อ่านจบ พูดไม่ออก บอกได้คำเดียวว่า อย่าอยู่เลยครับประเทศไทย ขณะเดียวกัน เมื่อเช้าวันนี้ (20 พ.ค.) คุณฐปณีย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกระแสสังคมที่สะท้อนกลับ โดยระบุว่า "ขอแสดงความรับผิดชอบหากการทำหน้าที่ทำให้เกิดปัญหามากมายขนาดนี้ มีอีกสิ่งหนึ่งที่อยากบอกค่ะ จะด่าว่า จะกล่าวหา ฐปณีย์ อย่างเสียหายก็พยายามอดทนค่ะ" แต่สิ่งที่เสียใจมากที่สุดขณะนี้คือ การที่ข่าวนี้กำลังทำให้เกิดความเกลียดชังต่อเพื่อนมนุษย์ กำลังถูกเชื่อมโยงการเมือง และส่อเค้าบานปลายถึงความขัดแย้งทางศาสนา ขอยืนยันว่า การนำเสนอข่าวที่เกิดขึ้นกับชาวโรฮิงยา ได้ทำตามหน้าที่ของสื่อมวลชน และเพื่อนมนุษย์อย่างดีที่สุดแล้ว ไม่มีเบื้องหลังและเจตนาใด นอกจากติดตามเรื่องนี้มาหลายปีและอยากเห็นการแก้ปัญหาให้ลุล่วง ต่อข้อกล่าวหา บางเรื่องไม่ถูกต้อง จึงต้องชี้แจงว่า ฐปณีย์ไม่เคยพูดว่าให้ตั้งศูนย์พักพิง ฐปณีย์ ไม่เคยพูดว่ารัฐบาลไทยต้องดูแล แต่ได้บอกเล่าถึงชีวิตและชะตากรรมของคนเหล่านี้ ในฐานะนักข่าวที่ได้ขึ้นไปสัมผัสชีวิตบนเรือของผู้อพยพชาวโรฮิงญา ซึ่งเป็นภาพแรกที่เราได้เห็นว่าพวกเขาเป็นอย่างไร และเจ้าหน้าที่ไทยได้ทำดีที่สุดแล้ว "แค่อยากให้โลกรับรู้ถึงชีวิตและชะตากรรมของพวกเขาเพื่อสังคมโลกจะช่วยกันหาทางออกก็เท่านั้นเองค่ะขอบคุณอีกครั้งคะจะพิจารณาตัวเอง และรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นค่ะ" คุณฐปณีย์ กล่าว
จะโทษฐปนีย์ฝ่ายเดียวคงไม่ถูกครับ ใครก็ตามที่เห็นความทุกข์ยากเฉพาะหน้าอย่างที่ฐปนีย์ประสพก็ย่อมอยากให้ความช่วยเหลือทั้งนั้น แต่การสื่อความอาจมีความไม่เหมาะไม่ควรบ้าง น่าให้อภัยนะครับ
ถ้าผิดพลาดแค่ครั้ง - 2 ครั้ง คงให้อภัยกันได้ แต่ฐาปนีย์สร้างละครน้ำเน่าประเภทนี้นับครั้งไม่ถ้วนแล้วน่ะซิ
ประเด็นสำคัญที่ผมมองเห็น คือในการนำเสนอภาพข่าว ไม่ควรชี้ไปที่เรื่องของอารมณ์และความรู้สึก การเป็นผู้สื่อข่าว ที่เคยต้องทำข่าวที่มีองค์ประกอบระดับสากลมาแล้วบ้าง ย่อมต้องรู้ว่า อะไรที่ควรและไม่ควรนำเสนอ ภาพที่ออกไปสู่การรับรู้ จากสิ่งที่กระทำ มีสายตาเป็นล้านคู่ได้รับรู้นะครับ ไหนจะเรื่องความสุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดจากอะไรซักอย่าง ที่เราไม่อาจคาดเดา ยิ่งไม่สมควรที่จะแสดงอะไรออกมา แต่สิ่งที่เห็น คือความพยายามแสดงความรู้สึกล้วนๆ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ผู้สื่อข่าวควรกระทำ ผมเชื่อว่า มารยาทเช่นนี้ เป็นเรื่องที่เธอรู้ดี ในฐานะผู้สื่อข่าวที่ทำงานนี้มาหลายปี ไม่ใช่เด้กพึ่งจบ ดังนั้น สังคมกำลังสอนให้เธอเข้าใจ ว่าเธอควรเลือกจุดยืนแบบไหน ในหน้าที่นี้
พระไพศาล ชี้ ปล่อยโรฮิงยาตายกลางทะเล ไม่ใช่วิถีที่มนุษย์ทำต่อกัน แนะร่วมมือกันแก้ พระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุขิโต จ.ชัยภูมิ และเป็น พระนักวิชาการ นักคิดนักเขียนพระพุทธศาสนารุ่นใหม่ แสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การแก้ปัญหาชาวโญฮิงยา ในเฟสบุ๊ก Phra Paisal Visalo ดังนี้ เกือบ ๔๐ ปีที่แล้วอ่าวไทยเต็มไปด้วยผู้อพยพชาวเวียดนามหลายแสนคนที่หนีภัยคอมมิวนิสต์ด้วยการนั่งเรือข้ามทะเลออกมาอย่างเสี่ยงตายทั้งนี้เพราะมุ่งหวังอนาคตที่ดีกว่าหลายคนตายเพราะขาดน้ำขาดอาหารจำนวนไม่น้อยถูกโจรสลัดปล้นข่มขืนและฆ่าคนเหล่านี้ไม่มีที่พึ่งอื่นใดนอกจากผู้คนตามชายฝั่งต่างๆที่เรือไปถึง รวมทั้งคนไทย ตอนนั้นคนไทยจำนวนไม่น้อยก็เกือบมีชะตากรรมเดียวกัน เพราะระบอบคอมมิวนิสต์ได้มาประชิดชายแดนไทย หากไทยเป็นคอมมิวนิสต์เหมือนประเทศเพื่อนบ้าน คนไทยนับล้านคงต้องตัดสินใจทิ้งประเทศ ยอมออกไปเสี่ยงตายข้างหน้า ไม่ว่าจะเดินเท้า นั่งรถ หรือล่องเรือ ฝากชีวิตไว้กับน้ำใจของผู้คนในประเทศต่าง ๆ เดชะบุญไทยรอดพ้นจากเงื้อมมือของคอมมิวนิสต์ คนไทยจำนวนไม่น้อยจึงไม่ต้องไปเป็นมนุษย์เรือ (boat people) เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเหมือนชาวเวียดนาม วันนี้เมืองไทยได้เผชิญกับคลื่นผู้อพยพระลอกแล้วระลอกเล่าอีกครั้งหนึ่งคราวนี้เป็นชาวโรฮิงญาจากพม่าคนเหล่านี้ก็เช่นเดียวกับผู้คนทั้งหลายหากไม่ถูกกดขี่บีฑาหรือบีบคั้นอย่างถึงที่สุดย่อมไม่ตัดสินใจละทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนออกมาเสี่ยงภัยกลางทะเลหลายคนต้องทิ้งชีวิตก่อนจะถึงฝั่งอีกไม่น้อยตายเพราะถูกสังหารเมื่อถึงฝั่งแล้วคนเหล่านี้แม้พูดคนละภาษากับเรา แต่ก็เป็นมนุษย์เหมือนเรา รักชีวิตเหมือนกับเรา ในยามที่เขาตกระกำลำบาก ขาดอาหาร ขาดน้ำ ขาดที่พักพิง ควรแล้วหรือที่เราจะผลักไสเขาออกไปตายที่อื่น เพราะหากเราเป็นเขา (อย่าลืมว่าเราเกือบจะเป็นอย่างเขาเมื่อ ๓๐ กว่าปีก่อน) เราก็คงปรารถนาความเมตตาจากเพื่อนต่างชาติต่างภาษาเช่นกัน เรามิใช่เป็นแค่คนไทย แต่เรายังเป็นมนุษย์ที่มีน้ำใจ ลองใช้ความเป็นมนุษย์เปิดใจเพื่อรับรู้ความทุกข์ของเขา ไม่ใช่ในฐานะโรฮิงยาต่างด้าว แต่ในฐานะที่เขาเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับเรา แล้วเราจะตระหนักว่าเขาเป็นเพื่อน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเรา ที่เราสมควรยื่นมือช่วยเหลือเขา หากเราไม่ทำ แต่ผลักไสหรือปล่อยให้เขาไปตาย ไม่เว้นกระทั่งเด็กและคนแก่ เราจะพูดกับความเป็นมนุษย์ในใจเราได้อย่างไร มีความเข้าใจว่าหากปล่อยให้ผู้อพยพตายกันมาก ๆ กลางทะเล ชาวโรฮิงญาในพม่าก็จะหวาดกลัว และอพยพทางเรือน้อยลง แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ มนุษย์เรือที่หลั่งไหลจากอาฟริกาไปยุโรปเมื่อปีที่แล้วตายหรือสูญหายถึงเดือนละ ๘๐๐ คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ๆ มาก แต่คลื่นมนุษย์ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ลดลงเลย กลับเพิ่มมากขึ้น (และตายเพิ่มขึ้นด้วย) ดังนั้นจึงไม่ควรหวังว่าการทำใจแข็ง ปล่อยให้มนุษย์เรือชาวโรฮิงยาตายกลางทะเล จะช่วยให้การอพยพลดน้อยถอยลง การปล่อยให้เพื่อนมนุษย์ตายกลางทะเล ไม่ใช่วิถีทางที่ควรทำ ขณะเดียวกันการแบกรับภาระทั้งหมด ก็เป็นไปได้ยาก สิ่งที่เราน่าจะช่วยกันผลักดันให้เกิดขึ้นก็คือ การร่วมกันแบ่งเบาภาระในระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีทุนสนับสนุนจากนานาชาติ ขณะเดียวกันก็ต้องได้รับความร่วมมือจากประเทศต้นทางเพื่อสกัดกั้นการหลั่งไหลในระยะยาว ทางออกที่เป็นไปได้นั้นมีหลายทาง แต่สิ่งสำคัญก่อนอื่นใด คือ ความตั้งใจที่จะช่วยเหลือเขาในฐานะเพื่อนมนุษย์ และด้วยสำนึกของความเป็นมนุษย์ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1432010590
ฐปณีย์ไม่เห็นอดทนเบย คนเขาต่อว่าถึงความเหมาะสมในความเป็นสื่อ ที่เล่นเอาดราม่ามาผสมปนเป แถมชักอารมณ์อยากเอาชนะประโคมข่าวใหญ่โตเพราะคิดว่าเป็นสื่อ ความคิดถูกต้อง ต้องทำตาม พอโดนข้อเท็จจริงศอกกลับเอียงแทบโดนน๊อค ก็อ้างว่าข่าวนี้กำลังทำให้เกิดความเกลียดชังต่อเพื่อนมนุษย์ กำลังถูกเชื่อมโยงการเมือง และส่อเค้าบานปลายถึงความขัดแย้งทางศาสนา อย่างนี้บ้านผมเรียกชักแม่น้ำทั้งห้ามา สนับสนุนฐปณีย์ ฐปณีย์อดทนอดกลั้นแล้ว แต่ที่มาต่อว่าฐปณีย์เพราะความเกลียดชัง การเมือง ศาสนา ถ้าเป็นแบบนี้ฐปณีย์อย่ามาเป็นสื่อดีกว่า สื่อไม่ได้มีอภิสิทธิชนเหนือใครนะ แล้วฐปณีย์จะรับผิดชอบแบบไหนอ่ะ เรื่องใหญ่โตขนาดนี้ เป็นสื่อทำงานไม่รอบด้าน แถมใส่อารมณ์ ใส่ความเกลียดชังต่อผู้ไม่สนองตัณหาตัวเอง สุดท้ายทำให้ประเทศชาติเสียหาย เสี่ยงรอบด้าน อย่าแค่งดออกหน้าจอแค่ชั่วคราวนะ
ผมเห็นด้วยอย่างมาก เพราะมันดูเเปลกๆหรือบังเอิญเกินไปหรือเปล่า 1 กรณีเเรงงานไทยทำประมงในประเทศอินโดนีเซีย นักข่าวจ้าวปัญหาไปทำข่าว เเล้วผลที่ตามมาคือมีเเรงกระเพื่อมจากสหภาพยุโรป ซึ้งมีผลในการส่งออกอาหารทะเลเเช่เเข็งของไทยกว่า 2 เเสนล้านบาทตามด้วย IUU เล่นงานอีก 2 กรณีชาวโรฮินจานั้น หลังจากที่นักข่าวเจ้าเดิมไปทำข่าว ผลที่ตามมาคือทาง UN มากดดันไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ให้รับชาว โรฮินจาไปดูเเล (เเปลกที่พม่าไม่โดน UN กดดัน) ทั้ง 2 ครั้ง มันไม่พลาดเเล้วครับ คงตั้งใจเต็มที่ ที่จะเสนอข่าว คงคิดใข้สือเล่นงานลุงตู่ อย่างเเน่นอน UNHCR ผมว่าคนไทยทุกคนคงจะรู้จักกันดีนะครับ ตั้งใจดึงมาด้วยหรือเปล่า ? สรุป ผมในฐานะคนไทยคนหนึ่ง การทำข่าวช่องนี้ ผมไม่ไว้ใจครับ
ข้อมูลท่านคงไม่ครบ ค่ายโรงฮิยาที่ชายแดนบังคลาเทศรองรับได้แสนคน แต่ตอนนี้มีคนแค่สามหมื่น และบนเรือเป็นคนบังคลาเทศครึ่งหนึ่ง เหตุผลที่เขามาเป็นเหตุทางเศรษฐกิจล้วนๆ ดังนี้นคนบนเรือคือผู้หลบหนีเข้าเมือง ไม่ใช่ผู้หนีภัยสงคราม
ผิดครับ ในฐานะผู้รายงานข่าว แค่ชี้ผิดถูกก็อาจจะไม่ถูกต้องแล้ว ไม่ต้องนับไปถึงการแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกสื่อ อีกอย่าง จะให้อภัยได้อย่างไรถ้าเจ้าตัวไม่มีแม้แต่ความรู้สึกว่าควรขอโทษ?
เค้ากำลังพูดถึงประเด็น เธอออกหน้าเกินเหตุขอรับ แค่เธอให้สัมภาษณ์ โจนาธาน เฮด บีบีซีเสื้อแดง เธอตีหน้าเศร้ายิ่งกว่าโคตรเหง้าศักราชเธอตายขอรับ
สุดยอดคอมเมนต์อีกหนึ่ง ต้องดันครับ ทำข่าวไม่ว่า จะคันหู คันอ ่า อะไรก็เกาไป แต่อย่าแสดงความมันส์เพราะได้เกา ออกอากาศ
ปฏิเสธไม่ได้ว่า สาเหตุหนึ่งของความขัดแย้งในสังคมทั้งชีวิตจริงและโซเชียล ก็คือสื่อ แล้วมันหลายครั้งหลายเรื่องแล้วด้วย พอถูกจับได้ แม่มเอาอุดมการณ์มาเป็นโล่กำบัง ดัดจริตมาก
มันเหมือนเหมาะเจาะเกินไปจริงๆ แล้วที่เค้าด่านักข่าวคนนี้กันเพราะว่า เสนอข่าวไม่ตรงไปตรงมา และไม่รุ้กาลเทศะ หลายครั้งครับ จะอ้างสิทธิเสรีภาพสื่อลูกเดียว มันก็ไม่ใช่ครับ
จาก "หมอชายแดน" ถึง "ฐปนีย์" ... หมอมีอะไรจะบอกคุณ !! เมื่อคืนนี้ ผ่าสมอง เด็กหญิง อายุ 4 ปี คนไทย 100 % อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ #ท่ายาก #นอนคว่ำ #เลือดออกcerebellum #โอกาสเสียชีวิตสูงมาก #ขอให้น้องรอดปลอดภัยครับ ประเด็นคือ คนไข้ยากไร้ในประเทศไทย ที่เป็นคนไทยจริงๆ เยอะมากๆๆ และโรงพยาบาลที่ติดชายแดนอย่างโรงพยาบาลของผมต้องรับรักษาคนไข้ข้ามฝั่งมาจาก#ฝั่งลาวเยอะพอควร ตาม #หลักมนุษยชน เราไม่เคยปฎิเสธการรักษา รับผ่าตัดหมด #ส่วนใหญ่เก็บเงินไม่ได้ และขาดทุน #โรงพยาบาลตามเขตชายแดนขาดทุนและเสียเงินไปมากขนาดไหน ไม่มีใครทราบ #คนไทยไม่แล้งน้ำใจ #คนไทยเป็นชาติที่มีมนุษยธรรมสูงมาก !!!!!!! จริงๆๆแล้ว หาก #คุณฐปนีย์ รักในชาติไทย ควรจะสละ เวลาที่ทำข่าว #โรฮิงญา มาทำข่าว #โรงพยาบาลในประเทศไทยรับรักษาคนไข้ต่างชาติที่ยากไร้ #จากลาว#เขมร #พม่า #หมดเงินซึ่งเป็นภาษีของคนไทยไปแต่ละปีมากขนาดไหน หากผมเป็นคุณฐปนีย์ ผมจะเสนอข่าวนี้ออกไปแทน เพื่อ สะท้อนให้ ประชาคมโลก UN ได้เห็นว่า #ประเทศไทยช่วยเหลือคนตามหลักมนุษยชาติมากมายขนาดไหน เพื่อหักล้างคำพูดของนานาชาติที่ว่า #ประเทศไทยเห็นแก่ตัว แต่คุณ #ฐปนีย์ กลับเสนอข่าวทำให้คนมองประเทศไทยเป็น #ผู้ร้าย ทั้งๆๆสามารถทำให้คนทั้งโลกเห็นได้ว่า #คนไทยมีจิตใจงามช่วยเหลือคนมากมายขนาดไหน แต่เรื่อง #โรฮิงญา เป็นปัญหาใหญ่ระดับโลกที่ ประเทศไทยไม่สามารถแก้ไขได้เพียง ประเทศเดียว #ไม่ใช่ #ประเทศไทยคนไทยไร้มนุษยธรรม !! เลยสงสัยว่า ??? คุณฐปนีย์ คุณ #รักประเทศไทยจริงๆๆไหม ที่มา: https://www.facebook.com/jakkrit.infinity
สื่อมวลชนต้องมองในมุมสูงและกว้าง ไม่ใช่ไปคลุกวงใน คนโดนตีหัวเลือดอาบมามันก็น่าสงสาร แต่สื่อต้องหาคำตอบว่าทำไมถึงโดนตี
กำลังจะบอกว่าคุณหมอโดน"โลกสวยพันทิพ"เปลี่ยนประเด็นไปด่าคุณหมอเรื่องถ่ายรูปในห้องผ่าตัด ผมว่าพันทิพมันสามาราด่าได้โดยไม่ต้องถามที่มานะ
คุณหมอท่านทำรัดกุม ใส่แบนเนอร์เรื่องการถ่ายรูปในห้องผ่าตัดแนบไว้ด้วย อย่างว่าคนเราบางทีก็อ่าน ก็ฟังไม่ละเอียด เขาอธิบายแล้วยังย้อนถามเฉยเลย น่าตรบให้ฟร่ำ