พรบ.ภาษีมรดกกับความอัปยศที่เก็บไม่ได้สักบาท

กระทู้ใน 'สภากาแฟ' โดย ดร.โสภณ พรโชคชัย, 20 Jun 2017

  1. ดร.โสภณ พรโชคชัย

    ดร.โสภณ พรโชคชัย สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    6 Dec 2016
    คะแนนถูกใจ:
    2
    เราพร่ำบอกให้คนไทยรักชาติ แต่คนรวยๆ กลับไม่ยอมเสียภาษี สภาเป็นของคนรวยใช่ไหม จึงออกกฎหมายมาไม่ให้คนรวยได้เสียภาษีมรดก

    ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้อ่านพบในบทความหนึ่งว่า "1 ปี ภาษีมรดก ไม่สามารถเก็บได้แม้แต่บาทเดียว" (http://bit.ly/2rQxyFP) นี่แสดงชัดเจนว่า ภาษีมรดกนี้เก็บไมได้จริง แต่การมีกฎหมายภาษีมรดกก็เพื่อแสดงว่าเรามีกฎหมายนี้ แต่เป็นกฏหมายที่แทบไม่มีผลในทางปฏิบัติ นี่อาจเป็นกรณีศึกษากฎหมาย "ศรีธนญชัย" ขั้นเทพ!

    กรมสรรพากรกำหนดไว้ว่า ภาษีการรับมรดก (Inheritance Tax) เกิดขึ้นเมื่อเจ้ามรดกตาย ผู้รับมรดกจากเจ้ามรดก แต่ละรายได้รับมรดกสุทธิมาในคราวเดียวหรือหลายคราว รวมกันแล้วมีมูลค่าเกินกว่า 100 ล้านบาท มีหน้าที่ต้องเสียภาษีตามที่กฎหมายกำหนด ผู้มีหน้าที่เสียภาษีการรับมรดก ได้แก่ ผู้ได้รับมรดกจากเจ้ามรดกแต่ละราย ไม่ว่าจะได้รับมาในคราวเดียวหรือหลายคราว ถ้ามรดกที่ได้รับมาจากเจ้ามรดกแต่ละรายรวมกันมีมูลค่าของทรัพย์สินทั้งสิ้นที่ได้รับเป็นมรดก หักด้วยภาระหนี้สินอันตกทอดมาจากการรับมรดกเกิน 100 ล้านบาท ต้องเสียภาษีเฉพาะส่วนที่เกิน 100 ล้านบาท (http://bit.ly/2rlm4a1)

    ดังนั้นวิธีการคำนวณภาษีมรดกก็คือ

    1. มูลค่ามรดกที่ได้รับทั้งสิ้น

    X X X , X X X , X X X . –

    2. หัก ภาระหนี้สินอันตกทอดมาจากการรับมรดก

    X X X , X X X , X X X . –

    3. หัก มูลค่ามรดกที่ไม่ต้องเสียภาษี

    1 0 0 , 0 0 0 , 0 0 0 . –

    4. มูลค่ามรดกที่ต้องเสียภาษี

    X X X , X X X , X X X . –

    บทความที่ ดร.โสภณ อ้าง ใช้ข้อมูลถึงเดือนมกราคม 2560 แต่ข้อมูลล่าสุด ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2560 (ในรอบครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2560 ตุลาคม 2559 - มีนาคม 2560) พบว่า ยังไม่มีการจัดเก็บภาษีมรดกเช่นเดิม (http://bit.ly/2rgxUH9) ยิ่งกว่านั้นยังพบว่าการจัดเก็บภาษีหลายรายการมีนัยน่าสนใจคือ

    1. ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ลดลง แสดงว่ารายได้ของประชาชนลดลง ยิ่งกว่านั้นภาษีรถจักรยานยนต์ซึ่งใช้สอยโดยผู้มีรายได้น้อยและปานกลางก็ลดลงไปด้วย

    2. แต่ภาษีรถยนต์ที่ใช้โดยผู้มีรายได้ปานกลางและรายได้สูงกลับเก็บได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งภาษีเบียร์ สุราที่เก็บได้เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเป็นเพราะความเครียด จึงทำให้บริโภคมากขึ้นหรืออย่างไร

    ดร.โสภณ ได้ยกตัวอย่างการเสียภาษีมรดกในต่างประเทศมาเปรียบเทียบดังนี้:

    1. ในกรณีประเทศญี่ปุ่น กำหนดให้ผู้มีมรดกไม่เกิน 10 ล้านเยน (3 ล้านบาท) ต้องเสียภาษีมรดก ต้องเสียภาษี 10% ไปจนถึงอัตราสูงสุดคือ 50% (https://goo.gl/QjyNfR)

    2. ในอังกฤษ ผู้ที่มีมรดกตั้งแต่ 350,000 ปอนด์ (18.15 ล้านบาท) ต้องเสียภาษีมรดก โดยเสียสูงถึง 40% ของมูลค่า (https://goo.gl/4q43Fx)

    3. ในสหรัฐอเมริกา ราคาขั้นต่ำของทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษีมรดกเป็นเงิน 5.34 ล้านดอลลาร์ หรือ 172.319 ล้านบาทในปี 2557 ส่วนในระดับมลรัฐ ผศ.กานดา นาคน้อยได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าภาษีมรดกเก็บกับทรัพย์สินที่มีค่าตั้งแต่ 2 ล้านดอลลาร์ (64.5 ล้านบาท) ขึ้นไปโดยเก็บในอัตราสูงสุด 20% (http://bit.ly/1JC2f4n) กรณีนี้หากเทียบกับค่าครองชีพของสหรัฐที่สูงกว่าไทย 4-5 เท่า ก็เท่ากับเขาเสียภาษีกันที่ระดับราคาต่ำกว่า 100 บาทของไทยเป็นอย่างมาก

    จะเห็นได้ว่าทุกประเทศกำหนดขีดคั่นที่ต้องเสียภาษีไว้ต่ำกว่า ไทยเสียอีก แต่ของไทยมีข้อยกเว้นที่หลวมกว่า ยิ่งเมื่อพิจารณาถึงค่าของเงินแล้ว ประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น กำหนดให้ทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษี มีมูลค่าต่ำกว่าของไทยที่กำหนดไว้เป็นเงิน 100 ล้านบาทขึ้นไปจากราคาประเมินของทางราชการ ยิ่งกว่านั้นราคาที่ต้องเสียภาษีนั้นคิดตามราคาประเมินของทางราชการซึ่งมักต่ำกว่าราคาตลาดเป็นอันมาก แต่ในประเทศตะวันตกราคาประเมินทางราชการกับราคาตลาดใกล้เคียงกันมาก

    นี่แสดงให้เห็นอย่างหนึ่งว่าในประเทศตะวันตก เขาพยายามทำให้เกิดความเท่าเทียมกันมากกว่าไทย แต่เดิม เราเชื่อกันว่า ภาษีมรดกคงไม่เกิดขึ้นในยุครัฐบาลจากการเลือกตั้ง แต่ในความเป็นจริง แม้รัฐบาลจากรัฐประหาร ก็ไม่อาจเข็นกฎหมายภาษีมรดกได้เช่นกัน เพราะผู้มีส่วนเกี่ยวข้องก็ล้วนแต่มีฐานะดีทั้งสิ้น เข้าทำนองภาษิตกฎหมายที่ว่า "ชนชั้นใดเขียนกฎหมายก็เพื่อชนชั้นนั้น" นั่นเอง

    สำหรับการยกทรัพย์สินให้กับบุตรหลานในระหว่างที่เข้าของทรัพย์สินยังมีชีวิตอยู่ ถือเป็นการให้ ตามกฎหมายระบุไว้ว่า “เงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์โดยไม่มีค่าตอบแทนให้แก่บุตรชอบด้วยกฎหมายซึ่งไม่รวมถึงบุตรบุญธรรม เฉพาะเงินได้ในส่วนที่ไม่เกิน 20 ล้านบาทตลอดปีภาษีนั้น" (พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ฉบับที่ 40 พ.ศ. 2558 มาตรา 4 http://bit.ly/1KSloLY)

    ในทางปฏิบัติ หากผู้ใดคาดว่าจะมีกองมรดกไม่เกิน 100 ล้าน ก็รอให้ผู้นั้นถึงแก่กรรมเสียก่อน แล้วลูกหลานก็สามารถแบ่งกันได้โดยไม่ต้องเสียภาษี แต่หากมีทรัพย์สินมาก ส่วนที่เกินก็ทยอยโอนให้ลูก ๆ คนละไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อปีไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเสียชีวิตกันไป ก็เท่ากับว่าผู้มีทรัพย์มากทั้งหลายก็ได้เลี่ยงภาษีได้ กฎหมายภาษีมรดกจึงเป็นกฎหมายที่มีแต่เหมือนไม่มี ไม่ได้มีผลบังคับกับคนรวย ๆ ที่รู้ช่องทางในการ "วางแผนภาษี" ได้อย่างมีออาชีพนั่นเอง

    อันที่จริงแนวคิดการเสียภาษีมรดกมาจากการลดความเหลื่อมล้ำและ สร้างความเท่าเทียมกัน อภิมหาเศรษฐีฝรั่งมีค่านิยมในการบริจาคเงินมหาศาลเพื่อสังคม เพราะเชื่อตามนายแอนดรูว์ คาร์เนกี อภิมหาเศรษฐีอเมริกันที่กล่าวว่า "คนที่ตายอย่างร่ำรวย ตายอย่างน่าอับอาย" (the man who dies thus rich dies disgraced) เขาบริจาคทรัพย์เกือบทั้งหมดให้การกุศลก่อนตาย เหลือไว้ให้ทายาทบางส่วน ซึ่งต่างจากคติไทยที่ยินดีตายอย่างร่ำรวย

    ด้วยเหตุนี้จึงอาจกล่าวได้ว่าภาษีมรดกที่รัฐบาลออกมานั้น ก็เป็นกฎหมายที่แทบไม่มีผลในทางปฏิบัตินัก เป็นเพียงการออกกฎหมายเพื่อให้ได้ชื่อว่าได้ออกมาตามที่สัญญาไว้แล้ว แต่ไม่ได้มีผลต่อการสร้างความเท่าเทียมกันในสังคมแต่อย่างใด กฎหมายมรดกที่เกลี่ยความมั่งคั่งจะเกิดขึ้นในยุคสมัยที่ประชาชนเป็นเจ้าของ ประเทศอย่างแท้จริง (ไม่ใช่แค่ในนาม) หรือประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดินเช่นในประเทศตะวันตกเท่านั้น (ซึ่งไม่ทราบว่าจะเป็นเมื่อไหร่)

    เราจึงควรแก้ไขภาษีมรดกนี้ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการให้ในระหว่างมีชีวิต ก็ต้องเสียภาษีเสมือนการให้ การได้รับของรางวัลทั่วไป จึงจะลดความเหลื่อมล้ำได้จริง การที่ประเทศไทยยังสามารถออกกฎหมายที่ "เพี้ยน ๆ" แบบนี้ได้ ก็แสดงว่าเรายังมีคนรวยสุดๆ ที่มีอิทธิพลทางการเมือง (แม้ในยุคข้าราชการประจำเป็นใหญ่ก็ตาม) ยังมีผู้ยิ่งใหญ่ที่คอยแสดงฤทธิเดช ฟาดงวง ฟาดงา ในฐานะอภิสิทธิชนในสังคมไทย รัฐบาลของประชาชนต้องพยายามสร้างความเท่าเทียมกัน จะให้ใครแหลมมารวยสุด ๆ โดยไม่เสียภาษีตามสมควรไม่ได้

    นี่แหละจึงจะลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเท่าเทียมในสังคม และทำให้ประเทศไทยเป็นคนไทยทั้งชาติ ไม่ใช่เฉพาะของคนรวยๆ

    ที่มา:http://www.area.co.th/thai/area_announce/area_press.php?strquey=press_announcement1986.htm
     
  2. Alamos

    Alamos อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    13 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    7,052
    หรือว่าตัวปลอมโกรธแกมหมั่นใส้ด๊อกโสตัวจริงที่ดัดจริตว่าตัวเองจน ในขณะที่ตัวปลอมเองต้องทรยศเพื่อนเพื่อเอาเงินไปซื้อเกม การ์ตูน เลยเอามาลงล่อเป้าให้ชาวบ้านด่า น่าจะเปลี่ยนเป็น
    จำนำข้าวปูกับความอัปยศที่เก็บจากสาวกแดงตามบอร์ดต่างๆไม่ได้สักบาท
     
  3. อาวุโสโอเค

    อาวุโสโอเค อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,527
    ด๊อกก็ไม่ได้รู้อะไรจริงนี่หว่า ภาษีมรดกจะเก็บได้เมื่อทายาทดำเนินการขอรับโอนมรดก

    ไม่ได้หมายความว่าตายปุ๊บเก็บปั๊บ :giggle:
     
    อู๋ คาลบี้ และ AlbertEinsteins ถูกใจ.

Share This Page