//www.facebook.com/boom.choksupat/posts/1652899878089910 Boom Choksupat ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 2 ภาพ — ใน หางโจว 20 สิงหาคม เวลา 11:17 น. · จากเรื่อง Jack Ma เปิด Smart Supermarket ...เมื่อคุณป้าท่านนึง ณ เมืองหางโจว (ใกล้เซี่ยงไฮ้) ตอบคำถามนักข่าว คุณป้าก็ดังขึ้นมาทันทีในชั่ว..ข้ามคืน นักข่าว : Jack Ma เปิด Smart Supermarket แบบไร้คน คุณป้าคิดว่ายังไงครับ? คุณป้า : หา? Super ไร้คน แล้วทำไมไม่ปิดไปซะละ ไม่มีคน? นักข่าว : คุณป้าครับ ความหมายคือ ไม่มีพนักงาน คนเก็บเงินอะไรพวกนี้หนะครับ คุณป้า : งั้นก็ต้องเรียก Supermarket ไร้พนักงานซิ เห้อ! ไม่รู้พวกเธอเป็นนักข่าวกันได้ยังไง ระดับความรู้ภาษาแบบนี้ นักข่าว : ครับๆ แล้วคุณป้าคิดเห็นยังไงกับ Supermarket ไร้พนักงานครับ? คุณป้า : Supermarketไม่ต้องจ้างพนักงานแล้ว ราคาสินค้าถูกลงหรือเปล่า? นักข่าว : คือเรื่องนี้เราไม่แน่ใจครับ คุณป้า : เอ้า พวกเธอเป็นนักข่าวได้ยังไง ปัญหาของประชาชนไม่ไปใส่ใจ วันๆ สนใจแต่ว่า Jack Ma จะเล่นแร่แปรธาตุอะไร เรื่องที่คนสนใจคืออะไร? คือมีของปลอมไหม ราคาถูกลงหรือเปล่า ส่วนเรื่อง Supermarket จะมีพนักงานหรือเปล่ามันไม่ได้เกี่ยวกับฉันเลย! นักข่าว : คุณป้าไม่คิดว่าการเกิดขึ้นของ Supermarket แบบไร้พนักงาน จะเปลี่ยนแปลงวิธีการจับจ่ายสินค้าแบบเดิมๆได้เหรอครับ คุณป้า : เปลี่ยนอะไรล่ะ? ซื้อของจ่ายตังค์อ่ะหรอ? ใช้ Alipay จ่าย ก็ใช้ตังค์ฉันจ่ายไม่ใช่หรอ นักข่าว : ผมคิดว่าคุณป้าคงยังไม่ค่อยเข้าใจเทรนด์ที่เปลี่ยนไปของยุคสมัย คุณป้า : นี่ แค่ทำให้Supermarket ไม่มีพนักงานก็คือเทรนด์ที่พัฒนาแล้วหรอ แค่เอาพนักงานระดับล่างออกก็เก่งแล้วเหรอ? ถ้าเก่งจริงก็ทำ Supermarket ที่ไม่มีเจ้าของสิ หรือทำหน่วยงานรัฐที่ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่รัฐ นักข่าว : ไม่ทราบว่าคุณป้ามีปัญหาอะไรกับ Jack Ma หรือเปล่าครับ? คุณป้า : ฉันไม่ได้มีปัญหาอะไรกับ Jack Ma แต่ฉันคิดว่านักข่าวไร้สาระอย่างพวกเธอถามคำถามที่ไม่ตรงจุด Jack Ma เปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเรา แต่มันไม่ควรจะเป็นแค่การเปลี่ยนแปลง สิ่งที่เราต้องการคือการเปลี่ยนแปลงที่มาพร้อมกับความสุข ตอนนี้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมันไม่ได้ทำให้เรามีความสุข แต่กลับเพิ่มความยุ่งยากมากมาย สิ่งนี้ต่างหากที่นักข่าวอย่างพวกเธอควรจะให้ความสนใจ นักข่าว : มึนตึ้บ... คุณป้าน่าจะจบสูงมาก ถึงตอบคำถามนักข่าวได้เก่งขนาดนี้ เงิบเลยทีเดียวนักข่าว 555 ชอบๆๆ ปล. รูปป้าข้างล่างเป็นรูปที่ยกมาจากเว็บต้นทาง ตรวจสอบแล้วไม่ใช่คุณป้าที่ให้สัมภาษณ์จ้า ถือซะว่าเป็นภาพประกอบ แบบหน้าซองขนมถุง 555 ขอบคุณผู้คอมเมนต์ทุกท่านคะ Credit : 金融头条 แปล : mangu86 (Boom Choksupa cr: Suvinit Aum Pornnavalaihttps: --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ไม่ทราบเนี้อเรื่องจริง อ่านเอาหลักคิดพอครับ
How the Dutch Reach Could Save Lives Outside Suvinit Aum Pornnavalai Dutch reach คือการเปิดประตูรถด้วยมือข้างที่อยู่ไกลประตู เพื่อให้ตัวต้องเอี้ยวไปมองข้างหลังป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการเปิดประตูได้ ที่เนเธอร์แลนด์เป็นหลักสูตรอยู่ใน รร สอนขับรถยนต์ น่าสนใจนะครับ เพราะอุบัติเหตุ แบบนี้เกิดบ่อยมาก
ผู้สาวขาเลาะ ภาษาอังกฤษ English Cover Version ลำไย ไหทองคำ by ดร.พี่นุ้ย nuienglish ขำๆ แต่แปลได้ดีครับ
ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ มีพระนามเต็มว่า ไดอานา ฟรานเซส สกุลเดิม สเปนเซอร์ ประสูติ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2504 — สิ้นพระชนม์ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2540 Lady Diana - Candle in the wind (Goodbye Englands rose) - Elton John - Lyrics in text In the loving memory of Lady Diana Song: Candle in the wind (Goodbye Englands rose)… YOUTUBE.COM วันที่ฉลองพระราชพิธีอภิเษกสมรสระหว่างเลดี้ไดอานา สเปนเซอร์และเจ้าชายแห่งเวลส์ ก็เป็นเวลาที่ชีวิตผม ได้เริ่มเดินทางเพื่อดูโลกกว้าง...เพียงลำพัง นานแสนนาน
Jimmy Nelson: Before They Pass Away ===========================… YOUTUBE.COM 一条 Yitiao ก่อนที่เวลาจะกลืนกินวัฒนธรรมประเพณี ชนเผ่าเหล่านี้ไป
ตลก 6 ฉาก รักแท้ไม่ได้แพ้ใกล้ชิด บางทีก็แพ้บัตรเครดิตด้วยเหมือนกัน #ตลกหกฉาก ขำๆนะครับ การแสดงของเด็กเดียวนี้ โอเคมาก
Veeraporn Nitipraphaติดตาม เมื่อวานนี้ เวลา 11:04 น. · รูปอักษรภาษาไทยเก่าที่สุดที่ถูกพบในโลกตะวันตก The oldest example of Thai script printed in Europe Formal relations between Great Britain and Thailand were established in 1612 when a letter from James I to the Thai King Songtham travelled on the ship The Globe via Patani in the Gulf of Siam, and finally arrived in the capital Ayutthaya in August or September 1612. Following this, permission was given to British merchants to trade in Siam, and subsequently to explore trading opportunities in the northern Thai kingdom of Lanna, which had been visited in 1587 by the adventurer Ralph Fitch, the first Englishman known to have set foot in Thailand. In January 1684, during the reign of the pro-foreign King Narai, an embassy from Ayutthaya set sail for France via Great Britain. The ambassadors Khun Phichai Walit and Khun Phichit Maitri were accompanied by the missionary Bénigne Vachet, who spoke Thai. They met Charles II on 26 September 1684. The 17th-century writer, thinker and bibliophile John Evelyn noted in his diary: "26th of September [1684]. There was now an ambassador from the King of Siam, in the East Indies, to His Majesty" (Evelyn 1955: 4.388). On this occasion a manuscript Thai syllabary with numerals, with Romanised equivalents, all written in a sloping hand, was presented to Charles II. Detail of the first page of a handwritten syllabary listing the Thai consonants (first three lines) and some vowels (bottom line) with Romanised equivalents, circa 1684. British Library, Reg.16.B.IV, f.1 The scribe of the document is not mentioned – perhaps it was compiled by one or both Thai ambassadors working together with Bénigne Vachet. It can be assumed that its purpose was to further written communications between Great Britain and Siam. However, British trading activities in the Thai kingdom came to an abrupt end with the Siamese revolution and the overthrow of King Narai in 1688. Detail of the third page of the Thai syllabary listing certain syllables and numerals at the bottom, circa 1684. British Library, Reg.16.B.IV, f.3 The Thai syllabary passed into the possession of Thomas Hyde (1636-1703), the king's translator. Hyde was a Cambridge-educated Orientalist, who became Hebrew Reader at Oxford in 1658, and was appointed librarian-in-chief of the Bodleian Library in 1665. He had a strong interest in Asian languages and was well known for his knowledge of Arabic, Hebrew, Malay, Persian, Syriac and Turkish. After Hyde's death in 1703 the syllabary was one of many Oriental manuscripts purchased from his estate for the Royal Collection, and is listed in a catalogue as 'The Syam Alphabet, with their numbers' (Casley 1734: 248). The syllabary then remained in the Royal Collection until 1757, when George II gave the library to the British Museum which had been established four years earlier following the bequest of Sir Hans Sloane’s collection to George II for the nation. The approximately 2000 manuscripts and 9000 printed books of the Royal Collection are now held at the British Library. Front cover of a volume containing various engraved prints from copper plates of the Thai, Sinhalese and Tatar alphabets, and Chinese numbers, weights and measures, bound with a British Museum red leather binding. British Library, Or.70.bb.9 Hyde appears to have commissioned a copper-plate engraving of this handwritten Thai syllabary from Michael Burghers (1647/8 – 1727), a Dutch engraver who resided at Oxford for most of his life, and who was the printer used by Thomas Hyde for most of his experiments with typography. Burghers worked mainly for the university and booksellers, but was also employed by the English aristocracy. Although Burghers produced numerous portraits of scholars and aristocrats, including one of Charles II, he became known best for his engravings of antiquities, artefacts and ruins. In a letter of 19 April 1700 to Thomas Bowrey, compiler of the first Malay-English dictionary, Hyde states that he is sending him copper-plates of two Siamese and one Sinhalese alphabets, for which the engraver had charged £5 (British Library, MSS Eur E 192). Hyde's own copy of the two-page print of the Thai syllabary was also acquired for the Royal Collection, and entered the British Museum in 1757. Here it was bound in red leather together with prints of the Sinhalese and Tatar alphabets, Chinese numbers, weights, measures, directions etc., all engraved by Burghers. Each of the prints is marked with “MBurg. sculp.” in the right bottom corner. The prints were first published in a collection of Hyde’s works, edited by Gregory Sharpe, with the title Syntagma dissertationum quas olim auctor doctissimus S.T.P. separatim edidit (Oxford, 1767). Engraving of the Thai alphabet and syllables, based on the handwritten syllabary presented to Charles II in 1684. British Library, Or.70.bb.9, f.8 Detail of Michael Burghers‘ copper print of the Thai syllabary with Romanised equivalents, and with numbers at the bottom, 1700. In the right bottom corner, Burghers signed his work: „Mburg. sculp.“ British Library, Or.70.bb.9, f.9 Burghers' work, which can now be dated to 1700, is the oldest known example of Thai script printed in the West. Older Chinese woodblock prints of Thai script were produced at the end of the 16th century as a part of multi-language vocabularies, known as Hua Yi Yi Yu, after a section for the Thai language was established at the translators’ institute of the Ming government in 1579. http://blogs.bl.uk/asian-and-africa...example-of-thai-script-printed-in-europe.html
เด็กสาวจีนสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ พาพ่อป่วยทางสมองมาดูแลที่หอพักด้วย Facebook Messenger Whatsapp TNA 23 ก.ย. 2017 11:37:00 จีน 23 ก.ย.-สื่อมวลชนจีนนำเสนอเรื่องราวของเด็กสาวกตัญญูสอบเข้ามหาวิทยาลัยเรียนปี 1 ได้ แต่ต้องดูแลพ่อที่ป่วยจากอาการทางสมอง มหาวิทยาลัยจึงอนุญาตพิเศษให้พาพ่อมาพักหอพักมหาวิทยาลัยได้ด้วยฟรี นักศึกษาสาวปี 1 ของมหาวิทยาลัยหัวจง เมืองอู๋ฮั่น มลฑลหูเป่ย์ ชื่อ น.ส.เฉิน ได้รับอนุญาตพิเศษจากมหาวิทยาลัยให้พักอาศัยหอพักฟรี ร่วมกับบิดาของเธอ ซึ่งเป็นผู้ป่วยอาการทางสมอง น.ส.เฉิน สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้ว แต่เธอมีปัญหาต้องดูแลบิดาที่ป่วยพิการทางสมอง ขณะที่มารดาเสียชีวิต และเธอก็ไม่มีพี่น้อง ทำให้มหาวิทยาลัยอนุญาตพิเศษ เธอจึงได้เรียนหนังสือพร้อมกับได้ดูแลบิดา โดยบิดาของเธออยากให้ลูกสาวเรียนสำเร็จ และได้เป็นครูสมความตั้งใจ เธอจะได้ใช้ความรู้และความเมตตาปราณีสอนอบรมเด็กๆ ต่อไป ซึ่งช่วงเวลานั้นเธอจะได้มีอิสระได้พบปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ มากขึ้นกว่าช่วงเวลานี้ ผมว่าคุณธรรมค่ำจุนโลก เป็นเรื่องรับทราบแล้วอิ่มอกอิ่มใจ ทำให้จิตใจคนเราอ่อนโยนขึ้น ทางรัฐบาลความนำเรื่องความโอบอ้อมอารีต่อกันนี้มีเผยแพร่มากๆ เพื่อคนยุคนี้จะได้จิตสำนึกที่ไม่โหดและเลวร้ายอย่างที่เป็นอยู่ .. เรื่องนี้น่าชื่นชมทางมหาวิทยาลัยมากครับ http://www.tnamcot.com/view/59c60f1de3f8e48a72404558
ไทยครองอันดับ 3 "ประเทศที่ทำรายได้จากการท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก" ประจำปี 2017 1. สหรัฐอเมริกา (205.9 Billion US$) 2. สเปน (60.3 Billion US$) 3. ไทย (49.9 Billion US$) 4. จีน (44.4 Billion US$) 5. ฝรั่งเศส (42.5 Billion US$) 6. อิตาลี (40.2 Billion US$) 7. สหราชอาณาจักร (39.6 Billion US$) 8. เยอรมนี (37.4 Billion US$) 9. ฮ่องกง (32.9 Billion US$) 10. ออสเตรเลีย (32.4 Billion US$) องค์กรการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (World Tourism Organization) เผยรายงานจำนวนนักเที่ยวทั่วโลกล่าสุดประจำปี 2016- 2017 พบว่าประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมากที่สุด อันดับ 9 ของโลก จำนวน 32.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.9 % จากปีที่แล้ว และมีรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าประเทศมากถึง 1.65 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 14.7 % ซึ่งขยับจากอันดับ 5 ในปีที่แล้ว ขึ้นมาอยู่ที่อับดับ 3 ประเทศที่ทำรายได้จากการท่องเที่ยวมากที่สุดในโลกประจำปีนี้ เรื่องนี้ในเว็บพันทิป มีกระทู้หนึ่งที่ติชม - ชื่นชมประเทศไทยตามปรกติ แต่อีกกระทู้หนึ่งดราม่ากันน่าดูกับพวก "ชังชาติ อิอิ https://pantip.com/topic/36904510 https://pantip.com/topic/36904481
Noodle Shop in Thai village | Thai Street Food ร้านหยุดบ่อย | Asian Taste Asian Taste หัวใจหยุดบ่อยเหมือนกันนะ เมื่อฺเห็นหน้าเธอBruna Silva
น่ารัก เจ้าชายแฮร์รี่จะทำอย่างไร เมื่อจับได้ว่า มีคนแอบหยิบป๊อบคอร์นตอนเผลอ ODN Sneaky toddler steals Prince Harry's popcorn เจ้าชายน้อยผมแดง เดียวนี้เป็นหนุ่มใหญ่มากแล้ว
เจ้าชายแฮร์รี ทรงตอกย้ำสัมพันธ์รักกับ น.ส.เมแกน มาร์เคิล นักแสดงสาวชื่อดังชาวอเมริกัน ด้วยการเดินจูงมือกันไปชมการแข่งขันกีฬาอินวิคตัสเกมส์ ในนครโทรอนโตของแคนาดา ให้สาธารณชนเห็นอย่างเปิดเผยเป็นครั้งแรก ความสัมพันธ์ระหว่าง เจ้าชายแฮร์รี พระชันษา 33 ปี กับ น.ส.มาร์เคิล นักแสดงสาววัย 36 ปี เริ่มเป็นที่รับรู้ของสังคมเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว เมื่อ เจ้าชายแฮร์รีทรงยืนยันว่ากำลังคบหาดูใจอยู่กับ น.ส.มาร์เคิล และทรงตำหนิสื่อมวลชนที่ "ข่มเหงรังแกและคุกคาม" แฟนสาวของพระองค์ เมื่อไม่นานมานี้ น.ส.มาร์เคิล ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับนิตยสารวานิตี้แฟร์ถึงความสัมพันธ์กับเจ้าชายแฮร์รี ว่า "เราคือคนสองคนที่มีความรักและมีความสุขมาก" http://www.bbc.com/thai/international-41398977 26 กันยายน 2017
ไม่ได้ฟังเธอนานละ แล้วไม่อาจจะได้ฟังเธอแสดงสดอีกแล้ว ชอบตั้งแต่เพลงแรก และก็คือเพลงนี้ Saving All My Love For You 1985 whitneyhoustonVEVO
3D Projection Mapping ธ สถิตในดวงใจไทยนิรันดร์ Forever in Our Hearts, Forever Our King tobehive ST ภาพยนตร์เทิดพระเกียรติ และผลงานวิจิตรศิลป์โดยศิลปินชั้นครู ณ นิทรรศการ “ธ สถิตในดวงใจไทยนิรันดร์” บนพื้นที่กว่า 3,500 ตารางเมตร ณ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม ( สถานีรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ )
"จุ้ยโฮ่วอีเยี่ย(最后一夜)" 踩不完恼人舞步cai3 ไฉ่ปู้หวานเหน่าเเหรินอู่ปู้ ท่าร่างของความทุกข์ ย่ำเหยียบไปไม่เคยหมด 喝不尽醉人醇酒 เฮอปู๋จิ้นจุ้ยเหรินฉุนจิ่ว สุราแรงชวนเมามายดื่มเท่าไรไม่มีสิ้น 良夜有谁为我留 เหลียงเยี่ยโหย่วเสยเว่ยหวั่วหลิว ค่ำคืนงดงามนี้ ผู้ใดจะรั้งอยู่เพื่อฉัน 耳边语轻柔 เอ่อร์เปียนอี่ว์ชองโหรว กระซิบคำแผ่วเบาริมหู 走不完红男绿女 โจ่วปู้หวานหงหนานลี่ว์หนี่ว์ หนุ่มสาวในชุดงามเดินไปมาไม่มีหยุด 看不尽人海沉浮 คั่นปู๋จิ้นเหรินไห่เฉินฝู คลื่นทะเลคนมองไปไม่สุดสิ้น 往事有谁为我诉 หวั่งซื่อโหย่วเสยเว่ยหวั่วซู่ ผู้ใดสามารถพูดคุยเรื่องในวันวานกับฉัน 空对华灯愁 คงตุ้ยหวาเติงโฉว เหม่อมองโคมไฟหลากสี ในใจรวดร้าว *我也曾陶醉在两情相悦 หวั่วเหยี่ยเฉิงเถาจุ้ยไจ้เหลี่ยงฉิงเซียงเย่ว์ ฉันเคยดื่มด่ำในความรักสุขสม 像飞舞中的彩蝶 เซี่ยงเฟยอู่จงเตอไฉ่เตี๋ย ดั่งผีเสื้อที่โบยบินร่ายรำ 我也曾心碎于黯然离别 หวั่วเหยี่ยเฉิงซินซุ่ยอี่ว์อั้นหรานหลีเปี๋ย ฉันเคยใจสลายเนื่องเพราะพรากจาก 哭倒在露湿台阶 คูเต้าไจ้ลู่ซือไถเจีย ทรุดตัวร้องไห้บนบันไดชุ่มโชก 红灯将灭酒也醒 หงเติงเจียงเมี่ยจิ่วเหยี่ยสิง โคมไฟใกล้มอด คนสร่างฤทธิ์สุรา 此刻该向它告别 ฉื่อเค่อไกเซี่ยงทาเก้าเปี๋ย ยามนี้ คงต้องบอกลาเสียที 曲终人散回头一瞥 ฉี่ว์จงเหรินซั่นหุยโถวอี้เพีย เพลงจบ คนจาก ปราดมองเพียงครั้ง 嗯 ... 最后一夜!** เอิน...จุ้ยโฮ่วอีเยี่ย โอ...นี่เป็นค่ำคืนสุดท้าย https://mgronline.com/china/detail/9600000103815
Thai PBS ชาวกาญจนบุรี ร่วมใจกันปลูก "ต้นดาวเรือง" กว่า 450,000 ต้น โดยจัดเรียงเป็นเลขเก้าไทย ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
http://www.tnamcot.com/view/59f356a5e3f8e40adf8e4e58 อีกด้านหนึ่งของเหรียญ ที่เอาแต่ฟ้องด้วยภาพ หาจุดผิดเพื่อสร้างประเด็น แต่ไม่ยืนดูต่ออืกสักนิด (หรือดูและเห็นการแก้ไข) ซึ่งในอีกไม่แค่กี่นาที ที่ปัญหาก็ถูกแก้ไขด้วยบุคคลที่มีหน้าที่รักษาความสะอาด ให้กลับเข้าสู้สภาวะปกติ แต่ไม่โพสต์กล่าวชมเจ้าหน้าที่เลยสักนิด คอยเฝ้าหาจับผิดแต่เรื่องไม่ดีมาโฟสต์อวดกันเท่านั้น
นี่แหละหนา ..ยุคสมัยของ “นักเลงคีย์บอร์ด” ที่เก่งแต่ด่าลับหลัง พอต่อหน้าก็จ๋อย และมักจะพูดมากกว่าทำ ไม่เคยมองประเทศแง่บวก พวกชังชาติคือพวกเขาหละ
Sirisak Borisutsawat 12 ชม. · เทศบาลนครเชียงใหม่ · ตอบอีป้า...ดอก...!!! copyเม้นคุณ Eve Eveleigh มาให้อ่านกันค่ะ เขียนได้ดีสะใจคนอ่านมาก If you travel to Thailand a lot, then you know that Thais are one of themost tolerant and friendliest people on earth. Every place has a dress code even when you want to eat at the restaurant. If you do not follow the dress code, you will be asked to leave. It's simple. Your wife is a Thai and she is not a young teenager who knows little about social etiquette. She knows very well what the dress code for the King's funeral is. Hence, when she turned up dressing like going to a horse racing club, it points out to her only intention - to cause a disruption. You are a respectable journalist who has a Thai wife and been to Thailand. So, you must have known that during the time of the king's passing, every Thais -red, yellow, multi colour or neutral set their differences aside and mourn their beloved king. Everyone dresses appropriately and respectfully. In the clip, your wife was offered a jacket to cover herself so she can still attend the funeral. She refused. Instead, she kept on arguing with the volunteer. Where's the manner? I am disappointed in your wife for making Thais in America society a bad name. Living in a free country does not mean you can do whatever you like. Freedom comes with duty, responsibility and more importantly respect for others. Your wife exercised her rights to dress as she pleases. The Thai community also has the rights to ask her to leave when she disrespected them. Nothing to compare to the Nazi here. It is shocking to find the article written by a professional journalist like yourself to be so bias, dramatize and profoundly unethical. Your wife is NOT a victim here. The Thais in America society that you unfairly branded a 'Nazi' is. I see no hope in winning a Pulitzer award for you. However, an Oscar for screenwriting is hopeful. ตอบอีป้า...ดอก...!!! copyเม้นคุณ Eve Eveleigh มาให้อ่านกันค่ะ เขียนได้ดีสะใจคนอ่านมาก ถ้าคุณเดินทางไปเมืองไทยบ่อยคุณก็รู้ว่าคนไทยเป็นหนึ่งในคนที่อดทนที่สุดและเป็นมิตรที่สุดในโลก ทุกสถานที่มีชุดกำหนด เช่นเมื่อคุณต้องการทานอาหารที่ร้านอาหาร ถ้าคุณไม่ทำตามชุดโค้ดที่เขากำหนด คุณจะถูกเชิญขอให้ไปจากที่นี่ มันง่ายมากที่จะเข้าใจ ภรรยาของคุณเป็นคนไทยและเธอไม่ได้เป็นวัยรุ่น ที่จะไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับมารยาททางสังคม เธอรู้ดีว่าชุดเฉพาะสำหรับงานพระศพนี้ควรจะแต่งตัวอย่างไร แต่เมื่อเธอคิดจะแต่งตัวเหมือนจะไปสนามแข่งม้า มันเห็นชัดในเจตนาว่าจะไปรบกวนและตั้งใจไปสร้างสถานะการ คุณเป็นนักข่าวที่น่านับถือ ที่มีภรรยาคนไทยและเคยไปเมืองไทย ดังนั้นคุณต้องรู้ว่าระหว่างช่วงเวลางานพระศพ คนไทยทุกคน, สีแดง, สีเหลือง, สีหลายสี ต่างลืมความแตกต่างออกไป และไว้อาลัยแด่กษัตริย์อันเป็นที่รักของพวกเขา. ทุกคนต้องแต่งตัวให้เหมาะสมและสุภาพด้วย ในคลิปภรรยาของคุณได้ถูกเสนอแจ็คเก็ตที่สุภาพเพื่อปกปิดตัวเอง เพื่อที่เธอจะได้สามารถเข้าร่วมพิธีฝังศพ แต่เธอปฎิเสธ แล้วเธอก็เอาแต่เถียงกับอาสาสมัคร อย่างนี้มารยาทอยู่ที่ไหนล่ะ? ฉันผิดหวังในตัวภรรยาของคุณที่ทำให้คนไทยในอเมริกาชื่อเสียงเสียหาย การอ้าวว่าอาศัยอยู่ในประเทศเสรี ไม่ได้หมายความว่าคุณจะทำอะไรก็ได้ที่คุณชอบ เสรีภาพมาพร้อมกับหน้าที่ ความรับผิดชอบและการเคราพคนอื่น ภรรยาของคุณได้ใช้สิทธิของเธอในการแต่งตัวอย่างที่เธอพอใจ แต่ชุมชนคนไทยก็ใช้สิทธิเดียวกันของเขา ที่จะขอให้เธอเอาไปเมื่อการแต่ตัวของเธอเหมือนการดูหมิ่นประเพณีของพวกเขา ไม่มีอะไรเทียบกับนาซีที่นี่ได้ มันน่าตกใจที่จะเห็นบทความที่เขียนโดยนักหนังสือพิมพ์มืออาชีพอย่างคุณ โดยมีเจตนาเอนเอียง, dramatize และความไร้ศีลธรรม. ภรรยาของคุณไม่ใช่เหยื่อที่นี่ แต่ชมรมชาวไทยในอเมริกาที่คุณตีหน้าว่าเป็น'นาซี' ต่างหากที่เป็นเหยื่อ ฉันไม่หวังว่าคุณจะได้ชนะรางวัลพูลิตเซอร์หรอกนะ แต่อาจจะได้รางวัลการเขียนบทละครของออสการ์ เรื่องย่อเท้าความเดิม https://timesofsandiego.com/opinion...brings-out-intolerance-in-the-thai-community/
ลุยจีน Shoot2China เข้าใจว่าในชีวิตจริงมันคงยาก แต่ชอบความเห็นช่วงท้ายที่ว่า "ความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่ได้เงินเท่าไร แต่ว่าได้ช่วยคนไปเท่าไร ยิ่งคนที่เติบโตจากการช่วยเหลือของคุณโตได้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งซึ่งในความช่วยเหลือของคุณมากเท่านั้น"
ฟังชัดๆ ! เศษขยะปากคลองตลาด จิตอาสาบอกเอง “ทิ้งไว้เลยเดียวพวกผมเก็บให้” เผยแพร่: 29 ต.ค. 2560 20:03:00 ปรับปรุง: 29 ต.ค. 2560 20:11:00 โดย: MGR Online จิตอาสาออกมาประกาศเป็นคนสั่งให้ประชาชนทิ้งขยะเอง ตอบแทนความอดทน ความตั้งใจที่ประชาชนที่มาร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวง ร.๙ จากกรณีที่มีภาพปรากฏบนโลกโซเชียลมีเดีย ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมา พบว่า มีขยะเกลื่อนกลาดบริเวณปากคลองตลาด และถูกวิจารณ์ถึงความไร้ระเบียบ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Awiruth Chanchai” ได้โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 28 ต.ค. โดยอ้างถึงจิตอาสานามว่า นายสมคิด เชาว์ช่างเหล็ก ระบุว่า “ขอชี้แจงความจริงจากจิตอาสา เรื่องเศษขยะที่พื้น ตามที่ประชาชนเข้าไปนอนเฝ้าเพื่อกราบพ่อ 3 วัน 2 คืน เมื่อเสร็จพระราชพิธี จิตอาสาจึงประกาศให้ประชาชนทราบว่า สิ่งไหนไม่เอาไป ให้ทิ้งไว้ เดี๋ยวจิตอาสาจะมาจัดการเก็บเอง แต่มีบางคนไปถ่ายขยะที่ทิ้งไว้ แล้วเอามาประจาน ปชช. เต็มตามเพจต่างๆ เอาภาพแค่ที่เขาไม่เก็บไป แต่ไม่เอาข้อความที่จิตอาสา ประกาศบอกให้ทิ้งไว้มาพูด ด้วยจิตอาสารู้ว่า ลูกพ่อเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า และ ต้องเดินทางกลับต่างจังหวัด จึงมีคนเป็นเหยื่อ เอาภาพขยะมาส่งต่อว่า คนไปกราบพ่อ มีใครอดทนตั้งใจรอ อย่างเขาไหม ถังขยะก็ไม่มีให้ทิ้ง จิตอาสาสิ่งแวดล้อมจึงประกาศให้ประชาชนไม่ต้องเก็บ จะเข้าไปช่วยเก็บให้เอง โปรดทราบตามนี้ด้วยครับ” ด้วยเหตุการณ์นี้ได้รับความสนใจจากชาวโซเชียลเป็นอย่างมาก เมื่อมีจิตอาสาออกมาประกาศถึงเหตุผลที่มีขยะเกลื่อนปากคลองตลาดอย่างชัดเจน จึงทำให้โพสต์นี้ถูกแชร์ออกไปแล้วกว่า 2,200 ครั้ง เพื่อให้ชาวโซเชียลได้เข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้านคอมเมนต์จากชาวเน็ตต่างออกมาชื่นชมจิตอาสาทุกคนที่ตั้งใจทำงานช่วยเหลือประชาชนที่ไปร่วมพิธีอย่างเต็มที่ https://mgronline.com/onlinesection/detail/9600000109515 ขอบคุณสำหรับข่าวนี้ที่ทำให่สิ่งที่ผมคิดถูกต้อง
Suvinai Pornavalai ได้แชร์โพสต์ของ เปาบุ้นจุ้น 1 ชม. · แบบนี้ก็มี พูดไม่ออกเลย คนเราต่างจิตต่างใจกันจริงๆครับ หลังจากพูดเขียนอะไรออกไป มันจะเป็นนายเรา บางทีมันอาจตามหลอนเราทั้งชีวิต ชาติตระกูลไอ้เลวนี้ มีค่าแค่7บาท และขอขอบคุณคุณ Warat Intasara ที่ได้กระทำสิ่งที่มนุษย์ ควรมีจิตเมตตา หวังว่าการบริจาคเหรียญบาท 7เหรียญนี้ จะเพียงพอเพื่อใส่ปากเขาทั้งครอบครัว
เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 60 บีบีซีรายงานว่า สภาเมืองออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ลงมติถอดรางวัล “เสรีภาพแห่งออกซ์ฟอร์ด” (Freedom of Oxford) ที่เคยมอบให้กับนางออง ซาน ซู จี ผู้นำพม่า ในปี 2540 รายงานระบุว่า เมื่อปี 2540 สภาเมืองออกซ์ฟอร์ด ได้มอบรางวัลดังกล่าวให้นางซู จี โดยให้เหตุผลว่า เป็นรางวัลสำหรับการต่อสู้ที่ยาวนานเพื่อประชาธิปไตย จากความพยายามในการนำพาพม่าสู่ความเป็นประชาธิปไตย จนถูกรัฐบาลทหารพม่าสั่งขังนางซู จี ในบ้านของตัวเองเป็นเวลาหลายปี จนนางซู จี กลายเป็นสัญลักษณ์ของประชาธิปไตย แต่มติของสภาเมืองออกซ์ฟอร์ดล่าสุด ที่ให้ถอดรางวัลเสรีภาพของนางซู จี ระบุว่า นางซู จี ไม่มีความเหมาะสมที่จะได้รางวัลนี้อีกต่อไป จากเหตุผลด้านการจัดการวิกฤตโรฮิงญา ในรัฐยะไข่ ประเทศพม่า ที่สถานการณ์มีความรุนแรงจนทำให้ชาวโรฮิงญาจำนวนมากต้องอพยพย้ายไปอยู่ที่บังกลาเทศ และนางซู จี ถูกประชาคมโลกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างยิ่ง ที่นางซู จี ไม่ออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่องความโหดร้ายที่เกิดขึ้นนี้ วิทยาลัยเซนต์ฮิวจ์ของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ที่เป็นวิทยาลัยที่นางซู จี เคยศึกษา ได้ปลดภาพของนางซู จี ออกจากอาคารเรียนหลัก แล้วนำรูปอื่นมาติดแทน โดยไม่ได้ให้เหตุผลที่ชัดเจนด้วย https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_548682
สถานีจราจรเพื่อสังคม FM99.5 เสาไฟ กฟน. รื้อถอนไปไม่ไร้ค่า แก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเล การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เดินหน้าสร้างมหานครไร้สาย Smart Metro พร้อมมอบเสาไฟฟ้าที่เกิดจากการรื้อถอนกว่า 800 ต้น ในโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน ถนนพหลโยธิน รวมถึงโครงการอื่นๆ ให้กับกรุงเทพมหานคร เพื่อนำไปปักบริเวณชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน สร้างประโยชน์ป้องกันปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะ เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ชายฝั่งทะเล สร้างความยั่งยืนให้แก่ชุมชน การไฟฟ้านครหลวง เล็งเห็นถึงอนาคตความก้าวหน้าทันสมัยของมหานครที่ต้องพัฒนาระบบไฟฟ้าในพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจจึงดำเนินการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินในหลายพื้นที่ ด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัยตอบรับไลฟ์สไตล์คนเมือง เพื่อให้มีระบบไฟฟ้าที่เพียงพอมั่นคง มีความปลอดภัย และทัศนียภาพที่สวยงามให้เกิดขึ้นจริงแล้ววันนี้ กับหลายพื้นที่การไฟฟ้านครหลวง เล็งเห็นถึงอนาคตความก้าวหน้าทันสมัยของมหานครที่ต้องพัฒนาระบบไฟฟ้าในพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจจึงดำเนินการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินในหลายพื้นที่ ด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัยตอบรับไลฟ์สไตล์คนเมือง เพื่อให้มีระบบไฟฟ้าที่เพียงพอมั่นคง มีความปลอดภัย และทัศนียภาพที่สวยงามให้เกิดขึ้นจริงแล้ววันนี้ กับหลายพื้นที่ ความคิดง่ายๆแต่ทรงคุณประโยชน์
สุขสันต์วันลอยกระทงทุกๆท่านค่ะ .. http://campus.sanook.com/910912/ ขอเชิญทุกท่านอธิษฐานและลอยกระทงออนไลน์นะคะ คลิกเลย ----> http://season.sanook.com/loykrathong/
ดูอีก อิอิ ใครเอ่ย https://drama.kapook.com/view182417.html http://www.tvpoolonline.com/content/613721 เรื่อง “ล่า” เป็นนวนิยายของ “ทมยันตี” ที่ถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์และภาพยนตร์มาแล้ว 3 ครั้ง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2520, 2537 และล่าสุดในปี 2560 นี้ โดยมี สันต์ ศรีแก้วหล่อ กำกับการแสดง พร้อมด้วยนักแสดงนำอย่าง “แท่ง” ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง และ “หมิว” ลลิตา ปัญโญภาส ฉายออกอากาศผ่านทางช่อง One และ ไลน์ทีวี https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_610690 “ล่า” แรงสุดในชีวิต! หมิว-ลลิตา เล่น 7 คาแร็กเตอร์ ตามล่าฆ่าผู้ชาย 7 คน ปมโดนข่มขืน ละครจะเริ่มออนแอร์ในเดือนนี้ ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 21.15 น. http://www.praew.com/133638/lifestyle/lifestyle-entertainment/mew-lalita-la/
เรื่อง"ล่า"ผมเคยดู ตอนนั้น"สินจัย"เล่นเป็นแม่ ส่วน"ทราย"เล่นเป็นลูก ตามล่าคนร้าย แต่คนที่ร้ายสุดและอยู่เบื้องหลังเหตุสะเทือนใจครั้งนี้คือ......... ถ้าจำไม่ผิด พี่ม้า เล่นเป็นคนแต่งหน้าและช่วยสินจัยล้างแค้น
บัลลังก์ดอกเบญจมาศ (ดอกเก๊กฮวย) นํ้าตาของเธอนั้น ช่างนุ่มนวลแต่แฝงไว้ด้วยความเจ็บปวด พระจันทร์ครึ่งเสี้ยวซีดจาง ได้เกี่ยวอดีตของเราสองไว้ด้วยกัน ราตรีนี้ช่างยาวนาน จนนํ้าค้างเป็นนํ้าแข็ง ใครหนออยู่บนหอคอยที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังและเหน็บหนาว เสียงสายฝนกระทบเบาๆ ที่บานหน้าต่างแดงชาด ชั่วชีวิตของฉันเป็นเหมือน กระดาษที่ถูกลมพัดอย่างไร้ทิศทาง ความฝันหอมหวานอันยาวไกล กลับมลายจางไปดั่งเปลวควัน ลอยตามสายลมไป ไม่เหลืออะไรเลย... ดอกเบญจมาศที่แหลกลาญ ความเศร้าโศกลอยเกลื่อนเต็มพื้น รอยยิ้มเจ้าได้จางไป บุปผาที่โรยรา ใจฉันแตกสลาย ภายในใจของฉัน กำลังทรุดลงเงียบสงัด ลมเหนือพัดกระหน่ำ ราตรีนี้ยาวนานไม่สิ้น เงาเจ้าที่ตัดไม่ขาด เหลือเพียงข้าที่โดดเดี่ยวอยู่ริมทะเลสาบ เหลือเงาในน้ำเคียงคู่ข้า Cr. แปล คุณ Milk-Chongter
Bored Panda Art ความแม่นยำที่เหลือเชื่อของเทคนิคการวาดภาพอายุ 1,700 ปี เครดิต: www.flushingtownhall.org
ไทยบันเทิง ThaiPBS "มังกรหยก" แปลเป็นภาษาอังกฤษครั้งแรก แม้มียอดจำหน่ายกว่า 300 ล้านเล่ม แต่งานเขียนชั้นยอดของกิมย้งก็แทบไม่เป็นที่รู้จักในสากล แต่วันนี้สำนักพิมพ์ในอังกฤษเตรียมนำมังกรหยก สุดยอดนิยายกำลังภายในของกิมย้งมาจำหน่ายในภาษาอังกฤษเป็นครั้งแรก เพื่อหวังให้งานเขียนของกิมย้งเป็นที่รู้จักในโลกตะวันตกมากขึ้น
ฟังเพลง"บัลลังก์ดอกเบญจมาศ"แล้วคิดถึง โฉมงามสะท้านแผ่นดินนาม"หวังเจ้าจวิน" "หวังเจาจวิน" Cr : Tasanee W. เรื่องราวของสาวงามผู้สละความสุขส่วนตัวเพื่อแผ่นดิน ผมเคยอ่านนิยายอยู่เรื่องหนึ่ง เขากล่าวถึง เหล่าหญิงสาวที่ถูกพาเข้าวังเพื่อรับใช้ฮ่องเต้ บางคนจนตายแม้แต่หน้าฮ่องเต้ยังไม่เคยเห็น เขาเขียนกลอนไว้เพราะมาก แต่กาลเวลาทำให้ผมจำได้แค่บางส่วนไม่สามารถนำมาให้อ่านแบบเต็มๆได้
ช่างถ่ายภาพใช้ภาพถ่าย + Photoshop สร้างภาพเหนือจินตนาการที่เห็นแล้วคุณต้องหยุดคิด…! ดูเพิ่มเติมได้ตามลิ้งครับ http://www.kadingcat.com/67903