ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เผยทหารบุกควบคุมตัวประชาชนรวม 8 คนทั้งในกรุงเทพฯและขอนแก่น เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา โดยไม่ทราบสาเหตุ วันนี้(27 เม.ย.) เวลา 11.00 น. เพจเฟซบุ๊กของ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน อ้างว่าทหารบุกควบคุมตัวประชาชนรวม 8 คน ยังไม่ทราบสถานที่ควบคุมตัวและสาเหตุ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า 27 เม.ย.59 มีการส่งต่อข้อมูลทางโซเชียลมีเดียว่า ตั้งแต่เวลาประมาณ 05.00 น. มีเจ้าหน้าที่ทหารเข้าควบคุมตัวบุคคลทั้งในกรุงเทพและขอนแก่นรวมอย่างน้อย 8 ราย ทราบชื่อเพียง 5 ราย ดังนี้1. นายนพเกล้า คงสุวรรณ ช่างภาพ ,2. นายศุภชัย สายบุตร ช่างภาพ ,3. นางสาววรารัตน์ เหม็งประมูล ,4. นายหฤษฏ์ มหาทน 25 ปี อดีตนักข่าว นักเขียน และร่วมหุ้นเปิดร้านราเมงในจังหวัดขอนแก่น และร้านข้าวมันไก่ใน สปป.ลาว 5. นายนิธิ กุลธนศิลป์ อายุ 26 ปี ผู้จัดการร้านราเมงของหฤษฏ์ เบื้องต้น ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้สอบถามไปยังญาติ และผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า นายศุภชัย สายบุตร ถูกทหารและ ตร.ควบคุมตัวจากบ้าน เวลาประมาณ 05.30 น. ไปยัง มทบ.11 ยังไม่ทราบสาเหตุ ขณะที่ นายหฤษฎ์ มหาทน และนายนิธิ กุลธนศิลป์ ถูกทหารประมาณ 20 นาย พร้อมอาวุธ บุกไปที่บ้านพักในจังหวัดขอนแก่น ในเวลาประมาณ 06.00 น. ควบคุมตัวทั้งสองพร้อมค้นบ้าน และยึดโทรศัพท์ โน้ตบุ๊ค หนังสือเดินทางของนายหฤษฏ์ไป โดยไม่แจ้งว่า ควบคุมตัวจากสาเหตุอะไร และจะนำตัวไปที่ใด ขณะนี้ญาติกำลังติดตามตัว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าว่าทั้ง 8 คน ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ไหน. http://www.thaipost.net/?q=ทหารบุกคุมตัวประชาชน-8-คนในกทม-ขอนแก่น .................................................................................... "มันต้องมีสาเหตุซิ ถ้าไม่มีเขาไม่เสียเวลาไปจับมาให้พวกมึงด่าเอามันปากหรอก" " คนดีๆทำดีไม่ใครมาจับหลอก " ..................................................................................... สรุปก็คือ มีการแชร์กันมาทางโซเชี่ยล สอบถามไปที่ญาติและผู้เห็นเหตุการณ์รู้แต่ว่าเป็นทหาร แต่ที่ชอบจริงๆก็คือ คอมเม้นท์ทั้ง 2 ท่าน ที่อ่านข่าวแล้วตั้งข้อสังเกตครับ ไม่รู้แหล่งข่าวที่อื่นๆเป็นยังไงบ้าง ?
ผมเลือกชื่อผู้ที่ถูกคุมตัวมา 1 คน มาค้นหาข่าวเก่าๆ ว่าเมื่อก่อนเคยทำอะไรบ้าง หฤษฏ์ มหาทน เคยสัมภาษณ์เจ้าของป้ายฟรีสมยศ(คนที่โดนคดีหมิ่นเบื้องสูง) ในเว็บมติชน http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1359890097
ก็แก๊งค์เดียวกันทั้งหมดครับ จิตรา คชเดช ที่เย็บป้ายฟรีสมยศให้ ถูกบริษัทไทรอัมพ์เลิกจ้างเพราะเธอออกทีวีพร้อมเสื้อยืดที่มีข้อความสนับสนุนคนที่ไม่ยอมยืนถวายความเคารพระหว่างเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์ และเป็นจิตราคนเดียวกับที่คอยยกป้าย"ดีแต่พูด"ติดตามอภิสิทธิ์ในที่สาธารณะ ไม่รู้ทำไมคนเหล่านี้มักไม่ยอมรับว่าตัวเป็นพวกเสื้อแดง ถ้ามันน่าอายที่เป็นเสื้อแดงก็ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสีย แต่หากต้องทำเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องก็พอเข้าใจได้ แต่ควรหาสัมมาอาชีวะทำมากกว่า
วันนี้(27 เม.ย.) พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ที่มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้โซเชียลมีเดีย ที่เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จำนวน 10 คน แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 8 คน และ ขอนแก่น 2 คน เมื่อมีหลักฐานสมบูรณ์เจ้าหน้าที่ก็เลยดำเนินการ ในขั้นแรกก็อยู่ในควบคุมของเจ้าหน้าที่ทหารไม่เกิน 7 วันเป็นไปตามมาตรา 44 ของ รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ทั้งนี้อยู่ในดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่จะพิจารณาด้วย ในกระบวนการสืบสวน มีเจ้าหน้าที่ของ คสช. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในช่วงที่อยู่ในการควบคุมเจ้าหน้าที่ทหารจะเน้นหนักไปที่มาตรการขอความร่วมมือ หารายละเอียดข้อมูลก่อน และยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมด้วยว่าจะมีการดำเนินคดีหรือไม่ ซึ่งต้องดูองค์ประกอบด้วย ระยะแรกคือพูดคุยกันก่อน แล้วจึงจะสู่ในระยะที่สอง คือการพิจารณาดำเนินคดีหรือไม่ ซึ่งเรามีหลักฐานที่สามารถดำเนินคดีได้อยู่แล้ว สำหรับบุคคลที่ถูกควบคุมตัวที่จ.ขอนแก่น 2 รายนั้นจะมีการส่งตัวมาที่กรุงเทพฯ ซึ่งที่ผ่านมาก็จะส่งมาที่ มณฑลทหารบกที่ 11 ( มทบ.11) แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามาถึงหรือยัง http://www.thaipost.net/?q=คสชคุม-10-มือโพสต์เข้ามทบ11-รีดข้อมูลผิดพรบคอมพ์ ............................................................................. ถือว่าแถลงข่าวได้เร็วดีครับ มีรายละเอียดขนาดนี้แล้ว ศูนย์ทนายความฯต้นเรื่องน่าจะหมดห่วงแล้วนะครับ และคงจะแจ้งญาติของผู้ถูกควบคุมตัวให้ทราบด้วยนะครับ
กรธ.แปลกใจ ‘สมชัย’ แจ้งความเอาผิดกองทุนขอนแก่น ชี้ ต้องมีมติกกต.ตามกม.ประชามติก่อน “ผมแปลกใจกับสิ่งที่คุณสมชัยไปแจ้งความดำเนินคดีกับองค์กรกองทุนในจังหวัดขอนแก่น เพราะโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กว่า มีความผิดตามกฎหมายประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ทำได้โดยตัวบุคคลหรือไม่ เพราะตามกฎหมายประชามตินั้น กรณีจะวินิจฉัยว่าผู้ใดทำผิดกฎหมายนั้นต้องทำในรูปแบบของคณะกรรมการและต้องมีมติของกรรมการกกต. ซึ่งขณะนี้ ทางกรธ. ได้หารือต่อการดำเนินการเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญในองค์กรสื่อมวลชน โดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. เตรียมทำหนังสือไปยังองค์กรสื่อ เพื่อขอความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้สื่อมวลชนได้รับความคุ้มครองในการนำเสนอรายละเอียดที่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเห็นว่าหากไม่ทำ อาจทำให้สื่อมวลชนไม่ได้รับคุ้มครองและเข้าข่ายทำผิดตามกฎหมายประชามติได้ แต่การดำเนินการดังกล่าวยังต้องอยู่บนพื้นฐานของการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสื่อมวลชนด้วยว่า ต้องไม่บิดเบือน และเป็นสาเหตุที่ทำให้สังคมทะเลาะกัน” นายอุดม กล่าว
ประธานนปช.โวยลั่น 2 ลูกน้องซึ่งเป็นแอดมินเฟซบุ๊ก Jatuporn Prompan ถูกทหารบุกอุ้มหาย โดยยังไม่รู้ชะตากรรม จวกใช้วิธีกองโจร ท้า"ประยุทธ์" ถ้าอยากมีเรื่องมาเอาที่ผมนี่ อย่าไปเล่นงานคนของผม "ผมขอให้เสียงนี้ไปถึงผู้บังคับบัญชา และผู้ใต้บังคับบัญชาที่มาอุ้มคนของผมไปไว้ที่ไหน ถ้าจะดำเนินคดีควรแจ้งข้อหาว่า อะไร ทหารไม่ควรใช้วิธีการการแบบกองโจร มาจับคนไปทรมาน รีดข้อมูลแล้วส่งตัวให้ตำรวจ ถ้าเขาผิดก็ควรดำเนินคดีตามกฎหมาย ดังนั้น การมีอำนาจ จนลุอำนาจ หรือใช้แต่พระเดชมากกว่าพระคุณ ถ้าไม่ใช้ธรรมแล้ว จะทำให้เกิดบรรลัยมามากในอดีต" ผมก็เป็นคนเหมือนกับท่านนะ ท่านเล่นงานคนของผม เท่ากับมีเรื่องกับผมเหมือนกัน เพราะท่านก็บอกชัดเจนว่าท่านมีความรู้สึกอย่างไรกับผู้ใต้บังคับบัญชาท่าน หลานท่าน แล้วผมจะไม่มีความรู้สึกเหรอ http://www.thaipost.net/?q=จตุพรโวยลูกน้องถูกทหารอุ้ม-ท้าบิ๊กตู่อยากมีเรื่องมาเอาที่ผม .................................................................................. ดุดันดีจัง อ่านแล้วปลื้มครับ แต่นี่เท่ากับยอมรับกลายๆหรือเปล่าครับ หากมีความผิดผิดตาม พรบ.คอม. แล้วจะว่าไงต่อละครับ
ภาพบางส่วนจากเว็บ BBC ไทย เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา มีกลุ่มผู้ร่วมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจำนวนหนึ่ง ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปยัง สน.พญาไทหลังจากได้ร่วมจัดกิจกรรมยืนเฉยๆเพื่อแสดงออกว่าไม่เห็นด้วยกับการควบคุมตัวประชาชนในวันนี้ ซึ่งทางการระบุว่ากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก่อนหน้านี้ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงว่าทหารได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ควบคุมตัวผู้มีพฤติกรรมกระทำผิดต่อ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ไว้10 คน โดยคนเหล่านี้อยู่ในกลุ่มที่เจ้าหน้าที่ได้ติดตามข้อมูลมาเป็นระยะเวลานาน โดยได้รับความร่วมมือจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ บุคคลกลุ่มนี้จะยังไม่ถูกตั้งข้อหา แต่เป็นการเรียกมาปรับทัศนคติ โดยจะอยู่ในการควบคุมตัวของ คสช.ไม่เกิน 7 วัน หมดใจ ก็ไปสิ ทุกคนต่างมีหน้าที่ของตัวเองทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฏหมายอย่าทำให้บ้านเมืองมันวุ่ยวายเลยเจ้าหน้าที่ทหารหรือตำรวจเขาต้องทำตามหน้าที่ของเขาเพื่อให้บ้านเมืองสงบสุขเพื่อส่วนรวมมิใช่เพียงแค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่คอยแต่จะทำลายชาติ แผ่นดินเกิดตัวเอง BoBo Nuttawut Kwanpichatsakulเค้าบอกว่าไมไ่ด้ยืนเฉยๆแต่โพสข้อความในสื่อโชเชียล อ่านให้ครบนะ เค้าตามมาสักระยะแล้ว ตามคาดเลย ล็อบบี้เสร็จสักพักจะมีกิจกรรมออกมา บ้านเมืองจะสงบได้ยังไง ทหารเค้าเข้ามา เพื่อไม่ให้ 2สีตีกัน โอนิ ไนน์ ไดอะมอนด์ ทำอะไร ไม่เคยเห็นทำคนเดียวสักที พวกนี้ต้องมีกลุ่ม มีพวกร่วมกันตลอด ชอบทำอะไรเป็นกลุ่ม และสนใจกระแสความคิดของกลุ่มคน ถึงได้รวมตัวออกมาในที่สาธารณะ พวกนี้ไม่เหมือนพวกทำงานหาเช้ากินค่ำส่วนใหญ่หรอกครัช Benjamin Chow พวกคุณโชคดีจัง ถ้าเป็นยุคสมัยที่บอกว่าเป็นประชาธิปไตย คุณอาจจะโดนแก๊สน้ำตาหรือ M79 ตายไปแล้วล่ะ จันผา จันผา บ้างก็แค่รับจ๊อบระยะสั้นๆ บ้างก็ทำเป็นอาชีพ แต่ดูไงก็สมองปลวกพอกัน Pete Y. Chong แดงเทียมอ๊ะป่าวเนี่ยะ ChaiYo Chai หน้าตา นศ สถาบันไหนหรา555
หลังกม.ประชามติออกมาแล้ว อำนาจหน้าที่เป็นของ กกต.ครับ ส่วนกรธ. จะทำหน้าที่ชี้แจง ทำความเข้าใจกับปชช. ในเรื่อง รัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ประยุทธ์ลั่นจับไปเรื่อยๆ ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจเพื่อประชุมร่วมกับคณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนโครงการหลวง ที่จังหวัดเชียงใหม่ ถึงการควบคุมตัวพลเรือน 10 คน ว่า "ทำไม เขาผิดหรือเปล่าล่ะ ถ้าผิดก็จับทั้งหมด ทยอยจับไปเรื่อยๆ ก็ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เข้าไปดู แล้วก็ให้ศาลตัดสินว่าผิดหรือถูก ถ้าผิดก็รับโทษ ไม่ใช่ศาลลงโทษว่าผิดแล้วไม่รับแล้วมาหนีคดี ให้ไปสอนคนแบบนี้ อย่ามาถามผม เข้าใจหรือไม่ หรือต้องถามว่าคนเหล่านี้จะหนีออกนอกประเทศหรือไม่" นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวกรณี กกต.แจ้งความเอาผิดผู้ฝ่าฝืน พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติฯ จะเกิดความวุ่นวายหรือไม่ว่า มันวุ่นวายตั้งแต่เริ่มทำอะไร ท้าทาย ส่วนการเข้าไปจัดการ จะไม่ทำให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งทุกอย่างอยู่ที่ความเหมาะสม ถ้ามากเกินไปก็ไม่ถูก การดำเนินการของเจ้าหน้าที่กับผู้ที่อาจมีพฤติกรรมกระทำความผิด เขาอาจรู้อะไรบางอย่าง แต่ถ้าสิ่งที่เจ้าหน้าที่รู้มาไม่ถูก ความผิดก็ไม่มีอยู่แล้ว ถ้าเรื่องไปถึงศาล ก็ยกฟ้อง หรือเจ้าหน้าที่อาจถูกฟ้องกลับ สุดท้ายใครทำอะไรแม้แต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องรับผิดชอบ อย่างไรก็ตามเห็นด้วยกับบางฝ่ายที่เรียกร้องให้ กกต.ออกมาชี้แจงให้ชัดว่าอะไรที่ทำได้ไม่ได้ ถูกผิด ดำ ขาว เทา http://www.thaipost.net/?q=รวบ10มือโพสต์ป่วน-ตั้งข้อหาผิดพรบคอมพ์-บิ๊กตู่ลั่นทยอยจับเรื่อยๆ ....................................................................... รู้ว่า กม.ประชามติออกมาแล้ว มีการกำหนดข้อห้ามต่างๆ แต่ก็ยังท้าทาย ฝ่าฝืนกฎหมายจะมาอ้างไม่รู้ไม่ได้ อะไรที่ไม่แน่ใจว่าจะผิดหรือเปล่า ควรระมัดระวัง แถมจะอ้างสิทธิมนุษยชนแล้วทำผิดกฎหมายอีก
วันหลังจะชุมนุมภายใต้กฎอัยการศึกหรือ ม.44 เลือกชุดหน่อยดีครับ เอาเป็นลายพรางน่าจะดีกว่าครับ ************************************************************** ลุงกำนันผมนี่ยิ้มจนฟันขาว แทบมองไม่เห็นหน้าแกเลย
"จตุพร" นำ นปช.รุดเยี่ยม มทบ.11 วันนี้ ความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ต้องจับตาในวันนี้ คือกรณีที่ฝ่ายทหารเข้าควบคุมตัวผู้ดูแลเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย หรือที่เรียกว่า "แอดมินเพจ" จำนวน 10 คน โดยมีบางคนถูกระบุว่าทำงานให้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ส่งผลให้ประธาน นปช.ประกาศว่าจะเดินทางไปเยี่ยมถึงสถานที่คุมตัว มณฑลทหารบกที่ 11 ในวันนี้ บุคคลที่ถูกควบคุมตัว 4 คนจาก 10 คน คือ นายนพเกล้า คงสุวรรณ นักกิจกรรมกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง และ นางสาววรารัตน์ เหม็งประมูล โดยทั้งคู่เป็นแอดมินเพจของนายจตุพร ส่วนอีก 2 คน คือ นายหฤษฎ์ มหาทน ภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น กับ นายนิธิ กุลทัศนศิลป์ ภูมิลำเนาอยู่ที่เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ โดยทั้งสองคนนี้ถูกควบคุมตัวที่จังหวัดขอนแก่น นายจตุพร กล่าวในรายการมองไกล ทางพีซทีวี เมื่อวานนี้ เรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ปล่อยตัว นายนพเกล้า และนางสาววรารัตน์ หากเห็นว่ามีการกระทำผิดก็ควรใช้กฎหมายปกติดำเนินการ และหาก คสช.ยังไม่ปล่อยตัว แกนนำ นปช.จะเดินทางไปที่มณฑลทหารบกที่ 11 ซึ่งเป็นสถานที่ควบคุมตัว เพื่อขอเข้าเยี่ยมทั้งสองคน พันเอกวินธัย สุวารี โฆษก คสช. แถลงชี้แจงเรื่องนี้ว่า ฝ่ายทหารโดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ กกล.รส. ได้ควบคุมตัวผู้ที่มีพฤติกรรมกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ จำนวน 10 คน โดยใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว มาตรา 44 โดยการควบคุมตัวดังกล่าวเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ติดตามความเคลื่อนไหวมานานแล้ว และ คสช.ได้รับความร่วมมือจาก ปอท. หรือกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ด้วย อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการตั้งข้อหาใดหรือดำเนินคดี เบื้องต้นมีอำนาจควบคุมตัวไม่เกิน 7 วัน หลังจากนั้นมี 2 แนวทางที่จะดำเนินการ นายกฯ ลั่นไม่หยุดจับถ้าไม่เลิกทำผิด พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังถูกผู้สื่อข่าวถามถึงการจับกุมตัวแอดมินเพจและนักเขียนนิยาย โดยย้ำว่าถ้าทำผิดก็จะจับทั้งหมด และจับไปเรื่อยๆ โดยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที เข้าไปดูแล จากนั้นก็ให้ศาลตัดสินว่าผิดหรือถูก ถ้าผิดก็รับโทษ พลเอกประยุทธ์ ยืนยันด้วยว่า การจับคนกระทำผิดกฎหมาย ไม่ใช่การละเมิดสิทธิ์ เพราะแต่ละคนไม่มีสิทธิ์ไปด่าคนอื่น ฉะนั้นอย่านำเรื่องสิทธิมนุษยชนมาปนกับการกระทำผิดกฎหมาย คุมตัว 16 สมาชิกกลุ่มพลเมืองโต้กลับ เมื่อค่ำวานนี้ ยังมีเหตุวุ่นวายเล็กๆ อีกเหตุการณ์หนึ่ง คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท ได้ควบคุมตัวสมาชิกกลุ่มพลเมืองโต้กลับ จำนวน 16 คน ไปสอบสวนและทำประวัติ ภายหลังจัดกิจกรรมยืนสงบนิ่งบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยตัวทั้งหมดโดยไม่แจ้งข้อหา ยกเว้น นายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มเพียงคนเดียว เนื่องจากสืบทราบว่าเป็นผู้นัดหมายจัดชุมนุมในที่สาธารณะโดยไม่ได้แจ้งขอ อนุญาตล่วงหน้า ซึ่งจะดำเนินการทำสำนวนสอบสวนเพื่อส่งฟ้องต่ออัยการและศาลต่อไป
จับเรื่อยๆครับ ตัดสินผิดหนีไปนอก หนีไปให้หมดก็ดีครับ เบาประเทศดี ตูอยู่สงบสุขไม่ต้องมาทนกับไอ้ประชาธิปไตยจาก สส. ทั้ง ปชป หรือ ไทยรักไทย บ้าๆๆๆ ทั้งหลาย อ้างซะสวยหรู สุดท้ายมันก็เหมือนกับการเล่นคำพูด
ท่านจตุพรแสดงออกแบบมีภาวะผู้นำที่ต้องปกป้องคุ้มครองลูกน้องครับ แต่แค่ติงนิดนึงว่าการปกป้องดังกล่าวอาจจะไม่ทั่วถึง เพราะผมไม่เห็นท่านพูดถึงอีกหลายต่อหลายคนที่ต้องติดคุกยาวเพราะท่านคางคกยุยงให้เผาบ้านเผาเมืองเลยครับ
อัพเดทข่าวต่อครับ 28 เม.ย. 59 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายอุดม รัฐอมฤต โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) หลังมีข่าวว่าออกมาระบุว่าตนทำผิดกฎหมายในกรณีที่ไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่โพสต์ข้อความเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ โดยได้รับการยืนยันจากนายอุดม ว่าไม่ได้พูดตามที่เป็นข่าว ทั้งนี้ การแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษนั้นสามารถแยกเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มแรกการคัดค้านการออกเสียงประชามติเนื่องจากมีการทุจริต ส่วนเรื่องทำผิดอาญาไม่จำเป็นต้องเข้าสู่ที่ประชุม กกต. ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้กระทำผิดได้เมื่อวันที่ 27 เม.ย. จึงถือว่าจบแล้ว เพราะรับสารภาพว่าโพสต์ข้อความด้วยตัวเอง เนื่องจากไม่พอใจ กับบรรยากาศทางการเมือง และไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย แต่กระบวนการสอบสวนต้องดำเนินการต่อเพื่อส่งฟ้องต่อศาล ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่มีการเลือกปฏิบัติ ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าทหารจังหวัดนครสวรรค์แจกใบปลิวรณรงค์ให้ประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญนั้น จะต้องตรวจสอบก่อนโดยจะรวบรวมข้อมูลเข้าสู่ที่ประชุมพิจารณาว่าเป็นการกระทำผิดหรือไม่ เนื่องจากไม่ใช่กรณีที่พบความผิดเองแต่เป็นการนำเสนอโดยสื่อมวลชน http://www.naewna.com/politic/213538 .................................................................................. ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการบังคับใช้กฎหมาย อะไรที่ไม่มั่นใจก็ไม่ควรกระทำ
ถ้าเป็นพวกตั้งใจป่วน ถึงมันรู้ว่าผิด ก็จะทำ เพื่อให้เกิดกระแส แล้วพวกสื่อเลวๆ พวกโหนปชต. พวกโหนสิทธิมนุษย์ชน พวกต่างประเทศที่จ้องขย้ำ ต่างเข้ามาร่วมด้วยช่วยกัน เพราะมันคือเกมส์แห่งการแย่งชิงอำนาจ ไม่ใช่ทำเพราะรักประเทศใดๆทั้งสิ้น
เปิดผังเครือข่ายพบ"จตุพร-บก.ลายจุด"จ้างทำเว็บเพจ ตำรวจคุมตัว 8 ผู้ต้องหา ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ที่กองบังคับการปราบปราม โดยแจ้งข้อหาความผิดตามพระราชบัญญัติความมั่นคง ตามมาตรา 116 และพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ โดยพบความเชื่อมโยงว่ามีนายจตุพร และ บก.ลายจุด เป็นผู้สั่งทำเว็บเพจ พลตำรวจเอกศรีวราห์ สังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้ง 8 คน จะมีผู้สั่งการให้นายชัยธัช รัตนจันทร์ หนึ่งในผู้ต้องหาที่อยู่ต่างประเทศ สั่งการให้นายหฤษฎ์และนางสาวณัฏฐิกา จัดทำเพจเฟซบุ๊ก “เรารัก พล.อ.ประยุทธ์” โดยให้ผู้ต้องหาอีก 6 คน นำรูปภาพและข้อความยุยง ปลุกปั่น ในเพจเฟซบุ๊ก รับค่าจ้างคนละประมาณ 18,000 บาทต่อเดือน โดยในแผนผังมีการระบุว่าขบวนการนี้มีนายจตุพร พรหมพันธ์และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ เป็นผู้ว่าจ้างทำเว็บเพจ ขณะที่หนึ่งในทีมทนายของกลุ่มผู้ต้องหา เปิดเผยว่า หลังศาลเริ่มไต่สวนจึงให้ทนายไปฟังคำสั่ง แต่เมื่อทีมทนายทราบว่าผู้ต้องหาถูกพาตัวมายังกองบังคับการปราบปราบ ก็พบว่าตำรวจได้เตรียมทนายไว้ให้กับผู้ต้องหาแล้ว จึงพยายามเจรจากับตำรวจให้ผู้ต้องหาได้มีโอกาสเลือกทนายเอง เพราะเป็นหลักการสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ต้องหาหลังการถูกควบคุมตัว ส่วนประเด็นการบุกจับกลุ่มผู้ต้องหาตอนเช้าของเมื่อวานนี้ ก็มีการงัดบ้าน ทุบกระจก โดยไม่มีหมายศาล ถือเป็นกระบวนการที่เข้าจับกุมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ก่อนที่วันนี้มีการออกหมายจับที่หลัง ซึ่งมองว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ โดยหลังจากนี้ทหารและตำรวจจะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปฝากขังยังทหารศาลทหารอีกครั้ง http://www.now26.tv/view/75913/เปิดผังเครือข่ายพบ-จตุพร-บก-ลายจุด-จ้างทำเว็บเพจ.html ............................................................... รอดูต่อไปครับ
ทั้งนี้ มีรายงานว่าในอีก 1-2 วันตำรวจอาจมีการเปิดชื่อผู้สั่งการใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ชาย โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมหลักฐานให้ชัดเจนก่อน โดยเฉพาะเรื่องการโอนเงินให้กลุ่มดังกล่าว ซึ่งหากเปิดชื่อออกมาจะสร้างความตื่นตะลึงให้สังคม เพราะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและรู้จักในสังคมอย่างมาก http://www.thaipost.net/?q=ผังล้มคสชโยงนปช-แฉผู้บงการจ้างทำเพจป่วน-จัดหนัก9มือโพสต์พ่วง112 ...............................................................................
เชื่อว่าการที่ปะทุเรื่องกวาดจับเว็บไซต์ เป็นการป้องปราม และแฉให้ประชาชนทราบว่าพวกป่วนบ้านเมืองนี้เล่นใต้ดินโดยอ้างแต่ประชาธิปไตย ทั้งยังไม่อยากให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า คนส่วนใหญ่ชักเริ่มเสพติดกับบ้านเมืองที่ไม่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายน่ารำคาญเหมือนยุคที่ผ่านมา ทหารเข้ามาเป็นปีแล้ว สามารถเอาบ้านเมืองอยู่หมัด กับทั้งมีหลักฐานชัดพอสมควรว่าทีมทำงานพวกนี้มีสายโยงใยกันอย่างไร เล่นน็อคเอาให้ไม่ทันตั้งตัว พวกมันกำลังเพลินๆกันอยู่ คงจะสะเดิดกันพอสมควร อิอิ บ้านเมืองกำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งโดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ คนไทยมีภารกิจต้องตัดสินใจในการลงประชามติ ทหารน่าจะเก็งไว้แล้วว่าช่วงนี้เหมาะสุด เพราะทำผลงานที่รวดเร็วให้เข้าตากรรมการส่วนใหญ่ไว้ได้พอสมควรแล้วในระยะที่ผ่านมา ขืนรอช้าไปอีกอาจจะเป็นช่วงขาลง การจับกุมพวกเว็บที่สะกิดสะเกาพวกนี้ ทหารน่าจะมีทีมที่คอยเช็คกระแสตามเว็บและอาจมีการทำโพลเพื่อดูผลล่วงหน้าของประชามติไปด้วย ..
ทั้งกร่าง ทั้งดิ้น อยากให้เป็นข่าวกันมากนัก... ลองเปลี่ยนที่กิน ที่หลับ ที่นอน ดูบ้างปะไร ? --------------------------- --------------------------- ยังไงๆ เชื่อว่า แผน "พฤษภาทมิฬ" งวดนี้น่าจะเหลว...รอ พฤษภาปีหน้า แล้วกัน ค่อยมาลุ้นกันใหม่... **************************** ****************************
นี่หรือคอลัมน์นิสต์ ไม่รู้เหนือรู้ใต้อะไรเลย(หรือแกล้งไม่รู้) ก่อนจะเขียน ไม่มีการตรวจสอบกันบ้างเลยหรือ เขียนด่าเขาไปแล้ว ถ้าไม่โดนฟ้องก็ทำเฉย ไม่เคยเห็นว่า มีความรับผิดชอบในหน้าที่ตัวเอง ********************************************************** http://www.posttoday.com/columnist/niewkai/429205
ผมเงี๊ยะ...อุตส่าห์ "ก้าวข้าม" ไปแล้ว... ท่านเงี๊ยะ ก็ยังอุตส่าห์ "ชวนดู" ควายลากคันไถสี่เหลี่ยม อีก...
ดูคลิปซักถามผู้ต้องหาแล้วไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ครับ ไม่สามารถอธิบายข้อสงสัยของประชาชนได้เลยว่าผิดเพราะอะไร รายละเอียดของการกระทำความผิดเป็นอย่างไร
รับเงินจาก "พานทองแท้" "ส่วนค่าใช้จ่ายที่ใช้ทำเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากนายหฤษฎ์ มหาทน ซึ่งรับเงินมาจากนายชัยธัช รัตนจันทร์ อีกทอด ซึ่งนายชัยธัชรู้จักและสนิทสนมกับนายพานทองแท้ ชินวัตร และเป็นผู้รับฝากเงินจากนายพานทองแท้มาให้กับนายหฤษฎ์ อีกทอด โดยนายหฤษฎ์จะนำเงินมาให้ น.ส.ณัฏฐิกา และ น.ส.ณัฏฐิกาก็จะเป็นคนจ่ายเงินค่าจ้างในการทำงานของกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวนี้ และนายชัยธัชจะเป็นคนคอยสั่งการและควบคุมนายหฤษฎ์อีกทอดหนึ่ง อันนี้เป็นคำร้องทุกข์กล่าวโทษของ พล.ต.วิจารณ์ จดแดง ผอ.ส่วนกฎหมายและสิทธิมนุษยชน กอ.รมน. และหัวหน้าฝ่ายกฎหมายหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการข่าว คสช. มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่ 1-8 http://www.thaipost.net/?q=‘โอ๊ค’พันแก๊งโพสต์-คำฝากขังแฉหนุนเงิน2รายโดน‘ม112’ ................................................................................
เปิดผังเครือข่ายพบ "จตุพร-บก.ลายจุด" จ้างทำเว็บเพจ "ศรีวราห์" สอบผู้ต้องหาเครือข่ายทักษิณ รับเงิน “จตุพร-บก.ลายจุด” ทำเพจป่วน คสช.-ประชามติคว่ำร่าง รธน. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหาร กระทำผิด ม.116 รับเงิน "จตุพร-บก.ลายจุด" ว่าจ้างทำเพจต้าน คสช. โฆษก คสช. ยัน คนผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลักฐานชัด ไม่พบเชื่อมโยง "จตุพร" ไม่เข้าข่ายผิดประชามติ คุมเข้มมากขึ้น มั่นใจรับมือได้ ขณะนำตัว 8 มือโพสต์ต้านประชามติฝากขังเช้า โฆษกกองทัพบก และโฆษก คสช. พ.อ.วินธัย สุวารี บอกว่า กรณีการควบคุมตัวคนผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และกฎหมายอาญา ม.116 ว่า จากการตรวจสอบมีการใช้โซเชียลมีเดียกระทำผิดอย่างชัดเจนถือได้ว่าเป็นหลักฐานที่สมบูรณ์ และมีการกระทำเป็นกลุ่มเป็นกระบวนการ โดยเนื้อหาที่พบนั้น เข้าข่ายผิด ม.116 ด้วย ซึ่งหลังจากนี้ จะดำเนินการไปตามขั้นตอนยุติธรรม ส่วนจะเชื่อมโยงว่าสนับสนุนทางด้านการเมืองกลุ่มใดนั้น ยังคงต้องรอการสอบสวนเพิ่มเติม และจากรูปแบบคดี ยังไม่พบในเรื่องของการผิด พ.ร.บ.ประชามติ และร่าง รธน. ที่เชื่อมโยงกับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. แต่อย่างใด ทั้งนี้ จากการประเมินสถานการณ์ความเคลื่อนไหวในขณะนี้ โดยส่วนใหญ่ยังคงพบกลุ่มเดิมๆ ออกมาพยายามเคลื่อนไหวต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้แน่นอน 8 มือโพสต์วืดประกัน หอบหมอนนอนเรือนจำ-ทนายยื่นซ้ำ 2 พ.ค.
มาฟังลุงตู่พูดถึงคดีนี้กันครับ กรณียิ่งลักษณ์โพสต์ (เอง?) “ก็โพสต์ไป ผมไม่ได้ไปอะไรกับท่าน ให้เกียรติท่าน ผมเป็นคนที่ไม่รังแกผู้หญิง แต่เรื่องของคดีความก็ให้กระบวนการยุติธรรมไปว่ามา สิ่งที่พูดอย่าเอาไปปนกันทั้งหมด การที่เราจะฟ้องอะไรสักอย่างถ้าถูกต้อง เช่น ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ มีการทุจริต การฟ้องก็ไม่ผิด เพราะที่ผ่านมามีการปล่อยปละละเลย จึงต้องใช้อำนาจตรงนี้ แต่ก็ใช่ว่าจะเอากันจนตาย เมื่อเข้ากระบวนการยุติธรรมก็ถือว่าจบสิ้น” “จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ล้อเลียนอะไรผมหรอก แต่เขาสอบสวนทั้งกระบวนการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการหมิ่นสถาบันก็มี หรือจะปล่อยบอกว่าเขาไม่เกี่ยว ก็มันโยงใยกันอยู่ ไม่ได้บังคับให้รับ จะบ้าหรือยังไง จะไปซ้อมให้รับ ผมไม่เคยสั่งการอยู่แล้ว แต่บิดเบือนทั่วไปแบบนี้ คงไม่ได้ ซึ่งบางคนละเมิดแล้วละเมิดอีก ถ้าปล่อยจับ ปล่อยจับ กระบวนการยุติธรรมของผมจะเสีย ไปเตือนเขาสิ เรียนหนังสือกันหรือเปล่า หรือมีอาชีพแบบนี้ก็ว่ากันไป ถ้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เขาไม่กลัวเสียชื่อเสียงก็ให้คนเหล่านี้เขาอยู่ไป ผมไม่ว่าอะไร คนดีๆ ก็เยอะแยะ เพราะผมคิดว่านักศึกษา อาจารย์ ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เห็นชอบอยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว ........................................................ แสดงว่าลุงตู่ก็อ่าน ตามข่าวทั่วๆไปอยู่เหมือนกันได้รับรู้ความคิดเห็นเกี่ยวกับ ธรรมศาสตร์ว่า ทำไมเรื่องราวที่ไม่ดีต่างๆมักออกมาจากธรรมศาสตร์เสมอ หลังจากนี้คงมีการสอบถามไปยังผู้บริหาร ถ้าจะถามว่าไปกดดันไหมผมคิดว่าไม่ใช่เพราะ เร่ื่องแบบนี้ออกมาบ่อยและนานมากแล้ว ผู้บริหารสมควรจะจัดการเสียที หากไม่อยากให้สถาบันแห่งนี้ถูกขนานนามในด้านลบ ตลอดไป แถมลุงตู่ทิ้งท้าย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เปิดดูบ้างหรือไม่ว่าเฟซบุ๊กนั้นเขาเขียนอย่างไร และควรเขียนหรือไม่ มันไม่เกี่ยวกับการทำประชามติ แต่เกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 มาตรา 112 ถ้าไม่มีเขาไม่จับหรอก จับให้มันเปลืองข้าวหรือยังไง เพราะจับแล้วสำนึกหรือไม่ คุณต้องการให้คนพวกนี้ทำให้บ้านเมืองมีปัญหาต่อไปหรือ วันหน้าหากเขาออกไปไหนไม่ได้ โดนตีหัวจะทำอย่างไร แต่ 8 คนนี้ ออกมาเดินมากๆ เถอะ แต่อย่ามาเรียกร้องให้ทหารตำรวจช่วยก็แล้วกัน ไม่คุ้มครองหรอก ....................................................................... ปากร้ายไปอย่างนั้นเอง
ผมว่าดีมากครับที่เอามาให้เห็นกันในที่แจ้ง ไม่มีอะไรให้ต้องเคลือบแคลงสงสัย ตำรวจก็เล่นเกมส์ Prisoners Dilemma ไป จำนวนผู้ต้องหาขนาดนี้ ถ้าโกหกก็โกหกไม่ได้เหมือนกันทั้งหมดหรอกครับ พอคนหนึ่งหลุดปากเรื่องหนึ่ง เดี๋ยวความจริงทั้งหมดก็ขึ้นสู่ผิวน้ำเอง
ถ้าบรรดาฝ่ายปชต.ที่ขยันมาตั้งกระทู้และโพสท์ในนี้ หน้าตาท่าทางและสติปัญญาอยู่ระดับเดียวกันกับที่อยู่ในคลิป ไอ้เหลี่ยมจองเมรุเผาศพในต่างประเทศไว้ล่วงหน้าดีกว่า อย่าได้หวังจะได้กลับบ้านอย่างเท่ๆเลย
อันนี้ เอา "หมายเรียก" ไปรับทราบก่อน... ----------------------------------- ----------------------------------
***ไม่กล้า เพราะเห็นทหารเอาจริงถึงติดคุก ได้แค่เศษเงินแต่เสี่ยงคุก ไม่เอาดีกว่า ***ไม่ว่าง เพราะศาลไม่ให้ประกัน มโนล้วนๆ
จากที่มีกระแสแจ้งเตือนกันในโลกออนไลน์ ให้ระมัดระวังการส่งข้อความหรือแชทในอินบ็อกซ์ หรือกล่องสนทนาของเฟซบุ๊ค เนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอาจเข้าไปตรวจสอบข้อมูลได้ หลังจากมีการอ้างคำสัมภาษณ์ของหนึ่งในแปดผู้ต้องหาที่เป็นแอดมินเพจ “เรารัก พลเอกประยุทธ์” ว่าตำรวจนำข้อความที่ส่งถึงคู่สนทนาในอินบ็อกซ์มาให้ดู และอ้างเป็นหลักฐานในคดีนั้น ทีมพิกัดข่าว NOW26 ได้ตรวจสอบกับนายตำรวจผู้เชี่ยวชาญ สังกัดสํานักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ได้ข้อมูลว่า คดีแอดมินเพจ 8 คนที่ถูกดำเนินคดี ตำรวจไม่ได้เข้าไปล้วงหรือแฮคข้อมูลในอินบ็อกซ์ และไม่ได้ประสานขอตรวจสอบข้อมูลการสนทนาของผู้ต้องหาจากสำนักงานใหญ่ของเฟซบุ๊คด้วย เนื่องจากทางเฟซบุ๊คไม่เคยให้ความร่วมมือกับตำรวจของไทยในเรื่องนี้ แม้จะเป็นคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือแม้แต่การเปิดเพจปลอมในเฟซบุ๊คก็ตาม กระบวนการตรวจสอบ หากดำเนินการอย่างเป็ฯทางการ ต้องทำหนังสือส่งไปยังสำนักงานเฟซบุ๊คในต่างประเทศ ซึ่งส่วนมากมักไม่ให้ความร่วมมือ เนื่องจากเฟซบุ๊คยึดหลักการรักษาความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ประกอบกับกฎหมายอาญาไทยบางเรื่อง ไม่ได้มีใช้เป็นการทั่วไปในต่างประเทศ สำหรับคดี 8 แอดมินเพจนั้น การสืบสวนคดีนี้กระทั่งได้หลักฐานยืนยัน มาจากการยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ผู้ต้องหาใช้ หรือเคยใช้จากการไปพักตามสถานที่ต่างๆ แล้วทำการกู้ข้อมูลการใช้ขึ้นมา แม้จะมีการลบข้อมูลทิ้งไปก็ตาม แต่ก็มีวิธีกู้คืนมาได้ ซึ่งการค้นหาใช้เวลาเพียงไม่นาน หรือบางกรณีก็พบการคัดลอกข้อมูลแล้วเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ เจ้าหน้าที่ก็สามารถนำมาตรวจสอบและใช้เป็นหลักฐานได้ เพิ่มข้อหามือโพสต์ผิด ม.112 ศาลทหารไม่ให้ประกันตัว 8 คน พล.ต.อ.ศรีวราห์ เผยยังไม่มีหลักฐานออกหมายจับ พานทองแท้ ชินวัตร หลังถูกซัดทอดอยู่เบื้องหลังกลุ่มแอดมินเพจ "เรารัก พล.อ.ประยุทธ์" วันนี้ (4 พ.ค. 59) ความคืบหน้าคดีการจับกุมกลุ่มแอดมินเพจ "เรารัก พล.อ.ประยุทธ์" ซึ่งเป็นเพจที่มีเนื้อหาล้อเลียนนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการจับกุมผู้ต้องหารวม 8 รายในข้อหาความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ล่าสุดนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ เปิดเผยว่าในวันที่ 10 พ.ค.นี้ จะยื่นขอประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ต่อศาลทหารกรุงเทพมหานครเป็นครั้งที่ 3 หลังจากเคยยื่นประกันแล้ว 2 ครั้งแต่ศาลยังไม่อนุมัติ นอกจากนี้ยังเแสดงความกังวลในการตั้งข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวนที่มีความพยายามนำไปเชื่อมโยงกับเรื่องการเมืองมากเกินไป ส่วนกรณีที่ปรากฏข้อมูลในเอกสารคำร้องฝากขัง ที่ระบุว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังผู้ต้องหากลุ่มนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวมาจากการซัดทอดของผู้ต้องหา ซึ่งหลังจากที่ตรวจสำนวนแล้ว พยานหลักฐานยังไม่ชัดเจน จึงยังไม่มีการออกหมายเรียกหรือออกหมายจับ ส่วนจะมีบุคคลอื่นๆนอกเหนือจาก นายพานทองแท้ แต่ยืนยันว่าหากใครเข้ามาเกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินการทั้งหมด ส่วนกรณีของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ที่มีชื่อปรากฏในแผนผังเชื่อมโยง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติระบุว่า ต้องดูพยานหลักฐานเพิ่มเติมเช่นเดียวกัน เพราะหากพยานหลักฐานมีน้ำหนักไม่เพียงพอก็จะไม่สามารถออกหมายเรียกหรือออกหมายจับได้
