ถ้าผมเป็นนายกสมาคมประเมิน ผมจะปฏิวัติ!

กระทู้ใน 'สภากาแฟ' โดย ดร.โสภณ พรโชคชัย, 19 Apr 2017

  1. ดร.โสภณ พรโชคชัย

    ดร.โสภณ พรโชคชัย สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    6 Dec 2016
    คะแนนถูกใจ:
    2
    ถ้าผมเป็นนายกสมาคมประเมินค่า/ราคาทรัพย์สิน/อสังหาริมทรัพย์ ผมจะปฏิวัติวงการเสียใหม่ ให้เป็นประชาธิปไตย ทำเพื่อให้นักวิชาชีพมีเกียรติและศักดิ์ศรีด้วยการรับใช้สังคมอย่างเที่ยงธรรม
    ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ขอร่วมแสดงความเห็นต่อบทบาทของผู้นำในวงการประเมินค่าทรัพย์สิน ว่าควรดำเนินการอะไรบ้าง แต่ ดร.โสภณ ไม่ประสงค์ที่จะไปร่วมแข่งขันเป็นนายกสมาคมใด เพียงแสดงความเห็นในเชิงสร้างสรรค์เท่านั้น
    1. ผมจะเรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ให้ธนาคารพาณิชย์ประเมินค่าทรัพย์สินเอง เพราะจากบทเรียนวิกฤติปี 2540 ธนาคารประเมินกันเองมากจนกระทั่งเกิดหนี้ NPLs กันมากมาย แต่ขณะนี้ธนาคารเริ่มประเมินกันเองอีกแล้ว นัยเพื่อลดต้นทุน แต่ที่จริงหากจ้างบริษัทประเมิน มีต้นทุนถูกกว่า และต้นทุนด้านประเมินนั้นน้อยนิดเพียงไม่ถึง 0.1% ต่างจากค่าบริหารการขาย 3% ตั้งมากมาย
    2. ผมจะให้ธนาคารต่าง ๆ เลิก "สัญญาทาส" กับบริษัทประเมินที่มุ่งเอาโทษเกินความจริง แต่ให้บริษัทประเมินทำประกันทางวิชาชีพ เช่น ในวงเงิน 30 ล้านบาท จ่ายเบี้ยประกันประมาณ 150,000 บาทต่อปี และผู้ประเมินค่าทรัพย์สินก็จ่ายเบี้ยประกันทุกงาน ๆ ละ 1% ของค่าจ้างที่ได้รับ เพื่อให้มีความรับผิดชอบร่วมกัน ถ้าประเมินผิด ก็มีบริษัทประกันจ่ายให้ แต่ถ้าผิดเพราะทุจริต ก็ไม่ได้รับการคุ้มครอง
    3. ในด้านการสอบเป็นผู้ประเมินระดับชั้นต่าง ๆ ผมจะให้มีการสอบในแต่ละชั้นปีละ 3 ครั้ง ไม่ใช่ปีละครั้ง คนที่สอบได้จำนวนน้อยนิดเลยถูกซื้อตัวกันไปมา แต่ไม่ได้ "ปล่อยผี" แต่การสอบบ่อย ๆ จะทำให้ได้คนมาเข้าสู่วงการมากขึ้น ผู้ตรวจงานประเมินของแต่ละธนาคาร ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมธนารักษ์ ก็ควรผ่านการสอบเช่นกัน จะได้มีการยกระดับมาตรฐานวิชาชีพมากขึ้น ผมจะไม่เก็บค่าสอบหรือลดค่าสอบให้เหลือเพียง 500 บาทต่อครั้ง เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ผู้สอบ เพื่อส่งเสริมให้ทุกฝ่ายมาร่วมสอบ ยกระดับวิชาชีพ จริงๆ ฟรีได้ยิ่งดีเพราะสมาคมเราก็มีรายได้จากงานอื่นๆ อยู่แล้ว
    4. ผมจะจัดเก็บค่าอบรมต่าง ๆ แต่น้อย ปัจจุบันนี้ผู้ประเมินต้องเสียค่าอบรมปีละหลายพันบาท แม้แต่งานประชุมประจำปีให้สมาชิกไปออกเสียง ก็ยังเก็บเงิน ทำให้คนไปกันน้อย อย่าได้รีดเลือดกับปูเลย ควรส่งเสริมกันและกัน นอกจากนี้ควรให้มีกิจกรรม CPD (Continuing Professional Development) โดยผ่านหน่วยงานหลากหลาย ไม่ใช่สมาคมผูกขาดเอง เพื่อลดต้นทุนให้กับผู้ผ่านการอบรม
    5. ผมจะส่งเสริมให้ผู้ประเมินค่าทรัพย์สินที่ เป็นลูกจ้าง ได้รวมตัวกันจัดตั้งสหภาพแรงงานผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน เพื่อการคุ้มครองผู้ประเมิน นายจ้างจะไปรู้ดี หรือเห็นแก่ประโยชน์ของลูกจ้างถ่ายเดียวคงเป็นไปไม่ได้ การต่อรองกัน (ในยามจำเป็น) อาจเป็นทางออกที่ดีกว่าแบบ "พ่อปกครองลูก" ผู้ประเมินค่าทรัพย์สินจะได้มีอิสรภาพทางความคิดอีกด้วย
    6. ผมจะไม่รับค่าตอบแทนใด ๆ การมาทำงานเพื่อส่วนรวม ไม่ควรมีผลตอบแทน จะได้ส่งเสริมการมาทำประโยชน์ต่อส่วนรวมด้วยใจแบบจิตอาสา การเป็นนายกฯ กรรมการ อนุกรรมการ ควรทำด้วยใจสมัคร เพราะการทำแบบนี้ก็ได้รับการยอมรับในสังคมอยู่แล้ว และควรมีการหมุนเวียน ไม่ควรมีการผูกขาดแบบสมาคมกีฬาบางแห่งในอดีต
    7. ผมจะจัดให้มีหน่วยตรวจสอบบริษัทประเมินและผู้ประเมินค่าทรัพย์สินว่าดำเนินการตรงตามมาตรฐานหรือไม่ หรือหากมีการร้องเรียนก็ต้องตัดสินบนพื้นฐานที่เป็นธรรม ไม่ใช่กลัวแต่ว่าจะถูกฟ้องกลับ ไม่ต้องทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
    8. ผมจะเร่งร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพประเมินค่าทรัพย์สิน เพื่อให้มีสภาผู้ประเมินค่าทรัพย์สินที่รัฐบาล ซึ่งถือเป็นตัวแทนของประชาชนมาดูแล มีนักวิชาชีพ สถาบันการเงิน สถาบันวิชาการ ผู้ประเมินอาวุโส มาเข้าร่วม และที่สำคัญให้มีการเลือกผู้แทนของผู้ประเมินค่าทรัพย์สินแบบเลือกตั้งตรงมา ไม่ใช่ให้ "ผู้มีอิทธิพล" มาคอยกำกับ
    ผมเคยเป็นกรรมการสมาคมด้านประเมินค่าทรัพย์สิน เป็นสมาชิกที่ดีของทุกสมาคม และไม่เคยคิดจะไป "ช่วงชิง" กับใคร ผมเป็นผู้แทนในสมาคมประเมินค่าทรัพย์สินนานาชาติหลายแห่ง ผมมาบำเพ็ญประโยชน์ด้วยการบริจาคเงิน 200,000 บาท ก่อตั้งมูลนิธิค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทยด้วยการ เพื่อให้ความรู้แก่สาธารณะชน ผมจัดเสวนาวิชาการทุกเดือนต่อเนื่องมารวมทั้งหมด 177 หน (นับถึงเดือนเมษายน 2560) โดยสมาชิกเสียเงินปีละ 1,000 บาท เสวนาได้ 12 หน มีวารสารแจกฟรี จัดประกวดเรียงความชิงโล่พระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ฯลฯ ผมเป็นประธานมูลนิธิ แต่ต่อมายกตำแห่งให้ท่านอื่น ๆ มาเป็นบ้าง เพื่อมาร่วมกันสร้างสรรค์โดยไม่ได้ผูกขาดใดๆ
    มาช่วยกันพัฒนาวิชาชีพประเมินค่าทรัพย์สินเพื่อสังคมที่เที่ยงธรรมเถอะ
    ที่มา: http://www.area.co.th/thai/area_announce/area_press.php?strquey=press_announcement1919.htm
     
  2. AlbertEinsteins

    AlbertEinsteins อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    13 Dec 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,479
    ก่อนจะประเมินอะไร
    ควรประเมินตนเอง ทั้งในแง่ ความรู้ความสามารถ และจริยธรรม ว่าดีพอ ก่อนนะครัช
    ถ้าดีพอ ไม่ขายขี้หน้า ค่อยออกมาบอกกล่าวให้สังคม
     
    Last edited: 20 Apr 2017
    Huligan และ Alamos ถูกใจ.
  3. โยธกา

    โยธกา อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    20 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    3,727
    ยกหางตัวเองขนาดนี้
    ยังไม่มีใครเลือก
     
    Huligan likes this.
  4. redfrog53

    redfrog53 อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,466
    นายแน่มาก ด๊อกฯ ครั้งหน้า เลือก ผว. กทม. ลงอีกนะ ลงไปว่ายวัดความลึกเจ้าพระยาเลยฯ
     
    apollo และ Huligan ถูกใจ.
  5. kitty

    kitty สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    28 Apr 2016
    คะแนนถูกใจ:
    107
    ช่วงนี่อากาศร้อน ขอให้ท่านทั้งหลายมีสติ ไม่งั้นท่านอาจสติแตกและเกิดอาการเพ้อเจ้อ
     
    redfrog53 และ apollo ถูกใจ.

Share This Page