ปิยะมหาราชานุสรณ์ ๒๓ ตุลาคม วันปิยะมหาราช

กระทู้ใน 'สภากาแฟ' โดย ctpk05, 23 ต.ค. 2015

  1. ctpk05

    ctpk05 อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    24 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,606
    446px-Chulalongkorn_LoC.jpg

    วันปิยมหาราช ตรงกับวันที่ ๒๓ ตุลาคม เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย พระราชกรณียกิจของพระองค์ไม่ว่าจะเป็นการเลิกทาส การพัฒนาระบบการบริหารราชการแผ่นดิน การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสาธารณูปการ การเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศ ฯลฯ ล้วนเป็นพื้นฐานแห่งความเจริญสืบต่อมาจนปัจจุบัน
    lit389106.jpg

    454_001.jpg
    พระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ คือการประกาศเลิกทาสทำให้ปวงชนชาวไทยได้เป็นไทมาจวบจนทุกวันนี้ ในรัชสมัยของพระองค์ สยามประเทศได้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สร้างความวัฒนาให้กับชาติเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น การไฟฟ้า การไปรษณีย์ โทรเลข โทรศัพท์ ฯลฯ ด้วยพระราชกรณียกิจที่ยังความผาสุกให้เกิดแก่ประชาชนทวยราษฎร์ทั้งปวงจึงน้อมใจแสดงความจงรักภักดี ด้วยการถวายพระนามว่า"พระปิยมหาราช" หรือพระพุทธเจ้าหลวง และกำหนดให้ทุกวันที่ ๒๓ ตุลาคมเป็นวันปิยมหาราช
    King_Rama_V_Monument%20BB.jpg
    ขอน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระปิยะมหาราช พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ อย่างหาที่สุดมิได้
     
    architeer, HiddenMan, Alamos และอีก 2 คน ถูกใจ
  2. ctpk05

    ctpk05 อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    24 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,606
    1049431k1w1xzajmqqtqmx.jpg

    พระบรมรูปทรงม้า
    ตั้งอยู่ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า สร้างขึ้นในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยนำแบบอย่างมาจากพระบรมรูปของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14แห่งฝรั่งเศส ที่กรุงปารีส ด้วยฝีมือนายช่างชาวฝรั่งเศส บริษัท ซุซเซอร์ เฟรสฟอร์เดอร์ ในวโรกาส ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอย่หัวเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2450

    [​IMG]

    พระองค์เสด็จประทับ ให้ช่างปั้นชื่อ จอร์จ เซาโล ปั้น เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2450 พระบรมรูปสำเร็จเรียบร้อยส่งเข้ามาถึงกรุงเทพฯ เมื่อ วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน 2451 อันเป็น เวลาพอดีกับงานพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก เนื่องในโอกาสเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ 40 ปี เจ้าพนักงานได้อัญเชิญพระบรมรูปทรงม้าขึ้นประดิษฐานบนแท่นรองหน้าพระราชวังดุสิต โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จไปทรงทำพิธีเปิดด้วยพระองค์เอง

    [​IMG]

    [​IMG]

    พระบรมรูปทรงม้าสร้างขึ้นด้วยเงินที่ประชาชนได้เรี่ยไรสมทบทุน ส่วนเงินที่เหลือ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้นำไปสร้างมหาวิทยาลัยขึ้น มีนามตามพระปรมาภิไธยว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

    [​IMG]

    สำหรับองค์พระบรมรูปทรงม้านั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จไปทำการตกลงและเลือกชนิดโลหะด้วยพระองค์เอง อีกทั้งยังเสด็จไปประทับเป็นแบบให้นายช่างปั้นหุ่น ขณะเสด็จประทับอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งพระรูปมีขนาดโตเท่าพระองค์จริง เสด็จประทับอยู่บนหลังม้าพระที่นั่ง โดยม้าพระที่นั่งนั้นมิใช่ปั้นจากแบบม้าพระที่นั่งจริง แต่เป็นม้าที่บริษัทได้ปั้นเป็นแบบเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว พระบรมรูปทรงม้าหล่อด้วยโลหะทองบรอนซ์ ยึดติดกับแท่นทองบรอนซ์ เป็นที่ม้ายืน หนาประมาณ 25 เซนติเมตร ประดิษฐานบนแท่นรอง ทำด้วยหินอ่อน สูง 6 เมตร กว้าง 2 เมตร ยาว 5 เมตร ห่างจากฐานของแท่นออกมา มีโซ่ขึงล้อมรอบกว้าง 9 เมตร ยาว 11 เมตร ตรงฐานด้านขวามีอักษรโรมัน ภาษาฝรั่งเศสจารึกชื่อช่างปั้นและช่างหล่อชาวไว้ว่า C.MASSON SEULP 1980 และ G.Paupg Statuare และด้านซ้ายเป็นชื่อบริษัทที่ทำการหล่อพระบรมรูปทรงม้าว่า SUSSF Fres FONDEURS. PARIS สำหรับแท่นศิลาอ่อนด้านหน้า มีแผ่นโลหะจารึกอักษรไทย ติดประดับแสดงพระบรมราชประวัติและพระเกียรติคุณ ลงท้ายด้วยคำถวายพระพรให้ทรงดำรงราชสมบัติอยู่ยืนนาน[1]
     
    architeer, Anduril, conservative และอีก 1 คน ถูกใจ.
  3. เจ้าพระยาหน้าตาดี

    เจ้าพระยาหน้าตาดี อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    395
    ตั้งกระทู้หาเงินผิดห้องม้างครับ นี้มันห้องการเมืองนะครับ :wait:
     
  4. ctpk05

    ctpk05 อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    24 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,606
    เพื่อนต้น-ประพาสต้น

    1_original.jpg

    "ประพาสต้น"หมายถึงการเสด็จเยือนราษฎรเป็นการส่วนพระองค์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงกระทำอย่างเงียบๆ ไม่กระโตกกระตากให้รู้ว่าพวกเขากำลังเข้าเฝ้าเจ้าชีวิต เพื่อจะได้ทรงสนทนาปราศรัยทำความคุ้นเคย และล่วงรู้ทุกข์สุขของราษฎรได้โดยตรง ไม่ผ่านข้าราชการปกครอง บางครั้งเมื่อทรงทราบถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านก็มีพระบรมราชโองการให้เจ้าเมืองรับไปจัดการ หรือแม้แต่ทรงเปลี่ยนตัวข้าราชการปกครองเสียเองก็มี ส่วนชาวบ้านเหล่านั้นก็มิได้ทรงละเลยในภายหลัง ทรงขนามนามพวกเขาว่า "เพื่อนต้น" และพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณอย่างสม่ำเสมอจนตลอดรัชกาล

    Img0710001016.gif

    "ประพาสต้น" เริ่มต้นเมื่อ ร.ศ. ๑๒๓ (พ.ศ. ๒๔๔๘) เมื่อพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรด้วยทรงคร่ำเคร่งเหน็ดเหนื่อยกับพระราชภารกิจมากไป แพทย์ทูลให้ทรงพักผ่อนเปลี่ยนอากาศบ้างก็ทรงเห็นด้วย แต่มิได้เสด็จแปรพระราชฐานไปที่บางปะอินเฉยๆ หากทรงใช้เวลานี้ลงเรือเสด็จตามแม่น้ำลำคลองเข้าไปตามหมู่บ้านไม่ให้ชาวบ้านรู้ว่าเป็นใคร ปล่อยให้เข้าใจว่าเป็นเรือขุนนางมหาดเล็กตามเสด็จ ต่อจากนั้นก็ทรงใช้วิธีนี้เสด็จไปตามหัวเมืองต่างๆ แวะเยี่ยมเยียนราษฎรจนถึงที่อยู่เป็นประจำ
    spd_20100618200530_b.jpg

    ธรรมเนียมนี้กลายมาเป็นชื่อว่า" ประพาสต้น" แต่คำนี้มาจากอะไรไม่สามารถชี้ชัดได้ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงเล่าถึงที่มาว่า "...ไปจนถึงวัดเพลงจึงซื้อเรือมาดประทุน ๔ แจวได้ลำ ๑ พระราชทานชื่อเรือว่า เรือต้น ได้ยินรับสั่งถามให้แปลกันว่า เรือต้น แปลว่าอะไร บางท่านแปลว่าเรือเครื่องต้น บางท่านแปลว่าเรือทรง อย่างในเห่เรือว่า ' ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย' ดังนี้ แต่บางท่านที่แปลเอาตื้นๆว่าหลวงนายศักดิ์เป็นคนคุมเครื่องมหาดเล็กตามเสด็จ หลวงนายศักดิ์ชื่ออ้น รับสั่งเรียกว่าตาอ้น ตาอ้น เสมอ คำว่า เรือต้นนี้ก็จะแปลว่าเรือตาอ้นนั้นเอง แปลชื่อเรือต้นเป็นหลายอย่างดังนี้ อย่างไรจะถูกฉันก็ไม่ทราบแน่ แต่วันนี้กว่าจะเสด็จกลับมาถึงเมืองราชบุรีเกือบยาม๑ ด้วยต้องทวนน้ำเชี่ยวมาก เหนื่อยบอบมาตามกัน เริ่มเรียกการประพาสวันนี้ว่าประพาสต้น เลยเป็นมูลเหตุที่เรียกการประพาสไปรเวตในวันหลังๆว่าประพาสต้นต่อมา" จดหมายเหตุของสมเด็จกรมพระยาดำรงฯ เล่าเรื่องเหล่านี้ไว้น่าสนุก ทรงเล่าถึงหลายบ้านที่เสด็จไปเยี่ยมโดยเจ้าของบ้านก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ประทับเสวยร่วมวงกับเจ้าของบ้านอย่างกันเอง เจ้านายที่ตามเสด็จอย่างกรมหมื่นสรรพสาตรศุภกิจ เคยถูกเมียเจ้าของบ้านเอ็ดเพราะทรงใช้จวักตักแกงขึ้นมาชิมโดยไม่ทรงทราบธรรมเนียมว่าเขาถือกัน สมเด็จเจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมาเสด็จพลาดตกท้องร่องสวนวัดบางสามฟกช้ำดำเขียว เจ้าพระยาสุรวงศ์วัฒนศักดิ์ถูกหมาเฝ้าสวนริมคลองสองพี่น้องกัดเอา
    A7771291-0.jpg

    ระหว่างเสด็จประพาส เจ้านายและขุนนางตามเสด็จก็ช่วยกันทำครัวเองไปตามมีตามเกิด หากมื้อไหนไม่ได้แวะบ้านใคร สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพกับกรมพระสมมติอมรพันธุ์ทรงทำหน้าที่คนล้างถ้วยชาม เช่นเดียวกับกับสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ (พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว)และกรมหลวงนครราชสีมา ทุกพระองค์ทรงใช้ชีวิตกันอย่างสามัญชนทั่วไปเวลาเสด็จประพาสต้น​
    l5-4.gif

    เจ้าของบ้านที่เสด็จไปเยือนนี้บางบ้านก็ไม่รู้จักพระเจ้าแผ่นดิน บางบ้านก็จำได้ อย่างบ้านยายผึ้งที่หลักหกใกล้คลองดำเนินสะดวก ตัวยายผึ้งไม่รู้ว่าใคร เห็นเรือก็เข้าใจว่าเป็นเรือขุนนางจึงร้องเชิญให้แวะพัก แล้วเลยมีน้ำใจหาข้าวปลามาเลี้ยง แต่นายฮวดลูกชายวัยหนุ่มของยายผึ้งจำได้จากพระบรมฉายาลักษณ์ที่ตั้งไว้บูชาก็เลยลงกราบ เป็นอันว่าความแตก จึงพระราชทานเงินเป็นค่าตอบแทนให้หลายเท่าของราคากับข้าว ส่วนนายฮวดภายหลังเรียกกันว่า "นายฮวดมหาดเล็ก" ได้ชื่อว่าเป็นคนหนุ่มเฉลียวฉลาดได้เข้าเฝ้าในพระนครอีกหลายครั้ง และได้เป็นผู้ใหญ่บ้านในละแวกนั้นต่อมา

    ไม่ใช่ว่าทุกบ้านจำพระเจ้าอยู่หัวได้ อย่างบ้านของนายช้างและอำแดงพลับ เป็นคหบดีมีหน้ามีตาอยู่ที่บางหลวงอ้ายเอียง เจ้าของบ้านต้อนรับแข็งขันแสดงอัธยาศัยดี มานั่งเคียงพระเจ้าอยู่หัวด้วยเข้าใจว่าเป็นข้าราชการคนหนึ่งจากเมืองหลวง จนเสด็จกลับไปแล้วถึงมารู้ในภายหลัง รีบหอบลูกเมียเครือญาติทั้งหมดมาตามหาถึงในพระนคร เพื่อขอขมาเจ้านายทั้งหมดที่เคยล่วงเกินโดยไม่รู้ความจริง หนึ่งร้อยกว่าปีให้หลัง บ้านของนายช้างและอำแดงพลับก็ยังตั้งอยู่ที่เดิม ลูกหลานยังจดจำเรื่องราวในอดีตได้จนทุกวันนี้

    บรรดา "เพื่อนต้น" ที่ได้เข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัว ได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้เข้าเฝ้าได้อีกหลายครั้ง ณ เรือนต้นใกล้พระที่นั่งวิมานเมฆ เป็นเรือนไทยบรรยากาศสบายๆ ไร้พิธีรีตอง แบบเดียวกับชีวิตที่พวกเขาคุ้นเคย เมื่อเสด็จกลับจากยุโรปใน ร.ศ. ๑๒๖ ก็ทรงมีไม้เท้าของนอกเป็นของฝากพระราชทานให้ทั่วทุกคน พวก " เพื่อนต้น" จึงมีไม้เท้าพระราชทานเป็นดังเครื่องยศสำหรับถือเมื่อเข้าเฝ้าในกรุงเทพฯ และเฝ้าตามหัวเมืองเวลาเสด็จประพาสไม่ว่าที่ใด

    เมื่อสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯเสด็จสวรรคตใน พ.ศ. ๒๔๕๓ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พวกเพื่อนต้นเข้ามาทำบุญให้ทานในงานพระบรมศพ และเข้าถวายพระเพลิงเช่นเดียวกับข้าราชการอื่นๆ นอกจากนี้ พระราชทานเครื่องประดับไม้เท้าสลักพระนาม จ.ป.ร. ให้ติดไว้เป็นที่ระลึก ทั้งพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เข้าเฝ้าได้ต่อไป เช่นเดียวกับเมื่อครั้งแผ่นดินก่อนทุกประการ​
     
    architeer, อู๋ คาลบี้, Anduril และอีก 2 คน ถูกใจ
  5. กีรเต้

    กีรเต้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,917
    Location:
    เชียงใหม่
    มากไป ไอ้บ้า เขาโพสเรื่องอะไร ให้มันรู้กาละเทศะบ้าง อย่า กวนให้มากนัก สันดานเสีย
     
    architeer และ อู๋ คาลบี้ ถูกใจ.
  6. กีรเต้

    กีรเต้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,917
    Location:
    เชียงใหม่
    เข้่ามาอ่าน เจอคนเลวๆ ไม่รู้จักที่ตำ่ที่สูง เข้ามาวุ่นวาย หมดอารมณ์ เลว จริงๆ ขออภัย เพื่อนสมาชิกทุกท่านด้วย
     
    architeer likes this.
  7. LazyLemon

    LazyLemon อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,931
    "กระทู้หาเงิน" ถ่อยไปนะ จะทุเรศ ก็ให้เป็นเวล่ำเวลาบ้าง คนไทยป่าว
     
    architeer likes this.

Share This Page