เห็นหัวเรื่อง ก็อย่างหนึ่ง... อ่านเข้าไปในเนื้อหา ก็อย่างหนึ่ง... พอสรุป เอ๊า…ดันเหน็บเข้าให้กับ คสช.อีก… เป็นยังไง เชิญทัศนากันได้ครับ... ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- การปฏิวัติขี้! บ้านเกิดเมืองนอน สิริอัญญา ชื่อบทความวันนี้ ออกจะมีกลิ่นปฏิกูลสักหน่อยหนึ่ง และอาจจะไม่ไพเราะอีกหน่อยหนึ่ง แต่ใครอย่าได้จับเอาไปโยงใยกับการปฏิวัติในประเทศไทยของเรา เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับประเทศไทย แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศอินเดียและเป็นเรื่องฮือฮากันลั่นสนั่นโลก เหตุเกิดก็แต่อินเดียเลือกตั้งได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งเป็นคนบ้านนอกเชยๆ และไม่มีใครคิดว่า คนบ้านนอกเชยๆ อย่างนี้จะได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ ทว่าการจะตีคุณค่าของคน อย่าได้ถือเอาฐานะ ชนชั้น วรรณะ หรือการศึกษากันเลย เพราะคนที่มีการศึกษาดีเป็นดอกเตอร์ยังชั่วช้าสารเลวยิ่งกว่าใครในแผ่นดินก็มี คนที่เป็นลูกชาวนา ถ้าเป็นคนดีก็ยังเคยเป็นรัฐบุรุษที่ยิ่งใหญ่ให้ปรากฏมาแล้ว นายกรัฐมนตรีอินเดียท่านใหม่นี้เมื่อเข้ารับตำแหน่งท่านก็ได้ประกาศนโยบายเป็นวาระสำคัญแห่งชาติว่า จะสร้าง ส้วมที่ทันสมัยให้ทั่วถึงทั้งประเทศอินเดียภายใน 2 ปี บรรดาผู้ที่ไม่เข้าใจประเทศอินเดีย สภาพที่เป็นไปในอินเดียและสังคมอินเดีย ตลอดจนความรู้สึกนึกคิดของชาวต่างชาติที่เดินทางไปอินเดียก็อาจจะเข้าใจไปว่านโยบายแบบนี้เป็นนโยบายของคนบ้า หรือเป็นเรื่องที่บ้าที่สุดและไม่เข้าท่าที่สุดก็ได้ จึงเป็นที่มาของสื่อบางประเทศที่โง่งมงายไม่รู้สภาพเหล่านี้ แล้วเยาะเย้ยถากถางนายกรัฐมนตรีอินเดียว่าเป็นการประกาศนโยบายปฏิวัติขี้ ซึ่งถ้าหากจะเป็นขี้ก็สื่อมวลชนที่ไม่เข้าใจสภาพและความรู้ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงของอินเดียนั่นแหละที่เป็นขี้ จะต้องเข้าใจสภาพที่เป็นอยู่ในประเทศอินเดียสักหน่อยหนึ่งว่า อินเดียนั้นเป็นขุมอารยธรรมขุมใหญ่ของโลกมาแต่โบราณกาล เป็นประเทศที่มีศาสดาและลัทธิศาสนามากที่สุดในโลก เป็นดินแดนที่ผู้คนให้ความสนใจในเรื่องจิตวิญญาณมากที่สุดในโลก แม้ศาสดาเอกของโลกคือสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงอุบัติขึ้นในชมพูทวีปนี้ อินเดียมากไปด้วยความยึดมั่นถือมั่นในชนชั้น วรรณะ มีความเหลื่อมล้ำทางฐานะบุคคลที่กว้างมากดุจฟ้าและดิน ดังนั้นประเทศอินเดียที่มีประชากรถึง 1,200 ล้านคน แต่คนที่มีฐานะร่ำรวยจริงๆ เห็นจะมีไม่ถึง 1,000 คน นอกนั้นล้วนเป็นชนชั้นกลางและเกือบทั้งหมดก็เป็นคนลำบากยากจนอนาถา วัฒนธรรมอันหนึ่งที่ดำรงอยู่โดยทั่วไปในประเทศอินเดียก็คือ การขี้ข้างถนนหนทาง ที่ไม่ถือว่าเป็นความน่าละอายหรือน่ารังเกียจอะไรกันเลย ใครไปอินเดียก็จะพบว่า จะมีคนนั่งขี้ตามข้างถนนอยู่โดยทั่วไป เหตุที่ต้องขี้ข้างถนนก็คงเป็นการให้เกียรติวัวซึ่งถือว่าเป็นพาหนะของพระผู้เป็นเจ้า จึงยินยอมให้วัวสามารถขี้บนถนนได้ทุกหนแห่ง แต่คนนั้นต้องไปขี้ข้างถนน ครั้นออกไปตามชนบท ตามถนนหนทางในชนบทหรือหัวไร่ปลายนาทั้งหลายก็จะเห็นคนอินเดียนั่งขี้กันโดยทั่วไป ครั้นนั่งเรือล่องชมอารยธรรมอันเก่าแก่ของอินเดีย ก็จะเห็นว่าตลอดลำน้ำนั้นมีคนนั่งขี้กันโดยทั่วไป เห็นก้นดำมั่ง ขาวมั่ง ด่างมั่ง ตามสภาพของแต่ละคนไป ที่ร้ายกว่านั้นก็คือ ตามห้องแถวริมถนนที่มีระเบียงออกมาด้านนอก บางทีก็มีคนนั่งขี้อยู่บนระเบียงชั้นสอง ไม่คำนึงว่าจะมีคนเดินอยู่ข้างล่างแล้วจะเปรอะจะเปื้อนประการใด สภาพการนั่งขี้แบบนี้ คนนั่งขี้มีทั้งผู้หญิง ผู้ชาย มีทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ หรือคนแก่ แม้กระทั่งนักบวช และในการนั่งขี้นั้นก็นั่งหันหลังให้ถนนหรือแม่น้ำเพื่อไม่ให้ผู้คนเห็นหน้าเป็นใช้ได้ สภาพอย่างนี้ในอินเดียทั่วไปนั้นเขาไม่เห็นว่าเป็นเรื่องปฏิกูล เป็นเรื่องน่ารังเกียจ และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนอินเดียไม่มีส้วมในบ้านหรืออย่างไร ลองสอบถามเพื่อนชาวอินเดียดูเขาก็บอกว่าในเมืองนั้นทุกบ้านก็มีส้วม แต่ในชนบทโดยทั่วไปจะไม่มีส้วมอยู่ในบ้าน เพราะขี้กันตามถนนหนทางหรือตามทุ่งนา ก็ถามว่าทำไมคนในเมืองเมื่อมีส้วมในบ้านแล้ว จึงต้องไปขี้ข้างถนนให้เป็นที่อุจาดด้วยเล่า? ก็ได้รับคำตอบว่าเป็นวัฒนธรรม เป็นความคุ้นชิน และยังโอ่อีกว่าคนอินเดียยังดีกว่าคนอาหรับบางประเทศ แล้วก็บอกว่า คนอาหรับบางประเทศนั้นมีวัฒนธรรมที่จะไม่ขี้ซ้ำที่เดิม ต้องเปลี่ยนที่ขี้ร่ำไป และคนพวกนี้แหละที่มาก่อปัญหาให้กับโรงแรมในประเทศไทยของเรา เพราะเมื่อมาเข้าพักโรงแรมแล้วก็เที่ยวขี้ในส้วมบ้าง ขี้ในอ่างล้างหน้าบ้าง ขี้ใส่ตู้เสื้อผ้าบ้าง ขี้บนเตียงบ้าง ขี้บนโต๊ะเขียนหนังสือบ้าง ทำให้เกิดความลำบากและความสะอิดสะเอียนแก่เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดของโรงแรม แต่ก็ต้องปิดข่าวสงบปากสงบคำ ก้มหน้าทำความสะอาดไปตามประสา เพราะถ้าขืนเป็นข่าวก็เกรงว่าจะไม่มีใครกล้าเข้าพักในโรงแรมนั้นอีก ดังนั้นการปฏิวัติขี้ของนายกรัฐมนตรีอินเดียในครั้งนี้ จึงทำให้บรรดาผู้รู้สภาพของอินเดียมีความชื่นชมโสมนัสกันโดยทั่วไปและเชื่อว่าเมื่อเริ่มต้นการปฏิวัติที่เป็นเรื่องเป็นราวในเรื่องที่ทำให้อินเดียขายหน้าชาวโลกมากที่สุดได้แล้ว เรื่องอื่นๆ ก็สามารถแก้ไขได้โดยง่าย ไม่ยาก ไม่ลำบาก ดูอินเดียเขาปฏิวัติขี้แล้ว ก็ชักห่วงใยคณะ คสช. ว่าปฏิวัติทั้งทีจะสู้ปฏิวัติขี้ของอินเดียได้หรือไม่? http://www.naewna.com/politic/columnist/15504 ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เหอๆๆ…เรื่องขี้ขี้ ที่ไม่ใช่ขี้ขี้ ซ๊ะละมั๊ง... หมามันเคยกินขี้ ถ้าเผลอและ/หรือ เจอเอาขี้ใหม่เข้า มีหรือที่จะไม่ดมดอม...
วัฒนธรรมบางอย่างใช้กับโลกปัจจุบันไม่ได้ ไม่ใช่ล้าหลังนะ แต่เป็นเพราะเหตุผลเรื่องสุขภาพ และความปลอดภัย