย เรื่องคดี CD นี้ผมไม่โทษศาลเลยสักนิด เพราะท่านต้องตัดสินตามสำนวนและกฎหมาย ท่านก็คงเบื่อคดีแบบนี้และสงสารจำเลยไม่ต่างกับคนทั่วไปที่เห็นข่าวนี้ว่าตำรวจไปจับเอามาให้คดีรกศาลทำไม แต่ผมอยากจะมุ่งเป้าไปที่ต้นทางของการบังคับใช้กฎหมายของระบบยุติธรรมคือตำรวจ ถ้าตำรวจใช้วิจารณญานในการทำงานสักนิด เราคงไม่ต้องเห็นภาพที่น่าสังเวชแบบนี้ ผมไม่ได้สังเวชคนเก็บขยะที่โดนจับเรื่อง CD หรือเจ้าหน้าที่ตม.ด่านที่โดนผู้ค้าน้ำมันเถื่อนปิดด่านนะครับ แต่ผมสังเวชตำรวจที่เป็นต้นทางของความยุติธรรมที่ทำให้คนไทยได้เห็นภาพที่กระตุ้นอารมณ์ให้โกรธแบบสองภาพนี้มากกว่า
ภาคใต้มันเต็มไปด้วยของเถื่อนและสิ่งผิดกฎหมาย เป็นภาคสีเทามานานแล้ว โดยได้รับการดูแลจากพวกนักกินเมืองทั้งระดับชาติจนระดับท้องถิ่น อีกทั้งยังมีเรื่องความมั่นคงของชาติอีก พรรคพระเอก พรรคที่อำมาตศักดินาเก่า และนายทุนเก่าหนับหนุน เอาไว้ค้ำอำนาจตัวเอง นั่นแหละ
การทำผิดกฎหมายเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับพรรคนะครับ ถ้าใช้วิธีคิดแบบนี้ การที่ยาเสพติดทะลักเข้าประเทศจากทางภาคเหนือ แสดงว่าพรรคเผาไทมีส่วนรู้เห็นใช่มั้ยครับ ผมว่าอย่าโยงมั่วๆดีกว่า อย่าแบ่งแยกภาค อย่าทำให้เกิดการเกลียดชังกันอีก คิดอย่างมีเหตุผลดีกว่า
เชื่อป่าว ผมว่าต้องมีคนเล่นประเด็นนี้ชัว เหมือนตอนงานฉลอง 5 ธันวาคม ปีก่อน ที่หัวหิน ทั้งที่เวทีกรุงเทพ ประกาศอยู่ปาวๆ ว่าวันนี้ 1 วันไม่ด่า ไม่ว่าปู แต่ในงาน ที่หัวหิน พอ ปู มาเท่านั้นแหละ มีคนโห่ไล่ ด่าหยาบคายกันให้เพียบ แดงลากดำนาเลยได้ที ตั้งกระทู้ เล่นซะ ทั้ง discredit ด่ากปปสบ้าง สุเทพบ้าง บอกว่าคนกลุ่มนี้หนะหรอที่จะมาปฏิรูป ทั้งที่ไม่เห็นจำเป็นซะหน่อยว่าคนกลุ่มนี้ ต้องเป็น กปปส เดี๋ยวคราวนี้ก็คงแนวเดิม "คนชอบ ปชป นี่มานแย่จริงๆ ขอค้าน้ำมันเถื่อน" ชัว คอนเฟิมร์