งานนี้โล้นอลัชชีคงโดนกับดักทหารเข้าให้ ขนาดช่วง ๆ ยังไม่เป็นสังฆราช ไทยยังไม่ตั้งพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ถ้าเป็นได้สงสัยคงมีโล้นอลัชชีเกลื่อนเมือง
งานเริ่ม 13.00 ดันบอกจะขนอาหารไปถวายพระ... แถมพระกับโยมบางคนที่ไปก่อนนั่งกินอาหารกลางวันกันแล้ว ไม่ต้องรอรถขน... ขณะที่บรรยากาศภายในพุทธมณฑล มีพระและญาติโยมกระจายกันนั่งพักผ่อนตามอาคารและร่มไม้ บางคนนั่งรับประทานอาหารกลางวันเพื่อรอกิจกรรมที่กำลังจะเริ่มขึ้นไปจนถึงช่วงค่ำ โดยมีกำลังทหาร ตำรวจ ทั้งนอกและในเครื่องแบบ หลายสิบนาย รักษาความปลอดภัยอยู่รอบพุทธมณฑล ซึ่งมีการนำแผงเหล็กมากั้นบริเวณทางเข้าด้านหน้าพุทธมณฑล ไม่อนุญาตให้รถยนต์เข้า-ออก http://www.thairath.co.th/content/577809
คณะสงฆ์ชุมนุมแสดงจุดยืนหนุนตั้งสมเด็จพระสังฆราชฯ-เรียกร้องรัฐหยุดแทรกแซง นครปฐม 15 ก.พ.-คณะสงฆ์ทั่วประเทศกว่า 30,000 รูป นัดรวมตัวแสดงสังฆามติ เรียกร้องให้รัฐบาลห้ามแทรกแซงกิจการคณะสงฆ์ และสนับสนุนมติของมหาเถรสมาคมในการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช บรรยากาศที่พุทธมณฑล เจ้าหน้าที่ทหารจากหลายหน่วยยังคงสนธิกำลังร่วมกับตำรวจจาก สภ.พุทธมณฑล เฝ้าสังเกตการณ์ และยังปิดบริเวณทางเข้า-ออกของพุทธมณฑล จ.นครปฐม เพื่อไม่ให้พระสงฆ์ที่นัดรวมตัวกันกว่า 30,000 รูป จากทั่วประเทศที่จะร่วมแสดงสังฆามติประชุมใหญ่แผนสกัดการปกครองคณะสงฆ์ และแสดงจุดยืนเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนาและการจาบจ้วงพระเถระชั้นผู้ใหญ่จาก บุคคลบางกลุ่ม โดยคณะสงฆ์ พุทธศาสนิกชน ยืนยันจะปักหลักอยู่บริเวณหน้าองค์พระประธานพุทธมณฑลจนกว่าจะได้รับความ ชัดเจนจากรัฐบาล แต่เนื่องจากพระสงฆ์ พุทธศาสนิกชน มาจำนวนมากจึงเกิดเหตุชุลมุนเล็กน้อย ระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารกับคณะสงฆ์บางส่วนบริเวณด้านหน้าพุทธมณฑล โดยมีการรื้อสิ่งกีดขวางของเจ้าหน้าที่พยายามฝ่าแนวกั้นเข้ามา โดยเจ้าหน้าที่ก็ควบคุมสถานการณ์ได้ ไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ขณะเดียวฝ่ายความมั่นคงได้เชิญพระเมธีธรรมาจารย์ เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย แกนนำ เข้าหารือกับคณะทหารของ คสช. ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยฝ่ายความมั่นคงได้ขอให้ยุติการชุมนุมและเคลื่อนไหวภายใน 18.00 น. วันนี้ แต่เบื้องต้นพระเมธีธรรมาจารย์ได้ประกาศสังฆามติ ขอให้รัฐบาลปฏิบัติตาม 5 ข้อ คือ 1.ห้ามรัฐบาลเข้ามาก้าวก่ายเรื่องของสงฆ์ 2.ขอให้รัฐบาลยึดธรรมเนียมปฏิบัติของสงฆ์ โดยต้องปรึกษาและขอความเห็นชอบจากมหาเถรสมาคมก่อนเสมอ 3.ขอให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการตามมติมหาเถรสมาคมที่เสนอนามสมเด็จพระมหา รัชมังคลาจารย์ เพื่อสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช 4.ขอให้รัฐบาลสั่งเป็นนโยบายให้หน่วยราชการปฏิบัติต่อคณะสงฆ์ด้วยความเคารพ ไม่ข่มขู่คณะสงฆ์ด้วยการใช้กฎหมาย 5.ขอให้บรรจุพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญ จากนั้นแกนนำก็ได้เดินทางไปยื่นข้อเสอต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาลทันที หากรัฐบาลไม่รับข้อเสนอจะชุมนุมยืดเยื้อไปจนถึงวันมาฆบูชา.-สำนักข่าวไทย http://www.tnamcot.com/content/404089 สัมภาษณ์สด นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ. รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ถึงเหตุการณ์เครือข่ายคณะสงฆ์และองค์กรภาคีพุทธบริษัท 4 ทั่วประเทศ (คสพ.) โดยมีคณะสงฆ์และฆราวาสเดินทางมาที่ลานหน้าองค์พระพุทธมณฑล อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559
พระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนทยอยเดินทางกลับหลังจากพระเมธีธรรมาจารย์ ผู้ประสานงานภาคีเครือข่ายองค์กรชาวพุทธแห่งประเทศไทย ได้เดินทางไปยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลได้ยอมรับข้อเสนอทั้ง 5 ข้อ
วันนี้ไม่เห็น hot boy เลยอ่ะ หรือว่าไปร่วมชุมนุมกับจิ้งเหลือง ผมว่าคนนี้น่าจะเป็น hotboy ไปห่มเหลืองรับจ๊อบ
แกนนำพระสงฆ์เตรียมยื่นหนังสือต่อรองนายกฯ กรุงเทพฯ 15 ก.พ.-โฆษก คสช. ระบุมีการหารือเบื้องต้นกับแกนนำพระสงฆ์ที่ออกมาเคลื่อนไหวที่พุทธมณฑลแล้ว ยืนยันจะไม่ค้างคืน แต่ขอยื่นหนังสือต่อรองนายกรัฐมนตรี พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีมีการเผชิญหน้ากันระหว่างพระสงฆ์และทหารที่ไปดูแลความเรียบร้อย บริเวณพุทธมณฑล จ.นครปฐม ว่าล่าสุดฝ่ายทหาร ตำรวจ ผู้ว่าราชการจังหวัด และฝ่ายปกครอง ได้หารือกับพระเมธีธรรมาจารย์ เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับปากว่าจะไม่มีการค้างคืน แต่ขอไปยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งในฝ่ายความมั่นคงสนับสนุนให้การนำเสนอความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะต่างๆ ผ่านช่องทางที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ เห็นว่าการรวมตัวของพระสงฆ์ในวันนี้อาจเป็นการแสดงออกถึงความขัดแย้ง ซึ่งไม่อยากให้เกิดภาพแบบนี้ เพราะประเทศชาติอยู่ในช่วงเดินหน้าและปฏิรูปประเทศ ส่วนการที่เจ้าหน้าที่ไปตั้งด่านบริเวณปากทางเข้าพุทธมณฑลเพื่อดูแลความสงบ เรียบร้อย โดยอนุญาตให้เดินเท้าเข้าไปได้ แต่ไม่อนุญาตรถขนาดใหญ่ จึงทำให้เกิดความเข้าใจผิดและกระทบกระทั่งกัน ล่าสุด พล.อ.ประวิตร พร้อมด้วย พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ได้เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อรอรับหนังสือจากแกนนำพระสงฆ์.-สำนักข่าวไทย http://www.tnamcot.com/content/404128
คณะสงฆ์ยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประวิตร เร่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช ทำเนียบรัฐบาล 15 ก.พ.-ตัวแทนเครือข่ายคณะสงฆ์ และองค์กรภาคีพุทธบริษัท 4 ทั่วประเทศ ยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ยอมรับมติเถรสมาคมแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ใหม่ พระเมธีธรรมาจารย์ เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ตัวแทนเครือข่ายคณะสงฆ์ และองค์กรภาคีพุทธบริษัท 4 ทั่วประเทศ หรือ คสพ. ยื่นหนังสือเรียกร้องให้ยอมรับมติมหาเถรสมาคม เรื่องแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ใหม่ ถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ที่ทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งร่วมพูดคุยเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน โดยมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำตัวแทนคณะสงฆ์เดินทางจากพุทธมณฑล อำเภอศาลายา จังหวัดนครปฐม มาทำเนียบรัฐบาล พระเมธีธรรมาจารย์ เปิดเผยหลังการยื่นหนังสือและหารือกับรองนายกรัฐมนตรีว่า เป็นการหาทางออกร่วมกัน พร้อมยื่นข้อเสนอ โดยรองนายกรัฐมนตรีรับปากจะนำเรื่องไว้พิจารณา และนำเสนอนายกรัฐมนตรี แต่ยอมรับว่ารู้สึกไม่สบายใจกับเหตุวุ่นวายที่พุทธมณฑล ระหว่างทหารกับพระสงฆ์ จากนี้ไปจะกลับไปหารือกับพระผู้นำที่พุทธมณฑล ซึ่งการชุมนุมจะไม่ยืดเยื้ออย่างแน่นอน แต่หากข้อเรียกร้องไม่ได้รับการแก้ไขก็จะกลับมาทวงถามอีกครั้ง ล่าสุดนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันจะนำข้อเสนอเข้าหารือกับนายกรัฐมนตรี หลังเดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกาทันที.-สำนักข่าวไทย http://www.tnamcot.com/content/404159 นครปฐม -ทหารกว่า 50 นาย พยายามสกัดกั้นรถที่จะเข้ามาชุมนุมในพุทธมณฑล โดยมีพระภิกษุสงฆ์นับร้อยพยายามผลักดันให้รถเข้าก่อนเกิดปะทะกัน คลิปพระล็อคคอทหาร ก่อนยื้อกันชุลมุนเมื่อเวลาประมาณ 13.00น.วันนี้(15 ก.พ.) บริเวณหน้าปากทางเข้าสำนักพุทธฯ ได้มีกำลังทหารจากกองพันทหารราบที่ 9 จำนวนกว่า 50 นายพยายามสกัดกั้นไม่ให้รถยนต์ไม่ให้เข้าไปชุมนุมกันในสำนักพุทธ โดยมีพระภิกษุสงฆ์นับร้อยพยายามผลักดันให้ทหารหลีกทางเพื่อให้รถเข้าไป ก่อนที่จะกำลังทหารจะนำรถจี๊ปมาปิดกั้น ทำให้พระไม่พอใจจึงทำการช่วยกันยกรถ ด้านทหารก็พยายามดันกลับไม่ให้ยกรถ จึงเกิดการผลักดันและพระล็อคคอทหาร ก่อนที่จะมีการห้ามปรามให้ยุติ ซึ่งทหารก็ยินยอมให้รถผ่านไปโดยไม่เต็มใจ เพราะไม่สามารถสกัดกั้นได้
ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่พระบังคับให้โปรดกล้าแต่งตั้งสังฆราช ในปรกติพระแท้ๆท่านไม่ยึดติด ถ้าพระมหากษัตริย์ยังไม่มีพระราชศรัทธาโปรดเกล้า พระท่านก็จะเฉยๆ เหมือนที่บางครั้ง ตำแหน่งสังฆราชว่างเป็นสิบปี ตกลง"กระสัน" ตำแหน่ง ลาภยศกันขนาดนี้? ถ้ากิเลสยังหนาขนาดนี้ สึกออกมาเถอะ อย่าอยู่ทำลายศาสนาเลย
ภากร นครกุลเชษฐ์ พระที่มาชุมนุมที่พุทธมณฑลวันนี้ มีหนวดด้วย...เอาคนเร่ร่อน มาโกนหัวห่มเหลืองมันก็ไม่เนียนอย่างนี้แหละ !!!
คุยกับหลวงพี่ชายเมื่อวาน ท่านเล่าให้ฟังว่าหลวงลุงได้รับนิมนต์ไปงานเกี่ยวกับพุทธศาสนาที่สนามหลวง แต่รถไปส่งพุทธมณฑลเฉยเลย ดีนะหลวงพี่ไหวตัวทันเลยไม่ได้ไป
ลำดับขั้นตอน 1. มีการเสนอ ชื่อพระสงฆ์ โดย สมเด็จช่วง ขึ้นเป็นพระสังฆราช 2.มีข้อครหา มากมาย ในวัติปฎิบัติต่างๆ ของตัวสมเด็จเอง มีความเกี่ยวพัน เกี่ยวข้องกับวัดธรรมกาย ที่มีคดีอยู่ 3.รัฐบาลชะลอ การนำชื่อขึ้นทูลเกล้า 4.มีการรวมตัวกันประท้วงของพระ โดยมีข้ออ้างปกป้องพุทธศาสนา ใครมีลำดับขั้นตอน ในรายละเอียด บันทึก หรือ น่าจะตั้ง กระทู้ใหม่ก็ดีครับ เผื่ออ่านศึกษา และรู้เท่าทัน ในเกมส์ เล่ห์กล *ข้อสงสัย ถ้ารัฐบาล ท่านเสนอชื่อตาม ที่กดดัน แล้วขั้นต่อไป คือกดดันให้เบื้องสูงท่าน รับไว้อย่างนั้นหรือ แล้วถ้าองค์ท่านไม่นิยมศรัทธาเล่า ผมว่าจะไปกันใหญ่ อีกอย่าง พระต่อสู้เพื่อลาภยศ ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้าม ตามวิสัย สมณะ ภิกษุ ซึ่งเรียกว่าผู้ขอทาน เพื่อยังชีวิต ประทังร่างกาย เพื่อปฏิบัติธรรม การขบฉันท์ เพื่อหล่อเลี้ยงให้กายนี้อยู่ได้ ไม่แตกสลายไป มิใช่เพื่อ บำรุง บำเรอ ให้กิเลสใน จิตใจ เหิมเกริม แสดงออกทางกาย จนแม้แต่ คฤหัสถ์ ยังไม่แม้แต่ จะกล้าคิด กล้ากระทำ ช่างน่า สังเวช เหลือคณา
รวมพลังต่อต้านคอร์รัปชั่น ต้องดู ! "จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์" ช่องไทยรัฐ สัมภาษณ์สด "หลวงปู่พระพุทธอิสระ" วัดอ้อน้อย ปมประเด็นร้อน "ศึกสงฆ์" กรณี "ธัมมชโย" ปาราชิก และ "สมเด็จช่วง" สร้างสะสมทรัพย์สิน คดี รถเบนซ์หรู
ผมว่าเขาเขียนข้อ 5 ไว้เฉยๆ ไม่มุ่งหวังอะไรมาก เขียนเพื่อมันจะบอกว่า นี่ไง ที่ระดมโล้นห่มเหลืองมาก็เพราะ ข้อ 5 แต่ที่จริงแล้ว นายเมธีอยากได้ ข้อ 3 เพียงข้อเดียวก็พอแล้ว
BLUESKY Channel “รมว.ยธ.” สวนพระไม่ต้องออกมากดดันปมตั้งสังฆราช งงบอกห้ามยุ่งสงฆ์ ลั่นใครทำผิดกฏหมายต้องยุ่งไม่ว่าสงฆ์หรือฆาราวาส เผยคดี "ธัมมชโย" รับเงินสหกรณ์ภายในเดือนนี้มีความชัดเจน โย้วโย้ ประสาร หนองพร้าว จะว่าไงละครานี้???
ผมงง กับข้อ 1 มาก ห้ามก้าวก่าย แต่ให้อุปถัมภ์ หมายความว่า มรึงเอาเงิน เอาของมาให้กรู แล้ว อย่ามายุ่งกับการใช้เงินของกรู ถ้ามีพระไปเที่ยวอาบอบนวด ไปปล้น ไปยักยอกทรัพย์ ก็ห้ามไปก้าวก่าย อย่างนั้นหรือเปล่า
กรณี ดลฤดี ทำให้ผู้ขอทุนคนอื่นๆเดือดร้อนตามไปด้วย แต่กรณี ม๊อบพระ จะทำให้พระที่ดีๆอีกเป็นแสนๆรูปทั่วประเทศลำบากในการดำรงชีพ เพราะศรัทธาเหือดหาย
ถ้าศรัทธาเหือดหายจริง อนาคตเราคงเห็นภาพแบบนี้เป็นเรื่องปกติ ควายแดงมาเห็นรูปนี้คงชักดิ้นชักงอเป็นแถว แท้ที่จริงแล้ว พันตรีสุธี สุขสากล อนุศาสนาจารย์ กรมการทหารสื่อสาร ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า ภาพที่เผยแพร่คือภาพ "คณะอนุศาสนาจารย์ทหารบก ฝึกอบรมศาสนพิธีการ ณ ห้องประชุมพระพุทธสิงห์ชัยมงคล กองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก" โดยภาพทหารนั่งบนอาสนะสงฆ์ ทำท่าคล้ายพระสงฆ์ประกอบพิธีกรรมนั้น เป็นเพียงการฝึกภาคปฏิบัติ เพื่อความเข้าใจชัดในขั้นตอนและบทบาทของบุคคลที่เกี่ยวข้อง และทำด้วยความเคารพต่อพระรัตนตรัย ไม่มีเจตนาอันเป็นอกุศล โดยในการฝึกอบรมนั้น ได้ดำเนินการเป็นการภายใน "เฉพาะกลุ่ม" จึงได้กำหนดบทบาทสมมติ สถานการณ์จำลอง เพื่อความเข้าใจตรงกันของผู้เข้ารับการฝึกอบรม โดยใช้สถานที่ภายในหน่วย และสิ่งอุปกรณ์การฝึกของหน่วย (กองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก) โดยสมมติบทบาทของผู้ฝึก เป็นพิธีกรบ้าง เป็นเจ้าหน้าที่บ้าง เป็นประธานบ้าง เป็นผู้ร่วมพิธีบ้าง และรวมไปถึงเป็นพระสงฆ์บ้าง ทั้งนี้อยู่บนพื้นฐานคารวธรรม ไม่มีเจตนาลบหลู่ดูหมิ่นแม้แต่น้อย เพราะโดยเจตนาปรารภก็เพื่อรักษา สืบทอด ประเพณีพิธีการต่างๆ ไม่ให้ผิดเพี้ยนจากที่บรรพชนประพฤติปฏิบัติกันมา
มันเป็นหลักการเจรจาต่อรอง เเสดงให้เห็นว่าฝ่ายพระนั้นเสียเปรียบ เพราะไม่มีพุทธศาสนิกชนให้ความร่วมมือ เเละข้อเสนอ 5 ข้อนั้นเมื่อสรุปโดยย่อคือ ห้ามรัฐ องค์กรต่างๆ มีการตรวจสอบ เเละทำความต้องการของมหาเถรสมาคมเท่านั้น ทั้ง 5 ข้อ กล่าวโดยสรุปคืิอ ไม่มีการตรวจสอบธรรมชัยโยเเละให้สมเด็จช่วงเป็นพระสังฆราชโดยสะดวกโยธิน ห้ามมีการตรวจสอบจากภาครัฐเป็นอันขาด ส่วนข้อ 5 เอาไว้ล่อเป้าเท่านั้น
ท่านพลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา เป็นอีกคนหนึ่งที่ประชาชนฝากความหวังไว้ ทำสิ่งที่ถูกที่ควรเถอะครับ ท่านล้างคนชั่วคนเลวออกจากการเมืองแล้ว ถึงคราวพระพุทธศาสนาบ้าง เรารู้ว่าเชื้อชั่วไม่มีวันตาย แต่ก็ให้มันได้แต่อยู่รอดไปวันๆ อย่าให้มันทำลายสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษํตริย์อันเป็นที่รักของเราได้
ท่านพลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา เป็นอีกคนหนึ่งที่ประชาชนฝากความหวังไว้ ทำสิ่งที่ถูกที่ควรเถอะครับ ท่านล้างคนชั่วคนเลวออกจากการเมืองแล้ว ถึงคราวพระพุทธศาสนาบ้าง เรารู้ว่าเชื้อชั่วไม่มีวันตาย แต่ก็ให้มันได้แต่อยู่รอดไปวันๆ อย่าให้มันทำลายสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษํตริย์อันเป็นที่รักของเราได้
ก็ไม่แน่น่ะครับ ธรรมกายอาจจะแตกในยุคนี้ก็ได้ กองสลากก็แตกไปแล้ว ซึ่งไม่มีใครทำได้ ตัวเร่งก็เรื่องสังฆราชนั่นแหละ อยู่เงียบๆก็สบายแล้ว ดันอยากจะได้มงกุฎ
รวมพลังต่อต้านคอร์รัปชั่น อย่ามองที่พุทธมณฑลเป็น'ม็อบ' 'กรมศาสนา'ชี้เป็นกิจกรรมสงฆ์ นายกฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวถึงเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันระหว่างเครือข่ายคณะสงฆ์และองค์กรภาคีพุทธบริษัท 4 กับเจ้าหน้าที่ทหาร ที่พุทธมณฑล จ.นครปฐมว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของทางผู้ใหญ่ในรัฐบาลและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ส่วนภาพที่ออกจะกระทบต่อศรัทธาของประชาชนหรือไม่นั้น ปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นตนคิดว่าทุกคนจะต้องมีส่วนร่วม โดยเฉพาะผู้ที่เป็นผู้นำหรือมีบทบาทในสังคมต้องช่วยกันวิเคราะห์ จำแนก แยกแยะให้ดีว่า ส่วนไหนคือหลักธรรมคำสอน ส่วนไหนคือบทบาทองค์กร ตรงนี้ต้องแยกกัน ขณะที่กรมการศาสนาเองพยายามอย่างยิ่งคือ การนำหลักธรรมคำสอนมาประพฤติปฏิบัติ ซึ่งคือหัวใจและกระบวนการหน้าที่ของกรมการศาสนา ส่วนข้อเสนอของเครือข่ายคณะสงฆ์ที่เรียกร้องให้กำหนดศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาตินั้น ต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ผู้สื่อข่าวถามว่า หนักใจหรือไม่ที่เกิดความขัดแย้งภายในศาสนา นายกฤษศญพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้ง แต่เป็นความเห็นที่แตกต่างกันบ้าง หากทุกภาคส่วนได้ปรึกษาหารือกัน ใช้หลักศาสนามาวินิจฉัยในการให้เหตุให้ผล ตนคิดว่าทุกภาคส่วนจะได้ทิศทางในการเดินหน้า โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคงของประเทศไทย สถาบันศาสนาเป็นสถาบันหลักของประเทศไทยมาโดยตลอด ฉะนั้น คิดว่าทุกคนให้ความสำคัญอยู่แล้ว เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่ากลุ่มการเมืองจะเอาเรื่องศาสนามาขับเคลื่อน นายกฤษศญพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ จึงไม่อาจจะตอบได้ เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรให้คนไม่มองว่าเป็นม็อบพระ อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า ในหลักการแล้วไม่ใช่ม็อบ เป็นเรื่องของการรวมตัวกันเพื่อจัดกิจกรรมทางศาสนาเท่านั้นเอง หากไปมองเป็นม็อบ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมมากๆ ต่อข้อถามว่า หากพระสงฆ์ทำผิดจะต้องถูกดำเนินการเหมือนกับฆราวาสหรือไม่ อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า ต้องไปดูอีกที ซึ่งทางคณะสงฆ์จะต้องมาวิเคราะห์ เป็นเรื่องการบริหารของคณะสงฆ์ ที่มา : http://www.naewna.com/local/202581 น่า ม.16 เฮ้ยยย ม.44 ปลดทิ้งไปเลย!!