Loading... เลื่อนฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์คดีสลายแดงปี53 เหตุส่งหมายให้สุเทพทางไปรษณีย์ไม่ได้ Fri, 2015-12-18 13:19 18 ธ.ค.2558 มติชนออนไลน์ สำนักข่าวไทยและ Voice TV รายงาน ตรงกันว่า ศาลอาญาเลื่อนนัดฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรีและ สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. อดีตรองนายกรัฐมนตรี ฐานร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำหรือฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา สืบเนื่องจากการออกคำสั่ง ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ให้เจ้าหน้าที่เข้าขอคืนพื้นที่การชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ แห่งชาติ (นปช.) ที่ชุมนุมตั้งแต่เดือน เม.ย.- 19 พ.ค.53 ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยเมื่อถึงเวลานัด อภิสิทธิ์เดินทางมาศาลตามนัด พร้อมทนายความ แต่นายสุเทพไม่ได้เดินทางมาศาล เนื่องจากไม่ได้รับหมายศาล ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า หมายที่ส่งไปทางไปรษณีย์ให้ สุเทพ จำเลยที่ 2 ปรากฏว่าส่งไม่ได้ เนื่องจากไม่มีผู้มารับตามกำหนด จึงถือว่าจำเลยที่ 2 ไม่ทราบนัดโดยชอบตามกฎหมาย จึงนัดฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์อีกครั้งวันที่ 17 ก.พ. 2559 เวลา 09.00 น. พร้อมให้แจ้งวันนัดให้จำเลยที่ 2 ทราบ หากไม่มีผู้รับให้ปิดหมาย และกำชับให้จำเลยทั้งสองมาศาลหากไม่มาศาลจะสั่งตามที่เห็นสมควร http://prachatai.org/journal/2015/12/63036 ฝากบอกไอ้ลุงกำนันด้วย สงสัยคงอยู่ในรูใต้กะลา เลยไม่รู้ศาลนัดครั้งนี้วันที่เท่าไร ครั้งหน้าวันที่ 17 ก.พ. 2559 เวลา 09.00น. อย่าขี้ขลาดไม่กล้าไปศาลนะเว้ยยย
ถ้าติดต่อได้เขาก็ไปตามนัด ไม่เหมือนบางคนหนีไปอยู่นอกประเทศแล้วแหกปากร้องแรกแหกกระเชอ บอกไม่ยุติธรรมๆ เสียงปืนแตกเมื่อไรจะกลับมาเดินนำหน้าพี่น้องเอง
งั้นฝากไปบอก "จืด ตู้เย็น" ด้วยนะเว้ย ว่าวันที่ 8 เมษายน 2559 มีนัดศาลด้วยเหมือนกัน ปล. อย่าหนีไปดูโอลิมปิคอีกนะเว้ย คนก่อนก็ไปดูซะเกือบ 8 ปีแล้ว ยังไม่กลับเลย สงสัยนักกีฬาแข่งจนตายคาสนามแล้วมั้งเนี่ย
ตอนอยู่บนเวทีปากดี ปากกล้า หลอกหมาหลอกแมวมันก็ดันเชื่อ ถึงขนาดประกาศแสดงความกล้า จะเดินเข้าคุกเอง แต่ตอนนี้เป็นไงล่ะ ขนาดไปศาลยังไม่กล้า มุดหน้าหนีลงรู ไอ้หน้าตัวเมีย ตอแหล ..ตุย
"ขนาดไปศาลยังไม่กล้า มุดหน้าหนีลงรู" ??? พูดถึงไอ้แม้วอยู่หรือไง แล้วในคลิปที่เห็นห่มผ้าเหลืองเดินเข้าไปในศาล นี่ใครกันละ คิดว่าเป็นหลวงเจ๊วัดธรรมโกยหรือไง ท่านพระยาควาย 'พระสุเทพ-อภิสิทธิ์'ขึ้นศาลคดีสลายม็อบปี 53 "พระสุเทพ" ขึ้นศาลให้การปฏิเสธสู้คดีร่วม"อภิสิทธิ์"ฆ่า-พยายามฆ่าผู้อื่น เหตุ ศอฉ.กระชับพื้นที่ชุมนุม นปช. ปี 53 พร้อมเลื่อนตรวจหลักฐาน เช้า 28 ส.ค.นี้ วันที่ 28 ก.ค.57 ที่ห้องพิจารณา 707 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา 09.30 น. ศาลนัดพร้อมและตรวจพยานหลักฐาน คดีหมายเลขดำ อ.4552/2556 และ อ.1375/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อายุ 50 ปี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือพระสุเทพ ปภากโร อายุ 64 ปี เลขาธิการ กปปส. อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ อดีตผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำหรือฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 80, 83 ,84 สืบเนื่องจากการออกคำสั่ง ศอฉ.ให้เจ้าหน้าที่เข้าขอคืนพื้นที่การชุมนุมบริเวณ ถ.ราชดำเนิน และแยกราชประสงค์ จากกลุ่ม นปช. ที่ชุมนุมตั้งแต่เดือน เม.ย.- 19 พ.ค.53 กระทั่งนายพัน คำกอง ชาว จ.ยโสธร อายุ 43 ปี คนขับแท็กซี่ และ ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ หรือน้องอีซา อายุ 14 ปี เสียชีวิตบริเวณใกล้สถานีรถไฟแอร์พอร์ทลิงค์ สถานีราชปรารภ วันที่ 15 พ.ค.53 และนายสมร ไหมทอง คนขับรถตู้ ถูกกระสุนยิง มาจากฝั่งเจ้าหน้าที่ที่รักษาการณ์ในพื้นที่ ย่านราชปรารภ ที่มีการประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อถึงเวลานัดศาลได้อ่านคำฟ้องให้พระสุเทพ จำเลยที่ 2 ฟังแล้วสอบคำให้การ จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธ โดยได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยประเด็นข้อกฎหมายเช่นเดียวกับที่นายอภิสิทธิ์ จำเลยที่ 1 ได้ยื่นไปก่อนหน้านี้เกี่ยวกับอำนาจฟ้อง ซึ่งจำเลยทั้งสองเห็นว่าดีเอสไอไม่มีอำนาจสอบสวน ขณะที่ผ่านมาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ก็ได้รับเรื่องที่มีการกล่าวหานายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบในเรื่องเดียวกันนี้ไว้ ซึ่งเบื้องต้นศาลได้สอบถามจำเลยทั้งสองแล้วทราบว่า ป.ป.ช.ก็เคยเรียกจำเลยทั้งสองไปชี้แจง แต่ยังไม่เคยแจ้งข้อกล่าวหา ขณะที่อัยการโจทก์และทนายความของญาติผู้เสียชีวิต โจทก์ร่วมก็ได้แถลงคัดค้านคำร้องของจำเลยทั้งสองดังกล่าวด้วย ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่ากรณีมีเหตุที่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยข้อกฎหมายเสียก่อน จึงให้เลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานและเพื่อฟังคำสั่งการวินิจฉัยประเด็นข้อกฎหมายดังกล่าวในวันที่ 28 ส.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ส่วนที่อัยการโจทก์ขอรวมสำนวนคดีหมายเลขดำ อ.4552/2556 ที่ยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ กับสำนวน อ.1375/2557 ที่ยื่นฟ้องนายสุเทพ เป็นคดีเดียวกัน เนื่องจากมูลเหตุแห่งการฟ้องคดีและพยานหลักฐานชุดเดียวกัน ศาลเห็นว่าเพื่อความสะดวกในการพิจารณาจึงอนุญาตให้รวมสำนวนทั้งสอง เป็นคดีเดียวกันโดยให้นายอภิสิทธิ์ เป็นจำเลยที่ 1 และ นายสุเทพ เป็นจำเลยที่ 2 ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนพิจารณาแล้ว พระสุเทพ ก็ได้เดินทางกลับทันที โดยให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ด้วยใบหน้าแจ่มใสว่า ตอนนี้สบายดี จิตใจสงบ ไม่มีกำหนดลาสิกขาบท ซึ่งจะลาสิกขาบทเมื่อไหร่คงต้องรอดูสถานการณ์ต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ พระสุเทพ ซึ่งบวชจำวัดอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ได้เดินทางมาพร้อมกับ นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ โฆษกกปปส. และนายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ นายบรรดาพวกแกนนำ กปปส.โดยมีเจ้าหน้าที่ติดตามรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด ขณะที่ยังมีกลุ่มส.ส.ประชาธิปัตย์ อาทินายเทพไท เสนพงศ์เดินทางมาให้กำลังใจนายอภิสิทธิ์ที่เดินทางมาพร้อมทนายความด้วย โดยนายอภิสิทธิ์ไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด http://www.komchadluek.net/detail/20140728/189052.html
เบาๆหน่อยเหอะ อย่ามากไปครับ คุณหน้าตาดี เอาแต่พอเรียกแขก อย่าไล่แขก หลายวันมานี่ผมหงุดหงิดมาก เสื้อแดงหายไปหมด คนใหม่ๆอย่างคุณคนกลาง กับหนูชื่ออะไรนะ จำไม่ได้ ยังหายกันไปหมด ผมชอบนะกระทู้คุณหน้าตาดี ถ้าจะช่วยเรียกเสื้อแดงมาเยอะ ไม่เห็นเสื้อแดงแล้วไม่อยากเข้ามา คิดถึงคนเสื้อแดง เฮื้อ
เสื้อแดงเขาเผาเสื้อสาปแช่ง เลิกเป็นควายแดงกันไปเยอะแล้ว จะปลุกอีกทีก็เงินมางานเดินเป็นผีโม่แป้งอย่างเดียว ปรเภทรับจ้างโพสต์โกหกเรียกคน เดี๋ยวนี้มากันยาก
เสื้อแดงควรอย่างยิ่ง จะพิจารณาตามนี้ แกนนำ ทนาย สื่อ ไรกัน แพ้มาจนขนาดนี้ ถูกจับ ติดคดีมากขนาดนั้น ยังโง่งมไว่ใจ เชื่อกันไปได้ไง ใครเค้าจะเอาคนยอมจำนน มอบตัว มาเป็นแกนนำ เฮือะ
เมิงจะเอาอะไรกันนักกันหนา ไอ้ตัวพี่บอกไปดูโอลิมปิคจนป่านนี้ยังไม่กลับมา อีตัวน้องก็อยากตามไปอยู่กับพี่ยิกยิก เพราะกลัวขึ้นศาล
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า หมายที่ส่งไปทางไปรษณีย์ให้ สุเทพ จำเลยที่ 2 ปรากฏว่าส่งไม่ได้ เนื่องจากไม่มีผู้มารับตามกำหนด หนีห่า ตรงไหน ไม่ทราบ !!!!
พวกกาสรสีชาดนี่ก็แปลกๆ อภิสิทธิ์ สมัครทหารจนได้ยศร้อยตรี บอกอภิสิทธิ์หนีเกณฑ์ทหาร สุเทพ ไปขึ้นศาลตามนัด บอกสุเทพหนีคดี ไม่โง่จริง เป็นไม่ได้นะ พวกกาสรสีชาดเนี่ย เค้าคัดไว้สำหรับคนพิเศษจริงๆ
ชักไม่แน่ใจซะแล้วสิเนี่ย สรุป มรึงควายแท้หรือควายเทียมว่ะเนี่ย ด่าพ่องตัวเองก็ได้แหะ ไอ้เหลี่ยมคงสะดุ้งโหยงเลยทีเดียวเชียว ลิ่วล้อด่าแทงใจดำขนาดนี้ ไม่โง่จริงเป็นควายแดงไม่ได้นี่เป็นสัจธรรมจริงๆ แหะ
โพสเอาแต้มเสร็จ แล้วแวะมาตอบเรื่องง่ายๆที่ผมถามเกี่ยวกับตัวมรึงเองให้ได้ที่กระทู้ผมด้วยนะ แล้วค่อยไปทำตามสั่งเรื่องอื่นๆ ขอบพระคุณเจ้าพระยาหน้าตาอาจจะดี แต่นิสัยเนี่ยเอี้ยยังเรียกพี่
หนีตรงที่ไม่รับหมายสิครับ ตอบด้วยจิตใต้สำนึก เชื่อหรือว่า สุเทพมันไม่รู้วันที่ศาลนัด?? เชื่อหรือว่าไม่มีผู้มารับไปรษณีย์ ไม่ได้รู้เห็นเตรียมกันไว้ก่อน!! ครั้งหน้าก็เตรียมคนในบ้านเหมือนเดิม ไปรษณีย์มาไม่ต้องออกไปรับหมาย หนีได้อีกหลายเดิอน นกพิราบบินเข้าบ้านก็ไล่ไปให้หมด เผื่อคนส่งหมายศาล ที่สำคัญระดับชาติ ส่งมาทางนกพิราบสื่อสาร
แล้วหนีรึยัง ตอนนี้อยู่ไหนหรา เทียบกับอีกคนไม่ได้ อยู่ไม่เป็นหลักเป็นแหล่ง นี่ก็พยายามมโนให้ได้อีกนะ เจ้าพระยาควายขี้แพ้ ยังคงขี้แพ้เหมือนเดิม
@anuthee ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ยกฟ้องอภิสิทธิ์-สุเทพสลายการชุมนุมปี 53 ตามศาลชั้นต้น ดาริน กานต์ จขกท. เปลี่ยนหัวข้อกระทู้ต่อไปนะ นัดหน้าต่อไป เม้ย อย่าลืม??
ศาลไทย ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ฝากถาม หน้าโยนี ว่า ศาลโลกนัดวันไหน ลุงกำนันกับอภิสิทธิ์อยากไปศาลโลก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. เดินทางมายังศาลอาญา เพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่อัยการฝ่ายคดีพิเศษ1 ยื่นฟ้องในความผิดฐานร่วมกันก่อ หรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำ หรือฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จากกรณีออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่เข้าขอคืนพื้นที่การชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เมื่อปี 2553 จนทำให้มีกลุ่มผู้ชุมนุม และทหาร เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ศาลอุทธรณ์ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ออกคำสั่งขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี ฟังไม่ได้ว่าเป็นกระทำในฐานะส่วนตัว ถือเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ทางการเมือง ต้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เป็นผู้ชี้มูลความผิด และยื่นฟ้องต่อ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ไม่มีอำนาจในการสอบสวน ที่ศาลชั้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นด้วย ยกฟ้อง นายสุเทพ ระบุว่า คดีนี้ ป.ป.ช. มีมติแล้วว่า ตัวเขาและนายอภิสิทธิ์ ไม่มีความผิด และไม่มีความกังวล ยินดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล ส่วนเรื่องการเมืองขณะนี้ไม่ยุ่งเกี่ยว ทำงานด้านมูลนิธิ หรือการเมืองภาคประชาชน และไม่ขอให้ความเห็นด้านการเมือง ด้านนายอภิสิทธิ์ กล่าวภายหลังศาลพิพากษาว่า คดีดังกล่าวถือว่ายังไม่สิ้นสุด และไม่ทราบว่าอัยการจะยื่นฎีกาหรือไม่ ขณะที่ นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความของญาติผู้เสียชีวิต จากเหตุขอคืนพื้นที่การชุมนุม ระบุว่า จะยื่นฎีกาต่อสู้คดี โดยจะหาหลักฐานเพิ่มเติม และเห็นว่าถึงแม้จำเลยจะดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ก็ไม่มีอำนาจในการสั่งฆ่าผู้อื่นได้ ส่วนญาติผู้เสียชีวิตก็รู้สึกเสียใจ แต่ก็จะต่อสู้จนถึงที่สุด http://www.thairath.co.th/clip/40157 นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารับฟังการไต่สวนพยานอัยการนัดที่ 2 ในคดีรับจำนำข้าว พร้อมปฎิเสธ ข่าวการจ้าง ทนายความ จากต่างประเทศ 17 สำนัก ร่วมทำคดีนี้ไปติดตามจากคุณจริยา สิริสรรพงศ์ ผู้สื่อข่าวไทยรัฐทีวี รายงานสดจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง http://www.thairath.co.th/clip/40156
ฝากบอกพี่ไอซ์ด้วยนะครับ วันนั้นมาให้ตรงนัดด้วยนะครับ คดีรับเช็คกฤษดามหานคร 26 ล้าน ฟอกเงินและแจกจ่ายพนักงานบริษัท “ฮาวคัม” แม่และสามีของนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงอ้อ เตรียมเข้าให้ปากคำกับดีเอสไอ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ส่วน “พานทองแท้” ยังรอนัดให้ปากคำ ขณะที่พนักงานสอบสวนเร่งปิดคดีฟอกเงินจากการทุจริตปล่อยกู้ของแบงก์กรุงไทย ให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้ ความคืบหน้าการสอบสวนคดีฟอกเงินที่สืบเนื่องจากคดีทุจริตปล่อยกู้ของ ธนาคารกรุงไทยให้กับกลุ่มบริษัท กฤษดามหานคร พันตำรวจโทสมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 10.00 น. นางเกศินี จิปิภพ มารดาของนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร พร้อมด้วยนายวันชัย หงษ์เหิน สามีนางกาญจนาภา จะเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำชี้แจงกรณีมีแคชเชียร์เช็คมูลค่า 26 ล้านบาท สั่งจ่ายเข้าบัญชีของนางเกศินี เพื่อซื้อหุ้นผู้มีอุปการะคุณบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน หรือ ทอท. โดยหุ้นดังกล่าวมีการกระจายให้กับพนักงานบริษัท ฮาวคัม จำกัด และบริษัท มาสเตอร์โฟน จำกัด ที่มีนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้น ส่วนนายพานทองแท้ นางกาญจนาภา และนายมานพ ทิวารี บิดาของนาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี ขณะนี้อยู่ระหว่างกำหนดวันเข้าให้ปากคำ ซึ่งอาจไม่ทันภายในเดือนนี้ แต่ผู้เกี่ยวข้องในการรับเช็คทุกรายต้องเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนด้วยตน เองที่ดีเอสไอเท่านั้น จะไม่มีการเรียกสอบปากคำนอกสถานที่ โดยพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนคดีฟอกเงินให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้ เพื่อส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อไปก่อนคดีหมดอายุความในปี 2560 ทั้งนี้ นายวิชัย กฤษดาธานนท์ อดีตผู้บริหารเครือกฤษดามหานคร ได้นำเงินกู้บางส่วนไปจ่ายเป็นค่าที่ดินให้กับผู้ที่ซื้อบ้านในโครงการก ฤษมหานครนั้น จากการสอบปากคำพยานพบว่าเป็นการจ่ายที่มีมูลหนี้ และผู้รับเช็คไม่มีความผิดฐานฟอกเงิน แต่นายวิชัยจะต้องรับผิดคดีฟอกเงินแบบเรียงกระทงเนื่องจากเป็นการนำเงินที่ ได้จากการปล่อยกู้ให้ไปฟื้นฟูกิจการไปใช้ในลักษณะที่ผิดวัตถุประสงค์ โดยมีเงินจำนวน 26 ล้านบาท ถูกนำไปซื้อแคชเชียร์เช็ค
ลุงกำนัน บอก กรูขำกลิ้ง เอากรูกับมาร์คไปฟ้องศาลอาญา เสียเวลาชิบหาย อยากจะเอาไปแหกตาควายแดง หาเรื่องด่าศาล น่าหาวิธีอื่น เสียเวลากรูต้องไปศาล