ประเด็นป.ป.ช.กับเรื่องข้าวสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก่อนนี้ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดนมรสุมจำนำข้าวโถมเข้าใส่เพราะผลกรรมจากการโกงตลอดการเป็นรัฐบาล 2 ปี 4 เดือน พรรคเพื่อไทย ลิ่วล้อคนสำคัญและอดีตสส.สายเจ๊ ด.ผู้ได้ประโยชน์จากจำนำข้าวไปเต็มๆ ได้เริ่มกระบวนการสาดโคลนฝ่ายค้าน เหมือนว่า ฉันผิดคนเดียวไม่ได้ แกต้องมีอะไรด่างพร้อยด้วย นี่แน่ะ เรามาเลอะด้วยกัน บทความนี้จึงถูกเขียนขึ้นเพื่อเผยข้อเท็จจริงของเรื่องข้าวในสมัยรัฐบาลที่แล้ว และพรรคเพื่อไทยต้องหยุดเล่นการเมืองด้วยวิธีการบิดเบือนข้อเท็จจริง ใส่ร้ายฝ่ายค้าน สาดโคลน ป.ป.ช. องค์กรอิสระ ฝ่ายตรวจสอบ และโปรดทำความเข้าใจข้อเท็จจริงในเชิงลึกบ้างเสียที ก่อนหน้านี้ เรื่องเงินกู้ ไม่ว่ารัฐบาลนี้จะกู้อะไร เมื่อโดนโจมตี ลิ่วล้อขี้ข้าเพื่อไทยก็จะแว้งกัดว่า สมัยประชาธิปัตย์ ก็กู้ไทยเข้มแข็งมาโกง ตั้ง 8 แสนล้านบ้าง 1 ล้านล้านบ้าง มั่วไปหมด ข้อเท็จจริงพูดไปหลายครั้งแล้วว่า ไทยเข้มแข็งออกเป็นพ.ร.ก.เร่งด่วน เพราะต้องปิดหีบเงินคงคลังที่รายได้ส่งมาจากรัฐบาลสมัคร-สมชายไม่พอ ,และต้องแก้วิกฤติการเงินโลกแฮมเบอร์เกอร์ ซึ่งกู้ไทยเข้มแข็งมูลค่าเพียง 4 แสนล้านบาทเท่านั้น ตัวเลขที่พรรคเพื่อไทยและลิ่วล้อขี้ข้าพยายามปั่นให้สูงเข้าไว้นั้น เป็นเท็จทั้งสิ้น และที่กล่าวหาไทยเข้มแข็งโกงนั้น หากเข้าใจระบบงบประมาณแต่แรกจะรู้ว่า ไทยเข้มแข็งก็คือ งบประมาณก้อนหนึ่ง เป็นงบลงทุน ดังนั้นหากหน่วยงานไหนโกง ก็ต้องเอาผิดกับหน่วยงานนั้น เหมือนเงินงบประมาณแผ่นดินปกตินี่แหละครับ พอเห็นกระทรวงไหนโกง ก็ไปเอาผิดข้าราชการกระทรวงนั้น เทียบง่ายๆ เหมือนถ้าโกงงบประมาณกันแล้วมาโทษว่า สำนักงบประมาณโกง แบบนี้ สำนักงบประมาณคงโกงอยู่หน่วยงานเดียว ของไทยเข้มแข็งก็เหมือนกัน ให้เงินไป ตามหน่วยงาน โรงพักตำรวจ เห็นว่าส่อทุจริต ก็ไปตรวจที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดูว่า ทำไมสร้างไม่เสร็จ เพราะอะไร รองผบ.ตร.คนไหนแก้สัญญา อดีตผบ.ตร.คนไหน ไปสั่งเปลี่ยนคู่สัญญาบ้าง พรรคเพื่อไทยความจริงก็เห็นเล่นเรื่องโรงพักบ่อย ไปดูจริงๆ เห็นลายเซ็น รองผบ.ตร.อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.แล้ว เลยหยุดหาความจริงไปดื้อๆ แปลกดีนะ สาดโคลนไปก่อน แต่พอพิสูจน์ได้ว่าสุดท้ายคนที่ควรเปื้อนจริงเป็นฝ่ายเดียวกัน ก็ทำเฉย เรื่องป.ป.ช.กับข้าวสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ก็เหมือนกัน สร้างวาทกรรมใหญ่โต หาว่ารัฐบาลที่แล้ว โกงจำนำข้าว โกงประกันราคา ฯลฯ ไปสาดโคลนป.ป.ช.ว่า ทีรัฐบาลอภิสิทธิ์ทำช้า รัฐบาลยิ่งลักษณ์แจ้งข้อกล่าวหาเร็ว เรื่องเหล่านี้ ข้อเท็จจริงสรุปสั้นๆ ได้เลยครับว่า 1.รัฐบาลอภิสิทธิ์ ไม่ได้โกงจำนำข้าว เพราะไม่เคยมีนโยบายจำนำข้าวเป็นนโยบายหลัก จะมีทำโครงการจำนำข้าวก็แค่เหลื่อมปีตอนเข้ามาเป็นรัฐบาลใหม่ๆ ต่อจากรัฐบาลสมชาย 2.รัฐบาลอภิสิทธิ์ โดนกล่าวหาว่า รมว.พาณิชย์-พรทิวา นาคาศัย อนุมัติขายข้าวต่ำกว่าราคาตลาด เพราะต้องระบายข้าวเก่าก่อนจะเสื่อมสภาพจากโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลก่อน (สมัครสมชาย) 3.รัฐบาลอภิสิทธิ์ พร้อมจะต่อสู้คดีหากโดนแจ้งข้อกล่าวหาจากป.ป.ช. ในขณะที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์โดนแจ้งข้อกล่าวหา แต่ก็ไม่กล้ามารับแจ้งด้วยตัวเอง 4.ป.ป.ช.ไม่ได้ทำงานช้า แต่กระทรวงพาณิชย์ในสมัยปัจจุบัน ไม่ส่งข้อมูลเอกสารให้ป.ป.ช.ตามที่ได้ขอเพิ่มมา (ยุคปู) 5.หากพรรคเพื่อไทยอยากให้เอกสารครบเร็วๆ ไปตามจากสส.ที่ยื่นฟ้องหรือไม่ก็พาณิชย์ อคส. อ.ต.ก.ที่คนในพรรคตัวเองดูแลอยู่ดีกว่า นอกจากว่า ไม่มีหลักฐานแต่แรก จะถือเป็นการกล่าวหาลอยๆ จงใจใส่ร้ายทางการเมือง หากจะให้สรุปประเด็นที่มีผู้ร้องเรื่องข้าวในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ สรุปได้ดังนี้ครับ ป.ป.ช.รับเรื่องการระบายข้าวที่มีการยื่นให้สอบรัฐบาลอภิสิทธิ์ 1.สส.เพื่อไทย ไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ กล่าวหาร้องเรียน พรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ จากพรรคภูมิใจไทย ส่อทุจริตประมูลระบายข้าวสารจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลก่อนหน้า เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2552 ราคาต่ำกว่าราคาตลาด 2.นายทนันชัย ตรังคานุกูลกิจ ส่งบัตรสนเท่ห์ กล่าวหาร้องเรียนคุณอภิสิทธิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกขช. คุณไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกฯ ในฐานะรองประธาน กขช. และนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวสาร และนายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวสาร แต่ข้อนี้ไม่สมเหตุสมผลแต่แรก เพราะคุณอภิสิทธิ์ในฐานะประธานนโยบายข้าวแห่งชาติ ไม่ได้ออกนโยบายจำนำข้าวเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล แต่ทำโครงการเหลื่อมมาตอนเปลี่ยนรัฐบาลเท่านั้น และรอเปลี่ยนถ่ายโครงการไปสู่ “ประกันรายได้เกษตร” 3.ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ สส.เพื่อไทย ให้ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ดำเนินการถอดถอนนางพรทิวา รมว.พาณิชย์ และอยู่ๆ เมื่อเปลี่ยนเป็นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และธาริต เปลี่ยนสี ก็เริ่มมีการทำเรื่องให้ดีเอสไอทำสำนวนสืบสวนมาใหม่ ส่งเพิ่มไปให้ป.ป.ช. แต่ก็ยังไม่ครบ 4.หนังสือดีเอสไอ ที่ยธ 0805/2390 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2555 ส่งสำนวนการสืบสวนที่ 255/2555 กรณีการทุจริตในโครงการระบายสินค้าเกษตร (ข้าวสาร) ในสต๊อกของรัฐบาล มาให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. 5.หนังสือดีเอสไอ ที่ยธ.0811/1301 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2556 ส่งสำนวนการสืบสวนที่ 5/2556 กรณีการทุจริตโครงการระบายสินค้าเกษตร (ข้าวสาร) ในสต๊อกของรัฐบาลมาให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. และจากข้อกล่าวหาที่บอกว่า ป.ป.ช.ทำคดีรัฐบาลเก่าช้านั้น ข้อเท็จจริงคือ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนดำเนินการมีความคืบหน้า ดังนี้ 1.เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำพยานบุคคลแล้ว 25 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการไต่สวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม 2.มีหนังสือขอทราบข้อเท็จจริงและขอเอกสารหลักฐานจากหน่วยงานต่างๆ แล้วจำนวน 16 แห่ง แต่สาเหตุหลักที่ทำให้การดำเนินการล่าช้า เพราะ ***กระทรวงพาณิชย์ องค์การคลังสินค้า และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร แจ้งรายละเอียดข้อเท็จจริง และจัดส่งเอกสารหลักฐานไม่ครบถ้วน*** ก็เป็นที่น่าแปลกใจครับว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ คุมองค์กรเหล่านี้มาตลอด 2 ปี 4 เดือน แต่ก็ไม่เร่งรัดเรื่องหลักฐาน หากต้องการจะเอาผิดคนโกงจริง และขอย้ำนะครับว่า รัฐบาลอภิสิทธิ์ ไม่ได้ทำจำนำข้าว เป็นนโยบายหลัก สมัยนั้น นโยบายข้าวคือ “ประกันรายได้เกษตรกร” ซึ่งก็ไม่ใช่ “ประกันราคาข้าว” ด้วยเช่นกัน ความจริงหลักการประกันราคา คือหลักการเดียวกันกับจำนำข้าว และข้าวที่มีปัญหาตอนนั้น เกือบทั้งหมดเป็นข้าวสมัยรัฐบาลสมัคร-สมชาย นั่นคือ ข้าวจากโครงการจำนำข้าวนาปรัง ปี 2551 จากโครงการจำนำข้าวเปลือกนาปี 2551/52 ข้าวขาว 5% จากโครงการจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2552 จากโครงการจำนำข้าวเปลือกนาปี 2551/52 ซึ่งเป็นข้าวเก่า พอรัฐบาลอภิสิทธิ์เข้ามาบริหารประเทศ ในเดือนธ.ค.2551 เริ่มต้นปี 2552 ก็ทำจำนำข้าวของเหลื่อมปี พอเปลี่ยนนโยบายเป็นประกันรายได้เกษตรกร ก็ไม่มีการรับจำนำข้าวอีกต่อไป จนกลับมาใช้ใหม่สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เอาเป็นว่า ใครยังไม่เข้าใจ ทำความเข้าใจนะครับ แล้วเรามาลุ้นกัน สำหรับประเด็น โกงจำนำข้าว จีทูจีปลอม ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่ป.ป.ช.ให้แก้ข้อกล่าวหาภายใน 14 มีนาคมนี้ ปล อาจยาวนิดนึงนะครับแต่ครอบคลุมหลายประเด็นดี http://www.naewna.com/politic/columnist/11304
