แชร์ต่อๆกันมาจากเฟสฯ อ.เจิมศักดิ์ เห็นว่าน่าสนใจ ดีครับ... *** *** *** ได้รับข้อความที่มีผู้ส่งต่อมาให้ อ่านดูแล้วรู้สึกได้คิดหลายอย่าง เลยขอนำมาฝากที่นี่ ไม่รู้ว่าท่านผู้อ่านจะเห็นด้วยหรือไม่อย่างไร?? ?????????????? ทำไมเราต้องมีน้ำใจกับคนเห็นแก่ตัว เป็นบทสนทนาสั้นๆ ของฝรั่ง 2 คนที่ดูแล้วเดาว่าน่าจะเป็น “อาจารย์” ของโรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่งบนถนนสุขุมวิท, ทั้งคู่คุยกันด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายเมืองไทยระหว่างนั่งรอ Sandwiches อยู่ในร้าน Subway ที่ไม่มีลูกค้าอื่นใดนอกจากผม พวกเขาพูดเรื่องทางเท้า ซึ่งในประเทศเราไม่ได้ออกแบบไว้ให้ “คน” เดิน แต่มีไว้ให้พ่อค้าแม่ค้าขายของ, ไว้ให้มอเตอร์ไซค์รับจ้างขี่สวนทางและไว้จอดรถ แล้วฝรั่งคนหนึ่งก็พูดว่า “พื้นฐานของคนประเทศผมคือวินัยแต่พื้นฐานของคนไทยคือความเห็นแก่ตัว” “คนในประเทศผมจะคิดแล้วคิดอีก” ถ้าการจอดรถของเขาทำให้ใครลำบาก และทุกครั้งจะจบลงด้วยการบอกตัวเองว่า “ไม่จอดดีกว่า” หรือไม่ก็ไปจอดไกลๆ แล้วเดินย้อนมา แต่คนไทยไม่… คนไทยจะ “เห็นแก่ตัว” ทุกที่ที่มีจังหวะ ไม่ว่ามันจะเป็นการจอดบนทางเท้า / บนเลนจักรยานและแม้กระทั่งปากซอยหรือกลับรถแล้วจอดทันทีเพราะสันดานพื้นฐานของคนไทยคือ “ความเห็นแก่ตัว” และ “บังคับให้คนอื่นต้องหลบ” เพื่อให้ตนเองได้รับสิทธิพิเศษหรือความสบายมากที่สุดเสมอ เมื่อไรที่ความเห็นแก่ตัวของคนไทยไม่ได้รับการตอบสนอง, คนไทยจะเรียกหา “น้ำใจ” เขาเคยนึกว่า “น้ำใจ” ของคนไทยช่างแสนดี แต่วันนี้เขารู้แล้วว่า “น้ำใจ” คือข้ออ้างของความเห็นแก่ตัว ไม่ยอมให้แซงคิวในร้านอาหาร = ไม่มีน้ำใจ ไม่ยอมให้จอดรถซื้อของกระพริบไฟ = ไม่มีน้ำใจ [แม้จะทำให้รถติดยาวไปอีก 3 กิโลฯ] ไม่ยอมหลบให้รถมอเตอร์ไซค์ที่ขี่สวนเลนบนทางเท้า = ไม่มีน้ำใจ ฝรั่งคนหนึ่งบอกว่า “น้ำใจ” คือภาษาไทยคำแรกๆ ที่เขาเรียนรู้ตอนมาถึงประเทศนี้แต่ปัจจุบันมันคือคำที่น่า “ขยะแขยง [Disgusting]” สำหรับเขาเพราะมันคือการที่คนไทยจ้องจะเอาเปรียบกันทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้โดยไม่สนใจใครทั้งนั้น ตอนผมฟังประโยคแรกว่า “พื้นฐานของคนประเทศผมคือวินัยแต่พื้นฐานของคนไทยคือความเห็นแก่ตัว” ก็อยากจะค้าน แต่หลังจากที่พยายามคิดหาเหตุผล, สุดท้ายผมก็นั่งทาน Subway ต่อไปเงียบๆ พลางนึกถึงแฟนเก่าสาวญี่ปุ่นที่เคยตกใจตอนเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางเทน้ำแกงจากหม้อลงบนถนนกับคำถามที่ว่า “แล้วถ้ามีหนูมีแมลงสาปมาทำรังใครจะรับผิดชอบ ?” และ “ทำไมเราต้องมีน้ำใจให้คนเห็นแก่ตัว” https://www.facebook.com/เจิมศักดิ์-ปิ่นทอง-181318038626087/?hc_ref=NEWSFEED&fref=nf *** *** *** ที่น่าคิดต่อให้ยาวไกลไปกว่านั้น ... แล้วจะช่วยกันแก้ "พวกมัน" ได้ยังไง ? ลองมาช่วยกันคิดดีม๊ะ... เผื่อถึงหู ลุงตู่ แล้ว ม.44 อาจช่วยได้... ใครไม่เห็นแก่ตัว คงไม่เดือดร้อน...ว่ามั๊ย...
เป็นความจริงที่ฝรั่งพูดครับ เป็นเรื่องของระเบียบวินัยที่เราไม่มีและถูกละเลยมานาน และในประเทศกำลังพัฒนามักจะเป็นเช่นนี้กันมาก ในการแข่งขัน เกี่ยงแย่ง วัตถุ ทรัพยากร มือใครยาวก็ได้ไป ปัญหามาจากรัฐไม่เข้มงวดบังคับกฎหมาย และประชาชนไม่เคารพกฎหมาย แก้ 2 อย่างนี้ได้ เชื่อว่าปัญหาหมดไป แต่ผมมองมุมกลับเช่นกันตรงที่ มันเป็นเพราะความเจริญความก้าวหน้าจากต่างประเทศที่ถูกนำเข้ามา ยัดเยียดเรามาตลอด ทั้งที่ในอดีตเราไม่มีการแก่งแย่งชิงดีมากมายเท่านี้ เรามีน้ำใจให้กันมากกว่า เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันและกัน เราไม่มีการปรับตัว เตรียมพร้อมรับมือความเจริญที่หลั่งไหลเข้ามา แต่มันก็เป็นข้อดีของเราที่เราไม่มีการเหยียดผิวสี เหยียดศาสนาอื่นๆ เราไม่ส่งทหารไปรุกรานประเทศอื่นๆ ไปแย่งชิงทรัพยากรชาติไปยุ่งเกี่ยวกิจการภายในประเทศอื่นๆ ผมยังภูมิใจชาติของเราอยู่นะ
อ่านแล้วก็เข้าตัวผมนะ เพราะผมขี่จักรยาน สวนเลน ทุกวันเลยอะ แล้วผมก็ยังตัดเข้าเลนรถวิ่งด้วยล่ะ เหตุผลก็คือ ประหยัดเวลา แต่ผมก็เคยเจอด่าล่ะ ก็นะ มันว่าคนอื่นไม่ได้เต็มปาก เพราะผมก็เป็นด้วย คือ เวลาอยู่บนท้องถนน มันยากนะ ที่จะทำใจเย็น ๆ แล้วรอนาน ๆ ได้อะ เพราะอย่างที่รู้กันว่า ปัญหาไฟแดงนาน ๆ น่ะ มันก็นานจริงนะ บางที ก็ 10-15 นาทีได้เลย แล้วย้อนไปคิดถึง ตอนเด็ก ๆ เวลามีการโปรยเงินกันอะ พวกคณะลิเก มาเล่นให้เจ้าที่เจ้าทางดูอะ พอเค้าโปรยผมก็ตาลีตาเหลือกไปแย่ง แต่ความไวมันน้อย ได้บาทหนึ่ง ก็ดีใจละ แล้วก็ตอนไปดูเค้าเล่นเกมส์ตู้อาเขต อย่างเกมส์รถปล่อยตด หรือ นินจาแบบนี้ ผมก็ชอบนะไปยืนดูหัวโด่ บางทีเค้าเล่น กันหนำใจละ เกมส์ยังไม่ตาย ผมก็ได้เล่นต่อบ้าง ถึงจะมือสั่น ทำอะไรไม่ถูกก็เหอะ คือสภาพคนจน ๆ ไม่ค่อยมี มันจะติดไง คือเอานิดเอาหน่อย ได้ก็พอใจแล้วอะ แล้วพอโตมา บางทีมันก็ติดนิสัย(อย่าใช้คำแรงนะ ผมอ่อนแอ) ถ้ามีโอกาสได้ ก็อยากจะเอาด้วยอะไรงี้อะ ผมเลยเลือก ไทยรักไทย เป็นรัฐบาล ก็เพราะเหตุผลงี่เง่าพวกนี้อะ คือมันได้อะไรที่จับต้องได้มาอะ จะบอกว่า ผมเป็นคนชั้นกลางระดับล่าง ที่เข้าใจ หัวอกคนจนก็ได้นะ เลยบางที ไม่ค่อยอยากต่อว่าพวกเค้า เพราะมันก็เข้าตัวด้วยไง ก็พยายามจะปรับปรุงตัวอยู่นะ แต่บางเวลา ก็จะเผลอแล้วก็ไปทำแบบเดิม ๆ ถ้ามีโอกาสอะ มันเลยยากไง ที่จะมองว่าคนจน ๆ เค้าจะคิดถึงภาพรวม มากกว่าว่า วันนี้มีโอกาสพิเศษ ที่จะมี จะได้อะไร ที่ปกติชีวิตประจำวันจะขาดแคลน ถ้าได้บ้างก็ดีใจแล้วอะ
ด้วยพฤติกรรม นิสัยของ 'คนไทยจำนวนไม่น้อย' ที่เป็นกันเยี่ยงนี้ (“เห็นแก่ตัว” ทุกที่ที่มีจังหวะ)... นักการเมืองที่รู้ดี จึงกล้าประกาศกันไปดังๆ ว่า... "จังหวัดไหนมอบความไว้วางใจให้ เราต้องดูแลเป็นพิเศษ"... ประชาชนที่มอบความไว้วางใจ ต่างก็เข้าใจและ ให้โอกาสแก่นักการเมือง ด้วยประโยคเด็ดที่ว่า "โกงได้แต่ขอให้แบ่ง", "ใครๆเขาก็ทำกัน" ฯลฯ… นี่แหล่ะ ประเทศไทย...
ลองขับรถเข้าหมู่บ้านบัวทองแถวบางใหญ่ซิครับ เป็นถนนที่ฝึกความอดทน สติ หริโอตะปะ การให้อภัยได้เป็นอย่างดี ผมใช้ทางเส้นนี้มาเกือบ3ปี ใจเย็นขึ้นเยอะ
มีน้ำใจได้ครับ เว้นแต่ต้องไม่เปิดโอกาสให้ตัวเองและผู้อื่นทำผิดกฏหมาย ถามเล่นๆ ครับ ในที่นี้ เคยมีใครหยุดรอไฟคนข้ามถนนให้เขียวก่อน ทั้งที่คนเดินข้ามไปแล้วมั่งครับ ผมพยายามที่จะรอนะครับ ยังไม่เคยแหก นอกจากไม่เห็นไฟและเคยขับไปโดยไม่เห็นจริงๆ แต่ต้องยอมรับว่า ขณะที่เรากำลังรอไฟเขียวอยู่นั้น รถทุกคันที่เห็นคนเดินข้ามไปแล้ว เค้าก้ไปกัน เคยมีรถคันหลังบีบแตรไล่ผมด้วยครับ เล่นเอารู้สึกผิดไปก็มี
ฝรั่งเทียมครับ อยู่เมืองไทยจนติดนิสัยคนไทย แต่เป็นคนไทยนิสัยไม่ดีเหมือนคนไทยประเภทเสื้อแดงครับ คือชอบงัดแงะเอาเฉพาะแต่เรื่องร้ายๆ เพื่อแสดงความต่อต้าน ว่ากันจริงก็เอาเรื่องที่ตัวเองไม่พอใจนั่นและ แล้วนั่นไม่ใช่เห็นแก่ตัวหรือไง ด่าคนอื่นได้ไม่รู้สักว่าด่าตัวเองเข้าแล้วหรือไง เพราะผมเห็นฝรั่งจำนวนมากๆเลยละเห็นคนไทยจำนวนมากๆอีกเหมือนกันที่ไม่ได้เป็นตามที่บทสนทนาของฝรั่งสองตนนี้ และไอ้ที่เป็นไปตามบทสนทนานี้อะนะ ทั้งฝรั่งทั้งยุธโรปประเทศไหนๆก็เป็น ยิ่งเป็นอเมริกาที่มีพลเมืองร้อยพ่อพันแม่ ยุโรปประเทศที่มีผู้อพยบเข้าไปเยอะๆ เป็นหนักกว่าไทยอีก ฝรั่งที่ผมเห็นในเมืองไทย คงจะเป็นฝรั่งที่พบเห็นพฤติกรรมสังคมมนุษย์มามากๆแน่ บ่อยๆที่ผมเห็นเขาอดทน ใจเย็น ยิ้มแย้มกับพฤติกรรมของคนไทยได้ ในแบบที่ว่าผมเองยังยึดฝรั่งที่ผมพบเห็นเพื่อเตือนสติตัวเองอย่าไปโกรธอะไรง่าย ทำไมฝรั่งพวกนี้เค้าอดทน เค้าใจเย็น ขณะที่เราคนไทยแท้ๆพบเห็นเรื่องที่เราไม่พอใจเรายังโกรธคนไทยกันเอง จริงๆนะ ผมรู้สีกไปไกลว่าหรือคนพวกนี้จะเป็น"พุทธ" ยิ่งกว่าผมซะอีก
ในประเทศไทย คงไม่มีโอกาสได้เห็นเช่นภาพนี้ ... *** *** *** *** *** *** แค่ชลอตัว ยังไม่ถึงกับติด มันก็เพิ่มเลนส์เอง วิ่งไหล่ทาง หรือไม่ก็แซงข้ามเลนส์ เพื่อไปเบียด แทรกเข้าข้างหน้ากันแล้ว...
แชร์ว่อน!! ขบวนเบนซ์หรูรองนายกฯ รถนำบีบแตร ชี้หน้า ตะโกนต่อว่า เปิดทางฝ่ารถติด http://www.matichon.co.th/news/272013
ผมอยากให้มีองค์กรช่วยรณรงค์จิตสำนึกสาธารณะบ้างหน่ะครับ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐฯ เหมือน ส.ส.ส. อะไรบ้าง หน้าที่คือ รณรงค์พวกสิ่งที่คนไทยควรจะเป็น เช่น ของหลวง ก็ต้องเป็นของหลวง พวกยึดที่ดินหลวง ยึดถนน ยึดทางเท้า เป็นพวกเชี้ย คนเห็นแก่ตัว คนเลว คนพวกนี้้ต้องไม่มีใครคบ ต้องถูกประจาน ต้องไม่มีที่ยืนในสังคม ต้องหนักหนาอะไรทำนองนั้นเลย ต้องทำจริงจัง ทำให้หนัก ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนทัศนคติของสังคมโดยรวมให้ได้ เพราะพ่อแม่สังลูกหลานมาไม่เท่ากัน บางคนก็ไม่สั่งสอนเลย โรงเรียนก็คงช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่บางคนวัยเกินวัยเรียนมาแล้ว ก็คงต้องทำวิธีนี้แหละครับ
ผมว่าควรบรรจุในการเรียนการสอนในทุกชั้นปี ตั้งแต่ประถมจนจบมัธยมปลาย แม้จะดูน่าเบื่อ แต่พูดทุกสัปดาห์ พูดกันสิบกว่าปี มันคงมีซึมเข้าหัวบ้าง
ตราบใดที่ผู้นำของสังคมยังเป็นตัวอย่างที่ดียังชี้นำหรือนำพาสังคมไปในทางที่ถูก ที่ควรไม่ได้อย่าหวังเลยว่าสังคมไทยจะสงบร่มเย็นเพราะยังมีการเลือกปฏิบัติ มีการยกเว้นมีการอำนวยความสะดวกเป็นรายบุคคล เหมือนผู้นำบางรัฐบาลบอกให้ประชาชนต้องเสียภาษีเพื่อเอาเงินมาบำรุง พัฒนาประเทศแต่ตัวเองกับเสียดายเงินที่ต้องจ่ายกลับยักย้ายถ่ายเท หลบเลี่ยงการจ่ายภาษีเสียเองแล้วจะให้คนในสังคมคิดอย่างไร เรื่องการจราจรแก้อย่างไรก็ไม่จบตราบใดที่ผู้บริหารประเทศหรือนักการเมืองยังมีรถนำขบวนเปิดทาง ลองคนเหล่านี้มาใช้สิทธิการใช้รถใช้ถนนเท่าๆกันสิไม่กี่ปีจราจรบ้านเราโล่ง คิดออกทันทีว่าจะต้องทำอย่างไร