http://www.bloggang.com/m/mainblog.php?id=jetmom3425&month=31-07-2007&group=11&gblog=4 แม่มโครตถ่อยเลย ไอ้พวกทาสเสื้อเหลืองกบฏ พวก นปก.พวกนี้ ฟ้องว่าตำรวจทำร้ายประชาชน ??? .... .... .... .... .... .... .... .... .... ผมจะไม่วิจารณ์ เพราะมันคงไม่รู้จะบอกยังไงให้พวกนี้เข้าใจได้ ..........ดูเอาเองล่ะกาน
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9500000085512 ม็อบ นปก.เถื่อนไม่เลิก ฮือทุบทำลายป้อม-รถตำรวจ โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 22 กรกฎาคม 2550 22:34 น. ตำรวจ ปจ.ยิงแก๊สน้ำตาสลายม็อบ นปก.ที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ แต่แกนนำม็อบยังปลุกปั่นต่อม็อบเดือดทุบทำลายป้อมตำรวจ รถตำรวจ เสียหาย ปักหลักชุมนุมต่อเนื่อง ตำรวจเตรียมประชุมประเมินสถานการณ์อีกครั้ง วันนี้ (22 ก.ค.) ที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าเจรจากับแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) เพื่อขอให้สลายการชุมนุม แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยแกนนำ นปก.ยืนยันจะปักหลักชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ จนกว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ จะลาออกจากตำแหน่ง ล่าสุด เมื่อเวลา 20.40 น. พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล ทำการฉีดแก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุม และเข้ายึดเครื่องขยายเสียงที่แกนนำ นปก.ใช้ปราศรัย นอกจากนี้ยังแบ่งกำลังอีกส่วนหนึ่งเข้าไปบล็อกประชาชนผู้ร่วมชุมนุม เพื่อไม่ให้เข้าไปใกล้บริเวณรถกระจายเสียง จนเกิดการกระทบกระทั่งกันเล็กน้อย เมื่อผู้ร่วมชุมนุมได้ขว้างปาขวดน้ำ และแผ่นกระเบื้องเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตาม ภายหลังถูกสลายการชุมนุมกลุ่มแกนนำได้ขึ้นเวทีปราศรัยเรียกร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมกลับมารวมตัวกันได้ประมาณ 2,000 คน โดยมีความพยายามปลุกปั่นให้ผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรง ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนพยายามทุบทำลายป้อมตำรวจและรถตำรวจที่จอดอยู่ภายในบริเวณใกล้เคียงจนได้รับความเสียหาย และใช้ก้อนหินขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บหลายราย ล่าสุดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลประมาณ 300 นายถูกผลักดันจนต้องถอยร่นไปอยู่หลังรั้วเหล็ก ด้านหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ขณะที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้ประชุมหารือเพื่อประเมินสถานการณ์กันอยู่ภายในสโมสรกองทัพบก ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก คมช.เปิดเผยถึงมาตรการการรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมว่า กองทัพยังไม่มีความจำเป็นที่จะเสริมกำลังทหารเข้าพื้นที่ เนื่องจากเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมสถานการณ์อยู่ ทั้งนี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่ากลุ่มผู้ชุมนุมพยายามก่อความวุ่นวายโดยหวังให้เจ้าหน้าที่ใช้กำลังสลายการชุมนุมเพื่อนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมือง
เฮ้อ.......รอลงอาญาอีกแล้ว แบบนี้คนเลวมันจะกลัวกฏหมายทำไม ----------------------------------------------------------------------------------- ศาลฎีกายืน'โอ๋สืบ6'คุก2ปี ไฟเขียวรุมตืบพันธมิตรฯ | เดลินิวส์ ศาลฎีกายืน "โอ๋ สืบ6" จำคุก 2 ปี ปรับ 1 หมื่นบาท โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยคนรุมทำร้ายกลุ่มต้านทักษิณปี 49 อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/crime/330606
ผมสงสัยจังว่า ศาลท่านไม่คิดถึงผลกระทบที่ตามมาหรือไง ****การละเว้นแบบนี้ ต่อไปอาจทำให้ผู้ก่อการลงมือรุนแรงขึ้น อาจถึงกับทำร้ายจนถึงเสียชีวิต ซึ่งต่อมาก็เป็นแบบนั้นจริงๆ และทำให้เกิดคดีเพิ่มขึ้นอีกมากมาย
คือผมคิดว่าศาลท่านคิดว่าการรอลงอาญาคือถ้าผู้ต้องหาก่อคดีอีกก็คือรับโทษทันทีแถมได้รับโทษคดีใหม่ด้วย แต่ยิ่งทำให้คนไม่เกรงกลัวกฎหมายกันมากขึ้น
ดิ้นเข้าไป ก๊ากกกกกกกกกกกกก อยากไปกระทำเขาก่อน เขาย่อมมีสิทธิป้องกันตัว วันนั้นมีคนตายอีกสองคน ซึ่งรายงานมันมาจากกระสุนแก้สน้ำตา ที่มีระเบิด ผมเคยท้านายเวรให้ระเบิดปิงปองมาทดสอบ นายเวรเงียบเลย แต่เหลืองถ่อยอีกกลุ่มพยายามบุกบ้านป๋าเปรม ตำรวจจึงต้องสลาย ดังนั้น นายเวรเอารูปเสื้อเหลืองมาก็ระวังๆหน่อยนะ
ให้เอาระเบิดปิงปองมาทดสอบ ผมเงียบครับ ที่ตายก็ตายเพราะระเบิดปิงปอง ผมเลยไม่กล้า อีกคนตายห้าเพราะเอารถขนระเบิด จะมาฆ่าพวกเดียวกันเอง แต่เกิดระเบิดก่อน
คุณยอมรับตัวเองเลวไหมล่ะครับ คุณเองยังไม่ยอมรับ จะให้แมวน้ำที่ไหนยอมรับครับ ลองยอมรับว่าตัวเองเลวสิ คนอื่นอาจจะยอมรับตาม
ควายแดงกล้ายอมรับมั้ยครับ ว่าพวกตัวเองมันชั่วช้าสามานย์ นายเวรยังไม่ยอมรับแล้วแมวที่ไหนยอมรับครับ ลองยอมรับสิ รับรองโดนตัดหางปล่อยวัดแน่ แหมพลาดบ่อยเนอะ
ระเบิดปิงปองหรือพวงกุญแจครับ http://dominique9407.seedang.com/mobile/story/34177 “พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง” รองโฆษก สตช.ยอมขอโทษศิลปินกู้ชาติ “ตี๋ ชิงชัย” ให้ข่าวผิดพลาด “ตี๋” พกระเบิดทั้งที่จริงเป็นเพียงพวงกุญแจหนัง ส่วนคอลัมนิสต์ข่าวสด จำเลยร่วม ยินดีแก้ไขข่าวลง นสพ.ให้ ขณะที่ “ทนายสุวัตร” ถอนฟ้องคดีแล้ว วันนี้ (9 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ห้องประนอมข้อพิพาท ศาลอาญา ศาลนัดไกล่เกลี่ยคดีที่นายชิงชัย อุดมเจริญกิจ หรือ ตี๋ ชิงชัย ศิลปินกู้ชาติที่สูญเสียแขนขวาจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 เป็นโจทก์ฟ้อง พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.), บริษัท ข่าวสด, นายฐากูร บุนปาน บรรณาธิการ นสพ.ข่าวสด และ นายเผด็จ ภูรีปติภาน คอลัมนิสต์ นสพ.ข่าวสด เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณี พล.ต.ต.สุรพล ได้แถลงข่าวระบุว่า นายชิงชัย ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นผู้พกพาระเบิดเข้าไปชุมนุมร่วมกับกลุ่ม พธม.ต่อมาจำเลยที่ 2-4 ได้นำข้อความไปตีพิมพ์เผยแพร่ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย วันนี้ พล.ต.ต.สุรพล จำเลยที่ 1 เดินทางมาร่วมเจรจาไกล่เกลี่ย ส่วนบริษัท ข่าวสด มีนายเผด็จ คอลัมนิสต์ นสพ.ข่าวสด จำเลยที่ 4 เป็นตัวแทน แต่ นายชิงชัย โจทก์ไม่ได้เดินทางมาศาล เนื่องจากแพทย์นัดผ่าตัดกล่องเสียง จึงได้มอบหมายให้ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความมาศาล โดยการประนอมข้อพิพาทใช้เวลา 2 ชั่วโมง 30 นาทีจึงแล้วเสร็จ ซึ่งคู่ความทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้ ภายหลัง พล.ต.ต.สุรพล แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่า เนื่องจาก นายชิงชัย ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุมที่รัฐสภา ต่อมาตนได้ให้ข่าวต่อสื่อมวลชน ว่า นายชิงชัย มีวัตถุคล้ายระเบิด ซึ่งตนให้ข่าวไปตามภาพของสื่อมวลชนที่นำมาให้ แต่ภายหลังเมื่อปรากฏข้อเท็จจริงจากแพทย์ที่ทำการรักษานายชิงชัย ว่า เป็นเพียงพวงกุญแจหนัง ทำให้ นายชิงชัย ได้รับความเสียหาย ตนจึงแสดงความเสียใจ และขอโทษ นายชิงชัย ซึ่งตนเคยกล่าวคำขอโทษต่อนายชิงชัยไปแล้วในการนัดประนอมข้อพิพาทครั้งก่อน นอกจากกล่าวคำขอโทษแล้ว ทาง นสพ.ข่าวสด ก็รับว่าจะดำเนินการตีพิมพ์แก้ไขข่าว ทั้งนี้ ในการเจรจาตนยังแถลงต่อศาลด้วยว่าจะนำเรื่องนี้ไปเรียนผู้บังคับบัญชาเพื่อจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่จะมีการให้ข่าวของหน่วยอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พาดพิงในเชิงเสียหายกับนายชิงชัยซ้ำอีก นายสุวัตร ทนายความ กล่าวว่า ภายหลัง พล.ต.ต.สุรพล แถลงต่อศาลแล้วว่า นายชิงชัย ไม่น่าจะมีและนำวัตถุระเบิดเข้าไปร่วมชุมนุม ซึ่งตามหลักฐานทางการแพทย์ พบว่า เป็นพวงกุญแจเท่านั้น ขณะที่จะมีการแก้ไขข่าวใน นสพ.ข่าวสด ด้วย โจทก์จึงได้ยื่นคำขออนุญาตถอนฟ้องจำเลยทั้งสี่ต่อศาลเรียบร้อยแล้ว http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9520000064904
อ่ะ เอาสำนักพิมพ์ที่นายเวรเชื่อถือมาลงด้วย http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1223559758 โต้ตร.ยันคนมือขาดไม่ได้กำระเบิด เมื่อเวลา 14.00 น. กลุ่มแนวร่วมศิลปินประชาธิปไตยกว่า 20 คน นำโดยนายวสันต์ สิทธิเขตต์ น.ส.วรรณพร ฉิมบรรจง หรือ "ทราย" นำ น.ส.เมตตา อุปมัย ภรรยานายชิงชัย อุดมเจริญกิจ หรือ "ตี๋ " ศิลปินอิสระ ที่ถูกแรงระเบิดเข้าใส่จนทำให้มือขวาขาดที่หน้า บช.น. ขณะที่มือซ้ายกำวัตถุบางอย่างอยู่ นายประเสริฐ พุทธสอน เพื่อนนายชิงชัยที่อยู่ร่วมเหตุการณ์เข้าให้ข้อเท็จจริงต่อนายสุรสีห์ โกศลนาวิน กสม.ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการสลายการชุมนุม นายประเสริฐกล่าวว่า ขอยืนยันว่านายชิงชัยไม่ใช่มือระเบิดตามที่ตำรวจแถลงข่าว ตนโดนสะเก็ดระเบิดจากที่นายชิงชัยโดนเข้าเต็มๆ รู้สึกว่าแผ่นหลังชาไปหมด คาดว่าระเบิดมาจาก บช.น. หลังเข้ารับการรักษาแพทย์บอกว่าเป็นสะเก็ดระเบิดแน่นอน แต่ทางตำรวจแถลงหาว่าเรามีระเบิดจึงรับไม่ได้กับสิ่งที่ตำรวจแถลงข่าวว่าในมือถือระเบิดข้างซ้ายเป็นการยัดเยียดข้อหาชัดเจน ด้าน น.ส.เมตตากล่าวว่า ภาพที่ปรากฏนั้นไม่ตรงข้อเท็จจริง ภาพข่าวที่ลงในหนังสือพิมพ์แนวหน้าปรากฏว่านายชิงชัยมือซ้ายไม่ได้กำระเบิดแต่ชูสองนิ้วแทน ซึ่งภาพที่ออกมาตอนนั้นยังมีสติอยู่ "ครอบครัวมีลูก 2 คน อายุ 5 ขวบ และ 7 ขวบ ตนได้ลาออกจากงานมาช่วยเลี้ยงบุตร โดยมีนายชิงชัยเป็นผู้หารายได้เพียงคนเดียว ซึ่งนายชิงชัยใช้มือขวาวาดภาพแต่ก็สูญเสียมือที่ถนัดไปแล้ว" น.ส.เมตตากล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้า หมอยันคนเจ็บกำพวงกุญแจหนัง นพ.ดิเรก ภาคกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาล รพ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า กรณีมีภาพข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ ระบุชายไม่ทราบชื่อมือขวาขาด เลือดท่วมร่าง แต่มือซ้ายยังกำวัตถุคล้ายระเบิดนั้น เป็นข้อมูลไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยเวลาเกิดเหตุประมาณ 19.00 น. บริเวณ บช.น. ทางตำรวจเรียกตนและพยาบาล ซึ่งประจำการอยู่บริเวณดังกล่าวให้ไปรับชายคนดังกล่าวที่นั่งพิงกำแพงอยู่ ซึ่งคนไข้กำมือตลอด ตอนแรกก็ไม่กล้าแกะออกดู แต่คิดว่าเป็นของสำคัญ เป็นทอง หรือของมีค่า จนนำตัวชายดังกล่างส่ง รพ.รามาธิบดี จึงได้แกะออกปรากฏว่าเป็นพวงกุญแจหนัง สีออกน้ำตาล แต่มองไม่ออกว่าเป็นรูปอะไร เนื่องจากไม่ได้สังเกต และพวงกุญแจดังกล่าวได้การเก็บไว้ในถุงสิ่งของคนไข้ รวมกับเสื้อผ้า "ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมชายคนดังกล่าวจึงนำพวงกุญแจมากำไว้ในมือ เพราะที่พวงกุญแจก็ไม่ได้มีลูกกุญแจอยู่ แต่ผมและพยาบาลที่อยู่ในเหตุการณ์ยืนยันได้ว่ามิใช่ระเบิด อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้บาดเจ็บรายนี้ ระหว่างนำตัวส่ง รพ.รามาธิบดี คนไข้แขนขาด มีเลือดออกมาก ไม่รู้ว่าร่างกายโดนอะไร แต่คนไข้รู้สึกตัว เพียงแต่พูดไม่ได้ เข้าใจว่าหลอดลมแตก และมีเลือดออกในหลอดลม ซึ่งผมและทีมงานได้ให้การช่วยเหลือโดยพยายามดูดเลือดในหลอดลมออกมาให้มากที่สุด" นพ.ดิเรกกล่าว
ใช่ครับ มันขึ้นอยู่กับว่าจะแยกแยะระหว่างความจริงกับความเชื่อครับ ซึ่ง นายเวรก็ดักดานกับความเชื่อต่อไปนะ แถต่อนะ อย่าท้อ
เป็นข้าราชการ พนักงานเจ้าหน้าที่ ถ้ากระทำผิดหรือทุจริตในตำแหน่งหน้าที่ ไม่เข้าใจว่าศาลจะตัดสินให้รอลงอาญาไปเพื่อ??? เห็นควรว่า สถาบันเนติฯ และฝ่ายอบรมตุลาการ ควรจะทำความเข้าใจกฏหมายข้อนี้แล้วอบรมให้ตุลาการตัดสินเป็นมาตรฐานเดียวกันหน่อย เช่น ข้าราชการฝ่ายงานทะเบียนทุจริตทำบัตรประชาชนปลอม หรือ ก.เกษตรทุจริตจัดซื้อปุ๋ยปลอม เป็นการจงใจกระทำความผิดในตำแหน่งหน้าที่ของตนแบบนี้จะรอลงอาญาไปทำอะไร เออถ้าเป็นกรณีเลิกงานแล้วขับรถไปชนใครตาย จำเลยสารภาพผิด แบบนี้จะรอลงอาญาจะไม่ว่าเลย ฝ่ายตุลาการควรต้องทบทวนหลักการ "ให้โอกาสผู้ที่กระทำความผิดครั้งแรก" ซะใหม่ได้แล้วมั๊งครับ เรื่องแบบนี้ควรจะเป็น เมคเซน หรือ วิจารณญาณพื้นฐาน ที่ต้องมีถ้าคิดจะเข้ามาเป็นตุลาการ อย่าถึงขนาดต้องไปแก้กฏหมายให้เขียนซะละเอียดยิบว่าความผิดไหนรอลงอาญาได้ ความผิดไหนรอลงอาญาไม่ได้ แค่นี้กฏหมายไทยก็ลงละเอียดยิบซะจนจำไม่ไหวแล้ว ถ้าแบบนี้คำกล่าวที่ว่า เป็นเจ้าหน้าที่ทำผิดร้ายแรง (ในหน้าที่) ต้องรับโทษหนักกว่าคนทั่วไป มันก็ไร้สาระไม่มีความหมายแล้วล่ะ