พรรคเพื่อไทยเนี่ย เค้าตั้งเป้าหมายไปขยายสาขาในคุกหรือไง ??? รายชื่อที่ยกมาในข่าว พี่แกเหมาไปเกินครึ่งของรายชื่อแล้ว ******************************************** มากกว่าข่าว พูดคุยถึงเรื่องของคนดังที่เดินเข้าสู่เรือนจำ ในคดีนักการเมือง-นักธุรกิจ ทุจริต ทั้งอดีตและปัจจุบัน เช่นคดีธนาคารกรุงไทยทุจริตปล่อยเงินกู้ กับคุณเฉลียว คงตุก บรรณาธิการอาวุโส เนชั่นทีวี
ทนาย ยัน ′ยิ่งลักษณ์′ ไปศาลคดีข้าว 31ส.ค.นี้ ด้วยตัวเอง รอด้วย .... เออ!! เรียกว่ารัยดี ? เพราะหัวหน้าพรรค ก้อไม่ใช่ เจ้าของพรรค ก้อไม่ใช่ ตำแหน่งการจัดการในพรรค ก้อไม่มี แค่ปาร์ตีรีส อันดับ 1
มีสิ่งที่เหมือนกันอีกนะเออ ธ.กรุงไทย เตรียมขอพระราชทานอภัยโทษ http://www.nationtv.tv/main/content/crime/378469277/ ครอบครัวเยี่ยม"พร้อมพงศ์-เกียรติอุดม"ทั้งน้ำตา-เตรียมขอพระราชทานอภัยโทษ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1437872311 ถึงหลับแต่เครียด ‘ชนม์สวัสดิ์’คืนแรก เร่งยื่นขออภัยโทษ http://www.thairath.co.th/content/516463 "สนธยา" เตรียมขอพระราชทานอภัยโทษให้ "กำนันเป๊าะ" http://www.mcot.net/site/content?id=510b6f7a150ba01d6a00025e#.VeLSKfntlBc
ผมไม่คัดค้านในส่วนของการขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่แนวร่วมที่ถูกหลอกถูกใช้้ให้กระทำความผิด แต่ผมจะคัดค้านหัวชนฝาต่อการให้อภัยโทษพวกสัตว์เดรัจฉาน-และสุนัขขี้เรื้อนที่เคยมีตำแหน่งทางการเมือง แล้วยังเสืือกทำผิด ใครบอกผมได้ไหมว่าพวกสัตว์เดรัจฉาน-และสุนัขขี้เรื้อนที่เคยมีอำนาจทางการเมืองพวกนี้ เคยทำคุณประโยชน์อะไรให้แก่แผ่นดินบ้าง จนสัตว์เดรัจฉาน-และสุนัขขี้เรื้อนพวกนี้สมควรได้รับการอภัยโทษ
http://forum.khonkaenlink.info/index.php?topic=17448614.0 เห็นผ่านตาเลยเอามาแปะครับ เคสนี้ไม่คุกแต่ล้มละลาย
ไอ้พวกที่จะขออภัยโทษ มันช่างไม่มียางอาย คนก็ไม่ใช่เดรฉาจก็ไม่เชิงเชื่อเหอะคนพวกนี้ไม่เคยหราบจำ นิสัยเหมือนวีระกับสุรชัยอภัยไปมันหย่ามใจก็ทำอีก
รายงานพิเศษ : อดีตนักการเมืองทุจริต พาเหรดเข้าคุก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด 3 อดีต สส.พรรคเพื่อไทย ในความผิดกรณีเสียบบัตรแทนกัน และสับเปลี่ยนร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เตรียมส่งถอดถอนและดำเนินคดีอาญาในสัปดาห์หน้า เป็นมติเอกฉันท์ในคดีอดีต สส.พรรคเพื่อไทย 3 คน กระทำความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช.และความผิดต่อรัฐธรรมนูญ กรณีเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่มาของ สว.ในรัฐบาลที่แล้ว โดยให้ดำเนินคดีอาญา และถอดถอนนายอุดมเดช รัตนเสถียร อดีตประธานวิปรัฐบาล กรณีสับเปลี่ยนร่างรัฐธรรมนูญที่เสนอต่อประธานรัฐสภา โดยไม่มีรายชื่อ สส.รองรับหรือที่เรียกว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปลอม ดำเนินคดีอาญากับนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา กรณีรู้เห็นการกระทำดังกล่าว โดยไม่ตรวจสอบให้ถูกต้องตามข้อบังคับ อีกทั้งจงใจนับเวลาแปรญัตติย้อนหลัง เพื่อมีเวลาเสนอคำแปรญัตติเพียง 1 วัน พร้อมให้ดำเนินคดีอาญา และถอดถอนนายนริศร ทองธิราช อดีต สส.ในกรณีใช้บัตรลงคะแนนแทนกัน ส่วนนายคมเดช ไชยศิวามงคล และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ป.ป.ช.เห็นว่าแม้มีเหตุชวนสงสัยกรณีฝากบัตร แต่ไม่ประจักษ์พยานชัดเจนจึงยกคำร้อง ส่วนการพิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับของ กรธ. วันนี้ กกต.เข้าชี้แจงหลักการของร่างที่เสนอ ซึ่งเน้นสร้างความเข้มแข็งให้พรรคการเมือง ได้ผู้สมัครคุณภาพ นโยบายหาเสียงปฏิบัติได้จริง พร้อมเตือนแนวคิดการฟังความเห็นพรรคการเมือง ต้องระวังเพราะมีส่วนได้ส่วนเสีย ด้านประธาน กรธ.บอกได้ดูฉบับของ กกต.เบื้องต้นแล้ว พร้อมระบุจะพิจารณากฎหมายฉบับนี้ให้อยู่ในความพอดี โดยเฉพาะการตั้งพรรคการเมืองที่จะไม่ยากหรือง่ายเกินไป และยืนยันเปิดรับฟังความเห็นจากผู้มีประสบการณ์การเลือกตั้งและพรรคการเมืองด้วย ประธาน กรธ.ยังไม่กังวลที่ ศาลรัฐธรรมนูญเรียกเอกสารเพิ่มเติมจาก สนช. สปท. และ คณะรัฐมนตรีเพื่อประกอบการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญที่ปรับแก้ตามคำถามพ่วง เพราะเป็นการทำหน้าที่ของแต่ละฝ่าย ขณะที่ สนช. ก็พร้อมจัดส่งเอกสารทันที โดยมั่นใจเนื้อหาที่มีเพียงพอต่อการให้ศาลรัฐธรรมนูญประกอบการพิจารณาแล้ว
ศาลอาญาสั่งจำคุก “ร.ต.ท.เชาวรินธร์” 1ปี6เดือนคดียักยอกเงินปูนซีเมนต์บริษัทกัมพูชา11ล้านเมื่อปี57 ไม่รอลงอาญา วันนี้ (27ก.ย.59) ศาลอาญา รัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นในคดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้องร.ต.ท.เชาวรินธร์ ลัทธศักดิ์ศิริ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (อดีตรมช.ศธ.) เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีเมื่อวันที่ 6 - 9 พ.ค. 2557 จำเลยกับพวกเข้าไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลในหลักฐานใบสำคัญเก็บเงินค่าสินค้าเสียใหม่เป็นว่า ให้บริษัท บี.พี.ซี. เทรดดิ้ง จำกัด (ประเทศกัมพูชา) โอนเงินค่าซื้อปูนซีเมนต์ บริษัท ทีพีไอ โพลีน พับบลิค จำกัด (ประเทศไทย) ทั้งหมดผ่านเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขารัฐสภา ของพวกจำเลยจำนวนกว่า 350,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทย กว่า 11.4 ล้านบาท ผ่านบัญชีเงินฝากของบริษัท ทีพีไอฯ โดยธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ นั้น โจทก์มีพยานหลักฐานไม่เพียงพอ จึงยกประโยชน์ให้จำเลยยกฟ้อง ส่วนในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง ศาลเห็นว่าจำเลยมีเจตนาไม่สุจริต เนื่องจากมีพฤติกรรมเพิกเฉย ภายหลังถูกจับกุมจำเลยได้ทำหนังสือตกลงคืนเงินทั้งหมดให้แก่บริษัท บี.พี.ซี. เทรดดิ้ง จำกัด (ประเทศกัมพูชา) ซึ่งเป็นโจทก์ร่วม มีเจตนาเบียดบังเอาทรัพย์ของผู้อื่นมาเป็นของตน ความผิดเข้าข่ายยักยอกทรัพย์ ซึ่งมีโทษเท่ากับฐานฉ้อโกง พิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา และสั่งให้จำเลยคืนเงินทั้งหมดแก่บริษัท บี.พี.ซี.เทรดดิ้ง จำกัด (ประเทศกัมพูชา) อย่างไรก็ตาม ภายหลังฟังคำพิพากษาร.ต.ท.เชาวรินธร์ อยู่ระหว่างยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว