ตร.แจ้งข้อหา 88 เยาวชนจลาจล สภ.ถลาง ทำผิด พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ โดยจะไม่เข้าจับกุมแต่จะประสานผ่านผู้นำชุมชน ผู้ปกครองให้เข้ามอบตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา 88 เยาวชนก่อเหตุจลาจลที่ สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต ทำผิด พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ วางเพลิงทำให้เสียทรัพย์ พ.ร.บ.จราจรทางบก และร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงาน อย่างไรก็ตามจะไม่เข้าจับกุมเยาวชนที่บ้านพัก แต่จะประสานผ่านผู้นำชุมชน ผู้ปกครองให้เข้ามอบตัว เบื้องต้นมีผู้ประสานงานเข้ามอบตัวเดือนหน้าแล้ว ทั้งนี้เยาวชนดังกล่าวก่อเหตุจลาจลกรณีการเสียชีวิตของวัยรุ่นชาย 2 รายเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมาคือนายธีรพงษ์ ศรีสมุทร อายุ 17 ปี และนายปฐมวัฒน์ ปะณะรักษ์ อายุ 22 ปี ชาวบ้านดอน อ.ถลาง ซึ่งถูกตำรวจไล่ล่าสกัดจับ เพราะต้องสงสัยว่า มียาเสพติดไว้ในครอบครอง โดยญาติผู้เสียชีวิตมองว่า ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ แม้จากการตรวจสอบจะพบว่า ในกระเป๋าของผู้เสียชีวิตจะมียาเสพติดอยู่จริง แต่ญาติยังไม่ปักใจเชื่อหลักฐานนี้ http://news.voicetv.co.th/thailand/299319.html
กฎหมาย คือ กฎหมาย ก็แค่นั้น ทำผิดก็รับโทษ อย่าเสรือกหนีไปดูบอลเหมือนพ่องมรึงก็พอแล้วครับ กล้าทำก็กล้ารับหน่อย เด็กอนุบาลยังคิดได้ แยกแยะเป็น มีเหตุผลกว่ามรึงเลย เฮ้ออออ
อย่าเห็นผิดเป็นชอบ อย่าเห็นกงจักรเป็นดอกบัว อย่าเมามัว วิจารณ์ความคิดผม อย่างไร้ กึ๋น ผมตั้งกระทู้นี้ ผมสงสารเยาวชนคนที่เผาสถานีตำรวจจะหมดอนาคต จะถูกประหารชีวิต ตัวอย่างก็มีให้เห็น ลองคิดดูนะครับ ...... ต้องเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกแน่ ถ้าถูกประหารชีวิตตั้ง 88 คน ผมรู้ดี คุณก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นใช่ไหม
ไปรู้จากไหนไม่สงสาร อับอายทำไมเพื่อนติดคุก ผมก็กำลังติดคุกเหมือนกัน หลายวันมานี่ ก็ถูกติดต่อจากเสธน้ำเงินนอกคุก สื่อสารกันผ่านทางนกพิราบ แกบอกให้ไปช่วยก่อวินาศกรรม สังหารบุคคลสำคัญ งานใหญ่ แกคงเห็นแววผม เพราะเมื่อก่อนผมเคยมีอาชีพเผาถ่านขาย ผมก็ตอบตกลงไป ทำเพื่อชาติ ทำก็ทำ เรื่องร่วมก่อวินาศกรรมมิมีปัญหา ....... แต่ไม่มีปัญญา ตอนนี้ทำไง จะออกจากคุกไปได้นิสิ
ก็สงสาร ลูกหลาน กปปส. เราสิครับ ถูกจับยาบ้า แล้วพาพวกไปเผาสถานนีตำรวจ ก็เห็นมีแต่ลูกหลานพวกเรา กปปส. กันทั้งนั้น
งั้นก็ใช้เน็ตจากในคุกหรือไงครับ ปัญญาอ่อน แต่งนิทานได้ห่วยแตก ถ้าสงสารทำไหมถามว่าจะช่วยยังไง ไม่เห็นตอบได้
ไม่ประหารชีวิตแน่นอนเพราะอย่างที่เมิงพาดหัวว่าเป็นเยาวชน แต่พวกควายแก่ยังไปเชื่อคำยุยงของไอ้เต้น ไปเผาศาลากลาง ไอ้พวกนี้มีชีวิตอยู่ต่อไปกินแต่หญ้าตดออกมาทำให้โลกร้อนขึ้นไปอีก ประหารน่าจะเหมาะ
ไม่ต้องคุยใหญ่โต ข่มขู่หรอก อย่างคุณแค่ตอบคำถามผม ยังไม่กล้าจะตอบตรงๆเลย พวกชูสามนิ้วยังแมนกว่าคุณอีก คงเป็นได้แค่อีแอบนักเลงคีย์บอร์ดเท่านั้นแหละ
อ้าว นักโทษติดคุกที่โดนออกหมายจับ แถไปว่าเขาติดต่อจะก่อก่อวินาศกรรมกันทางโทรศัพท์ งั้นก็แต่งนิทานได้ห่วยแตก ปัญญาอ่อนเหมือนกันสิครับ ฮา
นั้นแค่ส่วนหนึ่งครับ เพราะผมดูแล้วอย่างคุณไม่มีวันติดคุกหรอก ไม่ใช่เพราะนิสัยดี แต่เพราะเห็นแก่ตัวและขี้ขลาดขนาดนี้จะมีปัญญาอะไรไปทำได้
จริงๆ ผมก็สงสัยหลายอย่าง ซึ่งความคิดผมก็ประมาณนี้ 1. เป็นคนไทยหรือเปล่า เขียนผิดบ่อยแม้แต่คำง่ายๆ จับใจความไม่เป็น บางทีก็มีสำเนียงแปลกๆ 2. อายุเท่าไหร่ ดูความฉลาดทั้งทางอารมณ์ไม่น่าเป็นเด็กวัยรุ่น เหมือนเด็ก 13-14 ปี ปัญญาไม่มา ความกล้าไม่มี ความดีเป็นศูนย์ 3. เป็นแดงจริงหรือเปล่า ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเสื้อแดงเลย ตอบได้แต่ตามข่าวที่มีหรือที่ชาวบ้านป้อนมาเท่านั้น จากสำนวนที่อ่านประจำเหมือนไม่ได้สนใจพวกเดียวกันเลย เวลาเถียงก็เถียงแบบเอาชนะ ไม่ได้เพื่อปกป้องพวกตัวเอง ทำให้คิดว่าถ้าไม่ถูกจ้างมา ก็เป็นพวกโรคจิตขาดความศรัทธาในตัวเอง อยากแสดงความกล้าแต่ไม่อยากเจ็บตัวหรือออกแรง ก็เลยหาทางออกโดยอ้างเสื้อแดงเพื่อด่าชาวบ้าน (หลอกตัวเองว่าเก่งที่ด่าหรือป่วนชาวบ้านได้ คิดว่าพวกแกด่าไปเถอะข้าไม่เจ็บหรอก เพราะไม่ใช่เสื้อแดง ) และได้ใจคิดว่าโซเชียลไม่เห็นหน้าไม่เห็นตัว (แต่มี log)
เผาโรงพักตรงไหน ยังอยู่สภาพดีอยู่เลย ไอ้เรื้อน http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1444640577 ส่วนนี่ ที่เผาศาลากลาง อุบล
ใครลูกหลานกปปส.เหรอ รู้ได้ไงอ่ะ หรือแถเอาว่าคนใต้ งั้นพวกนี้หมายความว่า ใครติดยาผมไม่รู้แต่ผมรู้ว่า น้องไอ้นี่ค้ายา http://news.mthai.com/hot-news/general-news/450848.html ตำรวจชุมพรรวบน้องชายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ พร้อมพวกรวม 6 คน ข้อหายาบ้านับหมื่นเม็ด เบื้องต้นเจ้าตัวปฏิเสธขอให้การในชั้นศาล อ้างอิง : จับน้องชาย พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ค้ายาบ้านับหมื่นเม็ด http://news.mthai.com/hot-news/general-news/450848.html
ที่แท้ทนายแดงนี่เองที่มั่ว... อุบลราชธานี - “วัฒนา จันทศิลป์” ทนายดีเจต้อย จำเลยคดีเผาศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ยอมรับให้ข้อมูลคำตัดสินของศาลฎีกาผิดพลาด เพราะความจริงศาลลงโทษนายพิเชษฐ์ ทาบุดดา แกนนำคนเสื้อแดงเพียงจำคุกตลอดชีวิต ไม่ใช่ประหารชีวิต พร้อมทำหนังสือขอขมาศาลและแสดงความรับผิดชอบกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นด้วย จากกรณีศาลฎีกาได้ออกมาแย้งการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนในคำพิพากษาตัดสินประหารชีวิตนายพิเชษฐ์ ทาบุดดา หรือดีเจต้อย แกนนำ นปช.จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งนำพวกเผาศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 โดยศาลระบุว่าคำตัดสินที่ถูกต้องศาลฎีกาได้พิพากษาแก้จากเดิมจำคุก 1 ปี เป็นจำคุกตลอดชีวิต ไม่ใช่ให้ประหารชีวิตตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าว ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายวัฒนา จันทศิลป์ ทนายความของจำเลยที่เป็นผู้ให้สัมภาษณ์การลงโทษของศาลฎีกาที่มีความคลาดเคลื่อน นายวัฒนากล่าวยอมรับว่า เป็นความเข้าใจผิดของตนเองที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนผิดพลาดกรณีการลงโทษจำเลยที่ 1 นายพิเชษฐ์ ทาบุดดา จริง เพราะที่ถูกต้องศาลฎีกาได้ลงโทษเพียงให้จำคุกตลอดชีวิต ไม่ได้ลงโทษประหารชีวิตแต่อย่างใด เนื่องจากในวันนั้นมีจำเลยขึ้นศาลฟังคำพิพากษาพร้อมกันหลายคน ทำให้ตนเกิดความสับสน แต่พร้อมยอมรับผิดกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ซึ่งตนกำลังทำหนังสือแสดงความรับผิดชอบ และขอขมาต่อศาลที่ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนคลาดเคลื่อนไป พร้อมทั้งกำลังคัดสำเนาคำพิพากษาในคดีตั้งแต่ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกาแจกให้สื่อมวลชนนำไปเผยแพร่อย่างถูกต้องในวันพรุ่งนี้ด้วย http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000138503
ต้องให้ผมมาให้ความรู้อีกแล้ว ต้องเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกแน่ ถ้าถูกประหารชีวิตตั้ง 88 คน กรณีนี้เป็นไปไม่ได้แน่นนอที่จะถูกประหารชีวิตทั้ง 88 คนโทษมันจะลดหลั่นลงไปตามการกระทำ เช่นกรณีนี้ ศาลฎีกากลับคำพิพากษาให้ประหาร ดีเจต้อย คดีเผาศาลากลางอุบลฯ ข่าว » ข่าวการเมือง » ศาลฎีกากลับคำพิพากษาให้ประหาร ดีเจต้อย คดีเผาศาลากลางอุบลฯ วันอังคารที่ 15 ธันวาคม 2558 | Mthai News Reporter Facebook 10.2KTwitter 0Google+ 0 10.2K ศาลฎีกาอุบลฯ พิพากษากลับคดีเผาศาลากลางจังหวัดอุบลฯ ให้ประหารชีวิต ดีเจต้อย พิเชษฐ์ ทาบุดา ขณะที่อีกหลายรายจำคุกตลอดชีวิต รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (15 ธ.ค. 58) ศาลจังหวัดอุบลราชธานี ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีคนเสื้อแดงจำนวน 21 คน ร่วมกันเผาศาลากลางจังหวัด เมื่อเดือน พ.ค.2553 ซึ่งนำโดยนายพิเชษฐ์ ทาบุดา หรือดีเจต้อย แกนนำกลุ่มชักธงรบ ในฐานความผิดกระทำความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร เผาศาลากลางอุบล ความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย และความผิดต่อเจ้าพนักงานในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยร่วมกันฝ่าฝืนพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 บุกรุกสถานที่ราชการ ร่วมกันทำลายทรัพย์สิน และวางเพลิงเผาอาคารศาลากลางนั้น ซึ่งจากการพิจารณาจากพยานและหลักฐานแล้ว ศาลฎีกาได้มีการกลับตัดสินศาลอุทธรณ์และศาลชั้นต้นที่เคยตัดสินให้จำคุก 1 ปี เป็นให้ประหารชีวิต ดีเจต้อย พิเชษฐ์ ทาบุดา แกนนำกลุ่มชักธงรบ ก่อนที่จะได้รับการลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต สำหรับจำเลยคนอื่นๆ ที่ศาลฎีกาได้กลับคำพิพากษาตัดสินศาลอุทธรณ์และศาลชั้นต้น มีดังนี้ 1.นางอรอนงค์ บรรพชาติ จำเลยที่ 2 จำคุกตลอดชีวิต ลดเหลือ 33 ปี 4 เดือน (ศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 8 เดือน ศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 2 ปี ถูกจำคุกมาก่อนแล้ว 15 เดือนจึงได้รับการปล่อยตัว) 2.นางสุมาลี ศรีจินดา จำเลยที่ 3 จำคุก 2 ปี (ศาลชั้นต้นยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 2 ปี ได้รับการประกันตัวชั้นอุทธรณ์) 3.นายประดิษฐ์ บุญสุข จำเลยที่ 4 จำคุก 2 ปี (ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก 2 ปี ได้รับการประกันตัวชั้นอุทธรณ์) 4.นางสาวปัทมา มูลนิล จำเลยที่ 5 จำคุกตลอดชีวิต ลดเหลือ 33 ปี 4 เดือน (ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 33 ปี 12 เดือน ถูกคุมขังมาตลอด) 5.นายลิขิต สุทธิพันธ์ จำเลยที่ 7 จำคุกตลอดชีวิต ลดเหลือ 33 ปี 4 เดือน (ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 2 ปี ได้รับการประกันตัวชั้นอุทธรณ์) 6.นายธีรวัฒน์ สัจสุวรรณ จำเลยที่ 9 จำคุกตลอดชีวิต ลดเหลือ 33 ปี 4 เดือน (ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 33 ปี 12 เดือน ถูกคุมขังมาตลอด) 7.นายชัชวาลย์ ศรีจันดา จำเลยที่ 11 จำคุกตลอดชีวิต (ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง) 8.นายสนอง เกตุสุวรรณ์ จำเลยที่ 12 จำคุกตลอดชีวิต เหลือ 33 ปี 4 เดือน (ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จำคุก 33 ปี 12 เดือน ถูกคุมขังมาตลอด) 9.นายสมจิต สุทธิพันธ์ จำเลยที่ 16 จำคุก 1 ปี (ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์สั่งยกฟ้อง) 10.นายสมศักดิ์ ประสานทรัพย์ จำเลยที่ 17 จำคุกตลอดชีวิต ลดเหลือ 33 ปี 4 เดือน (ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 33 ปี 4 เดือน ถูกคุมขังมาตลอด) 11.นายไชยา ดีแสง จำเลยที่ 18 จำคุก 2 ปี (ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 2 ปี ถูกจำคุกมาแล้ว 1 ปี 9 เดือน ได้รับการประกันตัวในชั้นอุทธรณ์) 12.นายพิสิษฐ์ บุตรอำคา จำเลยที่ 19 จำคุก 2 ปี (ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 2 ปี ได้รับการประกันตัวชั้นฎีกา) ขณะที่จำเลยในคดีนี้ที่ศาลพิพากษายกฟ้องและคดีสิ้นสุดไปในชั้นอุทธรณ์ ได้แก่ -นายสีทน ทองมา จำเลยที่ 6 ศาลชั้นต้นยกฟ้องทุกข้อกล่าวหา อัยการไม่อุทธรณ์ คดีถึงที่สุด รอการเยียวยา -นางบุญเหรียญ ลิลา จำเลยที่ 8 ศาลชั้นต้นยกฟ้องทุกข้อกล่าวหา อัยการไม่อุทธรณ์ คดีถึงที่สุด รอเยียวยา -นายอุบล แสนทวีสุข จำเลยที่ 10 ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 8 เดือน แต่ถูกจำคุกอยู่นาน 15 เดือน อัยการไม่ติดใจอุทธรณ์ คดีถึงที่สุด รอเยียวยา -นายถาวร แสงทวีสุข จำเลยที่ 13 ศาลชั้นต้นยกฟ้อง อัยการไม่อุทธรณ์ คดีถึงที่สุด รอเยียวยา -นายธนูศิลป์ ธนูทอง จำเลยที่ 14 ศาลชั้นต้นยกฟ้อง อัยการไม่อุทธรณ์ คดีถึงที่สุด รอเยียวยา -นายคำพลอย นะมี จำเลยที่ 20 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง อัยการไม่อุทธรณ์ คดีถึงที่สุด รอเยียวยา -นายพงษ์ศักดิ์ ออนอินทร์ จำเลยที่ 21 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง อัยการไม่อุทธรณ์ รอเยียวยา ข้อมูลบางส่วนจาก ประชาไท ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่ news.mthai.com อ้างอิง : ศาลฎีกากลับคำพิพากษาให้ประหาร ดีเจต้อย คดีเผาศาลากลางอุบลฯ http://news.mthai.com/hot-news/politics-news/472933.html 1.นางอรอนงค์ บรรพชาติ จำเลยที่ 2 จำคุกตลอดชีวิต ลดเหลือ 33 ปี 4 เดือน (ศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 8 เดือน ศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 2 ปี ถูกจำคุกมาก่อนแล้ว 15 เดือนจึงได้รับการปล่อยตัว) 2.นางสุมาลี ศรีจินดา จำเลยที่ 3 จำคุก 2 ปี (ศาลชั้นต้นยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 2 ปี ได้รับการประกันตัวชั้นอุทธรณ์) 3.นายประดิษฐ์ บุญสุข จำเลยที่ 4 จำคุก 2 ปี (ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก 2 ปี ได้รับการประกันตัวชั้นอุทธรณ์) 4.นางสาวปัทมา มูลนิล จำเลยที่ 5 จำคุกตลอดชีวิต ลดเหลือ 33 ปี 4 เดือน (ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 33 ปี 12 เดือน ถูกคุมขังมาตลอด) 5.นายลิขิต สุทธิพันธ์ จำเลยที่ 7 จำคุกตลอดชีวิต ลดเหลือ 33 ปี 4 เดือน (ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 2 ปี ได้รับการประกันตัวชั้นอุทธรณ์) 6.นายธีรวัฒน์ สัจสุวรรณ จำเลยที่ 9 จำคุกตลอดชีวิต ลดเหลือ 33 ปี 4 เดือน (ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 33 ปี 12 เดือน ถูกคุมขังมาตลอด) 7.นายชัชวาลย์ ศรีจันดา จำเลยที่ 11 จำคุกตลอดชีวิต (ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง) 8.นายสนอง เกตุสุวรรณ์ จำเลยที่ 12 จำคุกตลอดชีวิต เหลือ 33 ปี 4 เดือน (ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จำคุก 33 ปี 12 เดือน ถูกคุมขังมาตลอด) 9.นายสมจิต สุทธิพันธ์ จำเลยที่ 16 จำคุก 1 ปี (ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์สั่งยกฟ้อง) 10.นายสมศักดิ์ ประสานทรัพย์ จำเลยที่ 17 จำคุกตลอดชีวิต ลดเหลือ 33 ปี 4 เดือน (ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 33 ปี 4 เดือน ถูกคุมขังมาตลอด) 11.นายไชยา ดีแสง จำเลยที่ 18 จำคุก 2 ปี (ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 2 ปี ถูกจำคุกมาแล้ว 1 ปี 9 เดือน ได้รับการประกันตัวในชั้นอุทธรณ์) 12.นายพิสิษฐ์ บุตรอำคา จำเลยที่ 19 จำคุก 2 ปี (ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 2 ปี ได้รับการประกันตัวชั้นฎีกา) ขณะที่จำเลยในคดีนี้ที่ศาลพิพากษายกฟ้องและคดีสิ้นสุดไปในชั้นอุทธรณ์ ได้แก่ -นายสีทน ทองมา จำเลยที่ 6 ศาลชั้นต้นยกฟ้องทุกข้อกล่าวหา อัยการไม่อุทธรณ์ คดีถึงที่สุด รอการเยียวยา -นางบุญเหรียญ ลิลา จำเลยที่ 8 ศาลชั้นต้นยกฟ้องทุกข้อกล่าวหา อัยการไม่อุทธรณ์ คดีถึงที่สุด รอเยียวยา -นายอุบล แสนทวีสุข จำเลยที่ 10 ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 8 เดือน แต่ถูกจำคุกอยู่นาน 15 เดือน อัยการไม่ติดใจอุทธรณ์ คดีถึงที่สุด รอเยียวยา -นายถาวร แสงทวีสุข จำเลยที่ 13 ศาลชั้นต้นยกฟ้อง อัยการไม่อุทธรณ์ คดีถึงที่สุด รอเยียวยา -นายธนูศิลป์ ธนูทอง จำเลยที่ 14 ศาลชั้นต้นยกฟ้อง อัยการไม่อุทธรณ์ คดีถึงที่สุด รอเยียวยา -นายคำพลอย นะมี จำเลยที่ 20 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง อัยการไม่อุทธรณ์ คดีถึงที่สุด รอเยียวยา -นายพงษ์ศักดิ์ ออนอินทร์ จำเลยที่ 21 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง อัยการไม่อุทธรณ์ รอเยียวยา ข้อมูลบางส่วนจาก ประชาไท ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่ news.mthai.com โทษมันเท่ากันที่ไหนแต่ละคนอะ
ประหารประเหินไรกัน ไม่เห็นมีเลย ทนายเสื้อแดงแม่มมั่วเองทั้งนั้น เสื้อแดงตาสว่างได้แล้ว เจ้านายแม่มจ้องจะหนีไปนอกท่าเดียวปล่อยขี้ข้าติดคุกแบบไม่เหลียวแล ทุด