วันนี้ (28 พ.ย.) เมื่อเวลา 07.00 น. ที่บริเวณถนนพระสุเมรุ หน้าวัดบวรนิเวศวิหาร เจ้าหน้าที่ทหาร สำนักพระราชวัง กรมการศาสนา(ศน.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งศิษยานุศิษย์ ร่วมจัดริ้วขบวนพระอิสริยยศ พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในการซ้อมเสมือนจริงในเส้นทางจริงเป็นครั้งแรก โดยมีผู้เข้าร่วมริ้วขบวนกว่า 1,400 คน โดยมีสมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พรฺหมฺคุตโต) รักษาการเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) พร้อมคณะสงฆ์วัดบวรนิเวศวิหาร มาร่วมตรวจเยี่ยมความเรียบร้อยของริ้วขบวนพระอิสริยยศด้วย ต่อมาเวลา 07.40 น.ริ้วขบวนได้เคลื่อนจากถนนพระเมรุ เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ผ่านถนนราชดำเนินกลาง ตัดเข้าถนนหลานหลวง โดยใช้ท่าเดินแบบสโลว์ มาร์ท ประกอบเพลงพญาโศกลอยลม เมื่อไปถึงจุดพักบริเวณแยกหลานหลวง จึงเปลี่ยนเป็นท่าเดินปกติจนกระทั่งถึงบริเวณถนนกรุงเกษม ขบวนจะหยุดพักบริเวณหน้ากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) หลังจากนั้นริ้วขบวนเคลื่อนต่อด้วยท่าเดินแบบสโลว์ มาร์ทอีกครั้ง เลี้ยวขวาเข้าถนนหลวง และเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนกลางสุสานหลวง พระเมรุวัดเทพศิรินทราวาส โดยริ้วขบวนมาถึงพระเมรุวัดเทพศิรินทราวาส เวลาประมาณ 10.00 น. จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ปรับริ้วขบวนสู่ริ้วขบวนที่ 2 เชิญพระโกศพระศพเวียนรอบพระเมรุ 3 รอบ เป็นอันเสร็จพิธีซ้อมในครั้งแรกนี้ อย่างไรก็ตาม กำหนดซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศจะปิดการจราจรตลอดเส้นทางที่ขบวนเคลื่อนผ่านระหว่างเวลา 07.00 - 12.00 น. ส่วนบรรยากาศการซ้อมริ้วขบวนนั้นได้มีประชาชนยืนถ่ายรูปทั้ง 2 ฝั่งตลอดเส้นทาง พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร กล่าวว่า การซ้อมวันนี้ถือเป็นการซ้อมเสมือนจริงครั้งแรก ในพื้นที่จริง โดยก่อนหน้านี้แต่ละหน่วยงานได้ดำเนินการซ้อมย่อยมาแล้ว อย่างไรก็ตามจะมีการซ้อมเสมือนจริงอีก 2 ครั้ง คือวันที่ 7 ธ.ค. และ 10 ธ.ค. สำหรับวันประกอบพระราชพิธีจริงในวันที่ 16 ธ.ค. ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนตั้งโต๊ะหมู่บูชาตามแบบโบราณราชประเพณีตลอดเส้นทางส่งเสด็จ ส่วนทางวัดบวรนิเวศวิหาร จะเปิดให้ประชาชนได้ถวายสักการะพระศพจนถึงวันที่ 15 ธ.ค. เวลา 15.00 น. ด้าน พล.อ.อ.ชูชาติ บุญชัย รองเสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดริ้วขบวนพระอิสริยยศพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระสังฆราช กล่าวภายหลังซ้อมริ้วขบวนว่า การซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศฯ ในพื้นที่จริงมีความเรียบร้อยกว่าร้อยละ 80 ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดีโดยเฉพาะกำลังพลทหาร อย่างไรก็ตาม ยังพบปัญหาเรื่องความสูงของราชรถเชิญพระโกศพระศพช่วงผ่านสะพานลอย 3 แห่ง ทางกรุงเทพฯแจ้งว่าจะดำเนินการปรับระดับถนน เพื่อให้ราชรถผ่านได้สะดวก สำหรับการซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศทั้ง 2 ริ้วขบวน ใช้กำลังพลทั้งหมด 1,449 นาย ความยาวริ้วขบวนมากกว่า 500 เมตร ซึ่งระยะทาง จากวัดบวรฯถึงวัดเทพศิรินทร์ 2.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินขบวนกว่า 2 ชั่วโมง Cr.http://manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9580000131819
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรฯ เผย สำนักช่างสิบหมู่ ออกแบบตราสัญลักษณ์งานพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระสังฆราช เสร็จเรียบร้อย อัญเชิญประดิษฐานบนพัดรอง ย่ามที่ระลึกถวายพระสงฆ์ พรุ่งนี้ ประชาชนชมการซ้อมริ้วขบวนตลอดเส้นทางวัดบวรฯถึงวัดเทพศิรินทร์ วันนี้ (27 พ.ย) พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ (อนิลมาน ธมฺมสากิโย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร กล่าวว่า ขณะนี้การเตรียมการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ระหว่างวันที่ 15-17 ธันวาคม 2558 นั้น ในส่วนของสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) ได้ออกแบบตราสัญลักษณ์ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยลักษณะของตราสัญลักษณ์ได้อัญเชิญ ตราประจำพระองค์ “ญสส” มาเป็นแนวทางในการออกแบบ โดยใต้ตราประจำพระองค์ จะมีข้อความเขียนว่า การพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ ตามหมายกำหนดการซึ่งมี 2 ช่วง คือ ช่วงแรกของงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพวันที่ 15-17 ธ.ค. และการพระราชกุศลพระอัฐิและบรรจุพระสรีรางคาร 19-20 ธ.ค. ซึ่งตราสัญลักษณ์ดังกล่าว ทางวัดบวรนิเวศวิหาร ได้อัญเชิญไปปักบนพัดรองและย่ามที่ระลึกในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ ที่จะถวายแด่ พระสงฆ์ที่ได้รับนิมนต์ในพิธีบำเพ็ญพระกุศล และพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ “ตราสัญลักษณ์สื่อถึงความเป็นสมเด็จพระสังฆราช คือ พระนามย่อ”ญสส”ที่คนไทยคุ้นเคยกันอยู่แล้ว เพียงแต่เพิ่มเติมเพื่อสื่อถึงงานพระราชพิธี ส่วนการนำมาใช้นั้นหากใช้ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานพระราชพิธีก็สามารถนำไปใช้ได้โดยไม่ต้องขออนุญาต เช่น หน่วยงานเอกชนใช้ประดับซุ้มในวันงานพระราชพิธีหรือประชาชนนำมาประดับโต๊ะหมู่บูชาตามเส้นทางอัญเชิญพระศพสมเด็จพระสังฆราชจากวัดบวรนิเวศไปยังพระเมรุวัดเทพศิรินทราวาส ถ้าหากนำเอาใช้ในทางธุรกิจหรือการค้าก็ไม่สมควร ”ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร กล่าว พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการจัดสร้างพระรูปเหมือนสมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระญาณสังวร สมด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพื่อประดิษฐานยังวัดบวรนิเวศวิหาร ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นนั้น ขณะนี้ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงเก็บรายละเอียดคาดว่าจะนำมาประดิษฐาน เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะก่อนวันที่ 15 ธ.ค.นี้ อีกทั้ง วัดบวรนิเวศยังได้จัดสร้างพระรูปเหมือนขนาดเล็กและเหรียญรูปเหมือนสมเด็จพระสังฆราชขึ้นมาจำนวนหนึ่ง สำหรับแจกเป็นที่ระลึกด้วย สำหรับกำหนดกาารซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศ พระราชพิธีพระราชพิธีเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในพื้นจริงจำนวน 3 ครั้ง ได้แก่ วันที่ 28 พ.ย. 7ธ.ค. และ 10 ธ.ค. จะยึดเวลาเคลื่อนพระศพจริงตั้งแต่เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป โดยจะมีการปิดการจราจรตามเส้นทางที่ริ้วขบวนเคลื่อนผ่าน ในระยะทางประมาณ 3.6 กิโลเมตรตั้งแต่หน้าวัดบวรนิเวศวิหารจนถึงวัดเทพศิรินทราวาส ดังนี้ ถนนพระสุเมรุ ไปยังถนนราชดำเนินกลาง ผ่านเข้าถนนหลานหลวง เลี้ยวขวาเข้าถนนกรุงเกษม เลี้ยวเข้าถนนหลวง ซึ่งประชาชนสามารถชมริ้วขบวนพระอิสสริยศได้ตามเส้นทางที่กำหนดตามวันและเวลาดังกล่าว
ภาพนี้งานครั้งที่แล้วครับ พระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (วาสนมหาเถระ) 18 มี.ค. 2532
วันนี้ (16 ธ.ค.) บรรยากาศพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ตั้งแต่ช่วงเช้า เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ทหาร ตำรวจ คณะศิษยานุศิษย์ ตลอดจนผู้แทนหน่วยงานได้เข้าร่วมริ้วขบวนพระอิสริยยศแห่เชิญพระโกศพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) ที่หน้าวัดบวรนิเวศวิหาร ด้านถนนพระสุเมรุ จำนวนรวม 1,424 คน โดยเมื่อเวลา 07.00 น. พล.ท.ม.จ.เฉลิมศึก ยุคล เป็นผู้แทนพระองค์ มาเป็นประธานในพิธีเชิญพระโกศพระศพสมเด็จพระสังฆราชลงจากพระตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร ประดิษฐานยังราชรถในริ้วขบวน เมื่อเวลา 08.00 น. ริ้วขบวนพระอิสริยยศพร้อมเคลื่อนขบวนจากวัดบวรนิเวศวิหาร ไปตามถนนพระสุเมรุเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ไปตามถนนหลานหลวง เลี้ยวขวาไปตามถนนกรุงเกษม เลี้ยวขวาถนนหลวง เข้าสู่พระเมรุวัดเทพศิรินทราวาสทางประตูด้านใต้ รวมระยะทาง 3.38 กิโลเมตร ทั้งนี้ เมื่อถึงวัดเทพศิรินทราวาสจะปรับเป็นริ้วขบวนที่ 2 เป็นขบวนเชิญพระโกศพระศพเวียนรอบพระเมรุ สำหรับริ้วขบวนพระอิสริยยศ ประกอบด้วย ขบวนทหาร 3 เหล่าทัพ 3 กองพัน ขบวนพระอิสริยยศ พนักงานพระราชพิธีนำริ้ว ประตูหน้า ธง 3 ชาย นำริ้วขบวน คู่แห่นุ่งผ้าเกี้ยวลาย สวมเสื้อครุย ลอกพอก สายละ 80 จำนวน 2 สาย กลองชนะพื้นแดงลายทอง สายละ 40 จำนวน 2 สาย จ่าปี่ จ่ากลอง แตรฝรั่ง แครงอน สังข์ สารวัตรกลองชนะ สารวัตรแตร เครื่องสูงพระนำหน้า มีฉัตร 5 ชั้น บังแทรก ฉัตร 7 ชั้น เครื่องสูงหลังพระนำ มีฉัตร 5 ชั้น ฉัตร 7 ขั้น และบังแทรก ตามด้วยสัปทนกั้นพระนำ บังสูรย์พระนำ กำกับเครื่องสูงพระนำ พนักงานเชิญพัดยศสมณศักดิ์พระนำ รถพระอ่านพระอภิธรรมนำ คนฉุดชักรถพระนำและยกบันได พนักงานถือแพนหางนกยูง คู่เคียง รถพระนำข้าราชการกระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แวดล้อมด้วยเครื่องสูงเชิญหน้าราชรถพระโกศพระศพ ประกอบด้วยฉัตร 5 ชั้น ฉัตร 7 ชั้น และบังแทรก กำกับเครื่องสูงหน้า ผู้อำนวยการขบวน ผู้จัดขบวนและควบคุม พระแสงหว่างเครื่องหน้า กำกับพระแสงหว่างเครื่องหน้า ราชรถเชิญพระโกศพระศพ คนฉุดชักราชรถและยกบันได กำกับราชรถเชิญพระโกศพระศพ พนักงานถือแพนหางนกยูง พนักงานภูษามาลาประคองโกษ เชิญพระกลดตาดขาว บังพระสูรย์ พัดโบก คู่เคียงราชรถพระโกศพระศพ โดยข้าราชการกระทรวงวัฒนธรรมและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ข้างละ 2 จำนวน 2 ข้าง อินทร์เชิญจามร พรหมเชิญจามร เครื่องสูงหลังราชรถเชิญพระโกศพระศพ มีฉัตร 7 ชั้น ฉัตร 5 ชั้น และบังแทรก กำกับเชิฐเครื่องสูงหลัง ประตูหลัง และเชิญเครื่องยศสมณศักดิ์ตาม เป็นริ้วขบวนที่ 1 โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช นั่งเสลี่ยงราชรถพระนำอ่านพระอภิธรรม ถือเป็นขบวนพระเกียรติยศ ซึ่งจัดตามแบบโบราณราชประเพณี ทั้งนี้ วัดบวรนิเวศวิหารได้จัดซุ้มดอกไม้จันทน์บริเวณลานข้างโรงเรียนวัดบวรนิเวศรองรับพุทธศาสนิกชนที่จะเดินทางมาร่วมพิธี อีกทั้งยังติดตั้งจอภาพแอลอีดีขนาดใหญ่ให้รับชมความสง่างามของริ้วขบวน ตลอดจนพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพทั้งหมดด้วย สำหรับตลอดเส้นทางเคลื่อนขบวนมีประชาชนแต่งกายชุดสีดำมาร่วมส่งเสด็จกันอย่างเนืองแน่น สำหรับราชรถเชิญทั้ง 2 องค์ ได้สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 6 ใช้ในงานพิธีหรือพระราชพิธีที่เกี่ยวข้องกับทางพระพุทธศาสนา เช่น นำอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) มายังท้องสนามหนามหลวง และใช้ในกระบวนพระอิสริยยศเชิญพระโกศสมเด็จพระสังฆราชในอดีต ทั้งหมดรวม 8 พระองค์ ตั้งแต่สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 11 สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ ในการพระราชทานเพลิงพระศพ ณ พระเมรุวัดเทพศิรินทราวาส ในรัชกาลที่ 8 และสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (หม่อมราชวงศ์ชื่น นพวงศ์สุจิตโต) องค์ที่ 13 วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2502 และสมเด็จพระอรินวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) องค์ที่ 18 วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในรัชกาลที่ 9 ปี 2531 http://manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9580000137826
เช้าวันนี้ (17 ธ.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในการเก็บพระอัฐิ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ยังพระเมรุ วัดเทพศิรินทราวาส โดยเจ้าพนักงานประมวลพระอัฐิ และพระสรีรางคารถวายคลุมไว้ภายใต้ฉัตรขาว 3 ชั้น ตั้งพระสุคนธ์ ขันสรง พระเจดีย์ศิลาสำหรับบรรจุพระโกศพระอัฐิ และผอบ สำหรับบรรจุพระสรีรางคารไว้พร้อม เวลา 07.00 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังพระเมรุ วัดเทพศิรินทราวาส ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย สักการะพระอัฐิ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงพระสุหร่ายสรงพระอัฐิ ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ โดยเสด็จด้วย ชาวพนักงานประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงทอดผ้าไตรพระสามหาบ 2 สำรับ (6 รูป) พระสงฆ์สดับปกรณ์ แล้วทรงเก็บอัฐิ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประดิษฐานในพระเจดีย์ศิลา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญไปประดิษฐานบนโต๊ะหมู่บูชา ในพลับพลาอิสริยาภรณ์ จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินตามพระอัฐิขึ้นประทับ ณ พลับพลาอิศริยาภรณ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะพระอัฐิ แล้วถวายพัดรองที่ระลึกงานพระเมรุ และทรงประเคนสำรับภัตตาหาร พระสงฆ์รับพระราชทานฉันเสร็จ ถวายตู้สังเค็ดแด่พระสงฆ์สามหาบ พระสงฆ์สามหาบถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ลงจากพลับพลาอิสริยาภรณ์ เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์อีก 10 รูป ขึ้นนั่งอาสน์สงฆ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ถวายพัดรองที่ระลึกงานพระเมรุ พระสงฆ์สวดมาติกา แล้วทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก จากนั้นจึงเสด็จพระราชดำเนินกลับ ต่อมาเจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญเจดีย์ศิลาบรรจุพระอัฐิ และผอบพระสรีรางคาร ขึ้นรถยนต์พระประเทียบไปประดิษฐานพระตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร
ดาวน์โหลดเพื่ออ่านฟรีครับ บวรธรรมบพิตร ฉบับพระประวัติ สมเด็จพระญาณสังวร http://www.ebooks.in.th/ebook/37532/บวรธรรมบพิตร_ฉบับพระประวัติ_สมเด็จพระญาณสังวร/
http://www.dailynews.co.th/education/367579 พระอัฐิแบ่งบรรจุในพระเจดีย์ 3 องค์ พระเจดีย์หินอ่อนสีน้ำตาล 2 องค์ ประดิษฐานที่วัดบวรนิเวศวิหาร และวัดเทวสังฆาราม จ.กาญจบุรี พระเจดีย์หินอ่อนสีขาว 1 องค์ ประดิษฐานที่วัดญาณสังวราราม จ.ชลบุรี
เวลา 17.13 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จแทนพระองค์ไปยังตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระอัฐิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในการนี้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะพระอัฐิ และพระสรีรางคาร แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงประเคนพัดรองที่ระลึกงานพระราชกุศลพระอัฐิแด่พระสงฆ์ที่จะสวดพระพุทธมนต์ พระสงฆ์ 10 รูปสวดพระพุทธมนต์จบทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์สดัปกรณ์ ถวายอดิเรก แล้วทรงประเคนพัดรองที่ระลึกงานพระราชกุศลพระอัฐิแด่สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตรวิทยาราม ที่จะถวายพระธรรมเทศนา แล้วทรงจุดเทียนดูหนังสือเทศน์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม ทรงศีล สมเด็จพระพุฒาจารยถวายศีล ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระอัฐิ สำหรับพระอัฐิทรงธรรม สมเด็จพระพุฒาจารย์ ถวายพระธรรมเทศนา ทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชากระบะมุก พระสงฆ์ 4 รูป สวดธรรมคาถา แล้วทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ ทรงทอดผ้าไตร ถวายพระที่ถวายธรรมเทศนา และพระสวดธรรมคาถา พระสงฆ์สดัปกรณ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก http://news.ch7.com/detail/153276/พระเจ้าวรวงศ์เธอ_พระองค์เจ้าโสมสวลี_19-12-58.html