ปิดสนามบิน ยึดทำเนียบ มีโทษประหารชีวิต คดีหมดอายุความปีอะไร มีใครได้รับโทษบ้างยังครับ

เขาชี้แจงกันไปแล้ว เหลือแต่ข้อสงสัยที่ว่าด๊อกโสกับตัดแปะทำไมถึงไม่ช่วยอะไรปูเลย แย่จริงๆ

 

ก็มันโง่ฟ้องผิดศาลเองนี่ แล้วเค้าจะรับฟ้องได้ยังไงกันเล่า ไปฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองนู้น ไม่ใช่มาฟ้องศาลอาญาธรรมดา

เมื่อช่วงเช้า อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พร้อมอดีตรองนากยฯ สุเทพ เทือกสุบรรณ เดินทางมาฟังคำสั่งศาลฎีกา คดีสลายการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เมื่อปี 2553 ฐานร่วมกันก่อให้เกิดการฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น

ศาลฎีกาพิพากษายืนยกฟ้อง อภิสิทธิ์-สุเทพ คดีสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มนปช.เมื่อปี 53

 

นี่ตัดแปะประจานความโง่ของ ดร. เหรอ เห็นพวกกระทู้โชว์โง่ของดร. ที่รกหน้าบอร์ดอยู่ตอนนี้ยังไม่พอยังต้องเอามาแปะเพิ่มอีก

 

หลานคุณวิชาชื่ออะไร บริษัทไวน์ชื่ออะไร เป็นญาติทางไหนกับคุณวิชา ถ้ามีคดีจริงคดีอยู่ในขั้นตอนไหน คุณวิชาเข้าไปเกี่ยวข้องอะไรกับคดีนี้

เอ็งรู้ไหมว่ากว่าคุณวิชากับคณะจะจัดการเรื่องที่นายจ้างเอ็งรวมหัวกันโกงเงินภาษีของชาติโดยผ่านโครงการจำนำข้าวน่ะ พวกเขาต้องเสียสละอะไรบ้าง

ดังนั้นจงอย่าพยายามเอาความต่ำทรามของเอ็งไปทำให้เขาแปดเปื้อน

 

แต่โผ้มไม่สงสัยนะว่า 1124 ได้มาได้อย่างไร

 

โอยๆๆ ควายแดงงง ควายแดงสับสน ควายแดงปวดหัว

 

เรื่องกระบวนการยุติธรรมที่ให้คุณหรือให้โทษ ขนาดยังมองคนหนีคดีแต่ละคนไม่เหมือนกันเลย
ขับรถชนคนตายบอกคนหนีโคตรเลว แต่จีทูจีเก๊บอกศาลเอียง
ตัดสินให้พ้นผิดบอกเป็นธรรม ตัดสินให้รับโทษบอกสองมาตรฐาน ฯลฯ

มุกนี้สลิ่มคงหากินได้ตลอดชาติเลยครับแหม

 

ปชป. ซื้อจักรวาลไปแล้วครับ ตัดแปะไปอัพเดทข่าวให้กับพรรคพวกเสื้อแดงได้

 

อภิสิทธิ์ฆ่าคนตายหรือเปล่าไม่รู้เหมือนกันนะ ????
แต่ได้ข่าวว่าคนที่บอกว่า "อภิสิทธิ์สั่งฆ่าประชาชน" นี่โดนศาลฎีกาตัดสินให้จำคุกไป 6 เดือนรอลงอาญา 2 ปีแล้วนะ เทอว์
แถมคนเดียวกันนี้ละ ที่ไปพูดว่า "อภิสิทธิ์สั่งฆ่าประชาชน" อีกรอบ เลยโดนศาลฎีกาตัดสินจำคุกแบบไม่รอลงอาญา 1 ปีด้วยนะ เทอว์
*************************************************

ฎีกายืนรอลงอาญา 2 ปี 'จตุพร' ปราศรัยปี 53 หมิ่น 'อภิสิทธิ์' สั่งฆ่าประชาชน เตรียมร้องอัยการค้าน 'พุทธะอิสระ' ขอถอนประกันคดีก่อการร้าย ซัดอีกฝ่ายไม่ถูกดำเนินคดี

2 มี.ค. 59 ที่ห้องพิจารณา 710 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.1008/2553 ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 , 328 , 332

ตามฟ้องโจทก์ วันที่ 15 มี.ค. 53 บรรยายพฤติการณ์ว่า ระหว่างวันที่ 29 ม.ค. - 15 ก.พ. 53 ต่อเนื่องกัน จำเลยได้กล่าวปราศรัยใส่ความโจทก์ ด้วยเครื่องกระจายเสียง ต่อหน้าประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดง และประชาชนที่รับฟังและชมโทรทัศน์ช่องพีเพิล แชนแนล ที่มีการถ่ายทอดสดทั่วประเทศ ทำนองว่า โจทก์เป็นนายกรัฐมนตรี ที่สั่งฆ่าประชาชนและหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร และข้อความอื่นๆ ซึ่งล้วนเป็นเท็จ การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เกลียดชังว่าโจทก์เป็นคนมีจิตใจโหดเหี้ยม สั่งฆ่าประชาชน หนีทหาร เหตุเกิดทั่วราชอาณาจักร จำเลยให้การปฏิเสธ

โดยศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ เห็นว่า การที่จำเลยปราศรัยว่า โจทก์เป็นนายกรัฐมนตรี สั่งปราบปรามและฆ่าประชาชน มีเจตนาเพื่อยั่วยุปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย ไม่ได้ติชมด้วยความสุจริตใจ จึงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา พิพากษายืนให้จำคุก 6 เดือน และปรับ 50,000 บาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี และให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์รายวันเป็นเวลา 7 วัน โดยจำเลยเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่าย ต่อมาโจทก์และจำเลยยื่นฎีกา

ขณะที่ศาลฎีกา ตรวจสำนวนปรึกษากันแล้ว เห็นว่า ที่จำเลยปราศรัยว่าโจทก์ หลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร เพราะจำเลยเชื่อข้อมูลผลการสอบสวนของจเรทหารบก เกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหารและการสมัครเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยฯ ซึ่งเป็นเอกสารทางราชการ แม้ภายหลังโจทก์ จะชี้แจงแล้วว่าได้ผ่อนผันทหารพร้อมมีหลักฐานประกอบ แต่ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ไปดำเนินการเพื่อแก้ไขรายงานผลการสอบสวนให้ถูกต้อง นอกจากนี้ในช่วงเกิดเหตุ จำเลยซึ่งเป็นนักการเมืองฝ่ายค้านได้ตั้งกระทู้ถามในรัฐสภา เพื่อตรวจสอบโจทก์ในประเด็นดังกล่าว ในฐานะที่เป็นนักการเมืองเช่นกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 (1) (3) จึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ให้ยกฟ้อง

แต่ที่จำเลย ปราศรัย เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 53 ว่า โจทก์มีการวางแผนจัดตั้งมวลชนมาปะทะกับคนเสื้อแดงที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อต้องการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการล้อมปราบคนเสื้อแดงนั้น ชั้นพิจารณาจำเลยไม่มีพยานหลักฐานมายืนยันว่ามีการประชุมวางแผนดังกล่าว และภายหลังก็ไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นตามที่จำเลยกล่าวอ้าง คำปราศรัยดังกล่าวเกินเลยจากความเป็นจริงก็เพื่อให้มวลชนเสื้อแดงที่ชุมนุมเชื่อถือจำเลย ดังนั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามมาตรา 328 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย จึงพิพากษายืน

ภายหลังนายจตุพร กล่าวว่า ขอขอบคุณศาลที่เมตตา อย่างไรก็ดีคดีที่ตนถูกนายอภิสิทธิ์ ยื่นฟ้องฐานหมิ่นประมาท ฯ มีทั้งหมด 6 กรณี โดยยื่นฟ้องไว้ 4 สำนวน ซึ่งมีทั้งยกฟ้องและให้รอการลงโทษ โดยมีเพียง 1 คดีที่ศาลไม่รอการลงโทษ ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์

ทั้งนี้ นายจตุพร ยังกล่าวถึงกรณีที่พระพุทธะอิสระ ยื่นหนังสือให้อัยการยื่นคำร้องถอนประกันคดีก่อการร้ายด้วยว่า ตนได้ปรึกษาทนายความแล้ว คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า จะเดินทางไปยื่นคัดค้านต่ออัยการ เรื่องนี้ไม่มีความกังวล เนื่องจากเป็นสิทธิ์ของตนที่แสดงความคิดเห็น โดยวันที่ยื่นคำคัดค้านกับอัยการ ตนจะทำหนังสือสอบถามถึงความคืบหน้า คดีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ที่พนักงานสอบสวนดีเอสไอส่งความเห็นสมควรสั่งฟ้องจำเลยกว่า 50 คน ไปยังพนักงานอัยการด้วย ที่ผ่านมามีการส่งตัวผู้ต้องหาไปให้พนักงานอัยการแล้ว 30 กว่าคน แต่อัยการได้ยื่นฟ้องต่อศาลไปเพียง 4 คน จึงจะสอบถามอัยการว่า ผู้ต้องหาที่เหลือ เหตุใดจึงยังไม่ส่งฟ้องต่อศาล

"พระพุทธะอิสระเอง ก็มีคดีความเกี่ยวกับการชุมนุมถึง 9 คดี ซึ่งคดีที่มีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต ส่วนจำเลย กปปส. 4 คน ที่อัยการส่งตัวฟ้องไปก่อนหน้านั้น ก็เป็นกลุ่มผู้ต้องหาในคดีเดียวกัน ตนแค่อยากได้ความเป็นธรรม อย่างคดีก่อการร้ายของกลุ่ม นปช. ผมก็ถูกจับกุมคุมขังอยู่ในคุก ก่อนได้ประกันตัว แต่อีกฝ่ายกลับยังไม่ถูกดำเนินคดี"

http://www.komchadluek.net/news/politic/223435

ศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษาในคดีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. หมิ่นประมาทนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งล่าสุดศาลฎีกาได้ตัดสินจำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา และส่งตัวเข้าเรือนจำทันที

วันนี้ (20 ก.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุมตัว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ขึ้นรถนำตัวไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ หลังถูกศาลฎีกาพิพากษา จำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา จากกรณีจำเลยได้ขึ้นกล่าวบนปราศรัยในการชุมนุมของกลุ่ม นปช. เมื่อปี 2552 โดยกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะโจทก์ให้ได้รับความเสียหายและเสื่อมเสียงชื่อเสียง

โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายจตุพร จำเลยกระทำผิดตามฟ้อง จึงพิพากษาให้จำคุกนายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นเวลา 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา สำหรับคดีนี้ ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ได้มีคำพิพากษายกฟ้องจำเลย แต่ว่านายอภิสิทธิ์ โจทก์ได้ใช้สิทธิตามกฎหมายยื่นฎีกา จนกระทั่งศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาฎีกาในวันนี้

 

อำนาจที่เลวร้ายที่สุดคือ ตัดแปะ คนใจดำนี้เอง ไม่เคยเข้าคุกหรือร่วมทุกข์กับเพื่อนหรือปูเลยแม้แต่วันเดียว

 

ศาลฎีกายกคำร้อง 13 อดีตแกนนำพันธมิตรฯ ขอขยายฎีกาคดีแพ่ง กรณีปิดสนามบินเมื่อปี 2551 ส่งผลให้คดีจบตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ต้องร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่ ทอท.จำนวนกว่า 522 ล้านบาท

ศาลฎีกาพิพากษายกคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกาของแกนนำกลุ่มพันธมิตรในคดีปิดสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ส่งผลให้คดีเป็นที่สิ้นสุด ทำให้แกนนำกลุ่มพันธมิตร 13 คน ต้องบร่วมกับชดใช้ค่าเสียหายให้กับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เป็นเงินกว่า 522 ล้านบาท

 

เข้าใจครับ ตัดแปะอยากกลบเกลื่อนที่บอกว่ารักปู แต่พอผิดจำนำข้าว มือด้วนก็รีบทรยศปูทันที เพราะกลัวขายน้ำเลือกคนผิด ไม่อยากรับผิดชอบสิ่งที่ปูทำ

 

เห็นกระทู้เจ้าพระยาใจดำทีไหร่ แล้วคิดถึงวันเก่าๆ "ระหว่างผมกับไอ้เ ี้ยอลามอสจะเลือกใคร" "แน่จริงบอกชื่อจริงแม่ตัวเองมาซิ" "555 มีคนมาบอกหลังไมค์ว่าอลามอสพูดไม่รู้เรื่อง" 5555 เด็กน้อยจริงๆ

 

นิทาน "เพื่อนคนหนึ่ง" จาก "มิตรสหายท่านหนึ่ง" โพสต์โดย "กาสรสีชาดตัวหนึ่ง"

 

เรามีเพื่อนคนหนึ่ง แกเป็นเสื้อแดง แกโดนจับเพราะก่อเหตุวางเพลิง ส่วนฉันไม่ได้ไป ติดคุกเกือบ 10 ปี แล้ว แกนนำที่บอกจะรับผิดชอบก็ทยอยหายหน้าหนี ฉันนั่งในห้องแอร์สบายขโมยผลงานเพื่อนหากิน ส่วนเพื่อนเขายังติดคุกอยู่ดี # ตัดแปะ

 

เห็นกระทู้เจ้าพระยาใจดำทีไหร่ แล้วคิดถึงวันเก่าๆ "ระหว่างผมกับไอ้เ ี้ยอลามอสจะเลือกใคร" "แน่จริงบอกชื่อจริงแม่ตัวเองมาซิ" "555 มีคนมาบอกหลังไมค์ว่าอลามอสพูดไม่รู้เรื่อง" 5555 เด็กน้อยจริงๆ

 

ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตั้งแต่ 7 พัน – 4 ล้านบาทแก่ผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรจากการสลายชุมนุมเมื่อปี 2551

ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษา ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบค่าสินไหมทดแทน คดีสลายการชุมนุมพันธมิตร ปี 2551 ลดลง จากศาลปกครองชั้นต้น และยกฟ้องสำนักนายกรัฐมนตรี

 

ดัน

 

ศาลฎีกาพิพากษาจำคุกผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มนักรบศรีวิชัยรวม 84 คน คนละ 3 – 9 เดือน กรณีชุมนุมปิดล้อมสถานีโทรทัศน์ NBT เมื่อปี 2551

ศาลฎีกา พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้จำคุก 6-9 เดือน กลุ่มนักรบศรีวิชัย อดีตการ์ดพันธมิตรฯ กรณีบุกยึด "เอ็นบีที" เมื่อปี 2551