ไม่อยากจะเชื่อว่าคนจะสามารถตอแหลและหน้าด้านได้ขนาดนี้ ทั้งอึ้ง ทั้งจะอ๊วก ถ้าไม่ใช่ช่วงเวลาแบบนี้ คนคงเอาขี้ไปปาใส่บ้าน ยังจำน้ำเสียง สีหน้า ท่าทางมันได้ติดตา ไม่มีทางที่จะลืมได้เลย ถึงตอนนี้จะเอาพระบารมีพ่อมาคุ้มหัว หน้าด้านนนน ถ้าอยู่เฉย ๆ เงียบ ๆ กลัวยอดความเกลียดจะไม่เพิ่มหรือไร
วิษณุ เครืองาม........อย่างไรก็ตาม การยืนไว้อาลัยของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่ยืนไว้อาลัยทั้งสมัชชา ตนถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเพราะเขาไม่เคยทำกับใคร http://headshot.tnews.co.th/contents/210193/
บุคคลใด.... หมิ่นในหลวง... คนจำพวกนั้น ยึดถือแต่ผลประโยชน์ส่วนตน ไม่เคยนึกถึงคนอื่นนอกจากความสุขส่วนตน... ครับ (ถึงแม้กระทำสิ่งที่ปัจจุบันกระทำ คนอื่นจะมองว่าเคารพและรักในหลวง แต่สิ่งที่กระทำในอดีต... บ่งบอกตัวตนว่าเป็นอย่างไร) ครับ
นี้ก้อต้องกลับใจ เอ๋!!! หรือจำใจ ....???? ปราชญ์ สามสี เมื่อวันเพ็ญก็"กลับหลังหัน"ตามทักษิณ ปราชญ์ สามสี ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๙ หากคุณได้อ่าน บทความพาดหัวนี้ว่า ***"เมื่อวันเพ็ญก็"กลับหลังหัน"ตามทักษิณ ***... ใช่แล้วครับ คุณตาไม่ฝาดไปจริงๆครับ เพราะ ล่าสุด วันที่๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๙ วันเพ็ญ ประกาศ "คำขอขมาต่อดวงพระวิญญาณที่เคยล่วงเกินในหลวง" ออกมาเช่นนั้นจริงๆ ส่วนจะเพราะอะไรผมจะมาวิเคราะห์ เสียงดังๆให้ฟังครับ นับว่าเป็นเรื่อง "ต่อเนื่อง" ซึ่งมีตอนจบที่หักมุม ดังเป๊าะ! เมื่อ เช้า วันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ มีประชาชนคนไทย หลายกลุ่ม ต่างบุกไปที่ บ้านของ นาง วันเพ็ญ วงษ์ทองดี จอมหมิ่นสถาบันฯ พร้อมกับความโกรธ และ ลำคาญ "ชิวาว่า"ในปากของนาง แต่ดูเหมือนว่า นาง วันเพ็ญ วงษ์ทองดี จะไม่ค่อยเป็นมิตรเสียเท่าไรก็เลยไม่เปิดให้ คนไทยเข้าไปทักทายกัน"ซะป้าบสองป้าบ" แต่นาง วันเพ็ญ วงษ์ทองดี ดูเหมือนจะไม่ยอมแพ้เพราะหลังจากนั้นก็ยังคงโพสคลิปหมิ่นสถาบันฯ อย่างต่อเนื่องแบบปากกล้าขาสั่น โดยเล่นลิ้นไปว่า "ไม่ได้ด่าในหลวงแต่เล่าความจริง(ที่โกหก)อยู่" ...จากจุดนี้ หากมีใครสังเกตุ จะเห็นว่า "นาง วันเพ็ญ วงษ์ทองดี" โลเลอย่างที่สุด เพราะ ช่วงนั้นในโลกไซเบอร์กำลังปรากฎข่าว "กี้ อริสมัน บ้านไฟไหม้ และ แสดงความจงรักภักดี" ในช่วงนั้น อีกทั้ง การที่มีข่าวโลกไซเบอร์ต่างๆแฉประวัติ ของ นาง วันเพ็ญ วงษ์ทองดี ตั้งแต่ ลูกเต้า การงานอาชีพ เบื้องหลังการเมืองรวมไปถึบความไกล้ชิตที่มีต่อทักษิณ ชินวัตร , ขบวนการล้มเจ้า และ การ สร้างกระแสกลุ่มพูโลที่นางทำอยู่ ส่งผลให้ นาง วันเพ็ญ "สติแตก" ด่ากราดหมิ่นสถาบันฯอย่างบ้าคลั่ง โดยเฉพาะ โจมดีกลุ่มผู้จงรักภักดีต่อในหลวง แต่ล่าสุด วันนี้ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๙ นางวันเพ็ญประกาศออกมาจาก ยูทูปของนางว่า "ขอขมา ต่อดวงพระวิญญาณที่เคยล่วงเกินในหลวง" เอ๊า! นึกจะสารภาพ ก็สารภาพเสียดื้ิอๆ ว่าใส่ร้ายพระองค์มาตลอด! เรื่องนี้ต้องมีเบื้องหลังแน่ครับ! สิ่งที่ผมพอจะ"ตั้งสมมุติฐานได้" คือการ ที่ "ชิวาว่า" อย่าง นาง วันเพ็ญ นั้นจะอยู่ๆกลับหลังหัน นั้นมันง่ายเกินไป เลยย้อนจับประเด็น ข่าวรอบๆให้ฟัง ครับ ๑. เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๙ ทักษิณ ประกาศ หนุน พระพุทธศาสนาหากได้กลับไป (แปลว่า ธรรมกาย/ หญิงหน่อย อาจได้รับการสนับสนุน) ๒. ทันทีที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯสวรรคต เมื่อ วันที่๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ ทักษิณ ส่ง ลูกสาว "อุ้งอิ้ง" ลงแจกข้าวแจกน้ำที่สนามหลวงในงานพระราชพิธีพระบรมศพ โดยทันที ๓. และแทบในจังหวะเดียวกัน แกนนำ นปช.ทั้งหมด ไม่มีท่าทีต่อต้าน เหมือนที่เคยทำกับในหลวงในอดีต และ เดินทางไปที่สนามหลวงในงานพระราชพิธีพระบรมศพ "เพื่อแสดงความจงรักภักดี" อย่าง งงๆ ๔."คางคกตกคาน" แต่ไม่มีส่งเสียงซะแอะ! เมื่อ จตุพรโดนถอนประกันกรณีคดีก่อการร้าย ต้องติดคุกต่อเนื่อง ก็ไม่มีเสียงของนปช.ออกมากซะแอะ! ๕.น้องสาว อย่างยิ่งลักษณ์ไกล้ถึงแตกเพราะต้องใช้หนี้กว่า 3.5 หมื่นล้านบาท ภายในสามสิบ แต่ดูเหมือนสวรรค์น้อยๆของคนเสื้อแดงจะมีทางช่วยอยู่เหลือบ้างเพื่อ ฟลุกเดอะสตาร์ออกความเห็นว่า "คนเสื้อแดงที่โหวตยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ออกตังค์ช่วยกันจนครบ3.5หมื่นล้าน" แต่ดูเหมือนว่า เสียงตอบรับจะมีแค่ จิ้งหรีดกับ อีกา ๖.กี้ อริสมัน บ้านไฟไหม้วอด เสียห้องพระไฮโซไป๑ห้อง แต่หน้าตา กี้ อริสมัน กลับ"ยิ้มแย้ม" และ มาพูดเรื่อง "ความจงรักภักดีของตน" ซะอย่างนั้น ... ซึ่งมันขัดกับสิ่งที่ กี้ อริสมัน เคยพูดไว้ ในการชุมนุมของ นปช ปี ๒๕๕๓ เกี่ยวกับ "น่ำมันคนละลิตร - กทมเป็นทะเลเพลิง - ศิริราชก็เช่นกัน" ๗. ยังรับไปถึงพวก ชนินตร์ คล้ายคลึง (ผู้พันสู้) - ภูผาเสรี และ สมาชิกขบวนการหมิ่นสถาบัน " สายทักษิณ" อีกหลายคน ที่หันกลับมา เปลี่ยนโปรไฟ " ขอน้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย." และ หยุดการหมิ่นสถาบันฯไปเสียอย่างนั้น ๘ อั้มเนโกะ ออกมาหมิ่นฯสถาบันฯ ช่วงวันแรกๆหลังเหตุการณ์ที่ในหลวงสวรรคต เมื่อ๑๓ตุลาคม๒๕๕๙ แต่หลังจากนัน้เพียงวันสองวันก็ หลบเข้ากลีบเมฆ โดยการปิดเฟสบุ๊กและมีการ แสงความขอขมา ในหลวงผ่านเฟสบุ๊กอยุ่ช่วงนึงสั้นๆ(มาก) ๙. เหลือเพียง ขบวนการณ์เยาวชนหมิ่นสถาบันฯ ซึ่งรวมไปถึง เยาวชน - เครือข่าย อาจารย์ นิติราษฎร รวมไปถึง สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ที่ ยังไม่หยุดการเคลื่อนไหวหมิ่นสถาบันฯ แต่ยังอยู่ในสภาวะ "SHOCK" จึงต้องมาฟื้นแผนล้มเจ้าอีกครั้งด้วยการกลับไปที่ การบูชา"คณะราษฎร 101" เสียใหม่ก่อน เพราะ ขบวนการล้มเจ้าในทัศนะของ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นั้น พวกขบวนการ พากันออกทะเลมานาน... เป้าหมายของคณะราษฎรที่ในอดีตเคยปล้นอำนาจจากในหลวง กลับมาล้มเหลวอีกครั้ง สมศักดิ์จึงต้องหันกลับไปเล่นเชียร์"คณะราษฎร"ที่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ง่ายเหมือนในอดีตแล้ว... ๑๐. เพจหมิ่นสถาบันฯหลายเพจ ยุติบทบาท ,เพจหมิ่นบางเพจหันไปทะเลาะกันเอง, เพจการเมืองที่หมิ่นสถาบันฯด้วยก็หลายเพจก็ ยุติบทบาท หรือ เกียร์ว่างแบบไม่มีคำตอบ เช่น เพจ"หยุดดัดจริตประเทศไทย" เมื่อคุณเห็นประเด็นโดยรอบแล้ว คุณก็จะเห็น ว่า ทักษิณ ชินวัตร เขากำลัง"กลับหลังหัน" ทั้งขบวนการ จริงๆ วึ่งหมายถึงกลับหลังหันแบบ เสมือน นปช. และเห็นการปี ๒๕๕๓ นั้นไม่เคยเกิดขึ้น... ซึ่งนี่คือการ กดปุ่ม "รีเซ็ต" ตัวเอง แบบชนิดที่ไม่ไว้หน้า พวกหมิ่นสถาบันฯสุดโต่งแต่อย่างใด ....แบบชนิดที่เรียกว่า "ต่อแพ"กันแทบไม่ทัน... ตอนใครสายทักษิณ ใครสายล้มเจ้าแท้ๆ ดูได้กันตอนนี้แหล่ะครับ งานนี้ นาง วันเพ็ญ ที่หมิ่นเจ้า" ล้ำหน้าเกิน"นายใหญ่" ก็ต้องถูก"เบรค"อย่างแน่นอน เพราะ นาง วันเพ็ญ กำลังซวยหนักที่เพราtคนไทยส่วนใหญ่จับได้แล้วว่า นาง วันเพ็ญ มันเป็นแกนนำหมิ่นสถาบันที่ใส่ร้าย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวรัชกาลที่๙มากที่สุดคนหนึ่ง และ การที่ครอบครัวของนางวันเพ็ญ ยังไกล้ชิดทักษิณ ชินวัตรมากที่สุดคนนึงในขบวนการใส่ร้ายสถาบันฯ นับว่าเป็นยิ่งทำให้ ทักษิณ ยิ่งเดือดร้อน จากการสลัดตัวออกจากขบวนการหมิ่นสถาบันฯได้ไม่ขาด การที่ นาง วันเพ็ญ แสดงออก ด้วยการขอขมาบน คลิป ยูทูปที่มีความยาวเพียง31วินาที... นับเป็นการเล่นละครที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่จะเคยมีมา แต่หากนาง วันเพ็ญ วงษ์ทองดี สำนึกผิดจริงต้องการขอขมาในหลวง ...ผมขออนุญาตแนะนำ นาง วันเพ็ญ วงษ์ทองดี กลับมาประเทศไทย กลับมากราบพระบรมศพ และมอบตัวซะครับ และซัดทอดผู้บงการด้วยครับว่าใครสั่งให้ทำ โทษหนักจะได้เป็นเบา! สุดท้ายนี้ ขบวนการล้มเจ้า จะหมดไปหรือไม่นั้น คงไม่อาจคาดเดาได้ แต่แน่นอนว่า ความขัดแย้งระหว่าง ขบวนการล้มเจ้าสายทักษิณ และ สายลิเบอร่าน(นิติราษฏร) ส่งผลให้เกิดการแยกในการเมืองในอนาคตอย่างแน่นอน และถ้าจะขอได้ ผมคงขอให้ทุกคนอย่าลืม คนที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร และอย่าลืมในสิ่งที่เขาได้ทำอะไรกับบ้านนี้ เมืองนี้ ประเทศนี้ ... ที่จริงเหตุการณ์นี้ ทำให้ผม นึกถึงสมัย หลังปี ๒๔๗๕ ไม่น้อย เมื่อ จอมพล ป. แตกหัก กับ นาย ปรีดี สุดท้าย ก็ไม่ได้ตายดีซะคน ------------------------------------------ ปล.คุณสามารถ ตามอ่าน บทความที่เกี่ยวข้องได้ ตามลิ้งค์นี้ ๑.เมื่อทักษิณ "กลับหลังหัน" ปราชญ์ สามสี เขียน ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๙ ๒."วันเพ็ญของทักษิณ" ปราชญ์ สามสี ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๙ ๓."การล่มสลายของสายปฎิวัติและจุดเริ่มต้นของ กบฎเยาวชน - youth Rebel" เขียนโดย ปราชญ์ สามสี ๔ ตุลาคม ๒๕๕๙
จากการกลับสีของจิ้งจก และการกลับตัวของตัวเหี้-ยทั้งหลายในครั้งนี้ ผมว่าพวกมันต้องมีแผนอะไรสักอย่าง ในรัชกาลต่อไป เพราะดูการกระทำของแต่ละตัวแล้ว มองมันไม่ผิดแน่ คอยจับตาพวกมันให้ดี
คือก็ไม่ได้โกรธไม่ได้เกลียดอะไรกับพี่กี๊แกหรอกนะครับ แต่ถ้าบ้านแกโดนไฟไหม้ต่อหน้าต่อตา แล้วผมมีน้ำอยู่ 1 ถัง ผมเลือกเทน้ำทิ้งลงพื้นแค่นั้นละครับ
‘กี้ร์’ยันไม่เคยพูดช่วยพี่อิทแล้วต้องช่วยยันลูก-เมียเลยหรือ เสียใจวลีแย่ๆ ฝังหัวหลาน วันที่: 29 ต.ค. 59 เวลา: 16:00 น จากกรณีที่ลูกแก้ว ญาดา ลูกสาวคนโตของ “อิทธิ พลางกูร” นักร้อง, นักดนตรี และโปรดิวเซอร์เพลงชื่อดัง ซึ่งเสียชีวิตจากโรคมะเร็งในลำไส้ใหญ่เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2547 ในวัยเพียง 49 ปี โพสต์ข้อความถึงกี้ร์-อริสมันต์ เมื่อครั้งเคยร่วมงานกับพ่อ โดยพูดเรื่องคำพูดแง่ลบที่เคยพูดไว้กับครอบครัว ล่าสุดวันนี้ กี้ร์-อริสมันต์โพสต์ข้อความตอบกลับในเพจ อริสมันต์ พงศ์เรืองรองแฟนคลับ ว่า จากอากี้ร์ ถึงหลานสาว น้องลูกแก้ว (ลูกสาวพี่อิทธิ) มีรายละเอียดดังนี้ คำพูดที่เด็กพูด อาจจะพูดแบบเด็ก ความคิดก็ยังเด็ก เพราะความที่เขาไม่รู้เรื่องว่า มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง และที่สำคัญ ผมไม่เคยปฏิเสธความช่วยเหลือพี่อิทและครอบครัวเลย จนนาทีสุดท้าย ที่ผมกับพี่เต้ง ต้องขอร้องบริษัทอาร์เอส ให้โอกาสสุดท้าย กับคนที่มีพระคุณกับผม ขอให้พี่อิท ได้มีโอกาสกลับมาทำอัลบั้มชุดและจัดคอนเสิร์ตให้ มีน้องทุกคนมาช่วยกัน พวกเรามีความหวังว่า พี่เขาจะหายจากโรคร้าย ถึงผมจะช่วยสักเท่าไหร่ มันก็ไม่เท่ากับที่แฟนๆ ของพี่อิทช่วยหรอกครับ โรคนี้ กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญมาก เราจึงขอเฮียช่วย เพราะเฮียสามารถช่วยได้ดีกว่าใครๆ ทุกคน ต่อจากนั้น ผมจำได้ว่า หลานเคยต้องการจะเป็นศิลปิน ผมก็พยายามดันเต็มที่ แต่ไม่สำเร็จ เราก็ผิดหวัง จากวันนั้นมาเราก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ผมได้ถามไถ่กับพี่เต้งเสมอว่า ลูกๆ พี่อิทเป็นอย่างไรบ้าง เขาบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง เขาสบายดี ตอนนั้นผมก็ไม่ได้ร้องเพลงแล้ว ผมรู้สึกแย่ที่ไม่สามารถช่วยให้หลานเป็นศิลปินได้ แต่ผมสามารถช่วยด้านอื่นได้นะ แต่ดูเหมือนว่าพี่เจี๊ยบไม่ค่อยพอใจ ความจริงลึกๆ ครอบครัวพี่อิทธิไม่เคยขอความช่วยเหลืออะไรจากผมเลย ผมช่วยด้วยใจ ด้วยความรัก และผมก็ไม่เคยใช้คำพูดว่า “ผมช่วยพี่อิทแล้วผมยังต้องช่วยถึงลูกถึงภรรยาอีกหรือ” ผมว่านี่ไม่ใช่สำเนียงของผม ไม่ใช่คำพูดของผมอย่างแน่นอน มีคนที่ผมไม่รู้จักมากมายที่ผมให้ความช่วยเหลือ ถ้าเป็นครอบครัวของพี่อิทลำบาก ทำไมผมจะช่วยเหลือไม่ได้ ถ้าวันนี้เราติดต่อกัน เราคงได้ทำงานบางอย่างด้วยกัน ผมเสียใจที่วลีแย่ๆ แบบนั้นไปติดฝังในสมองของหลาน ผมไม่เคยรู้เลยว่า พี่เจี๊ยบไม่พอใจผมเรื่องอะไร อย่างไรก็ดี ผมไม่คิดโกรธ เพราะที่ผ่านมา ผมได้รับสิ่งดีๆ มากมาย ตลอดชีวิตของผม ไม่เคยลืมพระคุณพี่อิทเลย ขอกราบขอบคุณอีกครั้ง อริสมันต์
จากประโยค " ถ้าวันนี้เราติดต่อกัน เราคงได้ทำงานบางอย่างด้วยกัน " หวังว่าไอ้กี้คงไม่ชักจูงหลานไปทำความระยำให้ประเทศอึกนะ
แล้วไอ้คำว่า “งานบางอย่าง” เนี่ย มันก็ฟังดูมีลับลมคมในไม่ชอบมาพากลอย่างบอกไม่ถูกเลย ว่ามั้ย เพราะสำหรับคนตลบแตลงกลับไปกลับมาอย่างไอ้กี้นั้น เชื่อใจไม่ได้ค่ะ
พยายามสร้างภาพว่าไม่ได้อยู่ฝ่ายล้มเจ้า มีแต่ความภักดี เพราะกลัวว่ากระแสแรงๆภายใต้สถานะการณ์แบบนี้ ไม่เป็นผลดีต่อตัวเองและต่อการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น เลยออกมากลับลำโหนความภัักดี สั่งลูกกระจ๊อกหุบปากเงียบกริบ สร้างภาพสร้างเรื่อง เพื่อหวังผลในอนาคตหลายเรื่อง เพราะรู้ว่าคนไทยลืมง่าย ขี้สงสาร ให้อภัยพวกกลับตัวกลับใจ
ไอ่ตัดแปะเนี่ย มันได้อ่านที่มันแปะไหม... ในพันทิพย์ด่าไอ่อมฮออล์สามสิบกว่าคน สนับสนุนไอ่อมฮออล์ สี่ห้าคน... หุหุหุหุ
แปะเฉย ๆ วันนี้ (21 เม.ย.) ที่ห้องพิจารณา 814 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา 09.00 น. ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำที่ อ.4177/2552 ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง อดีตแกนนำ นปช. เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 กรณีเมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2552 และวันที่ 17 ต.ค. 2552 จำเลยได้ปราศรัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และหน้าทำเนียบรัฐบาล มีการถ่ายทอดสดผ่านช่องพีเพิลแชนแนล กล่าวหานายอภิสิทธิ์ โจทก์ ทำนองว่าการบริหารงานของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์กู้ยืมเงินมาเพื่อทุจริตคดโกง มีการหยิบยกเรื่องสถาบันฯ มากล่าวอ้าง และกล่าวหาว่าเป็นผู้หน่วงเหนี่ยวคำร้องฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้ล่าช้า รวมถึงสั่งทหารฆ่าประชาชน ปล้นอำนาจจากประชาชน และไม่ดำเนินการตรวจสอบการทุจริตในโครงการต่างๆ ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนให้จำคุกนายอริสมันต์ รวม 2 กระทงๆ ละ 6 เดือน เป็นจำคุก 12 เดือน แต่การกระทำนั้นมีเหตุการณ์ที่กล่าวพาดพิงสถาบันด้วยศาล จึงไม่มีเหตุรอการลงโทษ และให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาใน นสพ.มติชน กับเดลินิวส์ ติดต่อกัน 7 วันโดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าโฆษณา ซึ่งนายอริสมันต์ จำเลยได้ยื่นฎีกาสู้คดี อย่างไรก็ดี วันนี้เป็นการอ่านคำพิพากษาให้ฝ่ายโจทก์ฟัง หลังจากที่ศาลอาญาส่งคำพิพากษาฎีกาคดีนี้ให้ศาลจังหวัดพัทยาได้อ่านให้นายอริสมันต์ จำเลยฟังไปก่อนแล้ว เนื่องจากนายอริสมันต์ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษ คดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ตัดสินจำคุก 4 ปีจากการชุมนุมบุกเข้าไปในโรงแรมรอยัล คลิฟบีช รีสอร์ท เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ถ้อยคำปราศรัยของจำเลยได้กล่าวถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะโดยตรง มีคำปราศรัยว่าโจทก์จิตใจเลวทรามต่ำช้า ไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เป็นการใส่ความโจทก์โดยนำสถาบันเบื้องสูงมาเกี่ยวข้อง ทั้งยังเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ยิ่งกว่าถูกใส่ความอย่างอื่น ที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกจำเลยโดยไม่รอลงอาญานั้นเหมาะสมแล้ว ฎีกาสู้คดีของจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนตามอุทธรณ์ ด้านนายศุชัยวุธ ชาวสวนกล้วย ทนายความของนายอริสมันต์ ให้สัมภาษณ์ว่า คดีนี้ศาลจังหวัดพัทยาได้อ่านผลคำพิพากษาคดีหมิ่นประมาทฯ นี้ให้นายอริสมันต์รับทราบแล้วตั้งแต่ก่อนสงกรานต์ ขณะนี้เจ้าตัวก็ถูกคุมขังในเรือนจำพัทยาเนื่องจากยังไม่ได้ประกันตัวระหว่างการยื่นฎีกาคดีคลิฟบีช ซึ่งได้ยื่นฎีกาต่อสู้คดีคลิฟบีชแล้ว และนายอริสมันต์จะต้องรับโทษตามคำพิพากษาฎีกาคดีหมิ่นประมาทฯ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะด้วย http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9600000040280 ยาววววววววววว ไปปปปปปปปปปปปปปปปปป