สมชาย แสวงการแฉเสี่ยเปี๋ยงนอนสบายในรพ.ไม่ติดคุกจริง รวมทั้งคนดังทั้งหลายที่เพิ่งติดคุกเร็วๆนี้ 29 สิงหาคม 2016 โดย แคน ไทเมือง http://chaoprayanews.com/blog/socialtalk/2016/08/29/สมชาย-แสวงการแฉเสี่ยเปี/ ************************************************************* สมชาย แสวงการ 29 สิงหาคม เวลา 20:55 น. · อ่านข่าวนี้เสร็จ ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี. กว่าตำรวจอัยการศาลจะดำเนินคดีเสี่ยเปี๋ยงเสร็จ.จนตัดสินจำคุกได้. ไม่รู้ว่าหมดทรัพยากรเเละงบประมาณไปเท่าไร เเต่อำนาจของเรือนจำยิ่งใหญ่กว่า สามารถบันดาลให้ใครต่อใคร ย้ายไปนอนห้องวีไอพี โรงพยาบาลตำรวจ สั่งอาหารชั้นดีเลิศจากโรงเเรมหรู ย่านราชประสงค์มากินเลี้ยงฉลอง พบปะเพื่อนฝูง เเบบเย้ยฟ้าท้าศาล... ดูเพิ่มเติม http://www.isranews.org/investigative/investigate-news-person/item/49599-iidmdoee.html
มีเรื่องนักโทษรวยๆมาฝาก อิอิ ชอบซื้อพิซซ่าเลี้ยงเพื่อน กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ ข้องใจ และต้องการคำชี้แจงที่ชัดเจน หลังจาก “สมชาย แสวงการ” สมาชิก สนช.โพสต์เฟซบุ๊กเปิดโปงแฉข้อมูลว่า มีนักโทษคดีดังหลายรายไม่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ แต่กลับนอนโรงพยาบาล จากสาเหตุอาการป่วยคล้ายๆ กัน อาทิ “เสี่ยเปี๋ยง” อภิชาติ จันทร์สกุลพร ในคดียักยอกข้าวของรัฐ รวมถึงนักโทษในคดีธนาคารกรุงไทย, คดี กกต. และคดีทุจริตปุ๋ย โดยให้คำนิยามคนเหล่านี้ว่า คือ "นักโทษวีไอพี" นอกจากนี้ สนช.คนดังยังโยนระเบิดลูกใหญ่ว่า คนกลุ่มนี้บางคนยังไม่เคยลิ้มรสห้องขังรวมแดนไหนสักแดน เพราะทันทีที่ลงจากรถผู้ต้องขังเข้าเรือนจำก็ตรวจร่างกายและพบว่าป่วยหมดครบทุกราย โดยทุกคนแค่มีใบรับรองแพทย์อ้างว่า ป่วยนั่นนี่โน่น ตั้งแต่ความดันสูง เบาหวาน หยุดหายใจขณะหลับ หัวใจ จนถึงมะเร็ง ฯลฯ แต่ทันทีที่ก้าวพ้นจากเรือนจำมาอยู่ที่โรงพยาบาลก็สั่ง “หูฉลาม” มากินฉลองในโรงพยาบาลอย่างไม่มีความอาย จึงขอเรียกร้องให้ “บิ๊กต๊อก” พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตรวจสอบความโปร่งใสของกรมราชทัณฑ์อย่างเร่งด่วน จริงๆ แล้วชีวิต “หลังกำแพงคุก” ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมาย แม้จะถูกจำกัดอิสรภาพ แต่ทางราชการยังคงสิทธิบางอย่างให้นักโทษได้ใช้ชีวิตเกือบเป็นปกติ และถ้าจะวัดจากมาตรฐานของเรือนจำกลางคลองเปรม นอกจากการขาดอิสรภาพแล้ว ชีวิตความเป็นอยู่ของนักโทษส่วนหนึ่งก็อาจไม่ได้ยากลำบากเหมือนที่คนทั่วไปคิด โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน แม้กระทั่งอาหารและผลไม้ตามฤดูกาล ขนมหวาน หรือกระทั่งพิซซ่า ซึ่งบางครั้งคนหาเช้ากินค่ำที่อยู่ข้างนอกกำแพงคุก แทบไม่ได้มีโอกาสได้ลิ้มรสได้บ่อยครั้งนัก แต่ “พิซซ่า” ไม่ใช่สิ่งที่หายากในเรือนจำ เพราะทีมข่าว "Primetime" เคยสำรวจและไปพิจารณาเครื่องเอกซเรย์ตรวจสอบอาหารและสิ่งของของเรือนจำกลางคลองเปรม พบว่าเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่นักโทษสั่งซื้อจากภายนอกด้วย “เงิน” ที่ญาติพี่น้องฝากไว้กับเจ้าหน้าที่เรือนจำ เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางคลองเปรมเปิดเผยกับทีมข่าว Primetime ว่า “เงินของนักโทษที่ฝากไว้กับเรือนจำรวมแล้วหลายสิบล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเงินที่ญาตินักโทษนำมาฝากไว้ นักโทษสามารถขอเบิกจากเรือนจำได้วันละไม่เกิน 300 บาท เพื่อนำไปซื้ออาหาร หรือของใช้จำเป็น” ทีมข่าว Primetime ทราบมาอีกว่า แต่สำหรับ “นักโทษที่ร่ำรวยและมีบารมี” คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะสร้างบรรยากาศงานเลี้ยงให้แก่เพื่อนๆที่เป็นนักโทษได้ เพราะฉะนั้นการสั่งอาหารเพื่อเลี้ยงนักโทษทั้งแดนที่อาจจะมีมากถึง 800-1,000 คน เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เสมอ แต่มีเงื่อนไขว่า ต้องทำเรื่องร้องขออนุญาตต่อผู้บัญชาการเรือนจำล่วงหน้า "พิซซ่า” ดูจะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ เพราะสามารถสั่งได้คราวละมากๆ โดยเจ้าหน้าที่เรือนจำบอกทีมข่าว Primetime ว่า “เคยมีนักโทษที่ร่ำรวยและมากบารมี สั่งมาเลี้ยงเพื่อนครั้งเดียวถึง 400 ถาด” http://www.komchadluek.net/news/scoop/240408
เชื่อดีไหมหว่า? *********************************************************** ผอ.กองคลังราชทัณฑ์ แจงละเอียด มหากาพย์จัดซื้ออาหารดิบ “ผู้ต้องขัง” "แล้วคิดดู นี่คือ 3 มื้อต่อวัน ได้ 54 บาท แล้วจำนวนนี้รวมค่าข้าวสาร ค่าแก๊ส อาหารดิบด้วย ตัวเลขนี้กรมบัญชีกลาง เป็นผู้คำนวน และผ่านสำนักงบประมาณตรวจสอบด้วย ว่างๆ ผมจะพาเข้าไปดูที่โรงครัว ถ้ามีการทุจริต อาหารคงไม่ดีอย่างนี้หรอก เพราะเงินทุกเม็ดทุกบาททุกสตางค์ ต้องไปลงเป็นค่าอาหารทั้งหมด ไม่เช่นนั้นนักโทษจะเอาอะไรกิน" http://www.isranews.org/isranews-article/item/31123-law_31123.html
เผยแพร่เมื่อ 18 ธ.ค. 2015 เรือนจำเขาบิน 17 ธ.ค.-ผลจากการปราบปรามยาเสพติดเข้มข้นในเรือนจำเขาบิน ทำให้พบสิ่งของต้องห้าม ทั้งโทรศัพท์มือถือ ไฟแช็ก ซุกซ่อนอย่างมิดชิดผ่านของเยี่ยมต่างๆ เพื่อส่งให้ถึงมือนักโทษในเรือนจำ ทั้งนี้นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ โฆษกกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า สำหรับการปราบปรามยาเสพติดในเรือนจำ ระหว่างตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน สามารถยึดของต้องห้าม เป็นโทรศัพท์มือถือทั้งที่สกัดนอกเรือนจำ และพบภายใน รวม 6,703 เครื่อง เครื่องซิมการ์ด 1,280 อัน โดยราคาสั่งซื้อโทรศัพท์ในเรือนจำสูง 1 ล้าน 6 แสนบาท ถึง 2 ล้าน 5 แสนบาท และพบยาบ้า 24,000 เม็ด ยาไอซ์ 2,800 กรัม กัญชา 6 กรัม และมีการลงโทษทางวินัยกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับยาเสพติดในเรือนจำไล่ออก 8 ราย สอบสวน 10 ราย และสอบวินัยร้ายแรง 1 ราย.-สำนักข่าวไทย