พระที่เป็นพระ กราบท่านได้อย่างสนิทใจ โจรเข้ามาปล้นศาสนา เลยยกวัดให้แก่โจร อีกอย่างหนึ่งคือ การฝากศาสนาไว้กับพระ ชาวพุทธเป็นจำนวนมากทีเดียวชอบฝากพระศาสนาไว้กับพระอย่างเดียว แทนที่จะถือตามคติของพระพุทธเจ้า คือพระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า ..พระศาสนานั้นอยู่ด้วยบริษัท ๔ คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ไม่ใช่บริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่จะต้องช่วยกัน ทีนี้ พวกเรามักจะมองว่าพระศาสนาเป็นเรื่องของพระ บางทีเมื่อมีพระที่ประพฤติไม่ดี ชาวบ้านบางคนบอกว่าไม่อยากนับถือแล้วพุทธศาสนา อย่างนี้ก็มี แทนที่จะเห็นว่าพระพุทธศาสนาเป็นของเรา พระ...องค์นี้ประพฤติไม่ดีเราต้องช่วยกันแก้สิ ต้องเอาออกไป แทนที่จะคิดอย่างนั้น กลับกลายเป็นว่าเรายกศาสนาให้พระองค์นั้นไปเลย เหมือนโจรผู้ร้ายเข้ามาปล้นบ้านของเรา แทนที่จะรักษาสมบัติของเรา กลับยกสมบัตินั้นให้โจรไปเสีย พระ...องค์ที่ไม่ดีก็เลยดีใจกลายเป็นเจ้าของศาสนา เรายกให้แล้วบอกไม่เอาแล้วศาสนานี้ เป็นอย่างนี้ก็มี นี่เป็นทัศนคติที่ผิด ชาวพุทธเราทั่วไป มีไม่น้อยที่มีความคิดแบบนี้ ทำเหมือนกับว่าพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องของพระ เราก็ไม่ต้องรู้ด้วย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) วัดญาณเวศกวัน อ.สามพราน จ.นครปฐม
เป็นบทความที่น่าอ่านให้รู้เท่าทันเสือหิว ลองรับฟังไว้พิจารณา .. พิสูจน์แล้วว่า ความจงรักภักดีของคนไทยต่อสถาบันกษัตริย์จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง แปลจากบทความ Asia Spring? US Seeks to Exploit Thailand's Transition to Destabilize Asia สหรัฐมองหาโอกาสที่จะใช้ประโยชน์ในช่วงการเปลี่ยนผ่านของประเทศไทย เพื่อทำลายความมั่นคงของไทยอันอาจพ่วงไปถึงเอเชีย โดยเฉพาะกับบทความล่าสุดเรื่อง Thailand’s New Uncertainty ประเทศไทยบนความไม่แน่นอนครั้งใหม่ ของ Joshua Kurlantzick, จาก CFR (Council on Foreign Relations) ที่พยายามสร้างฉากทัศน์ว่าการสวรรคตของรัชกาลที่ 9 จะนำประเทศไทยไปสู่ความวุ่นวาย และความไม่มีเสถียรภาพ ชาติตะวันตก(ลึกๆแล้ว)ไม่พอใจกับสถาบันกษัตริย์ไทยมาตั้งแต่ไหนแต่ไร โดยได้พยายามเสนอข่าวที่ทำลายสถาบันกษัตริย์ไทยมาโดยตลอด #แต่ต้องผิดหวังเพราะคนไทยแสดงออกชัดเจนว่าสถาบันกษัตริย์คือศูนย์รวมจิตใจของชาติ แม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคตแล้ว แต่ความจงรักภักดีของคนไทยต่อสถาบันกษัตริย์จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้สหรัฐพยายามจะใช้ช่วงเวลานั้น คือช่วงเวลาที่ประเทศไทยอยู่ในภาวะโศกเศร้าและอ่อนไหว พยายามจะทำให้ประเทศไทยเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย และลามไปถึงภูมิภาคส่วนอื่นๆ นั่นเพราะหากสกัดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ก็เท่ากับสกัดกั้นการเติบโตของจีนด้วย ทุกวันนี้สหรัฐก็พยายามให้ NGO/สื่อจอมปลอม แบบประชาไท และข่าวสดอิงลิช ซึ่งเป็นคนไทยขายชาติรับเงินจากสหรัฐมาทำร้ายประเทศตัวเอง สร้างประเด็นความแตกแยกต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องการไว้อาลัย/การแต่งกาย ว่ามีการล่าแม่มดคนที่ไม่แต่งชุดดำ หรือเรื่องสถานบันเทิงต่างๆที่ถูกระงับการทำมาหากิน และให้สื่อตะวันตกกระพือข่าวเพื่อดิสเครดิตประเทศไทยว่าคนไทยไม่พอใจกับเรื่องเหล่านี้ และหวังให้ประเทศไทยเกิดความแตกแยกซึ่งจะกระเทือนถึงความมั่นคงในภูมิภาคด้วย Cr. Tony Cartalucci ####### US Seeks to Exploit Thailand’s Transition to Destabilize Asia http://journal-neo.org/…/us-seeks-to-exploit-thailands-tra…/ ประเทศไทย : ในช่วงเวลาที่อ่อนไหวแบบนี้ ถ้ามีการโจมตีประเทศไทยครั้งใหญ่เกิดขึ้น (แต่ที่ผ่านมาตลอด ตค.และ พย. 2559 ไม่มี/ไม่อาจก่อให้เกิดได้) พวกสื่อตะวันตกจะป้ายสีว่า #เป็นฝีมือกลุ่มมุสลิมโดยเฉพาะจากสามจังหวัดชายแดนใต้ทันที แต่เราต้องไม่หลงกลการ "เสี้ยม" แบบนี้ ทั้งนี้ก็เพราะพวกนั้นต้องการเห็นประเทศไทยเกิดความขัดแย้ง/แตกแยก โดยใช้เรื่องศาสนาเป็นเครื่องมือ ที่ผ่านมา..การสร้าง "ความแตกแยกทางการเมือง" ให้กับคนไทย ไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว คนไทยกลับมารักกันอีกครั้ง และรักกันมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม ทั้งนี้การใช้ความรุนแรงแบบที่คนเสื้อแดงเคยทำตลอดหลายปีที่ผ่านมา คงเป็นไพ่ใบสุดท้ายที่เขาจะใช้ เพราะพวกเขารอช่วงเวลาอ่อนไหว (แบบการเกิดกรณีสวรรคต) เช่นนี้มานานมาก ก่อนหน้านี้ก็ทำเรื่องหนักๆ เรื่องที่ไม่มีใครเคยคาดคิดมาแล้วว่าคนไทยจะกล้าทำ ....ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ระเบิดพระพรหมที่ราชประสงค์ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่ฝีมือคนไทยแต่เป็นชาวอุยกูร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ (ให้ต่อต้านประเทศจีน) แต่แหล่งซ่องสุมก็เป็นพื้นที่เดียวกับคนเสื้อแดงแถวมีนบุรี รวมถึงเหตุการณ์ระเบิดหลายจุดในช่วงวันแม่ ที่ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน อย่างไรก็ตามคนไทยต้องเข้าใจว่า คนมุสลิมนั้นเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยมาอย่างยาวนานหลายศตวรรษและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับศาสนาพุทธเหมือนพี่เหมือนน้อง ทั้งคนเหนือ-ใต้ อีสาน ออก- ตก และความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเรื่อง “การเมือง” ทั้งยังไม่เคยขยายออกมาจากพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ เพราะฉะนั้น หากมีเหตุโจมตีเกิดขึ้น คนที่เราต้องจับตาว่าน่าจะอยู่เบื้องหลัง คือ กลุ่มผลประโยชน์ที่ต้องการหาประโยชน์จากประเทศไทย คือกลุ่มที่โจมตีประเทศไทยผ่านสื่อมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสื่อจาก US, UK, Europeอื่นๆ และ Australia คนเหล่านี้ต่างหาก คือกลุ่มคนที่ไม่หวังดีต่อประเทศไทยอย่างแท้จริง Cr. Tony Cartalucci Tony Cartalucci, Bangkok-based geopolitical researcher and writer, especially for the online magazine“New Eastern Outlook”.
ฉากสุดท้ายของชีวิต จอมพล ป. พิบูลสงคราม จากจุดสูงสุดจนถึงจุดต่ำสุดของชีวิต เมื่อจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ยึดอำนาจในคืนวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๐๐ จอมพล ป.พิบูลสงคราม เจ้าของฉายา “นายกฯตลอดกาล” ก็ต้องควบ “ธันเดอร์เบิร์ด” รถสปอร์ตคันโปรด เผ่นออกจากทำเนียบกลางดึก มุ่งสู่ชายทะเลภาคตะวันออก โดยมี พล.ต.ต.ชุมพล โลหะชาละ นายตำรวจติดตามไปส่งถึงจังหวัดตราด ขณะที่ฝ่าคลื่นฝ่าความมืดด้วยเรือเล็กมุ่งไปเกาะกง ผู้เผด็จการที่เพิ่งหมดอำนาจก็รำพึงกับคนเรือว่า “ต่อไปนี้ชีวิตของผม มีแต่น้ำกับฟ้า” เมื่อสมเด็จนโรดม สีหนุ ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันทราบข่าว ก็ทรงส่งเรือรบมารับให้ไปพักที่วังของพระองค์ในพนมเปญ ในวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๐๐ จอมพล ป.ได้ออกเดินทางจากพนมเปญไปกรุงโตเกียว ซึ่งนักธุรกิจญี่ปุ่นคนหนึ่งมอบบ้านให้เป็นที่พัก จอมพล ป.พักอยู่ที่โตเกียวเกือบปี จึงออกเดินทางไปสหรัฐอเมริกา พักที่เมืองเบิร์คเลย์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และขับรถเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆกับท่านผู้หญิงละเอียดอย่างมีความสุขเกือบปี จึงกลับมาพักบ้านหลังเก่าที่ชานกรุงโตเกียวอีก ในวันที ๒๘ เมษายน ๒๕๐๓ จอมพล ป.ได้ออกเดินทางโดยเรือไปอินเดีย เพื่อนมัสการสังเวชนียสถานของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และอุปสมบทที่วัดไทยพุทธคยาเมื่อวันที่ ๓ สิงหาคม ตามที่ตั้งปณิธานไว้ และลาสิขาบทในวันที่ ๒๗ สิงหาคม กลับประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้ จอมพล ป.ได้ซื้อบ้านเล็กๆหลังหนึ่งที่เมืองซากามิฮาร่า ห่างจากกรุงโตเกียวราว ๓๐ กม. ใช้ชีวิตอย่างสงบ ไปจ่ายตลาดด้วยตนเอง เป็นที่มักคุ้นของชาวญี่ปุ่นซึ่งยิ้มแย้มทักทายและเรียกกันว่า “พิบูลซัง” ไม่มีอาการกระวนกระวายถึงอำนาจล้นฟ้าที่หลุดมือไปแต่อย่างใด จนอสัญกรรมในวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๐๗ จิรวัสส์ ปันยารชุน ธิดาของจอมพล ป.และท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม ได้เล่าเรื่องวาระสุดท้ายของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ในชื่อเรื่อง “วินาทีใกล้อสัญกรรม” ไว้ว่า “เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน คุณพ่อคุณแม่ยังได้เดินทางไปโตเกียวโดยรถไฟ เพื่อไปเอารถยนต์ซึ่งขณะนั้นอยู่ในอู่ซ่อม เมื่อได้รถแล้วท่านก็แวะซื้อผลไม้ มีส้มและองุ่น เพื่อจะนำไปเยี่ยมบิดาเพื่อนชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งซึ่งนอนเจ็บเป็นโรคมะเร็ง... เมื่อลากลับ คุณพ่อมีความสุขใจมากที่ทำให้คนเจ็บมีความสดชื่นขึ้นได้ ที่นำเอาเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง เพราะนายอิชิเบ้ที่ไปด้วยมาเอ่ยให้ฟังภายหลังที่คุณพ่อได้สิ้นใจไปแล้ว ว่าแปลก ที่คุณพ่อออกมาจากห้องคนไข้ ท่านได้พูดกับเขาว่า “ถ้าหากผมตายตอนนี้ผมก็พอใจ เพราะชีวิตผมได้ทำงานอย่างสมบูรณ์แล้ว” ตอนนั้นเขามิได้เฉลียวใจอย่างใดเลย คุณพ่อใช้ชีวิตของท่านอย่างเช่นเคยทุกๆวัน คือลงสวนปลูกต้นไม้พรวนดิน ฟังวิทยุข่าวของโลก จนกระทั่งถึงวันนั้น วันพฤหัสที่ ๑๑ มิถุนายน ท่านทานอาหารเช้าเสร็จในเวลา ๙ นาฬิกา ท่านเปลี่ยนย้ายกระถางต้นไม้ประดับห้อง ซึ่งท่านชอบทำเป็นประจำ ท่านชอบสั่งย้ายจากมุมนั้นมาวางมุมนี้ เสร็จอาหารเช้าแล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็ขับรถออกไปรับครูสอนภาษาญี่ปุ่นที่สถานีข้างบ้าน ซึ่งกินเวลาเพียง ๕ นาที เรียนหนังสือเสร็จชวนครูรับประทานอาหารกลางวันด้วย เสร็จแล้วขับรถไปส่งครูกลับที่สถานี แวะซื้อกับข้าวจากร้านใกล้ๆบริเวณสถานี แล้วก็กลับบ้าน คืนนั้นก่อนทานอาหารกลางคืน ท่านยังลงไปในสวนย้ายต้นปาล์มเล็กๆซึ่งเพิ่งซื้อมาปลูกไว้ทางหลังบ้าน คุณพ่อยังนำมาปลูกไว้ทางหน้าบ้าน ซึ่งจะมองเห็นจากในบ้าน เพราะคุณแม่ชอบต้นปาล์มต้นนี้ ด้วยที่ว่าเป็นต้นชนิดเดียวกับที่ขึ้นเห็นในเมืองไทย ท่านยังพูดว่า “ฉันจะเอามาปลูกให้เธอทางด้านนี้ เธอจะได้มองเห็น” ต่อมาขณะที่รับประทานอาหารนั้นท่านก็เปิดวิทยุโทรภาพดูเรื่องแก๊งเด็กจอมซน ท่านรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย และได้หัวเราะขบขันอยู่อย่างมีความสุข ทั้งยังเรียกเด็กรับใช้อีก ๒ คนให้ตักข้าวมารับประทานและให้นั่งดูโทรภาพไปด้วยกันในห้องอาหารนั้นอย่างไม่ถือตัวอีกด้วย เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ท่านก็ลุกขึ้นไปข้างบน พร้อมกับบ่นว่าเจ็บที่หน้าอก ซึ่งท่านก็เคยบ่นอยู่แล้ว และขณะนั้นเป็นเวลาที่ท่านเคยขึ้นไปฟังข่าววิทยุด้วย คุณแม่ไม่ได้ตามขึ้นไปในขณะนั้น แต่สักครู่คุณแม่ก็ตามขึ้นไปถามว่า “เธอเป็นอย่างไรบ้าง” พบคุณพ่อยืนรับประทานยาอยู่ที่หน้าห้อง แล้วคุณพ่อยังลงมาข้างล่างออกไปเดินเล่นในสวน บอกว่าสูดหายใจอากาศสดๆค่อยหายเจ็บ ท่านยังพูดว่าอากาศเย็น คุณแม่ก็บอกว่าเข้ามาข้างในดีกว่า คุณพ่อเข้ามานั่งพักอยู่ในห้องนั่งเล่นข้างล่างสักครู่ก็เดินไปบนห้องนอน คุณแม่ตามขึ้นไปก็พบท่านกำลังฉายไฟ infra-red ตรงหน้าอกอยู่และบอกว่ายังไม่หายเจ็บ คุณแม่ยังช่วยฉายไฟให้คุณพ่อ ท่านยังจับมือคุณแม่ให้ฉายไฟให้ถูกที่เจ็บด้วย คุณแม่บอกว่า “ให้เรียกหมอมานะ” ซึ่งคุณพ่อก็บอกให้เรียกมาได้ หมอคนนี้เคยรักษาคุณพ่อเป็นประจำ เมื่อท่านเป็นไข้หวัดหมอยังได้ฉีดยาให้ท่าน คุณแม่บอกหมอให้เอาคุณพ่อไปโรงพยาบาล โทรศัพท์ไปหมอที่โรงพยาบาลก็กำลังติดการผ่าตัดอยู่ในห้องอีก และบอกให้วัดหัวใจคุณพ่อด้วยด้วยอีเล็คโทรคาร์ดิโอแกรมไว้ ขณะนั้นคุณแม่ยังบอกกับคุณพ่อว่า “ฉันจะโทรศัพท์ตามคุณวิฑูรนะ” (คุณวิฑูรคือท่านทูต พลโทวิฑูร หงสเวช) คุณพ่อยังบอกว่าอย่าไปกวนเขาเลย ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลา ๒๑ นาฬิกากว่าๆ คุณแม่ยังวิ่งไปเรียกเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ใกล้ๆกันนั้น ได้มิสซิสเพาเวล เป็นคนญี่ปุ่นซึ่งแต่งงานกับคนอเมริกัน และเพื่อนบ้านของเขาอีกคนหนึ่ง หมอยังออกกลับไปเอาเครื่องมาวัดหัวใจคุณพ่อพร้อมกับนางพยาบาลผู้ช่วยอีกสองคน เหตุการณ์ตอนนี้ฟังดูชุลมุนวุ่นวายเกินกว่าที่ผู้เขียนจะนำมาเล่าให้ปะติดปะต่อกันได้ แต่คุณพ่อยังอุตส่าห์พูดกับคุณแม่ว่า “ฉันรู้สึกจะเป็น heart attack คุณแม่ร้องต่อว่า “ไม่จริง ไม่จริง เธออย่าพูดอย่างนั้น” เด็กรับใช้ก็บอกว่าเข็มเครื่องวัดก็เต้นตามปกติขึ้นๆลงๆ เสร็จแล้วตอนสุดท้ายบนกระดาษก็มีแต่เส้นขีดเฉยๆ แล้วก็หยุดไป คุณแม่บอกว่าไม่ทราบและบอกว่าจำไม่ได้ เพราะ “สองมือของแม่ยังช่วยหนุนศีรษะของพ่ออยู่ ก็พ่อยังอยู่ดีๆนี่...แล้วมาบอกว่าพ่อหมดลม แม่จะเชื่อได้อย่างไร” แต่ก่อนท่านจะหลับตาเป็นครั้งท้ายสุด ท่านพูดกับคุณแม่ว่า “เธอ ความตายคือความสุข” แล้วท่านก็นอนหลับอย่างเป็นสุข ดูเหมือนคนกำลังนอนหลับจริงๆ” มีพิธีฌาปนกิจร่างไร้วิญญาณของจอมพล ป.พิบูลสงคราม ที่วัดเรอิเกนจิ เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๐๗ และนำอัฐิกลับมาไทยในวันที่ ๒๗ มิถุนายน เป็นการปิดฉากชีวิตนายกรัฐมนตรีคนที่ ๓ ของประเทศไทย ผู้มีบทบาททางการเมืองยาวนานกว่านายกรัฐมนตรีไทยทุกคน เป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์ในการเปลี่ยนแปลงสังคมไทยไว้หลายอย่าง และเป็นคณะราษฎรผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ คนสุดท้ายที่อยู่บนเวทีการเมืองไทย ในที่สุด จอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็ได้กลับมาร่วมกับคณะราษฎรอีกครั้ง รวมทั้งกลุ่มที่แตกคอไปเป็นฝ่ายตรงข้าม ซึ่งคณะราษฎรทุกคนจะถูกนำอัฐิมาบรรจุไว้ภายในเจดีย์ใหญ่ของวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน CR. โรม บุนนาค
ทุนการศึกษาพระราชทาน ‘ในหลวง รัชกาลที่ ๑๐’ ทุนการศึกษาพระราชทาน ‘ในหลวง รัชกาลที่ ๑๐’ จากนักเรียน สู่รั้วมหาวิทยาลัย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่เรียนดีประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจนสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี พระองค์ทรงมีพระราชดำริให้ดำเนินโครงการทุนการศึกษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๒ และต่อมาทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้ง ‘มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร’ หรือ ม.ท.ศ. โดยพระองค์ทรงเป็นองค์ประธานกรรมการ และให้นำโครงการทุนการศึกษาฯ มาอยู่ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิฯ ในแต่ละปีจะมีเยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกคัดสรร จากทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย จังหวัดละ ๒ คน เป็นผู้ชาย ๑ คน และหญิง ๑ คน เป็นตัวแทนเข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานทุนการศึกษากับพระหัตถ์จากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เพื่อให้มีโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน ต่อเนื่องตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า โดยไม่มีภาระผูกพันใช้ทุนคืน มดดำ’ - จาริณี เป่าสร้อย ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) ที่ได้รับทุนพระราชทานต่อเนื่องตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย อย่างเช่น ‘มดดำ’ - จาริณี เป่าสร้อย นักศึกษาทุนพระราชทานรุ่นที่ ๒ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาฟิสิกส์ประยุกต์ ชั้นปีที่ ๔ เล่าว่า ตนเป็นนักศึกษาทุนจากจังหวัดชัยภูมิ โอกาสของตนเองถูกจำกัดหลายด้านเนื่องจากฐานะความเป็นอยู่และความพร้อมของครอบครัว จึงได้สมัครขอรับทุน และผ่านการคัดเลือกจนได้เข้ารับพระราชทานทุนฯ ไม่เพียงแต่โอกาสทางการศึกษาที่มั่นคงแล้ว ยังช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวดีขึ้น และตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับพระราชทานทุนฯ สัญญากับตัวเองไว้เสมอว่าจะตั้งใจมุ่งมั่นในการเรียน จะประพฤติปฏิบัติตัวให้ดี เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้อื่น ช่วยเหลืองานกิจกรรมต่าง ๆ ให้สมกับการเป็นนักศึกษาทุนพระราชทานฯ ทวี เริ่มภักดิ์ ทวี เริ่มภักดิ์ หรือเรียว นักศึกษาทุนพระราชทานรุ่นที่ ๓ คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขานาฏศิลป์ไทยศึกษา เล่าว่า ตอนที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ อาจารย์ที่ปรึกษาและอาจารย์แนะแนว ได้แนะนำทุนการศึกษาพระราชทานฯ ดังกล่าว จึงตัดสินใจสมัครเข้ารับทุนพระราชทานและได้ทุนการศึกษาพระราชทานตั้งแต่ชั้น ม.๔ เรื่อยมาจนกระทั่งเรียนอยู่ชั้นปีที่ ๓ มทร.ธัญบุรี ในปัจจุบัน “ถือเป็นโอกาสอันเป็นมงคลยิ่ง ที่ได้รับทุนพระราชทานจากพระองค์ท่าน ทำให้ได้รับโอกาสด้านการศึกษาในระดับที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะตั้งใจเรียนให้จบเพื่อทำตามความฝันของตนเอง นั่นคือการเป็นครูสอนนาฏศิลป์ เพราะอยากส่งต่อความรู้ ความปรารถนาที่ดีแก่ลูกศิษย์ต่อไป ให้เหมือนกับครั้งหนึ่งที่ผมเคยได้รับมาแล้ว” ทวี กล่าว สุวรรณกาญจน์ ราชประสิทธิ์ ขณะที่นักศึกษาทุนพระราชทานรุ่นที่ ๔ โบว์-สุวรรณกาญจน์ ราชประสิทธิ์ คณะเทคโนโลยีการเกษตร สาขาวิชาการผลิตพืช เผยความรู้สึกด้วยความตื้นตันใจที่ว่า “เมื่อเราได้รับโอกาสที่ดี ผ่านการคัดเลือกจากทุกจังหวัดทั่วประเทศเพื่อให้ได้ผู้ที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมเข้ารับพระราชทานทุนฯ เราจะต้องประพฤติตัวที่ดี รักษาเกียรติของความเป็นนักศึกษาทุนพระราชทานฯ และตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ที่พึงกระทำใน ๓ เรื่องหลัก คือ ความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ที่ทรงพระราชทานทุนการศึกษา การวางตัวให้เหมาะสม และการดูแลให้กำลังใจซึ่งกันและกันของผู้ที่ได้รับทุนพระราชทานฯ ที่เชื่อมโยงให้เกิดความเป็นเพื่อน-พี่-น้อง” กิตตินันท์ โชคพานิช ปิดท้ายด้วย กิตตินันท์ โชคพานิช นักศึกษาทุนพระราชทานรุ่นที่ ๕ หนุ่มคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมชลประทานและการจัดการน้ำ ชั้นปีที่ ๑ กล่าวว่า ทุนการศึกษาพระราชทานฯ ที่ได้รับขณะเรียนปริญญาตรี จะแบ่งเป็น ๔ ส่วนหลัก คือ ค่าเทอมค่าลงทะเบียนตามความเป็นจริง ตามคณะ/สาขา มหาวิทยาลัยของแต่ละคน ค่าหนังสือและอุปกรณ์การเรียนต่าง ๆ ค่าหอพัก และค่าครองชีพ ซึ่งจะต้องดูแลบริหารจัดการบัญชีทุนด้วยตนเอง ผมจะตั้งใจเรียน นำความรู้มาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ในการประกอบอาชีพต่อไป นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณสูงสุดต่อเยาวชนของชาติที่ได้มีโอกาสรับพระราชทานทุนการศึกษาจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นแสงสว่างอันสำคัญยิ่ง ที่เยาวชนของชาติจะได้มีอนาคตการงานที่ดี เพื่อเป็นพลเมืองที่ดีและมีคุณภาพของประเทศชาติต่อไป...“ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน” http://www.komchadluek.net/news/edu-health/253105
การก่อการร้ายกลางตลาดเทศกาลคริสต์มาสที่กรุง Berlin คนร้ายขับรถบรรทุกวิ่งเข้าไปในงาน เหมือนทำที่ประเทศฝรั่งเศส มีข้อวิจารณ์ว่าการบุกเดี่ยวก่อการร้ายแบบนี้กระทำการแบบคนคนเดียวและไม่รับคำสั่งจากขบวนการใดๆ โดยตรง เรียกกันว่า Lone Wolf Terrorism = ภัยก่อการร้ายยุคใหม่ โลกทั้งโลกคือสนามรบ ... http://www.voathai.com/a/terrorism-lone-wolf-ro-29oct14/2501612.html http://prachatai.com/journal/2016/07/66773 .. F กปปส เบอร์ลิน
วันนี้ (22 ธ.ค. 59) สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดหม่อม มีข้อความพระราชสาส์น แสดงความเสียพระราชหฤทัย ไปยังประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี กรณีการโจมตี ณ ตลาดคริสต์มาส จัตุรัสไบร์ทไชด์พลัตซ์ ใจกลางกรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา โดยมีใจความดังนี้ ฯพณฯ นายโยอาคิม เกาค์ ประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี กรุงเบอร์ลิน ข้าพเจ้าเศร้าสลดใจที่ได้ทราบข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์มีผู้ใช้รถยนต์บรรทุกจู่โจมทำร้ายประชาชนที่กรุงเบอร์ลิน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจอย่างจริงใจมายังท่านและผู้ประสบความสูญเสียในเหตุการณ์อันร้ายแรงครั้งนี้ http://news.mthai.com/general-news/539911.html
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ๒ รัชกาล เครดิต : Noch Hautavanija @NochPH (จะจบกันมั้ย จะจบกันได้ยังกับข่าวมโนอัปมงคลต่างๆนานาเกี่ยวกับเรื่ององคมนตรี) พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์วันนั้น พวกล้มเจ้าเห็นคงแทบอกแตกตาย อิอิ อิอิ กปปส.เยอรมัน
ยิ่งกว่าเฉินหลง! รถพุ่งชนร้านค้า ผู้ใหญ่คว้าเด็ก 2 คน ตีลังกาหลบรอดหวุดหวิด [ชมคลิป] http://manager.co.th/HotShare/ViewNews.aspx?NewsID=9590000127784
วันนี้ ..โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ‘พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์’ เป็นองคมนตรี วันที่ 24 ธันวาคม 2559 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชโองการ ประกาศแต่งตั้งองคมนตรี โดย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งองคมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 12 ธันวาคม พุทธศักราช 2559 แล้วนั้น บัดนี้ ทรงพระราชดําริเห็นเป็นการสมควรแต่งตั้งองคมนตรีเพิ่มขึ้น อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 2 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ประกอบกับมาตรา 12 และมาตรา 13 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ เป็น องคมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 23 ธันวาคม พุทธศักราช 2559 เป็นปีที่ 1 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี http://www.matichon.co.th/news/405127
เหลือมยักษ์นมัสการสงฆ์ที่กำลังปฏิบัติศาสนกิจ ขณะพระสงฆ์ปฏิบัติศาสนกิจ ปรากฏว่างูเหลือมตัวหนึ่งได้เลื้อยผ่านมาเยี่ยม เมตตาธรรมนั้นสำคัญนัก !! เฟซบุ๊ก พระสมุห์วีรชน วังน้ำเขียว โพสต์ภาพน่าทึ่ง !! ที่ วัดถ้ำดาวเขาแก้ว จ.สระบุรี งูเหลือมเลื้อยมาระหว่างที่พระสงฆ์กำลังปฏิบัติศาสนกิจ ระบุ เพื่อนร่วมโลกมาเยี่ยมเช้าวันนี้ เมตตาธรรมสำคัญนัก ภาพ : พระสมุห์วีรชน วังน้ำเขียว ภาพ : พระสมุห์วีรชน วังน้ำเขียว ภาพ : พระสมุห์วีรชน วังน้ำเขียว http://www.komchadluek.net/news/regional/253555
ประกาศ แต่งตั้งนางสนองพระโอษฐ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ทรงพระราชดําริเห็นเป็นการสมควรแต่งตั้งท่านผู้หญิงรวิจิตร์ สุวรรณบุบผา เป็นนางสนองพระโอษฐ์ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 13 ธันวาคม พุทธศักราช 2559 เป็นปีที่ 1 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_143694 และราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศแต่งตั้ง นางสนองพระโอษฐ์ ความว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่าทรงพระราชดําริเห็นเป็นการสมควรแต่งตั้งหม่อมหลวงอรจิตรา สนิทวงศ์ เป็นนางสนองพระโอษฐ์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 23 ธันวาคม พุทธศักราช 2559 เป็นปีที่ 1 ในรัชกาลปัจจุบัน https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_158397
จริงจ้า ข่าวนี้ดังไปทั่วทุกมุมโลก ด้วยความดังของนักร้อง และเนื้อหาของข่าว ..ที่ว่า .. เจ้าของเพลงอมตะ Last Christmas มาตายวันคริสต์มาสพอดี --F Wham! - Last Christmas WhamVEVO วง Wham! มีนักร้องนำคือ George Michael และนักร้องอีกคนคือ Andrew Ridgeley คู่หูดูโอชั่วระยะเวลาหนึ่งในยุค '80 และแล้วจอร์จก็แยกออกมาดังเดี่ยวในเพลง Careless Whisper และอีกต่อๆมาหลายเพลง ..
BEST OF 35PHOTO 2016 50 best photographers 1. Давид Д Ukraine (Днепропетровск) Saravut Whanset Thailand Margarita Kareva Russia ไปเยี่ยมชมได้ครับ http://35photo.ru/rating/best2016/149/
พระที่เป็นพระ กราบท่านได้อย่างสนิทใจ ท่านสอนว่า "โจรเข้ามาปล้นศาสนา (คนเรา)เลยจะยกวัดให้แก่โจรละหรือ" การฝากศาสนาไว้กับพระ ..ชาวพุทธเป็นจำนวนมากทีเดียวชอบฝากพระศาสนาไว้กับพระแต่เพียงอย่างเดียว แทนที่จะถือตามคติของพระพุทธเจ้า คือพระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า ..พระศาสนานั้นอยู่ด้วยบริษัท ๔ คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ไม่ใช่บริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่จะต้องช่วยกัน ทีนี้ พวกเรามักจะมองว่าพระศาสนาเป็นเรื่องของพระ บางทีเมื่อมีพระที่ประพฤติไม่ดี ชาวบ้านบางคนบอกว่าไม่อยากนับถือแล้วพุทธศาสนา อย่างนี้ก็มี แทนที่จะเห็นว่าพระพุทธศาสนาเป็นของเรา พระ...องค์ไหนประพฤติไม่ดีเราต้องช่วยกันแก้สิ ต้องเอาออกไป แทนที่จะคิดอย่างนั้น กลับกลายเป็นว่าเรายกศาสนาให้พระองค์นั้นไปเลย เหมือนโจรผู้ร้ายเข้ามาปล้นบ้านของเรา แทนที่จะรักษาสมบัติของเรา กลับยกสมบัตินั้นให้โจรไปเสีย พระ...องค์ที่ไม่ดีก็เลยดีใจกลายเป็นเจ้าของศาสนา เรายกให้แล้วบอกไม่เอาแล้วศาสนานี้ เป็นอย่างนี้ก็มี นี่เป็นทัศนคติที่ผิด ชาวพุทธเราทั่วไป มีไม่น้อยที่มีความคิดแบบนี้ ทำเหมือนกับว่าพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องของพระ เราไม่ต้องรับรู้ด้วย .. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) วัดญาณเวศกวัน อ.สามพราน จ.นครปฐม
อีกแล้ววววว หนุ่มรปภ.ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ฝันอยากเห็นพ่อแม่สบาย เลย ซื้อหวย กลับถูกรางวัลที่ 1 5 ใบ 30 ล้าน นี้แหละที่เรียกว่า เป็นบุญเก่า วาสนาเก่าที่สร้างไว้ เลยทำให้มีโชคมีลาภ http://taghr.net/2016/12/30/45-189/ คนจังหวัดพิษณุโลก ถูกรางวัลที่ 1 รวยส่งท้ายปี 2559
Last Christmas, I gave you my heart… แฟนทั่วโลกร่วมไว้อาลัยการจากไปของ จอร์จ ไมเคิล บริเวณหน้าบ้านศิลปินชาวอังกฤษ วันที่ 27 ธ.ค 2016 โดยอดีตนักร้องวงแวม( Wham )เสียชีวิตอย่างกะทันหันในวันที่ 25 ธ.ค 2016 ในขณะที่มีอายุ 53 ปี (ภาพเอพี)
ถูกต้องแล้วครับคุณอู๋ เห็นในเฟสแล้ว ต้องขออภัยในแหล่งที่มาของข้อมูลด้วยครับ แต่ท่านสมเด็จเองก็มีบทความของท่านมากอยู่ สาระดีๆทั้งนั้น ขอบคุณคุณอู๋ที่ช่วงตรวจทานข้อมูลให้นะครับ
https://www.facebook.com/HongKongArtsCentre/ ไม่รู้มีใครรู้จักไหม เหล่าฟูจื่อ น่าจะประมาณยุค อาจารย์ประยูร จรรยาวงษ์ ตอนนี้แสดงงานอยู่ที่หอศิลบ์ที่ฮ่องกง
คำแปล เงินทองมีใครไม่อยากได้. แต่ไม่ว่ารวยแค่ไหนก็กินข้าว3มื้อ นอนเตียงเดียว. ลูกชายก็เป็นของสะใภ้. ลูกสาวก็เป็นของลูกเขย เงินทองเป็นของคนอื่น. มีแต่สุขภาพเป็นของตัวเอง ส่งต่อๆมาหาต้นทางไม่เจอครับ เลยไม่รู้จะขอบคุณใคร
ดูคลิบนี้แล้วเศร้าทั้งคืน .. ใชัม.44 ประหารมันเถอะครับ ท่านนายก เลวชาติชั้วอย่างไอ้สัตว์ตั้ม ท่านนายก จะได้ทำให้คนดีๆเดินถนนได้อุ่นใจขึ้น ผมขอร้องแทนพ่อ แม่ และญาติๆน้องเขา
รายละเอียดถึงวันที่ 6 มค 60 ที่จะตามจับให้ครบ .. เปิดคำสารภาพ คนร้ายฆ่าแทงคอหนุ่มมศว ชิงไอโฟน วันที่ 6 มค 2560 (07:27 น.) เปิดคำสารภาพ คนร้ายฆ่าแทงคอหนุ่ม มศว.ดับ เพื่อชิงไอโฟน (ภาพจากกล้องวงจรปิด) จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงนายวศิน เหลืองแจ่ม อายุ 26 ปี บัณฑิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จนเสียชีวิตบริเวณปากซอยสุคนธสวัสดิ์ 27 แขวงและเขตลาดพร้าว ก่อนชิงโทรศัพท์ไอโฟน 1 เครื่อง ของผู้เสียชีวิต หนีขึ้นรถจยย.ที่เพื่อนจอดรออยู่ขับหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 23.00 น.ของวันที่ 4 ม.ค.2560 ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวานนี้ (5 ม.ค.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลแถลงข่าวการจับกุม นายกิตติกร วิกาหะอายุ 26 ปี หรือนายต้อม หนึ่งในผู้ต้องหาที่ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ใช้มีดแทงผู้ตายจริง เพราะเห็นผู้ตายเดินกดโทรศัพท์มือถือ จึงเข้าไปพูดคุยแกล้งถามทาง เมื่อผู้ตายหันมาคุยด้วยก็พยายามชิงโทรศัพท์มือถือ แต่ผู้ตายขัดขืนและพยายามต่อสู้ จึงควักอาวุธมีดแทงอย่างไม่ยั้ง ซึ่งคนร้ายได้เตรียมอาวุธมีดติดตัวมาอยู่แล้ว และอ้างว่าจะแทงตรงไปข้างหน้าไม่ได้ตั้งใจแทงคอและไม่ได้ตั้งใจให้ถึงชีวิต โดยผู้ต้องหารายนี้มีอาชีพขายผลไม้อยู่บริเวณในซอยวัดกู้ เงินไม่พอใช้ยิ่งขายยิ่งเป็นหนี้ จึงพกมีดปอกผลไม้มาใช้ก่อเหตุดังกล่าว ทีมงานชุดสืบสวนได้ตามแกะรอยจนปิดล้อมจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้แถวบ้านเพื่อนในซอยใกล้วัดกู้เฉลิมพระเกียรติ ถนนสุขาประชาสรรค์ 2 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ส่วนเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุคือ นายพลชัย เรียงภวา ผู้ขี่รถจยย.หลบหนีไปได้ก่อน จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า นายกิตติกร เคยถูกดำเนินคดีและจำคุกมาแล้ว 8 ครั้ง ตั้งแต่อายุ 13 ปี เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและทำร้ายร่างกาย โดยพ้นโทษล่าสุดเมื่อปลายปีที่แล้ว ทั้งนี้ ในวันนี้ (6 ม.ค.) เจ้าหน้าที่จะคุมตัวนายกิตติกรไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเริ่มจากคดีในท้องที่สน.โคกคราม และต่อด้วยสน.โชคชัย ส่วนนายพลชัย ยังอยู่ระหว่างหลบหนี ตำรวจทราบเบาะแสแล้ว และอยู่ระหว่างการติดตามตัว ขอขอบคุณ ข้อมูล : js100 (CR:มิ้น) http://news.sanook.com/2147794/
รวบแล้วเพื่อนต้อม คนขี่จยย.พาหนี หลังฆ่าบัณฑิต มศว จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธมีดแทง นายวศิน เหลืองแจ่ม หรือ มะปิน อายุ 26 ปี บัณฑิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒจนเสียชีวิตบริเวณปากซอยสุคนธสวัสดิ์ 27 แขวงและเขตลาดพร้าว ก่อนชิงโทรศัพท์ไอโฟน 1 เครื่อง ของผู้เสียชีวิต หนีขึ้นรถจยย.ที่เพื่อนจอดรออยู่ขับหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 23.00 น.ของวันที่ 4 ม.ค.2560 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว นายกิตติกร อายุ 26 ปี หรือ นายต้อม หนึ่งในผู้ต้องหาที่ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ใช้มีดแทงผู้ตายนั้น ตอนเย็นของวันที่ 6 ม.ค.2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายสุพัฒชัย ผู้ต้องหาอีกหนึ่งรายซึ่งเป็นคนขี่จยย.พานายกิตติกรหลบหนีได้แล้วโดยสามารถจับกุมตัวนายสุพัฒชัยได้ที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และขณะนี้อยู่ระหว่างการคุมตัวของเจ้าหน้าที่เพื่อสอบปากคำขยายผลต่อไป ทั้งนี้ภายหลังจากที่นายกิตติกร หรือ ต้อม ได้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่เตรียมควบคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญารัชดาฝากขังต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ได้มีเพื่อนของผู้เสียชีวิตเข้าไปรุมทำร้ายผู้ต้องหาถึงสองครั้ง ก่อนที่ตำรวจจะพานายกิตติกรขึ้นรถไปในทันที และมีกลุ่มคนประมาณ 10 คน ชูป้ายที่มีข้อความว่า ฆ่าคนตายต้องประหารชีวิต ขณะที่มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และทหาร มาดูแลความสงบเรียบร้อย ขอขอบคุณ ภาพ : ทวิตเตอร์ Nalinee_PLE http://news.sanook.com/2148030/ http://news.sanook.com/2147954/
จะ ย อ ม แ พ้ ได้อย่างไร . เพราะ หั ว ใ จ ยังเต้นอยู่ . สู้ต่อไปนะ... " ท ห า ร ไ ท ย " Cr.Issariya Sukkeepun #TRS995 #สังคมไทยด้วยใจแบ่งปัน #น้ำท่วมภาคใต้
ภาคใต้ยังมีฝนต่อเนื่องถึงพรุ่งนี้(อังคาร 10 มค) ตกมากใน 12 จว. ก่อนเริ่มลดลง ขยายวงเงินนํ้าท่วม 50 ล้านใน 9 จังหวัด © ไทยรัฐออนไลน์ ภาพประกอบข่าว พื้นที่ภาคใต้จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันนี้ต่อเนื่องวันพรุ่งนี้ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง ก่อนที่ปริมาณฝนในพื้นที่ภาคใต้จะเริ่มลดลงหลังวันที่ 10 มกราคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ม.ค. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 9 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง นราธิวาส ยะลา สงขลา ปัตตานี ตรัง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และชุมพร สร้างความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน บ้านเรือน พื้นที่การเกษตร และสิ่งสาธารณประโยชน์เป็นจำนวนมาก ซึ่งสถานการณ์อุทกภัยมีแนวโน้มขยายวงกว้าง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้ประกาศยกระดับ การจัดการสาธารณภัยจากระดับ 2 (สาธารณภัยขนาด กลาง) เป็นระดับ 3 (สาธารณภัยขนาดใหญ่) ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 ประกอบกับรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการดูแลด้านชีวิต ความเป็นอยู่ และความปลอดภัยของผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในฐานะหน่วยงานกลางของรัฐ ในการดำเนินการเกี่ยวกับการ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด 9 จังหวัด ภาคใต้ ได้แก่ พัทลุง นราธิวาส ยะลา สงขลา ปัตตานี ตรัง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และชุมพร (เพิ่มเติม) จังหวัดละ 50,000,000 บาท เพื่อให้จังหวัดสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง รวมทั้ง สามารถแก้ไขปัญหาสถานการณ์ภัยได้อย่างทันท่วงทีตามนโยบายรัฐบาล. http://www.msn.com/th-th/news/national/ภาคใต้ยังมีฝนต่อเนื่องถึงพรุ่งนี้-ตกมากใน-12-จว-ก่อนเริ่มลดลง/ar-BBy36a1?ocid=mailsignout http://www.msn.com/th-th/news/national/ขยายวงเงินนํ้าท่วม-50-ล้านใน-9-จังหวัด/ar-BBy1kvO?ocid=mailsignout
Cooking for Kids 1. สีผสมอาหารสีส้ม 2. ใบแก้วตัดแต่งเพื่อติดเป็นก้านส้ม ลูกชุบส้มมงคล Look-Choob เหมาะเป็นของฝากช่วงตรุษจีนที่ซู้ดดดดด ขอให้สนุกกับการทำขนมไทยนะคะ