ด่วน!!!ประกาศแต่งตั้งองคมนตรี ไพบูลย์-ธีรชัย-ดาวพงษ์ 2016-12-06 11:59:41 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯให้ประกาศว่า โดยที่คณะองคมนตรี ได้กราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่งองคมนตรีและทรงพระราชดำริเห็นเป็นการสมควรแต่งตั้งองคมนตรีอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว)พุทธศักราช ๒๕๕๗ ประกอบกับมาตรา ๑๒ มาตรา ๑๓ และมาตรา ๑๖ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช ๒๕๕๐ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งดังต่อไปนี้ ๑. พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นองคมนตรี ๒. นายเกษม วัฒนชัย เป็นองคมนตรี ๓. นายพลาพร สุวรรณรัฐ เป็นองคมนตรี ๔. นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ เป็นองคมนตรี ๕. นายศุภชัย ภู่งาม เป็นองคมนตรี ๖. นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ เป็นองคมนตรี ๗. พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข เป็นองคมนตรี ๘. พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เป็นองคมนตรี ๙. พลเอกธีรชัย นาควานิช เป็นองคมนตรี ๑๐. พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา เป็นองคมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เป็นปีที่ ๑ ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี http://headshot.tnews.co.th/contents/215849/ เริ่มรัชกาลใหม่อย่างไฉไลใสสดด้วยสมณศักดิ์พระหลายรูปจากหลายวัดต่างจังหวัด และแต่งตั้งเสริมองคมนตรีรุ่นหนุ่มกว่าเดิมๆเพียงบางตำแหน่ง นับว่าเป็นการผสมผสานแบบไม่ธรรมดาเลย ปรามาสเสียงจากใต้ดินที่จะมีการล้างบางคนแก่หมดกรุให้เงียบปากลงรูไปอยู่ใต้ดินตามเดิมอย่าโผล่ศีรษะขึ้นมา อิอิ
ไม่เห็นท่านปลดคนแก่แบบเสื้อแดงพ่นเอาไว้เลย แถมทรงให้ความกันเองเรียก “ป๋า” ด้วย ขอขานรับพระราชดำรัสพระองค์ท่านแบบบ้านๆว่า“น่ารักฝุดๆ” ทรงพระเจริญ เพคะ ข่าวในพระราชสำนัก : 16 ชั่วโมงที่ผ่านมา ในหลวงทรงขอบใจคณะองคมนตรีช่วยกันดำรงความมั่นคงของประเทศชาติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานวโรกาสให้ประธานองคมนตรี นำคณะองคมนตรีใหม่ เฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ ทรงขอบใจที่ช่วยกันดำรงความมั่นคงของสถาบันและประเทศชาติ เมื่อวลาประมาณ 18.49 น. วันที่ 7 ธันวาคม 2559 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี นำคณะองคมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง 10 คน ได้แก่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายเกษม วัฒนชัย นายพลากร สุวรรณรัฐ นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ นายศุภชัย ภู่งาม นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช และ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ พล.อ.เปรมนำถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศ และประชาชน ทั้งจะรักษาไว้ และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชดำรัสตอบว่า “ขอบใจ และแสดงความยินดีและขอบใจที่มีน้ำใจมาช่วยงาน ที่ว่าองคมนตรีในยุคนี้ปัจจุบันนี้ ก็จะได้รับการมอบภารกิจ ตลอดจนได้รับโอกาสหรือหน้าที่ ที่จะให้คำแนะนำ ตลอดจนช่วยกันดำรงความมั่นคงของสถาบันและประเทศชาติ ตลอดจนแบ่งงานกันให้ละเอียดขึ้นอีกครั้งหนึ่งว่าใครทำอะไร เรื่องความชำนาญก็จะให้ขอคำแนะนำ ตลอดจนปรับความสำคัญในการทำงานให้สามารถสอดคล้องกับนโยบายอื่นๆ ของสถาบันและประเทศชาติ เป็นเรื่องแผ่นดิน มีเรื่องต่างๆ ที่จะมอบให้ก็มาก ดังที่ได้เคยคุยกันนอกรอบแล้ว ขอขอบคุณและได้ป๋าเป็นประธาน ก็อุ่นใจแล้ว ทุกคนก็เคยปฏิบัติหน้าที่ในรัชกาลก่อน หลายคนก็เชื่อมือกัน” http://www.komchadluek.net/news/royal/251623
สังเกตว่าพระมหากษัตริย์ที่ยังมิได้ประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จะใช้คำราชาศัพท์ที่ต่างกัน คำสั่งจะเรียกว่า พระราชโองการ มิใช่ พระบรมราชโองการ ซึ่งน่าจะเป็นครั้งแรกที่ใช้คำนี้ เพราะเท่าที่เคยเห็นในกฎหมายเก่าๆ ต้นรัชกาลที่ 8 และ 9 ซึ่งขณะนั้นทรงเป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังใช้คำว่า พระบรมราชโองการ
หนูอ้อยเลยใช้ พระราชดำรัส บ้าง หรืออีกคำ พระราชกระแสรับสั่ง http://dictionary.sanook.com/search/dict-th-en-lexitron/พระราชดำรัส ไม่คุ้นราชาศัพท์เหมือนกัน ต้องค้นดิกมือเป็นระวิง อิอิ
อีกวงการหนึ่งในวาระเริ่มรัชกาล .... เวลา 17.44 น. 7 ธันวาคม 2559 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จลง ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ รศ.วุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า นำผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันพระปกเกล้า ประจำปี 2557 รวม 4 หลักสูตร จำนวน 452 คน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานประกาศนียบัตรชั้นสูง กับเข็มพระปกเกล้า และกรรมการสภาสถาบันพระปกเกล้า คณาจารย์ ผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่สถาบันพระปกเกล้า ประจำปี 2558 เฝ้าฯ รับพระราชทานประกาศนียบัตรชั้นสูงกิตติมศักดิ์ เข็มกิตติคุณสถาบันพระปกเกล้า และเข็มกิตติคุณสถาบันพระปกเกล้า โอกาสนี้ พระราชทานพระราชดำรัส ความว่า การปกครองในระบอบประชาธิปไตย เป็นระบอบการปกครองที่ใช้เป็นหลักในการบริหารประเทศของเรา จึงเป็นที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง ที่ผู้บริหารระดับสูง ทั้งภาคการเมือง ภาคราชการ และภาคเอกชน ซึ่งจัดได้ว่าเป็นบุคคลผู้มีความรับผิดชอบอย่างสำคัญต่อการบริหารงานของชาติได้เข้ารับการศึกษาอบรมเรื่องการเมืองการปกครองเป็นพิเศษ เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจอันกระจ่างถูกต้อง และมีแนวความคิดเห็นที่สอดคล้องต้องกันในนโยบายและกระบวนการพัฒนาบริหารประเทศ แต่อย่างไรก็ดี การสร้างสรรค์จรรโลงการเมืองการปกครองของเรา ให้พัฒนาไปในวิถีทางที่ถูกต้องและมีความมั่นคงแข็งแกร่งนั้น จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคนทุกฝ่าย ท่านทั้งหลายจึงควรร่วมมือร่วมความคิดกัน โดยเต็มกำลังความรู้ความสามารถ และด้วยความสุจริตบริสุทธิ์ใจ ในอันที่จะช่วยกันปฏิบัติสร้างเสริมการเมืองการปกครองของเรา ให้มีเสถียรภาพและมีประสิทธิภาพสามารถอำนวยประโยชน์ที่พึงประสงค์ คือประเทศชาติมีความมั่นคงปลอดภัย และประชาชนอยู่ร่วมกันได้เป็นปึกแผ่นด้วยความรู้สึกมั่นใจและภูมิใจได้ว่า บ้านเมืองไทยนั้นเป็นที่อยู่ที่อาศัยอันประเสริฐสุด ข่าวในพระราชสำนัก http://www.komchadluek.net/news/royal/251623
ผมดูเทปบันทึกภาพพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทานฯ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา คำขึ้นต้นในการกราบบังคมทูลของในหลวงรัชกาลที่ 10 ขณะทรงเป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะกล่าวว่า ขอพระราชทานกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท และลงท้ายว่า ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ประมาณชั่วโมงที่ 1:02:00 ของคลิปวิดีโอนี้ครับ
บันทึกนี้เป็นบันทึกที่ถ่ายทำเป็นภาพยนต์เงียบ บรรยายเป็นตัวอักษร จากฟิล์มเก่า แล้วใช้ประโคมดนตรีไทยสดประกอบภาพ บันทึกโดย ความร่วมมือระหว่างประเทศอังกฤษกับประเทศสยามในขณะนั้น เป็นบันทึกที่หาชมยาก
ยุวเรต ศรุตานนท์ ผู้หญิงที่มีความสวยเทียบเท่าระดับนางเอก และอยู่ข้างกายท่านอดีตผบ.ตร.สันต์ ศรุตานนท์ อย่างเปิดเผยมานานหลายปี http://www.praew.com/58935/people/yuwared-sarutanond/
ภาพของฝูงปลาแซลมอนที่กำลังว่ายทวนกระแสน้ำหลากข้ามถนนแห่งหนึ่งในวอชิงตัน ดีซี เพื่อมุ่งหน้าไปกลับไปยังแหล่งวางไข่ในต้นน้ำ อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/clip/89696 คลิปฝูงปลาแซลมอนที่กำลังว่ายทวนกระแสน้ำ เพื่อกลับไปยังแหล่งวางไข่ในต้นน้ำ โดยในขณะนั้นรถที่ใช้ถนนเส้นนี้สัญจร ต่างก็หยุดและชลอรถ เพื่อให้ฝูงปลาแซลมอนข้ามถนนได้อย่างปลอดภัย สำหรับปลาเเซลมอนนั้น จะอพยพว่ายทวนนํ้าไปยังทะเลสาบนํ้าจืดหรือปากแม่นํ้าที่มีออกซิเจนสูง เพื่อไปวางไข่ ก่อนที่ตัวอ่อนจะฟัก และว่ายน้ำกลับมายังทะเล
นี่นะ ภาพอะนิเมชั่นจะทำไงก็ได้ เอารายละเอียดสวยยิบแค่ไหนก็ได้ ภาพซ้อนคลิปโป๊คลิปเปลือย หรือภาพเคลื่อนไหวภาพคนมีรอยสักเดินไปเดินมา จะใส่หน้าใครก็ได้ ภาพนิ่ง-ภาพเคลื่อนไหวยุคนี้ทำได้หมด ถามเด็กๆดู จิ๊บๆ https://media.giphy.com/media/l0HlW4hke9h1xKlyM/giphy.gif
เป็นความภาคภูมิใจครั้งหนึ่งในชีวิตของชาวจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง เพราะถือเป็นการปฏิบัติพระราชกรณียกิจแรกและจังหวัดแรกในรัชสมัยรัชกาลที่ 10 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ ฯ เสด็จเปิดศาลากลาง จ.กระบี่ ชาวกระบี่และจังหวัดใกล้เคียงกว่า 3 หมื่นรับเสด็จ ... 9 ธค. 2559 @พสกนิกรชาวพังงาเดินทางเฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่กระบี่
ไม่ทราบว่าปรากฏการณ์ ที่เกิดขึ้นนี้เรียกว่าอันใด (เราจะเรียกตามสถานที่เกิดหรือเรียกตามชื่อคนพบหรือเรียกตามชื่อคนขยันทำดีครับ) ปล.แหมคุณฮิวตันหามาแต่ละอย่าง
คิดถึงหนังเก่าเรื่องหนึ่ง เรื่องราวของชายแก่เป็นใบ้ มีอาชีพเก็บขวดขาย อยู่มาวันหนึ่งเขาไปพบเด็กทารกผู้หญิงถูกทิ้งอยู่ข้างถนน เขารักเด็กคนนี้มาก จนทำให้ภรรยาทิ้งเขาไป ท่ามกลางผู้คนชาวสลัมรอบข้างที่รักและผูกพันกัน ผ่านเหตุการณ์มากมาย สุดท้ายเด็กสาวกลายเป็นนักร้องดังมีเงินมากมาย เดินทางไปที่ต่างๆ ทุกวันพ่อเฝ้ารอให้เด็กสาวกลับมาหา จนสุดท้ายแม้ตายก็ไม่ได้เจอ "พ่อจ๋าอย่าร้องไห้" เกษรา สุดประเสริฐ Cr : Along memo
พ่อ - แม่อยู่กันไป หากทัศนคติไม่ตรงกัน หรือขัดแย้งกัน ควรปล่อยให้ลูกอยู่ส่วนลูก ไม่ยุติธรรมที่จะดึงเด็กให้มาอยู่ในวังวนของความขัดแย้ง ..... ชายใบ้เก็บขวดรักเด็กที่ไม่ใช่ลูก จนภรรยาทิ้งเขาไป แต่ชายอเมริกันที่ชื่อนายจัสติน รอสส์ แฮร์ริส วัย 35 ปี ณ เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจียมีปัญหากับภรรยาอยากเลิกกับเธอ และเขาหนีความรับผิดชอบที่มีต่อลูกแท้ๆถึงขนาดฆ่าเสียให้ตาย โดยเขาทิ้งลูกไว้บนเบาะหลังของรถเอสยูวีที่จอดอยู่กลางแดดเปรี้ยง ก่อนจะเข้าไปทำงานอยู่ภายในสำนักงาน ...ระหว่างนั้นอุณหภูมิภายนอกร้อนถึง 31 องศาเซลเซียส และภายในรถน่าจะมีอุณหภูมิถึง 49 องศาเซลเซียส โดยลูกถูกทิ้งให้อยู่ภายในรถนานถึง 7 ชั่วโมง และกว่าผู้เป็นพ่อจะมาพบ เด็กชายก็เสียชีวิตไปแล้วด้วยโรคเพลียแดด อย่างไรก็ตามมีหลักฐานจากโทรศัพท์มือถือและบันทึกในอินเทอร์เน็ตของนายคนนี้ที่แสดงให้เห็นว่าผู้เป็นพ่ออาจเจตนาทิ้งลูกชายไว้ในรถที่ร้อนระอุ เนื่องจากต้องการแยกทางกับภรรยาโดยระหว่างที่ผู้ต้องหาทิ้งลูกไว้ในรถ เขายังได้ส่งข้อความระบุเนื้อหาทางเพศถึงสาว ๆ หลายคน รวมถึงวัยรุ่นที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ อัยการยกผลสอบสวนที่พบว่าแฮร์ริสไม่มีความสุขกับชีวิตสมรสและจงใจฆ่าลูก จำเลยค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับชีวิตอิสระ การปลอดจากความรับผิดชอบต่อครอบครัว หรือเกี่ยวกับว่าจะหาทางรอดจากคุกอย่างไร ทั้งยังดูวิดีโอสัตว์ตายในรถกลางแดดอีกด้วย คณะลูกขุนใช้เวลาสามสัปดาห์ก่อนลงความเห็นเมื่อเดือนตุลาคม 2559 ให้นายแฮร์ริสมีความผิดในข้อหาฆาตกรรม กระทำทารุณเด็ก และแสวงหาประโยชน์ทางเพศกับเด็กจากกรณีรับส่งข้อความทางเพศกับวัยรุ่นหญิงอายุ 17 ปี ผู้พิพากษากล่าวว่า เด็กชายเสียชีวิตแบบสยดสยองเลวร้ายเกินจินตนาการ และหลักฐานประจักษ์ชัดว่าจำเลยก่ออาชญากรรมเลวร้ายสุดบรรยายเป็นคำพูดต่อเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองจากความเห็นแก่ตัว http://www.komchadluek.net/news/foreign/251427 http://hilight.kapook.com/view/145090 ภาพจาก เฟซบุ๊ก Justice4Cooper
BBC ไทยลงข่าวไม่เข้าท่า ทำท่าจะโดนฟ้องเอา เนื้อหาที่ไปยุ่งคือไปยุ่งข่าวครอบครัวของ ร 10 หรือไปโพสผิดๆมั่วๆเรื่อง สนง ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ อย่างเรื่องแรก มันก็เรื่องส่วนตัวนะ ครอบครัวใครครอบครัวมัน ทีฝรั่งทำไมยังมีคำอ้างไม่ให้ละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น ชีวิตคู่หากต้องเลิกราต่อกันพวกเขาก็ทุกข์พอแล้วควรปล่อยให้อยู่ไปเงียบๆใครมีหน้าที่ไรก็ทำไป ชาวบ้านไม่ต้องไปเดือดร้อนวิตกวิจารณ์ หากเป็นแบบฝรั่งในคอมเมนท์ข้างบนที่ถึงขนาดศาลพิพากษาว่าฆ่าลูกเพื่อหนีความรับผิดชอบ แบบนั้นแล้วค่อยมาถกกัน "เอพี(AP) รายงานว่า เนื้อหาพระราชประวัติที่บีบีซีไทยนำเสนอไปนั้นได้สร้างกระแสวิจารณ์เนื่องจากตีพิมพ์เรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตสมรสสามครั้งของพระองค์ที่จบลงด้วยการหย่าร้าง ที่ผ่านมาสื่อไทยเลี่ยงการนำเสนอเนื่องจากมีความเสี่ยงทางกฎหมายเพราะอาจละเมิดความเป็นส่วนตัว และอีกอย่างสื่อไทยเขาก็มีกาละเทศะรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร สำนักข่าวอเมริกันแห่งนี้(AP) รายงานอีกว่า บีบีซีไทยอาจเป็นสำนักข่าวระดับโลกแห่งแรกที่จะถูกดำเนินคดีภายใต้คำว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แม้นก่อนหน้านี้สื่อสิ่งพิมพ์ระดับนานาชาติ เช่น ดิ อีโคโนมิสต์ หรือ อินเตอร์เนชันแนลนิวยอร์กไทมส์ ที่รายงานเกี่ยวกับบุคคลในสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยหลายพระองค์จากภายนอกประเทศ ต้องเผชิญกับการที่หน้าข่าวบนเว็บไซต์ถูกปิดกั้นไม่ให้คอมเมนท์ท้ายบทความ หรือนิตยสารบางฉบับถูกระงับการจำหน่ายในประเทศไทย สำนักข่าวรอยเตอร์(Reuters) พูดถึงบทสัมภาษณ์ของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณในการพิจารณาดำเนินคดีกับบีบีซีไทย และให้ปูมหลังว่านับตั้งแต่ที่เข้ามาบริหารประเทศ คณะรัฐประหารชุดนี้มุ่งมั่นและกระตือรือร้นในการดำเนินคดีกับบรรดาผู้วิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ในทางที่ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง ในขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนนานาชาติก็พยายามอ้างแบบตรงกันข้ามว่ากฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไทยมีความกำกวม เปิดช่องให้ตีความได้มาก และมีโทษที่รุนแรงเกินไป ซึ่งไม่ตรงประเด็นว่าสิ่งที่สำนักข่าวเหล่านั้นนำเสนอ....เป็นความจริงหรือความเท็จ" ในเมืองไทยพี่น้องต่างมารดาเขารักและผูกพันกันก็ไม่เห็นเกี่ยวกับต่างประเทศ ขอให้ครอบครัวดูแลเด็กๆลูกๆให้ดีให้รักกัน จะมาวิจารณ์เรื่องความสัมพันธ์กับอดีตคู่ครองของเขาหาอะไร ไม่เข้าท่า ถ้าโดนฟ้องมั่งก็ดีแล้ว พระฉายาลักษณ์พระองค์ที กับ พระขนิษฐาต่างพระมารดาทั้ง 2 พระองค์ http://baabin.com/194239/ องค์ทีชันษา 11 ณ เวลาปัจจุบัน เสด็จพร้อมพระราชบิดาและพระขนิษฐาในงานพระอัยกา CiNNtv3 เผยแพร่เมื่อ 5 ธ.ค. 2016 "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณฯ" - พระองค์ที - พระเจ้าหลานเธอทั้งสอง เสด็จพระอุโบสถวัดพระแก้ว ประชาชนเปล่งเสียงทรงพระเจริญกึกก้อง
มือดีคนที่'แม้ว'ไว้วางใจ 'สุทิน'สาวไส้' บก.บีบีซีไทย'กับ'บทความไม่เหมาะสม' 4 ธ.ค. 59 นายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวอาวุโสสังกัดสำนักข่าวเอพี คอลัมนิสต์ คอลัมน์ "วิภาคสื่อเทศ วิเทศสื่อไทย" ในนสพ.แนวหน้า และแนวหน้าออนไลน์ ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กเพจส่วนตัวชื่อ "Sutin Wannabovorn" ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังกรณีสำนักข่าวบีบีซี ไทย เผยแพร่บทความไม่เหมาะสมเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ระบุข้อความว่า "ผมเตือนเพื่อนๆ มาตลอดว่าอย่าอ่านอย่าแชร์ข่าว บีบีซี ภาษาไทย เพราะรู้จักและติดตามผลงาน นายนพพร บก.ข่าวบีบีซี มานาน ผลงานเด่นของนายนพพร เมื่อคราวทำงานให้สำนักข่าวรอยเตอร์ คือบินเดี่ยวไปสัมภาษณ์ นายทักษิณ ที่ต่างประเทศ นายนพพร เป็นนักข่าวที่ได้รับการไว้ใจจากนายทักษิณ และประเด็นที่นายนพพร ฝังใจและเกาะติดเป็นพิเศษ คือเรื่องที่กำลังกล่าวขานประเด็นนี้ นายนพพร บินจากกรุงเทพฯ ไปถาม นายอภิสิทธิ์ ถึงสิงค์โปร (เมื่อคราวนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ) นายอภิสิทธิ์ ตอบว่าคงไม่เป็นไปดังที่ถาม ทุกอย่างจะราบรื่น นายนพพรติดใจฝังใจเรื่องนี้ตลอดมา ดังนั้นท่านที่อ่านข่าว บีบีซี โปรดเข้าใจว่าทุกอย่างไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หรือเผอเรอ แต่มันคือความเชื่ิอ เป็นอุดมการณ์ของนายนพพร" สำหรับนายนพพร วงศ์อนันต์ ประวัติเคยเป็นนักข่าวรอยเตอร์ประจำสิงคโปร์ , บรรณาธิการ นิตยสารฟอร์บส์ ประเทศไทย , รองบรรณาธิการบางกอกโพสต์ และบรรณาธิการสำนักข่าวบีบีไทยคนปัจจุบัน http://www.naewna.com/politic/247539
ข่าวดี..กระทรวงแรงงานเตรียมฝึกอาชีพผู้ต้องขังได้รับพระราชทานอภัยโทษ.... นายธีรพล ขุนเมือง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่มีประกาศพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสแรกนับแต่ขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ. 2559 กระทรวงแรงงานมีการเตรียมฝึกอาชีพผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษในสาขาวิชาชีพต่างๆตามความถนััดเพื่อออกไปประกอบอาชีพสุจริตต่อไปหลังพ้นโทษ โดยทางกระทรวงแรงงานจะพิจารณาการฝึกทักษะอาชีพตามความต้องการของตลาดแรงงานด้วย อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/social/general/469875 หมายเหตุ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ผู้ถูกจำขังคดีรื้อบาร์เบียร์ย่านสุขุมวิท (26 มค.46) จะอยู่ในข่ายได้รับพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้ด้วยหรือไม่ โปรดติดตาม
กรณีนี้ไม่ใช่แค่ทางการไทยที่ไม่สบายใจและไม่พอใจ ประชาชนชาวไทยหลายคนก็ไม่สบายใจกับการกระทำของสื่อนอกเช่นกัน กับการนำเสนอเรื่องราวที่ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติในเรื่องส่วนพระองค์
หนังสือพิมพ์ออนไลน์เยอรมันลงข่าวเวลา 08:52 การประกาศพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสแรกนับแต่ขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์ 13 ตค. 2559 หลังการเสด็จสวรรคตของพระมหากษัตริย์พระองค์ก่อน ในหลวงร.10 พระราชทานอภัยโทษเนื่องในโอกาสแรกนับแต่ขึ้นทรงราชย์ วันที่ 12 ธันวาคม 2559 - 08:57 น. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษเนื่องในโอกาสแรกนับแต่ขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ.2559 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ระบุว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชดําริเห็นว่า เนื่องในโอกาสแรกนับแต่ขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์ เพื่อเป็นการแสดงพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมควรพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป สำหรับสาระสำคัญของพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ ผู้ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวไป 1.ผู้ต้องกักขัง 2.ผู้ทํางานบริการสังคมหรือทํางานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ 3.ผู้ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ เว้นแต่ผู้ซึ่งต้องโทษตามบัญชีลักษณะความผิดท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ หรือผู้ซึ่งต้องโทษตามคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุกเกินแปดปี ในความผิดฐานผลิต นําเข้า หรือส่งออก หรือผลิต นําเข้า หรือส่งออกเพื่อจําหน่าย หรือ จําหน่ายหรือมีไว้ในครอบครอง เพื่อจําหน่าย ตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ กฎหมาย ว่าด้วยมาตรการในการปราบปรามผู้กระทําความผิด เกี่ยวกับยาเสพติด หรือกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และ ผู้ซึ่งต้องโทษในความผิด ตามมาตรา 276 วรรคสาม มาตรา 277 มาตรา 277 ทวิ มาตรา 277 ตรี มาตรา 280 มาตรา 284 หรือมาตรา 343 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ส่วนนักโทษเด็ดขาดดังต่อไปนี้ให้ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวไป 1.ผู้ต้องโทษจําคุกไม่ว่าในกรณีความผิดคดีเดียวหรือหลายคดี ซึ่งมีโทษจําคุกตามกําหนดโทษที่จะต้องได้รับต่อไปเหลืออยู่ไม่เกินหนึ่งปี และได้รับโทษมาแล้วถึงวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของโทษตามกําหนดโทษ 2.ผู้ต้องโทษจําคุกซึ่งมีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ เป็นคนพิการโดยตาบอดทั้งสองข้าง มือหรือเท้าด้วนทั้งสองข้าง หรือเป็นบุคคลซึ่งแพทย์ของทางราชการไม่น้อยกว่าสองคนได้ตรวจรับรองเป็นเอกฉันท์ว่าเป็นคนทุพพลภาพมีลักษณะอันเห็นได้ชัด เป็นคนเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อน โรคไตวายเรื้อรัง โรคมะเร็ง โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (โรคเอดส์) หรือโรคจิต ซึ่งทางราชการได้ทําการรักษามาแล้วไม่น้อยกว่าสามเดือนในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ และแพทย์ของทางราชการไม่น้อยกว่าสองคนได้ตรวจรับรองเป็นเอกฉันท์ว่าไม่สามารถจะรักษาในเรือนจําให้หายได้ และไม่ว่าในกรณีความผิดคดีเดียวหรือหลายคดี ต้องได้รับโทษจําคุกมาแล้วถึงวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับไม่น้อยกว่าสามปี หรือไม่น้อยกว่า 1 ใน 2 ของโทษตามกําหนดโทษ เว้นแต่เป็นคนเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย และโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องระยะสุดท้าย ซึ่งแพทย์ของทางราชการไม่น้อยกว่าสองคนได้ตรวจรับรองเป็นเอกฉันท์ว่าไม่สามารถจะรักษาในเรือนจําให้หายได้ เป็นหญิงซึ่งต้องโทษจําคุกเป็นครั้งแรก และไม่ว่าในกรณีความผิดคดีเดียวหรือหลายคดี ต้องได้รับโทษจําคุกมาแล้วถึงวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับไม่น้อยกว่า 1 ใน 2 ของโทษตามกําหนดโทษ เป็นคนมีอายุไม่ต่ำกว่าหกสิบปีบริบูรณ์ในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับตามที่ปรากฏในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร หรือทะเบียนรายตัวของเรือนจําในกรณีไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน และไม่ว่าในกรณีความผิดคดีเดียวหรือหลายคดี ต้องได้รับโทษจําคุกมาแล้วถึงวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับไม่น้อยกว่าห้าปี หรือไม่น้อยกว่า 1 ใน 1 ของโทษตามกําหนดโทษ และต้องมีโทษจําคุกตามกําหนดโทษที่จะต้องได้รับต่อไปเหลืออยู่ไม่เกินสามปีนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ เป็นผู้ต้องโทษจําคุกเป็นครั้งแรก และมีอายุยังไม่ครบยี่สิบปีบริบูรณ์ในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับตามที่ปรากฏในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร หรือทะเบียนรายตัวของเรือนจําในกรณีไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน และไม่ว่าในกรณีความผิดคดีเดียว หรือหลายคดี ต้องได้รับโทษจําคุกมาแล้วถึงวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับไม่น้อยกว่า 1 ใน 1 ของโทษตามกําหนดโทษ หรือเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยม และไม่ว่าในกรณีความผิดคดีเดียวหรือหลายคดี ซึ่งมีโทษจําคุกตามกําหนดโทษที่จะต้องได้รับต่อไปเหลืออยู่ไม่เกินสองปีนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ ส่วนนักโทษเด็ดขาดซึ่งมิได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวไป ให้ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดโทษ ดังต่อไปนี้ 1.ผู้ต้องโทษประหารชีวิต ให้ลดลงเป็นโทษจําคุกตลอดชีวิต 2.ผู้ต้องโทษจําคุกตลอดชีวิต ให้เปลี่ยนเป็นกําหนดโทษจําคุกห้าสิบปีแล้วให้ลดโทษตามลําดับชั้นนักโทษเด็ดขาดตามกฎหมายว่าด้วยราชทัณฑ์หรือกฎหมายว่าด้วยเรือนจําทหาร ผู้ต้องโทษจําคุกไม่ถึงตลอดชีวิต ให้ลดโทษจากกําหนดโทษตามลําดับชั้นนักโทษเด็ดขาด ตามกฎหมายว่าด้วยราชทัณฑ์หรือกฎหมายว่าด้วยเรือนจําทหารตามลําดับชั้นนักโทษเด็ดขาด และผู้ต้องโทษจําคุกเพราะความผิดที่ได้กระทําโดยประมาท ไม่ว่าจะมีความผิดอื่นร่วมด้วยหรือไม่ ให้ลดโทษจากกําหนดโทษลง 2 ใน 3 เฉพาะความผิดที่ได้กระทําโดยประมาท ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแห่งท้องที่ ผู้พิพากษา ศาลแห่งท้องที่ หรือตุลาการศาลทหารแห่งท้องที่หนึ่งคน และพนักงานอัยการแห่งท้องที่หรืออัยการทหารแห่งท้องที่หนึ่งคน รวมสามคนเป็นคณะกรรมการ มีหน้าที่ตรวจสอบผู้ซึ่งจะได้รับพระราชทานอภัยโทษและส่งรายชื่อต่อศาลแห่งท้องที่ ให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ เพื่อความสะดวกแก่ศาลแห่งท้องที่นั้นพิจารณาออกหมายสั่งปล่อยหรือลดโทษ หรือออกคําสั่งยกเลิกการทํางานบริการสังคมหรือทํางานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ แล้วแต่กรณี ในส่วนที่เกี่ยวกับผู้ซึ่งถูกลงโทษจําคุกตามคําสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจะได้รับพระราชทานอภัยโทษ ให้คณะกรรมการมีหน้าที่ตรวจสอบและส่งรายชื่อต่อนายกรัฐมนตรีให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวัน นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ เพื่อนายกรัฐมนตรีพิจารณาออกคําสั่งปล่อยหรือลดโทษ แล้วแต่กรณี เมื่อได้มีหมายหรือคําสั่งปล่อยหรือลดโทษ หรือคําสั่งยกเลิกการทํางานบริการสังคมหรือทํางานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับแล้ว ให้คณะกรรมการทําบัญชีผู้ซึ่งได้รับพระราชทานอภัยโทษเก็บไว้ที่เรือนจําหรือทัณฑสถานหนึ่งฉบับ ส่งศาลหนึ่งฉบับ ส่งกระทรวงยุติธรรมหนึ่งฉบับ และทูลเกล้าฯ ถวายอีกหนึ่งฉบับ สำหรับบัญชีลักษณะความผิดท้ายพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย ความผิดเกี่ยวกับการปกครอง ความผิดต่อเจ้าพนักงาน ความผิดต่อตําแหน่ง หน้าที่ราชการ ความผิดต่อเจ้าพนักงาน ในการ ยุติธรรม ความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชน ความผิดเกี่ยวกับการก่อให้เกิดภยันตรายต่อประชาชน ความผิดเกี่ยวกับเพศ ความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย ความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพและชื่อเสียง ความผิดฐานกรรโชก รีดเอาทรัพย์ ชิงทรัพย์ และปล้นทรัพย์ ความผิดพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ ความผิดตามกฎหมาย ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ความผิดเกี่ยวกับการยักยอก หรือฉ้อโกงหรือประทุษร้ายต่อทรัพย์ หรือกระทํา โดยทุจริตตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ กฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุนธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิต ฟองซิเอร์ กฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน หรือกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งกระทําโดยกรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใด ซึ่งรับผิดชอบ หรือมีประโยชน์เกี่ยวข้องในการดําเนินงานของสถาบันการเงินนั้น ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น ความผิดเกี่ยวกับการลักลอบหนีศุลกากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่าหลังจากมีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) พระราชทานอภัยโทษ ได้สั่งการให้นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ทำหนังสือแจ้งไปเรือนจำทุกแห่งให้คัดกรองและตรวจสอบผู้ต้องขังก่อนนำเสนอศาลในพื้นที่เพื่อพิจารณาออกหมายปล่อยต่อไป ทั้งนี้ กรณีถ้าผู้ต้องขังรายนั้นๆ ได้รับการปล่อยตัว พ้นเรือนจำ หรือหมายลดวันต้องโทษ เป็นกรณีไป ต้องยืนยันได้ว่าผู้ต้องขังที่ได้รับการอภัยโทษในครั้งนี้นั้น ต้องเป็นผู้ต้องขังที่อยู่ในชั้นดี ชั้นดีมาก และชั้นเยี่ยม https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_138776 http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9590000123403
สำนักพระราชวังญี่ปุ่น ได้เผยแพร่พระรูป เจ้าหญิงไอโกะแห่งญี่ปุ่น เจ้าหญิงโทชิ พระธิดาพระองค์เดียวในเจ้าฟ้าชายนารุฮิโตะมกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น และเจ้าหญิงมาซาโกะมกุฎราชกุมารี พระชายา ในโอกาสวันคล้ายวันประสูติครบ 15 ชันษา เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา (ภาพเอเอฟพี) http://www.komchadluek.net/news/women/251221
10 ชั่วโมงที่ผ่านมา โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง 2 องคมนตรีใหม่ " วิรัช -จรัลธาดา " เว็บไซต์ราชกิจจานุเษกษา ได้เผยแพร่ประกาศราชกิจจานุเษกษา แต่งตั้งองคมนตรี " สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งองคมนตรี ตามประกาศลงวันที่ ๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ แล้วนั้น บัดนี้ ทรงพระราชดำริเห็นเป็นการสมควรแต่งตั้งองคมนตรีเพิ่มขึ้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ประกอบกับมาตรา ๑๒ และมาตรา ๑๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ๑. นายวิรัช ชินวินิจกุล เป็น องคมนตรี ๒. นายจรัลธาดา กรรณสูต เป็น องคมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปประกาศ ณ วันที่ ๑๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เป็นปีที่ ๑ ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี " ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประวัติส่วนตัว นายวิรัช ชินวินิจกุล เคยดำรงอดีตเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม โดยเป็นคนจังหวัดราชบุรี เกิดวันที่ 7 พ.ย.2495 อายุ 64 ปี จบการศึกษานิติศาสตร์เกียรตินิยม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเนติบัณฑิตไทย โดยประวัติการทำงานนั้นนายวิรัชหลังจากเข้ามาเป็นผู้ช่วยพิพากษาเมื่อปี 2523 แล้ว มีความเจริญหน้าที่ในสายงานเป็นผู้พิพากษาศาลจังหวัดภูเก็ต ศาลแขวงธนบุรี เมื่อปี 2524 - 2532 และเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล ปี 2533 – 2537 กระทั่งได้เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกา และก้าวสู่ตำแหน่งบริหาร เข้ามาเป็นรองอธิบดีศาลภาค 9 ( ภาคใต้ ) ปี 2541 ก่อนจะได้รับเลือกเป็นเลขานุการศาลฎีกาปี 2548 ในยุคนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี เป็นประธานศาลฎีกา โดยระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ประกอบด้วย มหาวชิรมงกุฏ มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก และเหรียญจักรพรรดิมาลา ปี 2540 และ 2544 ตามลำดับ ขณะที่ล่าสุดก่อนจะได้รับแต่งตั้งเป็นองคมนตรีนั้นนายวิรัชดำรงตำแหน่งสำคัญศาลยุติธรรมตำแหน่งรองประธานศาลฎีกา อาวุโสสุดท้ายลำดับที่ 6 เมื่อปี พ.ศ.2558 ขณะที่นายจรัลธาดา ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาสำนักราชเลขาธิการ จบการศึกษาปริญญาตรีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปีที่เข้ารับการศึกษาคือปี 2510 และได้รับรางวัลนิสิตเก่าดีเด่นสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (ส.มก.) ในพระบรมราชูปถัมภ์ปี พ.ศ.2553 และได้รับรางวัลเกษตรศาสตร์ปราดเปรื่อง รุ่นที่ 3 เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2548 ซึ่งปี พ.ศ.2548 ขณะที่ได้รับรางวัล เป็นอธิบดีกรมประมง นายจรัลธาดา กรรณสูต ยังได้รับรางวัลด้านสังคมทุติยจุลจอมเกล้าปี พ.ศ.2550 เนื่องจากการทำคุณประโยชน์เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2550 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าแก่ผู้ที่ถวายงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาท http://www.komchadluek.net/news/politic/252307#.WFADeapJzf0.facebook
**สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ และ สมเด็จพระราชินีซิลเวียแห่งสวีเดนเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระบรมวงศานุวงศ์สวีเดน ทรงเป็นประธานในพิธีพระราชทานรางวัลโนเบล ประจำปี 2559 ณ ศูนย์การแสดงคอนเสิร์ต กรุงสตอกโฮล์ม ราชอาณาจักรสวีเดน http://www.komchadluek.net/news/women/252277
ซ้อมใหญ่รับพระราชทานปริญญาบัตรจากสมเด็จพระเทพฯ ของบัณฑิตช่อกัลปพฤกษ์มหาวิทยาลัยขอนแก่น 2559 เสื้อผ้าหน้าผมและโบว์ไว้ทุกข์เป๊ะทุกตารางนิ้วเหมือนวันจริง 15 ธ.ค. 2559 สถิติประมาณ 45 คนต่อนาที
ศิษย์เก่า มข ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ในการเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานปริญญาบัตร ณ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.... ขอพระองค์ทรงพระเจริญ.... Женечка Станислав Великаяมอง มข. ผ่านเลนส์
ไม่มีเลยค่ะ พระฉายาลักษณ์นี้ได้จากเฟซและบล็อคค่ะ http://oknation.nationtv.tv/blog/tewson/2015/03/26/entry-1
“น้องก้าน” เด็กหญิงผู้โชคดีที่ได้ถวายงานเป็นมัคคุเทศก์น้อยตามเสด็จ “สมเด็จพระเทพฯ” เมื่อเวลา 15.05 น. วันที่ 13 ธ.ค. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิด ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดน บ้านภูดานกอย ม.6 ต.คำโพน อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ สังกัด กก.ตชด.22 และทอดพระเนตรกิจกรรมต่างๆ อาทิ การอนุรักษ์พันธุกรรมพืช, การสาธิตการทอเสื่อกกโดยชาวบ้านในชุมชน, กิจกรรมสหกรณ์ จัดตั้งร้านค้าคุณธรรม, กิจกรรมดนตรี อังกะลุง สื่อพัฒนาการแสดงออก และโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน โดย “น้องก้าน” นักเรียนในศูนย์การเรียนรู้ถวายงานเป็นมักกุเทศก์น้อย ตามเสด็จและกราบบังคมทูลเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียน โดยภาพที่ประชาชนประทับใจที่สุด คือภาพที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระเมตตา ทรงประคองน้องก้านหลบฝนที่กำลังตกระหว่างเสด็จพระราชดำเนินเข้าในอาคารด้วย ขอบคุณภาพจาก กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_144057
ตลก โลกนี้! ตอนเป็นเด็กอยากเป็นผู้ใหญ่ พอโตเป็นผู้ใหญ่กลับอยากเป็นเด็ก ตอนเป็นโสดก็อยากแต่งงาน หลังแต่งงานกลับอยากเป็นโสด ตอนจีบกันใหม่ “หุงข้าวแข็งก็บอกว่าบริหารฟัน” ตอนอยู่ด้วยกัน “พ่อแม่เธอไม่สอนเหรอ ข้าวแข็งอย่างนี้ใครจะไป แด-ร๊กลง” ตอนเป็นคนซื้อ “ทำไมขายแพงจัง ขูดเลือดกันชัดๆ” ตอนเป็นคนขายบ้าง “ถูกกว่านี้ก็แจกแล้ว ค่าเช่าฉันออกจะแพง ” ตอนอยู่บ้านนอกอยากเข้าเมืองกรุง พออยู่เมืองกรุงอยากกลับบ้านนอก ตอนเป็นหนุ่มใช้สุขภาพมาแลกเงิน ตอนชราให้เงินที่หามาแลกกับสุขภาพ ตอนเป็นลูกจ้างนินทาว่าเจ้านายจู้จี้ พอเป็นเจ้านายบ้างกลับชอบจู้จี้ลูกน้อง ตอนสมัครงานเที่ยวบนบาน “เจ้าประคุณ ขอให้ได้เถอะ” ตอนได้งาน “ใครบันดาลให้ฉันเลือกงานที่นี่เนี่ย” ตอนหางาน “ให้ผมทำอะไรก็ได้ ขอเพียงมีงานทำ” พอเริ่มงาน “ใช้กูยังกะวัวกะควาย ใครจะไปทนไหว” ตอนรอรถเมล์ “สาธุ ขอให้จอดเถิด จะได้ไปทำงานทัน” ตอนนั่งอยู่บนรถเมล “สาธุ ขออย่าให้จอดเลย เดี๋ยวจะไปทำงานไม่ทัน” .............................................. บ้านที่มีเงินมักขาดแคลน “ความรัก” บ้านที่มีความรักมักขาดแคลน “เงิน” บ้านที่สามีดี ภรรยามักทำชั่ว บ้านที่สามีชั่ว ภรรยามักแสนดี ลูกที่พ่อแม่รักมักทำตัวเลว ลูกที่ทำตัวดีแต่พ่อแม่กลับไม่ค่อยรัก ยามพ่อแม่อยู่กลับไม่รู้รักถนอม ยามพ่อแม่ตายกลับอาลัยและโหยหา ตลก โลกนี้ โปรดจำไว้ เราไม่ได้เกิดมาเพื่อครอบครองสิ่งที่ดีที่สุดในโลก จงสุขที่สุดกับสิ่งที่เรามี แค่นี้ชีวิตก็เป็นสุข! นุสนธิ์บุคส์ ------------------------------------------------------------------------------------------------ เวลาลงกระทู้ให้อ่าน ก็บอกโฟสอยู่ได้ เวลาไม่เม้น ก็บอกเงียบหายไป.... (ล่อ..ล้อเล่น)
พระองค์ทรงมาประทับแรมที่เรือนรับรอง สำนักงานชลประทาน ขอนแก่น พระองค์ทรงเป็นกันเองกับครอบครัวชลประทาน พระองค์กำลังทรงถ่ายรูปมะละกอสุก ขอบคุณภาพ ภาสกร กิณเรส ------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ทรงพระเจริญ
สวัสดียามดึกครับ ถ้าพูดถึง"เพลงเศร้าๆทำให้คิดถึงเรื่องเดิมๆ" ของผมคงเป็นแบบนี้ "ทิ้งไว้ที่ทำงาน" แจ้ ดนุพล Cr : Knottralic ตอนที่เป็นแบบเพลงนี้ก็ยังมีความสุขบ้างตามประสาคนชอบฝัน แต่สุดท้ายกลับจบแบบเพลงนี้ "ความรู้สึกครั้งสุดท้าย" แจ้ ดนุพล Cr : Aphirakchuchai78 แต่สุดท้ายเวลาก็ทำให้ทุกสิ่งเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของความทรงจำ
แม่ใหญ่ ข่อยมางานรับปริญญาของหลาน นั่งยืนคอยนานกะเมื่อยกะหยัง ใส่เสื้อนุ่งซิ่นไหมพะรุงพะรัง แต่รอยยิ้มรอยความหวังก็บริบูรณ์ Passakorn Tuaprakhon มอง มข. ผ่านเลนส์
ภาพชุดรับปริญญาอีกชุดที่ดูดีมากๆ..มองแล้วยิ้มไม่หุบเลย น่ารักสุดๆ บัณฑิตป้ายแดงกับญาติผู้ใหญ่ในชุดพื้นเมืองท้องถิ่นศรีสะเกษ นุ่งผ้าถุงเข็นเขียวต่อตีน สวมเสื้อดำย้อมมะเกลือ เป็นภาพที่น่ารักและคลาสสิคมาก ทุกท่านงดงามไม่น้อยหน้ากันเลย Apichat Piyawong เอามาให้อิพ่ออิแม่เบิ่งแหน่เด้อ ข้างในเล่มมีอิหยัง Pong Chalermpol Sufficiency มีกระดาษหนึ่งแผ่น แบนๆน้อยๆคับผม 555 เจี๊ยบ จิระพร เห็นแล้วน้ำตาสิไหล Siam Boodsree เป็นความภาคภูมิใจของวงศ์ตระกูล ความสำเร็จมาจากความพากเพียร งดงามเสมอ ยินดีด้วยครับ Pearypearyy LoveLove ยินดีด้วยนะคะ บัณฑิตป้ายแดง ที่บ้านอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นๆไว้ เห็นภาพแล้วอดชื่นชมไม่ได้ นายสุดยอดเลย ขอขอบพระคุณ สวัสดีครับ บุ ศาศวัต และนายแบบนางแบบทุกท่านสำหรับภาพดีๆวันนี้
มาอีกแล้วววว รองนายก อบต. สุดเฮงถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 รวม 18 ล้านบาท เข้าแจ้งความบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เผยซื้อตามเลขที่บ้าน ( 16 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ทราบว่าเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา นายยาฉุน จันทร์อินทร์ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 250 หมู่ 9 บ้านหนองไฮ ต.ตลาดโพธิ์ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลตลาดโพธิ์ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ นำสลากกินแบ่งรัฐบาล หมายเลข 435246 ฉบับชุดที่ 05 , 06 , 43 , 44 , 51 , 52 งวดประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2559 จำนวน 3 คู่ 6 ใบ ซึ่งถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 รวมเป็นเงิน 18 ล้านบาท เข้าแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน กับ ร.ต.อ.มานพ อักษรณรงค์ รองสว.สอบสวน สภ.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ สอบถามนายเกรียงกมล บุราสิทธิ์ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน อบต.ตลาดโพธิ์ ผู้พานายยาฉุน จันทร์อินทร์ ไปลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เล่าให้ฟังว่า ปกติแล้วนายยาฉุน เป็นคนไม่ค่อยชอบซื้อลอตเตอรี่มากนัก ส่วนมากจะซื้อเพียงคู่เดียวเท่านั้น โดยในวันนี้เป็นวันประชุมสภา อบต. ที่ห้องประชุมชั้นสองของ อบต. ขณะตนกำลังนั่งทำงานอยู่ด้านล่างมีแม่ค้าลอตเตอรี่เดินเร่ขายภายใน อบต. ระหว่างนั้น นายยาฉุนได้ลงมาเข้าห้องน้ำชั้นล่าง และพบกับแม่ค้าลอตเตอรี่และขอให้ช่วยซื้อลอตเตอรี่ที่เหลืออยู่ในแผงจำนวน 3 ชุด เพราะถ้าหากขายไม่หมดจะต้องขาดทุนแน่ๆ นายยาฉุน จึงช่วยซื้อ 1 ชุดจำนวน 3 ใบ ในราคา 300 บาท และเลือกเลขท้าย 246 ซึ่งตรงกับหมายเลข 435286 ก่อนจะขึ้นไปประชุมสภาอบต. และนั่งทำงานต่อในช่วงบ่าย กระทั่งเมื่อออกรางวัลนายยาฉุน พูดว่าเลขท้ายรางวัลที่ 1 เหมือนกับลอตเตอรี่ที่ตนเองซื้อ จึงได้นำลอตเตอรี่มาตรวจและพบว่าถูกรางวัลที่ 1 ทั้งชุด ตนจึงพานายยาฉุน มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนั้นนายยาฉุน ได้บอกกับตนว่า ตอนนี้ยังงงๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่จะนำเงินรางวัลที่ได้ไปชำระหนี้ที่มีอยู่ และนำไปทำบุญ โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวได้เดินทางมาแสดงความยินดีกับนายยาฉุน ที่บ้านพักอย่างต่อเนื่องไม่มีการจัดเลี้ยงแต่อย่างใด http://news.sanook.com/2130858/
ทีมชาติไทยคว้าแชมป์สมัยที่ 5 ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2016 แข่งระบบเหย้า - เยือน รอบชิงชนะเลิศนัดแรกเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม อินโดนีเซียชนะไทย 2-1 นัดหลังในคืนนี้ 17 ธันวาคม ไทยชนะอินโดนีเซีย 2-0 ผลประตูเรามากกว่า คว้าแชมป์ไปครอง
ครึ่งหลังตอนใกล้หมดเวลาขณะนั้นไทยนำอยู่ 2-0 ....ไทยขอเปลี่ยนตัวผู้เล่นซึ่งคาดว่าอยู่ในแผนเปลี่ยนตัวเพื่อให้นักเตะได้ลงไปทำความคุ้นเคยกับสนามจริง ขณะนั้นอินโดกำลังจะได้ทุ่ม นักเตะของเขาฉุนเฉียวเขวี้ยงบอลทิ้ง เลยได้ใบแดงซะ และเกือบเกิดการตะลุมบอน ดีที่มีการห้ามปรามไว้ได้ทัน ท่าทางอินโดคนนั้นจะโกรธมากเหมือนกับว่าไทยไปเบรกการทุ่มของเขา แต่คิดดูตอนนั้นเหลือเวลาประมาณ 5 นาทีก็หวังสูงเกินไปนิที่จะทำได้ 2 ลูกจนมาตีเสมอ เหมาะสมแล้วที่ระยะหลังมานี้โค้ชซิโก้ทำให้นักเตะทีมไทยมีวินัยและเน้นการเล่นดีเอาสนุกไปพร้อมๆกับการเล่นอย่างมุ่งมั่นเพื่อเอาชนะ ดูแล้วปลื้มใจกับสปริตของนักบอล สมควรที่การเตะถ้วยนี้ทีมไทยได้รางวัล Fair Play Award คือรางวัลมารยาทยอดเยี่ยมมาครองด้วยพร้อมๆกับถ้วยและเงินรางวัล 200 000 เหรียญสหรัฐ
อ้าวช่วยกันเร็ว........... อยู่เฉยๆก็.. อายหมาเลยข่อย 555... ************************* ขอบคุณเรื่องแนะนำจาก–– @น้าบูม ปักษ์ใต้ cr : Thassanan Sriungrojana
พอดีเป๊ะเมื่อวันหยุดที่ผ่านมา ทีวีนำหนังเก่าตั้งแต่ปี 2013 มาฉาย เรื่อง เหตุเกิดที่หมู่บ้านชายแดนสวิสฝรั่งเศส ดูแล้วประทับใจ คนกับหมา หมาขาวชื่อ Belle Belle ตอนแรกขนสีสกปรกมาก ตอนหลัง Sebastien พาไปว่ายน้ำขนเลยขาวสะอาด คนในหมู่บ้านตายเรื่อยๆ เลยพากันตามล่าหาปิศาจหมาที่เล่าลือกันปากต่อปาก Sebastien จึงพา Belle ไปซ่อนในถ้ำและจำต้องโกหกตาเพื่อความอยู่รอดของ Belle แล้วเรื่องราวก็ดำเนินต่อไป แสดงถึงความรักบริสุทธิ์งดงามระหว่าง Belle และ Sebastien