แดงเอ๋ย รูปข้างบนคือความทรงจำของคนไทยในความชั่วที่พวกเอ็งทำไว้กับประเทศนี้ และจะอยู่ต่อไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย ต่อให้ในอนาคตพวกเอ็งใช้ความฉ้อฉลฉกเอาอำนาจรัฐไว้ในมือได้อีก แต่ภาพเหล่านี้ยังจะอยู่หลอกหลอนพวกเอ็งต่อไป ยอมรับเถอะแดงและชินวัตร คนไทยไม่มีความลืมความชั่วความเลวของพวกเอ็ง
หลายเรื่องแดงท้ายขบวนไม่กล้าโพสต์ แต่แอบหวังลึก ๆ ว่าเมื่อไรที่ได้เสวยอำนาจจะทำอีก แต่มันคือเงื่อนไขที่คนไทยแทบทุกคนยอมไม่ได้ แม้แต่เสื้อแดงบางคนยอมแปรพักตร์มาต้านกันเอง นั่นคือเหตุผลว่าทำไมการชุมนุมนกหวีดถึงมีมวลชนมหาศาล
"ปึ้ง"แนะนำ"มาร์ค-ปชป."เอาอย่าง"ซูจี"กล้าลงสนามเลือกตั้ง วันนี้(8 พ.ย.)นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงการเลือกตั้งในประเทศพม่าว่า ต้องยินดีที่เขาสามารถเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตย โดยเฉพาะผู้นำฝ่ายค้านอย่างคุณ ออง ฃาน ซูจี ถึงแม้จะรู้ว่าการเลือกตั้งเขาจะเสียเปรียบฝ่ายรัฐบาลแต่เขาก็เดินหน้าเข้า สู่กระบวนการเลือกตั้ง กล้าหาญกว่าผู้ชายอกสามศอกเสียอีกและอยากฝากถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าการที่ท่านเดินท่างไปดูการเลือกตั้งที่เมียนม่าร์นั้นท่านไม่รู้สึกอาย เขาบ้างหรือไร เพราะพรรคท่านบอยคอตการเลือกตั้งภายใต้ขบวนการประชาธิปไตยในประเทศของตัวเอง มาถึง 2 ครั้ง อยากจะแนะนำให้นายอภิสิทธิ์เดินทางไปดูระบอบการปกครองที่เกาหลีเหนือน่าจะ เป็นประโยชน์กว่า นายสุรพงษ์กล่าวว่า หวังว่าในอนาคตพรรคประชาธิปัตย์ก็คงไม่บอยคอตการเลือกตั้ง และควรเคารพกระบวนการประชาธิปไตย ถ้าแพ้การเลือกตั้งก็ต้องเคารพผลการเลือกตั้งอย่างสง่าผ่าเผย ประชาธิปไตยของไทยเราจะได้พัฒนาไปข้างหน้าได้ แต่ไม่ใช่ว่าเมื่อพรรคตนเองได้ประโยชน์หรือได้เปรียบก็จะรีบตระครุบเอาแต่ ได้เช่นขณะนี้การยกร่างรธน ก็เห็นได้ชัดว่ามีแนวโน้มที่จะทำให้พรรคใหญ่อย่างพรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อน้อยลง จนอาจไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็ไม่ยึดหลักการตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตยที่สากลยอมรับและอ้างเพียงว่าจะ เป็นเผด็จการสภาฯ เราต้องมาร่วมมือช่วยกันให้ได้รธน ที่สากลยอมรับเพื่อไทยเราจะได้ก้าวไปข้างหน้า. http://thaipost.net/?q=ปึ้งแนะนำมาร์ค-ปชปเอาอย่างซูจีกล้าลงสนามเลือกตั้ง
แหมๆจะไม่ลืมๆกันไปมั่งเหรอ ถ้าชอบเดี๋ยวทำใหม่ก็ได้ ของเก่าคาอยู่อย่างนี้เค้าก็อายน่ะ! พญาควายไปขูดสีอยู่รึเปล่าก็ไม่รู้???
ยกฟ้อง 2 ผู้ต้องหาคดีขว้างระเบิดเวทีกปปส.ตราด http://www.matichon.co.th/news/14343 จากการค้นในพื้นที่พบอาวุธสงครามจำนวนมาก ทั้งปืน เครื่องกระสุน เอกสาร เสื้อผ้า รถยนต์คันก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม โจทก์ไม่มีหลักฐานที่เพียงจะเอาผิดและเชื่อมโยงได้ เพียงแต่สงสัยจำเลยทั้ง 3 เท่านั้นจึงยกฟ้องจำเลยทั้ง 3 ในข้อหาพยายามฆ่า โดยปล่อยตัวจำเลยที่ 2 และที่ 3 ส่วนจำเลยที่ 1 มีอาวุธสงครามในครอบครอง
จะบอกให้มาติดคุกได้ไงละครับ แม้วไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แค่ทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม ดร.เหลิม กูรูกฎหมายประจำพรรค ยืนยัน แค่ประโยคนี้ประโยคเดียว ทำเอาอึ้งกิมกี่ไปทั้งประเทศ
คำพิพากษานี้มันจะทำให้เกิดความรุนแรงมากยิ่งขึ้นไปอีก แล้วไอ้ประเภทอุ้มหายไปเลยก็น่าจะมีอีก ศาลใช้ดุลพินิจเคร่งครัดเกินไป ถามว่าจับคนได้อยู่แถวที่เกิดเหตุ มีอาวุธเพียบ ถ้าไม่ใช่คนก่อเหตุแล้วมันจะเป็นอะไรได้อีก ต้องให้มีคลิบตอนมันเหนี่ยวไกเหรอไง