อักขรวิธี วจีวิพากษ์ วากยสัมพันธ์ ฉัมทลักษณ์ คือตำราหลักภาษาไทยแต่งโดยพระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาณจนาชีวะ) ยังไงผมขอแนะนำให้นักศึกษาธรรมศาสตร์ใส่ใจความถูกต้องการเขียนภาษาไทยมากกว่านี้ จะเสรีภาพทุกตารางนิ้วหรือโง่ทุกรอยหยักสมอง ถ้ายังไม่แตกฉานแม้แต่ภาษาที่ใช้มาตั้งแต่เกิดก็ต้องขอความกรุณาอย่าเพิ่งรีบออกนอกโลกเลยครับ เอาเรื่องรากเหง้าของตัวเองให้กระจ่างก่อนเถอะ
เค้าเอาสมองคิด งานต้องจัดกลางคืน เลิกประมาณนี้ล่ะ สามสี่ทุ่ม แต่เป็นพวกเหลืองจัดเเสดงงานแสงสีเสียง ต้องเลิกงานบ่ายสอง ตูว่าแล้วคาบข่าวมาสุ่มสี่สุ่มแปด หน้าแหกไหมล่ะเมิงดราม่า
ที่อาจารย์ปริญญาชี้แจงมาผมรับได้ครับ คนไทยเราบางทีก็ดราม่าเกินไป คือถ้าอยากให้เรื่องของตัวมีน้ำหนักก็เลยกล่าวหาให้เว่อร์ไว้ก่อน นึกถึงลูกค้าที่เอาใบเสร็จที่ร้านกาแฟเรียกเก็บเงิน2,000บาทค่านั่งคุยสองชั่วโมงที่เป็นดราม่ากันทั้งเมือง ร้านออกมาชี้แจงว่าที่ร้านมีโต๊ะอยู่ไม่กี่โตีะแต่มีลูกค้ามาปักหลักเปิดคอมพิวเตอร์พูดคุยธุรกิจกันหลายชั่วโมง ทางร้านพยายามขอความเห็นใจและมีป้ายแจ้งว่าจะเก็บค่าพูดคุยธุรกิจแต่ก็ไม่เคยเก็บเงินจริง ส่วนลูกค้าที่โวยวายทางสื่อสังคมนั้นความจริงนั่งนานกว่าสี่ชั่วโมง ใจผมน่ะอยุ่ฝ่ายร้านกาแฟร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่ขัดใจอีกอย่างหนึ่งคือการยึดโต๊ะร้านกาแฟและฟาสฟู้ดเป็นโรงเรียนสอนพิเศษ ลูกค้าหลายคนไม่มีโต๊ะนั่งแต่คนที่ยึดโต๊ะไว้กลับนั่งเป็นทองไม่รู้ร้อนทั้งๆที่เครื่องดื่มแก้วเดียวที่สั่งไว้ละลายเป็นน้ำหมดไปนานแล้ว ผมไม่กังวลกับผู้สอนเพราะนิสัยเห็นแก่ตัวแบบนี้คงเป็นมาก่อนและจะเป็นต่อไป ที่ผมห่วงคือนักเรียน ถ้าเด็กเหล่านี้ทำใจได้ที่เห็นคนหลายคนไม่มีโต๊ะนั่งทานอาหารเครื่องดื่มแต่ตัวเองยึดโต๊ะไว้เป็นชั่วโมง เราจะได้ผู้ใหญ่แบบไหนตอนเด็กเหล่านี้โตขึ้น
สมัยผึ้งเรียน เขาก็จัดเช้าเย็นเลิก ขนาดว่านิสิตปีหนึ่งต้องพักหอในทุกคนนะนั่น แล้วในงานเขาก็มีสอนแต่เรื่องมีประโยชน์ อย่างเช่นเรื่องการเรียน มีเจ้าคุณอลงกตมาสอนเรื่องโรคเอดส์ มีหมอมาสอนเรื่องเพศสัมพันธ์ ไม่ใช่บังคับให้ดูวิดีโอล้างสมอง
มันบ้าตรงที่ คนที่อยู่รังสิตมหาลัยต้องเหมารถเมล์ขนคนมาดูที่ท่าพระจันทร์ งานเลิก4ทุ่มกว่าจะถึงที่พัก? แทนที่จะไปจัดที่ศูนย์รังสิต นี่ก็บ้าหนึ่งแล้ว(บ้าธรรมศาสตร์ไง คลั่งจัดจนต้องมาจัดที่ท่าพระจัน) แล้วแทนที่จะทยอยจัด ดันไปจัดรวมทั้งๆที่สถานที่ไม่พอ เลยต้องรอดูเป็นรอบๆ นี่ก็บ้าสอง บ้าสามคือ ให้นักศึกษาใส่เสื้อกันฝนดูงานกลางสายฝนนี่แหละ เอาสมองแบบไอ้เวรคิดชัดๆ อาจานมันพูดสวยหรูดูดี แต่คนซวยคือนักศึกษา
แล้วปีนี้ วีดีทัศน์ ล้างสมองของจริงๆ มีเรื่องการเมืองเต็มๆ https://www.facebook.com/suwijuk.techatutsakul ลองเข้าไปส่องดูครับ
การล้างสมองให้ต่อต้านเผด็จการ ผิดตรงไหนครับ ขึ้นชื่อว่าต่อต้านเผด็จการทำเพื่อประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแล้วละก็ ไม่จำเป็นต้องเลือกวิธีการครับ
การรับน้อง รับเพื่อน ปฐมนิเทศ ฯลฯ ที่รุ่นพี่นักศึกษาทำกันนี่ ลืมไปแล้วเหรอว่า การบังคับขืนใจให้รุ่นน้องทำหรือไม่ทำอะไร เป็นการริดรอนเสรีภาพ ??
มันอยู่ที่ตัวรุ่นพี่ครับ ว่าเข้าใจระบบจริงๆ และจะปลูกฝังอะไรให้น้อง ^^' ส่วนใหญ่ แม่มเอาความสุขใส่ตัวกันสนองความอยากของตนกันซะมากกว่า รับน้องก็เป็นดาบสองคม ถ้าคิดดีทำดีก็ได้ดี คิดชั่วทำชั่วผลผลิต (รุ่นน้องก็สืบสานต่อมาอีกนั่นแหล่ะครับ)
เลิกดึกนิดดึกหน่อยทำมาบ่น... เมิงไม่ไปดูล่ะเวลาเด็กมันทำกิจกรรมที่มหาลัย ทุกๆวันเลิกกันตอนกี่ทุ่ม... ทำงานกลับบ้านตอนตีหนึ่ง...แม่งยังเห่าหอนกันอยู่เต็มเลย แค่สี่ทุ่ม...บ่นดึก จัดที่ท่าพระจันทร์แล้วไง...งง ประวัติศาสตร์มหาลัยมันอยู่ที่นั่น จะให้ไปจัดที่รังสิต เออ..เน๊าะ คนจัดงานเค้าเหนื่อยแทบตาย กว่างานจะออกมาได้สมบูรณ์ ต้องเสียงบประมาณไปเท่าไหร่ เหตุผลมันมีเยอะแยะ... แม่งจะเอาแต่เสรีภาพ ทุกวันนี้มันยังเสรีไม่พอกันอีกเหรอ... (จากเพจน้อง ที่ทำงานจัดงานคนนึง) หึหึหึ
ยังไม่จบกระบวนความเลย ยังมีหลักสูตรการพนัน การเข้าบ่อน ที่ยังไม่ได้สอนให้ ถ้าได้รับรู้วิธีเข้าบ่อน แลกชิพ ถึงจะสามารถเป็นแกนนำ ในการต่อต้านเผด็จการเตรียมไว้ใช้ในรุ่นต่อไปได้ครับ
สรุปมีสองทางเลือกคือ 1 ลาแล้วต้องมาซ่อม 2ลาไม่ได้ เสรีภาพ รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา คนเรามันพร้อมจะย้อนแย้งได้ตลอดเวลาเลยนะ เสรีภาพคืออะไร คือการบังคับให้คนเข้ากิจกรรมโดยให้ทางเลือก ไป หรือไม่ไปก็ต้องไปซ่อม
ถ้าแบบคำร้องนี่เป็นเรื่องของนศ.รุ่นพี่จัดการกันเอง ก็น่าด่าในระดับนึง แต่ถ้าผู้พิจารณาอนุญาต/ไม่อนุญาตเป็นอ.ในตำแหน่งบริหารจริงนี่ ดูสติจะมีปัญหา ยิ่งถ้าเนื้อหาในงานมีแฝงการล้างสมอง ดูจะไร้สำนึกเอาเลยทีเดียว
ฝ่ายกิจกรรมเด๋วนี้สอนนิสิตใหม่ให้เป็นควายเหรอ หรือ ปวศ มหาลัยตัวเองไม่มีเลยต้องไปหาเรื่องกะปัจจุบัน ปฐมนิเทศพูดไปสิปรีดีทำอะไรให้ประเทศเองบ้างตอนนั้น ทำไมไม่พูดถึงพ่อปรีดีมั่งเลย