ปัญหาโรฮิยา สำหรับไทยโง่กับซื่อมันใกล้กันมากนะ

กระทู้ใน 'สภากาแฟ' โดย เผด็จการที่รัก, 18 May 2015

  1. เผด็จการที่รัก

    เผด็จการที่รัก อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,076
    สถานการณ์ในประเทศมาเลเซียและบังกลาเทศ

    แม้ว่าในช่วงต้นทศวรรษ 1990 รัฐบาลมาเลเซียมีนโยบายที่ค่อนข้างประนีประนอมกับชาวโรฮิงยาส์ แต่จาอใสนโยบายค่อนข้างมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงยาส์ในมาเลเซียมักจะได้รับการคุมขังเป็นระยะเวลาหลายเดือนในค่ายกักกัน โดยไม่ได้อาหาร ยารักษาโรค หรือสภาพความเป็นอยู่ที่ตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล บางกรณีได้รับการข่มขู่หรือซ้อมก่อนถูกส่งกลับตัวมาประเทศไทย ซึ่งมีหลาย ๆ ครั้งที่แม้แต่สำนักงานข้าหลวงผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ยังไม่สามารถเข้าไปให้การช่วยเหลือทางกฎหมายได้

    ในส่วนของบังกลาเทศ สถานการณ์ของชาวโรฮิงยาส์ก็ไม่ได้เลวร้ายไปกว่ากันเท่าไร ในปี 1978 ประชาชนชาวโรฮิงยาส์มากกว่า 2 แสนคนลี้ภัยไปประเทศบังกลาเทศ หลังจาก ยุทธการกษัตริย์มังกร (Dragon King) โดยกองทัพทหารพม่าที่ทำขึ้น เพื่อ "กำจัดบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศ ซึ่งรวมถึงประชาชนและชาวต่างชาติที่เข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย" กระบวนการนี้มีนโยบายโดยตรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์จนนำไปสู่การฆ่า ข่มขืน และทำลายมัสยิดต่างในพื้นที่ (ดูรายงาน The Rohingya Minority: Fundamental Rights Denied) ในช่วงปี 1992-1993 ประชากรโรฮิงยาส์อีกกว่า 250,000 คนหลบหนีเข้าไปในบังกลาเทศอีกระลอกซึ่งได้มีรายงานเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับสถานการณ์การสังหารชาวโรฮิงยาส์อย่างเป็นระบบ (summary executions) การทรมาน และการข่มขืนในประเทศพม่า รวมถึงกรณีการถูกบังคับเป็นแรงงานเยี่ยงทาสโดยไม่ได้รับการค่าตอบแทนใดๆ โดยทหารพม่า

    ในระหว่างปี 1992-1994 รัฐบาลบังกลาเทศได้ส่งตัวประชาชนโรฮิงยาส์มากกว่า 5 หมื่นคนกลับพม่าโดยการทำความเข้าใจระหว่างรัฐบาลบังกลาเทศกับรัฐบาลพม่า และล่าสุดนี้บ้านพักของผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงยาส์กว่า 6,000 คนที่อาศัยอยู่ตามแม่น้ำนาฟ (Naff) ติดกับชายแดนพม่า กำลังถูกรัฐบาลไล่ที่โดยอ้างว่าเป็นการสร้างที่อยู่อาศัยโดยผิดกฎหมาย ซึ่ง UNHCR ได้ประนามการดำเนินการครั้งนี้ว่าเป็นการกระทำ "ที่ไม่มีมนุษยธรรมเนื่องจากไม่มีการหาทางออกให้กับประชาชนเหล่านี้เลย" และมีการรายงานหลายครั้งว่ารัฐบาลบังกลาเทศได้พยายามไม่ให้ชาวโรฮิงยาส์ได้รับการช่วยเหลือจาก UNHCR (ดู Bangladesh to boot Burmese refugees from Camp ใน Democratic Voice of Burma - วันที่ 8 มีนาคม 2550)

    http://www.thaingo.org/writer/view.php?id=334

    -----------------------
    1359247275-rohigya-o.jpg

    คนไทยโลกสวยมันจะไปกลัวฝรั่งประนามอะไรหนักหนา ขนาดมาเลเรือผ่านมายังไล่กลับไม่มีให้ข้าวน้ำ

    ซื่อกับโง่ มันเฉียดกันแค่เส้นบางๆนะฮะ

    แล้วโลกสวยบางตัวบอกให้ไทยกดดันพม่า...ที่กดดันได้คือฝรั่งโว๊ย
    1359703574-o.png
     
    kokkai, อาวุโสโอเค, bookmarks และอีก 1 คน ถูกใจ.
  2. เผด็จการที่รัก

    เผด็จการที่รัก อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,076
    เห็นตามเว็บ ให้ทายรูปไหนคนไทย
    1359701862-1237349377-o.jpg
    1359701756-1359690145-o.jpg
     
    lagrangian, Tohchida, thai4u และอีก 4 คน ถูกใจ
  3. กีรเต้

    กีรเต้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,917
    Location:
    เชียงใหม่
  4. bookmarks

    bookmarks อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    23 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,447
    คนไทยชอบสร้างภาพครับ เราเลยโดนกดขี่ตลอด ให้ทำตามประเทศนั่นประเทศนี้ ตามที่มันอยากจะสั่ง
     
  5. เผด็จการที่รัก

    เผด็จการที่รัก อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,076
    ดูเหมือนรัฐบาลไทย โดยเฉพาะรัฐบาลปูนี่ดูซื่อสุดแล้ว

    ฝรั่งให้ทำไรก็ทำ:mad:
     
  6. โยธกา

    โยธกา อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    20 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    3,727
    น่าจะเป็นพวกที่เข้าใจหัวอกของคนที่ไม่มีแผ่นดินจะอาศัยเป็นอย่างดี
    แต่ไม่เคยทำเพื่อผลประโยชน์ชาติ
     
  7. plunk

    plunk อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    13 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,509
    แพร่พันธ์เร็วมากด้วย
     
    thai4u, kokkai, เผด็จการที่รัก และอีก 1 คน ถูกใจ.
  8. Bayonet

    Bayonet อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    2,804
    เวลาไอ้กันจะเอ่ยถึง มาเลเซีย อินโนฯ มันใช้ว่าประเทศในกลุ่มอาเซียน แต่พอมันเอ่ยถึงไทย เอ่ยชื่อชัด ๆ แถลงผ่านสื่อ ทีวี ตั้งแต่หัว รมต.ต่างประเทศ ยันหาง โฆษกกระทรวง

    ที่มาเลย์ มีอินเทล เดลล์ ไปลงทุนไม่ใช่น้อย แต่ไม่เห็นไอ้กันจะกล้าไปกดดันอะไรมากเลย คงกลัวจะเจอแบบ ออสเตรเลีย ที่มาเสือกเรื่องภายในมาก นายกฯ มาเลย์ด่าสวน+เรียกเอกอัครราชฑูตกลับ แล้วไล่ฑูตออสเตรเลียไปด้วย :giggle:

    ประเทศที่มีศักดิ์ศรีไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ยังไงก็ไม่ควรยอมหลับหูหลับตาเป็นลูกไล่ให้ฝรั่งชี้นิ้วสั่ง แบบรัฐบาลนังโง่หรอกนะ :fubar:
     
  9. thai4u

    thai4u อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    27 Dec 2014
    คะแนนถูกใจ:
    818
    คนไทยบางจำพวกมันโลกสวย หารู้ไม่พวกนี้มันไม่ธรรมดา
    พวกนี้ไม่ใช่ลี้ภัย มันต้องการหาแผ่นดินใหม่อยู่ พูดก็พูดเหอะ
    ไอ้ UN หรือไอ้กันถ้าคุณเมิงจะกรุณากะพวกนี้ก็ไปหาซื้อเกาะซักเกาะที่อินโดก็ได้ให้พวกนี้อยู่มันจะได้จบ อินโดขายให้แน่ๆผู้คนสรรเสริญอีก
    อย่าดีแต่เห่า แล้วไม่ทำสากกะเบืออะไร
     
  10. bookmarks

    bookmarks อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    23 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,447
    ไม่ได้ซื่อมั๊งครับ เป็นมือตีนให้ฝรั่ง เวลาจะขอลี้ภัย หรือขอให้ใครลี้ภัย ฝรั่งพวกนี้จะคอยช่วยครับ ถือว่ามีสัมพันธ์อันดีต่อกัน
     
    กีรเต้, JSN, อู๋ คาลบี้ และอีก 1 คน ถูกใจ.
  11. Kop16

    Kop16 อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    5 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    2,461
    มาร์ค พูดถูก ต้องผลักดัน
     
  12. อู๋ คาลบี้

    อู๋ คาลบี้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    15 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,204
    มาดูตรรกะความคิดต่างมุมบ้าง อ่านแล้วรู้สึกแหม่งๆ
    ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ทางการ
    ไม่ต้องโลกสวย ผมว่าถ้าเป็นคนไทยเองลักลอบเข้าไปประเทศอื่นก็ผิดเหมือนกัน
    จะมาดีหรือมาร้าย ทางการของแต่ละประเทศก็ต้องป้องกันไว้ก่อน

    http://www.komchadluek.net/detail/20150519/206562.html

    การเมือง : ข่าวทั่วไป
    วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม 2558

    มองต่างมุมช่วย-ไม่ช่วย‘โรฮิงญา’
    วิวาทะร้อนสังคมไทย มองต่างมุม ช่วย-ไม่ช่วย‘โรฮิงญา’ : ทีมข่าวรายงานพิเศษ

    มนุษย์ตัวดำร่างผอมท่าทางหิวโซ นั่งยองๆ อุ้มเด็กเล็กอัดแน่นในเรือประมง ท่ามกลางแดดจ้าบนท้องทะเลกว้างใหญ่...
    ภาพเหล่านี้ถูกเผยแพร่ออกไปทุกสื่อทั่วโลก พร้อมบรรยายสถานที่ว่าห่างจากเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ไปไม่กี่ชั่วโมง...หากเป็นมนุษย์ผู้ “ตา” ไม่บอด สิ่งที่ทำอันดับแรกที่มองเห็นคือ การเข้าไปโอบอุ้มช่วยเหลือ เพราะเห็นกับ “ตา” แล้วว่า พวกเขากำลังตกอยู่ในสภาพเช่นใด...

    “โลกมนุษย์ ถูกแบ่งออกเป็น “คน” กับ “ชาว” เยอะแยะไปหมด เมื่อมีคนมาบอกแค่ว่า เขาไม่ใช่คนไทย อยู่นอกน่านน้ำไทย ในกระแสโลกออนไลน์มีแต่โพสต์กันว่า เขาเป็น ชาวโรฮิงญา ชาวพม่า ชาวบังกลาเทศ ไม่ใช่ชาวไทย ผ่านไป 3 วัน มนุษย์บนเรือยังไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างที่มนุษย์ด้วยกันควรทำ”

    นักสิทธิมนุษยชนจากมูลนิธิแหล่งหนึ่งเอ่ยปากพร้อมถอนหายใจแรงๆ ...ก่อนวิเคราะห์ให้ฟังต่อว่า ในพื้นที่โซเชียลมีเดียขณะนี้มีผู้โพสต์ข้อความแสดงความเห็นด้วยกับนโยบายนายกฯ ประยุทธ์ ที่จะไม่รับเข้ามาชายฝั่งไทย มีทหารให้สัมภาษณ์สื่อไปทั่วโลกว่า ช่วยให้น้ำกับอาหาร กับแจกนมเด็กๆ แล้ว เป็นไปตามหลักมนุษยธรรม คืออำนวยความสะดวก ให้เดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่ต้องการ แต่นักสิทธิมนุษยชนรายนี้เห็นว่า การช่วยเหลือเช่นนั้น ยังไม่เพียงพอตามหลักมนุษยธรรม

    “สงสัยจริงๆ ว่า หลักมนุษยธรรมข้อไหนที่บอกว่าให้ผลักเรือออกไป ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่า ยังไม่มีประเทศไหนตอบรับ และรู้ด้วยว่ามีเด็กเล็ก มีคนป่วย มีคนที่กำลังจะตายอยู่บนเรือลำนั้น คนไทยตอนนี้ตาไม่บอด มองเห็นพวกเขาอย่างชัดเจนในทีวี ในเน็ต ในหนังสือพิมพ์ แต่สงสัยว่า มีบางคนใจกำลังบอดอยู่หรือเปล่า คิดแต่ คำว่า ‘คน’ ไม่คิดถึงคำว่า ‘มนุษย์’ ถ้าเป็นสมัยก่อนเราคงรีบเข้าไปช่วยเอามาพักพิง ให้พวกเขาฟื้นตัวฟื้นไข้ อย่างอื่นค่อยว่ากัน”

    นักสิทธิมนุษยชนอธิบายกระแสต่อต้าน “โรฮิงญา” ที่เกิดขึ้นว่า เนื่องจากมีคนนำ “วาทกรรมเรื่องความมั่นคง เรื่องเศรษฐกิจ ลัทธิศาสนาและความเป็นชาติใครชาติมัน” มาเผยแพร่ เช่น บอกว่า พวกเขาเป็นภัยความมั่นคง หรือเรื่องของคนต่างศาสนา หรือเป็นปัญหาการต่อสู้ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน คนไทยไม่เกี่ยวข้อง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่พวกเขากำลังกังวลอยู่เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ประเทศไทยศักยภาพมากพอที่จะช่วยเหลือเบื้องต้นได้ เพราะการช่วยชีวิตคนก็เป็นเรื่องสำคัญที่สุดของมวลมนุษยชาติ

    “ทำไมห่วงเรื่องความมั่นคง ศาสนา ค่ายอพยพ เรื่องนั่นเรื่องนี่ มากกว่าภาพที่เราเห็นอยู่ตรงหน้าแล้วว่า พวกเขาบางคนกำลังจะตายในกลางทะเล?” เป็นคำถามที่ฝากทิ้งไว้จากนักสิทธิมนุษยชนคนเดิม

    กระนั้นก็ตาม ความเห็นข้างต้นอาจเสมือนการวิ่งฝ่ากระแสคลื่นเชี่ยวกรากจากอารมณ์ความไม่พอใจ ที่ประเทศไทยกำลังถูกผลักภาระ และตกเป็นจำเลยในเรื่องค้ามนุษย์

    ตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พื้นที่สื่อสังคมออนไลน์เช่น เฟซบุ๊ก หรือเว็บบอร์ดพันทิป มีผู้เข้าไปคอมเมนท์หรือแสดงความเห็นจำนวนมาก เกี่ยวกับข่าวมนุษย์ 300 ชีวิตบนเรือที่กำลังรอความช่วยเหลือจากประเทศไทย ส่วนใหญ่มีความเห็นคล้ายคลึงกัน เช่น

    “เห็นใจชาวโรฮิงญา ก็ต้องเห็นใจคนไทยกันเองด้วยครับ”

    “การเมืองระหว่างประเทศมันมีหลายมิติ มนุษยธรรมก็ส่วนหนึ่ง ความมั่นคงก็ส่วนหนึ่ง มองให้รอบด้าน แล้วหาจุดสมดุลที่พอดี ทุกสิ่งทุกอย่างมีด้านตรงข้ามเสมอ ไม่มีใครเป็นพ่อพระได้ตลอด เพราะอีกด้านหนึ่งตนเองก็ได้รับผลกระทบในทางลบ รับเขาไว้ เราก็มีปัญหาความมั่นคง ปัญหาการเพิ่มของประชากร คนไทยในพื้นที่มีความเสี่ยงมากขึ้น ฯลฯ”

    “งบประมาณที่จะต้องเลี้ยงดูจะหามาจากไหน...มีแนวโน้มว่า พวกโรฮิงญาจะกลายเป็นแนวร่วมโจรใต้ได้”

    “ทำไมต้องเรียกร้องให้ประเทศไทยรับชาวโรฮิงญา ทำไมไม่เรียกร้องให้พม่ามีมนุษยธรรม และดูแลสิทธิมนุษยชน เพราะอยู่บนแผ่นดินพม่า”

    “วอนสหประชาชาติรับไปดูแล อย่าปัดให้อาเซียน”

    “พวกคุณที่บอกว่าเขาก็คน น่าสงสารนี่...สนใจจะรับไปไว้บ้านกันซักกลุ่มนึงมั้ยครับ?”

    “เอาจริงๆ นะ ล้านไลค์กับนายกเลย เราช่วยเขา แต่เราก้อต้องดูเเลตัวเอง(คนไทย)ก่อน”

    “เห็นด้วยกับท่านผู้นำ คนยากจนบ้านเราก็มีมากพอที่ยังดูแลไม่ทั่วถึงจะต้องมาดูแลคนพวกนี้อีก สหประชาชาติเอาแต่ว่าแน่จริงก็รับเอาไปดูแลเองสิครับ ไทยไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย”

    “นัยนา สุภาพึ่ง” ผู้ประสานงานมูลนิธิธีรนาถ กาญจนาอักษร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แสดงความเห็นต่อกระแสในโลกออนไลน์ของกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการช่วยเหลือโรฮิงญาว่า การช่วยเหลือทางมนุษยธรรมต้องไม่มีพรมแดนด้านเชื้อชาติ ศาสนา เปรียบเทียบตัวอย่างง่ายๆ ว่า เมื่อหลายสิบปีก่อนมีคนไทยทั้งผู้หญิงและผู้ชายอยากเข้าไปทำงานที่ญี่ปุ่น บางคนหลบหนีเข้าไปผ่านทางเรือสินค้าขนตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ ถ้าตอนนั้นรัฐบาลญี่ปุ่นจับได้แล้วปล่อยคนไทยเหล่านั้นลอยแพกลางทะเล เราจะรู้สึกอย่างไร

    “ตอนนี้เห็นภัยอันตรายอยู่ตรงหน้า การช่วยชีวิตมนุษย์ต้องมาก่อน ไม่ควรไปพูดถึงเรื่องกฎหมายคนเข้าเมือง หรือเรื่องสัญชาติ ศาสนา ทุกชีวิตเป็นสิ่งมีค่า พอช่วยให้มีชีวิตรอดได้แล้วค่อยปรึกษาหารือร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียนว่าจะทำอย่างไรต่อ ภาระตรงนี้ต้องร่วมกันคิด เพราะเราก็ประกาศอยู่แล้ว ประเทศในอาเซียนเป็นหนึ่งเดียวไม่ใช่หรือ ปัญหาโรฮิงญาเป็นบทเรียนที่ดี ทำให้คนไทยได้เรียนรู้ชาติพันธุ์อื่น เรียนรู้เรื่องเชื้อชาติ คนชายขอบ และที่น่าตั้งคำถามคือ อะไรบ่มเพาะให้คนไทยบางกลุ่มมีความคิดว่าคนไทยดีกว่าคนชาติอื่น หรือคิดว่าโรฮิงญาบนเรือทำผิดกฎหมายไม่ควรให้เข้ามาในประเทศ มากกว่าคิดเรื่องมนุษยธรรม

    ทั้งๆ ที่เราก็สอนลูกสอนหลานว่า ห้ามฆ่าสัตว์ตัดชีวิต แต่เรากำลังจะปล่อยลอยแพเรือลำนี้ และอาจทำให้พวกเขาตายบนเรือก็ได้ และน่าตั้งคำถามว่า ถ้าคนที่อยู่บนเรือ 300 คน เป็นฝรั่งผิวขาว จะรีบรับเข้ามาที่ฝั่งไทยหรือไม่?” อดีตกรรมการสิทธิฯ ตั้งคำถามทิ้งท้าย
     
    Alamos likes this.
  13. เผด็จการที่รัก

    เผด็จการที่รัก อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,076
    อาหารกลางวันเด็กไทยได้20บาท โรฮงยาได้ต่อวัน75บาท เอาตัวเองยังไม่รอดเลย แล้วมาบอกได้ไงว่าเราพร้อม

    คนไร้บ้านตามท้องถนน เอาเขามาอยู่ดีเท่าโรฮิยาแล้วยัง?

    ที่นอนไม่มีไปนอนสนามหลวงยังไล่เขา แต่โรฮิยากินดีอยู่ดี

    ตลกพวกNGOมาก+
    333.jpg
     
    thai4u และ อู๋ คาลบี้ ถูกใจ.

Share This Page