รบ.ปลื้มไทยติดอันดับประเทศมีความสุขในโลก2ปีซ้อน โดย ไทยรัฐออนไลน์ 24 ก.พ. 2559 14:51 "ไก่อู" เผย รัฐบาลประยุทธ์ปลื้ม ไทยติดอันดับ 1 ใน 15 ประเทศมีความสุขที่สุดในโลก 2 ปีซ้อน หลัง "บลูมเบิร์ก"จัดอันดับดัชนีความทุกข์ยาก Misery Index ประจำปี 2559... สำหรับ 15 ประเทศที่มีความสุขเชิงเศรษฐกิจมากที่สุดตามลำดับ คือ 1.ไทย2.สวิตเซอร์แลนด์ 3.ญี่ปุ่น 4.เกาหลีใต้ 5.ไต้หวัน 6.เดนมาร์ก 7.จีน 8.สหรัฐอเมริกา 9.นอร์เวย์ 10.สหราชอาณาจักร 11.ออสเตรีย 12.นิวซีแลนด์ 13.ไอซ์แลนด์ 14.มาเลเซีย และ 15.เยอรมนี. http://www.thairath.co.th/content/581760
เออ....หรือว่าผมตั้งหัวกระทู้ผิด ตอนนี้ทักษิณ คงมีความสุขมากแน่ๆ --------------------------------------------------------- ที่ผ่านมา.. ทักษิณมักข่มขู่คนในชาติว่า หากเขาไม่มีความสุขก็อย่าหวังว่าคนไทยจะมีความสุข!!!.. http://www.oknation.net/blog/vincentoldbook3/2010/01/19/entry-2
จริงดิ....ประเทศประชาธิปไตยแบบอเมริกาอันดับ8อังกฤษอันดับ10 ประเทศที่โดนต่อต้านจากEUว่าละเมิดสิทธิ์ฯเป็นรัฐบาลเผด็จการทหารกลับมีความสูขฯอันดับ1ของโลกซะงั้น
เอ..จะเชื่อทักษิณดีไหมเนี๊ยะ ------------------------------------------------------------- เมื่อวันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ ที่ประเทศสิงคโปร์ เตือนเหล่านายพลของไทย ว่า ยิ่งอยู่นาน ประชาชนจะยิ่งยากแค้น เพราะรัฐบาลทหารขาดวิสัยทัศน์ และไม่มีความช่ำชองที่จะแก้ไขเศรษฐกิจที่กำลังพังพาบ “เป็นรัฐบาลที่ไม่มีทีมงานมือดีเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” อดีตผู้นำไทยวิจารณ์รัฐบาลทหาร “ยิ่งพวกเขาอยู่นานไป เศรษฐกิจจะยิ่งตกต่ำ” http://news.voicetv.co.th/thailand/330534.html
อ้าว........................ งั้นที่ท่านทักษิณและบรรดาลูกจ้างและลิเบอรัลทั้งหลายที่ออกมาแสดงความเป็นห่วงเป็นใยเศรษฐกิจไทยก็ผิดงานดิ พี่เต้น พี่ตู่ พี่กี้ ฯลฯ แบบนี้ต้องสั่งสอน Bloomberg มั้งครับ สั่งสอนมันด้วยภาษาปะกิดเลยครับ " Respect my matches ระวังไม้ขีดไฟพวกอั๊วไว้ด้วย "
รอยเตอร์ตีแผ่รายงาน“ทักษิณ”อิทธิพลเหือดหาย เครือข่ายแตกกระเจิง-คนเสื้อแดงเบือนหน้าหนี รอยเตอร์ - สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่รายงานฉบับหนึ่งในวันพุธ (24 ก.พ) ตีแผ่ให้เห็นถึงอิทธิพลที่ลดน้อยถอยลงในไทยของ “ทักษิณ ชินวัตร” อ้างนักวิเคราะห์ระบุเครือข่ายนักการเมือง ข้าราชการท้องถิ่นและนักธุรกิจของอดีตนายกรัฐมนตรีผู้หลบหนีรายนี้อ่อนแอลง และแตกกระเจิงกันไปคนละทาง ไม่เว้นแม้กระทั่งคนเสื้อแดงที่แสดงท่าทีตีตัวออกห่าง ในรายงานเรื่อง Ousted Thai PM Thaksin's influence shows signs of waning ทางสำนักข่าวรอยเตอร์ เกริ่นนำด้วยการอ้างถึงแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวรายหนึ่งที่ยอมรับว่านิยมชมชอบใน ตัวของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งถูกรัฐประหารโค้นอำนาจในปี 2006 ก่อนหลบหนีออกไปยังต่างแดนหลังจากนั้น อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งในแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวรายนี้ก็หวั่นกลัวว่าการหวนคืนสู่การ เมืองของทักษิณ อาจกระพือความไม่สงบขึ้นมาอีก หลังจากไทยต้องเผชิญกับการรัฐประหารและเหตุประท้วงนองเลือดบนท้องถนนตลอด ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา “เราจำเป็นต้องเก็บออมเงินไว้และประหยัดมัธยัสถ์ เพราะเราไม่รู้ว่าการเมืองจะเป็นอย่างไรในอนาคต” แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวบอกกับรอยเตอร์ รอยเตอร์ระบุว่า แม้มีความคลั่งไคล้ในตัวของเขามากแค่ไหน แต่ความไม่แน่ใจของแม่ค้ารายดังกล่าวบ่งชี้ว่าอิทธิพลทางการเมืองของทักษิณ ในไทยที่เวลานี้ปกครองโดยคณะทหาร อาจกำลังอ่อนแอลง แม้มหาเศรษฐีผู้หลบหนีรายนี้จะกลับมาปรากฏตัวต่อสาธารณชนอีกครั้ง รายงานของรอยเตอร์บอกต่อว่า ทักษิณใช้ฐานบัญชาการในดูไบเพื่อโยนเงินและอิทธิพลทางความคิดอยู่เบื้องหลัง การประท้วงบนท้องถนนและการหาเสียงเลือกตั้ง จนช่วยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ น้องสาวของเขาได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี 2011 ทว่ากองทัพโค่นอำนาจเธอในอีก 3 ปีต่อมา และได้กำจัดเหล่าข้าราขการที่เห็นอกเห็นใจเธอ นอกจากนี้ยังจับตาและควบคุมตัวพวกนักการเมืองผู้ภักดีต่อครอบครัวชินวัตร ช่วงสั้นๆ ขณะที่เวลานี้นางสาวยิ่งลักษณ์ กำลังตกที่นั่งลำบากด้วยเผชิญการพิจารณาคดีตามข้อกล่าวหาคอรัปชัน รอยเตอร์อ้างพวกนักวิเคราะห์บอกว่าทักษิณ ไม่สามารถทึกทักถึงฐานสนับสนุนเก่าๆของเขาได้และบางทีอาจต้องดิ้นรนเพื่อ รักษาความสัมพันธ์กับเหล่าสหายในประเทศที่เกิดการตื่นตัวทางการเมืองอย่าง ลึกซึ้งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ด้วยแม้แต่กลุ่มเคลื่อนไหวรากหญ้า “คนเสื้อแดง” ที่ถูกมองว่ามีความภักดีต่อทักษิณมาอย่างยาวนาน ก็ส่งสัญญาณว่ากำลังโผล่พ้นจากเขาแล้ว เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายทักษิณให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่าไทยกำลังก้าวถอยหลังภายใต้การนำของคณะ รัฐประหาร อันมีต้นตอจากวคามยากลำบากทางเศรษฐกิจและความแตกแยกทางการเมืองอย่างสุดขั้ว “คนไทยจะไม่อดทนกับคณะรัฐประหารนานเท่าไหร่นัก” เขากล่าว กระนั้นก็ตาม อัมบิกา อาฮูจา ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากสถาบันที่ปรึกษาความเสี่ยงยูเรเซีย กรุ๊ป ในนิวยอร์กกล่าวว่า “สัญลักษณ์ทางอำนาจที่ทักษิณและน้องสาวของเขาถือว่า เป็นบางอย่างที่กองทัพยังคงกังวลอย่างมาก แต่เครือข่ายนักการเมืองภูมิภาค ข้าราชการท้องถิ่นและกลุ่มก้อนนักธุรกิจของเขาอ่อนแอลงและแตกกระเจิงกันไปใน ช่วงหลายปีที่ผ่านมา” เธอกล่าว ในรายงานของรอยเตอร์ระบุว่า นายทักษิณยังคงมั่นใจในมรดกของเขา ซึ่งรวมถึงนโยบายประชานิยมต่างๆ อย่างเช่นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำและการประกันสุขภาพที่แทบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย “ประชาชนไม่มีทางลืมผม” ทักษิณ ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทักษิณและยิ่งลักษณ์ปรากฏตัวตามสื่อมวลชนแขนงต่างๆ รวมถึงแจกจ่ายหนังสือและปฏิทิน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนระลึกถึงความสำเร็จของพวกเขา รอยเตอร์อ้างคำกล่าวของนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่ากลยุทธ์ดังกล่าวมีเป้าหมายสร้างความอับอาย แก่คณะรัฐประหารที่เผชิญความยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ ในนั้นรวมถึงความพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจหมายเลข 2 ของอาเซียนที่ประสบปัญหามานับตั้งแต่รัฐประหาร อย่างไรก็ตาม ในรายงานของรอยเตอร์ระบุว่า แม้แต่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเอง ฐานสนับสนุนหลักของตระกูลชินวัตร ความสับสนต่อตัวของนายทักษิณเองก็สามารถพบเจอได้ไม่ยากลำบากนัก “ทักษิณคิดว่าเขารู้จักเสื้อแดงดีกว่าแกนนำ ซึ่งมันไม่เป็นความจริงเลย” รอยเตอร์อ้างคำพูดของธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าว นางธิดาบอกกับรอยเตอร์ว่า คนเสื้อแดงจำนวนมากไม่เห็นด้วยกับนายทักษิณ ที่ผลักดัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี ณ ขณะนั้น ให้ผ่านพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมในปี 2013 ซึ่งจะอภัยโทษแก่นายทักษิณ จนกระพือการประท้วงบนท้องถนนครั้งใหญ่และกระตุ้นให้กองทัพต้องเข้ายึดอำนาจ อีกครั้ง “มีคนที่รักนายทักษิณมาก แต่ก็มีคนในสังกัดของเขาที่เกลียดและกลัวเขาเช่นกัน” นางธิดากล่าว อย่างไรก็ตาม นายทักษิณบอกกับรอยเตอร์โดยปฏิเสธคำกล่าวอ้างนี้ “เสื้อแดงยังคงรักผมและผมก็รักพวกเขา”
สำนักข่าวไทย 25 ก.พ.-ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน ภาวะย่ำแย่ทั้งในยุโรปและจีน กลับมีข่าวดีกับบ้านเรา เมื่อ “บลูมเบิร์ก” เปิดเผยดัชนีความทุกข์ยาก ปี 2559 หรือ Misery Index 2016 ระบุว่าไทยมีค่าดัชนีคิดจากอัตราว่างงานและเงินเฟ้อเท่ากับ 2.2 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำมาก ส่งผลให้ไทยเป็นประเทศที่มีความสุขในเชิงเศรษฐกิจมากที่สุดในโลกเป็นปีที่ 2 ต่อเนื่องกัน นอกจากไทยที่อยู่ในอันดับที่ 1 เป็นปีที่ 2 แล้ว อันดับ 2 คือ สวิตเซอร์แลนด์ อันดับ 3 ญี่ปุ่น อันดับ 4 เกาหลีใต้ อันดับ 5 ไต้หวัน อันดับ 6 เดนมาร์ก อันดับ 7 จีน อันดับ 8 สหรัฐอเมริกา อันดับ 9 นอร์เวย์ อันดับ 10 สหราชอาณาจักร ส่วนออสเตรีย นิวซีแลนด์ ไอซ์แลนด์ มาเลเซีย และเยอรมนี เป็นอันดับที่ 11-15 ตามลำดับ สอดคล้องกับรายงานของธนาคารโลก ปี 2557 อัตราว่างงานในไทยอยู่ที่ร้อยละ 0.9 ส่วนอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 2.5 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำเช่นกัน ส่วนปี 2558 อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 1.1 ขณะที่อัตราว่างงานในเฉลี่ยปี 2558 อยู่ที่ร้อยละ 0.56 แต่ในจำนวนนี้มีบัณฑิตจบใหม่ว่างงานสูงถึง 180,000 คน ขณะที่ผลสำรวจ Global CEO Survey 2016 ที่จะรายงานต่อที่ประชุม World Economic Forum ในปีนี้ พบว่า จีนเป็นประเทศที่เป็นตลาดน่าลงทุนมากที่สุดในปีนี้ อันดับ 2 คือ สหรัฐ ขณะที่อินโดนีเซียและเวียดนาม อยู่ในอันดับ 3 อันดับ 4 คือ อินเดีย ส่วนไทย สิงคโปร์ และสหราชอาณาจักรอยู่ในอันดับที่ 5 ซึ่งไทยร่วงลงจากอันดับที่ 4 เมื่อปีก่อนจากปัญหาในประเทศประกอบกับความเชื่อมั่นของซีอีโอในกลุ่มอาเซียนที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 3 ปี คือมีเพียงร้อยละ 39 เท่านั้นที่เชื่อมั่นต่อสภาพเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน.-สำนักข่าวไทย สำนักข่าวรอยเตอร์สออกรายงาน Ousted Thai PM Thaksin's influence shows signs of warning ว่ากระแสของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีอิทธิพลลดลงในสังคมไทย อีกทั้งเครือข่ายนักการเมือง ข้าราชการท้องถิ่นและ นักธุรกิจที่เคยเกี่ยวข้องค่อยๆ ตีตัวออกห่างและแยกตัวเคลื่อนไหว
ถ้ายังไม่เข้าใจก็ลองพิมพ์หาเพิ่มเติมจากกูเกิลดูนะครับ ----------------------------------------------------------------------------------------- สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้ทำการจัดอันดับ 15 ชาติและดินแดนที่มีความสุขในเชิงเศรษฐกิจมากที่สุด โดยอ้างอิงจาก "ดัชนีความทุกข์ยาก" ที่ทางบลูมเบิร์กทำเอง ซึ่งคำนวณจากอัตราการว่างงานและอัตราเงินเฟ้อ ผลที่ได้ปรากฏว่าประเทศที่ทุกข์ยากต่ำที่สุด หรือเท่ากับมีความสุขในเชิงเศรษฐกิจมากที่สุดคือ "ประเทศไทย" โดยบลูมเบิร์ก ระบุว่า ดัชนีความทุกข์ยากที่ใช้นั้น คำนวณจากอัตราเงินเฟ้อและอัตราการว่างงาน ซึ่งเป็น 2 ปัจจัยที่ทำให้ผู้คนไม่มีความสุขในเชิงเศรษฐกิจ ชาติที่มีคะแนนต่ำในดัชนีนี้จึงถือว่ามีความสุขในเชิงเศรษฐกิจ ทั้งนี้ไทยกลายเป็นประเทศที่มีความสุขในเชิงเศรษฐกิจอันดับ 1 เนื่องจากมีอัตราการว่างงานที่ต่ำมาก ด้วยตัวเลข 0.56 เปอร์เซ็นต์เมื่อช่วงสิ้นปี 2014 ยังมีการระบุอีกด้วยว่า มากกว่า 40 %ของชาวไทยอยู่ในภาคการเกษตร คนเหล่านี้มีจำนวนไม่น้อยที่เป็นผู้มีการศึกษาสูงแต่ไม่สามารถหางานทำได้หรือตกงาน ยกตัวอย่างเช่น เมื่อมีผู้สูญเสียงานประจำ ทันทีที่เขากลับบ้านไปช่วยพ่อแม่ทำสวนทำนา ก็จะถูกพิจารณาว่าเป็นผู้มีงานทำในทันที และ การที่ไทยไม่ค่อยมีหลักประกันให้กับผู้ว่างงานมากนัก ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้คนไทยอยู่ว่างงานนานมากไม่ได้ ต้องดิ้นรนเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ผู้ที่สูญเสียงานประจำจึงต้องหันไปทำงานนอกระบบ อาทิ พ่อค้าแผงลอย วินมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ฯลฯ หรือไม่ก็หางานพาร์ตไทม์ ซึ่งการทำเช่นนั้นถูกนับว่าเป็นผู้มีงานทำไปโดยปริยายเช่นกัน http://2013.gun.in.th/index.php?topic=48457.0;wap2
กรรม.... คิดจากคนว่างงาน ไขคำตอบ ทำไมประเทศไทยมีอัตราการว่างงานต่ำ?? : ประชาชาติ ... ไขคำตอบ ทำไมประเทศไทยมีอัตราการว่างงานต่ำ?? ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ อัตราการว่างงานทางการของประเทศไทย ช่วงสิ้นปี 2557 อยู่ที่ 0.56% ถือว่าเป็นอัตราการว่างงานที่ต่ำที่สุดในโลก เมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคเดียวกัน อัตราว่างงานอินเดียและฟิลิปปินส์ ซึ่งอยู่ที่ 9.4% และ 6% นี่ไม่ใช่ปรากฏการณ์ใหม่ เพราะไทยมีอัตราการว่างงานต่ำกว่า 1% ตั้งแต่ปี 2554 ส่วนสถิติสูงสุดอยู่ที่เดือนมกราคม 2544 อัตราว่างงานอยู่ที่ 5.73% ซึ่งเป็นช่วงปีที่สำนักงานสถิติแห่งชาติไทยเริ่มจัดทำอัตราว่างงานออกมาทุกๆ เดือน แต่ทำไมตัวเลขนี้ถึงน้อยนัก ? จิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "อัตราการว่างงานของเราต่ำมาตลอด ไม่ได้เป็นเพราะว่าเรามีนิยามที่ต่างจากประเทศอื่นๆ แต่เป็นเพราะโครงสร้างของปัญหา" จิรเทพ กล่าวอีกว่า "แรงงานของภาคการเกษตรนั้น มีบางส่วนที่เมื่อไม่ได้ทำการเกษตร ก็จะหันไปทำงานเล็กๆ น้อยๆ อย่างอื่น ซึ่งระบุไม่ได้ชัดเจน หรือไม่ก็ทำงานอิสระ ที่เป็นนายจ้างตัวเอง ไม่ได้เป็นลูกจ้างใคร" ไม่มีสวัสดิการอาหารกลางวันฟรี อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า ประเทศไทยมีสวัสดิการประกันการว่างงานไม่ทั่วถึง จึงเป็นผลให้ไม่มีคนว่างงานนาน และเมื่อไม่มีงานทำ แรงงานเหล่านั้นจะหันไปทำงานในภาคแรงงานนอกระบบ หรือไม่ก็หางานพาร์ทไทม์ทำ ซึ่งนั่นเป็นการนับว่า มีงานทำแล้วในไทย แรงงานในสวน ประชากรมากกว่า 40% ของประเทศไทยอยู่ในแรงงานภาคเกษตร ซึ่งแรงงานเหล่านี้จะมีงานทำไม่เต็มวัน (underemployment) และยังว่างงานช่วงนอกฤดูกาลเพาะปลูกอีกด้วย ซึ่งการจ้างงานไม่เต็มวันนี้ ประเทศไทยนับว่าเป็นการมีงานทำ และเป็นตัวเลขราว 0.5% จากทั้งหมด เป็นต้นว่า หากคุณไม่ได้ถูกว่าจ้างจากการเป็นพนักงานธนาคารอีกต่อไปแล้ว คุณจะกลับบ้านเกิดและไปช่วยงานที่สวนของพ่อ อย่างน้อย 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เช่นนี้ถือว่า คุณได้รับการจ้างงานแล้ว มีเด็กทารกน้อยเกินไป สถิติจากหน่วยงานด้านประชากร ของสหประชาชาติ ระบุว่า ประเทศไทยมีอัตราการเกิด ตั้งแต่ปี 2553-2558 อยู่ที่ 1.4 เทียบกับฟิลิปปินส์ซึ่งอยู่ที่ 3.4 มากกว่านั้น ในปี 2537 ประชากรอายุ 60 ปี และมากกว่านั้น สูงขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 15% จากที่เคยอยู่เพียง 7% จึงทำให้มีจำนวนผู้เกษียณอายุมากขึ้นและมีคนเหล่านี้เข้าไปในระบบการจ้างงานน้อย ซึ่งหากเทียบกับญี่ปุ่นจะพบว่า ประชากรมากกว่า 25% มีอายุมากกว่า 65 ปี มีอัตราการว่างงานสูงกว่า 3% แรงงานต่างชาติ จากสถิติของฮิวแมน ไรท์ วอช ระบุว่า ไทยมีแรงงานจากกัมพูชา, สปป.ลาว และเมียนมาร์ มากกว่า 3 ล้านคน ในประเทศไทย ซึ่งส่วนมากเป็นคนงานต่างชาติที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน โดยรัฐบาลไทยเดินหน้าจัดการการลงทะเบียนแรงงานต่างชาติ แต่ก็ยังมีประเด็นกำแพงทางภาษาที่ท้าทายแรงงานไทยเนื่องจากความต้องการแรงงานที่มีทักษะเพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ ไทยก็ไม่เหมือนสิงคโปร์ที่มีการพุ่งเป้าไปที่การควบคุมจำนวนแรงงานบางส่วนและเปิดบางส่วนอย่างชัดเจน เฉดของความคลุมเครือ ภาคเศรษฐกิจไทย นับรวมประชากรทุกคนที่ไม่ได้ทำงานในเซ็กเตอร์ใดๆ ชัดเจนเข้าไปด้วย ซึ่งตัวเลขในปี 2556 มีมากกว่า 64% จากแรงงานทั้งหมด ในจำนวนนี้นับรวมคนขายของริมทาง คนขับแท็กซี่ และคนที่ทำงานอิสระ ซึ่งผู้ที่ทำอาชีพเหล่านี้ถือเป็นจำนวนตัวเลขที่คลุมเครือในทางเศรษฐกิจ และไทยก็นับรวมว่าเป็นผู้ที่ถูกจ้างงาน เนื่องจากไทยไม่มีการเปลี่ยนนโยบายหลักๆ ด้านตลาดแรงงาน และตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนมกราคม 2558 ที่ตกลงต่ำกว่ากรอบเงินเฟ้อของธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งกำหนดไว้ที่ 1-4% นับเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณใดๆ ว่ารัฐบาล หรือผู้กำหนดนโยบายทางการเงินจะกังวลเกี่ยวกับตัวเลขการว่างงาน ตัวเลขนี้จึงจะยังคงต่ำต่อไปเช่นนี้ คุณจะกลับบ้านเกิดและไปช่วยงานที่สวนของพ่อ อย่างน้อย 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เช่นนี้ถือว่า คุณได้รับการจ้างงานแล้ว หายสงสัย ทำไมคนไทยว่างงานน้อย ก็พี่แกคิดแบบนี้ ก็น้อยที่สุดในโลกสิ มีความสูขจริงเว้ยยยย http://nlic.mol.go.th/th/index
