จริงๆ ผิดกฎหมายอยู่แล้ว ผิดอย่างน้อย 2 ข้อหา คือ ปลอมแปลงหรือทำสิ่งเทียมเงินตรา กับ ละเมิดลิขสิทธิ์ เพราะเจ้าของลิขสิทธิ์คือธนาคารแห่งประเทศไทย
'สตีเวน ซีกัล' เข้าพบนายกฯ และยกย่อง 'ในหลวง' พระราชาผู้ยิ่งใหญ่ © ภาพ INN 'สตีเวน ซีกัล' นายสตีเวน ซีกัล ดาราฮอลลีวูดและผู้กำกับภาพยนตร์ เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ ดร.สุมาลี อุทัยเฉลิม ประธานที่ปรึกษาสมาคมอุตสาหกรรมถ่ายแบบและผู้ประกอบการไทยและคณะ ภายหลังเข้าพบนายกฯ นายสตีเวน ซีกัล กล่าวว่า รู้สึกสูญเสียกับการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งพระองค์ถือเป็นพระราชาที่ยิ่งใหญ่ที่ทำคุณประโยชน์มากมาย และทั่วโลกก็ตระหนักถึงพระราชกรณียกิจของพระองค์ ทั้งนี้ ส่วนตัวรู้สึกผูกพันกับประเทศไทย ขณะเดียวกันในปีหน้าจะสร้างภาพยนตร์แนวแอคชั่นโดยผสมผสานกับวัฒนธรรมไทย เช่น มวยไทย รำไทย และทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย นอกจากนี้ ยังพูดคุยกับนายกฯ ถึงความร่วมมือที่จะช่วยเหลือประเทศไทยว่า จะร่วมมืออะไรได้บ้าง คลิปข่าวสตีเวน ซีกัลเข้าพบลุงตู่ (อยู่ช่วงต้นๆของคลิป) (สตีเวน ซีกัล เป็นนักแสดง ผู้ผลิตภาพยนตร์ ผู้เขียนบท ผู้กำกับภาพยนตร์ นักศิลปะการต่อสู้ ผู้ฝึกสอนไอคิโด นักดนตรี รองนายอำเภอสำรองและผู้ประกอบวิสาหกิจชาวอเมริกัน) http://www.msn.com/th-th/entertainment/celebrity/สตีเวน-ซีกัล-พบนายกฯ-ยก-ในหลวง-พระราชาผู้ยิ่งใหญ่/ar-AAjmdHF?li=BBr8OIR&ocid=mailsignout
จากกรณีที่มีจิตอาสาริเริ่มจัดกิจกรรมชูป้ายกอดฟรีเริ่มจากเขตปทุมวัน แล้วย้ายมายังท้องสนามหลวง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปลอบประโลมจิตใจคนในสังคมหลังพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสวรรคตจนกลายเป็นกระแสในโซเชียล คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำแนะนำสำหรับจิตอาสาว่าควรงดกิจกรรมที่มีลักษณะล่อแหลมแบบนี้ อนึ่ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในกิจกรรมกอดฟรีนั้น ผู้จัดกิจกรรมโพสต์แจ้งผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวในภายหลังว่า กิจกรรมดังกล่าวมีหญิงสาวเป็นผู้ถือป้ายเชิญชวน แต่การกอดนั้นเป็นหน้าที่ของเพื่อนชายอีกคนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบว่ามีบุคคลแต่งตัวเป็นซูเปอร์ฮีโร่ให้บริการถ่ายรูปเซลฟีที่ท้องสนามหลวง นายปรมะ อิ่มอโนทัย หรือ ปั้นจั่น ศิลปินนักร้องและนักแสดงชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านแอพพลิเคชันอินสตาแกรม ระบุว่า "ตรองกันดูนะคนไทย" โดยมีคำบรรยายที่ภาพว่า "รอบๆ พระบรมมหาราชวังหลายวันมานี้ หลายคนมาเพราะจงรัก แต่อีกหลายคนมากมายนักก็มาเพราะของกินฟรี เดินทางมากราบพ่อแล้วกลับบ้านกลับถิ่นมากมายนัก ส่วนมากินและมาอยู่ก็มากมายนัก มาถ่ายรูปเพื่อลงโซเชียลก็มากมายนัก รู้สึกเริ่มผิดวัตถุประสงค์เจตนารมณ์ในการมานะครับหลายคน ถ้าเรามองให้ลึกหน่อยใช้ความละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกบ้าง เราจะไม่มีอารมณ์มาเดินถ่ายรูปโพสต์ท่าไปโพสต์ท่ามา แต่งชุดดำแต่แต่งหน้าเต็มมาถ่ายรูปกับหาอาหารฟรีทาน หรือแจกของเรียก like หรอกนะครับ คนที่ขาดน้ำขาดข้าวปลาอาหารมีอยู่ทั่วประเทศ ตอนนี้ของมันมากจนเกินพอแล้วครับ ถ้าตั้งกองทัพสะสมเสบียงก็อยู่กันได้ถึงแล้งหน้าแล้วครับ เข้าใจถึงน้ำใจ แต่ฝากถึงคนที่มาเพื่อเที่ยวเล่นขอบอกว่ามันไม่ถูกกาลเทศะและหัดละอายและสำนึกบ้างนะครับ ใจใครใจมันรู้อยู่แก่ใจนะครับ ใครที่เพิ่งไปหรือกลับไปอีกก็จงดูรอบๆตัวเอาเองเถิด แล้วคุณจะได้คำตอบ #ใครเค้าทำกันครับถ้าหากคุณไปงานศพญาติ หรือพ่อแม่ของเพื่อนสนิท แล้วถ่ายรูป selfie ยิ้มแป้นกันขนาดนั้น ตรรกะคืออะไรกันวัยรุ่น ได้โปรด cool กันอย่างมีสติด้วยครับ" http://www.msn.com/th-th/news/break...เซลฟี่/ar-AAjmDSs?li=BBr91nk&ocid=mailsignout
น้องๆหนูๆมาร่วมทำกิจกรรมที่ตนเองชื่นชอบ มาด้วยใจ นักศึกษา มรภ.วไลยอลงกรณ์ วาดรูปในหลวงแจกฟรี กกุธภัณฑ์ พลเมืองดี แบบนี้ ดีกว่า กอดฟรีนะคับ บุษบา มณีจันทร์ชมเดือน ***คงจะเป็นภาพประวัติศาสตร์ประจำตัวของหนูๆ ไปจนตลอดชีวิตเลยนะคะลูกๆ...วาดอย่างมีความรัก มีความสุข และความประทับใจเลยเนาะ..หนูคนนี้มอง "พ่อ" แล้วยิ้มด้วยความรักสุดบูชาเลย ปลื้มใจจัง ประหยัด วงศ์วิศากุลชัยวรรณ ดีครับ เป็นกำลังใจให้น้องๆ ทำดีแล้ว ทำต่อไป แต่อย่าทิ้งการเรียนนะครับ สู้ๆ
26 ตค.59 เกษตรกรจากทุ่งสง นครศรีธรรมราช นำลองกองกว่า 8 ตันที่ผลิตได้ในพื้นที่มาแจกจ่ายให้กับประชาชนตั้งแต่ช่วงเช้ามืด Thai PBS News
" การยืนไว้อาลัยของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่ยืนไว้อาลัยทั้งสมัชชา ตนถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเพราะเขาไม่เคยทำกับใคร " นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งภาพดีๆ ในช่วงที่ประชาชนทุกคนพร้อมใจกันสามัคคี เมื่อมูลนิธิร่วมกตัญญูได้ช่วยหุงข้าวทำอาหารเพื่อแจกจ่ายประชาชนที่เข้ามารอถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศบริเวณท้องสนามหลวง วิธีการหุงคือ ตักข้าวสารที่ซาวน้ำเรียบร้อยใส่ลงไปในถาดเรียงกันเป็นชั้นๆ ตักน้ำใส่ลงไป แล้วนึ่งให้สุกด้วยไอน้ำ ซึ่งเป็นอุปกรณ์พิเศษของทางมูลนิธิ รวมถึงเจ้าหน้าที่มีความชำนาญ หลังหุงเสร็จข้าวจะสุกทั่วกันไม่แข็งไม่แฉะ โดยทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าอุปกรณ์สะอาดปลอดภัย ถาดที่ใช้ก็ไม่ลอกแน่นอน เสร็จรวดเร็ว อีกทั้งยังได้ปริมาณมากต่อการหุงหนึ่งครั้ง วิธีการหุงข้าวของมูลนิธิร่วมกตัญญู บอกเลย "ทั้งเร็วและสะดวก" Youlike (คลิปเด็ด) เผยแพร่เมื่อ 21 ต.ค. 2016
อีกหนึ่งเสียงของคนบันเทิง ป๋อ ณัฐวุฒิ ได้ออกมาเสนอ 5 ข้อ การเตรียมตัวเตรียมใจในการเข้าร่วม ถวายความอาลัย ณ ท้องสนามหลวง ว่าควรตระเตรียมอะไรไปบ้าง พร้อมทั้งยังเสนอความเห็นว่า ควรจะมีสติ ในการกระทำทุกสิ่งทุกอย่าง โดยระลึกถึงคุณงามความดีของพระองค์ท่านอย่างแท้จริง ในการมาร่วมถวายความอาลัยในครั้งนี้… http://thestarthailands.com/47176 (27 ต.ค.59) ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ข้อความจาก เฟซบุ๊ก Eagle Pairon ซึ่งเป็นของนายไพโรจน์ จีรบุณย์ อาชีพ สถาปนิก ซึ่งได้โพสต์ข้อความ วอนคนไทยที่ไปบริเวณรอบพระบรมมหาราชวัง ขอให้ระลึกและตระหนักว่าสถานที่นี้คือ บริเวณที่มีการจัดพระราชพิธี พระบรมศพ ในหลวง รัชกาลที่ 9 โดยระบุว่า "ขอความกรุณา พี่น้องคนไทยทุกท่าน ทุกครั้ง ที่ท่าน ได้ไปบริเวณรอบพระบรมมหาราชวัง กรุณาระลึก และ ตระหนักเสมอ ว่า สถานที่นี้ คือ " บริเวณ ที่มีการจัดพระราชพิธี พระบรมศพ " " พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ พ่อของแผ่นดินของเราทุกคน " ขอความกรุณา มีความสงบ สำรวม ตามสมควร และ ไม่ กระทำ แสดงฤติกรรม หรือ จัดกิจกรรม ใดๆ อันเป็นการละเมิดต่อ บรรยากาศแห่งการไว้อาลัย และการถวายความเคารพสักการะ ที่พึงเป็นวัตถุประสงค์หลัก ขอบพระคุณทุกท่าน ที่กรุณารับฟังความปรารถนาดีนี้ ด้วยหัวใจ ที่มีความรักและอาลัยต่อพระองค์ท่าน ร่วมกัน ด้วยสำนึกในพระเกียรติยศ ที่คนไทยควรรักษาเทิดทูน นาย ไพโรจน์ จีรบุณย์ 26 ตุลาคม 2559" ทั้งนี้ ข้อความดังกล่าวถูกแชร์ไปทั่วโลกออนไลน์ โดยมีคนในแวดวงบันเทิงหลายคนโพสต์ข้อความดังกล่าว ซึ่งมีคนเข้ามาแสดงความเห็นด้วยมากมาย ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก Eagle Pairon http://news.sanook.com/2090734/
เบื้องหลังกว่าจะถ่ายทำคลิปนี้ออกมาได้ ต้อง Take หลายครั้งด้วยกันเพราะเยาวชนที่มาร่วมขับร้องมีทั้งคนไทยและต่างชาติ เยาวชนที่เป็นคนไทยเข้าใจความหมายของเพลงนี้อย่างลึกซึ้ง จึงต่างร้องไห้กันนานกว่าจะหยุดได้ แต่ภาพและเสียงที่ออกมาก็สำเร็จอย่างงดงามยิ่งใหญ่และสื่อความหมายยิ่งนัก พระราชาในนิทาน 【OFFICIAL MV】| เสถียรธรรมสถาน เสถียรธรรมสถาน SDS Channel
แน่นอนว่าคนที่ทำงานด้านบริการต้องเป็นคนที่มีความสุภาพ-อ่อนโยน พร้อมยินดีให้บริการลูกค้าทุกระดับ ไม่มีการแบ่งชนชั้น แต่แล้วกลับเกิดเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย เพราะพนักงานธนาคารแห่งนี้ช่างให้บริการที่สุดแย่จริงๆ โดยเรื่องมีอยู่ว่า มีชายชราแก่ๆคนหนึ่ง แต่งตัวปอนๆเนื้อตัวมอมแมมสกปรก พนักงานเลยพูดจาไม่ดีใส่ สุดท้ายคุณลุงต้องแก้เผ็ดเอาคืนด้วยวิธีการนี้ เมื่อคุณลุงต้องการจะถอนเงินแต่พนักงานไม่ให้ถอน !! ลุงคนหนึ่งเดินเข้าธนาคารเพื่อที่จะถอนเงิน 2,000 บาท พนักงาน : ถ้าลุงจะถอนแค่นี้ ลุงต้องไปถอนที่ตู้ค่ะ (เสียงไม่พอใจ) ลุง : ลุงกดไม่เป็น เลยมาถอนเงินที่เคาน์เตอร์ พนักงาน: ที่เคาน์เตอร์เค้าให้ถอนตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปค่ะ ลุง : ถ้าอย่างนั้นลุงขอถอนหมดบัญชีเลยละกัน พอพนักงานธนาคารตรวจดูเงินในบัญชีลุงดูก็ตกใจ เพราะยอดเงินในบัญชีมีตั้ง 11 ล้านบาท พนักงาน : เอ่อ! ลุงจะถอนหมดในวันนี้ทีเดียวไม่ได้ค่ะ ลุงต้องแจ้งเรื่องไว้ก่อนล่วงหน้าน่ะค่ะ ลุง: แล้วลุงจะถอนมากที่สุดเดี๋ยวนี้ได้เท่าไหร่ล่ะ พนักงาน : 3 ล้านค่ะ ลุง: งั้นลุงถอน 3 ล้านเลยละกัน แล้วพนักงานก็จัดการถอนให้ และนับเงินให้ลุงจนครบ 3 ล้าน แล้วมอบให้ลุง พอลุงแกรับเงินเสร็จ แกก็แยกออก 2,000 บาท แล้วพับใส่กระเป๋ากางเกง ส่วนเงินที่เหลือแกยื่นคืนให้พนักงานแล้วพูดว่า ลุง: ช่วยนับเงินที่เหลือ แล้วฝากเข้าบัญชีผมเหมือนเดิมนะ http://www.clip007.com/news-184982
นั่นไง!?!…กรรมตามทันติดจรวด “สมศักดิ์”ตัวหมิ่นฯถูกไล่ออกจากร้านหนึ่งที่ออสเตรเลีย ชีวิตเริ่มวิบัติแล้ว(รายละเอียด) 29 ตุลาคม 2016 มีรายงานเข้ามาว่า เอบีซี ออนไลน์ สื่อของออสเตรเลีย ได้รายงานว่า นายสมศักดิ์ ราชโส ผู้ที่ถูกกล่าวหากรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของไทยซึ่งเป็นอาชญากรรมที่มีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี แต่ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าอะไรเป็นต้นตอของความเคลื่อนไหวเล่นงานเขาได้ จากกรณีดังกล่าวนี้จึงมีกลุ่มจงรักภักดีเล่นงาน สมศักดิ์ ราชโส ด้วยการบอกต่อคนไทยในออสเตรเลียไม่ให้คบค้าสมาคมกับเขา ส่งผลให้ร้านอาหารไทยในเพนริทร้านหนึ่งตัดสินใจไล่นายสมศักดิ์ออกจากงาน เนื่องจากเกรงว่าจะถูกโจมตีโดยคนกลุ่มนี้ หลังจากมีเหตุการณ์ดังกล่าว ทางด้านนายปีเตอร์เจ้าของร้านอาหารบอกกับนักข่าวเอบีซี ออนไลน์ ว่าตนนั้นทราบดีว่าเรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นอ่อนไหวของชุมชนไทย และย้ำว่าเขามีความเคารพต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และคิดว่าการกระทำของนาย สมศักดิ์ เป็นกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ตนจึงได้ตัดสินใจไล่คนคนนี้ออกจากงานในทันที ที่มา เอบีซี ออนไลน์ http://www.politic.zocialx.com/2515
พวกมันคงร้อนๆหนาวๆแล้วหละตอนนี้ FB กูเกิ้ล และยูทูบ ก็จะดึงมาร่วมด้วยไม่ใช่ ไลน์ อย่างเดียว 'ประจิน' เผยผู้บริหาร 'ไลน์' พร้อมให้ความร่วมมือไทย เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 59 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการหารือกับผู้บริหารระดับสูงแอพพลิเคชั่นไลน์ พร้อมด้วยหน่วยงานที่กำกับดูแล อาทิ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดทางอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ว่า ผู้บริหารระดับสูงแอพพิเคชั่นไลน์ที่มาพูดคุยวันนี้เป็นคนไทย มีเจตนาดี และให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ © ภาพจากเดลินิวส์ 'ประจิน' เผยผู้บริหาร 'ไลน์' พร้อมให้ความร่วมมือไทย อย่างไรก็ตาม ไลน์ถือเป็นเพียงช่องทางในการส่งผ่านข้อมูลทั้งภาพและคลิปวีดีโอ โดยผ่านการเข้ารหัสส่วนตัว ดังนั้นสิ่งที่ทำได้คือ การสร้างการรับรู้และความเข้าใจ ไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือการส่งต่อ แชร์ กดไลค์ หรือเก็บภาพและคลิปวีดีโอที่ไม่เหมาะสม พล.อ.อ.ประจิน กล่าวอีกว่า ทั้งนี้จะมีการจัดชุดทำงานพิเศษของผู้บริหารแอพพลิเคชั่นไลน์ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำญี่ปุ่น รวมทั้งตำรวจสากล เพื่อพิจารณาคำร้องขอของไทยเป็นกรณีพิเศษ และประสานร่วมกับ ปอท. กสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามและแจ้งเตือน จนได้ URL และรายชื่อผู้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสม ซึ่งได้เริ่มดำเนินการไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว วันนี้จึงเป็นการยืนยันความร่วมมืออีกครั้ง และจากการพูดคุยถือว่ามีความเข้าใจตรงกัน พล.อ.อ.ประจิน กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าภายหลังการหารือผู้บริหารเว็บไซต์กูเกิ้ลและยูทูบเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี สามารถปิดเว็บไซต์และลิงค์ที่ไม่เหมาะสมได้เพิ่มขึ้น แต่ไม่ขอเปิดเผยในขณะนี้ ต้องรอการสรุปตัวเลขทุกสิ้นเดือน โดยในวันที่ 1 พ.ย. 59 นี้จะเปิดเผยจำนวนเว็บไซต์ที่ได้ดำเนินการไปแล้วให้รับทราบ ขณะเดียวกันในสัปดาห์หน้าจะหารือกับตัวแทนผู้บริหารเฟซบุ๊ก ซึ่งเปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจกับการสูญเสียพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ และพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ http://www.msn.com/th-th/news/national/ประจิน-เผยผู้บริหาร-ไลน์-พร้อมให้ความร่วมมือไทย/ar-AAjspkk?ocid=mailsignout
ลืมกันหรือยัง เสื้อยืด เรารักพระบรม ยุคหนึ่งเสื้อแดงใส่กันจัง หวังจะแบ่งแยกพี่-น้อง ใช้กฎชั่วคิดเองเออเองว่าเข้ากับสถานการณ์ คือ Devide and Rule=แบ่งแยกแล้วปกครอง แต่ถึงวันนี้กรรมสนอง โกตี๋หนี 112 อยู่ที่ฝั่งลาวรอถูกส่งตัวกลับแลกนักโทษ ส่วนลุงยิ้มเป็นมะเร็งตายแล้ว credit: กูเกิลภาพ
เมื่อถึงคราวที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯต้องเสด็จไปศึกษาต่อในต่างประเทศเมื่อหลายสิบปีก่อน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็อดคิดถึงพระราชโอรสไม่ได้... หม่อมดุษฎี บริพัตร ณ อยุธยาได้เล่าประสบการณ์หลังจากได้เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่พระตำหนักภูพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่เมื่อห้วงเวลานั้นว่า ก่อนร่วมโต๊ะเสวยหม่อมได้รับการกำชับจากท่านผู้หญิงมณีรัตน์ว่า “ห้ามพูดถึงสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯนะ” เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงมีพระราชหฤทัยระลึกถึงพระราชโอรสมาก และคงไม่โปรดให้ใครพูดถึงเพื่อจะได้ลืมและคลายความคิดถึง... แต่พอหม่อมดุษฎีเดินไปนั่งที่โต๊ะเสวย ก้นยังไม่ทันจะแตะที่เก้าอี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯก็มีพระราชกระแสรับสั่งถึงสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯอย่างยืดยาวติดต่อกันโดยไม่มีช่องว่างให้หม่อมกราบทูลอะไรเลย กลายเป็นว่าเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเสียเองที่คิดถึงพระราชโอรสจนอดที่จะตรัสถึงไม่ได้ เรื่องนี้ทำให้เราทราบว่า ความรักระหว่างพ่อกับลูกนั้นเป็นความรักที่แนบแน่นยากที่จะคลาย และไม่ว่าจะเป็นเจ้าหรือเป็นสามัญชน ความรักที่มีให้แก่ลูกนั้นก็ไม่ต่างกันเลย... หนังสืออ้างอิง จงทำให้ได้ดั่งฝัน โดย หม่อมดุษฎี บริพัตร ณ อยุธยา ในหลวงทรงรักพระบรมฯมาก ป้อนขนมกันเหมือนเด็กๆ แม้ทรงเจริญวัยแล้ว ความรักของพ่อที่มีต่อลูก เป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น ถึงขนาดขอตายแทนได้ รูปนี้ไอ้กี้เอาไปโหนเผาหากิน อิอิ พระฉายาลักษณ์ที่มีผู้แชร์กันมากที่สุดในอดีต : สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงดูแลฉลองพระองค์ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในงานพระราชทานเลี้ยง โอกาสที่นายจอร์จ ดับเบิล ยู บุช และภริยา ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ที่มา : เพจ Be Loved Crown Prince Maha Vajiralongkorn credit: กูเกิลภาพ
(น้อย คือนิกเนมของสมเด็จพระเทพฯ ชาย คือของสมเด็จพระบรมฯ) “น้องน้อยของพี่ชาย” พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ถึง สมเด็จพระเทพฯ วันจันทร์ 27 กรกฎาคม 2558 8:30 http://www.chaoprayanews.com/2015/07/27/น้องน้อยของพี่ชาย-พระ/ “น้องน้อยของพี่ชาย” เป็นบทความที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระราชนิพนธ์ เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ ๓ รอบ เมื่อวันที่ ๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๓๔ พระราชนิพนธ์นี้ยังเผยแพร่ไม่มากนัก ศูนย์สารสนเทศ สำนักราชเลขาธิการ จึงเชิญมาเผยแพร่ เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ ครบ ๕ รอบ พุทธศักราช ๒๕๕๘ ที่มา : ภาพจากหนังสือ ปิยชาติสยามบรมราชกุมารี “ดาวประจำเมือง” และภาพจากแฟ้มภาพ ทรัพยากรกลุ่มงานแสดงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ขอขอบคุณ : ศูนย์สารสนเทศ สำนักราชเลขาธิการ
พระองค์ภาทรงพระเยาว์ 19 รูปภาพ · Updated 5 ปีที่แล้ว พระบรมฉายาลักษณ์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ร้อยเอกหญิง ดร.พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พระราชธิดาองค์แรกใน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร กับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ (หม่อมหลวงโสมสวลี กิติยากร) ทรงเป็นพระราชนัดดา พระองค์แรกใน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ประสูติเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2521 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ขอขอบคุณ พระบรมฉายาลักษณ์ จาก http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2009/12/A8617288/A8617288.html https://www.facebook.com/pg/kingarmy/photos/?tab=album&album_id=304909502859610
หนุ่มใหญ่ อบต.เมืองลับแล ดวงเฮง ถูกหวยรางวัลที่ 1 รวย 6 ล้าน เผยแบ่งเงินเป็น 4 ส่วนทำบุญ ถวายเป็นพระราชกุศลถวายในหลวง 1 ส่วน (1 พ.ย.) นายสิทธิพงษ์ ทองก้อน อายุ 52 ปี ชาว อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เดินทางเข้าพบร.ต.อ.สนั่น บุตรยา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ พร้อมนำสลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 785438 งวดที่ 41 ชุดที่ 95 และ 96 ประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 จำนวน 1 คู่ ซึ่งเป็นสลากที่ถูกรางวัลที่ 1 มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน นายสิทธิ์พงษ์ กล่าวว่า ปัจจุบันเป็นพนักงานของ อบต.ฝายหลวง อ.ลับแล รับผิดชอบดูแลด้านพัฒนาชุมชน ก่อนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลฝันเห็นบ้านเลขที่เก่าของแฟน ตื่นขึ้นมาจึงไปหาซื้อเลข 38 ทั้งในพื้นที่ อ.ลับแลและ อ.เมืองอุตรดิตถ์ หาซื้อเลขเป็นชุดจำนวนหลายใบแต่ไม่ได้ แต่ได้เพียงฉบับเดียว ตกช่วงเย็นทราบว่าหวยออก 785438 จึงนำสลากใบดังกล่าวมาตรวจพบว่าถูกรางวัลที่ 1 ก็ดีใจอย่างมาก จึงบอกให้ภรรยาซึ่งทำงานอยู่เทศบาลตำบลหัวดง อ.ลับแล รับรู้พร้อมเดินทางไปที่โรงพักเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานทันที นายสิทธิพงษ์ กล่าวด้วยว่า เงินจากการถูกรางวัลที่ 1 ในครั้งนี้ จะแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ส่วนแรกทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลให้กับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช และให้กับตัวเองพร้อมครอบครัว ส่วนที่ 2 เป็นทุนเพื่อเลี้ยงตนเองยามแก่เฒ่า ส่วนที่ 3 เป็นทุนการศึกษาให้กับลูกทั้ง 3 คน ส่วนที่ 4 สำหรับใช้จ่ายยามจำเป็นภายในครอบครัว และยังคงยึดอาชีพรับราชการเหมือนเดิมจนกว่าจะเกษียณอายุ เชื่อว่าการถูกหวยเป็นเรื่องของบุญกุศลที่สร้างเอาไว้ บวกกับการทำความดีที่สร้างให้กับสังคมเพื่อสนองคุณต่อแผ่นดินเกิด ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก www.news.sanook.com
16 ตค.2559 หนูอ้อยได้กับเขาเหมือนกัน อิอิ 10 000 เลขท้าย 98 .... 10 ใบ แค่นี้ก็ดีใจแล้ว เพิ่งเคยซื้อเป็นชุดครั้งแรกในชีวิต
"พระองค์เจ้าโสมสวลี" ประทานอาหารหลากหลายเมนูเพื่อประชาชนที่มาถวายสักการะพระบรมศพ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ในฐานะองค์นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก เสด็จยังรถเคลื่อนที่ “เพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ช่วยด้วยใจคนไทยไม่ทิ้งกัน” บริเวณหน้ากรมศิลปากร ถนนหน้าพระธาตุ ทรงทอดไก่ประทานพร้อมข้าวเหนียวแก่พสกนิกรที่มากราบสักการะพระบรมศพหน้าพระบรมโกศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยได้จัดเตรียมไก่ไว้จำนวน 1,300 กิโลกรัมและข้าวเหนียวอีก 500 กิโลกรัมในจำนวนที่เพียงพอกับไก่ทอด นอกจากนี้ยังมีอาหารอื่นๆเสริม อย่างยำผลไม้รวม แอปเปิ้ล ข้าวจี่ใส่ไข่ มะม่วง ลูกพลับสด และไอศกรีมตัก 6 ถัง ในการนี้ได้ประทานคำแนะนำแก่เจ้าหน้าที่ว่า “ไก่ทอดแห้งไป ทอดให้เหลืองน้อยกว่านี้หน่อย” พร้อมกับรับสั่งให้แจกไอศกรีมให้แก่ประชาชนก่อนในระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่ห่อข้าวเหนียวไก่ พร้อมแย้มพระโอษฐ์ให้กับประชาชนที่มาเฝ้ารับเสด็จอย่างไม่ถือพระองค์ นับเป็นภาพแห่งความปลื้มปิติยิ่งนัก ระหว่างแจกจ่ายข้าวเหนียวไก่ทอด นางสายสม วงศาสุลักษณ์ กรรมการ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อ 2 วันก่อนมีผู้มีจิตอาสาทูลเกล้าถวายไข่ไก่แก่พระองค์ท่าน 3,000 ฟอง พระองค์จึงทรงคิดสูตรเมนูข้าวจี่ (ข้าวเหนียวชุปไข่ทอด) เพื่อประทานแก่ประชาชนในทันที (แสดงถึงพระปฏิภาณไหวพริบและความโปรดปรานในการครัวของพระองค์) ดังนั้นในวันนี้จึงมีเมนู "ข้าวจี่" ออกมาแจกจ่ายแก่ประชาชน เป็นที่ซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณยิ่งนัก
Thairath 6 พฤศจิกายน เวลา 15:14 น. · -เมนูของพ่อ- สมเด็จพระเทพฯ ทรงปรุงอาหารเมนูพระราชทาน #ไข่พระอาทิตย์ ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงสอนตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ เป็นเมนูพระราชทานที่พระราชโอรสและพระราชธิดาทรงปรุงได้ทุกพระองค์
เอือมข่าว “น๊อต มินิเหลือง” ให้คลิกเลยมาอ่านข่าวน่ารักชิ้นนี้ ที่มา น.ส.พ. ไทยรัฐ หน้าสังคมฉบับวันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม 2551 http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2008/05/A6572630/A6572630.html มีเรื่องน่าปลาบปลื้มจากหน้าสังคมไทยรัฐมาฝาก.... รูป ร.ย.ล. เป็นของจริงและพังจริง เป็นรถในขบวนเสด็จ แล้วพระบรมฯท่านทรงเรียก “อาแปะ” ไปคุยในวัง ส่วนรถที่ท่านหญิงสิริวัณณวรีทรงขับวันนั้นเป็นบีเอ็มป้ายแดง ตอนปี พศ. 2551 ...ท่านกำลังทรงศึกษาที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬา ต้องอ่านในกระทู้พันทิปข้างบนลงไปยาวๆจนจบ จะมีสมาชิกเข้ามาเสริมเหตุการณ์ทำให้การติดตามข่าวเก่านี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น “อาแปะ” เมาแล้วขับรถชนรถสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ แต่พระองค์ ทรงให้อภัย 8 พฤศจิกายน 255900:33 น. http://www.tvpoolonline.com/content/255478 เกิดโกลาหลหน้าโรงแรมโอเรียนเต็ลในวันหนึ่ง เมื่อแขกโรงแรมหุ่น “อาแปะ” กลับลงมาจากงานแต่งงาน ก็ให้พนักงานไปเอารถที่ใช้ บริการ VALET PARKING มา พอได้กุญแจ และให้ลูกเมียขึ้นนั่งรถแวนเรียบร้อย อาแปะก็ขับรถออกไป แต่ยังไงไม่รู้ รถพุ่งไปชนเบนซ์รุ่นใหม่เอี่ยมที่จอดอยู่ตรงเกาะกลางเต็มรัก ทำให้รถกระเด้งไปกระแทกรถบีเอ็มฯซีรีส์ 7 อีก 2 คันเสียหายไปด้วย อาแปะตกใจมาก รีบเข้าเกียร์ใหม่ คราวนี้ถอยหลังเต็มที่ จึงไปชนรถลีมูซีนของโรงแรมอีก 2 คัน และแรงกระแทกทำให้ไปเสยกระถางต้นไม้ขนาดใหญ่จนแตก เศษกระเบื้องหนาหนักหล่นโครมมาบนฝากระโปรงรถอีก 2 คัน คันนึงเป็นพอร์ซ สรุปว่ามีรถเสียหายจากผลงานการขับของอาแปะไป 7 คันรวด! “เจ้าของรถ” (เบนซ์ และ บีเอ็ม) จึงเรียก อาแปะ ไปเจรจา ถามว่าขับยังไงถึงได้ชนขนาดนั้น อาแปะตัวสั่นงันงก อธิบายตะกุกตะกักว่า “ไปงาง แต่งงางลูกเพื่อง เพื่องมังเอาเอาเบียร์ให้กิงแก้วนึง แล้วก้อเอาวิก-สะ กี้ให้กิงอีกแก้วนึง ไวน์อีก 2 แก้ว กิงไป 4 แก้ว ขามังเก็งค้างกาทันหัน (ขาเกร็งค้างกะทันหัน) เลยเหยียบคังเร่งแรงไป” “เจ้าของรถ” ถามว่า แล้วจะคิดค่าเสียหายยังไง คราวนี้อาแปะซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายเครื่องไฟฟ้าเล็กๆแถวอุรุพงษ์หน้าจ๋อยบอกว่า “ก็ต้องขายของ ขายบ้าง (ขายบ้าน) เอาเงิงมาใช้ ผิกก็ต้องยอมรับผิก” “เจ้าของรถ” จึงให้อาแปะไปดูสภาพรถที่เสียหาย เพื่อให้รู้ว่า “เจ้าของรถ” รักรถและดูแลรถดีเยี่ยมแค่ไหน อาแปะและลูกเมีย เดินดูรถไปหน้าซีดไป เพราะเสียหายมาก พอดูรถแล้ว “เจ้าของรถ” ก็เรียกมาคุยอีกโดยบอกว่า ความเสียหายในส่วนนี้จะยกโทษให้ เพราะเห็นว่าไม่ได้ร่ำรวยอะไร หากต้องรับผิดชอบค่าซ่อม ครอบครัวคงจะเดือดร้อนหนัก แล้วบอกกับลูกๆอาแปะว่า ไม่ควรให้พ่อขับรถอีกเพราะอายุ 71 แล้ว ลูกหลานควรจะขับให้ เพราะถ้าไปชนกลางถนนหลวงอาจจะมีคนเจ็บคนตาย อาแปะและลูกเมีย ถึงกับน้ำตาคลอเบ้า ก้มกราบพระบาท “เจ้าของรถ” ด้วยสำนึกในพระเมตตาธิคุณของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร อย่างล้นพ้นและจดจำไปจนชั่วชีวิตที่พระราชทานอภัย ทั้งที่ อาแปะ “เมาแล้วขับ” จนชนรถ ร.ย.ล. ซึ่งจอดรอ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ และรถอื่นๆเสียหายไปประมาณ 2 ล้านบาท !! ตอนอาแปะกราบบังคมทูลลาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารได้พระราชทานสติกเกอร์ให้ 1 แผ่น รับสั่งให้เอาไว้ติดรถเพื่อเตือนสติ… เป็นสติกเกอร์ เมาไม่ขับ !!
"ยังไง เราก็ต้องมา" ประมวลภาพ "สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ" เสด็จฯปัตตานี (รายละเอียดและภาพ) 2016-11-15 06:18:55 15 พ.ย. 2559 FB Wassana Nanuam ได้โพสข้อความและรูปภาพ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงสวมเครื่องแบบทหารบก เสด็จฯปัตตานี พระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการทดสอบการอัญเชิญคัมภีร์อัลกรุอ่าน ระดับประเทศ ที่มัสยิดกลางปัตตานี มีรายละเอียดดังนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงสวมเครื่องแบบทหารบก เสด็จฯปัตตานี พระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการทดสอบการอัญเชิญคัมภีร์อัลกรุอ่าน ระดับประเทศ ที่มัสยิดกลางปัตตานี"....ในการนี้ทรงทักทายประชาชน ที่มารับเสด็จฯ ด้วย ก่อนหน้านี้ ในระหว่างการเตรียมการรับเสด็จฯ ทาง ขรก.และประชาชน ชาวปัตตานี ไม่มั่นใจว่า พระองค์จะเสด็จ หรือไม่ หลังจาก ในหลวง ร.9 สวรรคต แต่ทีมงานส่วนพระองค์ที่ลงพื้นที่ ได้บอกกับ ข้าราชการ และประชาชน ในพื้นที่ ถึงพระราชประสงค์ที่ว่า ยังไง เราก็ต้องมา #สมเด็จพระบรมฯเสด็จฯปัตตานี59 14พย.59 โดย จิรศักดิ์ สำนักข่าวทีนิวส์ ข้อมูลจาก FB Wassana Nanuam http://headshot.tnews.co.th/contents/y/213054/
'ทรัมป์' ต้องรู้! หญิงมุสลิมคือต้นแบบของเทพีเสรีภาพ เทพีเสรีภาพ ที่ตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์มหานครนิวยอร์กมากว่า 130 ปี แท้จริงแล้ว สถาปนิกผู้ออกแบบอย่าง เฟรเดริค โอกุสต์ บาร์โทลดี ชาวฝรั่งเศส ตั้งใจจะออกแบบให้เป็นมุสลิมะฮ์ถือคบเพลิง เพื่อขายแบบให้กับประเทศอียิปต์ แต่ถูกปฏิเสธ เว็บไซต์สมิธโซเนี่ยน เพิ่งจะปริปากเผยความจริงให้โลกรู้เมื่อปลายปีที่ผ่านมานี้เองว่า หลังจากนายเฟรเดริคได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศอียิปต์ เมื่อประมาณปี ค.ศ. 2398 ได้พบสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งมากมาย รวมถึงรูปสลักอนุสรณ์สถานแห่งนูเบียซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบอนุสาวรีย์หญิงชาวอาหรับในกาลต่อมา เขาเริ่มลงมือสเก็ตช์ภาพ หญิงชาวมุสลิมสวมฮิญาบเพื่อสื่อถึงความเป็นอียิปต์ ในมือถือคบเพลิงขนาดใหญ่ยักษ์ โดยตั้งใจจะให้ประติมากรรมชิ้นนี้ ตั้งเด่นอยู่ริมฝั่งท่าเรือของคลองสุเอซ เพื่อส่องแสงสว่างให้กับบรรดาคนเดินเรือ หากอนุสาวรีย์นี้สร้างเสร็จ จะมีความสูงวัดจากตั้งแต่ฐานหินถึงยอดคบเพลิงรวม 40 เมตร พร้อมตั้งชื่อให้เสร็จสรรพว่า อียิปต์ผู้นำแสงสว่างมาสู่เอเชีย แต่แล้ว ไอเดียที่แสนจะบรรเจิดดังกล่าว ต้องพังครืนอย่างไม่เป็นท่า เมื่ออิชมาเอล พาชา ผู้นำของอียิปต์ในขณะนั้น ปฏิเสธโครงการเมกะโปรเจคดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า อียิปต์เพิ่งจะทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อขุดคลองสุเอซ ซึ่งการสร้างอนุสาวรีย์ใหญ่โตที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก ยังไม่ใช่เรื่องจำเป็นขณะนั้น แม้จะถูกปฏิเสธ สถาปนิกฝรั่งเศสผู้นี้ ยังคงไม่ถอดใจที่จะสร้างอนุสาวรีย์หญิงสาวที่จะ "ส่องประกายแสงสว่างมาสู่โลก" ต่อไป และหลังจากนั้นไม่นาน ในโอกาสที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จะมีการเฉลิมฉลองวันชาติครบรอบ 100 ปีในวันที่ 4 กรกฎาคม 2419 ประชาชนชาวฝรั่งเศสได้ระดมทุนเพื่อจัดสร้างอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ เพื่อมอบเป็นของขวัญให้แก่ชาวอเมริกัน เฟรเดริคในฐานะผู้ออกแบบ จึงได้นำมุสลิมะฮ์ถือคบเพลิงมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ และกลายเป็นเทพีเสรีภาพสัญลักษณ์ของอิสรภาพ ความเสมอภาค และการยินดีต้อนรับชาวต่างชาติที่ต้องการอพยพหรือลี้ภัยเข้ามาอาศัยที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่บนเกาะลิเบอร์ตี้ นครนิวยอร์ก มาตั้งแต่ปี 2429 ตั้งแต่วันนั้น อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่าหากวันนั้น อิชมาเอล พาชาผู้นำอียิปต์เกิดเปลี่ยนใจซื้อเมกะโปรเจคนี้จากเฟรเดริค วันนี้อาจไม่มีเทพีเสรีภาพหน้าตาแบบนี้ที่นิวยอร์คก็เป็นได้ www.beritamuslimmag.com
Artist Bruno Walpoth creates stunningly life-like figure sculptures out of wood. via Hi-Fructose หุ่นงานไม้แกะสลัก
Super Moon ที่ริมบึงสีฐาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น นายโอ๊ค ปิยะวงศ์มอง มข. ผ่านเลนส์ Super Moon ขอบคุณ คุณน้ำเงิน นามสมมุติ..
ภาพชุด "Super Full Moon" ในวันลอยกระทง เหนือพระบรมมหาราชวัง พระจันทร์ในคืนของวันที่ 14 พฤศจิกายน 2559 ซึ่งเป็นวันลอยกระทง เมื่อเวลา 17.48 น. ปรากฎให้เห็นเต็มดวงบริเวณเหนือพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร ซึ่งปีนี้เป็นตำแหน่งที่ใกล้โลกมากที่สุดในรอบ 68 ปี ที่ระยะห่าง 356,511 กิโลเมตร มีขนาดใหญ่กว่า 14% และสว่างกว่า 30% ของปกติ สามารถสังเกตเห็นได้ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำทางทิศตะวันออก http://www.msn.com/th-th/news/natio...r-AAkgHR3?li=BBr8Hnw&ocid=mailsignout#image=5
“สมเด็จพระบรมฯ” ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูหนาวพระแก้วมรกต เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 15 พฤศจิกายน 2559 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์พร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูฝนพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เพื่อทรงเครื่องสำหรับฤดูหนาว ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม http://www.matichon.co.th/news/361385 ทั้งนี้พระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต มีมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ซึ่งในสมัยนั้นได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเครื่องทรงถวายพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรสำหรับฤดูร้อนและฤดูฝน อย่างละสำรับ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนเครื่องทรงตามฤดูกาล ครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเครื่องทรงสำหรับฤดูหนาวถวายอีกสำรับหนึ่ง ทำให้พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ทรงเครื่องทรง 3 ชุด ตามฤดูกาลของประเทศไทย จนมาถึงปี 2539 ทางรัฐบาลก็ได้มีการสร้างเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรชุดใหม่ เพื่อใช้ประกอบพระราชพิธีผลัดเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรตามโบราณราชประเพณีขึ้น เพื่อทดแทนชุดเดิมที่ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา อีกทั้งยังเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีกาญจนาภิเษก ครบ 50 ปี ซึ่งได้ใช้เครื่องทรงชุดดังกล่าวมาจนถึงปัจจุบันนี้ อนึ่ง พระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ในแต่ละปีมีกำหนดเวลา ดังนี้ - วันแรม 1 ค่ำ เดือน 4 เปลี่ยนเครื่องทรงฤดูหนาวเป็นเครื่องทรงฤดูร้อน - วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 เปลี่ยนเครื่องทรงฤดูร้อนเป็นเครื่องทรงฤดูฝน - วันแรม 1 ค่ำ เดือน 12 เปลี่ยนเครื่องทรงฤดูฝนเป็นเครื่องทรงฤดูหนาว สำหรับเครื่องทรงฤดูหนาวประกอบด้วย ผ้าคลุมทองคำลงยาลายดอกชิงดวงฝังทับทิม กลีบดอกประกอบจากโกเมน กลางดอกฝังพลอย ชายผ้าคลุมเป็นลายดอกลงยาประดับด้วยมรกตและบุษราคัม ริมขอบด้านนอกฝังเพชร พร้อมสายสร้อยทอง 4 สาย พระศกฝังไพลิน ต้นพระรัศมีฝังเพชร สำหรับเครื่องทรงฤดูฝนมีลักษณะเป็นเครื่องทรงอย่างห่มดอง หรือ ห่มเฉียง ทำด้วยทองคำเป็นกาบจำหลักลายทรงข้าวบิณฑ์ พระศกทำด้วยทองคำลงยา พระเกศเวียนเป็นทักษิณาวัตร ประดับด้วยนิล ในโอกาสทรงเปลี่ยนเครื่องทรงนี้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมารได้ทรงพระสุหร่ายน้ำพระพุทธมนต์ พระราชทานแด่ข้าราชบริพาร ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ตลอดจนประชาชนที่มาเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จฯ บริเวณโดยรอบบริเวณพระอุโบสถด้วย เมื่อเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรตามฤดูกาลแล้ว เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังจะนำเครื่องทรงชุดที่ไม่ได้ทรงตามฤดูกาล ไปเก็บรักษา ณ ศาลาเครื่องราชอิสริยยศเครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเหรียญกษาปณ์ไทย กรมธนารักษ์ ซึ่งตั้งอยู่ภายในพระบรมมหาราชวัง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมธนารักษ์นำออกจัดแสดงให้ประชาชนได้มีโอกาสชมอย่างใกล้ชิด เมื่อถึงกำหนดพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรง เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังจะอัญเชิญออกมา เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายให้ทรงเปลี่ยน โดยอัญเชิญเครื่องทรงฤดูก่อนไปเก็บรักษาไว้แทน (จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 126 พฤษภาคม 2554 โดย อ้อย ป้อมสุวรรณ) http://deeps.tnews.co.th/contents/213176/ http://www2.manager.co.th/Election48/ViewNews.aspx?NewsID=9580000086644 http://www2.manager.co.th/Election48/ViewNews.aspx?NewsID=9590000114448 http://www.watkoh.com/forum/showthread.php?3344-สุริยน-ศรีอรทัยกุล-กับ-อลังการงานสร้าง-quot-เครื่องทรงพระแก้วมรกต-quot
หาชมยากมาก พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงร้องเพลงและรำถวายพระพร เมื่อทรงพระเยาว์ http://video.sanook.com/player/971673/ SiamUpdates.com
คลิปพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และคุณพลอยไพลิน เจนเซน เมื่อ พ.ศ. 2548 หลังเหตุการณ์สึนามิในประเทศไทย (26 ธ.ค. 2547) juthawhat thamrongphol เผยแพร่เมื่อ 22 ส.ค. 2015 เนื่องในโอกาสวันคล้ายประสูติพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงเจริญพระชันษา 32 ชันษา จึงขอนำพระกรณียกิจของพระเจ้าหลานเธอพระองค์สิริภาจุฑาภรณ์ เมื่อครั้งเสด็จทรงปฏิบัติพระกรณียกิจประทานทุนการศึกษาและถุงยังชีพชุดธารน้ำใจช่วยผู้ประสบภัยสภากาชาดไทยแก่ผู้ประสบภัยเหตุการณ์สึนามี ณ กมลา เบย์ การ์เด้น รีสอร์ท จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยคุณพลอยไพลิน เจนเซน ผู้เป็นพระภคินี เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2548
พระองค์ติ๊ด สารคดีเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันคล้ายวันประสูติ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 sakooclub เผยแพร่เมื่อ 28 ก.ย. 2016
สองเจ้าหญิงแสนงามตามเสด็จพระราชบิดาทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูต่างๆของพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร 26 พ.ย. 2558 เวลา 16.36 น. ตามเสด็จทรงร่วมพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูฝนเป็นเครื่องทรงฤดูหนาว ณ.พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=19922.0 23 มี.ค. 2559 เวลา 17.46 น. ตามเสด็จทรงร่วมพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูหนาว เป็นเครื่องทรงฤดูร้อน ถวายพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เครื่องทรงฤดูร้อนเป็นเครื่องต้นอย่างพระมหากษัตริย์ทำด้วยทองคำลงยา ประดับเพชรและมณีต่างๆ มงกุฎของเครื่องทรงฤดูร้อนเป็นมงกุฏทรงเทริด ยอดประดับเพชรเม็ดใหญ่ สมัยก่อนทรงพระสุหร่ายน้ำพระพุทธมนต์แก่เจ้านายและข้าราชการเฉพาะภายในพระอุโบสถเท่านั้น มาในรัชกาลปัจจุบัน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานน้ำพระพุทธมนต์แก่ราษฎรบริเวณรอบพระอุโบสถด้วยเพื่อความเป็นสิริมงคล http://welovethaiking.com/blog/สมเด็จพระบรมโอรสาธิรา-111/ http://welovethaiking.com/blog/สมเด็จพระบรมโอรสาธิรา-15/
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณทรงให้ทหารช่วยเกี่ยวข้าว NOW26 ทหารจากกองกำลังสุรนารีนำรถเกี่ยวข้าวจากโครงการพิเศษสุรินทร์ของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณช่วยชาวนาเก็บเกี่ยว เป็นการลดภาระต้นทุนการทำนาของเกษตรกร
พระบรมวงศานุวงศ์ต่างก็ทรงงานตามรอยในหลวงทั้งนั้น เพียงแต่ทรงทำแบบ "ปิดทองหลังพระ" ไม่ได้เอาหน้าเหมือนกับนักการเมืองหลายคน แต่ละองค์ทรงงานโปรเจคใหญ่ๆ ทรงติดตามงานอย่างใกล้ชิดไม่ได้อยู่สุขสบาย พระองค์หริภา – พระองค์ติ๊ด สองพระราชนัดดาผู้อ่อนน้อม เดินตามรอยทูลกระหม่อมตา November 5, 2016 พระองค์หริภาและพระองค์ติ๊ด สองพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทั้งสองพระองค์ทรงพระปรีชาสามารถในด้านศิลปะอย่างโดดเด่น รวมถึงยังมีพระจริยวัตรที่งดงาม อ่อนน้อมถ่อมตนอย่างยิ่ง พระกรณียกิจหลายด้านที่ทั้งสองพระองค์ทรงทำล้วนแต่เป็นแนวทางที่ตามรอยพระบาทของทูลกระหม่อมตาอย่างแท้จริง พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่า “พระองค์หริภา” ทรงเป็นพระธิดาในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระองค์มีพระอัจฉริยภาพในด้านศิลปะไทยอย่างโดดเด่น นับตั้งแต่ที่พระองค์ทรงเรียนจบจากคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ก็มุ่งมั่นกับการทำงานด้านศิลปะมาโดยตลอด ซึ่งผลงานของพระองค์ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการบูรณปฏิสังขรณ์วัด เช่น งานบูรณะพระวิหาร บูรณะภาพจิตรกรรมฝาผนัง บูรณะศาลาบ่อทิพย์ และปรับพื้นที่ภูมิทัศน์ วัดธาราทิพย์ชัยประดิษฐ์ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระวิหาร วัดหนองน้ำขุ่น จ.ระยอง นอกจากนี้พระองค์ยังทรงใช้ความสามารถที่มีในด้านการทำงานศิลปะให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมอีกทาง คือ การวาดภาพฝีพระหัตถ์ จัดแสดงเป็นนิทรรศการเพื่อช่วยเหลือสุนัขจรจัดอีกด้วย สำหรับพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ หรือพระองค์ติ๊ด ผู้เป็นพระขนิษฐาก็มีความสนใจในเรื่องงานศิลปะเช่นเดียวกัน แต่พระองค์โปรดงานกราฟิกดีไซน์และแอนิเมชั่น ซึ่งแตกต่างจากพระเชษฐภคินี พระองค์ทรงเรียนจบในระดับปริญญาตรี สาขาหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาออกแบบนิเทศศิลป์ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล และมีพระปรีชาสามารถในด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังได้นำวิชาความรู้เหล่านี้มาพัฒนาสร้างสรรค์ปรับรูปแบบบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์การเกษตรโครงการสวนจิตรลดา ทรงออกแบบลายเสื้อฝีพระหัตถ์ “ทุ่งภูเขาทอง” เพื่อสมทบทุนบูรณะอุโบสถวัดภูเขาทอง และในปี พ.ศ.2556 ทรงร่วมงานกับศิลปินแห่งชาติ "ถวัลย์ ดัชนี" ออกแบบลายสำหรับเสื้อและถุงผ้า “ช้างนพสุบรรณ” เพื่อนำทุนไปบูรณะวัดวัง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ที่เสียหายจากอุทกภัยปี พ.ศ.2554 ด้วยพระปรีชาสามารถในด้านศิลปะ ยังได้นำพาให้ทั้งสองพระองค์ไปสู่การปฏิบัติพระกรณียกิจที่เกี่ยวข้องกับประชาชนในถิ่นห่างไกล และทรงตั้งพระทัยในการช่วยเหลือประชาชนตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงเน้นเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง และทำนุบำรุงรักษาพระพุทธศาสนา วัฒนธรรม และงานศิลปะของชาติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือรากฐานสำคัญยิ่งของประเทศไทย ขอขอบคุณภาพ : IG@my_king.999,@thairoyalfamily,@we_love_sirindhorn,@we_love_bajrakitiyabhaและFacebook เรารัก “องค์หริภา” Our beloved Princess Siribhachudhabhon http://www.praew.com/63697/luxury/pricess-siribhachudhabhorn-atidtayathornkittikhun/
หาชมได้ยาก องค์หริภากับทูลกระหม่อมตา เครดิต คุณ : เทพนิทรา เครดิต : คุณมิสพรหล้า เครดิต : คุณ Akkarachai เครดิต : คุณ yingnaja http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2009/05/A7866645/A7866645.html
ภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระวิหาร วัดหนองน้ำขุ่น จังหวัดระยอง เครดิต ร.ว.ย.ศ.(raveeyos) สืบเนื่องจากที่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์วัดหนองน้ำขุ่น อ.แกลง จ.ระยอง และได้ดำเนินการสร้างพระวิหารจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ยังขาดภาพจิตรกรรมฝาผนัง เมื่อทรงเห็นพระปรีชาสามารถด้านงานศิลปะของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ จึงทรงมีพระดำริให้ องค์หริภาทรงออกแบบภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระวิหารวัดหนองน้ำขุ่น และเมื่อวันที่10 ก.ค.2551 องค์หริภาทรงนำคณะกรรมการโครงการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังเข้าเฝ้าพระองค์โสมฯ เพื่อถวายรายงานถึงแผนการดำเนินงาน หลังจากที่ได้ทำการสำรวจและออกแบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ณ พระตำหนักสวนกุหลาบ และในการนี้นายปัญญา วิจินธนสาร คณบดีคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ ม.ศิลปากร ได้ถวายรายงานถึงการดำเนินงานว่า นับจากองค์หริภาทรงรับพระดำริแล้ว พระองค์ได้เสด็จยังวัดหนองน้ำขุ่น พร้อมทีมงานเมื่อวันที่ 14 เม.ย.2551 เพื่อทำการสำรวจเก็บข้อมูลในการเขียนภาพ โดยทรงวัดและคำนวณขนาดพื้นที่ของแต่ละผนัง และด้วยสถาปัตยกรรมของพระวิหารเป็นทรงจัตุรมุข จึงทรงมีแนวพระดำริที่จะเขียนภาพพุทธประวัติในรูปแบบของจิตรกรรมไทยร่วมสมัยด้วยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบประเพณีและการสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ โดยให้งานจิตรกรรมฝาผนังภายในพระวิหารแสดงความรู้สึกราวกับจำลองจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ โดยเนื้อหาของภาพนั้นองค์หริภาทรงมีแนวที่จะเลือกเขียนพุทธประวัติตอนสำคัญ 4 ตอน สื่อความหมายเฉพาะสำหรับวิหารนี้ และถวายเป็นพระราชกุศลแด่บุพการี ทรงแบ่งภาพตามมุขผนัง มีภาพพระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ในลักษณะปางเปิดโลก เรื่องราวเนื้อหาเทพชุมนุม ภาพพระพุทธเจ้าเสด็จสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อโปรดพระพุทธมารดา ภาพสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ และภาพพระพุทธเจ้าเสด็จกรุงกบิลพัสดุ์เพื่อโปรดพระพุทธบิดา รวมถึงภาพท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 องค์ประจำทิศทั้ง 4 ทิศ จากนั้น องค์หริภาได้ทรงนำโมเดลภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ทรงออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้วถวายพระองค์โสมฯทอดพระเนตร พร้อมขอประทานคำแนะนำว่า จะทรงเปลี่ยนแบบหรือแก้ไขในส่วนใดบ้างหรือไม่ เมื่อพระองค์โสมฯทรงรับทราบข้อมูลและทอดพระเนตรโมเดลแล้ว ทรงมีรับสั่งชื่นชมว่าสร้างได้สวยแล้ว ความหมายก็ดี เป็นการทำถวายพ่อแม่ ป้าก็ได้พึ่งหลานด้วย เพราะยังนั่งคิดหาคนทำไม่ได้ เห็นว่าหลานเรียนจบแล้ว เลยขอประทานให้หลานทำ; พร้อมรับสั่งว่า การทำเกี่ยวกับวัดวาอารามกุศลนั้นแรง ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังนั้น พระองค์โสมฯได้ประทานค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งให้เป็นทุนประเดิม และจะทรงเปิดบัญชีให้คนอื่นได้มีส่วนร่วมทำบุญด้วย โอกาสนี้องค์หริภายังทรงถวายคำอธิบายถึงจิตรกรรมฝาผนังที่ทรงทำในส่วนของเพดานพระวิหารด้วยว่า ตามแบบเพดานพระวิหารเป็นปูนจะทำให้ร้อน และเมื่อเจอกับอากาศที่ชื้นจะเกิดรอยแตก พระองค์จึงทรงเสนอทำเพดานเป็นไม้ และออกแบบเป็นจักรราศี เดินไฟตามระบบดวงดาว สามารถกะพริบได้จริง ยังทรงอธิบายด้วยว่า จิตรกรรมฝาผนัง ในครั้งนี้ทรงใช้สีแดงและทองเป็นส่วนใหญ่ เพราะเป็นสัญลักษณ์ของสวรรค์ และรายละเอียดของรูปภาพมีความเป็นล้านนา แสดงถึงเอกลักษณ์ของศิลปินที่มีความร่วมสมัย บ่งบอกให้รู้ว่าสร้างในยุคสมัยใด และที่ทรงเน้นทำถวายเป็นพระราชกุศลแด่บุพการีโดยเฉพาะพระมารดา เพราะวัดแห่งนี้ผู้หญิงเป็นคนสร้าง จึงทรงให้ความสำคัญกับพระมารดาก่อนพระบิดา อีกทั้งยังสื่อให้เห็นว่าพระพุทธเจ้าทรงมีความกตัญญูต่อพระบิดาและพระมารดา จึงทรงอยากให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นถึงตรงนี้ด้วย. http://www.thairath.com/news.php?section=society&content=96903
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงเป็นประธานในพิธีเปลี่ยนผ้าไตรสรีระสังขารหลวงปู่สรวง เผยแพร่เมื่อ 20 เม.ย. 2015 พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ เสด็จไปยังวัดไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ทรงเป็นประธานในพิธีเปลี่ยนผ้าไตรสรีระสังขารหลวงปู่สรวง ซึ่งจัดขึ้นทุกปีเป็นปีที่ 15 ปี เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบูรพาจารย์ คือหลวงปู่สรวง ซึ่งมีสังขารไม่เน่าเปื่อย โอกาสนี้ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชา และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะสรีระสังขารหลวงปู่สรวง ทรงศีล พระสงฆ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์ แล้วทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงทอดผ้าไตร และทรงหลั่งทักษิโณทก หลวงปู่สรวงเป็นที่รู้จักกันของชาวบ้านในท้องถิ่นอำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ และอำเภอใกล้เคียงที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดนเชิงเขาพนมดงรัก ซึ่งเป็นแนวเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ว่าเป็นผู้ทรงศีลปฏิบัติธรรม เนื่องจากหลวงปู่สรวงเป็นคนพูดน้อย จึงไม่มีใครทราบอายุและประวัติที่แท้จริง ทราบเพียงว่าเป็นชาวเขมรต่ำที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานาน โดยจะเดินธุดงค์ไปตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งยังเป็นพระที่สันโดษ สมถะ มีอุเบกขาสูง ให้ความเมตตากับทุกคน อยู่อย่างเรียบง่าย จำวัดตามกระท่อมปลายนาที่มีไม้กระดานเพียงไม่กี่แผ่น มีเสาไม้ไผ่สูงปัก และขึงเชือกระหว่างกระท่อมกับเสาไม้ และมีว่าวจากจีวร หรือกระดาษ เป็นสัญลักษณ์ พร้อมทั้งก่อกองไฟไว้เสมอ ซึ่งหลวงปู่สรวงได้มรณภาพเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2543 ในการนี้ ทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้ารอรับเสด็จด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงเททองหล่อพระวัดศรีชุม สุโขทัย สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดพิษณุโลก เผยแพร่เมื่อ 14 ม.ค. 2016 พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงติดตามความคืบหน้าการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดภูเขาทอง อยุธยา King News เผยแพร่เมื่อ 22 ส.ค. 2016 วันที่ 20 ส.ค. 2559 เวลา 15.14 น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ เสด็จไปยังวัดภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระประธานประจำอุโบสถ และทรงถวายปัจจัยแด่พระครูใบฎีกาประเทือง กิตติปัญโญ เจ้าอาวาส เพื่อบำรุงวัด จากนั้นทรงติดตามความคืบหน้าการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดภูเขาทอง ซึ่งมีพระประสงค์อนุรักษ์วัดเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ให้คงอยู่คู่ชุมชนและประเทศชาติ โดยได้เสด็จไปทอดพระเนตรสภาพและแนวทางการดำเนินงานเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันคณะทำงานอนุรักษ์อุโบสถและพัฒนาวัดภูเขาทองในพระอุปถัมภ์พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ และสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยาได้ดำเนินงาน "โครงการขุดแต่งทางโบราณคดีโบราณสถานวัดภูเขาทอง" ได้แก่ การเคลื่อนย้ายพระพุทธรูปภายในอุโบสถไปประดิษฐานยังสถานที่ชั่วคราว เพื่อให้ชุมชนและนักท่องเที่ยวได้เคาระสักการะ จากนั้นจะทุบรื้อส่วนโครงสร้างอาคารที่สร้างทับซากโบราณสถานเดิม โดยจะรักษาวัสดุบางส่วนที่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้และระมัดระวังการรื้อถอน พื้นหรือผนังที่เชื่อมติดกับฐานโบราณสถานเดิม แล้วจึงจะดำเนินงานขุดแต่งทางโบราณคดี เพื่อศึกษาโครงสร้างหรือองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม และร่องรอยหลักฐานทางโบราณคดีที่จะถูกบันทึกเป็นภาพถ่าย แผนผัง และการเขียนโดยละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับวิเคราะห์ออกแบบสร้างอุโบสถตามลักษณะทางสถาปัตยกรรมเดิม และผสานเข้ากับการใช้ประโยชน์ของอาคารต่อไป
ถึงกับเป็นลม! ลูก 3 ขวบบอกเลข 83 สาว 24 ซื้อตามถูกรางวัลที่ 1 รับ 6 ล. สาวตรังวัย 24 ปี ดวงเฮงถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 รับ 6 ล้าน เผย ลูกชายวัย 3 ขวบ บอกเลข 83 จึงซื้อตาม หลังรู้ตัวถูกรางวัลถึงกับเป็นลม เตรียมนำเงินสร้างบ้าน เป็นทุนการศึกษาลูก เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ออกรางวัลเมื่อวานที่ผ่านมา ก็ทราบว่ามีคนถูกรางวัลที่ 1 และไปลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน จึงติดตามจนทราบว่าผู้โชคดี คือ น.ส.จอย (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ชาว ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง พนักงานร้านอาหาร พร้อมโชว์โทรศัพท์มือถือที่ถ่ายภาพลอตเตอรี่เก็บไว้ หมายเลข 858383 งวดที่ 43 ชุดที่ 85 วันที่ 16 พ.ย. 2559 น.ส.จอย เล่าว่า ลูกชายวัย 3 ขวบ บอกให้ซื้อเลข 83 ต่อมาในขณะที่ทำงานอยู่มีคนขายลอตเตอรี่เดินผ่านมา จึงบอกคนขายว่าขอซื้อ 83 จำนวน 1 ใบ จากนั้นเก็บไว้ ไม่ได้สนใจอะไร กระทั่งเมื่อหยิบออกมาตรวจรางวัล ทราบว่าถูกลอตเตอรี่ ถึงกับเป็นลม หลังอาการดีขึ้นจึงรีบนำลอตเตอรี่ใบดังเข้าไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ส่วนเงินที่ได้รับจะนำไปสร้างบ้าน และเป็นการศึกษาให้ลูก และรู้สึกดีใจมากจนบอกไม่ถูก
พระอัจฉริยภาพของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ตามรอยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชผู้ทรงเป็นทูลกระหม่อมตาอย่างไม่ผิดเพี้ยน ...และเป็นไปอย่างเรียบง่ายแต่มีความหมายที่ยิ่งใหญ่จริงๆ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ (พระธิดาในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี) ทรงใช้เวลานาน 5 ปี สำหรับการศึกษาในระดับปริญญามหาบัณฑิต(ปริญญาโท) สาขาศิลปไทย คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ดังที่หลายคนเคยทราบมาตลอดว่าทรงมีโครงการภายใต้พระดำริหลายโครงการ ได้แก่โครงการบูรณะวิหารปฏิบัติธรรม วัดธาราทิพย์ชัยประดิษฐ์ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่, โครงการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่, โครงการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดหนองน้ำขุ่น อ.แกลง จ.ระยอง และโครงการสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล(หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) ด้วยเหตุนี้จึงทรงวิทยานิพนธ์ในหัวข้อ จิตรกรรมฝาผนังล้านนา เรื่อง “พระมหาชนก” จากพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นผลงานออกแบบจิตรกรรมฝาผนัง เพื่อวิหารปฏิบัติธรรม วัดธาราทิพย์ชัยประดิษฐ์ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ผลงานวิทยานิพนธ์จัดให้ผู้สนใจได้ชม ณ หอศิลป์ PSG Art Gallery คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ทรงเปิดนิทรรศการดังกล่าว “ทรงมีดำริเบื้องต้นเลยว่า อยากจะเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังล้านนาแนวใหม่ขึ้นมา เพราะทรงสนพระทัยศิลปะล้านนาที่ทรงศึกษาค้นคว้ามามากเป็นพิเศษ และในเมื่อทรงบูรณวัดและวิหารแห่งนี้เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงตัดสินใจนำ พระราชนิพนธ์เรื่อง “พระมหาชนก” มาเขียน” @อาจารย์ปัญญา วิจินธนสาร อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ปัญญา วิจินธนสาร หนึ่งในพระอาจารย์ที่ปรึกษาบอกเล่า และให้ข้อมูลว่าพระเจ้าหลานเธอฯ ไม่ได้ทรงนำเนื้อหาทั้งหมดในพระราชนิพนธ์เรื่องนี้มานำเสนอผ่านภาพจิตรกรรมฝาผนัง แต่ทรงคัดเลือกบทที่เปรียบบุคคลเป็นน้ำ 7 จำพวก มานำเสนอผ่านภาพจิตรกรรมฝาผนังด้านซ้ายและด้านขวาของพระประธาน โดยการลำดับเรื่องราว เริ่มจากผนังทางด้านซ้ายมือของพระประธาน แล้วเล่าเรื่องเวียนขวาตามแบบทักษิณาวรรต ไปสิ้นสุดที่ผนังด้านขวามือของพระประธาน ซึ่งออกแบบโดย เข็มรัตน์ กองสุข ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) ส่วนผนังด้านหลังพระประธาน เป็นเรื่องของอดีตพระอดีตพระพุทธเจ้า และไตรภูมิจักรวาล ขณะที่ผนังด้านตรงข้ามกับพระประธานเขียนเรื่อง “พระมหาชนก” ตอน “พระมหาชนกขึ้นครองเมืองมิถิลา” กับตอน “การปลงสังเวชถึงต้นมะม่วง 2 ต้น” นอกจากนี้เรื่องราวเกี่ยวกับ “จักรราศี” ที่เคยทรงนำเสนอในงานศิลปะนิพนธ์ ในช่วงทรงจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี จากคณะเดียวกัน แต่เป็นสาขาภาพพิมพ์ ก็ยังมาปรากฎให้เห็นเป็นส่วนหนึ่งของจิตรกรรมฝาผนังด้านหลังพระประธาน และบริเวณเหนือขึ้นไปของจิตรกรรมด้านซ้ายและขวาของพระประธาน ดังที่ อ.ปัญญาได้ให้ข้อมูลว่า พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงมีดำริเบื้องต้นว่า อยากจะเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังล้านนาแนวใหม่ขึ้นมา หรือ จิตรกรรมฝาผนังล้านนาร่วมสมัย นั่นก็เพราะทรงอยากจะเห็นศิลปะของล้านนามีการสืบทอด และได้รับความสนใจในหมู่เยาวชนรุ่นหลังด้วย ตรงกับที่ทรงมีรับสั่งว่า “การเขียนจิตรกรรมฝาผนังจะไม่เขียนในลักษณะของภาพเล่าเรื่อง แต่จะใช้แนวคิดและวิธีการสร้างสรรค์แบบศิลปะร่วมสมัย ทำให้ข้าพเจ้าได้เปิดโลกทัศน์ต่อการทำงานศิลปะอย่างอิสระและกว้างไกลขึ้น การใช้จินตนาการและนำเสนอแนวคิดแบบใหม่ๆ ซึ่งแตกต่างจากจิตกรรมแบบประเพณีของศิลปะล้านนาที่ข้าพเจ้าสนใจเป็นทุนเดิมนั้น ทำให้ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า จิตรกรรมฝาผนังฝนวิหารวัดธาราทิพย์ชัยประดิษฐ์ จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งของการพัฒนาจิตรกรรมฝาผนังล้านนาร่วมสมัย อันจะเป็นประโยชน์ทั้งทางทางสืบทอดประเพณีและการสร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่ ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาศิลปะของประเทศไทยต่อไป” อ.ปัญญา กล่าวถึงความประทับใจที่มีต่อผลงานวิทยานิพนธ์ของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ด้วยว่า “ผมประทับใจวิธีคิดของท่านที่มีความสนใจในศิลปะล้านนาเป็นทุนเดิม ก่อนที่จะนำมาสู่หัวข้อวิทยานิพนธ์นี้ ทรงเสด็จไปตามวัดต่างๆมากมายเพื่อดูว่าแต่ละวัดมีศิลปะล้านนาในรูปแบบไหน และเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรบ้าง จนเมื่อทรงวิทยานิพนธ์ ก็ทรงคิดสิ่งใหม่ขึ้นมา แต่ก็ยังไม่ทิ้งรากเหง้าเดิมที่มีมายาวนาน ถ้าดูรายละเอียดของงานจะเห็นได้ว่าท่านเอางานประเพณีมาใช้ แต่ถ้าดูไปที่โครงสร้างจะรู้สึกได้ถึงความเป็นปัจจุบันร่วมสมัยมากขึ้น เพื่อให้ผู้คนที่ได้พบเห็นในเบื้องต้นเกิดความประทับใจก่อน แต่ถ้าขยายรายละเอียด จะพบว่าทรงรักษาความเป็นประเพณีแบบดั้งเดิมเอาไว้ และที่สำคัญทรงอยากจะให้เรื่องราวที่นำเสนอผ่านภาพจิตรกรรมฝาผนัง สื่อให้คนเข้าใจถึงวิถีชีวิตในปัจจุบัน ดังที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชนิพนธ์ไว้ในบทพระราชนิพนธ์เรื่อง พระมหาชนก ที่ทรงต้องการเชื่อมโยงอดีตมาปัจจุบัน ผมว่าเป็นแนวคิดอันเดียวกับที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยรับสั่ง เมื่อครั้งที่ผมเคยทำงานภาพประกอบบทพระราชนิพนธ์ เรื่องพระมหาชนกถวาย ซึ่งตอนแรกผมคิดไม่ถึง ทรงรับสั่งว่าเรื่องพระมหาชนกไม่ใช่เรื่องโบราณนะ อาจจะมีอายุยืนถึงหมื่นปี ทรงคิดได้อย่างไร เพราะเดิมทีผมคิดว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเป็นอดีต ทรงรับสั่งว่า เนื้อหาในเรื่องพระมหาชนกใช้ได้ทุกยุคสมัย ทำให้ผมได้คิดว่า จะทำอย่างไรที่ส่งผลให้เรากล้าคิดอะไรที่มันใหม่ขึ้นมา และแสดงออกถึงความเป็นปัจจุบันมากขึ้น” พระอัจฉริยภาพของพระเจ้าหลานเธอพระองค์ดังกล่าวตามรอยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชผู้ทรงเป็นทูลกระหม่อมตาอย่างไม่ผิดเพี้ยน ...และเป็นไปอย่างเรียบง่ายแต่มีความหมายที่ยิ่งใหญ่จริงๆ ขอบคุณข้อมูล: http://manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9560000048487 http://www.komchadluek.net/news/socail/156846