สาวไปสาวมา ดูเหมือนจะกลายเป็นขบวนการไปซะแล้ว ตัวละครหลายที่โผล่มาทำให้เกิดอาการ เข็มขัดสั้นขึ้นมาทันใด ไม่ว่าการเปลี่ยนจากโจทก์เป็นจำเลย การที่เธอเปลี่ยนทนายความถึง 3 คน ในเวลาไม่กี่วัน การมีเจ้าทุกข์เพิ่มเติม ฯลฯ ที่สำคัญ เสมือนศรย้อนกลับไปสู่กลุ่มสร้างปัญหา ทางสังคมแทบทั้งนั้น ล่าสุดบอกว่าจะหลบไปบวชชีที่เชียงรายระหว่างตำรวจเร่งดำเนินคดี มีข่าวลือว่าจะไปเยอรมัน สารพัดจะสาดใส่ ปัญหาคือ สิ่งที่สังคมเพ่งเล็งว่าจะเข้าข่ายค้ามนุษย์ หรือไม่หรือว่ามีอะไรมากกว่านั้น จิ๊กซอว์กำลังถูกต่อขึ้นมา
โดนลูกจ้างขโมยทรัพย์สิน ซ้ำซาก ปกติ คนเรา ถ้าโดนครั้งแรก ก็ ระแวงแล้ว นี้ ยังวางทรัพย์สิน ล่อตะเข้ เหมือนเดิม
เกรงว่าจะไม่ได้ล่อตะเข้ด้วยน่ะสิครับ ยัดข้อหาให้เด็กถึงปฏิเสธว่าไม่ได้เอาไป ที่สำคัญคือหลักฐานเด็ดที่หญิงไก่บอกว่าจะมาแถลง 2 อาทิตย์แล้วกก็ไม่เอามาซะที แล้วเปลี่ยนทนายถี่มาก เผลอ ๆ ทนายขอถอนตัวเพราะพอซักไซ้แล้วบอกไม่ได้
“ดอน” ยืนยัน "หญิงไก่" ถือพาสปอร์ตข้าราชการ เผยได้มาตั้งแต่สมัย รบ.ยิ่งลักษณ์ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีนางวันทนีย์ หยกวิรยะกุล หรือหญิงไก่ อดีตนายจ้างที่แจ้งความดำเนินคดีกับลูกจ้างในข้อหาลักทรัพย์ และปรากฏว่ามีหนังสือเดินทางข้าราชการในครอบครอง ว่า เมื่อปี 2557 กรมการกงสุลได้ออกให้ตามคำขอของสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะทำงานของเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งหนังสือเดินทางดังกล่าวได้หมดอายุไปแล้วเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา มีรายงานเพิ่มเติมว่า ในขณะนั้นนางวันทนีย์ เป็นหนึ่งในคณะทำงานของเลขานุการนายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในสมัยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีภารกิจร่วมติดตามคณะ จึงเป็นที่มาของการมีพาสปอร์ตข้าราชการเล่มดังกล่าว ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/705600 --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- "ฝนตก ขี้หมูไหล คน ???? มาพบกัน "
แนวโน้มน่าจะลากไส้เสื้อแดงมาอีกเพียบ โยง “นางไก่” เสื้อแดงสายวัด“ทนายสงกานต์” ลุยจี้คดีเก่า โดย ผู้จัดการรายวัน 6 กรกฎาคม 2559 00:01 น. (แก้ไขล่าสุด 6 กรกฎาคม 2559 00:06 น.) ปูด “เสถียร วิพรมหา” เสื้อแดง-ธรรมกาย ชงเรื่อง “นางไก่” คว้าพาสปอร์ตข้าราชการ ยัดชื่อใส่ทีมหน้าห้อง “สันติ พร้อมพัฒน์ ” อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี “รัฐบาลปู” ด้าน “ทนายสงกานต์” ยื่นคำร้อง ศาลอาญา ขอปล่อยตัวชั่วคราว “สุกัลยา ศิริม่วง” พร้อมยื่นเรื่อง สภาทนายความฯ รื้อคดีช่วยเหยื่อทุกราย ต่อกรณีที่มีการระบุว่า นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือ “นางไก่” ที่กำลังตกเป็นข่าวครึกโครมหลังแจ้งความดำเนินคดีลูกจ้างตัวเองในข้อหาลักทรัพย์จำนวนหลายล้านบาทและกำลังถูกดำเนินคดีในข้อหาแจ้งความเท็จ มีหนังสือเดินทางข้าราชการในครอบครองโดยได้รับการอนุมัติจาก กรมการกงสุล ตามคำขอของสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงปี 2557 นั้น แหล่งข่าวระดับสูงใน สำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ส่งคำขอหนังสือเดินทางข้าราชการให้แก่นางมณตาจริง ในฐานะคณะทำงานของเลขานุการ นายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยเป็นทีมงานของ นายเสถียร วิพรมหา ซึ่งเป็นเลขานุการของนายสันติ ในขณะนั้น จากการตรวจสอบพบว่า นายเสถียร ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นนายกสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ.) และมีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวสนับสนุนมติมหาเถรสมาคม (มส.) เสนอรายชื่อ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) วัดปากน้ำ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ โดยมีความใกล้ชิดกับ พระเมธีธรรมาจารย์ (ประสาร จนฺทสาโร) เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย (ศพศ.) และพระมหาโชว์ ทัสฺสนีโย ที่ปรึกษา สนพ. อีกทั้งยังร่วมอยู่ในเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกลุ่มพระสงฆ์กับเจ้าหน้าที่ทหารที่พุทธมณฑล เมื่อช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ล่าสุดกำลังเคลื่อนไหวให้ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตีความมาตรา 7 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คณะสงฆ์ ในส่วนของสังฆธรรมเนียมปฎิบัติและโบราณราชประเพณี โดยประกาศจะเดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีในช่วงสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ยังพบว่า นายเสถียร แสดงตัวเป็นผู้เลื่อมใสศรัทธาในวัดพระธรรมกายอย่างชัดเจน โดยเมื่อช่วงเดือน มี.ค.58 ได้เคยออกรายการต่างคนต่างคิด ทาง AMARIN TV HD ตอน “มหาเถรสมาคมกับปมธรรมกาย จุดเปลี่ยนแห่งศรัทธา?” ร่วมกับ นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ “ส.ศิวรักษ์” โดยมีบางช่วงที่นายเสถียรไม่สามารถตอบคำถามที่นายสุลักษณ์ถามเกี่ยวกับหลักคำสอนของวัดพระธรรมกายได้ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายเสถียร ยังเคยขึ้นเวทีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อกลางปี 2557 ซึ่งมีการชุมนุมที่ ถ.อักษะ จ.นครปฐม ด้วย เช่นเดียวกับเมื่อครั้งการชุมนุมใหญ่ของ นปช.ที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ นายเสถียร ก็เคยเข้าร่วม และนำพระสงฆ์กลุ่มหนึ่งขึ้นเวทีด้วย . “ทนายสงกานต์” เตรียมรื้อคดีช่วยเหยื่อทุกราย เมื่อเวลา 10.10 น. วานนี้ (5 ก.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา และมหากษัตริย์ พร้อมด้วย น.ส.วณิชยา บุ้นสุนเฮง หรือ “น้องมีน “อายุ 21 ปี และ น.ส.ประภาวรรณ ใจกล้า หรือ “น้องก้อย” อายุ 19 ปี เดินทางมายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว นางสุกัลยา ศิริม่วง อายุ 54 จำเลยในคดีลักทรัพย์เงินสดและทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท โดยนำหลักประกันของ สำนักงานกองทุนยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม มาเป็นหลักประกันซึ่งขณะนี้นางสุกัญญาถูกคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง นายสงกานต์ กล่าวว่า ในวันนี้ (6 ก.ค.) ตนจะเดินทางไปที่ สภาทนายความแห่งประเทศไทย เพื่อยื่นเรื่องให้ดำเนินการช่วยเหลือเหยื่อทุกราย โดยจะให้พิจารณาฟ้องคดีอาญาและแพ่ง เรียกค่าเสียหายให้เหยื่อแต่ละราย รวมทั้งอาจจะขอรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นมาพิจารณาคดีใหม่ในคดีที่ศาลพิพากษาไปแล้ว เพื่อคืนความเป็นธรรมให้มารดาของ น.ส.วณิชยา ส่วนอีก 5 รายที่ยังไม่พิพากษานั้นก็ได้แจ้ง กองปราบปราบ แล้ว อยู่ระหว่างลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ จ.แม่ฮ่องสอน นอกจากนี้พยานแต่ละรายถูกโทรศัพท์ข่มขู่เป็นระยะ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวได้แจ้งพนักงานสอบสวนกองปราบปรามแล้ว ส่วนในวันศุกร์ ที่ 8 ก.ย.ศกนี้ จะเดินทางไปพบ เลขาฯ ปปง.เกี่ยวกับการตรวจสอบทรัพย์สิน เนื่องจากกรณีนี้พบว่ามีการกระทำกันเป็นขบวนการ ขุด 9 คดีตั้งแต่ปี 2555 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (5 ก.ค.) ที่ สน.ประชาชื่น พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. เดินทางมาตรวจสำนวนในคดีที่เกี่ยวข้องกับนางมณตรา หยกรัตนกาญ หรือ “นางไก่” พร้อมเปิดเผยว่า ส่วนตัวเห็นว่าคดีนี้ได้ดำเนินการมาพอสมควรแล้ว อีกทั้งยังมีการประสานการปฏิบัติงานร่วมกับ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. และทาง พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รรท.ผบก.ป. โดยในวันนี้จะมาตรวจรายละเอียดของสำนวนคดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2555 ที่มีทั้งหมด 9 คดี แบ่งเป็นคดียักยอกทรัพย์ 3 คดี ฉ้อโกง 1 คดี ทำให้เสียทรัพย์ 1 คดี และลักทรัพย์ 4 คดี สำหรับสำนวนทั้ง 9 คดีขณะนี้เหลือเพียงสำนวนคดียักยอกทรัพย์เพียงคดีเดียวที่ยังอยู่ระหว่างเตรียมสรุปสำนวนส่งให้ทางพนักงานอัยการ ทั้งนี้ ต้องมีการตรวจสอบด้วยว่าในส่วนพนักงานสอบสวนเองมีข้อบกพร่องตรงไหนหรือไม่ รวมไปถึงพยานหลักฐานที่มีอยู่สามารถดำเนินการต่อผู้กระผิดได้หรือไม่เช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำงานอย่างตรงไปตรงมาเพื่อจะคลี่คลายคดีให้เกิดความกระจ่าง ถูกต้องตามความชอบธรรมและพร้อมให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9590000067048
มีหญิงแย้ หญิงไก่ หญิงปู สารพัดหญิง ใครแต่งตั้ง คริคริ ซีเครียดนะ ใส่หญิงนำหน้า คงคิดว่าทำให้ดูไฮโซขึ้นมาในทันควัน ด้วยความไม่เคารพ จากหยิงอ้อย อิอิ
5555 พอสาวลึกเข้าไปก็ชักได้กลิ่นทะแม่งๆ วีรกรรมควายแดงอีกแล้วหรือนี่ ขอชักชวนให้มือดีฯ คนกลาง เลอคู เลอคลอง และอีกหลากอวตารทั้งหลายในห้องและนอกห้องนี้เปลี่ยนโปรไฟล์ล็อคอินเป็น "เราเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของหญิงไก่" ไม่ช่วยกันตอนนี้แล้วจะไปช่วยกันตอนไหน
ผมว่ามันทะแม่งๆกับข่าวสมัยไปปึ้งพาเด็กไปเที่ยวนอกนะ http://www.manager.co.th/mwebboard/listComment.aspx?Mbrowse=13&QNumber=347861
ด้วยความเคารพ คดีหญิงไก่ทำให้รู้ว่าตำรวจเป็นลามาตั้งหลายปี มิหนำซํ้ายังเอาคนบริสุทธิ์เข้าคุกได้หน้าตาเฉยตั้งหลายคน
ตามอยู่เหมือนกันครับ อย่างน้อยดีใจที่ถึงจะสาวไม่ถึงตัวใหญ่ แต่ครอบครัวน้องก้อย แม่น้องมิน น่าจะหลุดคดีพ้นทุกข์ และยายไก่อย่างน้อยก็แจ้งความเท็จ ประเด็นตำรวจต้องชื่นชมกองปราบยุคนี้ ส่วนตำรวจอื่นๆต้องรอพิสูจน์ตัวเองจากคดีนี้ ว่าปล่อยให้ผิดพลาดเรื่องจำนวนได้อย่างไร ต้องขอบคุณทนายสงกานต์ คุณจาตุรง ที่ช่วยขุดคุ้ย เปิดโปงคดีนี้ และอีกหลายๆคนที่ช่วยเหลือ
ลงนามโดย นายเสถียร วิพรมหา เลขานุการนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 24 มีนาคม 2557 โดยระบุว่านางมนตาเป็น 1 ในคณะทำงานของนายเสถียร ซึ่งมีความประสงค์จะเดินทางไปต่างประเทศเพื่อร่วมพิธีทอดผ้าป่าในวัดพุทธวิหาร หรือวัดไทย ณ กรุงเบอร์ลิน เยอรมนี ระหว่างวันที่ 14-16 มิถุนายน 2557 http://www.matichon.co.th/news/201498
อือมมม...หลายๆเรื่อง... มีผู้ให้ข่าว ให้ข้อมูล ที่ขัดแย้งกัน มันต้องมีใคร "โกหก" ซักคนแหล่ะ... ๐๐๐ ๐๐๐ ๐๐๐ ไอ้หมอนี่ว่า คุณดอน ใส่ร้ายผู้หญิง... ๐๐๐ ๐๐๐ ๐๐๐ แต่อีกข่าวหนึ่ง... ๐๐๐ ๐๐๐ ๐๐๐ ๐๐๐ ๐๐๐ ๐๐๐ จะเชื่อใคร คงไม่ต้องใส่ใจคิดมากมั๊งครับ... คนชอบพูดโกหก ไม่ทำชั่วอื่น ไม่มี… หลักฐานความชั่ว มีให้เห็นอยู่ดาษดื่น...
อีนี่กำลังจะเป็นเหมือนแดงเทียม ..... 5555 ทำไมไอ้เลวพวกนี้ เวลามีสุขก็ร่วมเสพ แต่พอมีทุกข์มาถึงตัว กูไม่รู้จักมึงซะงั้น เหมือนกันหมดทั้งพระ ทั้ง ฆราวาส
เรื่องนี้ทำให้คนในประเทศที่ไม่รู้จัก "หญิงไก่" มาก่อน ได้รู้จักกับ "หญิงไก่" มากขึ้น และทำให้ คนที่เคยรู้จักกับ หญิงไก่ มาก่อน ทำท่า เหมือนไม่เคยรู้จักกับ หญิงไก่ มาก่อน ยังงั้นแหล่ะ ตรูละ งง
เอ๊ะ..... มันเป็นยังไง ถ้าคนในแวดวงนี้ ไม่ว่าฆราวาสหรือพระ บอกว่าไม่รู้จักใคร ไอ้คนที่ถูกอ้างว่าไม่รู้จักนี่แหละ มักเป็นกุญแจไขปริศนาสำคัญ
และโดยทั่วไปนั้นพาสปอร์ตประเทศต่างๆ ถ้าเหลืออายุไม่ถึง 6 เดือน ตม ของหลายประเทศจะไม่ให้ผ่านแดนเข้าไปได้ ดังนั้น ถ้าพาสปอร์ตเหลืออายุไม่ถึง 6 เดือน ก็ควรให้กรมการกงสุล กต ออกให้ใหม่เพี่อป้องกันปัญหาที่ ตม ไม่ให้เข้าประเทศ
ปกติพาสปอร์ตสีน้ำเงินออกให้กับข้าราชการหรือบุคคลพิเศษ ไม่จำเป็นต้องเป็นข้าราชการก็ได้ ยกตัวอย่างกรณีน้องเมย์ รัชชนก ก็ใช้เช่นเดียวกันเพื่ออำนวยความสดวกในการเดินทางไปแข่งขัน แต่กรณีหญิงไก่ น่าจะใช้ในกรณีเดินทางไปทอดผ้าป่าที่เบอร์ลิน ซึ่งก็ไม่แปลก
ตำรวจ กระบวนการยุติธรรม ผู้บริสุทธิ์ สงสัยว่าศาลเนี่ย ทำอะไรมากกว่านี้ได้มั๊ย นอกจากดูคำรับสารภาพและลายเชนต์???
"หญิงไก่" โดนข้อหาแจ้งความเท็จ-ค้ามนุษย์-ผิด ม.112 วันนี้ (14:27 น.) เปิดอ่าน 10,048 ความคิดเห็น 0 "หญิงไก่" โดนข้อหาแจ้งความเท็จ-ค้ามนุษย์-ผิด ม.112 สนับสนุนเนื้อหา พนักงานสอบสวนกองปราบปราม แจ้งข้อหา นางมณตา หยกรัตนากาญ หรือหญิงไก่ รวม 3 ข้อหา คือ แจ้งความเท็จ ค้ามนุษย์ และหมิ่นสถาบันตามมาตรา 112 วันนี้ (7 ก.ค.2559) เวลาประมาณ 14.15 น. พนักงานสอบสวนกองปราบปราม แจ้งข้อหานางมณตา หยกรัตนากาญ หรือ หญิงไก่ รวม 3 ข้อหา คือ แจ้งความเท็จ ค้ามนุษย์ และหมิ่นสถาบันตามมาตรา 112 ภายหลังนางมณตา เดินทางพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาฐานแจ้งความเท็จ และพยายามค้ามนุษย์ กรณี น.ส.ประภาวรรณ ใจกล้า หรือ น้องก้อย และครอบครัว อดีตลูกจ้างเข้าแจ้งความก่อนหน้านี้ว่าถูกหญิงไก่กล่าวหาว่าลักทรัพย์ และพยายามพาไปต่างประเทศ โดยมีอดีตลูกจ้างอีกหลายคนที่ถูกหญิงไก่แจ้งความดำเนินคดีลักษณะเดียวกัน นางมณตา กล่าวว่า เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก พร้อมนำพยานบุคคลและพยานเอกสารมอบต่อพนักงานสอบสวนด้วย แต่ไม่ให้สัมภาษณ์ถึงรายละเอียดใดๆ ต่อสื่อมวลชน ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ล่าสุดหญิงไก่ยื่นถอนแจ้งความลูกจ้างชาวกัมพูชา 3 คน ในข้อหาลักทรัพย์และยักยอกทรัพย์ เมื่อปี 2557 รวมทั้งคดีที่แจ้งความจับทหารยศ พ.อ.ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ เมื่อเดือนมกราคม 2559 โดยมองว่า หญิงไก่ในฐานะผู้เสียหาย ย่อมสามารถใช้สิทธิ์ส่วนตัวถอนคำร้องทุกข์ได้ ส่วนกรณีที่มีผู้เสียหายที่เป็นอดีตลูกจ้างของหญิงไก่ อ้างว่ามีนายตำรวจสถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น เข้ามาเกี่ยวข้องกับการแทรกแซงคดี จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนแล้ว พร้อมยอมรับตำรวจจะสอบสวนขยายผลไปถึงความสัมพันธ์ ระหว่าง หญิงไก่ กับนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง ผู้ต้องหา คดีหมิ่นสถาบันฯ มาตรา 112 เพราะก่อนหน้านี้ปรากฏตามข่าวทางสื่อมวลชนว่าทั้ง 2 คนมีความสัมพันธ์กัน แต่ยังไม่สามารถเชื่อมโยงว่า หญิงไก่ จะเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดมาตรา 112 หรือไม่ ที่มา http://news.sanook.com/2025770/
เละ! ต้องขอบคุณความชั่วที่ทำให้คนหน้ามืด ทำชั่วทั้งๆที่ไม่มีอำนาจใดๆหนุนหลัง อยู่เฉยๆคงไม่โดยคุ้ยขนาดนี้
ทนาย "หญิงไก่" ถอนตัว เหตุมีพิรุธไม่ยอมให้พยานหลักฐาน-เบี้ยวค่าจ้าง updated: 07 ก.ค. 2559 เวลา 14:41:11 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ นายธนบดี เสประธานนท์ อดีตทนายความของ "นางไก่" ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งว่า ได้ตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นทนายความให้นางไก่แล้ว เนื่องจากผิดสัญญาไม่ส่งมอบเอกสารหลักฐานที่อ้างว่ามีให้ทั้งอุปกรณ์บันทึกข้อมูลกล้องวงจรปิด และบัญชีทรัพย์สินที่ถูกขโมย ทำให้ไม่สามารถหาข้อเท็จจริงได้ โดยตอนแรกได้ติดต่อให้ตนไปทำคดี น.ส.ประภาวรรณ ใจกล้า หรือ "น้องก้อย" ซึ่งพบว่าบัญชีทรัพย์ที่ถูกขโมยมี 2 แผ่น มีรายการทองอย่างเดียวที่แตกต่างกัน ฉบับหนึ่งเขียนว่า 40 แท่ง แท่งละ 10 บาท รวมเป็นทอง 400 บาท เป็นเงิน 8 ล้านบาท อีกบัญชีหนึ่ง 4 แท่ง แท่งละ 10 บาท รวมเป็นทอง 40 บาท เป็นเงิน 8 แสนบาท ถือเป็นสิ่งพิรุธ นางมณตาตอบว่า ตอนไปให้การพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ตอนนั้นให้การว่า 40 บาท แต่เข้าใจคลาดเคลื่อนกัน แต่ไม่ส่งมอบพยานหลักฐานให้ตน ซึ่งตอนนี้ตนติดใจ และไดรฟ์บันทึกกล้องวิดีโอวงจรปิดก็ไม่ส่งมอบตัว ทำให้ไม่สามารถหาความจริงได้ นายธนบดีกลาวว่า ประกอบกับมีปัญหาเรื่องค่าจ้างทนาย โดยทางนางไก่เสนอค่าจ้างให้ตน 1 ล้านบาท แต่หลังจากนางไก่พาไปออกรายการทีวีรายการหนึ่ง แล้วนางไก่สัญญาว่าจะจ่ายค่าจ้างให้จำนวนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ให้ เห็นแต่เพียงว่าเซ็นเช็คให้ แต่เก็บเข้ากระเป๋าตนเองตามเดิม "เหตุที่มาเป็นทนายให้ตอนนั้นเป็นเวลารวดเร็วมาก พรรคพวกที่พักที่เดียวกับคุณไก่โทรมาให้ทำคดีนี้ เกือบเที่ยงแล้ว ไปถึงคอนโดฯคุณไก่เกือบบ่าย 2 โมง ไปถึงคุณไก่เล่าข้อเท็จจริงให้ฟังแล้วไปออกรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง โดยผมไม่ได้ตรวจสอบจากพยานหลักฐานที่แท้จริง อยากฝากคุณไก่ให้รักษาคำพูดให้คิดก่อนเสมอ ก่อนพูดเราเป็นนาย แต่หลังพูด คำพูดเป็นนายเรา หลังถอนตัวไม่เคยเจอคุณไก่อีกเลย" นายธนบดีกล่าว ที่มา http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1467877411
จากสำนักข่าวสด บอกว่า โดน ม.112 ด้วยนะครับ ตร.แจ้ง 4 ข้อหา “หญิงไก่” ค้นคอนโดหาหลักฐาน-คุมตัวฝากขังศาลเย็นนี้ ต่อมาเวลา 14.30 น. เจ้าหน้าที่ที่กองปราบนำตัว หญิงไก่ มาที่ห้องพัก ย่านประชานิเวศน์ 1 เพื่อมาชี้จุด หลังถูกแจ้งข้อหาทั้งหมด 4 ข้อหา คือ 1.ข้อหาแจ้งความเท็จ 2.กลั่นแกล้งให้ผู้อื่นมีความผิด 3.ข้อหาค้ามนุษย์ 4.ความผิดทางอาญาตามมาตรา 112 โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยสื่อมวลชน ที่เกาะติดสถานการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก ต่างวิ่งเก็บภาพกันอย่างทุลักทุเล หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาในช่วงเย็นต่อไป
สำหรับผู้ที่ยังจำเรื่องคุณหญิงกำมะลอสตรอเบอร์รี่กับเครื่องราชฯปลอม และทิดอุดมหรือเจ้าคุณอุดมฯ อดีตรองเจ้า อาวาสวัดเทพศิรินทร์ฯเมื่อปี 2529 ได้ คงนึกชื่อกิมเอ็ง แซ่เตีย ผู้อ้างตนเองชื่อดวงฤทัย จารุจินดา (แต่คนในตระกูลจารุจินดา ยืนยันว่าไม่มีคนชื่อนี้ร่วมในโคตรเหง้าเหล่ากอ) กิมเอ็งคือพี่สาวของนางไก่ แต่ไม่ถูกกันจนถึงขั้นฟ้องร้องกันมาก่อน จากนั้นชื่อของนางไก่ก็หายไป ยังมีความจริงอีกข้อหนึ่งคือ นางไก่ นางกิมเอ็ง และหมอหยอง-สุริยัน สุจริตพลวงศ์เป็นพี่น้องกันด้วย มีแม่เดียวกันแต่คนละพ่อ... บุคคลแนวหน้า : ธรรมกร 7 กรกฎาคม 2559
อ๋อครับ จะมีความผิดข้อหาหนึ่ง คือช่วยเหลือผู้กระทำความผิด ซึ่งทนายหลายราย โดนข้อหานี้ครับ ดังนั้นการ เซฟตัวเอง ก็แล้วแต่วิธีการ ส่วนคำพูด นักข่าวหรือคนเขียนคงใส่เอง หาเหตุผลเอง การคุยกันแบบสัมภาษณ์ ระหว่างคน 2-3 คน เวลาเอามาขยาย มันจะเป็นอีกรูปแบบหนึ่งนะครับ
พบอีกปม “นางไก่” พ่อแม่ไม่มีเลขบัตรประชาชน-เงินทุกบัญชีรวมไม่ถึงแสน โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 12 กรกฎาคม 2559 18:42 น. (แก้ไขล่าสุด 12 กรกฎาคม 2559 20:45 น.) "ไก่” วันทนีย์ หยกวิริยะกุล (ภาพจากแฟ้ม) MGR Online - กองปราบตรวจทะเบียนราษฎร พบพ่อแม่ “นางไก่” ไม่มีเลขบัตร ปชช. ตร. เผยผลสอบบัญชี 9 เล่ม ที่พบที่คอนโด ยอดเงินรวมกันไม่ถึงแสนบาท ขัดกับสำนวนแจ้งความจับอดีตลูกจ้าง ชุดสืบสวนพบเบาะแส “โก้” อดีตคนขับรถกบดานวัดย่านลำลูกกา วันนี้ (12 ก.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระ มหากษัตริย์ พา น.ส.ประภาวรรณ หรือ ก้อย ใจกล้า อายุ 19 ปี นิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ปี 1 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง นายชูเกียรติ ใจกล้า และ นางประภาพร ทองเฟื้อง สามพ่อแม่และลูก เข้าร้องทุกข์กองปราบปรามให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีถูกอดีตนายจ้างชื่อ “หญิงไก่” อ้างตัวเป็นคุณหญิง แจ้งความดำเนินคดีลักทรัพย์ เป็นทองแท่งกับเงินสดกว่า 10 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 58 เหตุท้องที่ สน.ประชาชื่น ว่า เบื้องต้นทาง พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป. พร้อมคณะทำงานสอบสวน กองปราบปราม ได้ทำการตรวจสอบประวัติของ นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือ หญิงไก่ ว่า มีภูมิลำเนาอยู่ที่ไหน มีบิดามารดาเป็นใคร และเป็นพี่น้องกับ นางกิมเอ็ง แซ่เตียว หรือ ดวงฤทัย จารุจินดา ผู้ต้องหาในคดีเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ที่ถูกศาลพิพากษาจำคุกไปก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2530 จริงหรือไม่ ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบพบว่า ในทะเบียนราษฎรไม่มีการระบุชื่อบิดา มารดา ของหญิงไก่ แต่อย่างใด เนื่องจากไม่มีเลขบัตรประชาชน อีกทั้งตัวหญิงไก่เองนั้น เคยมีการเปลี่ยนชื่อนามสกุลถึง 2 ครั้ง จึงทำให้การตรวจสอบประวัติที่แท้จริงค่อนข้างยาก ส่วนกรณีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนางไก่ ที่ก่อนหน้านี้ พบว่า มีบัญชีธนาคารทั้งหมด 9 บัญชี ซึ่งทั้งหมดมียอดเงินรวมกันไม่ถึง 1 แสนบาท ซึ่งขัดแย้งกับการที่หญิงไก่ไปแจ้งความว่าถูกลูกจ้างลักทรัพย์ทองคำหนัก 400 บาท จึงกลายเป็นประเด็นเคลือบแคลงสงสัยจากสังคม ว่า หญิงไก่รวยจริงหรือไม่ ขณะนี้ทาง พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผบช.ก. สั่งการให้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ บก.ปอศ. ทำการตรวจสอบเส้นทางการเงิน แหล่งรายได้ รวมถึงการชำระภาษี ว่า หญิงไก่มีรายได้มาจากไหนบ้าง และมีธุรกิจอื่นที่นอกเหนือจากการประกอบกิจการคาร์แคร์อีกหรือไม่ ส่วนในกรณีของ นายสุนทร หรือ โก้ ขันหิน อดีตคนขับรถส่วนตัวของหญิงไก่ที่หายตัวไปอย่างลึกลับนั้น ก่อนที่ต่อมาจะทราบเบาะแสในภายหลังว่า นายโก้ได้ไปอาศัยอยู่ที่วัดนังคัลจันตรี ตำบลบึงคำพล้อย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ทางผู้บังคับบัญชา กองบังคับการปราบปราม จึงได้มอบหมายให้ทาง พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ป. ลงพื้นที่เดินทางไปตรวจสอบที่วัดดังกล่าว พร้อมกับทำการสอบถามพระลูกวัดจนได้ความว่า เมื่อ 2 - 3 ปีที่ผ่านมา นายโก้เคยมาอาศัยอยู่ที่วัดนี้จริง โดยทำหน้าที่เป็นพลขับรถให้เจ้าอาวาสวัด แต่ต่อมานายโก้ได้ย้ายออกไปจากวัดมาซักระยะหนึ่งแล้ว อีกทั้งจากการตรวจสอบบริเวณวัด และห้องพักที่นายโก้เคยพักอาศัยอยู่ ก็พบเพียงแต่ห้องที่มีการล็อกลูกกุญแจ แต่ไม่พบตัวนายโก้แต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังออกสืบหาเบาะแสในพื้นที่สายไหมและคูคต เนื่องจากมีผู้พบเห็นนายโก้อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อใกล้เคียงกับวัดนังคัลจันตรี ที่นายโก้เคยพักอาศัยอยู่ เพื่อเร่งติดตามหาตัวนายโก้มาเป็นพยานเกี่ยวกับพฤติกรรมของหญิงไก่ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการเร่งประสานญาติและเพื่อนสนิท ของนายโก้ ว่า มีการพักอาศัยอยู่ที่ใด และมีการพบปะติดต่อกับใครบ้าง เพื่อทำการเชิญตัวมาเป็นพยานในการคดีหญิงไก่ต่อไป ที่มา http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9590000069510 ผมว่ายิ่งสาวไป งานนี้กลายเป็นทีมงานเบื้องหลังหญิงไก่หรือเปล่าที่ชักใยเรื่องนี้ ไม่ว่าตำรวจติดตาม คนขับรถตู้ ลำพังเงินหลักสิบล้านยังยังใช้ชีิวิตยังยากเลย นี่แถมไล่แจกทองได้อีก
ดูๆแล้วนางไก่เป็นแค่สมุนปลายแถวที่คนในเครื่องแบบเลี้ยงไว้เรียกใช้เวลาจะตบทรัพย์ประชาชนผู้บริสุทธิ์มากกว่า
สงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ 11 ชม. · คดีล้มละลายของศาลล้มละลายกลางคดีญ.ไก่!! ..คดีหมายเลขดำ ล.1131/2546 คดีหมายเลข แดง ล.1237/2546 ระหว่าง นาย...........กับ นางสุชาดา.(ญ.ไก่) คดีนี้ได้จำหน่ายคดีออก จากสารบบความในปี2546 !!!!!!!! ..จากข้างต้นบ่งบอกอะไรบางประการของหญิงไก่ .เพื่อยืนยันสถานะภาพทางการเงินของหญิง ไก่ว่าไม่ได้มีทรัพย์สินเงินทองมากมายดังที่ กล่าวอ้างแต่อย่างใด แต่ก็มีนายตำรวจบาง นาย ที่พูดในห้องประชุมบชน.ลับหลังนายตำรวจ ผู้ใหญ่ที่กลับไปแล้วว่า" หญิงไก่เขา รวยจริงๆนะ ผมยังไปดื่มไปกินที่ครัว คุณชายเลยครับ "!!!!! ..แสดงว่าในห้องประขุมของบชน.วันนั้นหลังที่ ท่าน รองผบ.ตร.(พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ) ,ผบช.น.(พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร) คล้อยหลัง ไม่เกิน30 นาทีก็มีนายตำรวจที่นั่งร่วมฟังนั้น ออกอาการปกป้องหญิงไก่และนายตำรวจ ที่เกี่ยวข้องในคดีโดยดึงสอบปากคำเหยื่อถึง เย็นก็ยังไม่ให้กลับบ้าน!!! ..ทั้งที่ผู้บังคับบัญชาให้สอบแต่เพียงพฤติกรรม ที่เห็นว่าผิดปกติเท่านั้นแต่นี่ไปสอบเขาว่าในวัน เกิดเหตุในปี2558นั้นนั่งรถแท็กซี่ยี่ห้ออะไร? สีอะไร?ทะเบียนอะไร?ค่ารถเท่าไหร่?เพื่อนชื่ออะไร?พักชั้นไหน?เลขห้องอะไร?ค่าเช่า เท่าไหร่ถามเขาแบบนี้!!!ทั้งจิกทั้งกัดเขาสาร พัด!!!! ..พวกเขาเกิดเรื่องตกเป็นเหยื่อจากการถูก หญิงไก่แจ้งความเท็จแล้วยังถูกตำรวจบาง คนร่วมกับหญิงไก่ที่แฝงนั่งอยู่ในห้องประชุม ที่บชน.และสอบปากคำเหยื่อตั้งแต่ 12.00น. . ถึงเกือบ18.00น.จะเป็นอย่างไรบ้าง ทั้งหมด ทั้งกดดัน สารพัด !!!!! ..ชื่นชมท่าน พล.ต.ต.จารุวัตร ไวยศยะ รอง ผบช.น.ที่เห็นผิดปกติในสำนวนคดีตั้งแต่ต้น แต่ก็ถูกหัวหน้าของตำรวจที่กำลังถูกสอบนั้น ปัดแข้งปัดขา เช่น คดีพ่อและแม่ ของก้อยยัง อยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน คือเข้ามอบตัวและ ประกันตัวโดยสำนักงานกองทุนเมื่อ 1 กรกฎา คม 2559 โดยสำนวนคดีก็ยังไม่ส่งอัยการฯ เพราะถ้าส่งอัยการนั้น ก็ต้องนำตัวพ่อและแม่ก้อย ส่งไปยังอัยการพร้อมสำนวนคดี โดยคดียังไม่ถึงอัยการแต่อย่างใด แต่ปรากฏว่ามีนายตำรวจระดับสูง จดแจ้งแก่รองผบช.น.ว่า"ส่งอัยการแล้วๆ"เล่นๆเอาท่านรองผบช.น.ให้เอาหลักฐานการส่งอัยการมาดู แต่แล้วก็ไม่มีแต่อย่างใด!!! นี่แหล่ะครับ ไม่แปลกเลยว่า ทำไม?ร้อยเวรฯบางคนจึงเป็นเช่นนั้น และทำไม?หญิงไก่ถึงได้กร่าง!!! ขอขอบคุณทุกไลค์ทุกแชร์และทุกติดตาม follow .. ที่มา เฟซบุ๊กทนายสงกรานต์ https://www.facebook.com/pid.thong.larng.pra
คนๆเดียวสร้างเรื่องไว้มากมายภายในเวลาไม่กี่ปีมีผู้เสียหายหลายคดีมีตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องกับการทำสำนวนหลายคนในแต่ละคดีจนกลายเป็นคดีมหากาพย์ มีการเลปิดช่องว่าอาจจะเข้าข่ายวิกลจริตโดยคดีทั้งหมดทั้งมวลเกิดจากคนบ้ามาแจ้งความกับตำรวจดีๆมีสติครบถ้วนฟังแล้วมันออกแนวเลอะเปรอะเปื้อน สมมุติว่าคดีออกมาแนวนี้จริงก็ยุบทิ้งไปเถอะกรมตำรวจแต่ท้ายสุดผมยังเชื่อว่ายังมีตำรวจที่ดีซื่อสัตย์ต่ออาชีพและเครื่องแบบอีกมากมายที่ไม่ได้คิดเข้ามาเพียงเพื่อใช้ชีวิตด้วยการเกาะเครื่องแบบหากินนอกรีตนอกรอย คงถึงคราวตำรวจดีๆต้องทำเรื่องที่ถูกต้องให้ความจริงปรากฏเพื่อไม่ให้ชาวบ้านว่าตำรวจได้ว่าเป็นหน่วยงานสีเทาและไม่ให้สิ่งไม่ดีได้หยั่งรากลึกลงไปมากกว่านี้ สำหรับคนที่ปกป้องตกลงจริงแล้วคุณปกป้องหรือคุณปกปิดกฏระเบียบของทุกหน่วยงานเขามีอยู่ไม่ใช่คิดเอาเองว่าผิดหรือไม่ผิด ประชาชนต้องยืนข้างตำรวจด้วยความอุ่นใจและปลอดภัยไม่ใช่ยืนด้วยความหวาดระแหวง
ผมสงสัยนะครับว่าถ้าขุดเอาเรื่องฉ้อฉลทั้งหมดในประเทศไทยขึ้นมาจัดการ ชาติไทยของเราจะมีจำนวนบุคคลากรที่ไม่มีเรื่องด่างพร้อยมากพอที่จะมาสะสางเรื่องฉ้อฉลเหล่านี้หรือไม่ หรือผมควรก้มหน้ายอมรับว่าเราเป็นชาติขี้โกง รู้สึกหดหู่สิ้นหวังชอบกลครับ
