ของยังแพงเหมือนเดิม เงินก็ขาดสภาพคล่อง หนี้ครัวเรือนก็ยังสูง เศรษฐกิจก็ดิ่งเหว คนไทยได้อะไรครับ เพียงแค่ความแค้นล้วนๆ ของพวกศักดินาเก่า แล้วก็ปลุกระดมอีกฝั่ง ให้ระอุ ขึ้นมา เก่งแต่เรื่องโง่ๆ กับใช้อำนาจ บริหารประเทศห่วยแตก มีแต่คนด่า
ลูกไอ้"ล้างป่าช้า"เนี่ย มันโง่ได้เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ เปลี่ยนล๊อคอินใหม่แต่ความเป็นควายก็ยังเหมือนเดิม
ที่ถอนพาสปอร์ตเพราะทักษิณผิดกฎหมายมาตรา 112 เปรียบกับจับคนติดยาเขาคุก คนไทยได้อะไร? จับทักษณคนไทยก็ได้อย่างนั้นแล
อ่ะ อ่านซะนะ ไอ้ควาย 7 มกราคม 2013 เวลา 18:58 น. · ....อภิสิทธิ์ ตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร จริงหรือ 1. ข้อกล่าวหาของฝ่ายเสื้อแดง ว่า อภิสิทธิ์ ตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร ....ย้อนอดีตกลับไปวันที่ 6 ธันวาคม 2551 พรรคประชาธิปัตย์นัดแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลที่โรงแรมสุโขทัย เวลา 18.00 น. ก่อนจะเลื่อนมาเป็น 18.45 น. เพราะการเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่สิ้นสุด นายเทพไท เสนพงศ์ ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุไอเอ็นเอ็น ตอนประมาณ 16.00 น.ว่ากำลังประชุมร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ แต่บอกสถานที่ไม่ได้ เหตุที่บอก”สถานที่”ไม่ได้ เพราะสถานที่นั้นคือบ้านหลังหนึ่งในกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ตามข่าวในหนังสือพิมพ์หลายฉบับระบุว่าเวลา 16.00 น. แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลได้เข้าไปประชุมร่วมกับพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น คนที่ร่วมประชุมประกอบด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ นายชำนิ ศักดิ์เศรษฐ์ นายเทพไท เสนพงศ์ นายเนวิน ชิดชอบ นายสุชาติ ตันเจริญ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล มีรายงานข่าวว่านักการเมืองหลายคนไป”ห้องประชุม”ไม่ถูก ทุกคนจึงต้องจอดรถส่วนตัวที่ปั๊มปตท. หน้าค่ายทหาร แล้วขึ้นรถตู้ของทหารเข้าไปด้วยกัน อย่าแปลกใจที่”ชุมพล ศิลปอาชา”หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาปราศรัยที่สุพรรณบุรีเมื่อวันก่อนว่า”พรรคชาติไทยถูกกลั่นแกล้งให้ถูกยุบพรรค เพราะมีความต้องการให้ไปร่วมรัฐบาลกับอีกพรรคหนึ่ง แบบนี้ไม่มีความชอบธรรม” คำว่ามี”ความต้องการให้ไปร่วมรัฐบาลกับอีกพรรคหนึ่ง”อธิบายเบื้องหลังการจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้ได้เป็นอย่างดี หรือล่าสุดที่”ราเชล ฮาร์วีย์” ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำประเทศไทยเพิ่งเขียนรายงานเรื่อง "Thai military′s political past looms over elections" (บทบาททางการเมืองในอดีตของกองทัพไทย ปรากฏอยู่อย่างลางๆ เหนือการเลือกตั้ง) เขาระบุชัดเจนเลยว่า”2 ปีภายหลังการรัฐประหาร กองทัพได้เข้ามามีบทบาททางการเมืองอีกครั้ง โดยมีหลักฐานระบุว่ากองทัพเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการประสานงานจัดตั้งรัฐบาลชุดที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี” หรือการสัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายก่อนเสียชีวิตของ”ไพโรจน์ สุวรรณฉวี”ก็พุดถึงการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร การยอมให้”กองทัพ”เข้ามามีบทบาทในการจัดตั้งรัฐบาลด้วย”ข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้”ของพรรคประชาธิปัตย์ คือ “รอยตำหนิ”ในระบอบประชาธิปไตย นักการเมืองคนไหนที่ยอมรับการรัฐประหาร ไม่ใช่”นักประชาธิปไตย” นักการเมืองคนไหนที่ยอมรับให้”กองทัพ”มามีบทบาทจัดตั้งรัฐบาล ก็ไม่ใช่”นักประชาธิปไตย”เช่นกัน 2. ข้อโต้แย้ง อภิสิทธิ์ ไม่ได้ตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร ต่อไปนี้เป็นรายงานการค้นคว้าครับ 1 เรื่องตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร คนที่พูดมักจะพูดลอยๆ เชื่อถือไม่ได้ เช่น พันโทอภิวันท์ ...หรือข่าวสด เอามาตั้งประเด็นเรียกร้องความสนใจ แต่ไม่มีอะไรตามพาดหัวเลย สักแต่ขอให้ใช้คำก็พอ ….."ต้องนี่เลย เบื้องหลังตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร รับรองเรตติ้งถล่มทลายยิ่งกว่าทักษิณทาบไปร่วมรัฐบาล"....... สันตะวา วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เนื้อหาไม่มีกล่าวถึงเรื่องตั้งรัฐบาลในค่ายทหารแม้แต่ประโยคเดียว เป็นเทคนิคอัดฉีดความเท็จแบบสำนักประชาชื่นเท่านั้น ...แม้แต่นิธิ เอียวศรีวงศ์ ก็ใช้เทคนิคพูดลอยๆ แบบนี้เหมือนกัน ถ้าจะตามข้อมูลเรื่องนี้ ก็คงจะมีเป็นร้อยรายการ แต่ไม่มีสักรายการที่เอ่ยถึงต้นตอข่าว "นับจากเมื่อเกิดขบวนการเสื้อแดงในปลายปี 2551 การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงครั้งใหญ่คือ การขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ที่มาจากค่ายทหารในสงกรานต์เลือด 2552" http://www.khaosod.c...PQ==§ionid= 2 คนที่พูดเรื่องตั้งรัฐบาลในค่ายทหารอย่างเป็นกิจจะลักษณะ คือสรกล อดุลยานนท์ (หนุ่มเมืองจันท์) เมื่อวันที่ 05 มิถุนายน พ.ศ. 2554 บทความเปิดผนึกถึง”พรรคประชาธิปัตย์” เรื่อง”รอยตำหนิ”ในระบอบประชาธิปไตย........ดังนี้ http://www.matichon....pid=01&catid=no ย้อนอดีตกลับไปวันที่ 6 ธันวาคม 2551 พรรคประชาธิปัตย์นัดแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลที่โรงแรมสุโขทัย เวลา 18.00 น. ก่อนจะเลื่อนมาเป็น 18.45 น. เพราะการเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่สิ้นสุด นายเทพไท เสนพงศ์ ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุไอเอ็นเอ็น ตอนประมาณ 16.00 น.ว่ากำลังประชุมร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ แต่บอกสถานที่ไม่ได้ เหตุที่บอก”สถานที่”ไม่ได้ เพราะสถานที่นั้นคือบ้านหลังหนึ่งในกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ตามข่าวในหนังสือพิมพ์หลายฉบับระบุว่าเวลา 16.00 น. แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลได้เข้าไปประชุมร่วมกับพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น คนที่ร่วมประชุมประกอบด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ นายชำนิ ศักดิ์เศรษฐ์ นายเทพไท เสนพงศ์ นายเนวิน ชิดชอบ นายสุชาติ ตันเจริญ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล มีรายงานข่าวว่านักการเมืองหลายคนไป”ห้องประชุม”ไม่ถูก ทุกคนจึงต้องจอดรถส่วนตัวที่ปั๊มปตท. หน้าค่ายทหาร แล้วขึ้นรถตู้ของทหารเข้าไปด้วยกัน 3 กรณีนายชุมพลพูดเรื่องถูกบังคับให้ร่วมรัฐบาล ที่สรกลอ้างในบทความ นายชุมพลได้ขอโทษและขอถอนคำพูดไปแล้ว "ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ผ่านมานายชุมพล ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เชิงรุนแรง นายบรรหารกล่าวว่า นายชุมพลถอนคำพูดแล้ว ไม่มีปัญหา นายชุมพลก็พูดไป ก็เห็นใจเป็นนักวิชาการ แต่อย่างว่าปากพาไป" http://www.bangkokbi...แรงปากพาไป.html 4 บทความของสรกล ยังใช้เทคนิคอ้างข้ามกันไปมา เพื่อสนับสนุนแนวคิดว่าทหารเป็นคนตั้งรัฐบาลอภิสิทธื์ โดยอ้างความเห็นนักข่าวต่างประเทศ Rachel Harvey 2 June 2011 เรื่อง "Thai military′s political past looms over elections" ทั้งๆ ที่นักข่าว ใช้ความเห็นของคริส เบเคอร์และวาสนา นาน่วม มาสร้างบทความ หรือพูดอีกอย่างว่า เป็นความเห็นของสองผู้สันทัดกรณีในไทย ที่ฝรั่งเอาไปเรียบเรียงต่อ บีบีซี วิเคราะห์โฉมหน้าการเมืองไทยหลังเลือกตั้ง ชี้กองทัพไม่ปล่อยมือจากการเมือง http://tour-thailand...and-522721.html 5 เมื่อเห็นเทคนิคสร้างหลักฐานของหนุ่มเมืองจันทร์เช่นนี้แล้ว ผมก็เลยต้องทดสอบหนุ่มเมืองจันทร์สักหน่อย 6 เขาบอกว่า "ตามข่าวในหนังสือพิมพ์หลายฉบับระบุว่าเวลา 16.00 น. แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลได้เข้าไปประชุมร่วมกับพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น" ถ้าเชื่อสรกล ข่าวเรื่องนี้ ซึ่งควรจะเผยแพร่ในวันรุ่งขึ้น คือ 7 ธันวาคม 2551 น่าจะหาได้ง่าย แต่เท่าที่ผมพยายามแล้วนั้น แม้แต่แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือของคนเสื้อแดงอย่างประชาไท ก็ยังไม่มีข่าว แม้จะค้นของวันที่ 6 และ 8 ด้วยก็ตาม ที่น่าสนใจคือ วันที่ 6 นั้น ประชาไทลงข่าวจากเว็บไซต์คมชัดลึก ว่า "ส.ส.ในกลุ่มเพื่อนเนวิน เดินทางมาที่เซฟเฮ้าส์ย่านโรงแรมสยามซีตี้ เพื่อร่วมหารือกับนายเนวิน ชิดชอบ" ที่น่าสนใจก็คือ ข่าวยังให้รายละเอียดต่อไปว่า มีการเสนอชื่อเฉลิมหรือมิ่งขวัญให้เลือก แต่กลุ่มเพื่อเนวินไม่เห็นด้วย จึงหมายความว่า กลุ่มนี้ได้แตกออกจากพรรคเดิมเด็ดขาดแล้ว "เมื่อถามว่าพล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หรือนายเสนาะ เทียนทอง รับได้หรือไม่ นายวิเชียร ตอบว่า พล.อ.เชษฐา รับได้ เรารับได้เพราะดูแล้วเป็นคนกลางๆ เป็นอดีตผบ.สส.ยังไม่มีตำหนิอะไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูอีกฝ่ายหนึ่งว่าเขาจะเสนอใครเป็นนายกฯ ส่วนนายเสนาะนั้นถ้าจะให้เลือกขอเลือกพล.อ.เชษฐาดีกว่า เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวพรรคประชาธิปัตย์อาจเสนอนายชวนเป็นนายกฯ นายวิเชียร กล่าวว่า นายชวนก็พอรับได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราขอให้แต่ละฝ่ายเสนอชื่อนายกฯออกมาก่อน แล้วเราก็จะมาประชุมและชั่งน้ำหน้กว่ารับได้หรือไม่ ประเทศชาติจะเป็นอย่างไร" ข่าวที่ไกล้เคียงที่สุดน่าจะเป็นคำแถลงของพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ว่า "มีพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองมาขอคำแนะนำจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) จริงโดยผู้บัญชาการทหารบกให้คำแนะนำไปว่า การเมืองควรแก้ปัญหาด้วยการเมืองเองและปฏิเสธเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการจับขั้วทางการเมือง" และนปช. ออกมาโวยวายว่า "ข่าวหุ้น :แกนนำ นปช. ออกโรงจวกนายทหารใหญ่อยู่เบื้องหลังการล็อบบี้จัดตั้งรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ซัดนักการเมืองที่สยบสมยอมให้ทหารถือว่าทรยศระบอบประชาธิปไตย ลั่นวันที่ 13 ธ.ค. นักรวมพลใหญ่คนเสื้อแดง พร้อมกับเตรียมแฉรายละเอียดของรัฐประหารซ่อนรูป" "ตนได้รับการยืนยันจากคนที่อยู่ในสถานการณ์ว่า เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา มีการพบปะกันที่บ้านนายทหารใหญ่ เพื่อเกลี้ยกล่อมพรรคการเมืองให้ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยอ้างว่าได้รับคำสั่งมาอีกต่อหนึ่ง" ลิ้งทั้งสามคือวันที่ 6 - 7 - 8 นะครับ http://prachatai.com...l/2008/12/19245 http://prachatai.com...l/2008/12/19254 http://prachatai.com...l/2008/12/19260
7 เมือสอบต่อไป ว่าบ้านนัดพบตามที่สรกลระบุ คือ "บ้านหลังหนึ่งในกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์...ทุกคนจึงต้องจอดรถส่วนตัวที่ปั๊มปตท. หน้าค่ายทหาร แล้วขึ้นรถตู้ของทหารเข้าไปด้วยกัน" ข้อความนี้ตรวจสอบได้ ดูจากแผนที่ มีปั๊มปตท. อยู่ตรงนั้นจริง แต่คำถามคือ ทำไมต้องไปเปลี่ยนรถที่ปั๊ม ทำไมไม่ขับเข้าค่ายทหารแล้วมีคนมานำเข้าไป ตรงนี้ดูเหมือนสรกลอาจจะไม่เคยชินกับค่ายทหารว่า เพียงแต่เลี้ยวเข้าไป ทุกอย่างก็ปิดลับหมด ไม่มีเหตุที่จะมาประดักประเดิดที่ปัมน้ำมัน ซึ่งแค่รถเก๋ง 5-6 คันเข้ามาพร้อมกันก็อาจจะหาที่จอดไม่ได้แล้ว เพราะปั๊มในเมืองนั้นเล็ก เรื่องนี้ เพียงแต่ส่งคนไปที่ปั๊มตรวจสอบ ก็จะรู้สถานการณ์ว่าสรกลโกหกหรือเปล่า 8 การเขียนข่าวของสรกลเรื่องลำดับเวลาก็สับสน เขาบอกว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอเลื่อนการแถลงข่าวเพราะยังเจรจาไม่ลงตัว แต่ทำไมขอเลื่อนแค่ 45 นาที ซึ่งไม่พอที่จะเจรจาไม่ว่าเรื่องอะไรทั้งนั้น นอกจากแก้คำผิดในเอกสาร ปกติอแล้วข้อตกลงต่างๆ จะต้องยุติก่อนแถลงข่าวไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง เพราะแค่หาห้องแถลงข่าว นัดหมายคน ก็ยังต้องรอผลเป็นชั่วโมงๆ แล้ว แต่สรกลก็ยังดำเนินความสับสนต่อไป โดยระบุว่าเทพไท ให้สัมภาษณ์ 16.00 น. ว่ากำลังประชุมแกนนำในที่ไม่เปิดเผย....นั่นหมายความว่า หลังจากนั้น ก็สำเร็จผลและจองโรงแรม 6 ดาวได้ทันเวลาพอดี....กระนั้นหรือ แถมยังตามนักข่าวมาทำข่าวได้ ในเวลาสามชั่วโมงเท่านั้น แล้วถึงมาขอเลื่อนอีก 45 นาที ทั้งหมดนี้ บอกได้ว่าถ้าสรกลเป็นนักเขียนนิยาย เขาก็วางพล็อตได้ห่วยมาก เหตุการณ์ต่างๆ ไม่ลงรอยกัน และฉุกละหุกมาก ผมคิดว่าเรื่องนี้ตรวจสอบไม่ยากเช่นกัน เพียงแต่ถามนักข่าวการเมืองถึงเรื่องในวันนั้น ก็จะรู้ว่าหนุ่มเมืองจันทร์ยกเมฆ มั่วเรื่องราวขึ้นมาเองหรือเปล่า 9 ยังมีความไม่สมเหตุผลเรื่องรายชื่อคนที่อ้างว่าไปร่วมประชุมอีกนิดหน่อย แต่เล่าไปก็เหมือนจะอวดว่าผมรู้ดีเกินไป คือในการทาบทามตั้งรัฐบาลนั้น เขาไม่มีการประชุมโต๊ะกลมกันจะทำให้อำนาจต่อรองเสียหาย ผู้จัดการรัฐบาลจะเป็นฝ่ายไปหาแล้ววางเงื่อนไขกัน ยิ่งเป็นเรื่องสำคัญ ยิ่งเจอกันน้อยคนที่สุด รายชื่อมากมายที่สรกลระบุ จึงเป็นเรื่องชวนหัวทางการเมืองแท้ๆ
เข้าใจอะไรกันคู้น ผมถามมันเรื่องตั้งรัฐในค่ายทหาร มันไปยกบทความย้อนแย้งตัวเองมาซะอย่างนั้น จะบ้าาาาาาาตาย
ก็คุณเชื่องไง ผมเลยยกมาให้ดู แล้วมันเคลียร์หรือยัง สรุปไม่ได้ข้อสรุป ตรรกะคือ คุณจะเลือกเชื่อข้อมูลฝั่งใหน ดังนั้น ต่อไปก็ไม่ต้องก้าวก่าย หรือถามอีก จบ
แถๆๆๆๆ แค่เอาใจเด็กปัญญาอ่อน ผมเชื่อฝั่งผมแล้วไง ฝั่งคุณไม่คิดจะรับอะไรเลย ถ้าคุณแสดงหลักฐานไม่ได้แปลว่าคุณไปใส่ร้ายเขา ผมอ่านตั้งหลายรอบ โด่ นึกว่าจะแน่ อย่าเพิ่งหนีนะ
เหรอ แล้วแต่ความเปิดกว้างของคุณนะ ทักษิณอ่ะได้เต็มๆ เพราะจะได้บทเรียนว่า เวลาไปพูดที่ไหน ปากหมาให้น้อยๆหน่อย อย่าเที่ยวไปกล่าวหาใครซี้ซั้ว นะ ไอ้ตุ้ด
แม่งยิ่งลักไอ้สี่ขาโคตรฉลาดเลยเนอะ เก่งแต่เอาผัวชาวบ้าน กับแต่งตัวไปเที่ยวแรดนอกประเทศ ดูสภาพแล้ว แดงคงใกล้อกแตกตายเหมือนพ่องนักโทษหมดคอกละมั่ง แค่นี้ก็สะใจโคตรๆ แล้วที่เห็นไอ้สี่ขาออกมาเห่าเน่าๆ เกียรติภูมิไทยได้กลับคืนมาบ้างแล้ว ใครที่บังอาจมาก้าวล่วงก็ระวังเงาหัวมันให้ดีเถอะ
เรื้อนพาเพลีย นี่มันถนัดพิมพ์น้อย ๆ แต่จะเอาหลักฐานเยอะ ๆ แต่สุดท้ายก็ไม่เคยอ่านซึมซับเข้าสมองอยู่ดี ....ไม่เคยเปลี่ยนเลย
คนจะได้รู้ว่าเมืองไทยมีกฎหมาย และทุกคนต้องอยู่ใต้กฎหมายเดียวกัน เป็นนักโทษหนีคดี แต่ดันมีพาสปอตการฑูต เทียวบินไปด่าประเทศไทย ที่โน้นที่นี่ ควรถามกลับว่า " จะมีประโยชน์อะไรให้มันถือพาสปอตไทย."..ตอบ
เดือดร้อนอะไร แค่จะบอกคนไทยไม่ได้ไปสนับสนุนให้พูดจากวนส้น ว่าสถาบันกระทบจิตใจคนไทยทั้งชาติก็แค่นั้น ก็ไปใช้พาสปอร์ตต่างด้าว เป็นซิเนตร้า อะไรของมันต่อไป แต่จะมีเครดิตให้ไปพูดอะไรอีกรึเปล่าอันนั้นไม่รู้
คำตอบอื่นๆ ก็ตามที่ทุกท่านตอบไป แต่สำหรับคำตอบของคำถามนี้ของเจ้าของกระทู้ ผมขอตอบครับ “ได้สะใจว่ะครับ”