วิเคราะห์กันสักนิด ผมอ่านเหมือนการจะไม่เอาตัวนี้จากเพื่อไทยจะชัดมาก ผมเชื่อว่ากังวลการเสียอำนาจมาก เพราะดูคะแนนทั้งประเทศจริงๆที่เป็นปาร์ตี้ลิส สามารถพลิกแพ้ได้เสมอ
เวลาคนเรารู้สึกควบคุมอะไรไม่ได้เหมือนเดิมก็จะเกิดความกังวลหรือความกลัวตามมาเป็นธรรมดา ถ้าเกิดขึ้นจริงกติกามันจะเปลี่ยนเยอะ จนวิธีแบบเก่าๆแทบจะไม่มีความหมายไปเลย อย่างเรื่องหาหัวคะแนนให้ได้เท่านั้นเท่านี้เพื่อให้ได้ สส แล้วนำไปสู่การได้เป็นนายกฯก็จะทำไม่ได้แล้ว เรื่องนี้น่าสนใจครับ ผมจะรอดูว่าแนวคิดนี้จะจุดติดหรือไม่?
ไม่ว่าจะเลือกตั้งแบบไหน ร่างรัฐธรรมนูญดีเลิศอย่างไร นักการเมือง-ข้าราชการ-บริษัทเอกชนเลวๆ มันก็ยังพยายาม หาทางเข้ามาโกงได้อยู่ดี ปัญหาโลกแตกนี่ ผมว่าเกิดจากคนไทยเราเองนี่แหละครับ(รวมผมด้วย) ผมขอไม่เหมารวมคนไทยที่ดีจริงๆนะครับ พวกคุณเป็นคนไทยส่วนน้อยที่ผมขอยกเว้น
ผมว่าเค้าไม่ได้กลัว แต่เป็นโอกาสอันดีที่จะ ตี คสช. และยุให้ ฝ่ายผู้สนับสนุน คสช. แตกกัน พร้อมทั้งใส่ไฟ ว่าปฎิรูปไม่ดี ออกนอกลู่นอกทาง ให้ประชาชนเกิดตวามไม่มั่นใจต่อการปฎิรูป 3 เด้งเลย ฝ่ายเสื้อแดงมันหัวเราะเยาะนะ ปฎิรูปทั้งที ดันทำให้ประชาธิปไตยเข้าทางมันมากขึ้น มั่นใจว่ายังไงก็ชนะว่างั้น แถมถ้าพ่อมันได้กลับมา สลิ่มจะลำบากกว่าเดิม แต่ถึงมั่นใจขนาดไหน เอาเข้าจริงๆ เพื่อไทยก็ไม่ได้ชอบเท่าไหร่ เพราะเสียงลดเยอะพอดู และฝ่ายค้านมีโอกาสมากขึ้น ที่มีปัญหาจริงๆ ก็การเพิ่มอำนาจองค์กรณ์อิสระและการให้ประชาชนฟ้องโดยตรงมากกว่า เพราะโกงยากขึ้น (แต่คงไม่เกินความสามารถ ) แต่ สปช. คสช. พลาดรึเปล่าวที่เสนอทางนี้ออกมา..................... ผมว่าไม่ อิอิ
สมาชิกพรรค ปชป. คนหนึ่ง (นิพิฎฐ์ มั้ง) แกให้สัมภาษณ์ออก นสพ.คมชัดลึกประมาณว่า ถ้าเสื้อแดงเป็นผู้เสนอแนวคิดเลือกตั้งนายกฯ โดยตรง กระแสจะรุนแรงกว่านี้มาก
เพื่อไทย/ปชป. กลัวคนนออกที่มีคุณสมบัติดีๆเข้ามาเป็นนายก. แล้วตัวเองจะแห้ว สมมุติถ้าวันนี้ ประยุทธ อภิสิทธิ์ ยิ่งลักษณ์ ลงแข่งพร้อมกัน ผมว่าประยุทธ์จะได้เป็นนายก
พวกนักเลือกตั้งไม่เคยกลัวการเลือกตั้งครับ ... แต่พวกมันกลัวการแยกอำนาจระหว่างฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ... “หลักแบ่งแยกอำนาจ กำหนดให้ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติแยกจากกันโดยเด็ดขาด ฝ่ายบริหารมาจากการเลือกตั้งโดยตรง ทำหน้าที่บริหารอย่างเดียว ไม่ทำหน้าที่นิติบัญญัติ ส่วนฝ่ายนิติบัญญัติทำหน้าที่ออกกฎหมายและตรวจสอบการใช้อำนาจของฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติทำหน้าที่เสนอกฎหมายได้ทุกแบบ ระบบที่มาแทนการอภิปรายไม่ไว้วางใจให้แทนด้วยฝ่ายนิติบัญญัติที่ทำหน้าที่ตรวจสอบผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองร้องต่อศาลคดีการเมืองได้โดยตรง หากพบว่ามีความผิดให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งได้เลย"
การเลือกนายกโดยตรง มันเป็นความเสี่ยงของพรรคการเมืองประเภทที่มีเจ้าของพรรค เพราะเจ้าของพรรคจะต้องเป็นผู้ลงสมัครแข่งขันเอง แล้วถ้าไม่ได้รับเลือก จะต้องหลุดไปจากวงจร อำนาจทางการเมือง มันจะส่งผลไปถึงพรรคของตนเองด้วย ที่จะต้องอยู่ในสภาพของ ผีหัวขาด เพราะพรรคการเมืองประเภทนี้ บริหารพรรคโดยคน ๆ เดียว คือ เจ้าของพรรค และเจ้าของพรรค สามารถบริหารพรรคได้ โดยอาศัย อำนาจทางการเมือง ในการชี้ให้คนในพรรคหันซ้าย หันขวา ตามที่ตนเองต้องการ ถ้าไม่มีอำนาจทางการเมืองอยู่ การจะไปชี้ให้คนในพรรคทำตามที่ตนเองต้องการมันก็ยากขึ้น แต่ถ้าเมื่อใดที่เขามั่นใจว่า ลงแข่งขันแล้วชนะ เขาต้องเอาแน่ เพราะการได้รับเลือกจากประชาชนโดยตรง มันเป็นการเสริมบารมีของเขา สามารถนำไปกล่าวอ้างเป็นอำนาจอันชอบธรรมที่ได้รับจากประชาชนโดยตรง เขาคงอยากอยู่ครับ แต่ไม่กล้าเสี่ยง
ผมว่าเพื่อไทยไม่ได้กลัวไม่ได้เป็นรัฐบาล ตราบใดที่ระบบ สส เขตยังเหมือนเดิม แต่เขากลัวตรงที่ต้อง "ดีเบท" มากกว่าครับ