น้อมส่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศสู่สวรรคาลัย ณ บึงสีฐาน ชมรมสมาธิและศีลธรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่นจัด Passawith Srikoonnawin > KKU GROUP (ท่านเจ้าของภาพใจดีแจ้งไว้ว่า "ใครที่มาขอใช้รูป เอาไปเลยนะครับผมให้ ไม่ต้องให้ Cr. หรืออะไรก็ได้ครับ เอาไปใช้เลย ภาพนี้ผมตั้งใจถ่ายให้กับ ชาว มข มิได้หวังผลอะไร" ดังนั้น ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ ....)
ใจหาย ไม่มีองค์ท่านอีกแล้ว หากวันเวลาของข้าพุทธเจ้ามาถึง ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ข้าพุทธเจ้าอธิฐานจิตไปเป็นข้ารองพระบาทของพระองค์ด้วยเทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
กลุ่มนักศึกษาคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมเขียนผนังเพื่อน้อมเกล้าฯถวายอาลัยและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ณ อาคารศูนย์ทัศนศิลป์สิรินธร มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม Silpakorn University
น่ารักดีมีมารยาท รู้จักกาละเทศะ อิอิ *************************************************************************************************** ปกติคนส่งหนังสือพิมพ์จะแค่โยนมันเข้ามาในบ้าน แต่วันนี้พี่เค้าบีบแตรเรียกแล้วรอให้ออกไปรับเอง พอได้เห็นแล้วก็เข้าใจเลยว่าทำไม.... ................ ฮิรอนแมน!@fedipep
Time passes. Memories Fade. Feelings Change. People leave. But Hearts Never Forget. My beloved king Bhumibol.
Bright Bright .................................................................................................................................... บทกลอนจากเพลง สามก๊ก น้ำแยงซี รี่ไหล ไปบูรพา คลื่นซัดกวาดพา วีรชน หล่นดับหาย ถูกผิดแพ้ชนะ วัฏจักร เวียนว่างดาย สิงขรยังคง ตะวันยังฉาย ตราบนานเท่านาน เกาะกลางชล คนตัดฟืนผมขาว เฒ่าหาปลา สารทวสันต์เห็นมา เหลือหลาย ที่กรายผ่าน สรวลสุราขุ่น ป้านใหญ่ ให้ตำนาน เก่าๆ ใหม่ๆ เสพสราญ ว่ากันไป... สารทวสันต์เห็นมา เหลือหลาย ที่กรายผ่าน สรวลสุราขุ่น ป้านใหญ่ ให้ตำนาน เก่าๆ ใหม่ๆ เสพสราญ ว่ากันไป... บทกลอนจากเพลง สามก๊ก ผู้แปลคือ คุณทองแถม นาถจำนง ความหมายจากคำแปลคือ ความไม่เที่ยง
"ผมคือ1ใน6คนที่ท่านเรียกไปรับพระราชทานปริญญาบัตรใหม่ เพราะไฟดับ ... เรื่องนี้ได้รับการบอกเล่าจาก นายตราชู กาญจนสถิตย์ ผู้อยู่ในเหตุการณ์ วันพระราชทานปริญญาบัตร ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปีพ.ศ.2528 อันมีเรื่องราวดังต่อไปนี้ ในปี 2528 ขณะที่ผมและเพื่อนๆกำลังก้าวเข้าไปต่อหน้าพระพักตร์เพื่อรับพระราชทานปริญญาบัตรจากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เวลานั้นเองเกิดเหตุการณ์"ไฟดับ"ทั่วประเทศไทย ไฟที่ทำการส่องสว่างเพื่อการถ่ายภาพบัณฑิตที่กำลังเข้ารับพระราชทานปริญญาในหอประชุมใหญ่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไม่สามารถสร้างแสงไฟเพื่อการถ่ายภาพสำคัญของชีวิตได้ ผมไม่มีภาพถ่ายครับเพราะแสงไม่พอ .... แต่การพระราชทานปริญญาไม่ได้หยุดลง แม้ไฟจะมืดลงแต่พิธีการสำคัญยังคงดำเนินต่อไป.... ปริญญาบัตรลงมาพร้อมๆกับผมด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยวว่า ทำไมต้องเป็นเราที่จะไม่มีภาพสำคัญนี้ เศร้า แต่............ อีกสักพักหนึ่งซึ่งนานพอสมควร ......อาจารย์ที่ผมไม่รู้จักเดินมาบอกพวกผมว่า ในหลวงทรงรับสั่งให้บัณฑิตที่รับพระราชทานปริญญาช่วงที่ไฟดับที่ถ่ายภาพไม่ติดประมาณ 6 คนขึ้นไปรับพระราชทานปริญญาอีกรอบหนึ่ง.......!!!! อะไรกันนี่ เป็นไปได้เหรอ ! อะไรกัน ในหลวงท่านทรงรับรู้ถึงความเศร้าของพวกผมได้อย่างไร! ท่านไม่ทรงเหนื่อยล้าแล้วหรอกเหรอ ทรงพระราชทานปริญญาให้กับบัณฑิตมากมายแล้ว! ท่านสงสารพวกเราขนาดนั้นเลยเหรอ! ถ้าท่านจะมีพระราชดำริว่า ทรงงานมามากแล้วขอเสด็จกลับ คงจะไม่มีใครคิดว่าอะไร ผม 6 คนก็แค่ผงธุลีที่ไร้ความหมายใดๆ จะทรงให้ความสำคัญให้เหนื่อยไปอีกเพื่ออะไร แต่ท่านมิได้คิดเช่นนั้น ท่านเห็นความสำคัญของความรู้สึกของคนไทยน้อยๆ6 คนนั้นอย่างที่ผมไม่รู้จะพูดบรรยายความรู้สึกนั้นได้อย่างไร ผมปลาบปลื้มจนน้ำตาไหล แล้วผมก็ขึ้นไปรับพระราชทานปริญญาบัตรมาจนได้ภาพนี้มาครับ ผมกลับมานั่งที่เก้าอี้และคิดได้ว่า เหตุผลท่านจึงไม่มองข้ามเราไป ในหลวงท่านทรงมีพระประสงค์อย่างแน่วแน่ที่จะให้เรารับปริญญามาด้วยความรู้สึกว่าเรา เราต้องเป็นคนดีของสังคม ผมมีโอกาสที่จะได้สัมผัสกับสิ่งเดียวที่ในหลวงทรงสัมผัสมาแล้วนั่นคือปริญญาใบนี้นี่เอง ปริญญาใบนี้จะเป็นสิ่งสูงสุดที่จะคอยเตือนใจให้ผมทำความดีตามพระประสงค์ของในหลวง พระองค์ที่สูงเทียมฟ้าแต่กลับเห็นความรู้สึกของผงธุลีอย่างพวกผม ผมสัญญากับตัวเองในวันนั้นว่า ผมจะเป็นคนดีของสังคม และจะรักในหลวงยิ่งชีวิต ขนาดคนอย่างผมยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณขนาดนี้ สังคมไทยในหลายๆส่วนคงต้องได้รับจากพระองค์ท่านมากมายเหลือคณานับ นี่เป็นเรื่องเล็กๆของผมที่จะบอกว่า ทำไมผมรักในหลวง .....ผมรักในหลวงยิ่งชีพครับ http://panyayan.tnews.co.th/contents/208583/
ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ส่งสาส์นแสดงความเสียใจมายังชาวไทยต่อข่าวการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยกล่าวยกย่องในหลวงว่า ทรงเป็นนักพัฒนาเศรษฐกิจ ผู้ที่ทำให้ธงชาติไทยสามารถถูกปักได้อย่างมั่นคงและสง่างามในต่างแดน และเหนือสิ่งอื่นใดในหลวงทรงได้กลายเป็นหัวใจของคนไทยทั้งชาติ และได้รับการยกย่องและนับถือในต่างแดน
"ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนส่งสาส์นแสดงความเสียใจมายังสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช" "ผู้นำจีน ระบุว่า ในนามของประชาชนชาวจีนและข้าพเจ้า ขอร่วมส่งสารแสดงความเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และแสดงความเสียใจมายังพระบรมวงศานุวงศ์ และประชาชนชาวไทยผู้นำจีนสรรเสริญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ว่าทรงเป็นผู้วางแนวทางการพัฒนาของประเทศไทย และทรงเป็นผู้ส่งเสริมมิตรภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างจีนและประเทศไทยความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศขณะนี้เป็นผลโดยตรงจากการให้ความสำคัญอย่างยิ่งและการทุ่มเทความพยายามส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและด้วยความสนพระทัยและการส่งเสริมจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งความพยายามของสองประเทศ ทำให้มิตรภาพระหว่างจีนและประเทศไทยยังคงเบ่งบานผลิดอกออกผลการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่สำหรับประชาชนชาวไทยและจีน และพระองค์จะทรงสถิตอยู่ในใจของประชาชนทั้งสองชาติตลอดกาลนานจีนจะให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการพัฒนามิตรภาพกับประเทศไทยสืบไป และจะร่วมทำงานกับประเทศไทยเพื่อสานต่อความสำเร็จในอดีต และสร้างความก้าวหน้าใหม่ๆในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี เพื่อกระชับความสัมพันธ์ฉันประเทศเพื่อนบ้านอันดี และเพื่อกระชับความร่วมมือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เพื่อประโยขน์สุขของสองประเทศและประชาชนทั้งสองชาติ" http://www.nationtv.tv/main/content/foreign/378520481/
รัฐฉานลดธงครึ่งเสา พล.ท.เจ้ายอดศึก ประธานสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน RCSS/SSA สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ได้มีคำสั่งให้หน่วยงานของสภาฯ ทำการลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 15 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่14 ต.ค. รวมทั้งเวลา 18.00 น.ได้ให้กำลังพล นักเรียน ชาวบ้าน รวมตัวกันยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 9 นาที เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายอาลัยส่งดวงวิญญานขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เสด็จสู่สวรรคาลัย ทั้งนี้พล.ท.เจ้ายอดศึกเป็นหัวหน้ากองกำลังกู้ชาติไทยใหญ่คนแรกที่ได้จัดพิธีเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขึ้นในรัฐฉานทุกปี ขณะที่บ้านของชาวไทยใหญ่จะมีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศติดไว้ทุกบ้าน และถวายความเคารพในฐานะเป็นพระมหากษัตริย์ของชาวไทยใหญ่เช่นเดียวกับชาวไทย
Kittinuch Ratirom Weera Chaisamutt October 18, 2015 · #ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน #ภาพดอกไม้แห่งหัวใจ ภาพที่คุณยายตุ้ม จันทนิตย์ ทูลเกล้าฯถวายดอกบัวสามดอก ถ่ายโดยหัวหน้าช่างภาพส่วนพระองค์ อาณัติ บุนนาค ได้บันทึกภาพวินาทีสำคัญที่ถูกเรียกว่า "ภาพดอกไม้แห่งหัวใจ" ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ภาพหนึ่งของประเทศไทย และเป็นภาพที่ใช้แทนคำพูดได้มากกว่าหนึ่งล้านคำ (ย้อนตำนานเส้นทางเสด็จ 2498) คุณยายตุ้ม จันทนิตย์ หญิงชราวัย 102 ปี (เกิดเมื่อปีพทุธศักราช 2396) บ้านธาตุน้อย ตำบลพระกลางทุ่ง อำเภอธาตุพนม ห่างจากจุดที่ทางราชการกำหนดให้เป็นจุดรับเสด็จ ประมาณ 700 เมตร ก็ไม่ต่างจากครอบครัวอื่นๆ ที่ลูกหลานได้นำ "คุณยายตุ้ม จันทนิตย์" ไปรอรับเสด็จด้วย โดยตามคำบอกเล่าของ นางเพ็ง จันทนิตย์ (ลูกสะใภ้) และนางหอม แสงพระธาตุ (น้องสาวของนางเพ็ง) ได้ความว่า ลูกหลานได้นำคุณยายตุ้มไปรอบรับเสด็จตั้งแต่เช้าโดยนางหอมฯ เป็นผู้จัด "ดอกบัวสีชมพู" ให้แ่ก่คุณยายจำนวน 3 ดอก เพื่อนำขึ้นจบบูชาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพาออกไปรอเฝ้ารับเสด็จที่แถวหน้าสุดเพื่อให้ได้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทมากที่สุดเท่าที่จะมากได้เป็นภาพที่ชาวไทยคุ้นตา ประทับใจในหัวใจเป็นที่สุด และตามที่ท่านเจ้าคุณพระราชธีราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดนครพนม/เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ให้ความรู้ “ดอกบัวในใจยังคงบานไม่มีโรยรา” บนเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินทางสามแยกชยางกูร- เรณูนคร ตำบลพระกลางทุ่ง อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม เมื่อบ่ายวันที่ 13 พฤศจิกายน 2498 เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรภาคอีสานเป็นครั้งแรก คุณยายไปรอรับเสด็จพร้อมดอกบัวสายสีชมพู จำนวนสามดอก ตั้งแต่เช้าจนบ่าย แสงแดดแผดเผาจนดอกบัวสายในมือเหี่ยวโรย แต่หัวใจความจงรักภักดีของหญิงชรา ยังคงเบิกบาน เมื่อในหลวงเสด็จมาถึง ตรงมาที่คุณยายได้ยกดอกบัวสายโรยราสามดอกนั้นขึ้นจนเหนือศีรษะ แสดงความจงรักภักดีอย่างสุดซึ้ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงโน้มพระองค์ลงมาจนพระพักตร์ เกือบชิดกับศีรษะของคุณยาย ทรงแย้มพระสรวลอย่างอ่อนโยน พระหัตถ์แตะมือกร้านคล้ำของเกษตรกรชาวภาคอีสานอย่างนุ่มนวล ไม่มีใครรู้ว่าทรงกระซิบคำใดกับคุณยาย แต่แน่นอนว่า คุณยายไม่มีวันลืมเช่นเดียวกับที่ในหลวงไม่ทรงลืมราษฎรคนสำคัญที่ทรงพบริมถนนวันนั้น หลังจากที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพฯ แล้ว ทางสำนักพระราชวัง ได้ส่งภาพรับเสด็จของคุณยายตุ้ม พร้อมพระบรมรูปหล่อด้วยปูนพาสเตอร์ ผ่านมาทางอำเภอธาตุพนม ให้คุณยายตุ้มไว้เป็นที่ระลึกพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้นี้ อาจมีส่วนชุบชูชีวิตให้คุณยายอายุยืนยาวขึ้นอีกด้วยความสุขต่อมาอีก 3 ปี เต็ม ๆ โดยคุณยายตุ้ม จันทนิตย์ ถึงแก่กรรมเมื่อปี พ.ศ. 2501 หลังจากนั้นลูกหลานได้สร้างธาตุเจดีย์บรรจุอัฐิคุณยายตุ้ม จันทนิตย์ ไว้ ณ หน้าบ้านเลขที่ 22 หมู่ที่ 11 ตำบลพระกลางทุ่ง อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ในบริเวณพื้นที่ 2 งาน โดยยกผืนดินดังกล่าวให้เป็นที่สาธารณประโยชน์ สมบัติของแผ่นดิน ขอขอบคุณเครือข่ายออนไลน์และเว็ปไซด์สำนักงานจังหวัดนครพนม Cr:ในหลวงของเรา
เมื่อเวลาประมาณ 20.15 น.ของวันที่ 16 ตุลาคม 2559 เฟซบุ๊กเพจ H.R.H Princess Sirivannavari Nariratana อันดำเนินการโดยทีมงานภายใต้คำแนะนำของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ได้โพสต์พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ในวันรับพระราชทานปริญญาบัตร พร้อมข้อความ อันมีใจความว่า ความทรงจำของท่านหญิง รูปภาพนี้คือภาพสุดท้ายที่จะโพสต์ ก่อนชีวิตของเราจะต้องดำเนินต่อไป (ถ้าเจออีกจะลงให้นะ) แต่ตอนนี้ต้องขอทำงานก่อน... ภาพนี้คือความภาคภูมิใจและดีใจที่สุดในชีวิตคือ ได้ถ่ายรูปรับปริญญากับทูลหม่อมปู่และทูลกระหม่อมย่าที่หัวหิน โดยมีทูลกระหม่อมพ่ออยู่เคียงข้าง (ตรงข้างคนถ่ายภาพนี้) สังเกตมั้ยว่าทรงท่านยิ้ม วันนั้นเราได้ยิ้มแบบนี้กลับบ้านจากทั้ง 3 พระองค์แน่ะ ปู่ ย่า พ่อ ... ทุกอย่างที่เรียนมา เราตามท่านแนะนำหมด (แม้อาจจะบิด ๆ เบี้ยว ๆ บ้างก็ตาม ) ...... (ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : H.R.H Princess Sirivannavari Nariratana) http://www.msn.com/th-th/news/break...จำ-ทูลกระหม่อมปู่/ar-AAj5dhz?ocid=mailsignout
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเล่าถึงข้อแตกต่างในวัยเยาว์ของ ในหลวง ร.8 - ในหลวง ร.9 ในหนังสือ "เจ้านายเล็ก ๆ-ยุวกษัตริย์" ด้วยพระอารมณ์ขัน สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้พระนิพนธ์หนังสือ "เจ้านายเล็ก ๆ-ยุวกษัตริย์" โดยใจความหนึ่งในหนังสือ พระองค์ทรงเล่าว่า สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) ได้ตรัสถึงพระโอรสทั้ง 2 พระองค์ คือพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร (รัชกาลที่ 8) และ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) โดยเล่าถึงนิสัยส่วนพระองค์ของทั้ง 2 พระองค์ ต่อ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า พระราชมารดา ในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ด้วยพระอารมณ์ขันว่า * หมายเหตุ : สมเด็จย่า ทรงเรียกพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร (รัชกาลที่ 8) ว่า "นันท" และทรงเรียกพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช "เล็ก" ภาพและข้อมูลจาก หนังสือ เจ้านายเล็ก ๆ-ยุวกษัตริย์, Thailand image http://hilight.kapook.com/view/143695
พระสุรเสียงสมเด็จพระบรมฯ และพระเทพฯเป็นภาษาอังกฤษ ✔ สมเด็จพระบรม ฯ - สมเด็จพระเทพ ฯ ( ทรงเต้นระบำ ) เมื่อครั้ง ทรงพระเยาว์ ทรงน่ารักมาก [TH]™ Thailand Updates
คลิปสมเด็จพระบรมฯทรง Speech แบบเป็นกันเองเก่งมาก อย่างฮา คลิปนี้น่ารักมาก ตอนที่สมเด็จพระนางเจ้าฯท่านตรัสให้สมเด็จพระบรมฯคุยกับประชาชนบ้าง ท่านทรงส่ายพระเศียรเลย แล้วตรัสย้ำถึง 2 รอบว่า พูดไม่เก่ง ที่น่ารักที่สุดตอนท่าน Speech เสร็จแล้วลงคลานเข่าสลับที่ประทับคืนกับสมเด็จฯ คลิปสมเด็จพระบรมฯมีพระราชดำรัสกับคนไทยในสหรัฐอเมริกา
ทรงพระน่ารักจัง @PAEWEAP Clip-Thai พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงเวียนเทียนสมโภชพระมหาเศวตฉัตร ในพระราชพิธีฉัตรมงคล พุทธศักราช 2559 ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง... Clip-Thai
เคยชมกันยัง น่าประทับใจ.... ร้อยเอกหญิง ด็อกเตอร์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงพระเจริญ ❀✔พระองค์ภา ทรงยกพระหัตถ์รับไหว้ พลเอกประยุทธ์ princess thailand Thailand Updates เผยแพร่เมื่อ 30 พ.ย. 2015 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลลาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และกราบทูลลาพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ซึ่งพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาทรงยกพระหัตถ์รับไหว้พลเอกประยุทธ์ #ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน พระองค์ภา ฯ ทรงขับร้องเพลง ผู้ชายในฝัน ทรงพระเจริญ Thailand Updates เผยแพร่เมื่อ 12 ก.พ. 2016 พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงขับร้องเพลงผู้ชายในฝัน ในงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันประสูติ ท่านผู้หญิงพันธุ์สวลี กิติยากร 24 กันยายน 2558 http://baabin.com/189347/ http://baabin.com/189339/
"วันนี้ตอนที่เรานั่งรถกลับบ้าน เราได้ยินเสียงเพลงที่คุ้นหูมาก คาดไม่ถึงว่าจะมาได้ยินในที่ไกลเมืองไทยถึงบอสตัน อเมริกา เราเลยขอร้องให้เขาเล่นให้ฟังอีกรอบ พอเล่นจบเขาบอกว่าเสียใจด้วยนะเรื่องในหลวงของเรา คือตอนนั้นน้ำตาจะไหล ซึ้งมาก ขอบคุณมากที่มีอีกหลายคนรักในหลวงของเรา" Maii Suthiparinyanon Maii Suthiparinyanon
เวลาเสด็จฯ โดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง พระเจ้าอยู่หัวก็จะทรงงานเอกสารไปด้วย "จะกริ้วมากถ้าพวกเราหลับ" สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเล่า "ทรงรับสั่งว่าการได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ซึ่งใช้น้ำมันจ่ายด้วยภาษีอากรของราษฎรก็เรียกว่าเป็นอภิสิทธิ์แล้ว เพราะฉะนั้นเราจึงต้องทุ่มเทให้มากที่สุดเพื่อประชาชน จะนั่งฟังเสียงของเครื่องยนต์แล้วงีบหลับนั้นไม่ได้" หมี CNN
จักรพรรดินีญี่ปุ่นตกพระทัยเมื่อเห็นข่าวจะสละราชสมบัติ โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 20 ตุลาคม 2559, 13:00 น สมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะของญี่ปุ่น ซึ่งทรงมีพระชนมายุครบ 82 พรรษาในวันนี้ (20 ตค.59) มีพระราชสาส์นเนื่องในวันพระราชสมภพความว่า พระองค์ทอดพระเนตรวิดีโอสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตทรงมีพระราชดำรัสเมื่อเดือนส.ค. และทรงทราบความว่าสมเด็จพระจักรพรรดิทรงหารือกับพระราชโอรสทั้งสองพระองค์ คือมกุฎราชกุมารนารุฮิโต และเจ้าชายอากิชิโนแล้ว แต่เมื่อได้ทอดพระเนตรคำว่า “สละราชสมบัติขณะยังทรงพระชนม์ชีพ” จากพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ ทำให้พระองค์ตกพระทัยมาก ที่เป็นเช่นนี้เพราะแม้แต่ในหนังสือประวัติศาสตร์ก็ไม่เคยมีคำนี้ หลังจากนั้นพระองค์ทรงรู้สึกประหลาดและเสียพระทัย อาจเป็นเพราะว่าทรงอ่อนไหวเกินไป ทั้งนี้ เมื่อเดือน ส.ค.สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต พระชนมายุ 82 พรรษา ทรงมีพระราชดำรัสผ่านทางสถานีโทรทัศน์เป็นนัยเรื่องการสละราชสมบัติ โดยตรัสว่าพระองค์กังวลว่า ด้วยพระชนมายุที่มากทำให้พระองค์อาจปฏิบัติพระราชกรณียกิจได้ไม่เต็มที่ การสละราชสมบัติเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในญี่ปุ่นยุคใหม่ และเป็นไปไม่ได้ภายใต้กฎหมายปัจจุบัน แต่คณะผู้เชี่ยวชาญได้ประชุมกันครั้งแรกในสัปดาห์นี้เพื่อหารือถึงวิธีการ http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/723739 (เรื่องราวเช่นนี้....ในระยะใกล้ๆมานี้มีเกิดขึ้นที่ภูฏาน กล่าวคืออดีตสมเด็จพระราชาธิบดีจิ๊กมี่ ซิงเย วังซุกผู้ทรงเป็นพระราชบิดาของกษัตริย์จิ๊กมี่ เคเซอร์ นัมเกล วังซุกทรงสละราชสมบัติพระราชทานให้แก่เจ้าฟ้าชายจิ๊กมี่ เคเซอร์ นัมเกล วังซุก มกุฎราชกุมาร[พระยศขณะนั้น] ซึ่งได้เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2549 จากนั้นมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ในปี พ.ศ. 2551 พร้อมกับประกาศเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเหมือนประเทศไทย โดยพระราชบิดาทรงเป็นผู้ประคองและที่ปรึกษาใกล้ชิดในเวลาต่อมา กษัตริย์จิ๊กมี่ เคเซอร์ นัมเกล วังซุกทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอย่างแรกด้วยการพระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันชาติของภูฎาน หลังจากนั้นในวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 พระองค์ได้ประกอบพิธีบรมราชาภิเษกเป็นกษัตริย์อย่างเป็นทางการ)
[media] เจ้าชายทีปังกรโผเข้ากอดพระเจ้าหลานเธอสิริวัณวรี น่ารักมาก Social News “รักท่านพี่” ย้อนชมความน่ารัก เมื่อ “พระองค์ทีฯ” โผเข้ากอด “พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีฯ” ย้อนชมความประทับใจแสนอบอุ่น ของสายสัมพันธ์พี่น้อง ของ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เมื่อครั้งทรงสำเร็จการศึกษา เมื่อปี พ.ศ. 2551 ซึ่งเป็นภาพที่สร้างความประทับใจแก่ผู้ได้เห็น เมื่อ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เข้าสวมกอดพระองค์หญิง ซึ่งในงานพีธีครั้งนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และท่านผู้หญิงศรีรัตมิ์ สุวะดี ได้ทรงโปรดมาร่วมแสดงความยินดี และพระราชทานช่อดอกไม้ และตุ๊กตาให้กับพระองค์หญิงด้วย http://thestarthailands.com/46114
กลางวัน สื่อต่างประเทศรายงานข่าว คนไทยกว่า 1.5 แสน ร่วมใจร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี สื่อต่างประเทศรายงานข่าวว่าพสกนิกรไทยกว่า 1.5 แสนคน ร่วมใจร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ร่วมกับวงออเคสตร้า ถวายพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลดุลยเดช ณ บริเวณท้องสนามหลวง วันนี้(22 ต.ค.2559) สำนักข่าวสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าประชาชนไทยกว่า 150,000 คน เดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง เรือ และเดินเท้ามาที่สนามหลวงและถนนโดยรอบ เพื่อร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ร่วมกับวงออเคสตร้า สยามฟิลฮาร์โมนิค ถวายพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลดุลยเดช ณ บริเวณท้องสนามหลวง พร้อมกับอธิบายว่าเพลงนี้ คือบทเพลงที่เปิดในโรงภาพยนตร์ทุกแห่งในประเทศไทย ประกอบการฉายภาพพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งผู้ชมภาพยนตร์ทุกคนจะต้องยืนตรงเพื่อแสดงความเคารพ ขณะที่ สำนักข่าวเอพี รายงานว่า ประชาชนไทยจำนวนมากสวมชุดดำมารวมตัวกันที่หน้าพระบรมมหาราชวัง โดยการร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีครั้งนี้จะถูกบันทึกวิดีโอ เพื่อนำไปฉายทางโทรทัศน์และในโรงภาพยนตร์ และจะมีการบันทึกวิดีโอการร้องเพลงในอีกรูปแบบหนึ่งในช่วงค่ำวันนี้ 09.04 น. นักดนตรี และคอรัส เพลงสรรเสริญพระบารมีทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทยอยมาลงทะเบียนแล้ว #ThaiPBS Dhira Songpra เรามาจากสมุทรปราการ ....คนเยอะมาก กลางคืน ประชาชนจำนวนมากร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ณ บริเวณท้องสนามหลวง วันนี้ (22 ต.ค.2559) สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ที่ผ่านมา ประชาชนจำนวนมากร่วมจุดเทียน และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี บริเวณท้องสนามหลวง กันอย่างพร้อมเพรียง ชาวเน็ตทึ่ง! ทหารสร้างสะพานข้ามคืน ระบาย ปชช.ไปสนามหลวง พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ทหารช่างลุยติดตั้งสะพานแบรี่ ข้ามคลองหลอด อำนวยความสะดวกประชาชนไปสนามหลวง สร้างเพียงข้ามคืนแล้วเสร็จ (22 ต.ค.59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้สั่งการเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมในพิธีน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยการร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ณ ท้องสนามหลวง โดยให้มีการติดตั้งสร้างสะพานแบรี่ เปิดเส้นทางใหม่ให้ประชาชนได้ข้ามอีกทาง โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารหน่วย ช.พัน 2 รอ. ได้ลงปฏิบัติหน้าที่ตลอดทั้งคืน โดยทำการติดตั้งสะพานแบรี่ สำหรับข้ามคลองหลอด เลียบกับสะพานผ่านพิภพลีลา หน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ เพื่อรองรับประชาชนในการเดินทางไปยังสนามหลวง เป็นช่องทางให้เลือกข้ามมาจากอีกฝั่ง โดยไม่ต้องใช้สะพานหลัก ที่จะสามารถช่วยระบายประชาชนได้มาก การติดตั้งเป็นไปอย่างราบรื่น เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตลอดทั้งคืน กระทั่งติดตั้งสะพานแบรี่แล้วเสร็จ เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. ที่ผ่านมา พร้อมกับทดสอบความแข็งแรงของสะพาน โดยสามารถรองรับน้ำหนักได้ราวๆ 20 ตัน ใช้เฉพาะคนเดินเข้ามเท่านั้น นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ยังกล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยว่า ได้มีการเตรียมพื้นที่ปลอดภัยสำหรับประชาชน รวมถึงเตรียมหน่วยเคลื่อนที่เร็วเพื่อเข้ามาคลี่คลาย หากเกิดปัญหาหรือสถานการณ์ต่างๆ พร้อมยืนยันจะดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนให้เป็นอย่างดีที่สุด http://news.sanook.com/2088334/
สื่อต่างประเทศรายงานข่าว คนไทยกว่า 1.5 แสน ร่วมใจร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี สื่อต่างประเทศรายงานข่าวว่าพสกนิกรไทยกว่า 1.5 แสนคน ร่วมใจร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ร่วมกับวงออเคสตร้า ถวายพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลดุลยเดช ณ บริเวณท้องสนามหลวง กอ.รมน.เผย สรุปยอดรวมประชาชนเดินทางร่วมร้องเพลงสรรเสริญ รวมกว่า 1.7 แสนคน กอ.รมน.สรุปยอดรวมประชาชน ในพื้นที่พระบรมมหาราชวังและบริเวณโดยรอบ รวมกว่า 1.7 แสนคน วันนี้ ( 22 ต.ค.2559) เวลา 15.00 น. กองอำนวยการรักษาความ (กอ.รมน.) สรุปยอดรวมประชาชนในพื้นที่พระบรมมหาราชวัง และบริเวณโดยรอบ ถ.หน้าพระลาน ถึง ถ.หน้าพระธาตุ ยอด 45,000 คน, ถ.สนามไชย ยอด 30,000 คน, ถ.มหาราช ยอด 15,000 คน, ถ.ท้ายวัง ยอด 2,000 คน และ บริเวณโดยรอบสนามหลวง, ถ.ราชดำเนิน, สะพานพระปิ่นเกล้า, หน้า มธ. ยอด 85,000 คน รวมทั้งสิ้นประมาณ 177,000 คน http://news.thaipbs.or.th/content/256947
รวดเร็วทันใจแต่ตรวจสอบข่าวก่อนนะคะ วันนี้ (23 ต.ค.59) คสช.แจ้งเตือนประชาชน อย่าหลงซื้อธนบัตรเคลือบทองจากจีน ขายราคาหลักพันบาท ตรวจสอบเป็นกระดาษและพลาสติกชุบ ขณะนี้พบมากที่ จ.เชียงใหม่ #ThaiPBSnews
ขณะถ่ายทำภาพยนตร์ "พสกนิกรไทยกว่า 1.7 แสน ร่วมใจร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี" Before หลังจากผู้กำกับสั่ง "กล้อง...เดิน" ไม่มีร่มกางสักคันขณะเดินกล้อง แม้แดดจะร้อนจัดสักเพียงไหน ....นับถือหัวใจคนไทยรักในหลวงจริงๆ Thai PBS News
"ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข" หรือ "สอง" นักแบดมินตันไทยที่คว้าแชมป์ระดับซูเปอร์ซีรีส์ พรีเมียร์ ในรายการเดนมาร์ค โอเพ่น ได้สำเร็จ ถือพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชขึ้นรับถ้วยรางวัลเมื่อ 23 ต.ค. 2559 "ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข" ให้สัมภาษณ์สุดประทับใจ "I made champion for my King" หลังเป็นม้ามืดคว้าแชมป์ซูเปอร์ซีรีส์ พรีเมียร์ รายการเดนมาร์ค โอเพ่น นับเป็นคนไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ระดับซูเปอร์ซีรีส์ พรีเมียร์ ขณะที่เว็บไซต์ของผู้จัดการแข่งขันกล่าวถึงทนงศักดิ์ว่าเป็นนักแบดมินตันที่แทบไม่มีใครรู้จัก อีกทั้งยังมาแข่งขันเพียงลำพัง ไม่มีโค้ชคอยแนะนำข้างสนามเหมือนนักกีฬาคนอื่น แต่กลับกลายเป็นนักกีฬาที่สร้างเซอร์ไพรส์ตลอดรายการจนคว้าแชมป์ Thai PBS News
สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย ระบุว่า สั่งผู้ประกอบการเพิ่มเครื่องแต่งกายสีดำ เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชนแล้ว ประชาชนจำนวนมากมาร่วมถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในช่วงวันหยุดต่อเนื่องทำให้ยอดจองห้องพักโรงแรมเขตพระนครเต็มแทบทุกแห่ง ขณะที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่พร้อมใจกันลดราคาให้คนไทย เพื่อร่วมแสดงความอาลัยทำดีเพื่อพ่อ
สถานีโทรทัศน์ของออสเตรเลียออกแถลงการณ์ขอโทษต่อการนำเสนอรายการล้อเลียนคนไทยอย่างไม่เหมาะสม หลังถูกสถานทูตไทยในออสเตรเลียออกหนังสือตำหนิ นายพอล แอนเดอร์สัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนทเวิร์ค เทน (Network Ten) ของออสเตรเลีย ออกแถลงการณ์ขอโทษ หลังรายการ Have You Been Paying Attention? ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 10 เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 59 มีเนื้อหาล้อเลียนคนไทยที่เศร้าโศกเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม รายการ Have You Been Paying Attention? เป็นรายการปริศนาเกมโชว์ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 10 ของออสเตรเลีย นักแสดงตลกและดาราที่เป็นผู้ร่วมรายการจะต้องดูคลิปวิดีโอ และตอบคำถามว่าเหตุการณ์นั้นเป็นเหตุการณ์อะไร โดยตอนที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 17ต.ค.59ดังกล่าวนั้น ทางรายการได้นำภาพของผู้หญิงไทยคนหนึ่งที่กำลังแสดงความอาลัยต่อการสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาเป็นปริศนาคำทาย เนื้อหาของรายการทำให้นายจิระชัย ปั้นกระษิณ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงแคนเบอร์รา ออกหนังสืออย่างเป็นทางการตำหนิรายการดังกล่าว พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการถอดบางช่วงของรายการที่ไม่เหมาะสมออกไปจากเว็บไซต์ เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ The Sydney Morning Herald รายงานว่าหนังสือจากเอกอัครราชทูตไทยลงวันที่ 18 ต.ค.2559 ตำหนิสถานทีโทรทัศน์ช่อง 10 อย่างรุนแรงจากการนำเสนอเนื้อหาดังกล่าว จดหมายของท่านทูตจิระชัยระบุว่า "การล้อเลียนผู้คนที่อยู่ในความโศกเศร้าอย่างหนักจากการที่พระมหากษัตริย์ของพวกเขาสวรรคตนั้นเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เป็นการแสดงความไม่เคารพ และไม่ใช่สิ่งที่จะนำมาพูดถึงเป็นเรื่องสนุกสนาน" ล่าสุดวันที่ 19 ต.ค.59 บริษัท Network Ten ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 10 ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษต่อเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว นายพอลระบุว่า ทางบริษัทไม่ได้ตั้งใจและจะแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงจัง โดยได้ทำการติดต่อผู้ผลิตรายการดังกล่าว เพื่อชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขั้น รวมทั้งได้มีการถอดตอนที่เกี่ยวข้องในรายการดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ของบริษัทและยูทูป และยังได้มีการแก้ไขตัดทอนเนื้อหาเกี่ยวข้องที่ไม่เหมาะสมออกไป http://news.thaipbs.or.th/content/256855