กลับมาจากสิงคโปร์เจอคำถามจากสื่อ ท่านนายกได้โอกาสระบายใส่เป็นชุดๆ โดนกันทั่วหน้า "" ฉะนั้นที่มาของ สปช. จากทั้ง 77 จังหวัด โดยแต่ละจังหวัดส่งมา 5 คน และผมก็เลือก 1 คนจากที่จังหวัดส่งมา แล้วเป็นพวกผมไหม อีกส่วนหนึ่งเป็นรายชื่อที่คณะทำงานของผมได้หามา และเกลี่ยออกมา ผมต้องการให้เขาคิดและดูว่า ผมกำลังทำอะไร และคิดว่าเขาจะทำอะไร จากนั้นก็ออกแบบไว้ว่าวันหน้าประเทศไทยจะเดินไปอย่างไร แต่เขาต้องต่อเนื่องจากที่ผมทำ และเขียนโรดแมปให้ชัดเจน ระยะหนึ่ง สอง สาม รวมทั้งหมด 36 วาระ และ 11 คณะ ซึ่งตั้งมาแต่แรก โดยทุกคณะต้องเขียนรายละเอียดของกิจกรรมว่าทำอย่างไร ไม่ใช่เขียนว่าปฏิรูป ปฏิรูป วันนี้นักการเมืองหลายคนออกมาถามว่าจะปฏิรูปอะไร ถ้าอย่างนี้พวกคุณจะไปฝากความหวังไว้ได้ไหม เพราะเขายังไม่รู้เลยจะปฏิรูปอะไร นักการเมืองที่ออกมาพูดทุกวันนี้ ไม่รู้ว่าจะปฏิรูปอย่างไร แล้วอยากจะเลือกตั้งกันเหลือเกิน กลัวจะเป็นจะตายหรืออย่างไรก็ไม่รู้ ทั้งๆ ที่ผมก็อยู่ในกรอบ มันเป็นอะไรกันนักหนา ถ้าคุณจะฝากความหวังไว้กับพวกเขาก็ตามใจเถอะ ฟังเขาต่อไปแล้วเปิดเวทีให้เขาพูดไป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในลักษณะมีน้ำเสียงประชดประชัน ไม่ต้องมากังวล ถ้าไม่อยากให้ตนอยู่ต่อก็บอกมา วันนี้ปัญหาบ้านเมืองมีเยอะแยะยังไม่รู้ชะตากรรมเลย ท่านก็รู้ดีอยู่ประเทศชาติเสียหายอะไรบ้าง ทั้งผิดกฎหมาย ทุจริต บุกรุกป่า 26 ล้านไร่ แต่กลับมาตีรวนไปหมดหาว่าตนเข้ามารังแกคนจน แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้จะแก้ได้หรือไม่ ถนนหนทางที่เลอะเทอะวันนี้ดีขึ้น วนอยู่อย่างนี้เหมือนไก่ที่อยู่ในเข่งตรุษจีนจริงๆ ผมว่าอย่างนั้น ตายทั้งหมดทั้งเล้านั่นล่ะ พวกผมทำให้ในเวลาที่มีอยู่เสร็จไม่เสร็จผมไม่รู้ อย่ามาเรียกร้องผมก็แล้วกัน วันหน้าถ้ามีเรื่องมีราวขึ้นมาอีก อย่าไปบ่นกับใคร กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี โดยนำนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา คสช. เข้าร่วมทีมเศรษฐกิจ "มันมีอะไรกันนักหนา คุณสมคิดเข้ามาแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น หรือถ้าไม่เข้ามาแล้วมันจะเกิดอะไร ลองพูดข้อดี ข้อเสีย ตอบคำถามของผมให้ได้ก่อน แล้วผมถึงจะตัดสินใจว่าจะเอาเข้าหรือไม่เอาเข้า ยืนยันว่าผมยังไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย เขียนอยู่ได้ทุกวันๆ การทำงานเขาทำงานกันเป็นระบบ ไม่ใช่เป็นคนนั้น คนนี้เข้ามา มันแก้ได้หรือ ระบบเศรษฐกิจของประเทศมันแก้ได้ด้วยคนเพียงคนเดียวหรือ ที่ผ่านมาผมก็คุยกับทั้ง 2 ท่าน ผมไม่ได้เลือกว่าใครเป็นเบอร์หนึ่งหรือเบอร์สอง การทำงานวันนี้ถึงแม้ผมจะไม่ฉลาดในเรื่องเศรษฐกิจไม่ค่อยรู้ แต่ผมก็เอาคนฉลาดมาอยู่กับผม และถ้าคุณสมคิดเข้ามาแล้วแก้ไม่ได้ คุณก็หาโทษคนอื่นไปเรื่อย จะหาใครอีก เอาคุณประสาร (ไตรรัตน์วรกุล) คุณสมคิด หนังสือพิมพ์ก็เขียนอยู่แค่นี้ เขาไม่มาหรอกผมบอกให้ อย่าไปวิจารณ์ อย่าไปเลือกงานแทนเขา แต่ถ้ามาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ไม่เข้าใจว่าทำไมนักข่าวถึงเขียนอยู่แค่นี้ หรืออยากให้ผมเส้นโลหิตแตกตายหรือไง บอกเลยถ้าไม่อยากให้อยู่ก็ขอให้บอกมา ไปถามคนอื่นบ้าง เขาว่ากันอย่างไร ทุกอย่างทำไมต้องสงสัยว่าอยากสืบทอดอำนาจ ทำไมไม่คิดบ้างว่าอยู่ต่อเพราะต้องการทำความดี การอยู่จะต้องมีอำนาจหรือใช้อำนาจอย่างนั้นหรือ อำนาจบอกแล้วว่ามันมีทุกคน นั่นคืออำนาจในการทำความดี ถ้าทำคุณงามความดีแล้วมันไม่ได้ประโยชน์ อยู่แล้วมันเสียหายก็อย่าไปอยู่มันเลย วันนี้พยายามที่จะทำทุกเรื่องให้ ยังไม่เสร็จเลยก็เริ่มตีโพยตีพาย ถามว่ามันถึงเวลาของโรดแมปแล้วหรือยัง มันกลัวอะไรกันนักหนา อีกพวกก็มวงอยู่นั่นแหละว่าให้ทำตามโรดแมป มันยังไม่ถึงเวลาจะทวงอะไร สื่อก็คล้อยตามไปด้วย สนุกกันหรืออย่างไร ประเทศชาติถูกปั่นหัวกันทุกวัน ที่พูดนี้มิได้บังอาจไปอบรมพวกท่าน พูดออกสื่อให้คนมันฟัง ได้ฟังเสียบ้าง ประเทศชาติเสียหายมากี่ปีแล้ว แล้วไอ้คนที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายทั้งหมด มันไม่ควรออกมาพูด ผมเตือนหลายหนแล้วว่าอย่าออกมาพูดก็ออกมาพูดอีก ตัวเองจะติดคุก ตายไม่ตายแหล่ ระวังก็แล้วกัน" ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่าหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว ปี 2557) สำเร็จจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็พูดอยู่นี่ไง ตนยังไม่ได้มีการปรับอะไรเลย พวกสื่อวิเคราะห์กันไปเอง ถ้าปรับเมื่อไหร่ตนจะบอก ไม่ต้องมาเขียนดักหน้า ดักหลัง อีก 3 เดือนจะปรับบ้าง ตนอ่านหนังสือพิมพ์แล้วไม่อยากจะลงมาประเทศไทยเลย มาแล้วก็วุานวายเหลือเกิน มันไม่มีอะไรก็จะให้มีอะไร ขอร้องว่าให้ประเทศสงบสักวันได้หรือไม่ ประเทศไทยกำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี ไปประเทศสิงคโปร์มาก็มีเรื่องนั้นเรื่องนี้กีฬาก็ชนะ คนไทยไม่ชอบความสุขอย่างนั้นหรือ ชอบความเจ็บปวดทรมาน ชอบการทุจริต ชอบสิ่งไม่ดี วันนี้ตนพยายามบอกให้ทุกคนช่วยคิดแบบตนบ้าง ไม่ได้ให้คิดตาม ไม่ได้ให้เชื่อ แต่ให้เวลากับการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ซึ่งไม่ใช่เปลี่ยนแค่วันเดียว ตนทำคนเดียวก็ไม่ได้ ก็ต้องส่งต่อให้รัฐบาลหน้าทำ ถ้าสื่อจะถามเรื่องนี้อีกต่อไปทั้งเรื่องอำนาจ จะอยู่ต่อหรือไม่อยู่ต่อก็ขอให้ไปถามคนทั้งโลกแทน ถามว่าถ้าตนอยู่แล้วได้อะไรขึ้นมาบ้าง และถ้าไม่อยู่แล้วจะได้อะไร http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000066774&Html=1&#Vote .......................................................................................... คัดมาบางส่วนเองครับ แต่อ่านแล้วรู้สึกได้เลยว่า ท่านนายกอึดอัดแค่ไหน ตำหนิ นักการเมืองที่เป็นตัวปัญหาสร้างความเสียหาย แล้วยังมาพูดปั่นหัวชาวบ้าน ตำหนิสื่อ ที่ลงแต่ข่าวไร้สาระ สร้างเรื่องราวให้เกิดประเด็นวุ่นวาย น่าเห็นใจคนทำงานจริงๆ แถมมีงอนว่า ต่อไปหากมี อะไร ขึ้นมาอีกอย่ามาเรียกก็แล้วกัน
ดูในหมายข่าวนิวทีวีมา แกพูดจัดหนักไปหลายเรื่องอยู่ ตัดทีละประเด็นให้ดูเลย สื่อนี่แหละที่หากินกับความเจ็บปวดทรมานในสังคมมานาน โดยเฉพาะการเขียนพาดหัวข่าว เรียบเรียงเนื้อข่าวและบทความที่ดูดราม่า เลวร้าย
เหนื่อยใจแทนนายกฯและคนที่ตั้งใจทำงานจริงในรัฐบาลชุดนี้เหมือนกันครับ บางทีก็นึกถึง กบเลือกนาย คราวที่แล้วนกกระสามาเป็นฝูง มีคนอาสามาไล่ไปได้ หากรอบนี้กบทั้งหลายไม่นิ่ง ขาดสติ ยอมให้สื่อและนักการเมืองปั่นหัวอีก ผมเชื่อว่าไม่มีใครออกมาไล่อีกแล้วครับ คงโดนไล่จับกินทีละตัวไป อ้อ... สื่อก็ไม่รอดนะครับ อาจโดนก่อนด้วยซ้ำ
เอาเข้าจริงพวกสื่อสันดานสัตว์ สุนัขขี้เรื้อนที่เรียกตัวเองว่าคอลัมนิสท์ มีเหลืออยู่อีกกี่คนที่ไม่เคยรับเงินมาเพื่อเขียนวิพากษ์วิจารณ์ เอาเข้าจริงคอลัมนิสท์พวกนี้ก็สุนัขขี้เรื้อนเช่นกันใช่หรือไม่ จำได้ว่าเคยมีม็อบที่มีส้วมเป็นร้อย มีคนมาชุมนุม 3 คน มีจำนวนสุนัขจรจัดมากกว่าจำนวนผู้ชุมนุม มิงก็ยังให้อ้ายควาย-อีควายนักข่าวไปทำข่าวการชุมนุม ให้นักข่าวนั่งเฝ้าทั้งวัน รอเวลาที่แกนนำจะออกมาแถลงข่าวให้สุนัขจรจัด 10 กว่าตัวแถวนั้นฟัง บอกตรงๆนะไอ้คอลัมนิสท์ขี้เรื้อน "พ่อง.. ตาย"
