ครับ ข้อความของกระทู้นี้คือ "ถ้าคุณทักษิณ ยอมติดคุกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว - ป่านนี้จะมีชีวิตอยู่เหรอ?" แยกได้ประเด็น 2 เรื่องครับ 1. คุณทักษิณยอม หรือไม่ยอมติดคุก 2. เมื่อ 10 ปีมาแล้ว ป่านนี้จะมีชีวิตอยู่หรือไม่ ใน 1.ย่อมรู้กันอยู่แล้วว่า คุณทักษิณ "หนีคดี" ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ดังนั้นย่อมทำให้ผู้คนเชื่อได้ว่า ท่านคิดว่าท่านได้ทำเรื่องผิดจริงแน่ๆ จึงหนีไปเมืองนอก เพราะถ้าอยู่ต้องโดนพิจารณาโทษให้ติดคุกแน่นอน ส่วน 2. เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ได้แน่ ว่า ถ้าคุณทักษิณยอมติดคุก เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ซึ่ง ณ เวลาปัจจุบันต้องพ้นโทษออกมาแน่นอน วันนี้ในนิยาม 2. คุณทักษิณอาจเจ็บไข้ได้ป่วย หรืออาจแข็งแรง ไปตีกอล์ฟได้ทุกวันก็ได้ ...ใครจะไปรู้ เพราะถึงวันนี้ความเป็นจริงคือคุณทักษิณ ได้ตัดสินใจทำตาม นิยาม 1. ไปแล้ว เรื่องที่น่าคิดใคร่ครวญกันให้ดี น่าจะเป็น นิยาม 1. ซึ่งจะมีผลถึงวันนี้ จริงไหม ถ้าคณทักษิณยอมขึ้นศาล จะผิดจะถูกอย่างไรให้กระบวนการยุติธรรมไทย (ซึ่งคุณทักษิณกล่าวหาว่าไม่เป็นกลาง แต่มักจะใช้ศาลไทยเป็นสถานที่ตอบโต้ฟ้องร้องผู้กล่าวหาคุณทักษิณในเรื่องต่างๆ เสมอมา) เป็นผุ้ตัดสิน หากคุณทักษิณยอมขึ้นศาล ก็คงถูกลงโทษจำคุก 2 ปี ตามที่มีคำตัดสินของศาลมาแล้ว แต่ผมคาดว่าคุณทักษิณ คง "พักผ่อน"อยู่ในเรือนจำไม่ถึงสองปีหรอกครับ อย่างมากคงไม่เกินปีเดียว แต่งหนังสือในคุกคงยังไม่จบเล่มก็น่าจะได้รับอภัยโทษในกรณีย์ต่างๆ ป่านนี้ พรรคเพื่อไทย ก็น่าจะมีคุณทักษิณเป็นหัวหน้าพรรค ไม่ได้มีสภาพเป็นพรรคหัวมังกุท้ายมังกร เอ้อเร้อเอ้อเต่อ อย่างที่เห็นๆกัน และถ้าพรรคเพื่อไทยยังได้รับความเชื่อถืออย่างในอดีต คุณทักษิณก็อาจมีวาสนาได้กลับมาเป็น นายกรัฐมนตรีของไทยอีกครั้งก็ได้ใครจะไปรู้ แต่เรื่องจริงที่เกิดขึ้น คือคุณทักษิณหลบหนีไปเมืองนอก และไปบัญชาการการเคลื่อนไหวทางการเมืองจากนอกประเทศ ทำให้ผู้คนจำนวนมากตำหนิด่าว่า ว่ากลัวการติดคุกจึงหนีไป ซึ่ง..โดยส่วนตัวผมคิดว่า คุณทักษิณมิได้กลัวการถูกจองจำ จำกัดเขตที่อยู่ในเรือนจำไรเลย เพราะยังสามารถดูแลพรรคการเมืองและผู้คนในอาณัติของตนได้ ใกล้กว่าอยู่เมืองนอกเสียอีก และสภาพความเป็นอยู่ในคุกของคุณทักษิณก็ไม่น่าจะเดือดร้อนทุกข์ยากมากมายอะไร เพราะคุณทักษิณมีเงิน เงินจำนวนมหาศาลเสียด้วย ตัวผมเองคาดเดาว่า ที่จริงแล้ว คุณทักษิณท่านกลัวว่าสิ่งที่ท่านทำไปแล้วจะถูกตัดสินจากทั้งทางกฎหมายและสังคม ว่าท่านทำชั่วร้ายเลวทราม ไม่เป็นที่ยอมรับของผู้คนต่างหาก ที่คุณทักษิณกลัว กลัวว่าคนที่เคยนิยมบูชา จะเสื่อมความเคารพยกย่อง กลัวว่าจะถูกสังคมรุมประณามว่าคือคนไม่ดี ถ้าคุณทักษิณกลัวเกรงดังที่กล่าวเบื้องต้น ก็ถือได้ว่าคุณทักษิณคิดและเข้าใจสังคมมนุษย์ผิดพลาดแล้ว เพราะโดยทั่วๆไป หากผู้ใดเดินตามการบวนการยุติธรรม หากถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิด และเขาผู้นั้นยินยอมรับโทษทัณฑ์นั้นโดยดี เมื่อครบกำหนดโทษ กติกาของกฎหมายและสังคมถือว่า เขาผู้นั้นนับแต่ก้าวเท้าพ้นประตูคุกออกมา เขาคือผู้เคยต้องโทษแต่ปัจจุบันนั้น เขาคือผู้บริสุทธิ์ แน่นอนว่า กฎเกณฑ์บางอย่าง เช่นหน่วยงานราชการไม่รับผู้เคยต้องโทษจำคุกให้เข้าทำงาน หรืออาจมีผู้คนติฉินนินทา ก็เป็นเหตุจากอดีต ซึ่งคุณทักษิณได้ยอมรับไปแล้วด้วยการยินยอมทำตามกฎหมาย แต่เมื่อคุณทักษิณไม่ยินดีทำ แต่กลับมีพฤติกรรมในการต่อต้านระบบกฎหมายไทยและสถาบันสังคมไทย ด้วยวิธีการต่างๆ จะด้วยเหตุไม่ได้ทำผิดจริง ไม่ได้กลัวการติดคุกจริงๆ หรือเข้าใจความคิดของผู้คนแต่ไม่ยินดีให้ตนเองยืนอยู่ในสภาพที่ตนไม่ชอบ ก็แล้วแต่ นี่แสดงให้เห็นถึง ระบบความคิดของคุณทักษิณ ว่าจริงๆแล้ว .. คุณทักษิณเกิดมาในตระกูลที่ไม่ได้ยากจน ได้ร่ำเรียนในโรงเรียนชั้นดีมีชื่อเสียง จนสามารถได้เข้าดำรงตำแหน่งเป็นนายตำรวจอยู่ระยะหนึ่ง แต่ประสบการณ์ชีวิตของคุณทักษิณ ที่มีอยู่ไม่เพียงพอให้มองพิจารณาผู้คนในสังคมใด้ตรงกับความเป็นจริง เนื่องจากข้อจำกัดของคนที่ดำเนินชีวิตอยู่ในชนชั้นค่อนข้างสูงของสังคม ทำให้สายตาที่มองโลก เห็นได้ไม่ครบด้านในมิติต่างๆของสังคม คุณทักษิณอาจมีความสามารถในการบริหารจัดการบริษัทที่ตนเองจัดตั้ง อาจรู้จักเสาะหาช่องทางจนทำให้บริษัทใหญ่โต อาจฉลาดในการหาเงินใส่กระเป๋าจนรวยมหาศาล อาจเก่งในเรื่องหว่านล้อมให้คนยากไร้เชื่อถือมาเป็นพวกได้ อาจใช้เงินเป็นด้วยการจ้างผู้คนให้มารับใช้ตน แต่คุณทักษิณไม่รู้ไม่เข้าใจในเรื่อง ความไม่แน่นอนของชีวิตคน ที่มีลาภก็มีเสื่อมลาภได้ มียศมีตำแห่งก็มีเสื่อมยศได้ มีผู้คนสรรเสริญยกย่องก็มีด่าว่าตำหนินินทาเป็นของคู่กัน ด้วยเหตุนี้คุณทักษิณจึงหนีไป เพราะเกรงผู้คนจะล่วงรู้ถึงตัวตนว่าเป็นอย่างไร "คุณทักษิณกำลังหลบหนีตนเอง"
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ออกรายการศาสตร์พระราชาฯ โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ภาพที่มีคนไทยหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ มีความเคลื่อนไหวในการบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ประเทศไทย สถาบัน หลายคนมีการโอนสัญชาติไปแล้ว ก็อ้างเหตุผลถูกปฏิวัติรัฐประหาร ไม่เป็นธรรม ต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจ ว่าคนเหล่านี้ทำผิดกฎหมายในประเทศของเราหรือไม่ ถ้าผิดมันก็คือผิด ทุกคดีเข้าไปสู่การดำเนินคดี ด้วยกฎหมายปกติ ด้วยศาลปกติ ผิดถูกก็ไปพิสูจน์กันเอง สิ่งที่น่าสงสัยก็คือ คนเหล่านั้นที่หนีไปสามารถอยู่อาศัยในต่างประเทศได้อย่างไร เอาเงินจากที่ไหนมาใช้ มีอาชีพ มีรายได้จากที่ไหน ช่วยกันตรวจสอบด้วย รัฐบาลและ คสช. พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกคดี ทุกคน ขอให้กลับเข้ามาสู่กระบวนการศาล
ถ้าคุณดูบริบททั้งโกงเช็ค โกงหุ้นส่วนเคเบิลทีวี โกงคู่ค้าองค์การโทรศัพท์ กีดกันการค้าให้คู่แข่งมีค่าใช้จ่ายสูง (อันนี้อาจยกประโยชน์ให้เพราะเรื่องการค้า) หรือ คดีอัปยศอันลือลั่น ซุกหุ้น แบบบกพร่องโดยสุจริต ทั้งที่โกงและลวงผู้อถือหุ้นอื่น สมัยก่อนยื้อได้เพราะอาจมีถุงขนม ทั้งต้นทาง (สืบสวน) กลางทาง (สอบสวน สำนวน) และ ปลายทาง รอดมาได้ด้วยอำนาจแห่งถุงขนม รอบนี้ทำแบบเดิมไม่ได้ ดูแค่คดีขายหุ้นชินให้เทมาเส็ค ก็ยังซุกนอมินี ซุกชื่อลูก เจตนาจะทุจริต ทุจริตเชิงนโยบาย แกเลยกลัว ว่าเข้าคุกไป จะโดนอีกหลายคดี เพราะไร้อำนาจไร้บารมีไว้ขู่กระบวนการยุติธรรม คงเหลือประเด็นแค่คือกลัวติดคุก กะ หมดอำนาจเอาคืนคนอื่น ก็เท่านั้นแหละ
ความจริงกระทู้นี้ น่าจะเปลี่ยนเป็นเมื่อ 10 ปีที่แล้วถ้าเสื้อแดงไม่ถูกจับให้พวกขี้แพ้อย่างตัดแปะกับพวกขโมยผลงานมาใช้ งตัดแปะจะมีปัญญาทำมาหากินอะไร
ศาลตัดสินให้เป็นคุณกับตัวก็บอก #"ยุติธรรม" แต่ถ้าตัดสินไม่เป็นคุณก็บอก #"ศาลเป็นที่ยุติความเป็นธรรม" DNA ไอ้หน้าเหลี่ยมเลยเนี่ย