ใครๆก็ไม่อยากให้คนโกงลอยนวล แต่ผมว่าสุดโต่งเกินไป มันไม่ได้ผลหรอก(ผมตัดมาบางช่วงเท่านั้น) เพื่อนๆสมาชิกว่าไงครับ? ----------------------------------------------------------------------------------- ชงกมธ.ร่างรธน.ตั้งศาลปราบโกง 22 เมษายน 2558 นายวีระ กล่าวอีกว่า ส่วนนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่คอร์รัปชั่นจนทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐที่มีมูลค่าไม่เกิน 1 ล้านบาทต้องถูกลงโทษจำคุกไม่เกิน 20 ปี และไม่มีสิทธิ์ได้รับการลดโทษหรืออภัยโทษ แต่หากความเสียหายต่อรัฐมีมูลค่าเกิน 1 ล้านบาทต้องถูกจำคุกตลอดชีวิตและไม่มีสิทธิ์ได้รับการลดโทษ ส่วนความเสียหายที่เกิดต่อรัฐมีมูลค่าเกิน 5 ล้านบาท ต้องถูกลงโทษประหารชีวิต และไม่มีสิทธิ์ได้รับการลดโทษหรืออภัยโทษ โดยกำหนดโทษนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐในคดีอาญาขั้นต่ำจำคุกตั้งแต่ 20 ปี เสนอให้แก้กฎหมายให้นักการเมืองทุกระดับไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้เกินติดต่อกัน 2 วาระ http://www.posttoday.com/การเมือง/360514/ชงกมธ-ร่างรธน-ตั้งศาลปราบโกง
ผมก็เห็นด้วยครับ กรณีขอให้ตั้งศาลปราบโกง แต่ข้อเสนอบทลงโทษของคุณวีระเนี๊ยะ ผมว่ามันเกินไป ทำให้เรื่องเสนอตั้งศาลปราบโกง กลายเป็นเรื่องที่หาคนสนับสนุนยาก ผมว่าแนวคิดตะแก มันทำลายเรื่องดีๆไปเสียปล่าวๆ
การปราบโกงมีอยู่ทุกยุคทุกสมัย แต่แก้ไม่ตรงจุด สมัยก่อนเซ็นอนุมัติโครงการคนเดียวก็ได้ ตอนหลังพยายามสร้างระเบียบให้เซ็นหลาย ๆ คน สุดท้ายกลายเป็นโกงหมู่ ต้นทุนมหาศาลไป ในกรณีปัจจุบัน พอนายกไม่โกงปรากฏว่าการทุจริตก็ลดลงทันตาเห็น หากเปรียบการตั้งศาลปราบโกง ก็เป็นมาตรการสุดท้าย ซึ่งจำเป็นอยู่ดี แต่กระบวนการก่อนการทุจริตต้องให้ความรู้เจ้าหน้าที่ด้วย เพื่อจะได้อ้างไม่ได้ว่าทำไปเพราะไม่รู้
เสียดายที่ม.44 ไม่อาจใช้ได้ เมื่อมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ----------------------------------------------------------------- 'บิ๊กตู่'เล็งใช้ ม.44 ปราบโกง-ปลดล็อกกลไกล่าช้า วันอังคาร ที่ 21 เมษายน 2558 เวลา 11:14 น. เขียนโดยเดลินิวส์ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณส่วนราชการและภาคเอกชน ที่ช่วยกันขับเคลื่อนแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น พร้อมระบุตอนหนึ่งว่า การทำงานต่าง ๆ ต้องเร่งรัดให้เดินหน้าได้ โดยเฉพาะเรื่องเร่งด่วนต่างๆ ที่ต้องใช้กระบวนการตามกฎหมายต้องได้คำตอบ และได้ข้อยุติ แต่หากการดำเนินการตามระบบมีความล่าช้าก็จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 เพื่อปลดล็อกต่าง ๆ ให้การทำงานเร็วขึ้น เพราะรัฐบาลมีเวลาจำกัดในการทำงาน แต่การใช้มาตรา 44 ต้องให้ความเป็นธรรม รัดกุม และถูกต้อง ขณะเดียวกันหากพบว่ามีผู้กระทำความผิด หรือเกี่ยวข้องกับการทุจริตก็ต้องดำเนินคดี รัฐบาลจะต้องดำเนินการกับสิ่งเหล่านี้ทุกเหตุการณ์และทุกรัฐบาลก็ต้องทำเช่นกัน ประชาชนต้องเรียนรู้ว่าหากกระทำความผิดก็ต้องถูกดำเนินคดี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการทำงานมีปัญหามาก เนื่องจากที่ผ่านมากระบวนการยุติธรรมถูกครอบงำ ทำให้การทำงานต่าง ๆ ไม่สามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มที่ ถึงวันนี้ข้าราชการทุกคนต้องทำงาน ก็เข้าใจว่าระบบนี้มีมานานแล้ว ทั้งนี้หากมีปัญหาอะไรติดขัด ก็ขอให้แจ้งมา จะได้หารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี อีกครั้ง http://www.isranews.org/isranews-other-news/item/38061-dailynews_38061.html
บอกตรงๆ ประเทศไทยเนี่ย นักโกงบ้านโกงเมืองเยอะจริงๆ จับตรงไหน โผล่ตรงนั้น ทั้งนักการเมือง ทั้งข้าราชการ อบต อบจ มันโกงกันสบั่นหั่นแหลก ผมว่าที่มันโกงกันได้ เพราะระบบตรวจสอบของเรามันไม่ดีครับ กฎหมายก็มีช่องโหว่เยอะ ต่อให้มีศาลปราบโกง ก็ช่วยอะไรไม่ได้มากหรอก ถ้าจับคนทำผิดไม่ได้ ต่อให้กฎหมายมันเข้มแค่ไหน ก็รอดคุก เสวยสุขกันไปหมดแล้ว
คงต้องแก้ไขหลายอย่างอะครับ ***ขบวนการยุติธรรมต้นน้ำ กลางน้ำ ***การหาข้อป้องกันการใส่ร้าย เพื่อทำลายฝ่ายตรงข้าม ฯลฯ
คนไทยส่วนใหญ่เป็นคนปากว่าตาขยิบครับ ด่าตำรวจว่ารีดไถแต่ลูกชายบ้านไหนสอบเข้าโรงเรียนพลฯได้ ฉลองกัน3วัน7วัน ฉลองว่าชีวิตนี้ไม่จนแล้วทั้งๆที่พลตำรวจเงินเดือนไม่ถึงหมื่น
เห็นด้วยครับกับความคิดเห็นของทุกท่าน ก็รออยู่อย่างเมื่อไรทุกท่านจะเห็นด้วยแล้วข่วยกันดันมาตรการ อายัดทรัพย์ไว้ก่อนครับ การโกงแผ่นดิน ผิดอาญาทำความเสียหายต่อแผ่นดิน อายัดเท่ากับความเสียหายนั้นๆครับ ไม่ผิดก็คืน จะขอเลื่อนคดี ไปชาติหน้า จะหนีไปอเมริกา ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย กัมพูขา เชิญเลย การโกงต้องลงทุนครับ ต้องให้โดนซะว่า มันขาดทุนได้ อย่าให้ชาติขาดทุน อย่างนี้ยังพอรักกันได้นะผู้ก่อการโกง จะได้คิดได้ไปโกงประชาชนกันเองละกัน ธนาคาร เจ้านาย ขี้ข้า หุ้นส่วน โกงพ่อโกงแม่ เอาเลยที่มันไม่เกี่ยวกับชาติ
ปกติการอายัดทรัพย์ไว้ก่อนก็มีอยู่แล้วครับ เช่นกรณีล่าสุด คดีธาริต ตามข่าว มติปปช.อายัดทรัพย์ธาริต40ล.พบร่ำรวยผิดปกติ ข่าวการเมือง วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน พ.ศ.2558 11:03น. ป.ป.ช. มีมติอายัดทรัพย์ 'ธาริต เพ็งดิษฐ์' รวมกว่า 40 ล้าน เหตุร่ำรวยผิดปกติ ในขณะเป็น อธิบดีดีเอสไอ สั่งแสดงรายการทรัพย์สินหนี้สินภายใน30 วัน ด้าน เจ้าตัวบอกทราบแล้วเตรียมทำเอกสารชี้แจง นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ได้แถลงถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีคำสั่งที่ 631/2557 ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2557 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีนายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน นั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ตรวจพบว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าจะมีการโอน ยักย้าย แปรสภาพ หรือซุกซ่อนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการร่ำรวยผิดปกติ จึงได้มีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ และนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ไว้เป็นการชั่วคราวตามมาตรา 78 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ได้แก่ เงินฝาก ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และยานพาหนะ รวมมูลค่า 40,954,720.58 บาท นอกจากนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังได้มีคำสั่งให้ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตนเอง คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ภายใน 30 วัน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 79 ด้วย ป.ป.ช.อายัติทรัพย์ นายสุวัฒน์ ร่ำรวยผิดปกติ รวม19 ล้าน นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรติแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีมีข้อสงสัยว่า นายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ อดีตนักวิชาการสรรพากรชำนาญการพิเศษ สำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 27 กรมสรรพากร ร่ำรวยผิดปกติ และได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน ลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 โดยมี นางสาวสุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน ซึ่งทาง คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจพบว่า นายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าจะมีการโอน ยักย้าย แปรสภาพ หรือซุกซ่อนทรัพย์สินดังกล่าว จึงได้มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของ นายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ และผู้ที่เกี่ยวข้องไว้เป็นการชั่วคราว ได้แก่ เงินฝาก เงินลงทุน ทรัพย์สินในตู้นิรภัยกับธนาคารและยานพาหนะ รวมมูลค่าประมาณ 19 ล้านบาท นอกจากนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังมีคำสั่งให้ นายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตนเอง รวมถึงคู่สมรส และบุคคลอื่นที่ถือทรัพย์สินไว้แทน ภายใน 30 วัน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 79 ด้วย ธาริต รู้แล้ว ป.ป.ช. อายัดทรัพย์เตรียมทำเอกสารชี้แจง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยว่า กรณีที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ตรวจพบว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าจะมีการโอน ยักย้าย แปรสภาพ หรือซุกซ่อนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการร่ำรวยผิดปกติ จึงได้มีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ และ นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ซึ่งเป็นภรรยา ไว้เป็นการชั่วคราวตามมาตรา 78 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ได้แก่ เงินฝาก ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และยานพาหนะ รวมมูลค่า 40,954,720.58 บาท นั้น ตนเอง ทราบถึงคำสั่งอายัดทรัพย์สินของ ป.ป.ช. มาประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว แต่เป็นคำสั่งชั่วคราว ไม่ใช่คำสั่งเด็ดขาด และขอไม่กล่าวถึงขั้นตอน หรือรายละเอียด แต่จะทำเอกสารเกี่ยวกับที่มาของทรัพย์สิน ส่ง ป.ป.ช. ภายใน 30 วันต่อไป ที่มา http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=612778
จากการไต่สวนของป.ป.ช.พบพฤติการณ์เข้าข่ายน่าสงสัยเรื่องการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินหลายรายการออกไปเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ช่วงที่ถูกย้ายออกจากตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ และช่วงที่มีผู้มาร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ อาทิ การถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากในบัญชีธนาคารจำนวนมาก การเคลื่อนย้ายหลักทรัพย์ และการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า เข้าข่ายมีความผิดปกติ จึงต้องอายัดทรัพย์สินส่วนที่เหลือของนายธาริตไว้ก่อน ไม่ให้มีการเคลื่อนไหว เพื่อเรียกตัวนายธาริตมาชี้แจงถึงที่มาทรัพย์สินทั้งหมด และเหตุผลการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินในช่วงที่ผ่านมา และหลังจากนี้อาจจะมีการพิจารณาอายัดทรัพย์สินของนายธาริตเพิ่มเติมตามมาอีก http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1429415472 เรียนท่านอาวุโส เหตุเพราะมีกฏหมายอายัดทรัพย์อยู่แล้ว จึงทำให้ผมไขว้เขวกับสิ่งที่เรียกว่าอายัดทรัพย์ที่ผมจะพูดถึง เพราะจะเรียกว่ายึดทรัพย์ก็ม่มีกฏหมายปกติ และก็ม่ใช่ว่าผมต้องการให้ยึดทรัพย์ว้ก่อน กรณีตัวอย่างคุณธาริต หรือรายอื่น เห็นได้ชัดว่าเป็นข้อหายักย้ายถ่ายทรัพย์มาก่อนแล้ว และอาจจะมีความจำมากว่ามากกว่า 40ล้าน ซึ่งน่าน่าจะเรียกว่าร่ำรวยผิดปกติจริง อีกทั้งการอายัดก็ทำได้ เพียงแค่ทรัพย์สินเท่าที่เห็นเหลืออยู่ อยากให้ทำได้แบบ คสช.ทำ แบบที่เจ้าพ่อ เศรษฐี มาเฟีย รัสเซียและบางประเทศโดน แต่ว่านั่นก็ไม่ใช่กฏหมายในสถานการณ์ปกติ ทำยังไงได้บ้างให้เป็นกฏหมายอายัดทรัพย์ ผู้ผิดทางอาญาทำความเสียหายต่อชาติ โกงชาติ ต่างจากอายัดทรัพย์โกงผ่อนบ้าน ผ่อนรถ อายัดตามความเสียหายจริง ไม่ใช่เท่าที่เหลืออยู่ อายัดไว้ก่อนทันที ทุกคดี ว่าส่อให้เกิดความเสียหายต่อชาติ ก่อนจะมีการยักย้ายถ่ายเท คดีคุณธาริตเป็นแค่ตัวอย่างให้คิดว่า เราไม่ได้มีกฏหมายแบบที่เราต้องการ กฏหมายอายัดทรัพย์ที่ใช้อยู่ แทบจะไม่มีอะไรเหลืออยู่ให้จัดการครับ ทั้งตัวบุคคลและทรัพย์สิน เพื่อนผม เพื่อนๆท่านๆ ก็ยักย้ายถ่ายเท ทั้งหนีไปต่างประเทศกันเห็นๆมาแล้วครับท่าน เหมือนติดคุกไว้ก่อนเมื่อถูกจับ ปล่อยตัวชั่วคราวกรณีนี้ไม่ใช่ประกัน แต่เป็นอายัดตามความเสียหายที่เกิดขึ้นหรือประมาณตามจริง