ผมเองก็ไม่ชอบอเมริกาในส่วนที่ทำตัวขัดผลประโยชน์ประเทศไทย(อื่นๆถือว่าธุรไม่ใช้) แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่ด่าไอ้กันถึงไปชอบคิมน้อยได้? อย่างเพจนี้เป็นเพจเกลียดเสื้อแดง แต่ดันอวยคิม ตลกดี
พวกที่ด่าเสื้อแดง เค้าเทิดทูนบูชาเผด็จการทั่วโลกละครับ ยิ่งทรราช ยิ่ง ดิบ ถ่อย เถื่อน เท่าไรยิ่งดี ยิ่งคิมน้อยแห่งเกาหลีเหนือด้วยแล้ว ไอเด้าของพวกเค้าเลยนะนั้น
อย่างคนนี้ด่าอำมาตย์ แต่ชอบแต่งชุดอำมาตย์ ยิ่งเป็นชุดอำมาตย์ชั้นสูงยิ่งชอบ ยิ่งอำมาตย์ชั้นสูงนี้ไอเด้าของเค้าเลยนะ
ผมกลัวเจ้าคิมลูกครับ คิมพ่อประสบการณ์มาก รอบคอบ ต่างจากคิมลูกที่ยังขาดประสบการณ์และบารมีแต่ต้องมาคุมประเทศทั้งประเทศ เกิดตัดสินใจทำอะไรบ้าๆขึ้นมาจะเดือดร้อนกันหมด โดยเฉพาะจีนที่ไม่ค่อยอยากจะยุ่งด้วยแต่ก็ต้องออกโรงมาปรามๆไว้บ้าง
ผมว่าในนี้ไม่มีใครอวยไอ้ตี๋เล็กคิมนะครับ ก็เหมือนกับเผาไทยถูกหงอกเจียมด่าเรื่องพรบ.สุดซอยแหละครับ เราสะใจที่เผาไทยถูกหงอกเจียมด่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราชอบหงอกเจียมมากขึ้น
ถ้าจะรบกัน ก็คงไม่ถึงขั้นเป็นสงครามโลกหรอก เพราะประเทศที่ไม่เกี่ยวคงไม่มีใครอยากเปลืองตัวเข้าไปยุ่งด้วย ตอนนี้ที่เห็นเกี่ยวข้องอยู่ก็น่าจะเป็น เกาหลีเหนืิอ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สหรัฐ และจีน เท่านั้น ถ้ายิงกันจริงก็อาจจบเร็ว เพราะเป็นประเภทหมัดหนักทั้งนั้น ไม่เหมือน ซีเรีย อิรัก ผู้จุดชนวนก็มีอยู่สองประเทศเท่านั้น คือ เกาหลีเหนือ และ สหรัฐ ส่วนเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน ไม่มีใครอยากให้เกิด เกาหลีเหนือมีลูกบ้า มุทะลุ เป็นตัวจุดชนวน ส่วน สหรัฐ มีลูก โกหกตอแหล สร้างภาพเป็นตัวจุดชนวน อย่างในซีเรีย ก็ใช้สื่อประโคมว่าอัสซาต ใช้อาวุธเคมี เน้นภาพเด็ก ๆ โดนอาวุธเคมี ให้ทั่วโลกสงสาร แล้วจึงถล่มด้วย โทมาฮ็อก ไม่มีการพิสูจน์ว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีจริงหรือเปล่า ขนาด นาย Theodore Postol ศาสตราจารย์กิตติคุณ แห่ง Massachusetts Institute of Technology (MIT) ของสหรัฐ เอง ยังบอกว่าเป็นการสร้างภาพ เพราะไม่มีหลักฐานอะไรเป็นรูปธรรมว่าเป็นฝีมือของ อัสซาต อีกทั้งร่องรอยการระเบิดมันไม่ใช่ถูกทิ้งจากเครื่องบิน แต่มันเป็นการระเบิดจากภาคพื้นดิน แต่สหรัฐก็ยิงถล่มไปแล้ว 59 ลูก ราคาลูกละ หนึ่งล้าน ก็หมดไป 59 ล้าน คนอเมริกันได้เฮกันถ้วนหน้าว่า "เรากลับมาแล้ว" "อเมริกากลับมายิ่งใหญ่แล้ว" คะแนนนิยมของ ทรัมป์ กระเตื้องขึ้นทันที พรรคเดโมแครต กับ ลีพับลิกกัน ที่เคยรวมหัวกันคัดค้านทรัมป์แทบทุกเรีื่อง เกิดความปรองดองกับทรัมป์ทันที ประสานเสียงกันว่า ทรัมป์ ทำถูกแล้ว ทรัมป์ดูเหมือนจะได้โอกาสคืนความสุขให้คนอเมริกัน เลยส่ง โคตรแม่งระเบิด ไปถล่มอุโมงค์ของ IS ในอัฟกานิสถาน เอาใจคนอเมริกันอีก อันนี้ตลกมาก เพราะหลังจากถล่มอุโมงค์ด้วยโคตรแม่งระเบิดแล้ว ปรากฎว่านายเอ็ดเวิร์ด สโนเดน จอมแฉเบื้องหลังของสหรัฐ ได้ออกมาแฉว่า ค่าใช้จ่ายในการถล่มโคตรแม่งระเบิดครั้งนี้ หมดไป 300 กว่าล้านเหรียญสหรัฐ และไอ้อุโมงค์ที่ถล่มไปนั้น มันก็เป็นอุโมงค์ที่สหรัฐสร้างขึ้นมาเอง ตั้งแต่สมัยบินลาเดน ซึ่งตอนนั้นสหรัฐสนับสนุนกลุ่มมูจาฮิดินในอัฟกานิสถานให้ต่อต้านรัสเซีย โดย CIA เป็นผู้ให้เงินสนับสนุนในการสร้างอุโมงค์ อุโมงค์นี้คงจะร้างไปหลังจากสหรัฐส่งทหารไปสังหารบินลาเดน กลุ่ม IS เลยคงไปยิึดเป็นที่หลบซ่อน พูดง่าย ๆ ก็คือ สร้างอุโมงค์เอง แล้วเอาระเบิดไปถล่มเองนั่นแหละ แต่ก็น่าจะคุ้มนะ เพราะเห็นข่าวบอกว่าสังหาร IS ไปได้ตั้ง 36 คนแน่ะ แต่ IS คงจะหัวเราะจนฟันร่วง เพราะสังหารคน 36 คน นี่ IS มันใช้รถบรรทุกที่จี้เขามาคันเดียวเท่านั้นก็ทำได้แล้ว จอมดีเดือด กับ จอมสร้างภาพ มีโอกาสก่อสงคราม ได้พอ ๆ กัน ปัญหาก็คือ ถ้ามันเกิดสงครามขึ้นมาแล้ว จะโทษใครว่าเป็นผู้จุดชนวนนี่ซี ตรงนี้มันมองยาก แต่ส่วนใหญ่มักจะโยนไปให้ไอ้คนที่โวกว๊ากโวยวายนั่นแหละเป็นตัวก่อเหตุ เพราะฉะนั้นต้องพิจารณาให้ดี
ที่ ศจ. Theodore Postol ให้ความเห็น มาจากเว็บนี้ https://www.rt.com/usa/384800-syria-gas-professor-addendum/ ประเด็นก็คือแกอยู่ตรงไหนตอนที่เกิดเหตุ เป็นเจ้าหน้าที่ภาคสนาม หาข่าวจากพื้นที่ก็ไม่ใช่ ผมว่าแกตกเป็นเหยื่อของความลำเอียงมากกว่า แต่ก็ต้องบอกว่าผมก็มีความลำเอียงเหมือนกันนะครับ ไม่ใช่ว่าไม่มี แต่ถ้าพูดถึงในสมัยโอบาม่า ตอนที่อัสซาดใช้อาวุธเคมี ปี 2013 อันนั้นน่าเชื่อถือนะครับว่าทหารอัสซาดมันทำจริง มีรายงานด้านข่าวกรองปรากฏในสื่อ ส่วนที่เอ็ดเวิร์ด สโนเดนออกมาพูด.. ก็มาจากแหล่งเดิมน่ะแหละ เว็บ RT ในความคิดคนไทยมันก็.. ดูน่าเชื่อถือกว่าสื่อกระแสหลักนะครับ ยอมรับตรงๆ
สหรัฐก็ไม่ได้แสดงหลักฐานต่อโลกนะครับ ทั้งที่บอกโลกว่ามีหลักฐาน อัซซาจใช้อาวุธเคมีกองเป็นภูเขา แต่ก็ไม่ได้เอามาเปิดเผยต่อชาวโลกแต่อย่างใด โชว์ในสหประชาชาติก็น่าจะได้มติถล่มถล่มซีเรีย จากสหประชาชาติแบบชอบธรรมได้ไม่ยาก แต่ก็ไม่มี........ ผมว่ามันออกแนวเดียวกับ ซัดดัมมีอาวุธร้ายแรง...... แล้วล่ะครับ
เรื่องของ คิมจองอืน ที่เป็นผู้นำเกาหลีเหนือ ผมคิดว่าเขายังอายุไม่มากพอครับ ไม่มากพอทึ่จะเรียนรู้ว่า การจะนำชาติไปได้ด้วยดีนั้น ไม่ใช่ใช้กำลังทางทหารหรืออาวุธ และการข่มขู่ต่างๆ จะทำให้ชาติเจริญรุ่งเรืองได้ ต้องใช้กลยุทธทางการทูตและต้องส่งเสริมเศรษฐกิจในประเทศให้เติบโต จึงจะอยู่ได้ครับ ...ทำไงได้คนมันยังหนุ่ม ก็ทำอะไรบ้าๆบอๆ ไปเรื่อยตามอารมณ์ และไม่ล่วงรู้ว่าเรื่องที่ทำอาจนำหายนะมาสู่ประเทศชาติและตนเองได้ แต่สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกานี่ ผมไม่ใช้การคาดเดาครับ ..แต่อยากเล่าเรื่องจากประสบการณ์ที่ได้ผ่านพบมาให้ฟังกัน ...เมื่ออายุยังน้อยอยุ่ในช่วงวัยรุ่นประมาณ 20เศษๆ ผมได้ไปทำงานก่อสร้างสโมสรนายทหารอากาศ ในกองบิน 7 ซึ่งตั้งอยู่ที่ สัตหีบ ครับ ..ต้องใช้เวลาหลายเดือนในการก่อสร้าง จึงต้องไปตั้งแคมป์กัน ณ สถานที่ที่จะสร้าง ก่อนหน้านั้นผมก็เป็นเช่นวัยรุ่นยุคนั้น คือ ไว้ผมยาวถึงกลางหลัง นุ่งยีนส์ สวมเสื้อยืด ฟังเพลงร็อค สมัยนั้นมีแฟชั่นกางเกงขาบานเรียกว่า ทรงมอส กับกางเกงขาแคบเรียกว่า ทรงเดฟ ..แซวๆกันว่า มอสนักรัก เดฟนักรบครับ ผมชอบกางเกงเดฟมากกว่า เพราะเห็นว่าสวมแล้วสะดวกไม่เกะกะ อีกเรื่องที่เป็นเรื่องร่วมสมัยคือ ในช่วงนั้นมีสงครามเวียตนามดำเนินอยู่ โดยอเมริกามาสร้างสนามบินอยู่ที่ อู่ตะเภา เพื่อใช้เครื่องบินไปบอมบ์ทิ้งระเบิดใส่เวียตนามเหนือ เมื่อไปสร้างสโมสรฯดังกล่าวได้พักหนึ่ง ได้รู้จักเพื่อนที่เป็นคนท้องถิ่นสัตหีบ ก็เป็นคนนำไปเที่ยวในที่ต่างๆละแวกนั้นตามประสาวัยรุ่น กลางคืนก็ออกเที่ยวกัน แถว เตาถ่าน กิโลสิบ บ้านฉาง ซึ่งที่กิโลสิบ มีบาร์กระต๊อบข้างถนน ที่สร้างง่ายๆ มีฝาเสื่อลำแพน หลังคามุงจากก็เปิดเป็นบาร์แล้ว กลางคืนก็จะเปิดไฟสลัวมีเครื่องเสียงดังกระหึ่ม ไปตลอดสองข้างถนน ..บรรดาลูกค้าส่วนมากก็กลุ่มทหารเมกัน จีไอ.นี่ละครับเป็นส่วนมาก มีเด็กเสิร์ฟ นักร้อง เด็กนั่งดริงค์ คล้ายๆพัฒน์พงศ์ก่อนนี้เลยครับ เพื่อนชาวสัตหีบชื่อ ต่อ ..ไอ้ต่อนี่พอพูดอังกฤษได้งูๆปลาๆ ก็มักพาพวกเราเข้าไปพูดคุยกับกลุ่มจีไอ ..จุดประสงค์ก็คือต้องการเข้าของ ของพวกจีไอมาแลกกับสิ่งที่พวกนี้อยากได้ ประมาณเอาบุรี่เป็นตั้งๆ มาแลก..ขอโทษ กัญชาสักห่อ หรือช่วยพูดคุยกับสาวๆ ที่เหล่ไว้ แต่พูดจากันไม่รู้เรื่อง จนรู้จักสนิทสนมกับกลุ่มทหารเมกันอยู่หลายคน หิ้วเด็กบาร์ไปนอนค้างกัน จนพอจะเห็น "นิสัยเดิมแท้" ในยุคสมัยนั้นของพวกนี้จนเข้าใจอยู่บ้าง ว่า.. พวกเมกันที่มีผิวขาวจะมองพวกเราว่า เป็นมนุษย์ชั้นต่ำกว่าพวกเขา โง่กว่า เขาจะใช้คำพูดอย่างไรก็ได้ ..แม้แต่ในกลุ่มพวกเขาเองที่เป็นคนผิวดำ ก็จะถูกเหยียดหยาม สิ่งของอะไรที่ผ่านมือคนผิวสี เขาจะรังเกียจ เจ้าต่อเคยพาเที่ยวไปไกลถึงอู่ตะเภา ชวนว่าไปดูป้อมบิน บี.52 ขึ้น-ลงกัน ก็ไปกัน แอบดูกันอยู่ไกลๆ เอากล้องส่องทางไกลไปส่องกัน มันก็ช่างระทึกใจจริงๆครับ บี.52 ที่ขนระเบิดเข้าเครื่อง ติดตั้งจรวดไว้ใต้ปีกเป็นแถวระนาว เวลาจอดอยุ่กับที่เห็นเลยว่าปีกของเครื่องนั้น รับน้ำหนักจนเอียงลงหลายองศาเห็นชัด แต่เมื่อเร่งความเร็วเพื่อนำเครื่องขึ้น อ้ายปีกที่เห็นเอียงกระเท่เร่ ค่อยๆยกขึ้น จนเมื่อเครื่องเหินขึ้นก็จะได้แนวระนาบ พร้อมทั้งเสียงดังของเครื่องยนต์นั้น มันดังกระหึ่มกึกก้อง จนถังน้ำมันที่ใช้ใส่น้ำตั้งอยู่ใกล้ มีเสียงดังวิ้งๆ และน้ำในถังก็กระเพื่อมเป็นระลอกคลื่นเห็นกับตาได้ยินกับหูเลย เวลานั้นอย่างที่กล่าว ผมยังอยู่ในวัยรุ่น ไม่ได้คิดลึกลงไปเท่าไหร่ครับ กับเรื่องท่าทีของพวกอเมริกันต่อพวกเราหรือกับคนผิวสีพวกเขา ตลอดจนจำนวนลูกระเบิดและจรวดที่ บ.52 ขนไปทิ้งใส่คนเวียตนามเหนือ ต่อเมื่ออายุมากขึ้น ถึงคิดขึ้นมาได้ว่า คนเหล่านี้มีสิทธิ์อะไรมากกว่ามนุษย์อื่น ในการมาตัดสินวิถีชีวิตของคนชาติอื่น ที่คิดที่เชื่อไม่เหมือนตน แถมยังใช้กำลังบังคับให้ทำตามอีกด้วย ..
ศจ postol แกไม่ได้ไปดูหลักฐานที่ซีเรียหรอกครับ ที่แกบอกว่าไม่มีหลักฐานเป็นรูปธรรมนั้น แกดูจากรายงานของ วอชิงตัน ส่วนเรื่องการวิเคราะห์เรื่องระเบิดนั้น แกดูจากรูปภาพ ซึ่งคงเป็นรูปภาพประกอบการรายงานนั่นแหละ เรื่องของเรื่องก็คือ แกต้องการจะบอกว่า รายงานนี้ไม่น่าเชื่อถือ ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรมันต้องไปตรวจสอบโดยคณะกรรมการที่เป็นกลาง ไม่ใช่ อเมริกา หรือ อังกฤษ จะไปเจ้ากี้เจ้าการตรวจสอบแบบที่เป็นข่าวอยู่ เพราะอเมริกายิงโทมาฮ็อกไปแล้ว อังกฤษก็ขานรับเป็นประเทศแรก เลย มันแสดงให้เห็นว่า คุณเชื่อโดยไม่ต้องตรวจสอบว่า รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีจริง ทั้ง ๆ ที่เขาปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้ แต่เขาทิ้งระเบิดลงคลังเก็บอาวุธเคมีของฝ่ายต่อต้าน เพราะพวกนี้เก็บอาวุธเคมีเพื่อส่งไปใช้ใน อิรัก เพราะฉะนั้นถ้าจะรู้จริง ๆ ว่าใครใช้อาวุธเคมี มันก็ต้องเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งรัฐบาลซีเรียก็เรียกร้องให้ตรวจสอบอยู่ แต่ไม่เห็นมีข่าวอะไรออกมาจากทาง UN ไม่รู้นั่งเหลือบตามมองอเมริกาอยู่หรือเปล่าว่า จะเอายังไง
ขอโทษนะที่ต้องเข้ามาตอบและตอบช้าไปหน่อย ตามความรู้สึกของผมนะ ผมโคตรเกลียดอเมริกาเลย โดยเฉพาะพวกอิลิทเชื้อสายยิวกับอิลลูมินาติ แต่สำหรับเกาหลีผมแยกเป็นประเด็นดังนี้ ถ้าเป็นเกาหลีเหนือผมเฉยๆนะ ไม่ชอบและไม่เกลียด ที่ผ่านมาคุณเคยเห็นเกาหลีเหนือรุกรานประเทศไหน แบบอเมริกาไหมละ จะมีก็แต่ผู้นำมาดกวน(ตีน)เท่านั้นที่ดูขัดหูขัดตาไปหน่อย แต่นั่นผมถือว่ามันเป็นเพียงเปลือกนอก แต่สำหรับเกาหลีใต้นะเหรอ บอกตรงๆ ผมโคตรเกลียดมันมากทั้งผู้นำ พวกแชโบล หรือแม้กระทั่งคนในหลายๆระดับ ของประเทศเกาหลีใต้ ผมเกลียดความเย่อหยิ่งจองหอง ความยโสโอหังของพวกมัน ผมเกลียดความอำมหิตชั่วช้าของผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้ จากกรณี หน่วยรบพิเศษ unit 684 ที่หน่วยข่าวกรองได้ตั้งขึ้น(ผมแปะลิงค์ไว้เป็นหลักฐาน) ไม่ทราบสิ่งที่ผมชี้แจงมาจะถูกใจท่านหรือเปล่า ด้วยความเคารพ http://www.wtfintheworld.com/2017/02/19/unit-684/
ผมก็ไม่ได้นิยมคิม สงสารประชาชนคนเกาหลีเหนือ แต่นั้นมันเรื่องปัญหาภายในประเทศของเขา แต่ไม่ชอบพวกมากลากไปเที่ยวทำตัวเหมือนตัวเองเป็นศาลไปตัดสินคนประเทศอื่น ปากพูดเรื่องความเท่าเทียมพรํ่าพูดแต่เรื่องสิทธิมนุษยชนแต่การกระทำประเทศพวกนี้กลับ เข้าไปเข่นฆ่าทำร้ายคนเป็นเทศอื่นจนมีคนตายเป็นหมื่นเป็นแสนคนประเทศแบบนี้ คุณรู้ไม๊ว่าการสร้างสงครามของอเมริกาตลอดระยะหลายปีที่ผ่านมาทั้งทางลับและทางแจ้งทำให้มีคนตายทั่วโลกกี่คน? ผมไม่ใช่แค่ไม่ชอบอเมริกาแต่จะสาปแช่งมันด้วยซํ้า
สำหรับผมแล้ว เกลียดอเมริกามากมาย ในช่วง 10 ปีมานี้ สำหรับคำถาม ด่าอเมริการและควรชื่นชมเกาหลีเหนือหรือไม่? ผมเฉยๆครับ เพราะว่าเกาหลีเหนือ กับประเทศไทย ความชั่วยังไม่เคยมี ความดียังไม่ปรากฏ
ถ้าเปรียบเทีียบกับคนสองคนตีกัน ทำไมมันจะตีกันต้องขอให้เราไปร่วมตีกับเขาด้วย มันจะดีกันทำไมต้องมาบอกให้เราไปช่วยห้าม ทั้งหนุ่มคู่กรณีกันก็เคยทำเหรียญใส่เรา คนที่ได้รับผลประโยชน์จากการตัีกันมีเยอะและเขาก็รออยู่แล้วไม่ว่าจะมูลนิธิ,โรงพยาบาล,วัด,พระ,ร้านขายโรงศพ,ร้านขายวัสดุก่อสร้างฯลฯอีกเยอแยะมากมาย แต่สำหรับผมถ้าคนจะตีกัน ริวจะไม่เจ้าไปยุ่งรอกางเต้นท์ช่วยงานกินกระเพาะปลา