เห็นโพสต์นี้ของพี่คนดีครับ ซึ่งตรงกับความอยากรู้อยากเห็นของผมมาก ผมกำลังพูดถึงคุณป้าท่านนึง ที่เราจะพบเห็นเธอเป็นประจำ ในทุกการชุมนุมที่เกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดง ตั้งแต่การชุมนุมปกติ การชุมนุมให้กำลังใจอดีตนายก รวมไปถึงการชุมนุมเพื่อปกป้องวัดธรรมกาย แน่นอนว่า เธอมีชื่ออยู่ในกลุ่มหลายกลุ่ม เพราะทุกการชุมนุมที่ว่ามา มักมีชื่อกลุ่มเสมอ การเป็นหญิงสูงวัย แต่มีหัวใจที่รักในประชาธิปไตย เคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่เป็นนิจ ย่อมมีความน่าสนใจ เพราะหากพิจารณารูปร่างหน้าตา ก็คงไม่แตกต่างจากชาวบ้านชาวช่องนัก แต่กลับใช้เวลาไปกับการเข้าร่วมกลุ่มการเมืองเสียมากมาย ตามที่เราเห็นในภาพ จริงๆ คงมีกว่านี้อีกมากมายนัก ล่าสุด ข้อมูลที่มีเพียงน้อยนิด บอกว่า เธอชื่อ “ป้ามุด เสื้อแดง” ครับ เรามาหาคำตอบร่วมกันดีกว่าครับ ว่าเธอคือใครกันแน่ เบื้องลึกเบื้องหลังเป็นอย่างไร บ้านอยู่ที่ไหน ทำอาชีพอะไร เรียนอะไรมาบ้าง ช่วยกันครับ
บางเวลา ผมก็คิดนะ ว่าบางทีคนในเวบไซท์ ประชาไท หรือ ห้องราชดำเนิน เค้าไซโคคนยังไง มันถึงได้ เจอคนหน้าเดิม ๆ ไปซะเกือบทุกงาน ได้ขนาดนั้น คือ มันต้องเข้าใจก่อนนะ ว่าถ้าจะไป ทุกงานจนคนจำได้ มันต้องใช้ความพยายามขนาดไหน พี่โทนี่ ต้องรู้ก่อนนะว่า กว่าจะได้เข้าเฟรม ให้คนถ่ายรูปได้ นี่น่ะ ไม่ใช่ว่าไปทุกครั้งได้รูปทุกครั้งนะ เพราะพี่สาวผม ก็เคยไปพันธมิตรบ่อย ๆ แต่ผมแทบไม่เคยเห็นหน้า เค้าออกสื่อที่ไหนเลย จำไม่ได้ว่าเคยเห็นนะ คือมันยังไงอะ มันต้องไปถี่ขนาดไหน หรือว่า ป้าเค้า ต้องแสดงจุดเด่นขนาดไหน ถึงเก็บภาพได้เยอะขนาดนี้ นี่ต้องแสดงว่า การพูดจูงใจของพวกกูรูการเมือง อย่างประชาไท พวกอะไรนะ สิงห์เสืออะไรนี่ ต้องบิลด์เก่งแค่ไหนอะ ป้าแกถึงได้เจียดเวลา อันมีค่าไปซะเกือบทุกงานขนาดนี้ แถมได้ทุกช็อตอีกด้วย เออ วันก่อน ก็เผลอไปส่องราชดำเนิน ผมว่า คนในนั้น ชักจะจิตไม่ปกติแล้วนะ อ่าน ๆ แล้วเวียนหัวอะบอกเลย คือคนเรามันต้อง ฝังจิตฝังใจ กับการด่าทอทหาร ขนาดนั้นเลยเหรอ หรือว่า กำลังคิดถึงขวัญใจหน้าเหลี่ยมขนาดหนัก มันดูเหมือนการโพสต์จะปะปน ความโรคจิตอยู่บ้างนะ คือมันเห็นชัดไปเปล่า มันหงุดหงิดหน่อย ๆ นะ ถึงว่าน้องเน แกเลยชอบนะบทบาทผู้นำแบบนี้ ก็คิดดูพูดซะจน คนเคลิบเคลิ้มคิดตามเราแทบทุกอย่าง ประหนึ่งสะกดคนได้อะ จนคนเป็นโรคจิตสั่งได้แล้วอะ ผมว่าเสื้อแดง เค้าคงชอบผู้นำแบบนี้นะ ไม่ใช่ดีแต่พูดอย่างเดียว แต่เป็นพูดให้ดีจนเคลิ้มมากกว่า
ผมคิดง่ายๆ แบบนี้นะครับ งานที่เธอไป มักเป็นอีเว้นท์เล็ก มีคนไม่มากเท่าไหร่ โอกาสเห็นเธอก็ง่ายขึ้นอยู่แล้ว อีกเหตุผลที่สำคัญ สมมุติ ผมว่าจ้างใครให้ไปทำธุระให้ ผมควรได้รับการคอนเฟิร์มจากปลายทาง หรือไม่ก็หลักฐานว่า เขาได้ไปมาแล้วจริงๆ อีกเหตุผลประกอบ เราอาจตามดูว่า แกไปมันทุกอีเวนท์ ทุกงาน ในหลายๆ ชื่องาน แถมยังมีงานนอกเป็นให้กำลังใจพระด้วย เราอาจมาคิดได้ว่า เฮ้ย เอาคนหน้าช้ำมาเล่น เค้าก็จำกันได้หมดสิ แต่เธอกับคนว่าจ้าง คงไม่คิดมากเท่าเรา