ดร.สมคิด / EEC อย่า ‘ขายชาติ’

กระทู้ใน 'สภากาแฟ' โดย ดร.โสภณ พรโชคชัย, 21 Feb 2018

  1. ดร.โสภณ พรโชคชัย

    ดร.โสภณ พรโชคชัย สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    6 Dec 2016
    คะแนนถูกใจ:
    2
    นโยบาย EEC ที่ให้ต่างชาติซื้อที่ดินได้แสดงว่าทีมเศรษฐกิจคิดไม่เป็น ทำให้ประเทศชาติพินาศได้ ดร.โสภณ ท้าพิสูจน์ ดร.สมคิด กล้ามาถกกันไหม หาไม่ส่งลูกน้อง ปลัด/อธิบดี/ ผอ. มาเจอกันได้
    ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ขอวิพากษ์แนวคิดข้างต้นดังนี้:
    1. ในด้านการลงทุนด้านการท่องเที่ยว การบริการต่าง ๆ ต่างชาติก็สามารถซื้อ หรือเช่าที่ดินในพื้นที่ริมทะเลต่าง ๆ ได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีบริการพิเศษเยี่ยงนี้
    2. ที่ผ่านมามีการให้เช่า 30 ปี เช่น เซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าว ทางด่วน โทลเวย์ ก็สามารถคืนทุนได้เพียงพอ อีกทั้งยังมีการให้เช่าระยะยาว 50 ปีสำหรับเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม จึงไม่จำเป็นต้องให้สิทธิยาวนานไปกว่านี้
    3. ในกรณีอุตสาหกรรม ปกติที่ดินเป็นปัจจัยการผลิตที่ไม่มีค่ามากนัก เมื่อเทียบกับเครื่องจักร แรงงาน เทคโนโลยี และอาคารขนาดใหญ่ จึงไม่จำเป็นต้องยกที่ดินให้ต่างชาติ
    4. ขณะนี้ยังไม่มีระบบภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เป็นธรรม การยกให้ต่างชาติเท่ากับยกให้ฟรี เท่ากับขายชาติ ไม่ได้รับภาษีที่เพียงพอที่จะนำมาใช้เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นนัก
    ดร.โสภณ เสนอแนวคิดว่า
    1. แทนที่จะให้ซื้อดะตรงไหนก็ได้ใน EEC ควรกำหนดเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยเวนคืนที่เกษตรกรรม ที่ป่าเสื่อมโทรม ขนาดประมาณ 10,000 - 50,000 ไร่ เพื่อจัดสร้างเป็นเมืองใหม่ ให้ต่างชาติสามารถซื้อและลงทุนในเมืองนี้เป็นสำคัญ ซึ่งประกอบด้วยส่วนที่เป็นอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม บริการ ที่อยู่อาศัย และอื่น ๆ
    2. สร้างสาธารณูปโภคเชื่อม เช่น รถไฟฟ้า ทางพิเศษ ระหว่างเขตเศรษฐกิจใหม่นี้กับเมือง เช่น พัทยา โดยไม่มีการเชื่อมทางระหว่างเมืองเพื่อป้องกันการขยายตัวของเมืองอย่างไรขอบเขต
    3. ในด้านอุตสาหกรรม ให้ต่างชาติมาใช้ที่ดินได้ฟรีในระยะเวลาไม่เกิน 30 ปี โดยเก็บค่าใช้จ่ายในการบำบัดน้ำเสีย รักษาสิ่งแวดล้อม ดูแลพื้นที่เป็นสำคัญเพื่อลดภาระของนักลงทุนต่างชาติ แต่ไม่ให้เป็นเจ้าของเพื่อไม่ให้เขาเอากำไรเช่นกรณีการขายสถานทูตอังกฤษ
    4. ในส่วนที่เป็นภาคบริการ พาณิชยกรรม ที่อยู่อาศัย ก็จัดให้มีการประมูลระยะยาว 30-50 ปี โดยนักลงทุนจากทั้งในและต่างประเทศ เป็นราย ๆ ไป ไม่ใช่ให้เหมาแบบ "กินรวบ" และควรมีสัญญาที่รัดกุมที่จะ "ไม่เสียค่าโง่" ในอนาคต
    5. พื้นที่ ๆ ควรดำเนินการ นอกจาก EEC แล้ว ยังควรเพิ่มที่อื่นๆ ได้แก่ ชายแดนไทย-เมียนมาร์ บริเวณจังหวัดเชียงราย จังหวัดตาก จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบและจังหวัดชุมพร และชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณ จังหวัดสระแก้ว จันทบุรี และตราด พื้นที่เหล่านี้ติดกับเพื่อนบ้านที่มีแรงงานมาทำงาน โดยอาจสร้างที่อยู่อาศัยให้อยู่ในเขตเมืองนี้ หรือให้สามารถเดินทางไปกลับในแต่ละวันได้ และควรใกล้ท่าเรือ หรือสามารถขนส่งสินค้าได้สะดวก แต่ไม่ควรตั้งในชายแดนลาวและมาเลเซีย ซึ่งมีประชากรน้อย (ลาว) หรือประชากรมีรายได้สูงกว่าไทย
    รัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเรื่องดี แต่กระตุ้นผิดทาง โปรดสังวร

    ที่มา: https://goo.gl/LhDkmi
     

Share This Page