ตัวแทนพรรคเพื่อไทย-ประชาธิปัตย์ เห็นตรงกัน การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นพรรคการเมืองควรจับมือกันสกัดกั้นการสืบทอดอำนาจ คสช. ชี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ เห็นช่วงนี้เคลื่อนไหวกันคึกคัก วางแผนสกัดกันใหญ่ ผมว่า พรรคปชป. ไม่ต้องดิ้นหรอกครับ ต่อให้ทหารเขาไม่อยู่ต่อ คุณก็เป็นฝ่ายค้านอยู่ดี กลิ่นไม่ดีมันโชยมา บรรยากาศคล้ายๆพฤษภาทมิฬ สื่อ+นักการเมือง+โซเชียล กำลังทำให้บรรยากาศบ้านเมืองเดินไปทางนั้น... ปล.เห็นข่าวครูจอมทรัพย์แล้วก็ปลงกับสื่อ+ข้าราชการ+สังคมไทย คือเชื่อแบบแห่ตามกันโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลอะไรเลย เลยนึกขึ้นได้ว่า "คนไทย" โครตจะปั่นหัวได้ง่าย
ผมว่าความแตกต่างของฐานเสียงสองพรรคนี้คือ ของปชป. ถ้ารู้ว่าร่วมมือกัน คะแนนเสียงหายแน่ๆ แต่พท. ไม่มีผล ถ้าดูจากความรู้ความเข้าใจเรื่องประชาธิปไตย การรักษาสิทธิ หน้าที่ของตัวเอง ในการเลือกตัวแทนไปทำหน้าที่เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ ยังไงประชาธิปัตย์ก็เป็นฝ่ายค้านแน่นอน หลังปี 62 ได้รัฐบาลใหม่แล้ว ลองดูกันว่า เสียงประชาชน เสียงโซเชี่ยลที่กดดันรัฐบาลผ่านสื่อมวลชนในเรื่องต่างๆที่เป็นประเด็นและไม่ถูกต้องเหมือนที่ทำอยู่ในรัฐบาลนี้ จะยังคงทำอยู่เช่นทุกวันนี้ไหม และจะมีผลกดดันรัฐบาลให้แก้ไข ปรับเปลี่ยน อย่างเช่นรัฐบาลนี้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น เผด็จการ หรือไม่
ประชาธิปัตย์เองก็ต้องคิดให้ถ้วนถี่ เข้าปีที่สี่ของคสช. ก็เฉกเช่นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหลาย ประชาชนคุ้นชินกับผู้บริหารประเทศและรู้สึกว่าไม่มีอะไรแปลกใหม่ โดยเฉพาะคนไทยส่วนใหญ่ที่เบื่อง่ายและคิดอะไรไม่ค่อยเป็นเหตุเป็นผล การโหมกระพือผลักดันการเลือกตั้งจะทำได้ง่ายมีพลังมากขึ้น คนไทยจำนวนหนึ่ง ผมรู้ว่ามีอยู่จริงแต่ไม่รู้ว่ามากน้อยเพียงใด ที่เลือกปชป.เพราะไม่ต้องการให้เพื่อไทยได้อำนาจรัฐไป จำนวนจะมากน้อยเพียงใดประมาณได้จากคนที่ไม่ร่วมผลักดันให้ประเทศไทยเข้าสู่กระบวนการการเลือกตั้ง หากปชป.ผนึกกำลังกับเพื่อไทย ผมเชื่อว่าการใช้สิทธิไม่เลือกใครในการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะสูงขึ้นมาก
รัฐธรรมนูญ 2540 เคยออกฤทธิ์ออกเดชจนเกิด Strong Government และนำพาประเทศไปในทิศทาง "ตามอำเภอใจใครคนหนึ่ง" มาแล้วในครั้งหนึ่ง คราวนี้รัฐธรรมนูญ 2560 กำลังแผ่รังสีให้เกิดนวัตกรรมใหม่ของ "Social Movement" ขึ้นมาอีกแล้ว พวกเราจงมารอดูฤทธิ์เดชของมันที่มีผลต่อนักการเมือง ประชาชน สถาบันต่างๆ และประเทศว่าจะเคลื่อนไปทางไหนกัน ..
ผมว่า ปชป ก็หลวมตัวเกินไป เล่นกับวิกฤติศรัทธา สร้างกระแสเพียงคิดไปเองว่า ตนเองจะได้อะไรบ้างก็เอาหางแหย่น้ำดู เล่นกับหมา หมาเลียปาก หมาน่ะไม่เสียหายหรอก แต่คนที่ถูกหมาเลียปากนั่นแหละเสียไม่มากก็น้อย
เคยคิดจะตั้งคำถามว่า คนไทยพร้อมหรือยังสำหรับ ประชาธิปไตย แต่ถึงวันนี้มันกลายเป็นว่า เราจำเป็นต้องมี ไปแล้ว รวมเวลาประมาณเกือบ 5 ปี นับถึงวันที่จะเลือกตั้งที่คสช.เข้ามา ผมเชื่อว่าบ้านเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายในทางที่ดีขึ้น เพียงแต่หลังจากนี้เมื่อเลือกตั้งแล้วจะเป็นอย่างไร ผมยังสงสัย นักการเมือง จะปรับตัวเองไหมจากที่ตัวเองเป็นสาเหตุให้บ้านเมืองเสียหายและทหารต้องเข้ามาทุกๆครั้ง ประชาชน เราเรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์ครั้งนี้บ้าง การเลือกตัวแทนเข้ามาทำหน้าที่ จะยังคิดแบบเดิมอีกไหม ข้าราชการ เป็นตัวหลักของบ้านเมือง ในครั้งนี้ได้เห็นการปรับตัวในการทำงานเชิงรุกมีผลงานเด่นชัดมากขึ้น หลังจากนี้เมื่อมีนักการเมืองจะกลับไปรูปแบบเดิมอีกหรือเปล่า ยังคาใจกับเรื่อง ช่องกาไม่ลงคะแนนอยู่ครับ ว่าถ้ามีมากกว่า เกินครึ่งผู้ใช้สิทธิ์จะต้องเลือกใหม่ และผู้สมัครเก่าลงไม่ได้ น่าสนใจมากๆ น่าจะดัดหลังนักการเมืองได้ โดยเฉพาะกรณี ปชป.รวมหัวกับ พท.จริง
พูดถึงความพร้อมของชาติระบอบประชาธิปไตย มีนักวิชาการที่เคยแนบแน่นกับเผาไทยคนหนึ่งพูดออกรายการวิทยุว่า ปัจจัยสำคัญที่จะสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจไทย ไม่ใช่ผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก ไม่ใช่ปัญหาค่าแรง ไม่ใช่ความสามารถของการแข่งขันกับต่างประเทศ ไม่ใช่ภัยธรรมชาติ ไม่ใช่ปัญหาสิ่งแวดล้อม ฯลฯ ฯลฯ แต่มันคือผลพวงของการเลือกตั้งที่จะได้รัฐบาลแบบเดิมๆกลับมา
ไม่มีวัวปน เอามุมกล้องมาเล่นเป็นข่าวซะงั้น สมัยก่อนคนไทยปั่นหัวง่าย เดี๋ยวนี้ถึงยังง่าย แต่ก็ยากขึ้นกว่าเดิมเพราะสือภาคพลเมืองไปเร็ว
เห็นประเด็น ต้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน กำลังร้อนๆ น่าจะจับนักการเมืองมาแสดงความคิดเห็นทางทีวีนะครับ ว่า เห็นด้วยไหมกับการต้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน และถ้าได้เป็นรัฐบาลจะสร้างไหม ?
แต่งตั้ง สว 250 มาเป็นคะแนนเสียงเพื่อโหวตตัวเองเป็นนายก สีเขียวเป็นแสนๆ ก็คะแนนเสียงตัวเองทั้งนั้น ลด แจก แหลก ยิ่งกว่าประชาชนนิยม ก็หาเสียงให้ตัวเองอีก แต่นักการเมืองต้องไปเดินตากแดดตากลมหาเสียงแทบตาย พอมีข่าวเขาจะจับมือกันหน่อยโวยวาย แล้วที่มึงจัดตั้งเสียงไว้250 และอีกหลายล้านที่ใช้ภาษีโปรยประชานิยมเอาไว้ ไม่พูดบ้างละ นี่เหรอรั้วสีเขียวที่เขาสอนให้มาเป็นลูกผู้ชาย หน้าด้านที่1 แถมไปใส่ร้ายแกนนำม็อบเขาหนีไปกับสาวคนอื่น ไปเล่นชู้ แล้วม็อบเขาก็ไม่ได้ไม่เอาโรงไฟฟ้า แต่เขาอยากได้แบบพลังงานสะอาด ไม่ใช่แบบถ่านหิน ที่เอาถ่านหินจากต่างประเทศมาทำร้ายคนในพื้นที่ ลูกผู้ชายส้นตรีน เอาเปรียบคนมือเปล่าแทบทุกอย่าง ไม่แฟร์
ความจริงนิพิฏฐ์ เขาก็ออกมาชี้แจงแล้วนะว่าไม่ได้พูดว่าจะร่วมกับเพื่อไทย แต่ในวงเสวนามันมีคำถามว่าจะสกัดนายกคนนอกได้อย่างไร เขาก็บอกว่าต้องรวมเสียง สส ให้ได้เกินครึ่ง ถึงจะสกัดได้ ไม่ได้บอกว่าให้ ปชป รวมกับ พท เพราะโอกาสที่สองพรรคนี้จะมาร่วมกันมันยาก เนื่องจากอุดมการณ์หลาย ๆ อย่างไม่ตรงกัน แต่การชี้แจงดูเหมือนไม่ค่อยเป็นผลเท่าไร เพราะคนชี้แจงเองก็ออกจะพูดไม่ค่อยเข้าหูคนฟังมากนัก คนฟังก็เลยยังคาใจอยู่ ผมมองว่าพรรคไหนจะร่วมกับพรรคไหน ก็ร่วมไปเถอะครับ เพราะตอนนี้เครติดนักการเมืองในสายตาประชาชนมันเหลือน้อย ถ้าร่วมกันได้ เครติดที่เหลือน้อยอาจกลายเป็น ศูนย์ ไปเลยก็ได้ จะได้จบเรื่องกันเสียที เรื่องอุดมการณ์หลาย ๆ อย่างไม่ตรงกัน ก็อย่าไปคิดมากครับ เอาอุดมการณ์หลัก ๆ ตรงกันก็พอ เช่น ชูประชาธิปไตยเหมือนกัน ชูนายกมาจากการเลือกตั้งเหมือนกัน ชูเรื่องการคืนอำนาจให้ประชาชนเหมือนกัน ส่วนเรื่องอื่น ๆ มันเรื่องเล็กครับ ตั้งรัฐบาลได้ก็จัดสรรผลประโยชน์กันลงตัวได้เองแหละ ไอ้เรื่องวงเสวนาอะไรนั่น ผมไม่รู้ว่าจะเสวนากันไปหาอะไรครับ เพราะมีคำถามว่าจะสกัดกั้นนายกคนนอกได้อย่างไร คุณจะไปสกัดกั้นเขาทำไมครับ จะผูกขาดอำนาจเหมือนที่ชอบว่าคนอื่นเขาหรือ มี จำนวน สส 500 คน แต่ไม่มีปัญญาเลือกนายกที่มาจากการเลือกตั้งกันเอง เลยตั้งคำถามว่าว่าจะสกัดกั้นนายกคนนอกได้อย่างไร แบบนี้ยังอยากเสนอหน้ากันเข้ามาบริหารประเทศกันอีกหรือ ประชาชนเขาเลือก สส แต่ละพรรค เพราะระบบมันถูกกำหนดมาให้ทำอย่างนั้น เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่าเมื่อถูกเลือกเข้ามาแล้วจะกลายเป็นเทวดา หรือเก่ง หรือวิเศษเหนือมนุษย์ เพราะการเลือกตั้งของประชาชนมันก็เหมือนกับไปเดินหาซื้อของใช้นั่นแหละ เช่นจะซื้อแปรงขัดส้วมสักอัน ตัดสินใจไม่ได้จะเอายี่ห้อไหนดี ยี่ห้อนี้เคยใช้แล้วขัดสองทีขนหลุดแล้ว ย่ีห้อนี้ดูแล้วไม่เห็นแตกต่างกับยี่ห้อนั้นเลยทำไมมันขายแพงวะ สรุปแล้วไม่ชอบสักยี่ห้อเลย แต่มันต้องซื้อ เพราะมันจำเป็นต้องใช้ เพราะฉะนั้น ได้รับเลือกเป็น สส แล้ว อย่าหลงตัวเองกันครับ อย่าคิดตนเองเหนือกว่าคนที่ไม่ได้เป็น สส พูดง่าย ๆ ก็คือ อย่าเอาประชาชนมาอ้างหากินครับ เขาเลือกเพราะมันจำเป็นต้องเลือกครับไม่ได้เลือกเพราะชื่นชอบอะไรพวกคุณหรอก
หลายครั้งที่รัฐบาลลุงตู่เพลี่ยงพล้ำ ทำท่าจะแย่ด้วยคำพูดของลุงตู่เองหรือคนของรัฐบาลหรือจากการกระทำที่ส่งผลเป็นลบต่อรัฐบาล จนน่าเป็นห่วงว่าจะไปไม่รอด และยังโดนสื่อมวลชน นักการเมืองรุมซ้ำเติมอย่างหนัก สุดท้ายก็ผ่านมาได้จนถึงวันนี้ก็ เกือบ 4 ปีแล้ว ถ้าไม่ติดว่าจะต้องเลือกตั้ง ผมคิดว่าคงอยู่ต่อไปได้เรื่อยๆ เพราะคู่แข่งของรัฐบาลก็คือนักการเมือง ไม่ได้แสดงผลงานหรือสิ่งใดๆ ให้ประชาชนโหยหาคิดถึงอยากให้ได้กลับมาเลย แต่ก็อย่างที่คุณSurawong บอก ประชาชนอย่างเราไม่ได้มีทางเลือกอื่นเลย คือถูกบังคับให้ต้องเลือกใครสักคน ไม่งั้นก็สละสิทธิ์ไป ผมเชื่อว่าสุดท้ายเมื่อถึงวันเลือกตั้ง และเมื่อได้รัฐบาลใหม่แล้ว ประชาชนจะย้อนกลับมาเปรียบเทียบอีกครั้ง ระหว่างรัฐบาล คสช. ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง กับรัฐบาลเลือกตั้ง ว่าใครทำเพื่อประชาชน ประเทศชาติมากกว่ากัน
ผมเกรงว่าประชาชนจะไม่เปรียบเทียบแบบที่คุณ Aduril หวังนะชีครับ แต่กลับไปโทษรัฐบาล คสช ว่าทำเสียของเหมือนคราวที่แล้วนั่นแหละ เพราะแนวโน้มมันเริ่มจะไปทางนั้นแล้ว มันอาจเป็นความผิดพลาดในการปฏิรูปที่เราไม่ค่อยให้ความสำคัญกันมากนัก เพราะส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปเรื่องปฏิรูปตำรวจ การกระจายอำนาจ แต่กลุ่มที่สร้างปัญหาให้ประเทศชัดเจนกลับไม่ค่อยได้รับความสนใจในเรื่องปฏิรูปคือ กลุ่มของสื่อ กับ กลุ่มนักการเมือง สื่อกระแสหลัก มีอิทธิพลมากแต่รัฐบาลไม่ค่อยกล้าไปแตะ ขณะเดียวกันสื่อเหล่านี้ก็ต้องดิ้นเพื่อความอยู่รอดของตนเอง เพราะการแข่งขันมันสูง รูปแบบการนำเสนอมันก็เลยต้องทำทุกอย่างให้คนสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการใส่ร้ายป้ายสี บิดเบือน ยั่วยุ ปลุกปั่น ซึ่งก็เห็น ๆ กันอยู่ ด่าคนอื่นได้ทุกวันในขณะที่มาตรฐานของตนเองตกต่ำลงทุกวันกลับไม่สนใจ อวัยวะภายในของนักเรียนเตรียมทหารหาย ผมว่ามันรู้อยู่แก่ใจว่าเขาตัดไปตรวจพิสูจน์ แต่มันจะออกข่าวว่าหาย ใครจะทำไม ออกข่าวต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ ถ้าเป็นทีวีคนอ่านข่าวก็ต้องมีแอ็คชั่น ทำตาลุกตาพอง ออกท่าออกทางเหมือนแสดงลคร ให้ดูตื่นเต้น จนพ่อของนักเรียนเตรียมทหารต้องออกมาขอร้องว่าให้เพลา ๆ กันบ้างเถอะ ครอบครัวผมรับไม่ไหวแล้ว ตั้งแต่ลืมตามขึ้นมาก็เห็นแต่ภาพของครอบครัวผม เรื่องราวของลูกผม ไปจนหลับตานอน ข่าวมันถึงเริ่มซาลงไป แล้วไปหาเรื่องอื่นต่อ เสธฯ ไก่อู ออกมาปฏิเสธว่าทหารไม่ได้อุ้มแกนนำประท้วงเรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหิน แล้วยกตัวอย่างว่า ปีก่อนโน้นมันก็เคยมีกรณีอย่างนี้ คือมีแกนนำหายไปคนหนึ่งแล้วโทษว่าทหารอุ้ม แต่ปรากฎภายหลังว่าไอ้หมอนั่นมันแอบไปเที่ยวกับผู้หญิง แล้วมาโทษว่าทหารอุ้ม แต่สื่อภาษาอังกฤษฉบับหนึ่ง เอาไปลงว่า เสธไก่อู บอกว่าแกนนำที่หายไปแอบไปเที่ยวกับผู้หญิง แล้วก็มีสื่อเอาเรื่องนี้ไปถามเมียของแกนนำ เมียของแกนนำก็เลยด่าเสธไก่อูซะ ถามว่าสื่อมันฟังผิดจริง ๆ หรือมันเจตนาจะบิดเบือน เพราะผมก็ฟังที่เสธไก่อูพูด แกก็พูดชัดเจน แต่มันก็มีสื่อบางคนอีกพยายามเบี่ยงเบนประเด็นออกไปว่าลงข่าวผิดจริง แต่เสธฯไก่อูก็ไม่ควรพูด เพราะไม่เหมาะสม อะไรของมันวะ ก็เขาชี้แจงให้ฟังเรื่องการหายตัวไปของแกนนำ มันไม่เหมาะสมยังไง แล้วที่พวกคุณลงข่าวอ่านข่าวคนอื่นกันโครม ๆ นี่มันเหมาะสมแล้วหรือ ประท้วงโรงไฟฟ้าถ่านหิน ทั้งสื่อทั้งกรรมการสิทธิมนุษยชน ขอให้ปล่อยแกนนำ มีสื่อภาษาอังกฤษอีกฉบับหนึ่งเขียนเป็นบทนำเลยว่าขอให้ปล่อยแกนนำ เรื่องโรงไฟฟ้าควรปล่อยให้นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งจัดการดีกว่า เรื่องนี้เราเห็นแล้วคิดว่าอันตรายไหมครับ ส่วนตัวผมมองว่าอันตรายมาก เพราะมันเหมือนกับว่าทั้งสื่อ ทั้งกรรมการสิทธิมนุษยชน รวมถึงนักการเมืองที่โดดลงไปร่วม ไม่รู้จักแยกแยะว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว เพราะ การไม่เห็นด้วยกับโรงไฟฟ้าถ่านหินนั้นมันเรื่องหนึ่ง แต่การทำผิดกฎหมายมันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง คุณเอามาปนกันได้ยังไง ถ้าเอามาปนกันอย่างนี้ อีกหน่อยใครอยากปล้นร้านทอง ก็หาเรื่องชุมนุมประท้วงแล้วถือโอกาสปล้นร้านทอง พวกคุณจะขอร้องให้รัฐบาลปล่อยคนปล้นไหม พวกคุณกำลังจะทำให้ประเทศมันกลับเข้าไปสู่วงจรอุบาท ที่ไม่พอใจก็ประท้วงขว้างระเบิดใส่ ศาล ขว้างระเบิดใส่ ปปช อีกหรือ พวกคุณควรหันไปมองประเทศอเมริกาที่คุณยกย่องกันนักหนาว่าเป็นประชาธิปไตย ว่าประชาชนของเขาทำได้ไหม เขาประท้วงได้ แต่เขามีขอบเขตว่าให้อยู่ตรงไหนอย่างไร ถ้าล้ำเขต หรือทำผิดกฎหมายจับทันที ทำไมพวกคุณยกย่องเขาครับ แต่ทำไมประเทศไทยทำอย่างที่คุณยกย่องไม่ได้
ที่สื่อฯรับจ้างบิดเบือนตัดต่อภาพและเสียง ทางรัฐบาลเขาก็ชี้แจงได้แจ่มแจ้งแล้วนะ จะหน้าด้านเอามาลงอีกทำไม อีกประการ เอ็งเป็นแค่ตัวเงินตัวทอง อย่าเผยอมาขึ้นมึงขึ้นกูกับคนในนี้
คงเพราะเหลือเวลาอีกเพียงปีเดียวจะได้เวลาเลือกตั้ง ทั้งสื่อ นักการเมือง นักอะไรต่างๆมากมาย เลยออกมารุมถล่มรัฐบาลเป็นการใหญ่ ก็คงด้วยเจตนาให้ประชาชนรู้สึกว่า รัฐบาลนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับทุกๆรัฐบาลที่ผ่านมา แถมยังไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เพราะมีอำนาจ มีปืน มี ม.44 และยังตรวจสอบไม่ได้ด้วย เลยไม่ยอมฟังเสียงประชาชน ทั้งๆที่ผมคิดว่า รัฐบาลนี้ค่อนข้างแคร์ความรู้สึกของประชาชนมากกว่าทุกๆรัฐบาลด้วยซ้ำ แต่ก็คงเพราะว่ารัฐบาลนี้ไปคิดปฎิรูปสื่อ ต้องมีใบอนุญาต กับนักการเมือง มีการออกกฎหมายห้ามโกง มีโทษหนัก นักวิชาการ เอ็นจีโอต่างๆ ไม่ได้ออกมาแสดงบทบาทผ่านสื่อ เลยไม่ค่อยได้รับงบประมาณแบ่งปันจากที่เคยได้รับ ผลเลยเป็นอย่างนี้ หลังเลือกตั้งไปแล้ว ผมเองก็คิดเหมือนคุณ Surawong ครับ ว่า กลุ่มคนเหล่านี้ต้องดิสเครดิตผลงานที่ผ่านมาของรัฐบาลนี้และจะเคลมเป็นผลงานตัวเอง โดยมีสื่อฯช่วยขยายความ แต่ก็ช่างเถอะครับ เราอาจจะต้องเข้าสู่วงจรอุบาทย์อีกครั้ง แต่คงไม่อยากมีใครออกมาลำบากบนท้องถนนอีกแล้วล่ะ ไม่อยากมีใครไปเป็นแกนนำ เสี่ยงให้โดนจับกุม หากไม่ได้รับจ้างมา ไม่การันตีว่าไม่โดนจับ แต่ผมยังเชื่อ หรืออาจจะเรียกว่า หวังก็ได้ว่า จะต้องมีเหตุฯให้รัฐบาลนี้ยังต้องคงอยู่ต่อไป เพื่อความมั่นคง
ขอไม่พูดถึงเพื่อไทย(หรือชื่ออะไรก็ตาม แต่เป็นพรรคของแม้ว) เพราะยังไงก็ไม่เลือก บอกตรงๆผมเลือกปชป.เพราะไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่านี้
อ้าว...................... ถ้ารู้อย่างนี้แล้วจะมาร้องแรกแหกกระเฌอให้เลือกตั้งทำไมกัน หรืออดอยากปากแห้งจนสุดทนแล้ว น้ำข้าวบูดๆก็ยังดี