'อภิสิทธิ์' พร้อมวางมือ หากแพ้เลือกตั้งครั้งหน้า by Passavee Thitiphonwattanakul 17 พฤษภาคม 2558 เวลา 16:39 น. 18 KSHARES Facebook Twitter Google plus หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ หากมีการเลือกตั้งครั้งหน้าก็พร้อมลงสมัคร แต่ถ้าทำไม่สำเร็จก็ต้องยุติหน้าที่ทางการเมืองลง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศผ่านเวทีในการบรรยายพิเศษแก่นักศึกษาปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยรังสิต หากมีการเลือกตั้งครั้งหน้าก็พร้อมลงสมัครอย่างแน่นอน แต่ถ้าทำไม่สำเร็จก็ต้องยุติหน้าที่ทางการเมืองลง เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นผู้นำฝ่ายค้านมาแล้วถึง 3 ครั้ง จะเป็นครั้งที่ 4 อีกไม่ได้ ซึ่งตั้งแต่เข้ามาทำงานการเมืองมากว่า 23 ปี ไม่มีช่วงไหนที่คนยกย่องสรรเสริญนักการเมือง ทำให้ภาพรวมยังไม่พอใจ แต่สิ่งที่เคยทำไปก็ไม่ได้สูญเปล่า http://news.voicetv.co.th/thailand/206451.html อีกสองวันถัดมา v v v v อภิสิทธิ์ ยัน หากมีเลือกตั้งแล้วแพ้ แค่ลาออก หน.พรรค -ไม่ได้จะวางมือการเมือง วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 09:00:00 น. เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 19 พ.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีไปบรรยายที่ ม.รังสิต ว่า จะวางมือทางการเมืองหากแพ้เลือกตั้งในครั้งหน้า ว่า เป็นเรื่องปกติของความรับผิดชอบของผู้นำองค์กร ตนเป็นหัวหน้าพรรคมา 10 ปีแล้ว หากลงเลือกตั้งครั้งนี้ ก็ครั้งที่ 3 หากพรรคไม่ประสบความสำเร็จ ตนก็ต้องแสดงความรับผิดชอบเป็นธรรมดาของระบบการเมือง ก็ต้องเปิดโอกาสให้คนอื่นบ้างเพื่อให้พรรคมีการเปลี่ยนแปลง ส่วนเรื่องการปฏิรูป ต้องโน้มน้าวให้ประชาชนมั่นในการทำงานของพรรค ทั้งนี้ ปฏิเสธว่า เป็นการเดิมพันครั้งสุดท้ายในชีวิตทางการเมือง เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงจะออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค และเลิกการเป็น ส.ส. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากได้รับเลือกตั้งก็อาจจะเข้าไปทำหน้าที่เป็น ส.ส. และไม่ใช่เรื่องการเดิมพัน แต่เป็นความรับผิดชอบต่อพรรคประชาธิปัตย์ “เราตั้งใจว่า พรรคเราจะเป็นทางเลือกของประชาชน ไปสู่การเปลี่ยนแปลง การปฏิรูปประเทศ เราต้องโน้มน้าวให้ประชาชนมั่นใจ และทำให้เราเดินหน้า ซึ่งระหว่างนี้เราเองก็ต้องปฏิรูปภายในพรรค เพื่อให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าเราจะนำพาประเทศไปสู่การปฏิรูปได้ ถ้าตนทำไม่สำเร็จตนก็ต้องรับผิดชอบ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว ขอบคุณเนื้อหาข่าวจากมติชน เหอะๆ ๆ ถามจริงๆนะทำไมถึงได้พากัน กระล่อนปลิ้นปล้อนตอแหลไร้ยางอายกันจัง
ต้องบอกว่า สื่อถามไม่เคลียร์เอง สื่อมันได้มาถามอีกวันให้เคลียร์ไง ควายหน้าตาดี ใครจะกระล่อนปลิ้นปล้อนเท่าไอ้แม้วไม่มีอีกแล้ว ด่าตัวเอง เพื่อสร้างภาพก็ได้ " ใครไปตั้งบริษัทที่บริติช เวอร์จิ้น เป็นพวกขายชาติ พอโดนตรวจสอบเรื่องซุกหุ้น บริษัทบลูไดมอนด์ของไอ้แม้ว ตั้งอยู่ที่บริติช เวอร์จิ้น" ไอ้แม้วนี่ ตอแหลขั้นเทพมากกว่า
คุณอภิสิทธิ์ เขาก็พูดเคลียร์ไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 18 ที่ผ่านมา ในรายการต้องถาม ของอาจารย์เจิม ว่าไม่ใช่ออกจากการเมือง แต่จะไม่ขอเป็นหัวหน้าพรรคอีก ถ้าแพ้
มาร์คกระล่อนหรือเปล่าไม่รู้นะ ....... แต่คุ้น ๆ ว่า มีเรื้อนจัญไรตัวนึงบอกจะเลิกเล่นบอร์ดนี้นี่นา หรือว่า จำผิดหว๋า
แปลยังไงกัน... เขาจะไม่เป็น "ผู้นำฝ่ายค้าน" อีกเป็นครั้งที่ 4 ส่วนเลิกเล่นการเมืองตามที่คิดคืออายุ 50 ปี http://www.dailynews.co.th/politics/321768 "ผมมีเวลาเหลือทำงานทางการเมืองอีกไม่มากนัก ไม่ทราบว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ถ้ามีการเลือกตั้งครั้งหน้า ผมพร้อมที่จะลงสมัครอย่างแน่นอน แต่ถ้าทำไม่สำเร็จก็จบ ผมเป็นผู้นำฝ่ายค้านมา 3 ครั้ง มากพอแล้ว เป็นครั้งที่ 4 อีกคงไม่ได้ แต่หากได้ทำงานอีกก็จะทำอย่างเต็มที่ เดิมเคยคิดไว้ว่าถ้าไม่มีอะไรสะดุดเมื่ออายุ 50 ปี ก็จะเลิกเล่นการเมือง เสร็จจากงานการเมืองผมก็จะไปทำอย่างอื่นแล้ว จากการทำงานการเมืองมา 23 ปี ในภาพรวมยังไม่พอใจ แต่สิ่งที่เคยทำไปก็ไม่ได้สูญเปล่า แม้ขณะนี้บ้านเมืองไม่ได้เป็นไปตามที่ต้องการ แต่เราก็ต้องต่อสู้ไป"นายอภิสิทธิ์ กล่าว“
เจ้าพระยาสี่ขา นี้เขาเรียก "แฝดนรก" ใช่ไหมครับ ก่อนจะชวนกันด่าใคร กลับไปช่วยกันติววิชาภาษาไทยจะดีกว่า
อ่านละเอียดอีกที จากที่คุณ Hiddenman เอามาลง คุณอภิสิทธิ์ ไม่ได้บอกเลยว่าจะเลิกเล่นการเมือง แต่คงเป็นหัวหน้าพรรคไม่ได้อีก ในครั้งที่ 4
ก็มันแหลไงครับ จะหาเสียงทางอ้อม มันก็บอกอยู่ถ้าไม่สะดุด มันจะเลิกที่ 50 แต่ถ้ามันไม่ชนะ มันจะไม่เป็นหัวหน้าพรรค แล้วมันบอกว่าถ้าได้ทำงานอีก ก็จะทำอย่างเต็มที่ คือมันพูดให้คนสับสนว่ามันจะเลิกเล่นการเมือง ถ้าแพ้เลือกตั้งอีก มันกะล่อน จะตาย มีแต่พวกดูดส้วม นั่นแหละชอบนัก
ปัญญาอ่อนครับ หัดแยกประโยคให้เป็น และตีความหมายให้แตก 1. เขาจะลงสมัครเลือกตั้ง 2. ถ้าแพ้ก็จะเลิก 3. ถ้าชนะก็จะทำงานต่อจนอายุ 50 ปี มันยากตรงไหน
ปรากฏว่าหัวข่าวที่ 2 มีอยู่เจ้าเดียวที่ลงข่าวนี้ คือ มติชิน หาเจ้าอื่นยังไงก็ไม่มี แล้วตูจะเชื่อดีไหม
ชัดเจน กรูบอกให้จบ พวกมะอึงรับปาก แต่ลับหลัง พวกมะอึงไม่จบ "วันรุ่งขึ้นที่พวกเรามาพบกันมันถึงเกิดความรู้สึกว่า ไม่ได้ให้เกียรติหรือคำว่า ส.ว. ถูกหักหลัง มันถึงเกิดขึ้น" นฤมล ด้านอภิสิทธิ์ โต้กลับทันทีว่า "ไม่มีครับ ผมพูดชัดเจน คุยกันช่วงบ่ายภายในกี่โมงๆ การปะทะต้องหยุด ถ้าไม่หยุดนี่ผมไม่สามารถไปคอยบอกกับผู้บฏิบัติว่าคุณต้องไม่ทำอะไรทั้งสิ้นได้ เพราะฉะนั้นคุยกับท่านประธานเรียบร้อย พอเลยเวลาปั๊บก็บอกว่าจบ จบคือจบเท่านั้นเองครับ" "ก็ได้หวังว่าจะมีการยืดหยุ่นเพื่อให้โอกาสในการสูญเสียมันน้อย" นฤมล กล่าว "ผมเห็นใจครับผมเห็นใจ ย้ำอีกครั้งถ้าในวันที่ 19(พ.ค.53)ถ้าไม่มีการเข้าไปในสวนลุม คิดว่าความสูญเสียจะน้อยหรือมากกว่านี้ ผมยืนยันได้เลยว่ามากกว่านี้เยอะเลยครับ เพราะเงื่อนไขของการสูญเสียตอนนั้นอยู่ที่การไม่จบของการที่มีคนมาปะทะกับเจ้าหน้าที่ซึ่งตั้ง อยู่ 4 ด้านอะครับ แต่ว่าผมก็เห็นใจเพราะท่านก็เข้าไปเจรจา ท่านก็อาจจะไม่ทราบว่าเงื่อนเวลาอะไรต่างๆเป็นอย่างไร แล้วก็ต้องขอเรียนว่าบังเอินพวกผมนี่ เจรจาแบบนี้มาเยอแล้วอะครับ ที่บอกว่าเวลาอย่างนี้แล้วมันก็ไม่จบไม่จบ" อภิสิทธิ์ กล่าว http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1432046259
เผื่อว่าไม่อ่าน จะมัวแต่โง่อ่านว้ายทีวีจอมบิดเบือน 'มาร์ค'ฉะระบอบ 'ทักษิณ'ต้นเหตุขัดแย้ง | เดลินิวส์ „'มาร์ค'ฉะระบอบ 'ทักษิณ'ต้นเหตุขัดแย้ง "มาร์ค"ซัดระบอบ "ทักษิณ"เข้ามา ทำประเทศขัดแย้ง เหตุต้องการเอาชนะกฎหมาย แนะ คสช.เร่งเขียนกติกาประเทศที่เป็น ปชต. บอกพร้อมลงเลือกตั้งครั้งหน้า ลั่นไม่สำเร็จเตรียมวางมือการเมือง วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม 2558 เวลา 12:10 น. เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่มหาวิทยาลัยรังสิต นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บรรยายพิเศษในหัวข้อ “การสร้างแรงบันดาลใจในการประกอบอาชีพการเป็นนักการเมือง” ให้แก่นักศึกษาหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาผู้นำทางสังคม ธุรกิจ และการเมือง ว่า หลายคนตั้งคำถามว่าทำไมขณะนี้ตนถึงยังเป็นนักการเมือง ในสภาวะที่สังคมและผู้มีอำนาจแสดงความรังเกียจนักการเมือง และนักการเมืองถูกมองในทางลบ ซึ่งตั้งแต่เข้ามาทำงานการเมืองกว่า 23 ปี ไม่มีช่วงไหนที่คนยกย่องสรรเสริญนักการเมือง ที่ผ่านนักการเมืองตกเป็นจำเลยของสังคมมาโดยตลอด ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่ได้แตกต่างกับในต่างประเทศ ที่คนมีความศรัทธาต่อนักการเมือง หรือองค์กรทางการเมืองลดลงอย่างต่อเนื่องในรอบหลาย 10 ปี ตนมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะการเมืองเป็นเรื่องการจัดสรรอำนาจและผลประโยชน์ โดยเฉพาะนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ที่ต้องพร้อมรับการตรวจสอบและยอมรับการเปิดโปงในสิ่งที่ทำไป นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ 14 ตุลา เป็นจุดที่ทำให้ตนเปลี่ยนมุมมองอยากเห็นประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย โดยอาศัยกลไกของประชาชนและประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม ทั้งนี้สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือการเมืองในช่วง 10 ปีหลัง ที่ระบอบทักษิณเข้ามาทำให้การเมืองเปลี่ยนแปลง ซึ่งความขัดแย้งในประเทศไทยจะไม่จบตราบที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังต้องการเอาชนะกฎหมายไทย ฉะนั้นจึงต้องถามว่าประชาชนเลือกอย่างไร มี 2 ตัวเลือกคือ 1.ใจแข็งอย่ายอม พ.ต.ท.ทักษิณ รอให้พ.ต.ท.ทักษิณ ตายไปเอง หรือ 2. ยอม พ.ต.ท.ทักษิณ ชนะระบบยุติธรรม ซึ่งตนเลือกข้อแรกอยู่แล้ว เพราะเชื่อว่าข้อ 2 เป็นไปไม่ได้ "ผมมีเวลาเหลือทำงานทางการเมืองอีกไม่มากนัก ไม่ทราบว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ถ้ามีการเลือกตั้งครั้งหน้า ผมพร้อมที่จะลงสมัครอย่างแน่นอน แต่ถ้าทำไม่สำเร็จก็จบ ผมเป็นผู้นำฝ่ายค้านมา 3 ครั้ง มากพอแล้ว เป็นครั้งที่ 4 อีกคงไม่ได้ แต่หากได้ทำงานอีกก็จะทำอย่างเต็มที่ เดิมเคยคิดไว้ว่าถ้าไม่มีอะไรสะดุดเมื่ออายุ 50 ปี ก็จะเลิกเล่นการเมือง เสร็จจากงานการเมืองผมก็จะไปทำอย่างอื่นแล้ว จากการทำงานการเมืองมา 23 ปี ในภาพรวมยังไม่พอใจ แต่สิ่งที่เคยทำไปก็ไม่ได้สูญเปล่า แม้ขณะนี้บ้านเมืองไม่ได้เป็นไปตามที่ต้องการ แต่เราก็ต้องต่อสู้ไป"นายอภิสิทธิ์ กล่าว และว่าวันนี้เมื่อเกิดคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ขึ้นมา แม้ว่าจะอยากหรือไม่อยากให้เกิด แต่สิ่งที่หวังคือต้องทำให้กติกา และบ้านเมืองกลับเข้าสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืนให้ได้ ซึ่งใน 10 ปี ข้างหน้าคงไม่มี คสช. แน่นอน สิ่งที่ตนอยากเห็นคือ การจัดการระบบการเมืองให้เข้ารูปเข้ารอยให้เร็วที่สุด เข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตย เพราะหากกลไกการเมืองล้มเหลว การปฏิรูปก็เดินไปไม่ได้ ฉะนั้นใน 1-2 ปี ควรทำระบบให้ดีและทำสังคมให้เข้มแข็ง อยากเห็นคนในสังคมตื่นตัวมากขึ้น.“ อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/politics/321768
ให้พวกแมลงวันแดงตอมขี้อ่านหน่อย ตกภาษาไทยเหรอจ๊ะ 'มาร์ค'ฉะระบอบ 'ทักษิณ'ต้นเหตุขัดแย้ง | เดลินิวส์ „'มาร์ค'ฉะระบอบ 'ทักษิณ'ต้นเหตุขัดแย้ง "มาร์ค"ซัดระบอบ "ทักษิณ"เข้ามา ทำประเทศขัดแย้ง เหตุต้องการเอาชนะกฎหมาย แนะ คสช.เร่งเขียนกติกาประเทศที่เป็น ปชต. บอกพร้อมลงเลือกตั้งครั้งหน้า ลั่นไม่สำเร็จเตรียมวางมือการเมือง วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม 2558 เวลา 12:10 น. เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่มหาวิทยาลัยรังสิต นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บรรยายพิเศษในหัวข้อ “การสร้างแรงบันดาลใจในการประกอบอาชีพการเป็นนักการเมือง” ให้แก่นักศึกษาหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาผู้นำทางสังคม ธุรกิจ และการเมือง ว่า หลายคนตั้งคำถามว่าทำไมขณะนี้ตนถึงยังเป็นนักการเมือง ในสภาวะที่สังคมและผู้มีอำนาจแสดงความรังเกียจนักการเมือง และนักการเมืองถูกมองในทางลบ ซึ่งตั้งแต่เข้ามาทำงานการเมืองกว่า 23 ปี ไม่มีช่วงไหนที่คนยกย่องสรรเสริญนักการเมือง ที่ผ่านนักการเมืองตกเป็นจำเลยของสังคมมาโดยตลอด ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่ได้แตกต่างกับในต่างประเทศ ที่คนมีความศรัทธาต่อนักการเมือง หรือองค์กรทางการเมืองลดลงอย่างต่อเนื่องในรอบหลาย 10 ปี ตนมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะการเมืองเป็นเรื่องการจัดสรรอำนาจและผลประโยชน์ โดยเฉพาะนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ที่ต้องพร้อมรับการตรวจสอบและยอมรับการเปิดโปงในสิ่งที่ทำไป นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ 14 ตุลา เป็นจุดที่ทำให้ตนเปลี่ยนมุมมองอยากเห็นประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย โดยอาศัยกลไกของประชาชนและประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม ทั้งนี้สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือการเมืองในช่วง 10 ปีหลัง ที่ระบอบทักษิณเข้ามาทำให้การเมืองเปลี่ยนแปลง ซึ่งความขัดแย้งในประเทศไทยจะไม่จบตราบที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังต้องการเอาชนะกฎหมายไทย ฉะนั้นจึงต้องถามว่าประชาชนเลือกอย่างไร มี 2 ตัวเลือกคือ 1.ใจแข็งอย่ายอม พ.ต.ท.ทักษิณ รอให้พ.ต.ท.ทักษิณ ตายไปเอง หรือ 2. ยอม พ.ต.ท.ทักษิณ ชนะระบบยุติธรรม ซึ่งตนเลือกข้อแรกอยู่แล้ว เพราะเชื่อว่าข้อ 2 เป็นไปไม่ได้ "ผมมีเวลาเหลือทำงานทางการเมืองอีกไม่มากนัก ไม่ทราบว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ถ้ามีการเลือกตั้งครั้งหน้า ผมพร้อมที่จะลงสมัครอย่างแน่นอน แต่ถ้าทำไม่สำเร็จก็จบ ผมเป็นผู้นำฝ่ายค้านมา 3 ครั้ง มากพอแล้ว เป็นครั้งที่ 4 อีกคงไม่ได้ แต่หากได้ทำงานอีกก็จะทำอย่างเต็มที่ เดิมเคยคิดไว้ว่าถ้าไม่มีอะไรสะดุดเมื่ออายุ 50 ปี ก็จะเลิกเล่นการเมือง เสร็จจากงานการเมืองผมก็จะไปทำอย่างอื่นแล้ว จากการทำงานการเมืองมา 23 ปี ในภาพรวมยังไม่พอใจ แต่สิ่งที่เคยทำไปก็ไม่ได้สูญเปล่า แม้ขณะนี้บ้านเมืองไม่ได้เป็นไปตามที่ต้องการ แต่เราก็ต้องต่อสู้ไป"นายอภิสิทธิ์ กล่าว และว่าวันนี้เมื่อเกิดคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ขึ้นมา แม้ว่าจะอยากหรือไม่อยากให้เกิด แต่สิ่งที่หวังคือต้องทำให้กติกา และบ้านเมืองกลับเข้าสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืนให้ได้ ซึ่งใน 10 ปี ข้างหน้าคงไม่มี คสช. แน่นอน สิ่งที่ตนอยากเห็นคือ การจัดการระบบการเมืองให้เข้ารูปเข้ารอยให้เร็วที่สุด เข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตย เพราะหากกลไกการเมืองล้มเหลว การปฏิรูปก็เดินไปไม่ได้ ฉะนั้นใน 1-2 ปี ควรทำระบบให้ดีและทำสังคมให้เข้มแข็ง อยากเห็นคนในสังคมตื่นตัวมากขึ้น.“ อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/politics/321768
ตกลงกี่ศพกันแน่ ตอนแรกบอก 89 ไหงจำนวนมันเพิ่มเป็น 99 ได้หล่ะ ตอนนี้บอก 100 นับศพทหารรวมไปด้วยทำไม กลัวจำนวนไม่เยอะเหรอ แล้วหาศพปี 52 เจอหรือยัง วางถุงกาวลงก่อนนะ
ผมก็อยากให้ท่านเล่นการเมืองไปนานๆ บ้านเมืองจะได้มีทางเลือก การไม่เป็นหัวหน้าพรรค ก็เป็น สปิริตที่ นักการเมืองควรมี คนเก่งๆในพรรคมีอีกเยอะ หัวหน้าพรรคหาไม่ยาก ท่านหม่อม ท่านไทกร ท่านศิริโชค หรือ น้องตั้น น้องติ่ง ก็ยังไหว กลัวอย่างเดียว พูดซะอย่างดี เด๋วเพื่อนๆ ลงคะแนนให้ ก็ กลับมาเหมือนเดิม ด้วยฟามจำใจ ...
เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นผู้นำฝ่ายค้านมาแล้วถึง 3 ครั้ง จะเป็นครั้งที่ 4 อีกไม่ได้ ซึ่งตั้งแต่เข้ามาทำงานการเมืองมากว่า 23 ปี ไม่มีช่วงไหนที่คนยกย่องสรรเสริญนักการเมือง ทำให้ภาพรวมยังไม่พอใจ แต่สิ่งที่เคยทำไปก็ไม่ได้สูญเปล่า ก็อ่านหนังสือแล้วไม่มีสติปัญญาพอจะคิดได้อย่างนี้เอง ถึงไม่เคยได้พัฒนาสติปัญญาจริง ๆ สงสัยคงอ่านแต่สำนักข่าวหลอกควายว้อยทีวี ตรงที่ขีดเส้นใต้ให้ดู มันเอามาจากไหนกัน http://www.thairath.co.th/content/499366 ข่าวเต็มไอ้ว้อยหลอกควายมันคงไม่เอามาลงให้หรอกมั๊ง กลัวควายมีสติปัญญาเดี๋ยววันหลังหลอกยาก 555
พวกควายแดงนี่ก็ตลกดีนะครับ ฟังไม่ได้ศัพท์ จับมากระเดียดเอง ดันให้มาร์ครับผิดชอบในสิ่งที่พูด คือต้องเลิกเล่นการเมือง อย่างที่พวกมันอ่านภาษาไทยไม่แตกเอง
เบาๆ มือหน่อยนะท่าน ควายแดงมีเหลืออยู่แค่สองตัว เอ๊ะ หรือว่ามีเหลือจริงๆแค่ตัวเดียวในบอร์ดนี้ ระวังนะ ควายแดงจะสูญพันธ์ เลี้ยงเอาไว้ดูสักตัวนะ ขอร้อง
อุ้ย พวกนี้มันหน้าด้านครับ บางตัวบอกจะไปแล้วมันก็กลับเข้ามาแสดงความเป็นตุ้ดให้เห็นแบบนายเวรนี่แหละครับ
จับใจความสำคัญ และตีความหมาย มันไม่ยากหรอกคับ แต่พวกสุดติ่งกระดิ่งสาวกไข่มาร์ค มัน กระล่อนปลิ้นปล้อนตอแหลลงตับเลียนแบบ มาร์ค แถแทน มาร์ค เท่านั้นเอง อีกอย่างคนพวกนี้ มันพากันโง่ดักดาน เรียกว่า โง่ไม่ลืมหูลืมตา ก็ว่าได้
ถ้าคุณคิดยังงั้น ผมว่าคุณก็คงเป็นพวกสุดติ่งกระดิ่งสาวกไข่มาร์คเหมือนกันละครับ เพราะคุณก็โกหก สร้างภาพเป็นประจำอยู่แล้ว
ทำให้ได้ก่อน แล้วค่อยบอกนะ จะด่าใครอย่าเลียนแบบนะ ใช้สมองที่มีอยู่น้อยนิดคิดหน่อย เชื่อแล้ว ควายแดง อ่านหนังสือไม่เกินสามบรรทัด