การเลือกตั้ง 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ในการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 นายอภิสิทธิ์ ได้ประกาศเสนอตัวเป็น นายกรัฐมนตรี คนใหม่ด้วยวัย 43 ปีที่ผ่านชีวิตทางการเมืองมาแล้ว 15 ปี นำพรรคประชาธิปัตย์แป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยชูนโยบาย "วาระประชาชน" ที่ว่า "ประชาชนต้องมาก่อน" ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มนโยบาย 4 หัวข้อใหญ่ คือ 1.) การพัฒนาคน[9] 2.) กอบกู้เศรษฐกิจ[10] 3.) ใต้สันติ [11] และ 4.) ฟื้นฟูประชาธิปไตย[12] ต่อมาในวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 นายอภิสิทธิ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ประกาศ "แผนปฏิบัติการเร่งด่วน 99 วันทำได้จริง" [13] ณ ท่าพระจันทร์ ที่พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าสามารถทำได้จริง ด้วยงบประมาณแผ่นดินปกติและไม่ต้องกู้เงินเพิ่มเติมแต่อย่างใด คือ "นักเรียนทุกคนต้องได้เรียนฟรี" อุปกรณ์การเรียน ตำราเรียน เครื่องแบบฟรี โรงเรียนต้องไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายแอบแฝง เริ่มทันที พฤษภาคม 2551 จัดตั้ง "กองทุนเศรษฐกิจพอเพียง" เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชนบท มีเงินทุนประเดิมตำบลละ 1-2 ล้านบาท จัดตั้ง "องค์กรแก้ปัญหาในสามจังหวัดภาคใต้" โดยมีกฎหมายรองรับ ที่จะทำให้การผลักดันวาระประชาชนว่าด้วย "ใต้สันติ" เกิดขึ้นได้จริง "ลดภาระค่าไฟฟ้า" เพิ่มสิทธิการใช้ไฟฟ้าฟรีจาก 5 หน่วยแรก เป็น 15 หน่วยแรก สำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือนทั่วประเทศ "ลดภาระค่าน้ำมัน" ทำให้ราคาน้ำมันลดลง โดยยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน จากน้ำมันดีเซลทุกประเภทและน้ำมันแก๊สโซฮอลล์
ผลงานหนังสือ อภิสิทธิ์มีงานหนังสือทั้งที่เขียนเองและให้สัมภาษณ์ เพื่อแนะนำตัวเองและนำเสนอแนวคิดต่อสาธารณะ เช่น ๒ ปี กับรัฐมนตรี...อภิสิทธิ์ (พ.ศ. 2543) คือความคิด คือชีวิต คือ...อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (พ.ศ. 2547) มาร์ค เขาชื่อ...อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (พ.ศ. 2548 , ISBN/ISSN : 9789749335819) การเมืองไทยหลังรัฐประหาร (พ.ศ. 2549) เขียนรัฐธรรมนูญอย่างไร ไม่ถูกฉีก (พ.ศ. 2550) ร้อยฝัน วันฟ้าใหม่ (พ.ศ. 2550) ใครว่าผม " อภิสิทธิ์ " ?... (พ.ศ. 2550)
เกียรติยศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. 2535 : ตริตาภรณ์มงกุฏไทย (ต.ม.) พ.ศ. 2536 : ทวิติยาภรณ์ช้างเผือก (ท.ช.) พ.ศ. 2538 : ประถมาภรณ์มงกุฏไทย (ป.ม.) พ.ศ. 2540 : ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.) พ.ศ. 2541 : มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.) พ.ศ. 2542 : มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.) การได้รับการจัดอันดับในระดับนานาชาติ พ.ศ. 2535 : 1 ใน 100 ผู้นำสำหรับโลกวันพรุ่งนี้, โดย World Economic Forum (องค์กรที่ทำงานเกี่ยวกับเศรษฐกิจและการเมืองของโลก) พ.ศ. 2540 : 1 ใน 6 นักการเมืองที่เป็นความหวังของเอเซีย, โดย นิตยสารไทม์ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2540, “เสียงใหม่ๆ เพื่อเอเซียใหม่” พ.ศ. 2542 : 1 ใน 20 ผู้นำสำหรับสหัสวรรษ ด้านการเมือง, โดย นิตยสารเอเซียวีค 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542
ชีวิตครอบครัว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สมรสกับ ดร.พิมพ์เพ็ญ เวชชาชีวะ อาจารย์ประจำ ภาควิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (บุตรีของ ศาสตราจารย์ (พิเศษ) พงศ์เพ็ญ ศกุนตาภัย นักวิชาการด้านการเมืองการปกครอง และ ประพาพิมพ์ ศกุนตาภัย (สุวรรณศร) อดีตผู้ช่วยผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย) มีบุตรธิดาด้วยกัน 2 คนคือ น.ส.ปราง เวชชาชีวะ (มะปราง) และ ด.ช.ปัณณสิทธิ์ เวชชาชีวะ (ปัณ) อภิสิทธิ์เติบโตมาในครอบครัวแพทย์ และเคยคิดอยากเป็นหมอเหมือนครอบครัวมาก่อน กระทั่งได้เห็นการชุมนุม ของประชาชนเรือนแสน ในเหตุการณ์ 14 ตุลา และเห็นการทำงานอภิปรายใน สภาผู้แทนราษฎร ของ นายชวน หลีกภัย เป็นแรงกระตุ้นให้หันมาสนใจการเมืองTemplate:ต้องการอ้างอิงตรงนี้ จนต่อมาตัดสินใจเลือกเรียน ในสาขาวิชาปรัชญา การเมือง และเศรษฐศาสตร์ (Philosophy, Politics and Economics, P.P.E.) ชีวิตของ ดช.มาร์ค เปลี่ยนไปเมื่อเรียนจบชั้น ป.6 และถูกส่งไปเรียนต่อที่โรงเรียนสเคทลิฟ ประเทศอังกฤษ ด้วยเหตุผลของผู้เป็นบิดาว่ายิ่งไปเรียนเร็ว โอกาสในการปรับตัวเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงก็ยิ่งมีสูง หลังจากนั้น ดช.มาร์คต้องใช้เวลานานถึง 2 ปี กว่าจะปรับตัวได้ ทั้งเรื่องการใช้ชีวิต และการเรียน ก่อนจะได้เป็น นักเรียนทุน ที่โรงเรียนมัธยมอีตัน และสามารถเข้าศึกษาต่อ ในมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง มหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด และสำเร็จการศึกษาด้วยเวลา เพียง 3 ปี โดยได้รับได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งในเวลาต่อมา แม้จะไปรับการศึกษาในต่างประเทศตั้งแต่อายุน้อย แต่อภิสิทธิ์ก็ได้รับการเน้นย้ำจากบิดาเสมอว่า "ห้ามลืมภาษาไทย" และ "ต้องมีแฟนเป็นคนไทย" ซึ่งต่อมาเขาได้พบรักกับ "แตง" พิมพ์เพ็ญ ศกุนตาภัย ที่เป็นเพื่อนเก่าสมัยประถมตั้งแต่เรียนสาธิตจุฬาฯ เมื่อตกลงคบหากันแล้ว ทั้งคู่ได้ใช้จดหมายติดต่อกัน ตลอดเวลาหลายปี กระทั่งอภิสิทธิ์สำเร็จการศึกษาจากประเทศอังกฤษ กลับมาทำงานเป็นอาจารย์ โรงเรียนนายร้อย จปร. และทั้งคู่ได้เข้าพิธีสมรสพระราชทาน เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2531 ขณะอายุ 24 ปี ก่อนไปใช้ชีวิตร่วมกันที่ประเทศอังกฤษขณะที่อภิสิทธิ์ศึกษาต่อระดับปริญญาโท นอกจากอภิสิทธิ์และภรรยา เคยเป็นเพื่อนนักเรียนสมัยประถมทำให้มีอายุใกล้เคียงกัน ทั้งคู่ยังเกิดเดือนและปีเดียวกันอีกด้วย อภิสิทธิ์ชอบเล่นกีฬา โดยเฉพาะฟุตบอล และมีทีมโปรด คือ นิวคาสเซิล ซึ่งเป็นสโมสรฟุตบอล ของเมืองที่เกิด อภิสิทธิ์ชอบฟังเพลงร็อกไปจนถึง เฮฟวี่ เมทัล มีวงดนตรีโปรด เช่น R.E.M., U2 และเคยไปดูคอนเสิร์ต OASIS, The Eagles หรือแม้แต่ Pet Shop Boysอภิสิทธิ์ฟังเพลงไทยอยู่บ้าง มีศิลปินไทยที่ชื่นชอบเป็นพิเศษ เช่น พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ และ ฤทธิพร อินสว่าง
ตระกูลเวชชาชีวะ ตระกูล "เวชชาชีวะ" มีบรรพบุรุษเป็นชาวจีน เดินทางโดยเรือมาขึ้นฝั่งที่ จ.จันทบุรี ต่อมาในรุ่นคุณปู่ได้เข้ามาอาศัยในกรุงเทพฯ คือ "คุณปู่ใหญ่" พระบำราศนราดูร (หลง เวชชาชีวะ) อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 2 สมัย ใน คณะรัฐมนตรี คณะที่ 29 (10 ก.พ. 2502-8 ธ.ค. 2506) และ คณะรัฐมนตรี คณะที่ 30 (11 ธ.ค. 2506- 11 มี.ค. 2512) และ เป็นผู้ก่อตั้ง โรงพยาบาลบำราศนราดูร จ.นนทบุรี เมื่อ ปี พ.ศ. 2492 สกุล "เวชชาชีวะ" หรือ "Vejjajiva" เป็นนามสกุลพระราชทานสมัย รัชกาลที่ 6 ลำดับที่ 4,881 จากนามสกุลพระราชทานสมัย ร.6 ที่พระราชทาน รวมทั้งสิ้น 6,423 นามสกุล โดยพระราชทานให้กับ รองอำมาตย์ตรีหลง (หลง เวชชาชีวะ) แพทย์ประจำจังหวัดลพบุรี กับ นายจิ๊นแสง(บิดา) นายเป๋ง (ปู่) และ นายก่อ (ปู่ทวด) เนื่องจากเป็นตระกูลแพทย์จึงมีคำว่า "เวช" อยู่ในนามสกุลด้วย [14] นายอภิสิทธิ์มีลูกพี่ลูกน้องนามสกุลเดียวกันแต่ทำงานการเมืองคนละกลุ่มคนละพรรคคือ นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลทักษิณ ทำให้มีผู้ตั้งคำถามสงสัยว่า "นายอภิสิทธิ์กับนายสุรนันท์เป็นอะไรกัน?" ความจริงแล้วนายสุรนันท์เป็นบุตรของ นายนิสสัย เวชชาชีวะ อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ที่เป็นพี่ชายแท้ๆ ของ ศ.นพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ บิดานายอภิสิทธิ์ ทำให้นายอภิสิทธิ์และนายสุรนันท์เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน และนายสุรนันท์มีศักดิ์เป็นญาติผู้พี่นั่นเอง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ...ถึงผมจะตายไปวันไหนก็ยืนยันไว้ตรงนี้ บันทึกความจริงไว้เลยว่าการจัดการปัญหาสถานการณ์ปี ๒๕๕๒ และปี ๒๕๕๓ ไม่มีอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญ นอกรัฐธรรมนูญ หรือผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ หรือใครอื่นใด จะมาเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจจัดการปัญหาทั้งสิ้น ที่ใครพยายามสร้างเรื่องว่ามีใครอื่นสูงกว่านี้เข้ามาสั่งการ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลขณะนั้น ผมยืนยันว่าไม่มี และถ้ามันจะมีความผิดชอบไม่มีอะไรเกินเลยจากพวกผมไปเป็นอันขาด... จาก หนังสือ ความจริงไม่มีสี ( ต.ค. ๒๕๕๕)
...สำหรับตัวผม ตัดสินใจมาทำงานนี้เอง อาสาตัวเข้ามาเอง ผมต้องมีความรับผิดชอบ เกิดอะไรขึ้น ผมก็ต้องอยู่กับมัน พร้อมยอมรับอยู่แล้ว แต่คนอื่นเขาไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย... จาก หนังสือ ความจริงไม่มีสี ( ต.ค. ๒๕๕๕)
...ถ้าการเข้าไปดำรงตำแหน่งนายกฯ ของผมจะมีความผิด ก็คงมีแค่ประการเดียว คือ ผมเป็นนายกรัฐมนตรีในระบบสภาคนแรกหลัง ปี ๒๕๕๐ ที่คุณทักษิณสั่งไม่ได้... จาก หนังสือ ความจริงไม่มีสี ( ต.ค. ๒๕๕๕)
...ผมไม่ใช้การตลาดนำการเมือง แต่ให้ความจริงเป็นบทพิสูจน์การกระทำ ก็เลยกลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามบิดเบือนข้อมูลการทำงานของผมอย่างต่อเนื่องตลอด ๒ ปีที่ผ่านมา โดยการสร้างกระแสผ่านสื่อบางฉบับ ทำให้ประชาชนไม่น้อยเข้าใจผิดคิดว่าผมตกเป็นเบี้ยล่างยอมจำนนต่อพรรคร่วมรัฐบาลเพียงเพื่อรักษาอำนาจในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี...บันทึก จากใจอภิสิทธิ์ถึงคนไทยทั้งประเทศ: กฎเหล็ก ๙ ข้อ (๘ มิ.ย. ๕๔)
...การต่อรองเกิดขึ้นตลอดเวลา แต่ผมก็มีเส้นแบ่งที่ชัดเจนว่า โครงการไหนเป็นประโยชน์กับประชาชน ไม่มีการทำผิดกฎหมาย ก็เดินหน้าไป เพราะเราจะเอาความกลัวการทุจริตมาหยุดพัฒนาประเทศไม่ได้...บันทึก จากใจอภิสิทธิ์ถึงคนไทยทั้งประเทศ: กฎเหล็ก ๙ ข้อ (๘ มิ.ย. ๕๔)
...ท่ามกลางวิกฤติซ้อนวิกฤติ ผมยังเดินหน้าสร้างระบบสวัสดิการให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ประชานิยมแต่เป็นประชายั่งยืน...บันทึก จากใจอภิสิทธิ์ถึงคนไทยทั้งประเทศ: การเมืองสลับขั้ว (๖ มิ.ย. ๕๔)
...โครงสร้างเศรษฐกิจที่จะต้องคำนึงถึงเรื่องของความเป็นธรรม ความเสมอภาค และการดูแลพี่น้องประชาชน ..ไม่ใช่..จัดทำนโยบายเศรษฐกิจเพื่อมุ่งในเรื่องของการจะเจริญเติบโตในภาพรวมอย่างเดียว... รายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ครั้งที่ ๙๔ วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
...สิ่งสำคัญไปกว่าตัวเลขของการขยายตัวในเรื่องกองทุนสวัสดิการชุมชนก็คือหลักคิด..การเน้นในเรื่องการให้อย่างมีคุณค่า การรับอย่างมีศักดิ์ศรี..ประหนึ่งการช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างพลังของความสามัคคี ความสมานฉันท์..นำไปสู่ชุมชนที่จะมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน...รายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ครั้งที่ ๘๓ วันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๓
...ผมนี่มนุษย์เงินเดือน และครอบครัวผมก็มนุษย์เงินเดือน..สำคัญที่สุดคือว่าเมื่อเรารู้ว่ารายได้เราเท่าไหร่ ต้องอย่าให้รายจ่ายเรามันเกินรายได้ ก็จะไม่มีหนี้และหนี้ที่มีก็จะมีเฉพาะเรื่องผ่อนรถ..มาทำงานการเมืองและหวังว่าจะรวยขึ้นอย่าหวังเลย และก็ไม่ควร..คิด..ถามว่าคุ้มกับการทำงาน มันไม่น่าจะคุ้ม แต่ว่าเราไม่ได้มาทำเพื่อตรงนี้..รายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ครั้งที่ ๘๒ วันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๓
..ผมชอบคำว่า มีคุณภาพชีวิต เพราะว่าไม่ใช่เรื่องว่ากินดีอยู่ดี..เป็นสังคมซึ่งให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีความสงบสุข ทุกคนมีศักดิ์ศรี มีที่ยืน..รายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ครั้งที่ ๗๘ วันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๓
...รัฐบาลนี้ไม่ได้คิดว่าปัญหาทั้งหลายนี้แก้ได้ด้วยเงิน ไม่ใช่ ถ้าเงินมาเป็นแสนล้านแต่ใช้ไม่ถูกวิธีก็เปล่าประโยชน์ ตรงกันข้าม ถ้าเงิน[ไม่มากพอ]อาจจะไม่ถูกใจ แต่สามารถเข้าไปเดินหน้าแก้ไขได้ตรงจุดนี้ ตรงนี้ต่างหากจะเป็นตัวที่พลิกฟื้นขึ้นมา เพราะสิ่งที่สำคัญไม่ใช่เรื่องงบประมาณครับ คือเรื่องการพัฒนา... รายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ครั้งที่ ๔๒ วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๒
แนวคิด ปรัชญา ที่แสดงออกมา และการกระทำที่ได้แสดงให้เห็น ทำให้น่าเสียใจที่เราพลาดทั้งๆที่โอกาสมาอยู่ตรงหน้า ที่จะมีผู้นำที่ยกระดับประชาชนประเทศชาติหลังจากยุคพลเอกเปรม ถ้าเขาได้ทำงานต่อเนื่องสักแปดปีเต็ม มากกว่ามาแก้เรื่องโดนปัดแข้งปัดขา น่าจะยกระดับประเทศชาติไปได้ไกล อย่างน้อยไม่น้อยหน้าไปกว่ามาเลเซียที่รุดหน้าไปเยอะ
555555555555555 ขนาดกันเอง ยังไม่อ่าน จะให้ จข กท. มาอ่านเหรอ รู้สึกว่า ข้อมูล พรรคพลังธรรมแน่น อาจมาฟืนฟู ชู ผู้กอง โยธิน ขึ้นมาหรือป่าววว ไม่ก้ออาจเข็นนโยบายโนโวตอีก เลยออกมาเหวี้ยงครกขึ้นภูเขา ถามทาง
ผู้แทนของผู้ถูกกล่าวหากลับบอกว่าติดต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้และขอให้สภาดำเนินการไปตามเดิม .... อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/1AmL1zf
สนช. ชุดนี้ ถึงมาแบบชั่วคราว แต่มีอำนาจเต็มนะ เต็มปริ่มแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เขาเลือกมาช่วยชาติเดินหน้า ไม่ได้ให้มาช่วยคัย ไม่รู้จักใช้ ก้อไม่รู้ว่าอย่างไรแล้ว พวกที่ไม่มีมือเป็นง่อย พวกที่กึ่นเปื่อยป่วยบ่อย น่ายื่นใบลาไปพักรักษาตัวก่อนนะ ลูกหลานจะไม่ลำบากกาย แหลนจะได้กราบไหว้ได้สะดวกใจ
อย่าเพิ่งบอกว่าชั่วคราวดีกว่าครับ มันสร้างปํญหา เหมือนสมัย เซอร์อเล็กซ์บอกจะอยู่ผีแดงแค่สิ้นฤดูกาล ปีนั้นผีแดงเละ อีกอย่าง อยากเห็นว่า เปลี่ยนตัวได้ตามใจหรือเปล่า หรือใจไม่อยากเปลี่ยน
ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ จุดเริ่มต้นแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงผลจากการใช้แนวทางการพัฒนาประเทศไปสู่ความทันสมัย ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแก่สังคมไทยอย่างมากในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม สังคมและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งกระบวนการของความเปลี่ยนแปลงมีความสลับซับซ้อนจนยากที่จะอธิบายในเชิงสาเหตุและผลลัพธ์ได้ เพราะการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดต่างเป็นปัจจัยเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน สำหรับผลของการพัฒนาในด้านบวกนั้น ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ความเจริญทางวัตถุ และสาธารณูปโภคต่างๆ ระบบสื่อสารที่ทันสมัย หรือการขยายปริมาณและกระจายการศึกษาอย่างทั่วถึงมากขึ้น แต่ผลด้านบวกเหล่านี้ส่วนใหญ่กระจายไปถึงคนในชนบท หรือผู้ด้อยโอกาสในสังคมน้อย แต่ว่า กระบวนการเปลี่ยนแปลงของสังคมได้เกิดผลลบติดตามมาด้วย เช่น การขยายตัวของรัฐเข้าไปในชนบท ได้ส่งผลให้ชนบทเกิดความอ่อนแอในหลายด้าน ทั้งการต้องพึ่งพิงตลาดและพ่อค้าคนกลางในการสั่งสินค้าทุน ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ ระบบความสัมพันธ์แบบเครือญาติ และการรวมกลุ่มกันตามประเพณีเพื่อการจัดการทรัพยากรที่เคยมีอยู่แต่เดิมแตกสลายลง ภูมิความรู้ที่เคยใช้แก้ปัญหาและสั่งสมปรับเปลี่ยนกันมาถูกลืมเลือนและเริ่มสูญหายไป สิ่งสำคัญ ก็คือ ความพอเพียงในการดำรงชีวิต ซึ่งเป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่ทำให้คนไทยสามารถพึ่งตนเอง และดำเนินชีวิตไปได้อย่างมีศักดิ์ศรีภายใต้อำนาจและความมีอิสระในการกำหนดชะตาชีวิตของตนเอง ความสามารถในการควบคุมและจัดการเพื่อให้ตนเองได้รับการสนองตอบต่อความต้องการต่างๆ รวมทั้งความสามารถในการจัดการปัญหาต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ซึ่งทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นศักยภาพพื้นฐานที่คนไทยและสังคมไทยเคยมีอยู่แต่เดิม ต้องถูกกระทบกระเทือน ซึ่งวิกฤตเศรษฐกิจจากปัญหาฟองสบู่และปัญหาความอ่อนแอของชนบท รวมทั้งปัญหาอื่นๆ ที่เกิดขึ้น ล้วนแต่เป็นข้อพิสูจน์และยืนยันปรากฎการณ์นี้ได้เป็นอย่างดี .................................. เศรษกิจพอเพียงตามพระราชดำริของพระองค์ ก็เป็นเหตุผลหนึ่ง เพื่อเลือกผู้จะมาบริหารบ้านเมือง ภารกิจของพระองค์ล้วนเป็นไปเพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนเป็นอับดับแรก เหนือการพัฒนาความร่ำรวยของประเทศ พระองค์ตรัสว่าการเยี่ยมเยียบประชาชนเป็นหน้าที่ต่อประเทศชาติ มิใช่หน้าที่ที่เป็นไปเพื่อกษัตริย์
ใครชอบประกันราคาข้าว เลือกตั้งคราวหน้า เลือกประชาธิปัตย์ ใครชอบจำนำข้าว เลือกตั้งคราวหน้า เลือกพรรคเพื่อไทย แบบนี้ดีกว่า พี่น้องประชาชน ตัดสินใจง่ายครับ"
ที่ผมลงมาเยอะแยะนี่ จะบอกว่า ถ้ายังไม่ชอบ ปขป. ไม่ต้องเลือกครับ ไปไหนก็ไปซะไป๊ เลือกตามวิถีประชาธิปไตยสิครับ ผมเชื่อว่าประชาธิปไตยมีอยู่ในตัวตนของทุกคนครับ ประชาธิปไตยเป็นยังไงรือครับ อ้าวเฮ่ย
คุณ hey guys ลงข้อมูลเยอะมากๆ คุณ จขกท. ท่านเลยยังย่อยไม่หมด หรือจะท้องอืด ท้องเฟ้อไปแล้วมั้งคะ แต่คงไม่ใช่ท้องเสีย วิ่งหา "โลโมติ้ว" อยู่นะคะ
ประขาธิปไตยเกิดเป็นทางการ 2500กว่าปี พอๆกับศาสนาพุทธ ใครกำหนดกฏเกณท์อะไรไว้มั่งก็ไม่ค่อยจำกันแล้ว จำแต่ว่าประชาธิไตยก็คือการมีเลือกตั้ง เลือกตั้งกันทีก็มีการฆ่ากัน ฆ่ากันมานานๆๆๆไม่ว่ายุคสมัยไหน เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น ประชาธิปไตยสำหรับผมก็ยังคิดว่าดีเหมือนกัน จัดเลือกตั้งที ไอ้พวกที่ชอบฆ่ากันมันจะได้กำจัดกันเอง มันจะเหลือน้อยลงเอง แต่ว่าไอ้คนชนะมันได้อำนาจนะสิ ไอ้บางคนมันจะ เทคออล ด้วยแหละ ถึงยังงั้นก็ยังนิยมเลือกตั้งกัน ก็ต้องคิดสร้างประชาธิปไตยให้ซับซ้อนไว้ก่อน ก็คิดกันมาแล้วละ ทั้งคนที่ต้องการยึดอำนาจ ทั้งคนที่ป้องกันไม่ให้คนที่ไม่ต้องการมายึดอำนาจ เนียนๆด้วยนา เพราะต่างฝ่ายก็เรียกอำนาจฝ่ายตนว่าประชาธิปไตย ของมึงไม่ใช่